คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : Pandora 12
Chapter 12
ก๊อก ก๊อก
“ชานยอล หมอขออนุญาตเข้าไปนะครับ..”
“อุ๊ย !” เสียงพยาบาล
“เอ่ออ... -///-“
คุณหมออี้ชิงคนสวยถึงกับชะงักค้างไปทันทีกับภาพตรงหน้า..
ภาพของคนสองคนที่นอนกอดกันกลมอยู่บนเตียง คนตัวเล็กกว่าที่ใช้ใบหน้าซุกไปกับแผงอกกว้างของคนตัวสูง แขนที่วางพาดไว้บนตัวของอีกฝ่ายเพื่อรั้งไว้ไม่ให้ไปไหน ขาที่ก่ายอีกคนไว้ราวกับหมอนข้าง ซึ่งสภาพก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไรนักกับคนตัวสูงกว่าเลย...
แหม่... น่ารักกันเสียจริง คุณหมอล่ะอิจฉา T^T
“แฮ่ม ๆ !”
“คุณหมอไม่สบายหรอคะ ?”
“เปล่าครับ ผมจะปลุกเขาสองคน” =____=
“งื้ออออออ”
คนตัวเล็กที่นอนอยู่เริ่มขยับตัวเหมือนจะรำคาญ.. แต่ก็เพียงขยับไม่กี่ครั้งเท่านั้น ก็ซุกหน้ากลับไปแล้วนอนต่อทันที ต่างกับชานยอลที่เหมือนจะรู้สึกตัวแล้ว กระพริบตาปริบๆให้คุณหมอคนสวย แล้วใบหน้าก็ขึ้นสีแดงจัดอย่างน่ารัก
“เอ่อ.. คุณหมอครับ คือ...”
“หมอไม่ว่าอะไรหรอกครับ เอ่ออ... หมอแค่จะบอกว่าเดี๋ยวสาย ๆหมอจะให้คุณชานยอลไปตรวจร่างกายอีกทีน่ะครับ”
“อ่อ.. ครับ”
“อาหารเช้ากับยา เดี๋ยวหมอให้พยาบาลมาส่งให้นะครับ”
“ครับ”
แล้วคุณหมอคนสวยกับพยาบาลก็เดินออกจากห้องไปแทบจะทันที ก่อนจะหัวเราะคิกคักกับพยาบาลข้างกายที่กำลังยิ้มให้กับความน่ารักของทั้งสองคนเช่นเดียวกัน
เมื่อคุณหมอออกไปแล้ว ก็เหลือแค่ชานยอลกับหมาน้อยของเขาเพียงแค่สองคน เขาก้มลงไปจุมพิตหน้าผากเนียนของคนตัวเล็กอย่างอ่อนโยน
“แบคฮยอนอ่า.. วันนี้กูต้องไปตรวจร่างกายนะ”
“อืออ..”
“ตื่นได้แล้วน่า หรือว่ารอมอนิ่งคิสครับ หมาน้อย ^^” ไม่รอคำตอบจากคนตัวเล็กให้เสียเวลา ชานยอลค่อยๆ ก้มใบหน้าลงไปกดริมฝีปากลงกับปลายจมูกรั้นของแบคฮยอนเบาๆ ก่อน
“ชานยอลอ่า... มอนิ่งคิสหน่อยสิ น๊าๆ” พูดพลางลืมตาขึ้นมามองชานยอลตาแป๋ว
ฮึ่ยยย ! เมียกูทำไมน่ารักแบบนี้ครับ !
ไม่รอให้ต้องพูดซ้ำสอง ริมฝีปากของชานยอลก็เข้าครอบครองริมฝีปากของคนตัวเล็กทันที
แบคฮยอนที่เผยอปากไว้อยู่แล้ว ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ร่างสูงได้ส่งลิ้นร้อนเข้ามาสำรวจแล้วเก็บเกี่ยวความหวานในตอนเช้าออกไปจนหมด
“อืออ...”
