คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [INTRO] :: The End Of The Study
[INTRO] :: The End Of The Study
‘และลำดับต่อไป... เป็นการพระราชทานปริญญาบัตรแด่...’
กริ๊ง~~~ กริ๊ง~~~ กริ๊ง!
เสียงนาฬิกาปลุกบนหัวเตียงเงียบไป ก่อนจะตามด้วยเสียงของน้องสาวสุดที่รัก
“พี่ค่ะ...” เธอพูดพลางเขย่าตัวฉันเบาๆ แต่ใครจะอยากออกจากที่นอนแสนจะนุ่มนิ่มแบบนี้ละ จริงไหม > < พวกคุณคงสงสัยสินะว่าฉันคือใคร ฉันมีชื่อเล่นว่า ‘ดอลฟิน’ แต่ความจริงแล้วส่วนใหญ่เพื่อนๆก็มักจะเรียกฉันว่า ‘ดอล’ แค่นั้นแหละ ฉันอายุ 22 เพิ่งรับปริญญามามาดๆ ฉันมีตาสีดำเหมือนคนไทยทั่วไป แต่มีผมสีเงินเหมือนกับพ่อ ทำให้ฉันกลายเป็นตัวประหลาดที่แทบไม่มีเพื่อนเลยสักคน และกำลังมีปัญหากับชีวิตของตัวเองอย่างมากกก
ส่วนน้องสาวสุดที่รักของฉันมีนามว่า ‘แพม’ เธออายุ 21 เป็นนักศึกษาปี 4 เป็นคนอัธยาศัยดีมีเพื่อนเยอะแยะ ลักษณะเหมือนคนไทยทุกอย่าง ยกเว้นตาสีน้ำตาลที่ได้รับมาจากคุณย่า
“พี่ค่ะ สายแล้วนะค่ะ” คนตัวสูง (กว่าฉัน) พยายามจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ ทำให้ฉันเริ่มรู้สึกสงสารจึงคอยๆเปิดเปลือกตาช้าๆแล้วถามด้วยเสียงงัวเงีย
“อือ~ กี่โมงแล้วล่ะ?” ฉันขยี้ตาเบาๆ ก่อนจะหาวด้วยความง่วงปกติฉันไม่ใช่คนขี้เกียจหรือนอนกินบ้านกินเมืองอะไรมากมายขนาดนี้หรอกนะ เพียงแต่พิธีรับปริญญาเมื่อวานมันทำให้ร่างกายฉันเหนื่อยมากถึงมากที่สุดต่างหาก! ตื่นตั้งแต่ตี 5 ไปนั้นมานี่ไม่ได้หยุดได้หย่อน... อะไรนะ? อ้อ! ใช่คุณได้ยินถูกแล้วละ ฉันเพิ่งจะได้รับพระราชทานปริญญาบัตรเมื่อวานนี้เอง
“นี่ก็ 8 โมงแล้วนะค่ะ ถ้าพี่หิวแล้วจะลงไปกินข้าวก่อนไหมละค่ะ?” แพมพูดไปพลางพับผ้าหม่ไปพลาง
“ไม่ล่ะ เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จแล้วค่อยไปกินแล้วกัน” ฉันค่อยๆฝืนสังฆารลุกจากเตียงอันเป็นเสมือนสวงสวรรค์และมุ่งตรงไปยังตู้เสื้อผ้า
“อะ! พี่ค่ะ!”
โครม!!!
