คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
บทนำ
“พาหนูเล็กมานี่ได้บอกพ่อเขาหรือเปล่ารุ้ง?”
คำถามเข้ม ๆ จากปากหญิงสาววัย32หมาด ๆ ถูกส่งมาให้พร้อมกับสายตาคาดคั้น หลังจากที่น้องสาวต่างมารดาอย่างรัมภาภัสร์
หรือ สีรุ้งและเด็กหญิงรัมภาวีร์ หรือ หนูเล็กหลานสาวเข้ามานั่งในห้อง
“ไม่ได้บอกค่ะ
และไม่จำเป็นต้องบอกด้วย ทีเขาออกเรือยังไม่บอกรุ้งกับหนูเล็กสักคำ” คนเป็นน้องบอกพร้อมยักไหล่
“แล้วทำไมรุ้งต้องรายงานเขาทุกเรื่องด้วย”
คนเป็นพี่ได้แต่ถอนใจพรืดแล้วทอดสายตาไปมองหลานสาววัย5ขวบเพียงไม่กี่วัยที่นั่งวาดรูปไม่ได้มีทีท่าเดือดร้อนที่มารดาพามาถึงคอนโดมิเนี่ยมของคุณป้ายังสาวที่กรุงเทพมหานครทั้งที่ทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่สัตหีบมาตลอด
เด็กหญิงรัมภาวีร์เป็นเด็กฉลาด สมองพัฒนาเกินกว่าวัยพอสมควร
เด็กคนนี้พูดตามความจริงก็คือเกิดมาจากความไม่ได้ตั้งใจของคนเป็นพ่อและแม่อย่างรัมภาภัสร์แต่ทั้งพ่อและแม่ก็รักหนูน้อยที่สุด
นาวาตรีราชนาวี หรือ ผู้การรัก
ผู้เป็นพ่อของหลานสาวตัวน้อยกับน้องสาวของเธอนั้นก่อนจะมีหนูน้อยก็ดูจะไม่กินเส้นกันอยู่มาก
พูดกันได้ไม่กี่คำก็มีอันต้องเถียงกัน
แต่พอมีหนูน้อยรัมภาวีร์ทั้งคู่ก็สงบปากสงบคำกันมากขึ้นแต่นิสัยไม่พอใจอะไรก็หอบกระเป๋าหนีของรัมภาภัสร์นี่แก้ไม่หายสักที
หลายครั้งหลายหนที่แม่เลี้ยงโทรมาเล่าให้ฟังว่ารัมภาภัสร์หอบผ้าหอบผ่อนพาลูกกลับไปนอนบ้านเพราะไม่พอใจพ่อของลูก
แต่ในทุกครั้งเด็กหญิงรัมภาวีร์ก็มีวิธีทำให้คนเป็นแม่หายงอนกลับบ้านได้เสมอ
แต่คราวนี้หลานสาวตัวน้อยของเธอกลับนิ่ง ไม่มีทีท่าจะชักชวนมารดากลับบ้าน
หรือคราวนี้จะงอนแพ็คคู่?
“แล้วได้บอกพ่อแม่สามีเราหรือเปล่า?”
พี่สาวอย่างรติภัทร หรือ สีครีมถามด้วยสีหน้าอ่อนอกอ่อนใจก่อนจะได้หน้ายิ้มแหย
ๆ ตอบกลับ
“ยัยรุ้ง!”
รติภัทรเรียกชื่อน้องสาวต่างมารดาเสียงหลงเมื่อเดาได้ว่าน้องสาวไม่ได้บอกครอบครัวสามีเลย
“พาหนูเล็กกลับบ้านยังพอว่านะแต่นี่เราพาหนูเล็กมาหาพี่ถึงกรุงเทพฯ แล้วก็ไม่บอกใครไว้เลย
ป่านนี้เขาไม่พากันห่วงเราทั้งบ้านแล้วเหรอ?”
“โธ่พี่ครีมขา
รุ้งไม่ได้ไม่บอกใครสักหน่อย รุ้งบอกเรือรบไว้นะ”
“เรือรบ?
เรือรบนี่มันนกแก้วของหนูเล็กไม่ใช่เหรอ? บอกนกแก้วแล้วนกแก้วจะบอกใครต่อได้หะ?”
คนเป็นพี่สาวถามอย่างระเหี่ยใจ น้องสาวเธอยังสติดีอยู่ไหม บอกนกแก้วไว้แล้วนกแก้วจะบอกอะไรใครได้
ถึงจะถูกฝึกให้พูดได้ก็เถอะแต่กว่านกแก้วตัวนั้นจะพูดได้สักประโยคจะต้องพูดให้ฟังตั้งหลายวันแล้วยัยน้องสาวมีเวลาไปฝึกนกแก้วตัวนั้นก่อนมาไหม?
