คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : Pandora 22
ขาเรียววิ่งเข้ามาในโรงพยาบาลด้วยสีหน้าที่แสดงออกถึงความร้อนใจแค่ไหน แบคฮยอนวิ่งตรงไปทางเคาท์เตอร์แล้วถามพยาบาลถึงข้อมูลของคนไข้ที่ชื่อว่า ปาร์ค ชานยอล
เมื่อรู้ว่าอยู่ที่ใดแล้วแบคฮยอนก็รีบไปยังจุดหมายปลายทางทันที..
แบคฮยอนยืนตัดสินใจอยู่หน้าห้องเพียงสักพัก แล้วจึงตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปแล้วก็พบกับ....
คนที่หัวใจเรียกร้องว่าอยากเจอมาตลอด 3 ปี..
ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจเมื่อได้กลับมาพบกันแต่ด้วยสภาพแบบนี้.. น้ำตาพลานไหลออกมาอีกครั้งด้วยความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้
มือบางปล่อยกระเป๋าเดินทางที่ลากมาด้วยออกจากมือ แล้วเดินเข้าไปใกล้เตียงที่อยู่กลางห้อง.. ใบหน้าหวานก้มลงมองคนที่อยู่ในห้วงนิทราแล้วก็หลุดยิ้มออกมาทั้งน้ำตาด้วยความดีใจ..
แม้อดีตจะเคยเจ็บช้ำมามากถึงเพียงไหน.. แต่ตอนนี้กลับถูกลบเลือนไปเพียงเพราะได้กลับมาพบกันอีกครั้ง..
ถามว่าแบคฮยอนให้อภัยชานยอลกับเหตุการณ์ในตอนนั้นหรือยัง ? ตอบได้เลยว่าแบคฮยอนเองก็ไม่รู้คำตอบเหมือนกัน... แต่การที่ห่างกันไปนานมากขนาดนี้ แบคฮยอนกลับไม่เคยลืมชานยอลเลย..
คิดถึงยามที่มีความสุขด้วยกัน เสียงหัวเราะ เสียงร้องไห้ อ้อมกอด และความอบอุ่นที่ได้รับจากคนตัวสูงตรงหน้านี้..
แต่ถ้าจะให้แบคฮยอนกลับไปเป็นเหมือนเดิมกับชานยอล.. เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำได้หรือเปล่า..
“ชานยอล..” แบคฮยอนเอ่ยเรียกเบาๆ แล้วไล้มือไปตามใบหน้าคมคายอย่างโหยหา.. คิดถึงเหลือเกิน...
ใบหน้าซีดเซียวซึ่งเป็นผลจากการเสียเลือดไปเป็นจำนวนมากทำให้แบคฮยอนรู้สึกเป็นห่วงอดีตคนรักอย่างถึงที่สุด..
ถ้าหากว่ามาโรงพยาบาลช้าไปกว่านี้.. ชานยอลจะเป็นอย่างไรบ้างนะ...
แบคฮยอนถอยออกห่างจากเตียงแล้วกำลังจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวยาวที่ไว้ใช้สำหรับเป็นที่พักผ่อนให้กับคนที่มาเฝ้าผู้ป่วย..
แล้วจังหวะที่แบคฮยอนหันหลังให้นั้นเอง.. ร่างของคนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงก็ขยับแรงขึ้น ก่อนจะตามมาด้วยเสียงที่ทำให้คนอยู่ในห้องต้องเบิกตาขึ้นด้วยความตกใจ !
ตี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด.....
แบคฮยอนหันกลับไปมองคนที่นอนหงายนิ่งๆ อยู่บนเตียงแล้วตามด้วยเครื่องจับสัญญาณการเต้นของหัวใจซึ่งตอนนี้กำลังแสดงภาพของเส้นตรงยาว.. พร้อมกับตัวเลข 0 สีแดงในเครื่องนั้น...
บ่งบอกได้ชัดเจนว่าหัวใจของคนที่นอนนิ่งอยู่ได้หยุดทำงานลงแล้ว..
แบคฮยอนนิ่งไปอย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง.. ไม่จริง.. ไม่จริงใช่มั้ย ?
