คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 6 สองต่อสอง ในห้อง บนเตียง !!! จบแล้ว ^^
สองต่อสองในห้องบนเตียง
ชีคหนุ่มรีบโผเข้าหาร่างงามที่นอนหลับแน่นิ่งบนเตียงของเขาอย่างห่วงหา หลายวันมานี่เขาไม่ได้เจอหน้าหญิงสาวเลยพาลอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่ แต่นับจากนี้เขาจะได้เจอเธอทุกวัน อาจต้องปวดหัวบ้างแต่เขาก็ยินดี ไม่รู้ทำไมอารมณ์เขาถึงได้รุนแรงแบบนี้ แค่เจอหน้าหวานๆนี้ไม่นานแต่เขาเป็นได้มากขนาดนี้ นางมีอิทธิพลกับเขามากจริงๆ
“ในที่สุดเจ้าก็หนีเราไม่พ้น เพลงไพร”รำพึงเบาๆขณะโน้มหน้าเข้าไปจุมพิตบางเบาที่หน้าผากหญิงสาว ก่อนถอนออกอย่างเสียดายพลางจ้องมองดูรูปหน้าหญิงสาว สังเกตริมฝีปากแบบบางได้รูปราวกลีบดอกไม้ จมูกโด่งเป็นสันน้อยๆ ผิวแก้มที่แดงเรื่อราวสีกุหลาบ ใบหน้านี้ที่เขาจะได้เห็นทุกวันนับจากนี้ ชีคหนุ่มอมยิ้มน้อยๆก่อนจะก้มลงไปชิมความหวานจากเรียวปากคู่งามอย่างอ่อนหวาน หากแต่ต้องถอนออกอย่างเสียดายจะเป็นเอาเปรียบหญิงสาวจนเกินไปหากจะทำอะไรโดยที่นางไม่รู้สึกตัว เพราะเขาเองก็เป็นสุภาพบุรุษเหมือนกัน ที่ทำไปแล้วทั้งหมดถือเป็นของขวัญแห่งความคิดถึงระหว่างที่ไม่เจอหน้ากันก็แล้วกัน แต่ถ้าหากฟื้นเมื่อไหร่ รับรองเขาไม่ยอมให้อะไรมาขัดจังหวะได้อีก เขาจะทำทุกอย่างเพื่อยื้อหญิงสาวเอาไว้ให้อยู่ในอ้อมกอดของเขาตลอดไป หวังว่าเขาคงดูคนไม่ผิด ทั้งที่ตอนแรกไม่อยากจะคิดกับนางเกินเลยสักเท่าไหร่ประสบการณ์ที่ผ่านมา สอนให้เขาไม่ไว้ใจผู้หญิงคนไหน แต่กับเพลงไพรเขาสามารถเชื่อสายตาตัวเองและหัวใจตัวเองได้แม้จะรู้จักพบเจอได้ไม่กี่วัน
ชีคหนุ่มเช็คตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าให้หญิงสาวอย่างเต็มใจไม่นึกรังเกียจในขณะที่หญิงสาวยังหลับเพราะพิษยาสลบที่คนของเขาทำเอาไว้ ถึงแม้จะโกรธแต่ก็เอาเถอะคงไม่มีวิธีไหนแล้วจริงๆที่จะทำให้นางอยู่กับพระองค์ได้แบบนี้นอกจากการใช้วิธีลักพาตัว แต่ช่างเถอะเพราะหัวใจเขาเรียกร้องนี่นาปัญหาอื่นค่อยแก้ไขทีหลัง กว่าชีคหนุ่มจะเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หญิงสาวเสร็จก็นานเหมือนกันไหนจะต้องต่อสู้กับความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นขณะเปลื้องผ้าของนางยอมรับว่ารู้สึกปรารถนานางมากขึ้น