คนตัวเล็กดันชานยอลออกไปตอนที่ลมหายใจจะหมด ร่างสูงเลยเปลี่ยนมาหอมแก้มของแบคฮยอนแทน แล้วรั้งมากอดไว้แน่นมากขึ้น
“ชานยอลอ่า.. ไปอาบน้ำสิ จะไปตรวจร่างกายไม่ใช่หรอ”
“ไม่อยากตรวจแล้วอ่ะ อยากอยู่กับมึงก่อน”
“มึงก็ดื้อ -_____-“
Rrrrrrr
ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะเถียงกัน โทรศัพท์ของชานยอลก็ดังขึ้นมาขัดเสียก่อน แบคฮยอนหวังดี เลยจัดการใช้เท้าเขี่ย ? ร่างของชานยอลออกไปไกลๆ ตัวเอง ก่อนจะนอนหันหลังให้ชานยอล
“แบคฮยอน....”
“หืมม”
“นาอึนโทรมา”
“มึงเอาโทรศัพท์มานี่ - -“
แบคฮยอนหันขวับกลับมาแทบจะทันที ก่อนจะดึงโทรศัพท์ของชานยอลไปไว้ในมือแล้วกดรับ
“ยอโบเซโย”
[ พ.. พี่ชานยอล คือว่าฉัน.... ]
“คือว่าฉันไม่ใช่ชานยอล แต่เป็นแบคฮยอน - -“
น้ำเสียงและสายตาแสดงออกได้อย่างชัดเจนว่าสามารถจะฆ่าคนปลายสายได้อยู่แล้วถ้าอยู่ต่อหน้าในตอนนี้
เมียปาร์คชานยอลคนนี้ โหดจริงนะครับ !
[ พี่แบคฮยอน ! พี่ชานยอลไปไหน ทำไมพี่ถึงมารับโทรศัพท์พี่ชานยอล ?แล้วพี่ชานยอลเป็นอะไรมากหรือเปล่า ? ]
“ยังไม่ตายหรอก ! เมียดูแลดี แค่นี้นะนาอึน รบกวนเวลาผัวเมียจริงๆเลย บายยยยย”
ห๊ะ เวลาผัวเมีย =[]=
“อ่ะ คืน ^^”
แบคฮยอนยื่นโทรศัพท์คืนให้กับชานยอลที่มีสีหน้าอึ้งรับประทานไปเรียบร้อยแล้ว... ก็ใครจะไปรู้ว่าแบคฮยอนจะกล้าออกตัวแรงขนาดนี้ ! แล้วดูสิ สีหน้าที่สะใจนั่นอะไร ใครทำให้แบคฮยอนกลายเป็นแบบนี้ ! แสบสะจริง ><”
“แล้วก็ไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวต้องไปตรวจร่างกาย ตอนสายๆ เดี๋ยวเพื่อนมาเยี่ยมอีก ! มึงจะไปดีๆ หรือต้องรอน้องนาอึน.. อื้อ !”
ด้วยความหมั่นไส้ในความแสบของคนตัวเล็ก ชานยอลเลยกดจูบปิดปากไปเสียหนึ่งที ก่อนจะวิ่งเตลิดเข้าห้องน้ำไปเพราะกลัวว่าศรีภรรยาจะบ่นยืดยาวให้หูชาอีก
“ไอ้ชานยอลลลลลลลลล !!!!!”
หน้าของแบคฮยอนตอนนี้คงจะแดงเป็นมะเขือเทศสุกไปแล้วแน่ๆ T^T
15.09%
‘Baekhyun’
และแล้วตอนนี้ผมก็โดนทิ้งให้อยู่ห้องคนเดียวครับ มือก็จิ้มโทรศัพท์คุยกับเพื่อนๆที่จะพากันมาเยี่ยมชานยอล อ่อออ... ส่วนชานยอลน่ะ โดนลากไปขึ้นเขียงเมื่อสักพักใหญ่แล้วล่ะ
ดีเหมือนกัน พักเวลาเปลืองเนื้อเปลืองตัวบ้าง =____=
ก็ดูไอ้ชานยอลสิฮะ เอะอะก็ล่วงละเมิดทางเพศผมตลอด T^T ทั้งกอด จูบ ลูบ คลำ ( ห๊า ? ) ผมล่ะเพลียกับมันจริง ๆนะ แต่... ก็รู้สึกดีอ่ะ ยอมรับ -..-
“เห้ยเดี๋ยว !” อยู่ๆ ก็มีเสียงที่แสนคุ้นเคยขัดความคิดของผม
“เคาะประตูก่อนสิเซฮุน มันอาจจะดุ๊กดิ๊กกันอยู่นะ” ดุ๊กดิ๊ก ? =__=
“ดุ๊กดิ๊กอะไรเล่าลู่หาน มึงก็ >///<”
“ทำเป็นใสซื่อนะไอ้เหลือก ทำยังกับไม่เคย”
“จงอิน มึงเงียบปากไปเลยนะ - -“
ไอ้เสียงนกกระจอกแตกรังหน้าห้องนี่มันอะไรครับ แล้วไอ้ดุ๊กดิ๊กที่ว่า คือพวกมึงคิดอกุศลอะไรกันอยู่ =[]=
คิดได้แบบนั้น ผมก็ย้ายตัวเองลงจากเตียงคนไข้แล้วก็ก้าวขายาวๆ ? ไปที่ประตูด้วยความไวว่อง ก่อนจะเปิดออกแล้วพบกับอีพวกนกกระจอก
“เสียงดังอะไรกันหน้าห้อง มึงคุยอะไรกัน - -“ เนี่ยย ! พี่แบคฮยอนโหมดฮาร์ดคอ
น่ากลัวใช่ปะล่า ><”
ผั่วะ !
