ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แฝดแล้วไงเอาอยู่หรอ

    ลำดับตอนที่ #3 : จุดบรรลัยที่ 3 หน้าคุ้นๆเหมือนญาติคู่กัด

    • อัปเดตล่าสุด 2 ธ.ค. 66


    เมื่อวันเวลาผ่านมาเนิ้นนาน(ตรงไหน) ผ่านมาได้หนึ่งเดือนที่เป็นอะไรทรมาณสำหรับฉันมาก เพราะการหนีงานมาจากบริษัทแม่ที่จีนมาไทยทำให้ต้องบินไปกลับบ่อยมาก เครื่องบินคือบ้านหลังที่สองแล้ว

     

    คิดถูกรึป่าวที่มาเปิดบริษัทเพิ่มที่ไทย?

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

     

    "ขออนุญาติค่ะคุณควีน ตอนนี้มีปัญหาที่ห้างGG ที่เราพึ่งเปิดใหม่โดนรบกวนจากพวกอิตาลี่ค่ะ" เลขาสาวสวยที่ฉันคัดหน้าตา แคกๆๆ ความสามารถมาเจ้ามารายงานฉัน

     

    "ค่ะพี่เบล เตรียมรถให้ควีนหน่อย เดียวฉันจะเข้าไปจัดการเอง" ฉันฉีกยิ้มอย่างน่ารัก แต่ในสายตาสาวที่ส่งยิ้มแห้งมา มันคงจะเป็นรอยยิ้มที่น่ากลัวสิน่ะ

     

    "รับทราบค่ะ" เบลขอไว้อาลัยให้กับคนที่มาเป็นศัตรูของคุณควีน

     

     

     ใช้เวลาไม่นานในการมาถึงที่หมาย เพราะอยู่ห่างไม่ไกลมากเท่าไร ขับรถมาแค่ 30 นาทีก็ถึง

     

    "เฮ้ ฉันต้องการของชิ้นนี้หล่อนต้องเอามาให้ฉันนะ!" เสียงสำเนียงของคนอิตาลี่สาวสวยที่มีบอดี้การ์ดห้าหกคนยืนคุ้มกัน ทำให้พนักงานของฉันนั้นไม่กล้าเข้าไป

     

    "ฉันพูดอยู่ทำไมไม่ตอบ พนักงานฉันจะเอากระเป๋าใบนี้"หล่อนว่าพร้อมแย่งกระเป๋าลูกสีแดงออกมาจากมือของผู้หญิง ที่มีผู้ชายหน้าตาที่เหมือนกันสองคนกำลังทำหน้าทะมึนตึง กำลังระงับอารมณ์

     

    โอ้ อย่ามาต่อยผู้หญิงนะ

     

    "พี่สิงห์ พี่เสือ เราไปร้านอื่นกันเถอะฝนไม่อยากได้แล้ว"

     

    "ได้ไงน้องเหมี่ยว เราหยิบของชิ้นนี้ก่อน พนักงานไปตามผู้จัดการมาด้วย" คนที่ชื่อสิงห์หันไปบอกผู้หญิงที่ชื่อเหมี่ยวก่อนจะหันไปบอกพนักงาน อย่างไม่ยินยอมเมื่อมีคนมาแย่งของไปจากมือของน้องสาวเค้า

     

    "โงรึป่าวที่พูดอิตาลีในประเทศไทย หรือไม่ได้เรียนพื้นฐานภาษาอังกฤษมารึไงยัยบ้านนอก " ฉันพูดภาษาอิตาลีและเดินเข้าไปยกแขนขึ้นมาเกาะออก พร้อมแสยะยิ้ม

     

    "กรี้ดดดด แกเป็นใครมายุ่งอะไรด้วย" กรี้ดสะเป็นละครไทยเลย พูดแค่นี้รับไม่ได้อีก

     

    "เป็นมารดาแกไง หยุด! ฉันยังพูดไมจบอย่าพึ่งกรี้ด ทำตัวเป็นพวกบ้านนอกอวดรวยครั้งแรกไปได้ ทำไมพึ่งจับผู้ชายรวยได้รึไง" ฉันเดินเข้าไปแทรกสามคนนั้นที่โดนพูดอิตาลีใส่

