ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : รอการกลับมาของคุณพ่อคนใหม่ (100%)
วันนี้เธอมาถึงที่ทำงานก่อนเจ้านายมาก จึงมีเวลานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย �จึงหยิบภาพถ่ายชายคนรักขึ้นมาดู �และหวนคิดถึงเรื่องที่ผ่านมา
เกือบสองเดือนแล้วสินะที่เธอกลับมาบ้าน �แต่ความว้าวุ่นใจเรื่องของตนเองเพิ่งจะเริ่มขึ้นเมื่อเธอเองรู้ว่าท้อง �ท้องเธอกำลังจะมีลูกกับคนที่เธอรัก �เมื่อแน่ชัดจึงรีบบอกกล่าวกับเขาทันที
"โจ �แพทมีเรื่องจะบอก" �แม้เธอจะดีใจที่มีลูก แต่เธอเองไม่มั่นใจตัวเขานัก
"แพท มีอะไรหรือครับ �น้ำเสียงเศร้า ๆ �หรือว่าพ่อแม่คุณไม่รับผม" �เขาเองก็กลัวเช่นกัน �แต่ก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกสิ่งเพื่อเธอ
"แพทไม่แน่ใจว่าคุณ......"เสียงเธอมีแววกังวลอย่างมาก �เขาจึงอยากรู้ว่าเรื่องอะไรกันนะ �จะว่าเรื่องคู่หมั่น ก็ไม่น่าใช่เพราะเขาเคยเจอกับภาคินมาบ้างแล้ว �ทั้งคู่จึงเป็นเพียงเพื่อนกันเท่านั้นตอนนี้ หรือว่าทั้งคู่จะกลับมารักกันอีก �!!!
"บอกผมมาเถอะครับแพท �ผมพร้อมที่จะรับฟังทุกเรื่อง" �แม้จะว่างความกังวลลงบ้างเพื่อให้อีกคนยอมบอกเขาเสียที
" �ฮือ... �แน่ใจนะว่าจะรับได้" �นี่ล่ะมั้งเขาเรียกอารมณ์คนท้อง กลัวนั้นกลัวนี่ อ่อนไหวง่าย�
"ครับ �ผมรับได้ แพทหยุดร้องไห้นะ บอกผมมาเถอะ" ยิ่งเพิ่มความกังวลใจให้เขาอีกครั้ง
" คือ �คือว่าแพท �แพทท้อง ท้องได้ 2 เดือนแล้ว" �ตัดสินใจบอกเขา ไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือออกก้อย แต่บอกไปแล้วนิ
"คุณท้อง �ไชโย �ไชโย �แพทเรากำลังจะมีลูก �ลูก " �เสียงร้องดีใจของเขาทำให้เธอพลอยยิ้มได้ �เมื่อเขาได้รู้และยังดีใจอีก
"คุณไม่โกรธ แพทหรือค่ะที่ปล่อยให้ท้องนะค่ะ" ความอยากรู้ จึงถามเขาทันทีเหมือนกัน
"ผมจะโกรธคุณเรื่องอะไร �ถ้าคุณบอกเลิกกับผม ผมโกรธคุณแน่" �หายกังวลใจเลยทีเดียว
"รอผมนะครับแพท อีก 2 �เดือนผมจะไปหาคุณกับลูก ผมรักคุณกับลูกนะครับ" �นี่คือเสียงสุดท้ายที่เธอและเขาคุยกัน นี่ก็อีกเพียงหนึ่งอาทิตย์เท่านั้นที่คนรักของเธอจะมาถึง
"นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรหรือครับคุณผู้ช่วยคนเก่ง" �ภาคิน เดินผ่านมาเห็นแพทตี้ เอาแต่นั้งเหม่อ นั่งยิ้มอยู่คนเดียวเลยอดที่จะแซวไม่ได้
แต่ไม่มีเสียงตอบรับหรือปฏิเสธ �มีเพียงค้อนที่เควี่ยงใส่เขาเท่านั้น �เธอจึงก้มหน้าทำงานโดยไม่สนใจเจ้านายเลยที่ยืนอวดฟันขาว �อย่างรอคำตอบ �จากเธอ
"หวังว่าผมคงใช้งานคุณไม่หนักไปนะแพท ขนาดสมองกระทบกระเทือนถึงนั่งยิ้มคนเดียวได้" เขาไม่ระความพยามที่จะแซวเธอ�
"ค่ะเจ้านาย " �ความอดทนหมด จึงแขวะกับเขา บ้าง มีเพียงเสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดีของเจ้านายหนุ่มให้ได้ยิน �เพราะเขาเดินเข้าห้องทำงานไปแล้ว
"แพทครับ มีงานไหมครับวันนี้ช่วงบ่าย" �เมื่อเงียบหายเข้าห้องทำงานไปนานพอดู �จึงได้กดอินเตอร์คอมถามผู้ช่วยสาวสวย
"ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ �จะมีก็แต่เซ็นเอกสารนิดหน่อย" �
"งั้นผมขอเซ็นช่วงเช้านี้เลยนะ เพราะช่วงบ่ายผมจะพาคุณแม่ ไปตรวจเช็คร่างกายนะ" �บอกความต้องการทันทีเมื่อทราบข้อมูล
"ได้ค่ะ " �รีบคว้าเอกสารที่เขาต้องเซ็น เดินเข้าห้องเจ้านายทันทีเมื่อจบการสนทนา
ก๊อก �ก๊อกกกก
"เชิญครับ" �อนุญาตแต่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองต้นเสียง
"นี่ค่ะ �คุณแม่เป็นอย่างไรบ้างค่ะ �แพทไม่ได้ไปเยี่ยมเลย " � เมื่อรู้ว่าชายหนุ่มต้องพามารดาไปโรงพยาบาลจึงมีสีหน้าวิตก ที่ไม่ได้ไปเยี่ยมมารดาเขาเลยหลายวันมานีี่ �
"ดีขึ้นมากแล้วครับแพท �อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ �ท่านหายจนจะปกติแล้วครับ" �เห็นที่ทีขอโทษ และรู้สึกผิดของเธอแล้ว �จึงรีบบอกกล่าวแก่เธอทันที
"แหม..ก็แพท ไม่ได้ไปเลยนี่น่า �ก็คิดว่าท่านอาการหนักขึ้นหรอเปล่า" ใครจะไปรู้ ล่ะ แอบค่อนขอดเขาในใจ ไอ้เราหรือก็เป็นห่วงท่านนี่น่า
"ครับผม � หึหึ " �ตอบแบบมีแซวนิด ๆ �ตามมาด้วยเสียงหัวเราะ ที่ดังตามมาติด ๆ �
แพทตี้หน้างอง้ำใส่เขาทันทีเหมือนกัน �อะไรกันคนห่วงก็ผิด ตาบ้านี้ท่าจะบ๊องงงงง �และทำหน้าเหรอหรา เมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้
ภาคินเห็น เลิกคิ้วที่หนาดกดำของเขาขึ้นทันทีเป็นเชิงถาม �เมื่อเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปจาก บูดบึง �ไปเป็นเริ่ม ๆ แดง �
"คือ �ว่า โจ �จะมาถึงเมืองไทยอาทิตย์หน้าแล้ว" �รอยยิ้มผุดขึ้นระบายเต็มหน้าของหญิงสาวทันที
"อืมมม...เรื่องนี้นี่เอง �ถึงลืมไปเยี่ยมคุณแม่ผม หึหึ" �นั้นงัยกัดปล่อยเสียเมื่อไหร่ตาคนนี้ �
"คินก็ �!!!" �แต่หน้าและดวงตายังคงสดใส �
นี่เขาลืมไปเสียสนิทสินะ เพราะมั่วแต่คิดถึงตัวเอง �แม่ � แล้วก็แม่ดอกบัว
"งั้นหลังเที่ยง คินไม่เข้ามาแล้วนะ ถ้ามีอะไรสำคัญ หรือด่วนแพทช่วยตัดสินใจแทนทีนะ " �แซวกันพอหอมปากหอมคอแล้ว ก็วกเข้าเรื่องงานต่อทันที
"จ๊ะ �ฝากบอกคุณแม่ด้วยนะว่า แพท คิดถึง ขอให้ท่านหายไวๆๆ ด้วย " พยักหน้ารับคำสั่ง �
"นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้ว คินไปนะ กะว่าจะไปชวนน้องบัวไปด้วยนะ �อ้อ..ถ้าโจ มาวันไหนแน่ เดียวผมไปรับเป็นเพื่อน " �เขายังไม่ลืม ว่าพ่อของหลานตัวน้อยกำลังจะมา ห่วงว่าเธอจะเหงาถ้าไปนั่งรอคนเดียว
"จ้าาาาาาาา" �รับคำเขาเพียงเท่านั้นเป็นอันรู้กัน�
การมาเยือนของท่านประธานในรอบที่สองของเดือนนี้สร้างความหวั่นวิตกแก่ฝ่ายประชาสัมพันธิ์ยิ่งนัก �วันนี้จะเรื่องอะไรหนอถึงมาเอง เพราะถ้าเรื่องของน้องสาววันนั้น �ตอนนี้ก็ยังคงนั่งทำงานอยู่ �ทุกคนต่างมองหน้ากัน ไม่รู้ว่าเขาจาเอาอะไรที่ฝ่ายนี้ทำไมไม่ให้เลขาโทรมา
"ครับท่านประธาน มีอะไรให้รับใช้หรือครับ." คุณมนู หัวหน้าฝ่าย �รีบเข้ามาต้อนรับเจ้านายทันที �วันนี้ยิ้ม ค่อยโล่งใจหน่อย �เขาแอบลอบถอนหายใจ