ขาสั่นก้าวเดินออกไปเชื่องช้าเพื่อเข้าไปหาคนที่นอนอยู่.. น้ำตาใสไหลรินอาบหน้าอีกครั้งหลังจากที่พึ่งหยุดไปได้ไม่ถึง 5 นาที..
ร่างสูงนอนนิ่ง ดวงตาหลับพริ้มลง...
“ชานยอล...” มือบางเอื้อมไปข้างหน้าแล้ววางลงบนมือที่เย็นเฉียบของชานยอล... หัวใจกระตุกวูบด้วยความเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด..
“ไม่จริง.. ฮึก.. ชานยอล” ศีรษะเล็กส่ายไปมาอย่างไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้เห็นและสัมผัส..
เป็นไปไม่ได้.. นี่เขาฝันอยู่ใช่มั้ย..
“ฮึก.. ชานยอล ! ฟื้นขึ้นมาสิ.. อย่าทิ้งแบคไปนะ ฮือ...” เสียงร้องไห้ดังขึ้นพร้อมกับร่างเล็กที่พุ่งเข้ากอดคนที่นอนอยู่บนเตียง.. น้ำตาใสไหลรินออกมาไม่หยุดเมื่อคนที่เขารักที่สุดได้จากไป...
โชคชะตาจะเล่นตลกกับชีวิตของแบคฮยอนไปถึงไหน.. ทำไมถึงได้พรากวิญญาณคนรักของแบคฮยอนไปแบบนี้กัน..
“ไม่ ! ช.. ชานยอล ฮึก.. ลืมตาขึ้นมาสิ นาย ฮึก.. ห้ามตายนะ ฮือ..” ใบหน้าเล็กซุกลงกับกลุ่มผมของคนที่ตนประคองกอดไว้แนบอก..
“ฮือ.. อย่าทิ้งแบคไปแบบนี้ ฮึก.. กลับมานะชานยอล ฮือ...”
.
.
.
“แค่ก.. ป.. ปล่อยก่อน !” เสียงแหบทุ้มที่แสนคุ้นเคยดังขึ้น ทำให้การกระทำทุกอย่างหยุดชะงักลง.. ดวงตาที่น้ำตาเอ่อล้นเบิกขึ้นอย่างตกใจ..
ฝ่ายชานยอลก็ดึงแขนเรียวของแบคฮยอนที่รัดตัวของเขาออก.. ใบหน้าที่เริ่มซีดบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเขาต้องขาดอากาศหายใจอย่างแน่นอนถ้าหากอีกคนไม่ยอมปล่อยให้เขาเป็นอิสระ..
“แค่ก.. แค่ก.. นี่กะจะฆ่ากันเลยไง ?”
“.....”
“หรือกลัวยอลตายถึงได้ร้องไห้หนักขนาดนั้น..” ชานยอลยกยิ้มขึ้นอย่างดีใจกับเหตุการณ์ที่พึ่งผ่านไปเมื่อสักครู่.. ใบหน้าที่ซุกอกอยู่ทำให้ชานยอลไม่เห็นสีหน้าของแบคฮยอน.. และรอยยิ้มเล็กๆ ที่ผุดขึ้นอย่างดีใจในตอนนี้
“แบคฮยอนอา... กว่าจะกลับมาได้ รู้มั้ยว่ายอลเกือบจะตายอยู่แล้ว...”
“ฮึก...” เสียงสะอื้นหลุดออกมาอีกครั้ง ก่อนจะยืนขึ้นเต็มความสูงแล้วหันหลังให้ชานยอล.. มือเล็กยกขึ้นปาดน้ำตาออกลวกๆ แล้วเตรียมที่จะเดินไปหยิบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ออกไปจากห้องนี้..
แต่ก็โดนมือหนาของคนที่นอนอยู่บนเตียงคว้าข้อมือเอาไว้เสียก่อน..
“จะไปไหนอีกหรอแบคฮยอน.. จะทิ้งกันไปไหนอีกครับ ?”
“ป.. ปล่อย ฮึก..”
“.....” ชานยอลเงียบ.. แล้วปล่อยมือที่รั้งอีกคนออกตามคำขอ.. ชานยอลประคองตัวขึ้นจากเตียงแล้วเดินลงไปสวมกอดคนตัวเล็กจากทางด้านหลัง.. แม้จะเจ็บแผลที่โดนแทงมาอยู่แต่ก็ต้องกัดฟันทน..