ไอ้บ้าชานมมันตบหัวผมอ่ะ T^T
“ทำเป็นตีหน้าเข้ม ! ผัวมึงไปไหนล่ะ ?” พูดจบมันก็ยกโขยงเข้ามาในห้อง แล้วจับจองที่นั่งกันเป็นที่เรียบร้อย โดยมีเซฮุนกับลู่หานไปนั่งบนเตียง จงอินกับคยองซูไปนั่งบนโซฟา แล้วจื่อเทากับซูโฮก็เดินไปยืนที่ระเบียง.... เพื่อ ?
“ชานยอลไป....”
“ฮั่นน่า ! ยอมรับแล้วดิ ว่าชานยอลคือผัวมึง คิกคิก”
“ก็เออน่ะสิ ! ชานยอลก็ผัวกูไง มึงพึ่งรู้หรอลู่หาน -___-“
“=[]=”
“ไอ้แบค! มึงทำเสี่ยวลู่กูช๊อค =____=” แหม่... แค่เปิดเผยแค่นี้ทำเป็นอึ้ง คนมันเก็บมาตั้งนานแล้ว ขอแสดงตัวหน่อยละกัน คิกคิก
“เออ... ชานยอลมันไปตรวจร่างกายนิดหน่อยน่ะ หมอบอกว่าต้องเชคอีกทีเพื่อความแน่ใจ”
“แบคฮยอน.. ฉันขอโทษแทนน้องสาวด้วยนะ”
อยู่ๆ ซูโฮก็เดินเข้ามาในห้อง มาจับมือผมไว้แน่นแล้วก้มหน้าลงกับพื้นเหมือนจะยอมรับความผิดทั้งหมดที่น้องสาวของเจ้าตัวได้ทำไว้ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของซูโฮ ผมไม่รับคำขอโทษเขาหรอก
“นายไม่ต้องขอโทษฉันหรอกซูโฮ นายไม่ใช่คนผิดนะ คนที่ผิดคือนาอึนต่างหาก”
“แต่...”
“ถ้าน้องนายไม่มายุ่งกับชานยอลอีก ฉันจะคิดสะว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น” แต่ในใจกูเจ็บแค้นมาก !
“ขะ.. ขอบคุณมากนะแบคฮยอน แต่เมื่อคืนฉันคุยกันเรียบร้อยแล้วล่ะว่าไม่ให้มายุ่งกับพวกนายอีก”
“แต่เมื่อเช้าน้องนายโทรหาชานยอลตั้งแต่เช้าเลยล่ะซูโฮ”
“เอ่ออ....”
“เอาน่าแบคฮยอน นาอึนอาจจะอยากขอโทษชานยอล”
อาเทาเดินเข้ามาดึงซูโฮไปไว้ในอ้อมแขนเมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่สู้ดีนักของซูโฮ.. คือผมเข้าใจความรู้สึกนะ
แบบอบรมแล้วแต่น้องไม่เชื่อฟังเนี่ย แบบนี้ต้องใช้กำลังสั่งสอนนะ !