"ไม่มีอะไรหรอกครับ �เพียงแค่จะมาขอยืมพนักงานบางคนไปดูงานข้างนอกนะ" �ปากเขาส่งเสียงพูดคุยกับคุณมนู �แต่สายตามองไปยังร่างคนตัวเล็กที่นั่งก้มหน้าก้มตาทำงาน �พรางนึกในใจ ขนาดมาหาถึงที่ทำงานยังไม่เห็นสนใจเขาเลย
"ท่านต้องการใครครับ �เดียวผมจะได้บอกให้เตรียมตัว" สาว ๆ ต่างพากันดีอกดีใจว่าใครกันหนอจะถูกเลือกให้ไปกับท่านประธานหนุ่มรูปหล่อที่วันนี้ยิ่งหล่อ เพราะอารมณ์ดีกว่าทุกวัน
"บัวชมพู" �เขาบอกความต้องการทันที โดยไม่ต้องคิดสักนิด ก็เพราะเขาเลือกมาแล้วนั้นเอง �
เสียงสาว ๆ บนพืมพำอย่างเสียดายที่เจ้านายเลือกน้องสาวให้ไปข้างนอกด้วยกัน แต่ก็ไม่วายบน
" โธ่เอ๋ย �อยู่บ้านเดียวกันทุกวันเจอกันทุกวันแล้วยังจะเลือกน้องสาวอีก " � สาว ๆ จึงสลายตัวไปทำงานต่ออย่างหมดหวัง �แม้จะรู้เรื่องราวกันบ้างว่าไม่ใช่พี่น้องกันแท้ ๆ �แต่ไม่มีใครสนใจที่จะสืบหาความ�
"คุณบัวครับ �.."คุณมนู � อ้าปากค้างเท่านั้น
"ค่ะบัวได้ยินแล้ว ขอตัวนะค่ะ" �เธอคว้ากระเป๋า แล้วเดินไปทันทีโดยไม่รอ หรือมองหน้าคนตัวโตกว่า ที่เดินตามหลังมาติด ๆ�
"อุ๊ยยย..!!" �เสียงคนตัวโตอุทานออกมา เมื่อเดินชนเข้ากับร่างเล็กบอบบาง �ดีที่เขามือไว �จึงคว้าเอวเล็กมากอดไว้ไม่ให้ล้มไป
"หยุดเดินก็ไม่บอก �" �อยากรู้ว่าทำไมคนตัวเล็กถึงหยุดเดิน �แทนที่จะปล่อยมือจากเอวบางกับกระชับแน่นขึ้นไปอีก แถมก้มหน้ามาหาใบหน้าที่งอง้ำอีกด้วย พร้อมส่งสายตาวาบวามให้คนตัวเล็ก
"ปล่อยค่ะ �บัวแค่จะถามพี่คินว่าเราจะไปไหนกันค่ะ " �มือแกะมือเขา ให้พ้นเอวตน แต่ไม่เป็นผล
"หือ...ไปไหนกันดีนะ �ตรงไหนก็ได้ ที่มีพี่กับบัวสองคน !!!? " �บอกพร้อมกับยื่นหน้าไหอมแก้มที่ตอนนี้แดง อมชมพู น่าหยิกน่าหยอกสำหรับเขายิ่งนัก
"บ้า หรอพี่คิน �ถ้าคุณแพทเธอรู้...." เธอพูดเพียงเท่านี้ �ให้เขาคิดตามเอง เมื่อคิดถึงความถูกต้อง เรื่องของเธอกับเขาจะจบลงทันทีที่เขากำหนดวันแต่งงาน �คงใกล้แล้วสินะ �โอ้้ยเศร้าใจจังเลย
เมื่อเขาสังเกตุเห็นความเปลี่ยนแปลงกระทันหัน จึงปล่อยมือจากเอวบาง �มาเป็นคว้ามือ เธอให้ก้าวตามเขาไปขึ้นรถ �เขาอยากจูบปลอบขวัญแม่ดอกบัวจัง �ถ้าไม่ติดต้องพามารดาไปเช็คร่างกาย �จะให้ทั้งร่างกายเขาเลยปลอบเธอ
"ไปไหนค่ะ " ตัดสินใจถามอีกครั้ง
"พาคุณแม่ไปโรงพยาบาล"�
"บัว...ขอโทษที่ลืมค่ะ �"สายตามองเขาอย่างรู้สึกผิดที่คิดว่าเขาจะพาเธอไปทำอะไรต่อมิอาไรกลางวันแสก ๆ �จึงหลบสายตาเขาทันที เมื่อเขาเลิกคิ้วถาม แถมอมยิ้มด้วย
"คิดว่าพี่จะพาไปไหนหรอ �แต่กลางวันพี่ก็ไม่เกี่ยงนะ " �เสียงหัวเราะแม้ไม่ดังมากแต่พอได้ยิน �แต่เรียกความกระดากอายแกเธอได้ จึงหันหน้าหนีเขาไม่แม้แต่จะปริปากอีกเลยจนถึงบ้าน
"บัวก็มาหรือลูก " �นางยิ้มเมื่อเห็นบุตรสาวเดินเข้ามาสวมกอด
"ค่ะแม่ �"
"พี่ล่ะลูก "เมื่อไม่เห็นบุตรชายโผล่หน้ามา�
"อยู่ข้างล่างค่ะ �บัวอาสาขึ้นมาพาคุณแม่ลงไปค่ะ" �กล่าวพร้อมรอยยิ้มที่ระบายเต็มหน้า � สร้างความสุขแก่คนที่กำลังป่วยได้ดีทีเดียว
"บัว �ถ้ามีเรื่องอะไรอย่าปิดแม่นะลูก " �นางเอามือลูบศรีษะ บุตรสาวเบา ๆ�
"ค่ะแม่ " �ไม่กล้าสบตา แต่ก็ยังกล้าพอที่จะรับปากมารดา
"ไปเถอะค่ะแม่ �เดียวเลยเวลานัด" �ไม่ทันเสียแล้ว คนตัวโตเดินหน้าหงิกมาทีเดียว
"ทำไมช้าจังเลยล่ะบัว พี่ให้มาตั้งนานแล้ว" �
"อย่าว่าน้องเลย แม่เองแหละที่ชวนน้องคุย" �นางได้แต่ส่ายหน้าระอามันจริง ๆ �ไอ้ลูกคนนี้ �ทีกับคนอื่นพูดเพราะพูดดีด้วย �ทีกับบัวชมพูจ้องแต่จะกัดท่าเดียว
เขาจึงเข้าไปช่วยเธอประคองมารดา เพื่อลงบันไดอย่างระมัดระวัง �มาถึงรถ �
"บัวนั่งกับคุณแม่นะค่ะ" �เธอตามเข้าไปนั่งข้างมารดาที่เบาะหลังทันที �
"อ่าวเป็นงั้นไป" �ได้แต่ร้อง �แต่ไม่ได้อะไร หล่อน ฝากไว้ก่อนเถอะแม่ดอกบัว � เขาได้ยินเสียงมารดาหัวเราะชอบใจที่เธอให้เขาเป็นแค่คนขับรถ �มีเพียงการสนทนากันของสองแม่ลูกด้านหล้งเขาเท่านั้น �จนถึงโรงพยาบาล �
การตรวจร่างกายของ �คุณภาสิณี �ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว �และจะหายเป็นปกติในไม่ช้า �สร้างรอยยิ้มให้กับตัวนางและลูกได้ดีทีเดียว �แต่หมอยังกำชับให้ช่วงนี้ต้องพักผ่อนมาก ๆ �อย่าเพิ่งหักโหม �เขาจึงมีความคิดขึ้นมา �นานแล้วสินะที่ครอบครัวเขาไม่ได้ไปพักผ่อนไหนเลยตลอดหลายปีที่เขมารับหน้าทีแทนมารดา �เห็นจะเวลานี้เป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด �เมื่อเสร็จจากโรงพยาบาลเขาจึงพามารดามาทานอาหารที่เป็นอาหาร สไตร์เม็กซิกัน �ที่มารดาชื่นชอบเป็นพิเศษ
"ไม่กลับบ้านเลยหรอลูก " เมื่อเห็นหัวรถมุ่งหน้าไปทางถนนแจ้งวัฒนะ �จึงเอยถามเขา
"ยังครับคุณแม่ �พอดีเพื่อนผมแนะนำร้านอาหาร เม็กซิกัน �ให้ �ผมเลยว่าจะพาคุณแม่กับน้องบัวไปลองทาน" �เขามองที่มารดาเห็นนางยิ้มอย่างพอใจ
นานแล้วที่ไม่ค่อยได้ท่านอาหารเม็กซิกัน � นางจึงขอบคุณบุตรชายผ่านทางสายตา ที่เขายังจำได้ว่านางชอบอาหารสไตร์นี้
เมื่อรถเลี้ยวเข้ามาจอดที่ร้านอาหาร �Quepasa mexican �เป็นหารอาหารแบบกันเอง �วันนี้ผู้คนไม่พุกพล่านเท่าไหร่นัก �เขาจึงหามุมสงบ ๆ �นั้ง �
"คุณแม่ทานอะไรดีครับ" เมื่อมารดากวาดสายตามองที่เมนูอาหารที่มากมายเหลือเกิน แต่สิ่งที่นางชื่นชอบมาก
"แม่เอาทาโก้ เนื้อ 2 ชิ้น �เบอริโต้ฟาจิต้าไก่ อีกหนึ่งชิ้น �น้ำแม่ขอน้ำเปล่า" �อยากทานหลายสิ่งหลายอย่าง �แต่เอาแค่นี้ก่อน �
"น้องบัวล่ะครับเอาอะไรดี หรือว่าตามใจพี่" เพราะไม่ว่าจะทำอะไรเธอมักจะบอกว่าตามใจเขาตลอด �เลยอดแซวเธอไม่ได้ �คนถูกแซวหน้าแดงเป็นตำลึงสุก
"เอาเอ็นซิราด้า ไก่ ค่ะ น้ำขอโค้กค่ะ " �ถ้าไม่กลัวอ้วนนะจะกินเยอะ ๆ เลยหน้าตาน่าทานทั้งนั้นเลย
แต่ก็มีแอบค้อนคนตัวโตที่นั้งตรงกันข้าม
"นึกว่าจะตามใจพี่สะอีก �ผมเอาบาร์บีคิวริบ �2 �ที �แล้วขอชิบกับซอสซ่า ด้วยนะครับ" �ช่วงรออาหาร เขาก็ตัดสินใจบอกในสิ่งที่เขาตั้งใจไว้แก่มารดาทันที