และคงทนไม่ได้หากร่างบางจะปรากฏต่อหน้าใครในสภาพไร้อาภรณ์แบบนี้ แค่คิดก็แทบบ้าอยากฆ่าคนๆนั้นด้วยมือของตัวเอง หลังจากเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หญิงสาวเสร็จชีคหนุ่มก็พาตัวเองมานอนลงข้างๆร่างบางพลางกระชับร่างบางเข้ามากอดอย่างหวงแหน แล้วก็ผล็อยหลับไปด้วยกัน กว่าจะรู้สึกตัวก็เช้าของอีกวัน ร่างบางยังคงอยู่ในอ้อมกอดของเขาไม่ไปไหนมันรู้สึกดีจริงๆ ชีคหนุ่มยอมรับกับตัวเองก่อนจะโน้มหน้าเข้ามาใกล้และจุมพิตแก้มนวลรับอรุณวันใหม่ อย่างอารมณ์ดี
“อือ…อื้อ”ร่างบางขยับเล็กน้อยรับรู้ได้ถึงความอึดอัดจากอะไรสักอย่างที่โอบร่างตัวเองอยู่ ตาคู่หวานค่อยๆปรือขึ้นจนสามารถมองอะไรได้ชัดเจนขึ้น หญิงสาวสังเกตความผิดปกติของสิ่งต่างๆ เพดาน หน้าต่าง ผ้าห่ม และสิ่งที่น่าตกใจมากที่สุดคือตอนนี้เธออยู่ในอ้อมกอดของใครคนหนึ่งและเสื้อผ้าของเธอที่ไม่ใช่ชุดเดิม นี่มันอะไรกันนี่ เธอฝันไปหรือเปล่า ทำไมถึงมาอยู่นี่ได้ล่ะ และทำไมถึงอยู่ในสภาพนี้ได้มันเกิดอะไรขึ้น
“คุณ…คุณ…ตื่น…ตื่นเดี๋ยวนี้นะ”หญิงสาวปลุกคนร่างหนาที่ตอนนี้นอนกอดเธออยู่
“ไม่ตื่นใช่มั้ยคนบ้า…นี่แน่ะ”สิ้นคำหญิงสาวก็กระทุ้งศอกไปที่ลิ้นปี่ของชายหนุ่มทันทีจนอีกฝ่ายที่ตื่นแล้วแกล้งหลับถึงกับจุกทันที
“ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ คุณทำอะไรชั้น บอกมา ทำไมชั้นถึงมาอยู่ที่นี่ แล้วใครเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ชั้น บอกมานะ”หญิงยิงคำถามทันทีที่อีกฝ่ายยอมลืมตามาคุย
“ใจเย็นๆ ทีละคำถามสิ ถามเยอะแบบนี้ใครจะตอบทัน”
“ตอบมาก่อน นี่แล้วปล่อยชั้นสักทีคุณกำลังกอดชั้นอยู่โดยที่ชั้นไม่เต็มใจนะ”
“เจ้าก็คิดเอาเองสิว่าเราทำอะไรเจ้า เราเป็นคนเช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าและ…”ประโยคหลังชีคหนุ่มเงียบไม่ตอบทำให้หญิงสาวคิดไปเองจู่ๆคนคิดไปเองก็หน้าแดงแป๊ดขึ้นมา