เดาได้เลยว่าไม่
“บอกต่อใครรุ้งไม่รู้
รุ้งรู้แค่ว่าตั้งแต่วันนี้ไปรุ้งกับหนูเล็กจะมาอยู่กรุงเทพฯกับพี่ครีมแบบไม่มีกำหนดกลับ”
“หะ
อยู่กับพี่ จะบ้าเหรอ? หลานต้องเรียนไม่ใช่เหรอยัยรุ้ง อย่าทำตัวเป็นเด็กสิ”
รติภัทรเตือนสติแต่แล้วหนูน้อยรัมภาวีร์ก็ลุกเข้ามากอด
“หนูเล็กจาอยู่กับครีมจ๋า
หนูเล็กโกรธพ่อรักแล้ว ไม่คืนดีง่าย ๆ ด้วย ให้หนูเล็กอยู่ด้วยน๊า”
เด็กน้อยผู้สมองพัฒนากว่าวัยบอกในขณะที่คนเป็นป้าได้แต่อึ้งและงงเป็นไก่ตาแตก
รัมภาภัสร์ยักไหล่
“คราวนี้นอกจากรุ้งไม่พอใจแล้ว
หนูเล็กยังงอนด้วย เราสองคนเลยตกลงกันว่าไม่ต้องมีพ่อรักพวกเราอยู่กันสองคนก็ได้
ก็เลยพากันขึ้นมาเนี่ย”
“เราเป่าหูอะไรหนูเล็กหะยัยรุ้ง
หลานพี่ถึงได้เอาด้วยเนี่ย?”
“ไม่ได้เป่าหู
แต่วันก่อนวันเกิดหนูเล็ก หนูเล็กแกรอพ่อแกจนดึกแต่เพื่อนพี่ก็ไม่กลับมาทั้งที่ก็หายไปตั้งสามสี่วันแล้วน่าจะแวะกลับมาหาลูกในวันเกิดแต่ก็ไม่มา
เมื่อวานรุ้งเลยพาลูกไปหาถึงเรือ แต่พี่รู้ไหมว่าเราเห็นอะไร?” คนเป็นน้องถาม
ราชนาวีพ่อของลูกเธอนั้นเป็นเพื่อนสนิทของพี่สาวเธอ
ด้วยไม่อยากเรียกชื่อให้รู้สึกโมโหขึ้นกว่าเดิมจึงเลี่ยงไปใช้คำว่าเพื่อนพี่แทน
“เจออะไร
รักอยู่กับผู้หญิงหรือไง?”
“เปล่า
ไม่เจออะไรเลยต่างหาก ทั้งเรือทั้งคน ถามเพื่อนเขาเขาก็บอกว่าไปราชการ
อีตานั่นไปราชการแต่ไม่บอกรุ้งหรือแม้กระทั่งลูกแถมยังเป็นช่วงวันเกิดลูกเสียด้วย
หนูเล็กไม่โกรธก็ไม่ใช่ลูกรุ้งแล้ว”
เพราะรัมภาภัสร์เป็นคนที่ไม่พอใจง่ายและเมื่อไม่พอใจใครแล้วก็จะมักจะโกรธไม่พูดกับคนนั้นไปเลย
บ่อยครั้งที่เธอไม่พอใจเพื่อนพี่สาวผู้เป็นพ่อของลูกเธอจึงหอบลูกกลับบ้านไม่พูดไม่จา
แน่นอนว่านิสัยนี้ถ่ายทอดไปยังลูกสาวมากกว่า50%
แต่เพราะพ่อเขาเป็นคนที่ความอดทนสูง น้อยครั้งจะไม่พอใจหรือโกรธและหนูน้อยก็ได้รับถ่ายทอดนิสัยส่วนนั้นมาด้วยทำให้หนูน้อยรัมภาวีร์เป็นคนที่มีความอดทนสูง
ไม่โกรธใครง่าย ๆ แต่ถ้าได้โกรธแล้วก็มักจะไม่หายง่าย ๆ พร้อมจะเดินหนีโดยไม่พูดจา
ก่อนนี้ราชนาวีไปไหนไม่บอกก็จริงแต่ก็ไม่เคยเบี้ยววันสำคัญของลูกสาวแต่คราวนี้เขาไปราชการไม่บอกไม่กล่าว
หนูน้อยของเธอไม่โกรธไม่งอนก็ไม่ใช่ลูกเธอแล้วล่ะ
และเด็กหญิงรัมภาวีร์คงจะไม่ให้อภัยคนเป็นพ่อง่าย ๆ อย่างแน่นอน
“โอ๊ย
ฉันปวดหัวกับแม่ลูกคู่นี้ จะอยู่ก็ตามใจแล้วกัน แต่ขอเถอะ คิดกันให้ดี ๆ
