ตอนที่ 9 : -Nine-
"นี้เธอ!!!" พอได้ยินแบบนั้นไปอาโอมิเนะก็จะถลาเข้าไปจู่โจมมิซึกิ
"พอได้แล้วอาโอมิเนะ" อาคาชิเข้าไปห้ามปรามอาโอมิเนะ
"อาคาชิแต่ว่า…" อาโอมิเนะจะพูดต่อแต่ต้องตัดบทสนทนาออกไปเพราะสายตาที่อาคาชิส่งมาสื่อประมาณว่าถ้ายังไม่หยุดคงรู้นะว่าต้องเจอกับอะไร
"ก็ได้" จบประโยคมิซึกิก็เอาขาของเธอลงมาก่อนจะไปยืนห่างจากพวกเขานิดหน่อย
"จบแล้วค่ะ ส่วนเรื่องที่ฉันนัดมาในวันนี้ก็มีเรื่องอยากจะบอกนิดหน่อย" มิซึกิพูดพร้อมตรงไปใส่รองเท้าของเธอเอง
"เรื่องที่จะบอกหรอค่ะ" โมโมอิถาม
"ใช่ค่ะ สองวันหลังจากนี้ฉันมีธุระทางบ้านน่ะคะ แล้วพรุ่งนี้เป็นวันจันทร์เลยไม่สามารถพาทัวร์โรงเรียนได้ เดี๋ยวฉันจะส่งคนพาทัวร์โรงเรียนให้นะคะ"
"ธุระทางบ้านหรือหนีเที่ยวกันแน่" คางามิพูด
"ก็แหมเงาอย่างฉันเองก็มีธุระเหมือนกันนะคะคุณคางามิ" พอจบประโยคนั้นทุกคนในรุ่นปาฏิหาริย์ก็มองร่างบางที่ยิ้มร่าโดยที่ไม่รู้ว่ามันเป็นประโยคของเงามายาที่พวกเขากำลังตามหาอยู่
"เมื่อกี้คุณพูดคำว่าอะไรนะ" อาคาชิถามร่างบาง
"เงาไงค่ะทำไมหรอ" มิซึกิยังคงทำหน้าใสซื่ออยู่
"ห้ามพูดคำว่าเงาออกมาเด็ดขาด" อาคาชิบอกร่างบางที่พูดคำต้องห้ามให้พวกเขาได้ยิน
"เอ้~ทำไมล่ะค่ะมันไปเกี่ยวอะไรกับพวกคุณกันค่ะคุณอาคาชิ" มิซึกิบอกอาคาชิด้วยท่าทีทีเล่น
"ไม่เกี่ยวอะไรหรอแต่อย่าพูดให้พวกเราได้ยินคำนี้อีก"
"ก็ได้ค่ะฉันจะไม่พูดคำนี้ก็ได้" มิซึกิพูดพลางยกมืขึ้นอย่างยอมๆ
"แล้วที่นัดมาที่นี่มีอะไรหรอคุณอิบุกิ" ฮิมุโระถามร่างบางที่ยืน
"อ่อแค่จะมาบอกว่าที่นี่จะเป็นที่ซ้อมของพวกคุณ"
"เอ้!จริงหรออิบุกิจัง" ทาคาโอะถามร่างบางด้วยน้ำเสียงดีอกดีใจ
"จริงค่ะคุณทาคาโอะ ก็ยังดีกว่าไปหาที่อื่นซ้อมแทน แต่ก่อนที่นี่เป็นที่ซ้อมของพวกชมรมเคนโด้แค่พอสร้างยิมใหม่พวกเขาก็เลยย้ายไปที่นั้น แล้วปล่อยให้ร้างจนไม่มีใครมาที่นี่อีกแต่ทางเราก็ทำความสะอาดแล้วก็บูรณะขึ้นมาใหม่"
"ถ้าที่นี่เคยร้างมาก่อนแล้วมันมีผ..ผั...ผีไหมค่ะอิบุกิจัง" ฟุริฮาตะถามมิซึกด้วยน้ำเสียงที่หวาดกลัว
"อาจจะมีหรือหรืออาจจะไม่มีฉันไม่รู้ ทางเดียวที่จะรู้ว่ามันมีน่ะมีแค่อย่างเดียวคือ มาดูเองค่ะถึงจะรู้เท่านั้น เพราะคนอย่างฉันไม่สนใจเรื่องพันนั้นหรอค่ะจะมีก็แต่คนบ้างมงามเท่านั้นค่ะขอตัวก่อนล่ะค่ะมีธุระต้องไปทำ" มิซึกิพูดพร้อมที่จ้องมองไปที่หน้าฟุริฮาตะก่อนจะออกไปจากตรงนั้นทั้งที
| Part : โมโมอิ |
หลังจากที่มิซึกิจังออกไปทุกคนก็เริ่มซ้อมบาสกันทันที แต่บางทีฉันก็อดสงสัยไม่ได้ว่ามิซึกิจังน่ะมีนิสัยเหมือนเท็ตสึคุงมากตรงที่เป็นคนตรงไปตรงมาคิดอะไรก็จะพูดอย่างนั้นออกไปโดยที่ไม่สนอะไรเลย แต่มันคงเป็นไปไม่ได้หรอ เพราะมิซึกิจังน่ะเป็นผู้หญิงแล้วเท็ตสึคุงเป็นผู้ชายจะใช่คนๆ เดียวกันได้ยังไงล่ะ ฉันนี้มันบ้าจริงคิดได้ยังไงกัน
แล้วระหว่างที่ฉันคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่เสียงของคนที่ฉันไม่อยากได้ยินก็ได้เอ่ยขึ้น
"โมโมอิจัง" เสียงนั้นเป็นใครไม่ได้นอกจากฟุริฮาตะไงล่ะ คนที่ทำให้เท็ตสึคุงหายตัวไป
"มีอะไร"
"อย่าพูดจาห่างเหินกันแบบนี้สิค่ะ เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรอ" น้ำเสียงที่พูดออกมาอย่างร่าเริงนั้นเป็นสิ่งที่ฉันเกลียดที่สุด
"ฉันกับเธอไปเป็นเพื่อนกันตอนไหน จำไม่เห็นได้ว่าฉันกับเธอน่ะสนิทกัน"
"เอ้~ใจร้ายจังทั้งทีฉันน่ะอยากเพื่อนกันโมโมอิจังแท้ๆ เลย"
[ ก็ฉันไม่ได้ขอนิ เป็นแม่ฉันก็ไม่ใช่ ]
"ฉันไม่ต้องการ เพราะคนที่ฉันต้องการที่จะเป็นเพื่อนน่ะมีแค่เท็ตสึคุงเท่านั้นเธอน่ะไม่ใช่ ขอตัวก่อนต้องจดข้อมูลของพวกอาคาชิต่อ" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดันและรังเกียจต่อคนตรงหน้าก่อนจะออกไปจากตรงนั้น โดยไม่คิดจะมองคนข้างหลังเลย โดยไม่รู้ว่าคนข้างหลังนั้นกำหมัดอยู่
_________________
แรงมากกกแม่
ทั้งน้องครกและโมโมอิจัง
สะใจจริงว้อย
แต่มันยังไม่จบเท่านี้หรอ
ไรท์เตรียมต่อโต้กลับต่อแน่ๆ
รอได้เลยนะร้าาา
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

งือออออ อยากได้ฉากสะใจๆ
สมน้ำหน้านังฟุริฮาตะ แม้แต่โมโมอิก็ไม่นับเป็นเพื่อน สะใจที่สุดค่ะ