“คนบ้า นี่แน่ะ”สิ้นคำฝ่ามือบางแต่หนักหน่วงก็ปลิวมากระทบใบหน้าคมคายดัง ‘เพี๊ยะ’จนอีกฝ่ายหน้าหันตามแรงมือ แล้วตามด้วยกำปั้นเล็กๆที่กระหน่ำมาไม่หยุดหย่อนเสียงสะอื้นน้อยๆค่อยบั่นทอนกำลังใจคนตรงหน้าจนเกือบหมด หยดน้ำใสๆราวน้ำค้างค่อยไหลเอ่อพ้นขอบตามาเปื้อนใบหน้างาม หญิงสาวระดมกำปั้นถี่รัวด้วยความโกรธน้ำตาก็ไหลพรากๆเสียงสะอื้นปิ่มจะขาดใจ ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกสงสารมากกว่าจะโกรธเสียด้วยซ้ำ ไม่น่าแกล้งให้คิดไปเองแบบนี้เลย ชีคหนุ่มดึงร่างบางเข้ามากอดแต่กระนั้นคนตัวเล็กกว่าก็ยังดิ้นไม่หยุด
“เพลงไพร ใจเย็นๆ เราขอโทษ นิ่งเสียนะคนดี”ชีคหนุ่มปลอบอย่างอ่อนโยนไม่นึกโกรธต่อการกระทำของหญิงสาวแม้แต่น้อย
“ฮือ…ไอ้คนใจร้ายคุณใจร้ายที่สุดชั้นจะฆ่าคุณคอยดู ฮือ…”หญิงสาวกล่าวเสียงสั่นพยายามผลักใสอ้อมกอดของอีกฝ่าย โกรธที่สุดที่เขาทำแบบนี้ทั้งที่เธอเองก็แอบคิดถึงเขาเหมือนกันตอนที่เขากลับประเทศของเขาแต่ตอนนี้ดีใจไม่ลงเมื่อตัวเองตกอยู่ในสภาพแบบนี้ ไม่ต่างจากผู้หญิงง่ายๆคนหนึ่ง ยิ่งคิดน้ำตาก็พาลไหลออกมาอีก
“พาชั้นกลับประเทศไทยได้มั้ย” หญิงสาวตัดสินใจถามทั้งน้ำตา
“ไม่ได้!!!”ตอบเกือบทันที
“ทำไม ไม่ได้ล่ะ ชั้นไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายนะ ปล่อยชั้นไปเถอะ คุณคงหาผู้หญิงได้ไม่ยากแต่ปล่อยชั้นไปเถอะ”
“แต่เราต้องการเจ้าไม่ได้ต้องการคนอื่นนี่นา คงปล่อยเจ้าไปไม่ได้หรอก” ตอบอย่างใจเย็น
“แต่ชั้นไม่เต็มใจนี่ คุณไปหาคนที่เขาเต็มใจสิ ไม่ใช่มาบังคับเอาที่ชั้นแบบนี้”
“เราขอบอกอีกครั้งว่าเราไม่ต้องการนอกจากเจ้า เลิกต่อรองเสียที เพลงไพร”
“แล้วชั้นจะอยู่ในฐานะอะไร”ทำใจแข็งถามออกไปและใจสั่นเมื่อรอฟังคำตอบ
“เมียเราไง เจ้าเป็นเมียเรา!!” ตอบเสียงดังฟังชัด
“บ้าเหรอ ไม่เอา ปล่อยชั้นไปเถอะ เดี๋ยวบรรดาเมียๆคนอื่นๆของคุณมาแหกอกชั้นตาย ที่ผ่านมาชั้นไม่ติดใจเอาความแล้วก็ได้ แต่ปล่อยชั้นไปเถอะนะ” หญิงสาวอ้อนวอน
“หือ บรรดาเมียๆเหรอ” ชีคหนุ่มเลิกคิ้วสงสัย ดูสิไปเอามาจากไหน ‘บรรดาเมียๆ’เขามีที่ไหนกันเล่า เพลงไพรนะเพลงไพร จะพูดก็ไม่รู้จักศึกษาข้อมูล
“ใช่ ก็เจ้าชายอาหรับส่วนใหญ่เค้าก็จะมีนางในฮาเล็มไม่ใช่เหรอ แล้วนางพวกนั้นไม่ใช่เมียรึไง ปล่อยชั้นไปเถอะนะ ชั้นไม่อยากใช้สามีร่วมกับใคร ไม่อยากเป็นหนึ่งในบรรดาเมีย ไม่อยากได้ชื่อว่าเมียตามด้วยตำแหน่งน้อยใหญ่ที่ใครใช้เรียกกัน ปล่อยชั้นไปตามทางนะ นะเพคะ”
