ตอนที่ 21 : คนที่ข้าควรไว้ใจ
"จือเอ๋อร์เจ้าแน่ใจแล้วรึไม่" บิดาถามนางย้ำอีกครั้งแต่ดวงตาของเขากลับมีประกายยินดีปรากฏขึ้นมาในแววตาก่อนจะจางหายไป บิดาของนางช่างเป็นบิดาที่ประเสริฐยิ่งนัก ทั้งที่ไม่อยากให้นางไปคัดเลือกเป็นศิษย์สำนักพิษช่างฝูแต่กลับเอ่ยปากแนะนำแก่นาง
ยามนี้นางกำลังประลองหมากกับบิดาพร้อมกับบอกกล่าวเขาเรื่องนางมิต้องการไปคัดเลือกเพื่อเป็นศิษย์ของสำนักพิษช่างฝู
ครานั้นนางมิได้ปฏิเสธเขาไป บิดาเองก็อยากให้นางคิดทบทวน ตั้งแต่นั้นบิดาก็ต้องเข้าวังจนไม่มีเวลาให้แก่นาง นางเองจึงไม่มีโอกาสบอกกล่าวคำตอบตนแก่บิดาเสียที วันนี้บิดามิได้ออกไปไหนจึงชวนนางดวลหมากรุก นางเองก็ถือโอกาสตรงนี้บอกกล่าวแก่บิดา
"แน่ใจเจ้าค่ะ" นางเอ่ยตอบอย่างมั่นใจก่อนจะวางตัวหมากของนางลงบนกระดาน
"เช่นนั้นเจ้ามิสนใจร่ำเรียนศาสตร์พิษแล้วหรือไร" กล่าวจบบิดาก็วางหมากของเขาบ้าง
"แน่นอนว่าข้าย่อมสนใจ หากแต่บิดามิต้องเป็นกังวล ข้าย่อมมีวิธีเรียนรู้โดยมิให้กระทบถึงบิดา" นางวางหมากตัวต่อไปทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าหมากตานี้นางคงแพ้แก่บิดาตนเสียแล้ว บิดาวางหมากตัวสุดท้ายลง
นางพ่ายแพ้ให้แก่บิดาเสียแล้ว
เสิ่นหวังจิ้งเงยหน้ามองนางอย่างนึกฉงน นางจะเรียนรู้ด้วยวิธีการใด แต่หากบุตรีผู้นี้มั่นใจตัวเขาย่อมต้องเชื่อในตัวนาง
"เช่นนั้นหากเจ้าต้องการให้บิดาช่วยเหลือสิ่งใดก็จงบอกกล่าว" เสิ่นจือเหว่ยสบเข้าไปในดวงตาของบิดาเห็นกระแสความห่วงใยจากเขาก็ให้รู้สึกอบอุ่นไม่น้อย
"ขอบคุณเจ้าค่ะบิดา"
ทั้งสองเริ่มเรียงตัวหมากในจุดเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
"ใช่สิ บิดาลืมบอกเจ้า อีกสักสองสามวันองค์ฮ่องเต้คงจะแวะมาหาเจ้าที่จวน" เสิ่นจือเหว่ยขมวดคิ้วเป็นปมเงยหน้ามองบิดา นี่เขาพูดจริงเหรอ นางนึกว่าเขาหยอกล้อนางเล่นเสียอีก
"ข้ามิอยากพบเขาเลย บุรุษผู้นั้นเจ้าเล่ห์จนข้าเกรงว่าจะมิอาจรับมือไหว" ความในใจถูกเอ่ยออกมาจากปากนาง
เสิ่นหวังจิ้งมองบุตรีอย่างเข้าใจ องค์ฮ่องเต้ผู้นี้เจ้าเล่ห์น้อยเสียเมื่อไหร่กัน แม้เขาจะหวงบุตรีผู้นี้มากเพียงใดแต่ก็มีความจริงหนึ่งที่เขามิสามารถปฏิเสธได้เลย