“ระวังลื่นด้วยค่ะ”
“โอ๊ย! เจ็บๆ”
“เป็นอะไรรึเปล่าค่ะพี่” แพมทำหน้ารู้สึกผิด อย่าทำเสียงแบบนั้นได้ไหม T^T เดี๋ยวฉันก็เผลอร้องไห้หรอก “จริงสิ เมื่อเช้าพี่คาเรนโทรมาให้บอกพี่ว่า อย่าลืมนัดเลี้ยงรุ่นตอนหัวค่ำด้วยนะค่ะ”
“เฮ้อ... ยัยนั้นยังย้ำคิดย้ำทำไม่เปลี่ยนเลยนะ” ฉันส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอคล้ายจะรำคาญเล็กน้อยก่อนจะแอบยิ้มที่มุมปากนิดๆ ‘คาเรน’ เพื่อนคนแรกของฉัน เธอเป็นคนสวย ฉลาด รอบคอบและยังเป็นถึงลูกสาวประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่ก็เพราะนิสัยยังย้ำคิดย้ำทำของแม่คุณเธอนี่แหละที่ทำให้ชีไม่มีเพื่อนจนมาถึงทุกวันนี้ “อ๊ะ! เดี๋ยวก่อนเมื่อกี้นี้บอกว่ากี่โมงนะ”
“เออ... 8 โมงค่ะ หรือเรียกได้อีกอย่างว่า สองทุ่ม” หรือต้องเรียกว่า สายแล้วพี่น้อง! ฉันตรงดิ่งไปที่ห้องน้ำก่อนจะชำระร่างกายอย่างรวดเร็ว “เดี๋ยว ฉันขับรถไปส่งนะค่ะ พี่” เสียงเธอดังพร้อมกับเสียงลงบันไดอย่างรีบร้อน ในขณะที่ฉันกำลังสวมกางเกงยีน
“Thank จ้า!” ฉันหยิบเสื้อยืดสีขาวมาสวมทับร่างกายแล้วสวมเสื้อโค้ทยาวสีดำสนิทมาสวมทับอีกทีพลางวิ่งลงบันไดไปที่รถเก๋งสีเงินคันเก่งประจำบ้าน
“พี่ค่ะ อย่ากัดลิ้นตัวเองนะค่ะ”
“หะ! อะไรนะ” ก่อนที่ฉันจะได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ คุณน้องสุดที่รักก็เหยียบไปซะสุดแรง
“กรี๊ด~~~”
และแล้วเราสองคนมาถึงหน้าผับด้วยอาการครบ 32 หรืออย่างน้อยฉันก็คิดว่าน่าจะครบอ่ะนะ
“งั้นแพมกลับละนะค่ะพี่” ง่า... ไม่น้า ฉันไม่อยากอยู่ในที่แบบนี้คนเดียว อ่า T0T (แล้วเพื่อนเธอล่ะ - -)
“แพมช่วยไปเป็นเพื่อนหน่อยนะ” ฉันอ้อนสุดฤทธิ์
“แต่ว่า...”
“นะ นะ นะ น้า *0*”
“ก... ก็ได้ค่ะ แต่ว่าไม่เกินสามทุ่มครึ่งนะค่ะ” โอ้ ช่างรู้ใจว่าคนอย่างฉันไม่มีทางทนได้เกินนั้นแน่
“อือ ไปกันเถอะ” ฉันไม่รอช้า กระชากมือแพมเข้าไปในร้านทันที
บรรยายกาศในผับเต็มไปด้วยแสงสี เราสองคนเดินเข้ามาเรื่อยๆจนสดุดกับโต๊ะแบบสี่ที่นั้งบริเวณริมสุดของร้าน แต่ประเด็นหลักคือชายหญิงสองคนที่นั้งอยู่ข้างกันมากกว่า
“ดอล ทางนี้ๆ” คาเรนกวักมือเรียกเราด้วยท่าทางน่ารักฉันพนันได้ว่าผู้ชายหลายคนที่ได้เห็นฉากนี้คงอยากจะกลับไปวางยาพิษแฟนที่บ้านแน่เลย