“อ๊ะ ! ชานยอลปล่อยนะ !” แบคฮยอนโวยวายขึ้นแล้วดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนของชานยอล.. คนตัวสูงยิ้มออกมาเมื่อเห็นอากัปกิริยาแบบนี้... เพราะเวลาที่แบคฮยอนเขินทีไรก็มักจะเป็นแบบนี้ทุกที..
“ก็แบคให้ยอลปล่อยมือ ยอลก็ปล่อยแล้วไงล่ะครับ... แล้วแบคจะว่าอะไรยอลอีก หืม ?”
“ให้ปล่อยมือ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าให้มากอดกันนี่ !” น้ำตงน้ำตาแห้งเหือดไปหมดเมื่อถูกความเขินอายมาแทนที่.. อยากจะผลักอีกคนให้กระเด็นไปไกลๆ แต่ก็เกรงว่าแผลที่พึ่งเย็บมาจะฉีก เลยเลือกที่จะหยุดดิ้นแล้วปล่อยให้อีกคนกอดไว้แบบนั้น แต่เหมือนชานยอลจะได้ใจ แขนยาวกระชับมากยิ่งขึ้นแล้ววางคางไว้บนไหล่บางของแบคฮยอน..
ดวงตากลมโตของชานยอลหลับพริ้มลงแล้วระบายยิ้มออกมาเมื่อได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวของคนในอ้อมกอด..
“ช.. ชานยอล ! ปล่อยได้แล้ว.. แบคไม่ไปไหนแล้ว อุ๊บ !” มือเล็กยกขึ้นปิดปากตัวเองเมื่อเผลอหลุดใช้สรรพนามที่เคยเรียกกันในตอนที่ยังคบกันอยู่..
ชานยอลหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อได้ยินว่าคนตัวเล็กพูดอะไร..
“อืม..” ชานยอลรับคำออกมาเบาๆ ปล่อยอ้อมแขนที่โอบกอดแบคฮยอนออกแล้วเดินไปนั่งที่เตียงพร้อมกับกระชากให้คนตัวเล็กมานั่งบนตักของเขาไว้ด้วย..
ใบหน้าขึ้นสีแดงจัดของแบคฮยอนทำให้ชานยอลนึกหมั่นเขี้ยวอยากจะสูดดมแก้มหอมๆ นั่นสักที แต่ก็ต้องอดใจไว้ก่อนเพราะเกรงว่าจะโดนคนตัวเล็กต่อว่า..
“ชานยอล.. อย่ารุ่มร่ามแบบนี้สิ ! ถ้าแผลมันฉีกอีกรอบนายจะเจ็บนะ”
“อย่าเรียกยอลว่า ‘นาย’ แล้วก็อย่าเรียกแทนตัวเองว่า ‘ฉัน’ ได้มั้ย ? ถ้าแบคยังไม่เลิกพูดล่ะก็.. จะโดนลงโทษนะครับ” ชานยอลส่งยิ้มกรุ่มกริ่มให้แบคฮยอนเหมือนอย่างที่เคยทำ ถ้าแบคฮยอนจำความหมายของคำว่า ‘ลงโทษ’ ได้ล่ะก็นะ.. เชื่อเถอะว่าคนตัวเล็กนี่จะทำตามทุกอย่างที่ชานยอลสั่งแทบจะทุกอย่างเลยล่ะ
“ปาร์ค ชานยอล ! กูบอกว่าให้ปล่อย !” ในเมื่อไม่ให้เรียกฉัน งั้นเรียกกูมึงก็ไม่ผิดสินะ !
แบคฮยอนหันมามองชานยอลแล้วส่งสายตาอาฆาตให้ ทว่าอีกคนกลับไม่มีท่าทีว่าจะสลดลงสักนิด กลับทำหน้ายู่แบบเด็กงอแงใส่แบคฮยอนเสียอีก !
“ไม่เอาดิ ! กูมึงอะไร พูดไม่เพราะเลย..”