“อือ.. จะพยายามคิดอย่างนั้นละกันนะเทา”
“เห้ย ! เปลี่ยนเรื่องคุยกันดีกว่ามาๆ”
แล้วบรรยากาศภายในห้องที่ตอนแรกดูจะมาคุก็เปลี่ยนไปเพราะไอ้จงอิน ที่อยู่ๆก็ตะโกนขึ้นมาแล้วเปลี่ยนเรื่องคุยไปอย่างหน้าด้านๆ จนตอนนี้ทั้งห้องมีแต่เสียงหัวเราะดังกระหึ่มอย่างไม่เกรงใจใคร
คือลืมไปสินะว่าอยู่โรงพยาบาล =_____=
ก๊อก ก๊อก !
30%
เสียงเคาะประตูดังขึ้นเหมือนเป็นสัญญาณให้พวกผมทุกคนภายในห้องหุบปากลงพร้อมกัน น่ะ.. นี่เขามาด่าพวกผมกันหรือเปล่า เสียงดังอย่างกับป่าช้าแตกขนาดนี้ T^T
แต่ไม่ทันที่ผมจะได้เวิ่นเว่ออะไรไปมากกว่านี้ ประตูห้องพยาบาลก็ถูกเปิดออก แล้วมีหญิงสาวรูปร่างดีเดินเข้ามาในห้องแทน ซึ่งแขกที่มานั่น สร้างความหงุดหงิดให้กับผมได้ไม่น้อย !
“เอ่อ... อันยองค่ะ”
“นาอึน ! มานี่ทำไม พี่บอกแล้วไม่ใช่หรอว่าอย่ายุ่งกับชานยอลอีก !”
ซูโฮรีบดันตัวเองออกจากเทา แล้วเดินเข้ามาคว้าข้อมือของน้องสาวตัวเองไว้ พร้อมกับสีหน้าที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน
“โอ๊ย ! พี่จุนมยอน ฉันก็ไม่ได้มาหาพี่ชานยอลสะหน่อย !”
“แล้วเธอมาหาใคร ?”
“ฉันมาหาพี่แบคฮยอน”
“......”
“ฉันมีบางอย่างที่ต้องบอกพี่แบคฮยอนให้ได้”
“อะไร?”
“พี่แบคฮยอนคะ ฉันอยากคุยกับพี่ ‘สองคน’”
“มีอะไรอีกนาอึน...”
“พี่แบคฮยอน”
ตอนนี้ผมอยู่กับนาอึนสองคนบนดาดฟ้าของโรงพยาบาล ลมที่พัดแรงๆ ตีหน้าผมจนแสบยิบไปหมด เฮ้อ... ใกล้จะเข้าหน้าหนาวแล้วสินะ...
“พี่แบคฮยอน คือว่าฉันอยากขอโทษพี่...”
“อ่ะ.. อือ”
อยู่ๆ นาอึนที่ยืนอยู่ข้างหน้าผมก็หันหน้ามา ซึ่งไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมอยู่ๆ หัวใจผมมันก็กระตุกวูบ ความรู้สึกแปลกๆ กับคนตรงหน้าหรอ ?
ไม่หรอก เพราะผมเป็นผู้ชาย ไอ้เรื่องที่เห็นผู้หญิงสวยๆ หรือน่ารักแล้วรู้สึกแบบนี้ก็คงเป็นเรื่องปกติ
นาอึนเองก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไร จัดว่าสวยเสียด้วยซ้ำ (ถ้าไม่ติดว่านิสัยแย่ และผมไม่ชอบเธอนะ ) เพราะลมที่พัดแรงๆ นั่นทำให้ผมยาวสีน้ำตาลที่เป็นลอนอ่อนๆ ปลิวไสวไปตามแรงลม กระโปรงผ้าบางๆ สีฟ้าที่สั้นประมาณเข่ามันก็เปิดขึ้นมาเล็กน้อยจนเห็นเรียวขาขาวสวยนั่น...
“พี่แบคฮยอน....”
เฮือก !
จู่ๆ คนตรงหน้าผมก็เดินเข้ามาใกล้มากขึ้น ก่อนจะวาดเรียวแขนที่โผล่พ้นจากเสื้อแขนกุดสีขาวมาโอบรอบคอผมไว้...
ใบหน้าของนาอึนขึ้นสีอมชมพูตามธรรมชาติ โดยที่ไม่ได้มีเครื่องสำอางแต่งเติ่ม ริมฝีปากสีชมพูหวานถูกเม้มเข้าหากันอย่างยั่วยวนจนผมเองก็แอบหวั่นไหว...