ทั้งแม่ทั้งลูกน่ะ เคยเห็นหน้า เคยหัวเราะไปด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน
นอนกอดกันในวันที่ว่างแล้วจะตัดกันออกจากชีวิตได้จริง ๆ น่ะเหรอ?” รติภัทรเตือนสติ
“หนูเล็กอาจจะคิดว่าทีครีมจ๋าไม่ได้อยู่กับแม่ตั้งแต่เด็ก ๆ
มีแต่พ่อครีมจ๋ายังอยู่ได้เลยทำไมหนูเล็กจะทำไม่ได้ ครีมจ๋าอยากบอกว่ามันต่างกันนะ ตั้งแต่จำความได้ครีมจ๋าไม่เคยเจอแม่
แม่จึงไม่จำเป็นกับครีมจ๋าและตอนหลังครีมจ๋าก็ได้เจอยายเพียง
แต่หนูเล็กเห็นพ่อมาตั้งแต่จำความได้ หนูเล็กไม่มีทางอยู่ได้แบบครีมจ๋า”
“อีกหน่อยหนูเล็กจาหาพ่อใหม่และสามีใหม่ให้แม่รุ้ง
เอาที่มีเวลาให้หนูเล็กตลอดเวลาไปเลย แล้วเดี๋ยวหนูเล็กก็จารักพ่อใหม่ไม่สนใจพ่อรักอีก”
ผู้ใหญ่งอนยังพอมีเหตุผลแต่เด็กงอนนั้นง้อยากเพราะเด็กน้อยไม่สนใจเหตุผลอะไรทั้งนั้น
นั่นคือเด็กหญิงรัมภาวีร์ในตอนนี้
เพราะสมองเธอพัฒนาเกินวัยและได้ยินพ่อกับแม่ของเพื่อนคุยกันเกี่ยวกับพ่อใหม่
แม่ใหม่ ว่าสามารถหาใหม่ได้เช่นเดียวกับของเล่น เธอจึงจำมาใช้ด้วยรอยยิ้มแก่แดด
“ตายแล้ว
หลานฉันจะหาพ่อใหม่ให้ตัวเอง โอ๊ย
เครียดกว่าเรื่องหาหลัวไม่ได้ก็เรื่องความแก่แดดของหลานฉันนี่ล่ะ”
คนเป็นป้าพูดด้วยใบหน้าแตกตื่น
เธออยากจะมีโทรจิตส่งข้อความทางจิตไปให้ถึงราชนาวีให้รีบกลับมาเสียจริง ขืนเพื่อนเธอยังลอยทะเลไม่รู้ว่าอยู่บนคราบสมุทรอะไรแบบนี้ต่อไปอีกหน่อยมีหวังเสียทั้งเมียทั้งลูกแน่
ๆ ดูท่าแล้วคราวนี้ยัยหนูรัมภาวีร์จะเอาจริง
คุยท้ายบท...
รอบนี้เม้นกันหน่อยน๊า
กลับมากันอีกครั้งกับพ่อรักแม่รุ้งและหนูเล็กคร่า ทุกคนไม่ต้องโอดครวญแล้วน๊า ไรท์กลับมาอัพกันอีกรอบ แต่รอบนี้อ่านฟรีถึงบทที่15น๊า หลังจากนั้นคือติดเหรียญน๊า ไม่ถนัดเหรียญก็สนับสนุนอีบุ๊คกันน๊า ตามลิงค์ข้างล่างเลย
๋
|
|
ครีมจ้ายังต้องปวดหัวอีกนาน555+
หนูเล็กกับแม่รุ้งจะทำอะไรต่อกันน๊า ติดอ่านยาวๆคร่า
#คุณพระเอกเครื่องแบบสีขาวที่กร้าวใจ (อ่านนานๆแล้วคุณจะคิดเหมือนเรา)
1ความคิดเห็นของคุณเป็นกำลังใจให้เรา เพราะฉะนั้นใครใจดีแสดความคิดเห็นกันหน่อยน๊า
มาลุ้นกันเนาะ รับประกันความฟินในแบบเวณิตา ทอฝันค่ะ
ออกตัวว่าเป็นความชอบส่วนตัว ถ้าใครไม่ชอบไม่ว่ากัน
ติชมได้ แต่ใจเขาใจเรานิดนึงน๊า วิจารณ์ได้แต่อกเราสักนิดว่าขอวิจารณ์ หรือขอโทษที่คำพูดอาจแรงไปก่อนด่า(เราบอบบางค่ะ เคยเจอแบบที่วิจารณ์แรงแล้วเศร้า เพราะเขาไม่นึกถึงใจเราเลยด่าแบบอีนี่งง555
ความคิดเห็น