     

    "สวัดดีค่ะควีน" พนักงานที่รับหน้าคอยห้ามยัยบ้านนอกนี้หันมาโค้งให้ฉันอย่างนอบน้อม

     

    "อืม เธอพาลูกค้าไปเลือกของที่พึ่งเข้ามาเปิดตัววันนี้เถอะ ส่วนสด 10% "ฉันพยักหน้าให้ แล้วให้พนักงานพาทั้งสามคนออกไป เพื่อไม่ให้เห็นฉันวีนแตกกับลูกค้าแบบนี้

     

    จะว่าไปผู้ชายสองคนนี้หน้าคุ้นๆ อยู่น่ะ แต่ช่างเถอะชีวิตนี้ฉันเจอผู้ชายมาเยอะ เลยหน้าซ้ำละมั้ง

     

    "ว่าไงค่ะคุณผู้หญิงไม่ทราบว่าจะไปไหน" ฉันเดินไปดักยัยผิวแทนนี้ที่กำลังจะแอบเดินหนี

     

    "เธอเป็นใครมายุ่งอะไรด้วย" ยัยนี้สะบัดผมใส่พร้อมกับมองการ์ดของตัวเองข้างหลังให้เข้ามากันฉันที่เดินเข้าไปใกล้นางเลื่อยๆ

     

    แค่ผู้ชายตัวๆเท่าหมีสองคนจะทำอะไรได้ เห็นแบบนี้ฉันก็เคยล้มเสือมาแล้วน่ะ:)

     

    "เห็นเธอเรียกหาผู้จัดการของร้าน แต่พอดีฉันเป็นเจ้าของห้างนี้" ทำหน้าอย่างนี้คงจะรู้ เพราะเข้าของห้างนี้ในไทยคนอิตาลีคุมยังไงละ แม้กระทั้งของที่ขายอยู่ในนี้ก็เป็นแบรนด์ของฉันมากว่าครึ่ง แล้วยัยนี้ถึงกล้ามายืนโวยวายเพราะเป็นคนอิตาลี 

     

    "....."

     

    "อย่าได้คิดจะมาทำตัวกร่างที่นี้ เพราะฉันคุม อย่าลืมรับสายพ่อเธอละ เพราะธุรกิจที่พ่อเธอทำำมันกำลังจะพังเพราะเธอ"


     

    ฉันสะบัดผมเดินออกมาอย่างสับ หึคิดว่าควีนคนนี้จะลดตัวลงไปตบรึไง ทำธุรกิจก็ฟาดด้วยความล่มจมของอีกฝ่ายสิ แบบนี้มันถึงจะสะใจกว่า อำนาจมีอยู่ในมือจะเก็บให้ฝุ่นเกาะทำไม

     

     

     

     

     

     

     

    ทางอีกด้านของฝาแฝดทั้งสอง ที่พาน้องสาวมาเดินห้างเพื่อซื้อของใช้ที่เตรียมตัวจะไปเที่ยวที่หัวหินกับพวกเค้า ก็อดจะหัวร้อนกับชาวต่างชาติที่มาแย่งกระเป๋าของน้องสาวตัวเองที่ถืออยู่ไม่ได้ จนต้องให้พนักงานไปเรียกผู้จัดการมาแทน 

     

    แต่คนที่มาก็เป็นคนคุ้นหน้าเมื่อนึกถึงสาวสวยที่ไปมีเรื่องกับคนในมหาลัย และเป็นแขกของอาจารย์เอริคเมื่ออาทิตย์ก่อน 

     