ใบหน้าของเราสองคนขยับเข้าหากันเหมือนมีแรงดึงดูดอะไรสักอย่างที่มองไม่เห็น
เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องปกติของผู้ชายนะครับ ถ้ามีผู้หญิงสวยๆมาทำแบบนี้ แล้วผมเองก็ยังเป็นผู้ชายอยู่นะ
ผมเองก็เป็นผู้ชาย....
เป็นผู้ชายที่เป็นเมียปาร์คชานยอล !
ผลั่ก !
เมื่อจิตใต้สำนึกผมมันประมวลค่าออกมาแล้ว ผมเลยผลักนาอึนออก จนเธอเซถอยหลังไปสองสามก้าว
“ธ.. เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ นาอึน !”
“พี่แบคฮยอน...”
“หายบ้าเมื่อไรค่อยลงไปหาพี่เธอที่ห้องละกัน แล้วคนที่เธอต้องขอโทษคือชานยอลไม่ใช่ฉัน”
ผมเดินลงมาจากดาดฟ้าพร้อมกับคำถามที่ตั้งให้ตัวเองอยู่เต็มอก
ผมเป็นอะไร ? แล้วสิ่งที่ผมกำลังคิดอยู่มันจะทำให้ผมกับชานยอลต้องเปลี่ยนไปหรือเปล่า ?
“อ๊ะ ! แบคฮยอน !” จู่ๆ ก็มีเสียงที่คุ้นเคยเรียกผมจากทางด้านหลัง พอผมหันไปก็พบกับพี่คริส...
“อ้าวพี่คริส มาทำอะไรครับ ?”
“อ่อ.. พี่มา เอ่อ... ว่าแต่เราจะไปไหนน่ะ ?”
“ผมกำลังกลับไปหาชานยอลฮะ พี่คริสไปด้วยกันหรือเปล่า ?
“เอาสิๆ พี่กำลังเซ็งเลย”
ระหว่างทางเดินกลับไปที่ห้อง ผมก็เล่าเรื่องคร่าวๆ ให้พี่คริสฟังไปตลอด จนถึงห้องของชานยอล
พอผมเปิดประตูเข้าไปก็ไม่เจอใครนอกจากชานยอลกับคุณหมอที่เดินเข้ามาตรวจ ไอ้หูกางนั่นหันมายิ้มให้ผมหน้าบานประหนึ่งว่าไม่ได้พบเจอกันมาเป็นชาติ =____=
“ชานยอล.. เพื่อนไปไหนหมดแล้ว ?”
“กลับไปหมดแล้ว มึงไปไหนมาอ่ะ ? อ้าว... เฮียคริส อันยองฮะ”
กึก !
เอ๊ะ ผมตาฟาดหรือเปล่า เหมือนเห็นหมอที่กำลังยืนตรวจอาการของชานยอลจะสะดุ้งเล็กน้อยนะ
“เอ่อ.. วันนี้ชานยอลกลับบ้านได้แล้วนะฮะ เพราะไม่ได้เป็นอะไรมาก มีแค่ตามตัวที่เป็นรอยช้ำนิดเดียว เดี๋ยวก็หาย.. หมอขอตัวนะ ^^”
“อี้ชิง !”
“อี้ฟาน... คุณมาทำไมเนี่ย !”
อ้าว ! นี่เขารู้จักกันหรอ แถมชื่อที่เรียก....
“ผมก็มาเยี่ยมน้องผมนั่นแหละ อี้ชิงอ่ะ ผมบอกให้รอแปปเดียวแล้วคุณก็หนีผมมาแบบนี้เนี่ยนะ !”
“ฟาน... ผมกำลังอยู่ในหน้าที่” คุณหมอคนสวยเริ่มทำเสียงเข้มขึ้น สีหน้าเริ่มดูจริงจัง เหมือนจะปรามพี่คริสว่ากำลังทำตัวไม่เหมาะสม
“เอ่อ.. ไม่เป็นไรครับ คุณหมอผม...”