“จ้าๆ” ฉันกับแพมนั้งลงบนเก้าอี้แทบพร้อมกัน
“หวัดดี ดอลแล้วพาใครมาด้วยละ?” ‘มิคาเอล’ ถามทั้งๆก้มหน้าก้มตาเล่นคอมอยู่
“นายก็เงยหน้าขึ้นเงยหน้าขึ้นมาสิจะได้รู้ว่าใคร- -” ฉันแอบเห็นเขาสถบเล็กน้อยก็จะเงยหน้าขึ้นอย่างจำใจ
“อ้าว แพมนี่เองไม่เจอกันนานสวยขึ้นเป็นกองเลยนะ” มิคาเอลทำท่าจะโอบกอดแพมด้วยความคิดถึง
“อะแฮ่มๆ เยอะไปไหม” ไม่ใช่ว่าฉันหึงน้องตัวเองหรอกนะแต่หมอนี่ไว้ใจได้ซะที่ไหน มีแฟนสิบคนเป็นผู้หญิงเก้า เป็นดี้หนึ่งคน อะ ฉันลืมบอกไป ‘มิคาเอล’ คือเพื่อนเบอร์สองของฉัน เขาเป็นแฮกเกอร์จึงพกคอมติดตัวไปทุกที่ แต่ความจริงแล้วนิสัยดี... เออ... ฉันคิดว่าดีน่ะนะ
“เธอหึงฉันหรอ ดอล J” เขายิ้มอย่างมีเลศนัย
“หลงตัวเอง” ฉันแขวะ “ฉันห่วงน้องตัวเองต่างหากละที่ต้องไปแตะเนื้อต้องตัวเสือผู้หญิงอย่างนายน่ะ”
“แฮกเกอร์อัฉริยะครับผม” เขาพูดพลางยิ้ม
“ว่าแต่งานเลี้ยงรุ่นอะไรของเธอน่ะ คาเรน มีแต่พวกเรากันเองแบบนี้น่ะ” ฉันพยายามจะเปลี่ยนเรื่องและหลบเลี่ยงรอยยิ้มอันแสนจะอันตรายของเขา
“ก็แหม... ถ้ามากันทั้งรุ่น ดอลจะยอมอยู่ฉลองไหมล่ะ?” เออ ก็จริงของเธอแฮะ
“แต่เธอคิดผิด... เพราะฉันจะกลับแล้ว แพมกลับบ้านกัน” ฉันเสร้งทำเสียงแข็ง
“ค... ค่ะ พี่” แพม
“เดี๋ยวก่อนสิดอล หลังจากนี้ อึก! เราอาจไม่ได้เจอกันอีกแล้วก็ได้ เพราะฉนั้น...” จะร้องไห้ทำไม ง่า... T T ฉันยิ่งแพ้น้ำตาอยู่ด้วย
“ขอโทษนะ...” ฉันพูดโดยไม่ได้หันกลับไปมอง “แต่เราจะได้เจอกันอีกแน่นอน ฉันสัญญา”
“เฮ้ๆ สาวๆอย่าคุยข้ามหัวผมนักจะได้ไหมครับ” น้ำเสียงอารมย์ดีดังจากมิคาเอลถึงจะไม่หันไปมองก็เดาได้ว่าเขาคงจะเริ่มอารมย์เสียแล้วละนะ
“คาเรน มิคาเอล...” ฉันค่อยหันกลับไปมองช้าๆ ก่อนจะกระตุกริมฝีปากยิ้ม “ไว้เจอกันไหมนะ”
“อืม!” คาเรนยิ้มทั้งน้ำตา ส่วนมิคาเอลนั้นหนากลับไปสู่โลกส่วนตัว (อินเทอร์เน็ต) เรียบร้อยแล้ว
…พี่คงจะเหนื่อยแล้ว...
ฉันยังไม่ได้บอกสินะ ฉันสามารถอ่านใจคนอื่นได้แต่ปกติก็ไม่อ่านหรอกเพราะมันไม่จำเป็น
“งั้นเดี๋ยวฉันไปเอารถมารับนะค่ะ”
“อือ...” ฉันแหงนหน้ามองฟ้าสีเทาในวันนี้ช่างเหมือนกับเมื่อสามปีก่อน ฉันยังจำวันนั้นได้ดี... เฮเดส วันที่ฉันสูญเสียนายไป...
ความคิดเห็น