"ลูกรักเจ้าจงจำคำของบิดา ในใต้หล้านอกจากบิดาและหวังเอ๋อร์ที่หวังดีต่อเจ้า เจ้าจงมั่นใจเลยว่าองค์ฮ่องเต้ผู้นี้จะไม่มีวันทำร้ายเจ้าเช่นกัน" เสิ่นจือเหว่ยขมวดคิ้วเป็นปมยิ่งกว่าเก่า
"บิดาหมายความว่าอย่างไรเจ้าคะ"
เสิ่นหวังจิ้งเพียงยิ้มไม่ตอบนาง เขาเริ่มวางหมากตัวแรกบนกระดาน
"ถึงเวลาเจ้าจะได้รู้เอง ตาเจ้าแล้วจือเอ๋อร์"
สองพ่อลูกยังคงประลองหมากกันต่อเสียหลายกระดานผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะเป็นเรื่องปกติสำหรับสองพ่อลูกคู่นี้ไปเสียแล้ว
หลังจากนางประลองหมากกับบิดาไปหลายกระดาน นางจึงร่ำลาเขากลับเรือนของตน
นางยังคงวนอยู่ในภวังค์ความคิด ทบทวนถึงสิ่งที่บิดากล่าว เหตุใดบิดาจึงกล่าวเช่นนี้กัน เมื่อถึงเวลานั้นนางคงจะได้รู้เอง น่าเสียดายในนิยายเล่มนั้นไม่ได้กล่าวถึงนางอย่างชัดเจนแล้วนางจะรู้ได้เช่นไรกัน เอาเถอะไม่ว่าบิดาจะกล่าวถึงเรื่องใดสักวันนางก็คงจะได้รับรู้
"เสี่ยวจือ"
เสิ่นจือเหว่ยหลุดจากภวังค์ความคิด ฝีเท้าหยุดชะงักแล้วหันไปมอง นางค่อมกายทำความเคารพเขาเล็กน้อย
"มีอันใดหรือเจ้าคะพี่ชาย"
เสิ่นหวังเหว่ยพร้อมด้วยผู้ติดตามสองคนเดินเข้ามาหานาง
"เจ้าว่างรึเปล่า เจ้าจะออกไปข้างนอกจวนกับพี่ชายได้รึไม่" ตัวเขามิมีเวลาให้นางนานแล้วจึงถือโอกาสที่สหายส่งเทียบเชิญในการเปิดร้านน้ำชาวันแรกชวนนางออกไปด้วยกัน หากนางตอบตกลงก็คงดีไม่น้อย
เดิมทีเสิ่นจือเหว่ยตั้งใจจะกลับไปศึกษาตำราศาสตร์พิษ แต่พี่ชายที่ไม่ได้มีเวลาให้นางนานแล้วถึงกับเอ่ยปากชวน หากนางกลับไปยังเรือนตนตอนนี้ นางก็คงไม่มีสมาธิมัวแต่คิดถึงเรื่องนั้นเป็นแน่
"ได้เจ้าค่ะ"
เสิ่นจือเหว่ยตามพี่ชายมาโดยมิได้พาจางหมิ่นมาด้วย เมื่อมาถึงยังร้านน้ำชาของสหายพี่ชาย ยามนางเดินก้าวผ่านธรณีประตูก็ต้องตกตะลึงอึ้งค้าง นางมิเคยเห็นการตกแต่งเช่นนี้มาก่อน
___________________________________
ในที่สุดก็แต่งนิยายมาได้สองอาทิตย์กับสองวัน ยังไม่ชินเลยฮ่าๆ
โรงเตี๊ยมสมัยใหม่ แน่ๆ รอคร้าาาา
ชอบจ้าาาาา รอค่าไรท์ รอพระเอก ????
ชอบค่ะ.
สนุกมากค่ะ รอต่ออยู่นะค่ะ
รอติดตามอยู่ค่ะ สนุกมากเลยนะไรท์
เป็นครอบครัวที่น่ารักชอบ อบอุ่นหัวใจดี