“ไม่ได้หรอกครับชานยอล... แล้วฟานมาเจอผมได้ยังไง ? อย่าบอกนะคุณติด GPS ไว้กับตัวผม =[]=”
“ผมก็มากับแบคฮยอนน่ะสิ ไม่คิดว่าคุณจะหนีผมมาตรวจคนไข้แบบนี้”
“แบคฮยอน ? อ๋อออ ! คนที่ชานยอลบ่นให้หมอฟังบ่อย ๆว่าทำให้ชานยอลต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อย ๆสินะ ฮ่าๆ ตัวเล็กน่ารักจัง ^^”
น่ารัก -////-
พี่อี้ชิง ( ถูกชะตาก็เป็นกันเองทันที ) เดินเข้ามาหาผมแล้วจับหมุนไปหมุนมา ห่รี่สายตามองเล็กน้อย ก่อนจะดึงไปกอดเสียเต็มรัก
“=[]=” สีหน้าของผู้ที่ถูกลืมทั้งสอง
“น่ารักจังเลย รู้สึกถูกชะตาอ่ะ >///< มาเป็นน้องพี่เถอะนะแบคฮยอนอ่า”
“=[]=” อึ้งไม่ต่างกัน
“นี่ๆ อย่าเงียบสิ พี่รู้สึกถูกชะตากับแบคฮยอนจริงๆ นะ... นี่! ฟานปล่อยผมนะ !”
“อี้ชิงอ่า ! ทีกับผมไม่เห็นคุณจะกอดแบบนี้มั่งเลย ผมหึงนะ”
พี่คริสเดินมาดึงตัวพี่อี้ชิงออกไปจากผม แล้วทำหน้าบู้เหมือนเด็กๆ อยากได้ขนมใส่อีก... เหมือนจะน่ารักนะฮะพี่คริส =__=
“ก็ดูฟานสิ ! ตัวใหญ่ยั่งกับยักษ์ ไม่เห็นจะน่ารักน่ากอดตรงไหนเลย =3=”
“แบคฮยอนอ่า... มาหากูหน่อยสิ เจ็บแผลจัง”
แล้วเสียงเรียกร้องจากอีกบุคคลนึงในห้องก็ดังแทรกขึ้นมา... ผมนึกอะไรดีๆ ออกแล้วล่ะ หึหึ
“พี่อี้ชิงฮะ แบคฮยอนขอกอดพี่อี้ชิงบ้างสิฮะ”
“อ๊ะ ! ฟานปล่อยนะ ได้ยินมั้ยว่าแบคฮยอนจะกอดผม !”
แล้วพี่อี้ชิงก็ผลักพี่คริสออกแล้วเดินมากอดผมแทน
ผมแอบยื่นคอไปมองพี่คริสที่ยืนหน้าเหวออยู่หลังพี่อี้ชิง แล้วแลบลิ้นให้ ก่อนจะเอียงคอไปมองชานยอลแล้วก็แลบลิ้นใส่ให้เหมือนกัน ฮ่าๆ แอบสะใจ
“บยอนแบคฮยอน ! กูเจ็บแผล !!”
“จางอี้ชิง ! ผมจะกลับแล้วนะ !!”
“โอ๋ๆ ชานยอลอ่า ไม่โกรธกูน๊า”
“.......”
หลังจากที่ผมแกล้งพี่คริสกับชานยอลไปพักใหญ่ สุดท้ายทั้งผมและพี่อี้ชิงก็โดนงอนกันทั้งคู่
ตอนนี้พี่อี้ชิงกับพี่คริสออกไปแล้วล่ะฮะ เพราะว่าพี่เขาอาสาจะไปเครียค่าใช้จ่ายเรื่องการรักษาให้ ส่วนผมก็ต้องมานั่งง้อไอ้หูกางนี่ ที่กำลังเก็บของใช้เล็กๆ น้อยๆ ในห้อง
“ชานยอล ! อย่างอนสิ”
“......”
“ชยอลอ่า...”
“!!”
ผมแกล้งเรียกชานยอลเหมือนตอนเด็กๆ ซึ่งในตอนเด็กน่ะ ถ้าชานยอลงอนผม ผมก็จะเรียกชยอล ชยอล แบบนี้ แล้วก็ได้ผลนะ ชานยอลหายงอนผมทุกครั้งเลย ยิ่งถ้าลองทำแก้มป่องๆ หน้ายู่ๆใส่หน่อยล่ะก็ พี่แกจะเขินบิดเป็นเกลียวเลยล่ะ ไม่รู้เพราะอะไร =____=
“ชยอล.. อย่างอนแบคสิ นะฮะ”
“......”