“ก็พูดเองไม่ใช่หรอว่าห้ามพูดคำว่านายกับฉันอ่ะ”
“แล้วแบคฮยอนไม่รู้หรือไงว่าควรจะพูดว่าอะไร ?” คราวนี้เหมือนจะแกล้งหนักกว่าเดิม เมื่อมาหนายกขึ้นจากการสวมกอดเลื่อนมาจับที่ใบหน้าของอีกคน แล้วโน้มใบหน้าของตัวเองเข้าไปใกล้จนได้กลิ่นแป้งเด็กอย่างที่แบคฮยอนใช้ประจำ..
สายตาจับจ้องไปที่ริมฝีปากสีชมพูธรรมชาติแล้วคิดถึงรสหวานจากคนตรงหน้านี้... จากตอนแรกว่าจะแค่แกล้งเฉยๆ แต่ตอนนี้กลับแพ้ภัยของตัวเองเสียอย่างนั้น !
“ร.. รู้แล้ว” แบคฮยอนพูดติดขัดเมื่อถึงระยะที่เรียกว่า อันตรายต่อหัวใจ...
“รู้แล้วก็พูดสิครับ.. หรือต้องให้....”
“ก็กำลังจะพ.. อื้อ !” ไม่ทันที่คนตัวเล็กจะพูดจบ ความอดทนของชานยอลก็หมดลงทันที ! ริมฝีปากร้อนประกบลงบนริมฝีปากหวานของคนตรงหน้า.. ไล้เล็มอย่างโหยหา แต่ก็ไม่กล้าที่จะลุกล้ำไปแต่อย่างใด..
กลัวว่าจะโดนคนตัวเล็กว่า.. เพราะเขาเองก็ยังไม่ได้รับการอภัยจากแบคฮยอนนี้เลย... แต่ที่เผลอทำลงไปแบบนี้ก็เพราะคิดถึงแล้วแพ้ภัยของตัวเองจริงๆ
“.....” ลิ้นร้อนไล่เลียริมฝีปากหวานไปทั่ว.. นึกอยากจะสอดเข้าไปภายในเพื่อเก็บเกี่ยวความหอมหวานที่แสนจะคิดถึง.. แต่ก็อย่างที่บอก กลัวโดนเมียด่า!
สักพักก็ถอนจูบออกแล้วทิ้งตัวลงนอนทั้งๆ ที่ยังมีแบคฮยอนนั่งอยู่บนตัก.. คนตัวเล็กลุกขึ้นแล้วเปลี่ยนไปนั่งบนเตียงข้างๆชานยอลแทน
“แบคยังไม่ได้อนุญาตเลยนะ....”
“ขอโทษคร๊าบบบ.. ก็แบคอยากน่ารักทำไมล่ะ ?”ชานยอลหันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆที่เขานอนแล้วยิ้มให้.. แบคฮยอนจึงเลือกที่จะหันหน้าหนีไปอีกทางเพื่อจะซ่อนใบหน้าแดงๆ ไว้ แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าไม่ทันแล้วก็ตาม..
เสียงเครื่องจับการทำงานของหัวใจดังรบกวนโสตประสาทของแบคฮยอนจนรำคาญ คนตัวเล็กจึงเอื้อมมือไปปิดเครื่องแล้วนึกขึ้นได้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้
“นี่ ! ชานยอล.. ว่าแต่ตอนแรกยอลเป็นอะไร ? ทำไมเครื่องมันถึงได้ดังแบบนั้น ?” ฝ่ายชานยอลที่ยังคงไม่รู้เรื่องก็ทำหน้าครุ่นคิดอยู่สักพัก แล้วบอกเหตุผลที่ทำเอาแบคฮยอนอยากจะตบคนชอบนอนละเมอตรงหน้าสักที..
“อืม.. ก็คงเป็นเหมือนเวลาที่ยอลหลับลึกๆ แหละ ฝันว่าตัวเองกำลังเดินไปริมเหวอ่ะ แล้วยอลก็โดดลงไปเลย.. นี่แบคจำไม่ได้หรอว่ายอลชอบละเมอแบบนี้บ่อยๆ น่ะ ?”