    ทั้งสองหันมองหน้าเมื่อจำได้ว่าผู้หญิงที่พูดอิตาลีคนนี้เป็นใคร...พี่สาวแฟนไอธามเพื่อนของเขาไง สาวน้อยที่อายุน้อยแต่มีธุรกิจหมื่นล้าน แม้จะเป็นมือใหม่ที่พึ่งเจ้าวงการธุรกิจ แต่ก็ทำให้พวกที่อยู่ในวงการมาเป็นสิบๆปีปวดหัวกับการที่ไปขัดขวางเธอเจ็บใจไปหลายราย ทำไมพวกเค้าทั้งสองถึงรู้นะหรอ ก็อาของเค้า ทีี่อายุห่างจากพวกเค้าแค่ 10 ปีมักจะบ่นว่ามีสาวสวยที่มาจากต่างประเทศมาลงทุน ที่บางครั้งเดียวทำตัวเป็นคู่แข่ง บางครั้งก็ทำตัวเป็นลูกค้าที่น่ารัก….น่ารักของอาคงอีกแบบนี้สินะ

     

    ทั้งสองคนมองหน้ากันเมื่อเดินออกจากร้านก็มาเจอหญิงสาวที่เข้ามาช่วยเค้าอีกครั้ง หลังจากเลิกกระเป๋าให้น้องสาวเสร็จ เนื่องในโอกาศวันเกิดย้อนหลัง

     

    "พี่ นั้นคุณคนนั้นที่ช่วยพวกเราไว้มะกี้นิ ผู้หญิงอะไรทั้งเก่งแล้วก็อายุน้อย พูดได้หลายภาษามากเลย" เหมี่ยวพูดอย่างตื่นเต้นเมื่อได้เห็นหญิงสาวที่เดินออกมา เธอจำได้ว่าผู้หญิงที่ชื่อควีนคนนี้เท่ห์ และเก่งมากขนาดไหนในตอนที่ได้ฟังบรรยาย และเคยอ่านนิตยสารของเธอด้วย

     

    "ถ้าอยากรู้จักก็เข้าไปขอบคุณเค้าสิ เค้าทำให้หนูได้กระเป๋ารุ่นใหม่ที่ยังไม่ได้เปิดตัวในไทยเลยนะคะ" เสือพูดออกมาเมื่อเห็นน้องสาวเค้าทำตาวิบวับใส่ เพราะน้องสาวเค้าชอบเอานิตยสารของควีนมาให้เค้าดูบ่อยๆจนแทบจะรู้ประวัติย่อยๆของสาวสวยคนนี้ว่าชอบกินอะไร ทำอะไรในแต่ละวันแล้ว

     

     คนเป็นน้องสาวพยักหน้าให้พี่ชายทั้งสองก่อนจะวิ่งไปหาควีน

     

     

     

    "มันเป็นเวรหรือกรรมน่ะ" ฉันเดินออกมาอย่างหงุดหงิด เมื่อได้รับข้อมูลทีหลังว่ายัยสาวอิตาลีที่ทำตัวเป็นบ้านนอกเข้ากรุงนั้นเป็นลูกของพวกตาเฒ่าในอิตาลีที่ขัดแข็งขัดขากับหนุ่มที่ฉันมักจะมีปัญหาเวลามาลงทุนที่ไทยหรือจีน รู้สึกเสียเฟลที่ไปกำจัดศัตรู หรือว่าฉันจะเรียกร้องค่าตอบแทนดีน่ะ 

     

    "อยากรู้แล้วสิว่าหมอนี้จะทำหน้ายังไง หึหึ"

     

    "พี่ควีนค่ะเดียวก่อนค่ะ!"

     

    ฉันหยุดตามเสียงเรียกก็พบกับผู้หญิงที่ชื่อว่าเหมี่ยว ที่พึ่งได้ส่วนลดกระเป๋าของแบรนที่ฉันพึ่งเอาเข้าไทยแต่ยังไม่เปิดตัว ที่ให้ส่วนลดเพราะเห็นอายุเท่าน้องสาวฉันและฉันแพ้สายตาที่นองอ้อนพี่ชายตอนขอให้เปลี่ยนร้านเมื่อกี้ คนทาสน้องสาวก็งี้เห็นน้องคนอื่นอ้อนพี่ตัวเองแล้วใจบ๊างบาง

     

    "มีอะไรรึป่าวค่ะ" ฉันยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น

     