"แม่ครับ ผมว่าเราไม่ได้ไปพักผ่อนกันนานมากแล้ว �ผมว่าช่วงนี้ไปจะหาเวลาว่างพาคุณกับน้องบัวไปพักผ่อนกันสักพัก" �แปลกใจที่บุตรชายอยากไปเที่ยว
"อืม �ดีเหมือนกันนะ แล้วจะไปที่ไหน" �แต่นางก็เห็นด้วยเพราะนานแล้วที่ไม่ได้ไปไหนอย่างบุตรชายนางว่า
"น้องบัวอยากไปไหนครับ "คราวนี้หันมาทำตาเยิ้มให้คนที่นั่งเงียบฟังการสนทนาเอาดื้อ ๆ�
"แล้วแต่พี่คินค่ะ " �เธอไม่ค่อยได้ไปไหน �จึงตามแต่เขา �พอนึกขึ้นได้อีกคนก็เอาแต่หัวเราะชอบใจ ที่เธอหลงกลเขาจนได้
"งั้นเดียวผมดูอีกทีนะครับว่าจะไปไหนกันดี �" �เขาเพราะเห็นว่าอาหารมาแล้วจึงลงมือทานกันอย่าง
เอร็ดอร่อย ไม่แม้แต่จะคุย �เพราะสาระวนกับอาหารของใครของมัน �วันนี้มารดาเจริญอาหารกว่าทุกวัน �เขาจึงยิ้มภูมิใจที่คิดถูกพามารดามาทานอาหารกันที่นี้
"อาหารเขาอร่อยถูกปากจริง ๆ เลยว่าไหมบัว " �นางเอยขึ้น �เมื่อขึ้นรถเดินทางกลับบ้าน
"ค่ะ �บัวชอบจังอาหารก็อร่อย �ร้านก็แบบสะบาย ๆ �ค่ะ "เห็นด้วยกับมารดา �
"วันหน้าค่อยมาทานกันอีกนะครับคุณแม่" �เมื่อทุกคนลงความเห็นตรงกันว่าต้องมีครั้งต่อไปในไม่ช้าแน่นอน
เมื่อกลับมาถึงบ้าน �ภาคินและบัวชมพู ต่างช่วยกันพยุงมารดาขึ้นข้างบน เพื่อพักผ่อน �หลังจากตระเวนมาทั้งวัน �
"ไปพักผ่อนกันเถอะลูก " �นางรีบบอกให้พวกลูก ๆ รีบกลับไปพักผ่อน
"ค่ะ-ครับ " �ขานตอบพร้อมกัน �เขาจึงหันมายิ้มเจ้าเล่ย์ให้ แม่ดอกบัว
"ใจเราตรงกันเลยนะ" �พูดออกมาลอย ๆ �ใกล้จะจบแล้วสินะ ปัญหาของเขากลับแพทตี้ �จะได้เอาจริงเอาจังกับแม่ดอกบัวเสียที �เดียวมีมือดีมาเด็ดไปเสียก่อน เป็นเรื่องแน่
"ไปครับน้องบัว คุณแม่จะได้พักผ่อนเสียที" �เขาชวนหน้าตายทันที �พร้อมกับจูงมือ เธอเดินจากไปทันที �ไม่ได้มองเลยว่ามารดามองพวกเขาตาปริบ ๆ �ตามหลัง แต่ไม่ได้เอยอะไรปล่อยทั้งคู่ไปพักผ่อนอย่างที่นางบอกแต่เรียก
"ขอให้ทุกอย่างจบด้วยดีทีเถอะ �อย่าให้มีอะไรอีกเลย �" �เหมือนมีบางอย่าง �ทำให้นางรู้สึกว่าเรื่องนี้จะไม่จบลงง่าย ๆ �อย่างที่บุตรชายบอกแต่แรก �นางจึงได้แต่ภาวนาในใจ �และอดห่วงทั้งสองคนไม่ได้ �โดยเฉพาะ �บัวชมพู �นางห่วงเธอเหลือเกินตอนนี้
เกือบสองเดือนแล้วสินะที่เธอกลับมาบ้าน �แต่ความว้าวุ่นใจเรื่องของตนเองเพิ่งจะเริ่มขึ้นเมื่อเธอเองรู้ว่าท้อง �ท้องเธอกำลังจะมีลูกกับคนที่เธอรัก �เมื่อแน่ชัดจึงรีบบอกกล่าวกับเขาทันที
"โจ �แพทมีเรื่องจะบอก" �แม้เธอจะดีใจที่มีลูก แต่เธอเองไม่มั่นใจตัวเขานัก
"แพท มีอะไรหรือครับ �น้ำเสียงเศร้า ๆ �หรือว่าพ่อแม่คุณไม่รับผม" �เขาเองก็กลัวเช่นกัน �แต่ก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกสิ่งเพื่อเธอ
"แพทไม่แน่ใจว่าคุณ......"เสียงเธอมีแววกังวลอย่างมาก �เขาจึงอยากรู้ว่าเรื่องอะไรกันนะ �จะว่าเรื่องคู่หมั่น ก็ไม่น่าใช่เพราะเขาเคยเจอกับภาคินมาบ้างแล้ว �ทั้งคู่จึงเป็นเพียงเพื่อนกันเท่านั้นตอนนี้ หรือว่าทั้งคู่จะกลับมารักกันอีก �!!!