“อือออ.. จำได้ดิ”
“สงสัยว่าไอ้เครื่องที่หนีบนิ้วไว้เพื่อจับชีพจรมันจะหลุดน่ะ เครื่องมันก็เลยดังแบบนั้น.. แบคตกใจหรอ ?” ชานยอลเอื้อมมือไปกอบกุมมือของแบคฮยอนไว้หลวมๆ แล้วเกลื่ยเล่นเบาๆอย่างที่เคยทำ..
“ตกใจสิ ! ถามแปลกๆ” แบคฮยอนตะคอกใส่ชานยอล แล้วน้ำตาใสก็เริ่มปริ่มขึ้นอีกครั้ง..
“อ่า..”
“ถ้ายอลเป็นอะไรขึ้นมาล่ะ ? ยอลคิดบ้างมั้ยว่าแบคจะเป็นอย่างไง ?”
“แต่แบคไม่ได้รักยอลแล้วไม่ใช่หรอครับ ?” คำถามที่สวนกลับมาทำเอาแบคฮยอนถึงกับพูดไม่ออก..
“.....”
“ถ้าแบครักยอลจริง.. แบคไม่ทิ้งยอลไปถึง 3 ปีหรอก.. จริงมั้ย ?” น้ำเสียงตัดพ้อเอ่ยขึ้นเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา.. เขารู้ว่าตัวเองผิด แต่ก็อดที่จะน้อยใจแบคฮยอนไม่ได้อยู่ดี..
ทิ้งให้เขารอถึง 3 ปีโดยที่ไม่มีการติดต่อใดๆ เลย ! ใจร้ายจริงๆ..
“ก็ถ้ายอลไม่สำคัญกับแบคแล้ว... แบคคงไม่รีบกลับมาหาหรอกนะ...”
“.......”
“แล้วที่ทิ้งไปถึง 3 ปี.. ก็ใครล่ะที่เป็นคนให้ทุกอย่างต้องเป็นแบบนั้น ?” แบคฮยอนดึงมือจากการกอบกุม..
“ตลอดเวลา 3 ปีที่ทำใจมาตลอด มันทรมานมากยอลรู้มั้ย ?”
“แล้วแบคทำได้หรือเปล่า ? แบค.. .ลืมยอลไปแล้วหรือยัง ?”
“............”
“แบคฮยอน ?” คำถามที่ไร้ซึ่งคำตอบทำเอาชานยอลใจเสีย.. แบคฮยอนเลือกที่จะเบือนหน้าหนีไปอีกทางแล้วเงียบอยู่สักพักใหญ่
“ทั้งๆ ที่ยอลก็ทำร้ายแบคเอาไว้มากแท้ๆ... ยอลรู้มั้ยว่าแบคเสียใจมากแค่ไหนกับการที่ยอลหักหลังกันแบบนั้น ?”
“......”
“อุตสาห์ใช้เวลาไปตั้ง 3 ปีในการลบเลือนภาพและความรู้สึกทุกอย่าง แต่ก็ไม่สำเร็จสักที...” พูดจบศีรษะเล็กก็ก้มลงมองไปที่มือของตนเอง.. ใบหน้าเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ.. แต่เป็นเพราะแบคฮยอนหันหลังอยู่อีกคนจึงมองไม่เห็น
ชานยอลดันตัวเองขึ้นนั่ง แล้วมองเบื้องหลังแบคฮยอนอยู่อย่างนั้น...
“เมื่อก่อนเคยรักยังไง.. ปัจจุบันก็ยังรักมากเท่านั้นแหละชานยอล..” ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อแบคฮยอนพูดจบ แขนยาวเอื้อมไปดึงคนตัวเล็กให้หันหน้ามา แล้วโอบกอดไว้แน่นเสียจนแบคฮยอนแทบจะหายใจไม่ออก
แบคฮยอนนิ่งไปก่อนจะเอื้อมแขนมากอดชานยอลเช่นเดียวกัน..
ศีรษะซุกลงกับแผ่นอกแกร่งที่แสนคิดถึง กลิ่นกายหอมของชานยอลซึ่งแบคฮยอนไม่ได้กลิ่นมานานแล้วทำให้อดไม่ได้จะที่ไม่ให้น้ำตาไหลออกมา
ความเปียกชื้นทะลุผ่านผ้าเนื้อบางของโรงพยาบาลทำให้ชานยอลรับรู้ได้เลยว่าแบคฮยอนกำลังแอบร้องไห้อยู่แน่ๆ จึงเลื่อนมือไปเชยปลายคางของคนตัวเล็กให้เงยขึ้นมามองเขา..