    "คือหนูเป็นแฟนคลับพี่ควีน คุณอาที่อยู่จีนมักจะพูดถึงพี่บ่อยๆ ว่าได้ร่วมงานกับพี่หนูเลยอยากจะขอถ่ายรูปคู่กับพี่หน่อยได้ไหมค่ะ" สาวน้อยคนนี้แฟนคลับฉันละทุกคน แบบนี้จะไม่ให้ได้ยังไง สงสัยต้องโดนคุณอาแกล้งมาเยอะแน่ๆ ดูหน้าที่กำลังแงงอนนั้นสิ

     

    "ไม่มีปัญหาค่ะ ว่าแต่คุณอาของน้องชื่ออะไรค่ะ เราจะได้อัดคลิปเค้าแกล้งกลับด้วย" 

     

    "พี่เสือถ่ายรูปให้น้องหน่อย" เมื่อเห็นฉันอนุญาตในการถ่ายรูปน้องก็รีบส่งโทรศัพท์ให้พี่ชายที่เป็นฝาแฝดที่ชื่อเสือทันที แต่หน้าคุ้นๆกับคนที่ทำธุรกิจร่วมกันกับฉันและเป็นคู่กัด….จากัวร์

     

    "อาหนูชื่อเคเจเย์ ค่ะ ตอนนี้กำลังจะกลับมาใทยในเดือนหน้า" น้องเหมี่ยวเปิดรูปให้ฉันดูแล้วรีบยื่นโทรศัพท์ให้พี่ชายอีกรอบ ตอนนี้ฉันได้แต่ยิ้มค้างไปเป็นที่เรียบร้อย 

     

    ใช่ค่ะทุกคนสิงห์คนเดียวกัน ตาคู่กัดที่มีนิสัยเย็นชาอย่างกับอยู่ในขั่วโลกเหนือ ที่มักจะส่งรูปหลานสาวมาอวดว่าหลานตัวเองน่ารักขนาดไหน ก็ว่าละทำไมถึงคุ้นหน้าน้องเหมี่ยว หลานนายเคเจย์นี้เอง หึ ฉันมีวิธีทวงส่วนลดและเอาคืนแล้ว

     

    "อ้ออ น้องเหมี่ยวคนนี้นี่เองที่คุณจากัวร์มักจะอวดให้ฟังบ่อยเวลาเจอกันที่งานเลี้ยง พี่จะเล่าให้ฟังว่า เวลาเค้าโดนเพื่อนที่ทำธุรกิจอวดว่ามีหลานสาวน่ารักอย่างนู้นนี้นั้น เค้าก็จะกระทำการพูดมากที่สุดก็คือเรื่องของน้องเลยค่ะ จนได้ฉายาในจีนเลยว่าเจ้าชายน้ำแข็งผู้หลงหลานสาว"

     

    "555 ขนาดนั้นเลยหรอค่ะ…โอ้ยอะไรพี่สิงห์เลิกสะกิดเหมี่ยวได้แล้ว"

     

    "ไปได้แล้วเหมี่ยวพี่กับไอเสือมีธุระต้องไปต่อ" คนที่ชื่อสิงห์หันมาโค้งหัวให้ฉันเล็กน้อยในการที่เข้ามาขัดการคุยของพวกสาวๆ

     

    "ควีนต้องขอโทษด้วยค่ะที่พาคุยยาว ไว้เจอกันโอกาสหน้าน้องเหมี่ยว"

     

    "อื้อออ ค่ะพี่ควีน พวกพี่อะไม่เรียนก็อยู่่สำนักกว่าจะมีเวลาให้เหมี่ยว อะไรกันก็ไม่รู้หนูจะฟ้องแม่!"

     

    ฉันเดินออกมาเเต่ก็ยังได้ยินเสียงบ่นน้องสาวของแฝดบ่นออกมาเสียงดังจนคนรอบข้างต้องหันมามอง เห็นแล้วก็แอบขำจริงๆ จะว่าไปตระกูลนี้เค้าเป็นสัตว์นักล่าทุกรุ่นเลยรึไงเนี้ย มีแต่ชื่อที่เป็นสัตว์กินเนื้อทั้งนั้นเลย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×