“ชยอลอ่า ชยอล”
“แบคฮยอน ! คืนนี้ได้เรียกกูทั้งคืนแน่ ไม่ต้องห่วง !”
=[]=
“มึงงอนกูต่อก็ได้ ไม่เป็นไร”
“หึๆ กลัวหรอหมาน้อยแบคฮยอน ^^”
ไอ้หูกางเดินเข้ามาใกล้พลางใช้มือมาลูบศีรษะผมไปด้วย... ทำแบบนี้ผมใจสั่นนะบอกตรง ๆ =__=
“ม่ะ.. ไม่กลัวหรอก ! มึงอ่ะอ่อน !!”
คงเป็นเพราะความปากไวของแบคฮยอน และความโชคดีของชานยอลล่ะมั้ง ภายในห้องพักที่หอถึงได้มีบรรยากาศคนละโลกแบบตอนนี้
ปาร์คชานยอล ที่กำลังอารมณ์ดีถึงขีดสุดกำลังนอนฮัมเพลงเบาๆ อยู่บนเตียง ใบหน้านี่ยิ้มแย้ม ดูมีความสุขมากกก ต่างกับแบคฮยอน ที่มีใบหน้าราวกับจะฆ่าคนตายได้อยู่แล้ว
“แบคฮยอนอ่า.. ไปอาบน้ำสิครับ ^^”
“กูไม่ไป ! กูจะนอนเน่าๆ แบบนี้เนี่ยแหละ !”
“ไม่เอาอ่ะ เหม็น”
“เออ !งั้นก็ไม่ต้องเอา !”
คนตัวสูงถึงกับหลุดขำออกมาพอรู้เหตุผลว่าทำไมเจ้าตัวเล็กนี่ถึงไม่ไปอาบน้ำ
กลัวก็บอกมาเถอะ !
ชานยอลดันตัวเองลุกขึ้นเบาๆ แล้วค่อยๆคลานเข้าไปทางด้านหลังของแบคฮยอน ที่กำลังนั่งอึมครึมอยู่ตรงปลายเตียง ก่อนจะสอดมือไปกอดเจ้าตัวเล็กของเขาไว้
“แบคฮยอนอ่า... มึงไม่เหม็นหรอกนะ กลิ่นมึงน่ากินจะตาย ฟอดดด”
ชานยอลใช้จังหวะที่แบคฮยอนเผลอนั้น รีบลักหอมคนในอ้อมกอดทันที แบคฮยอนที่ตกใจก็ถึงกับหันมาผลักชานยอลออก
จากตอนแรกที่แบคฮยอนจะแกล้งอะไรชานยอลสักอย่าง แต่อยู่ดีๆก็ชะงักไป สีหน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดขึ้นมา จนอีกคนตามอารมณ์ไม่ทัน
“ชานยอล.. กูเครียดอ่ะ” ยิ่งนึกถึงเหตุการณ์ตอนที่อยู่กับนาอึนยิ่งทำให้เจ้าตัวเครียดมากยิ่งขึ้น
“เครียดอะไรครับหมาน้อย”
“กู.....”
“......”
“กูอยากรู้ความรู้สึกของคนที่คอยคุมเกม”
“......”
“กูอยากรู้ว่าเวลาเป็นฝ่าย ‘ทำ’ มันรู้สึกยังไง”
=[]=
"ให้กูได้มั้ย ชานยอล ?"
To be continued
พูดคุยกับไรท์
อัพครบ 100% แล้วนะค๊าบบบบ สำหรับตอนนี้ไม่มีอะไรมาก แบคฮยอนแค่อยากลองเป็นเมะน่ะพูดง่ายๆ 555 ไอ้ความรู้สึกแปลกๆ กับนาอึน ก็ความรู้สึกว่าอยากรู้เวลาเป็นผู้กระทำนั่นแหละ ไม่มีอะไรมาก อย่า งง นะ T^T ส่วนเรื่องรวมเล่มนี่ยังไงดี ไรท์ยังตัดสินใจไม่ได้เลยอ่า...
*จำคำพูดที่นาอึนพูดตอนชานยอลโดนกระทืบไม่ได้หรอคะ ? กลัวรีดดราม่าอ่ะ เฉลยนิดนึง คิคิ
Shalunla
ความคิดเห็น