“ร้องไห้ทำไม ?”
“ฮึก.. ชานยอลอา ทำแบคร้องไห้ ฮึก.. คิดถึงจะตายอยู่แล้ว ! เคยรู้มั้ย ฮือ..” แบคฮยอนทำหน้ายู่ใส่อย่างหยอกล้อ แต่น้ำตาก็ยังไหลรินออกมาไม่ยอมหยุด ชานยอลจึงโน้มใบหน้าเข้าไปจูบซับน้ำตาให้แบคฮยอนอย่างอ่อนโยน จนคนตัวเล็กถึงกับนิ่งค้าง.. แล้วปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง
“ช.. ชานยอล ฮือออออ !!”
“ไม่เอา ! ไม่ร้องดิแบค.. เลิกร้องไห้ได้แล้วน่า” มือหนาเอื้อมขึ้นไปยีผมของแบคฮยอนอย่างหมั่นไส้.. คนตัวเล็กพยายามที่จะกลั้นสะอื้นสักพักจนเงียบลง
เมื่อเห็นแบบนั้นชานยอลจึงยิ้มให้แล้วดึงแบคฮยอนเข้ามากอดไว้แนบอกอีกครั้ง
“ยอลรักแบคมากนะครับ.. ที่ผ่านมายอลขอโทษนะ.. ต่อไปนี้จะไม่มีอีกแล้ว”
“เชื่อได้แค่ไหนกัน...”
“เอาชีวิตของยอลเป็นประกันเลยเอ้า !” ชานยอลพูดด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้นเพื่อยืนยันในคำพูดของตน แบคฮยอนจึงหัวเราะคิกคักแล้วซุกหน้าลงกับแผ่นอกกว้างของชานยอล
เหมือนลูกหมาน้อยที่คลอเคลียเจ้าของเพื่อออดอ้อน...
“จริงๆนะ ? ถ้ายอลนอกใจแบคอีกล่ะก็.. คราวนี้ขาดกันจริงๆ เลยนะยอล...”
“อือ.. ยอลจะไม่ทำให้แบคเสียใจอีกแล้ว สัญญานะครับ” ชานยอลส่งนิ้วก้อยของตนมาตรงหน้าแล้วสะกิดให้แบคฮยอนหันไปมอง
แบคฮยอนดันตัวเองออกแล้วมองตรงไปที่หน้าของชานยอลแล้วส่งยิ้มโชว์เขี้ยวให้อย่างน่ารัก.. น่าฟัด !
“ใครโกหกต้องกลืนเข็มพันเล่มน๊า” นิ้วก้อยเล็กๆ ของแบคฮยอนเอื้อมไปเกี้ยวกับชานยอลแล้วเขย่าไปมาเหมือนเด็กน้อย.. ชานยอลมองภาพนั้นแล้วระบายยิ้มออกมาด้วยความสุขที่ไม่ได้มีมานานแล้ว..
ความสุขซึ่งเกิดจากความรักที่ล้นหัวใจ...
“แล้วถ้าไม่โกหกล่ะ ? กินแบคเป็นรางวัลได้ป่ะครับ ?”
“ช.. ชานยอล !”
ชานยอลยื่นหน้าไปหอมแก้มแบคฮยอนแรงๆ หนึ่งที แล้วเนียนคลานไปนอนลงที่เดิม.. แบคฮยอนที่เห็นแบบนั้นจึงเตรียมจะลุกขึ้นไปนอนที่โซฟาเพื่อให้อีกคนได้พักผ่อน แต่ก็โดนชานยอลดึงตัวไว้แล้วโน้มให้เขานอนลงข้างๆ แทน
“เฮ้อ.. ถ้าไม่ติดว่าเป็นแผลอยู่นะแบค...” ชานยอลทำหน้ายู่แล้วหันไปนอนกอดคนข้างๆ ไว้แนบอก
“ถึงแผลจะหายแล้วก็ไม่ได้กินหรอก !”