"บอกผมมาเถอะครับแพท �ผมพร้อมที่จะรับฟังทุกเรื่อง" �แม้จะว่างความกังวลลงบ้างเพื่อให้อีกคนยอมบอกเขาเสียที
" �ฮือ... �แน่ใจนะว่าจะรับได้" �นี่ล่ะมั้งเขาเรียกอารมณ์คนท้อง กลัวนั้นกลัวนี่ อ่อนไหวง่าย�
"ครับ �ผมรับได้ แพทหยุดร้องไห้นะ บอกผมมาเถอะ" ยิ่งเพิ่มความกังวลใจให้เขาอีกครั้ง
" คือ �คือว่าแพท �แพทท้อง ท้องได้ 2 เดือนแล้ว" �ตัดสินใจบอกเขา ไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือออกก้อย แต่บอกไปแล้วนิ
"คุณท้อง �ไชโย �ไชโย �แพทเรากำลังจะมีลูก �ลูก " �เสียงร้องดีใจของเขาทำให้เธอพลอยยิ้มได้ �เมื่อเขาได้รู้และยังดีใจอีก
"คุณไม่โกรธ แพทหรือค่ะที่ปล่อยให้ท้องนะค่ะ" ความอยากรู้ จึงถามเขาทันทีเหมือนกัน
"ผมจะโกรธคุณเรื่องอะไร �ถ้าคุณบอกเลิกกับผม ผมโกรธคุณแน่" �หายกังวลใจเลยทีเดียว
"รอผมนะครับแพท อีก 2 �เดือนผมจะไปหาคุณกับลูก ผมรักคุณกับลูกนะครับ" �นี่คือเสียงสุดท้ายที่เธอและเขาคุยกัน นี่ก็อีกเพียงหนึ่งอาทิตย์เท่านั้นที่คนรักของเธอจะมาถึง
"นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรหรือครับคุณผู้ช่วยคนเก่ง" �ภาคิน เดินผ่านมาเห็นแพทตี้ เอาแต่นั้งเหม่อ นั่งยิ้มอยู่คนเดียวเลยอดที่จะแซวไม่ได้
แต่ไม่มีเสียงตอบรับหรือปฏิเสธ �มีเพียงค้อนที่เควี่ยงใส่เขาเท่านั้น �เธอจึงก้มหน้าทำงานโดยไม่สนใจเจ้านายเลยที่ยืนอวดฟันขาว �อย่างรอคำตอบ �จากเธอ
"หวังว่าผมคงใช้งานคุณไม่หนักไปนะแพท ขนาดสมองกระทบกระเทือนถึงนั่งยิ้มคนเดียวได้" เขาไม่ระความพยามที่จะแซวเธอ�
"ค่ะเจ้านาย " �ความอดทนหมด จึงแขวะกับเขา บ้าง มีเพียงเสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดีของเจ้านายหนุ่มให้ได้ยิน �เพราะเขาเดินเข้าห้องทำงานไปแล้ว
"แพทครับ มีงานไหมครับวันนี้ช่วงบ่าย" �เมื่อเงียบหายเข้าห้องทำงานไปนานพอดู �จึงได้กดอินเตอร์คอมถามผู้ช่วยสาวสวย
"ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ �จะมีก็แต่เซ็นเอกสารนิดหน่อย" �
"งั้นผมขอเซ็นช่วงเช้านี้เลยนะ เพราะช่วงบ่ายผมจะพาคุณแม่ ไปตรวจเช็คร่างกายนะ" �บอกความต้องการทันทีเมื่อทราบข้อมูล
"ได้ค่ะ " �รีบคว้าเอกสารที่เขาต้องเซ็น เดินเข้าห้องเจ้านายทันทีเมื่อจบการสนทนา
ก๊อก �ก๊อกกกก
"เชิญครับ" �อนุญาตแต่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองต้นเสียง
"นี่ค่ะ �คุณแม่เป็นอย่างไรบ้างค่ะ �แพทไม่ได้ไปเยี่ยมเลย " � เมื่อรู้ว่าชายหนุ่มต้องพามารดาไปโรงพยาบาลจึงมีสีหน้าวิตก ที่ไม่ได้ไปเยี่ยมมารดาเขาเลยหลายวันมานีี่ �
"ดีขึ้นมากแล้วครับแพท �อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ �ท่านหายจนจะปกติแล้วครับ" �เห็นที่ทีขอโทษ และรู้สึกผิดของเธอแล้ว �จึงรีบบอกกล่าวแก่เธอทันที
"แหม..ก็แพท ไม่ได้ไปเลยนี่น่า �ก็คิดว่าท่านอาการหนักขึ้นหรอเปล่า" ใครจะไปรู้ ล่ะ แอบค่อนขอดเขาในใจ ไอ้เราหรือก็เป็นห่วงท่านนี่น่า
"ครับผม � หึหึ " �ตอบแบบมีแซวนิด ๆ �ตามมาด้วยเสียงหัวเราะ ที่ดังตามมาติด ๆ �
แพทตี้หน้างอง้ำใส่เขาทันทีเหมือนกัน �อะไรกันคนห่วงก็ผิด ตาบ้านี้ท่าจะบ๊องงงงง �และทำหน้าเหรอหรา เมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้
ภาคินเห็น เลิกคิ้วที่หนาดกดำของเขาขึ้นทันทีเป็นเชิงถาม �เมื่อเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปจาก บูดบึง �ไปเป็นเริ่ม ๆ แดง �
"คือ �ว่า โจ �จะมาถึงเมืองไทยอาทิตย์หน้าแล้ว" �รอยยิ้มผุดขึ้นระบายเต็มหน้าของหญิงสาวทันที
"อืมมม...เรื่องนี้นี่เอง �ถึงลืมไปเยี่ยมคุณแม่ผม หึหึ" �นั้นงัยกัดปล่อยเสียเมื่อไหร่ตาคนนี้ �
"คินก็ �!!!" �แต่หน้าและดวงตายังคงสดใส �
นี่เขาลืมไปเสียสนิทสินะ เพราะมั่วแต่คิดถึงตัวเอง �แม่ � แล้วก็แม่ดอกบัว
"งั้นหลังเที่ยง คินไม่เข้ามาแล้วนะ ถ้ามีอะไรสำคัญ หรือด่วนแพทช่วยตัดสินใจแทนทีนะ " �แซวกันพอหอมปากหอมคอแล้ว ก็วกเข้าเรื่องงานต่อทันที
"จ๊ะ �ฝากบอกคุณแม่ด้วยนะว่า แพท คิดถึง ขอให้ท่านหายไวๆๆ ด้วย " พยักหน้ารับคำสั่ง �
"นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้ว คินไปนะ กะว่าจะไปชวนน้องบัวไปด้วยนะ �อ้อ..ถ้าโจ มาวันไหนแน่ เดียวผมไปรับเป็นเพื่อน " �เขายังไม่ลืม ว่าพ่อของหลานตัวน้อยกำลังจะมา ห่วงว่าเธอจะเหงาถ้าไปนั่งรอคนเดียว
"จ้าาาาาาาา" �รับคำเขาเพียงเท่านั้นเป็นอันรู้กัน�
การมาเยือนของท่านประธานในรอบที่สองของเดือนนี้สร้างความหวั่นวิตกแก่ฝ่ายประชาสัมพันธิ์ยิ่งนัก �วันนี้จะเรื่องอะไรหนอถึงมาเอง เพราะถ้าเรื่องของน้องสาววันนั้น �ตอนนี้ก็ยังคงนั่งทำงานอยู่ �ทุกคนต่างมองหน้ากัน ไม่รู้ว่าเขาจาเอาอะไรที่ฝ่ายนี้ทำไมไม่ให้เลขาโทรมา
"ครับท่านประธาน มีอะไรให้รับใช้หรือครับ." คุณมนู หัวหน้าฝ่าย �รีบเข้ามาต้อนรับเจ้านายทันที �วันนี้ยิ้ม ค่อยโล่งใจหน่อย �เขาแอบลอบถอนหายใจ
"ไม่มีอะไรหรอกครับ �เพียงแค่จะมาขอยืมพนักงานบางคนไปดูงานข้างนอกนะ" �ปากเขาส่งเสียงพูดคุยกับคุณมนู �แต่สายตามองไปยังร่างคนตัวเล็กที่นั่งก้มหน้าก้มตาทำงาน �พรางนึกในใจ ขนาดมาหาถึงที่ทำงานยังไม่เห็นสนใจเขาเลย
"ท่านต้องการใครครับ �เดียวผมจะได้บอกให้เตรียมตัว" สาว ๆ ต่างพากันดีอกดีใจว่าใครกันหนอจะถูกเลือกให้ไปกับท่านประธานหนุ่มรูปหล่อที่วันนี้ยิ่งหล่อ เพราะอารมณ์ดีกว่าทุกวัน