“เราไม่เคยคิดจะให้เจ้าเป็นอย่างที่เจ้าว่าสักนิด เรายังไม่มีเมีย ไม่มีบรรดาเมียอย่างที่เจ้ากล่าวมา ไม่มีฮาเล็ม เราจะมีเจ้าเป็นเมียคนเดียว เป็นชายาแห่งเราคนเดียวเท่านั้น” ชีคหนุ่มอธิบาย
“ยังไงก็ไม่อยู่ดี ชั้นกับคุณเราไปรักกันตอนไหน นี่ไม่ใช่หนังการ์ตูนนะ ไม่ใช่เล่นขายของ ชีวิตชั้นทั้งชีวิตเชียวนะ” หญิงสาวค้าน
“เจ้ารักเรารึเปล่า”หญิงสาวถึงกับเงียบ พูดไม่ออก เพราะความรู้สึกในใจที่เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่ประลองมวยจนถึงตอนนี้ก็คงอธิบายได้ว่าเธอได้ตกหลุมรักเขาเข้าให้แล้ว
“เจ้าไม่ตอบ เพราะว่ารักหรือ ไม่แน่ใจว่ารักเราหรือเปล่าใช่มั้ย งั้นฟังเราพูดบ้าง เราตกหลุมรักเจ้าเข้าให้แล้ว ตั้งแต่ประลองมวยกับเจ้า จากนั้นเราก็มักจะลงไปนั่งแอบมองเจ้าทำงาน จนกระทั่งเรากลับมา อัลบาฮา เราไม่เป็นอันทำงาน เพราะคิดถึงแต่เจ้า และเราทำแบบนี้เพราะเรารักเจ้าเพลงไพร” ชีคหนุ่มเอ่ยมายืดยาวขณะเอ่ยก็สังเกตคนตรงหน้าทุกอาการ ตั้งแต่ตะลึง ตกใจ งุนงง แก้มใส ค่อยๆแดงระเรื่อจนเขาแทบอดใจไม่ไหวอยากจะคว้ามาจูบเสียให้หนำใจ ทำไมถึงน่ารักอย่างนี้นะเพลงไพร นี่เขาคงบ้าตายหากร่างบางตรงหน้าทำแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นที่ไม่ใช่เขา
“เพลง…เพลง…”หญิงสาวเอ่ยตะกุกตะกัก สรรพนามแทนตัวก็เปลี่ยนไป จนอีกฝ่ายอมยิ้มน้อยๆ
“เพลงทำไม”
“คุณรักเพลงจริงรึเปล่า หรือแค่พูดให้เพลงหยุดงอแงกัน”ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ
“ที่สุดเลยที่รัก จะแต่งงานกับเราชีคยาสเซอร์แห่งอัลบาฮาได้มั้ย เพลงไพร”
“เพลง…เพลง…”
“ว่าไง ถ้าไม่ยอมแต่ง เราคงต้องทำอะไรเพื่อลงโทษเจ้าแล้วนะ บอกไว้ก่อนเราจะไม่ลดโทษให้เด็ดขาด ไม่ต้องคิดมาอ้อนวอนเสียให้ยาก”
“เพลงจะแต่งงานกับคุณค่ะ” ร่างบางเอ่ยแบบอายๆจนอีกฝ่ายอดเอ็นดูไม่ได้ ต้องดึงเข้ามากอด เพราะคำว่ารักคำเดียวที่ละลายพยศมากมายของหญิงสาวได้ รอยรักในรอยทรายก็คือรอยรักแห่งความประทับใจ คือรอยรักที่ฝังลึกลงสู่ผืนทรายที่แห้งแล้งอาจไม่ชุ่มฉ่ำแต่ก็ทำให้หลายชีวิตเติบโต
จบแล้วค่ะ รอยรักในรอยทราย
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่าน นะค๊า ทุกคน คิดเห็นประการใด ชี้แนะด้วยเน้อ ^^
ความคิดเห็น