“หืมม... แน่ใจหรอ ?” ชานยอลก้มหน้าลงมองคนในอ้อมกอดของเขา แล้วส่งสายตากรุ่มกริ่มไปให้จนอีกคนถึงกับเขินหน้าแดง แล้วทุบมือลงบนอกแกร่งของชานยอล
“น.. แน่ใจสิ”
“ถามอีกรอบ.. แน่ใจนะ ?” เหมือนจะแกล้งคนตัวเล็ก... ชานยอลรั้งร่างของแบคฮยอนให้เข้ามาใกล้ขึ้น จนใบหน้าของทั้งสองอยู่ในระดับเดียวกัน.. แล้วใกล้กันจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ จากอีกคน..
ใบหน้าของชานยอลเริ่มเข้าไปใกล้กับแบคฮยอนมากขึ้น.. แล้วเหมือนร่างกายจะไม่เป็นใจไปกับคำที่พูดไปเมื่อสักครู่นี้เลยสักนิด.. แบคฮยอนเผลอหลับตาลงเพื่อรอรับสัมผัสที่จะได้รับจากคนที่โอบกอดไว้..
“ขนาดไม่ยอมนะเนี่ย คิกคิก..” ชานยอลหยุดการกระทำทุกอย่างแล้วหัวเราะคิกออกมาเมื่อแกล้งคนตัวเล็กได้สำเร็จ.. แบคฮยอนลืมตาขึ้นแล้วหน้าขึ้นสีด้วยความอายและความโมโหที่โดนแกล้งแบบนี้
ได้.. แกล้งกันนักใช่มั้ยชานยอล !
สองมือเล็กยกขึ้นจับหน้าของชานยอลไว้มั่น แล้วออกแรงดึงให้เข้ามาใกล้มากกว่าเดิมแล้วกดปากลงบนริมฝีกปากของชานยอลทันที
ริมฝีปากที่เผยอขึ้นของชานยอลเหมือนเป็นการเปิดโอกาสให้ลิ้นเรียวเล็กได้เข้าไปสำรวจภายใน..
เหมือนชานยอลยังอึ้งอยู่จึงไม่มีการตอบรับสัมผัสในตอนแรก แต่พอเริ่มถูกรุกพื้นที่ส่วนตัวจึงได้สติแล้วเปลี่ยนเป็นฝ่ายที่สอดลิ้นของตนเข้าไปเก็บเกี่ยวความหวานในปากของแบคฮยอนแทน
“อือ..” เสียงครางแผ่วในลำคอดังขึ้นเมื่อริมฝีปากบางของแบคฮยอนถูกดูดดึงแล้วไล้เลียเบาๆ อย่างเอาใจ ดวงตาเรียวหลับพริ้มลงอย่างเคลิ้มกับสัมผัสที่ได้รับ...
ฝ่ายชานยอลเมื่อได้ยินเสียงครางแบบนั้น เหมือนเป็นการปลุกเร้าให้อารมณ์ส่วนลึกของเขาเริ่มโหมหนักขึ้น.. มือหนาเลื่อนมารั้งเอวของแบคฮยอนให้ขยับเข้าไปใกล้มากขึ้น แล้วสอดมือเข้าไปใต้เสื้อยืดตัวบาง..
ริมฝีปากผละออกจากกันแล้วเลื่อนใบหน้าลงมาซุกที่ซอกคอขาวของแบคฮยอน... นึกอยากจะเม้มแรงๆ ให้ขึ้นรอยแต่ก็กลัวว่าจะโดนมองไม่ดีจึงเลือกที่จะไม่ทำเสียดีกว่า.. เดี๋ยวค่อยทำไว้ในที่ที่ลับตาคน...
แต่เหมือนนั่นจะเป็นได้เพียงแค่ความคิด เมื่ออยู่ๆ แบคฮยอนก็จับมือของชานยอลไว้เพื่อหยุดการกระทำทุกอย่าง แล้วส่งยิ้มให้อย่างมีเลศนัยเมื่อชานยอลเงยหน้าขึ้นมามอง
“ชานยอลอา.. แบคง่วงแล้ว ขอนอนก่อนได้มั้ย ?” แม้จะพูดแบบนั้น แต่ดวงตากลับหวานเยิ้ม.. ยั่วยวนให้คนตรงหน้านึกอยากจะกินขึ้นมาเสียจริงๆ !
“ไม่เอาดิแบค มาง่วงอะไรตอนนี้ ?”
“แบคเดินทางมาตั้งไกลนะชานยอล.. ง่วงนอนจะแย่แล้วเนี่ย” แล้วมือเล็กก็ออกแรงดันแผ่นอกแกร่งของชานยอลเบาๆ ก่อนที่จะนอนหันหลังให้อีกคน..
“แบคฮยอนอา...” เสียงเรียกของชานยอลแผ่วลง เมื่อความรู้สึกตอนนี้มันกำลังขึ้นจนเกือบจะถึงที่สุด แต่อยู่ๆ ก็ต้องมาหยุดแบบนี้....
มันทำไม่ได้ !!
“นอนแล้ว !”
“อย่าแกล้งแบบนี้ดิ !”
“ไม่ได้แกล้ง.. จะนอนแล้วจริงๆ”
แบคฮยอนหลับตาลงแล้วนึกขำเมื่อจินตนาการถึงใบหน้าของชานยอลตอนนี้.. ทรมานสินะ ไอ้หูกาง !
ชานยอลนิ่ง.. แล้วหลับตาลงนับ 1 – 3 ในใจเพื่อระงับความรู้สึกต่างๆมากมายที่ตีกันเต็มไปหมด.. ใช้เวลาเพียงสักพักก็ทำได้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะหมั่นไส้คนขี้แกล้งข้างๆ กายนี้
แต่ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ จึงเลือกที่จะยอมเป็นฝ่ายสงบศึก แล้วเปลี่ยนเป็นรั้งคนที่นอนหันหลังอยู่เข้ามากอดไว้แทน..
“แบคฮยอนครับ...”
“หืมมม ?” เสียงครางตอบรับในลำคออย่างแผ่วเบา เมื่อความง่วงเริ่มครอบคลุมเสียจริงๆ..
“ฝันดีนะ..”
“อื้ม..”
“รักมากนะ”
“รักมากเหมือนกัน” แบคฮยอนตอบรับ.. แล้วทั้งห้องก็อยู่ในความเงียบสงบทันที
พอมั่นใจว่าแบคฮยอนหลับไปแล้ว ชานยอลจึงยกศีรษะของตัวเองขึ้นมามองใบหน้าของคนที่กอดอยู่ แล้วก้มลงหอมแก้มของแบคฮยอน ก่อนจะเลื่อนไปกระซิบเบาๆที่หูของคนที่อยู่ในห้วงนิทรา
“แต่งงานกันนะครับ... คนดี”
หากคำพูดที่เอ่ยออกไปทำให้คนที่หลับใหลไปแล้วได้ยินก็คงจะเป็นเรื่องดีไม่น้อย..
แบคฮยอนยกยิ้มขึ้นเมื่อกำลังฝันดีอย่างถึงที่สุด.. คำพูดของชานยอลเมื่อครู่ช่างตรงกับในความฝันของแบคฮยอนด้วยความบังเอิญเสียจริงๆ
เสียงครางละเมอเบาๆ ตอบออกมาทำเอาชานยอลสะดุ้งด้วยความตกใจ แล้วหลุดขำออกมาเมื่อพบว่าคนตัวเล็กนี่แค่ละเมอออกมาเท่านั้น...
“อือ.. แต่งก็ได้”
ว่าแต่ฝันอะไรอยู่กันนะหมาน้อยของผม ♥
To be continued….
ครบ 100% แล้วค๊าบบบบบบ !! แล้วก็มีข่าวดีจะบอกคือ เหลืออีก 2 ตอนจะจบแล้ว ! ดีใจมั้ย ??
คือตอนนี้ไม่ดราม่าแล้วนะ มาตามคำขอละ ชอบล่ะสิโมเม้นแบบนี้ อิอิ ^^
ยังไงก็ฝากให้กำลังใจไรต์หน่อยนะค้าบบบบ รักเสมอ <3
รบกวนติดแท๊ก #ฟิคPandora ด้วยเน้อ ><”
สำหรับคนที่จองหนังสือไว้ ไรต์จะส่งข้อมูลไปในเมลล์ให้นะคะ ^^
ความคิดเห็น