"บัวชมพู" �เขาบอกความต้องการทันที โดยไม่ต้องคิดสักนิด ก็เพราะเขาเลือกมาแล้วนั้นเอง �
เสียงสาว ๆ บนพืมพำอย่างเสียดายที่เจ้านายเลือกน้องสาวให้ไปข้างนอกด้วยกัน แต่ก็ไม่วายบน
" โธ่เอ๋ย �อยู่บ้านเดียวกันทุกวันเจอกันทุกวันแล้วยังจะเลือกน้องสาวอีก " � สาว ๆ จึงสลายตัวไปทำงานต่ออย่างหมดหวัง �แม้จะรู้เรื่องราวกันบ้างว่าไม่ใช่พี่น้องกันแท้ ๆ �แต่ไม่มีใครสนใจที่จะสืบหาความ�
"คุณบัวครับ �.."คุณมนู � อ้าปากค้างเท่านั้น
"ค่ะบัวได้ยินแล้ว ขอตัวนะค่ะ" �เธอคว้ากระเป๋า แล้วเดินไปทันทีโดยไม่รอ หรือมองหน้าคนตัวโตกว่า ที่เดินตามหลังมาติด ๆ�
"อุ๊ยยย..!!" �เสียงคนตัวโตอุทานออกมา เมื่อเดินชนเข้ากับร่างเล็กบอบบาง �ดีที่เขามือไว �จึงคว้าเอวเล็กมากอดไว้ไม่ให้ล้มไป
"หยุดเดินก็ไม่บอก �" �อยากรู้ว่าทำไมคนตัวเล็กถึงหยุดเดิน �แทนที่จะปล่อยมือจากเอวบางกับกระชับแน่นขึ้นไปอีก แถมก้มหน้ามาหาใบหน้าที่งอง้ำอีกด้วย พร้อมส่งสายตาวาบวามให้คนตัวเล็ก
"ปล่อยค่ะ �บัวแค่จะถามพี่คินว่าเราจะไปไหนกันค่ะ " �มือแกะมือเขา ให้พ้นเอวตน แต่ไม่เป็นผล
"หือ...ไปไหนกันดีนะ �ตรงไหนก็ได้ ที่มีพี่กับบัวสองคน !!!? " �บอกพร้อมกับยื่นหน้าไหอมแก้มที่ตอนนี้แดง อมชมพู น่าหยิกน่าหยอกสำหรับเขายิ่งนัก
"บ้า หรอพี่คิน �ถ้าคุณแพทเธอรู้...." เธอพูดเพียงเท่านี้ �ให้เขาคิดตามเอง เมื่อคิดถึงความถูกต้อง เรื่องของเธอกับเขาจะจบลงทันทีที่เขากำหนดวันแต่งงาน �คงใกล้แล้วสินะ �โอ้้ยเศร้าใจจังเลย
เมื่อเขาสังเกตุเห็นความเปลี่ยนแปลงกระทันหัน จึงปล่อยมือจากเอวบาง �มาเป็นคว้ามือ เธอให้ก้าวตามเขาไปขึ้นรถ �เขาอยากจูบปลอบขวัญแม่ดอกบัวจัง �ถ้าไม่ติดต้องพามารดาไปเช็คร่างกาย �จะให้ทั้งร่างกายเขาเลยปลอบเธอ
"ไปไหนค่ะ " ตัดสินใจถามอีกครั้ง
"พาคุณแม่ไปโรงพยาบาล"�
"บัว...ขอโทษที่ลืมค่ะ �"สายตามองเขาอย่างรู้สึกผิดที่คิดว่าเขาจะพาเธอไปทำอะไรต่อมิอาไรกลางวันแสก ๆ �จึงหลบสายตาเขาทันที เมื่อเขาเลิกคิ้วถาม แถมอมยิ้มด้วย
"คิดว่าพี่จะพาไปไหนหรอ �แต่กลางวันพี่ก็ไม่เกี่ยงนะ " �เสียงหัวเราะแม้ไม่ดังมากแต่พอได้ยิน �แต่เรียกความกระดากอายแกเธอได้ จึงหันหน้าหนีเขาไม่แม้แต่จะปริปากอีกเลยจนถึงบ้าน
"บัวก็มาหรือลูก " �นางยิ้มเมื่อเห็นบุตรสาวเดินเข้ามาสวมกอด
"ค่ะแม่ �"
"พี่ล่ะลูก "เมื่อไม่เห็นบุตรชายโผล่หน้ามา�
"อยู่ข้างล่างค่ะ �บัวอาสาขึ้นมาพาคุณแม่ลงไปค่ะ" �กล่าวพร้อมรอยยิ้มที่ระบายเต็มหน้า � สร้างความสุขแก่คนที่กำลังป่วยได้ดีทีเดียว
"บัว �ถ้ามีเรื่องอะไรอย่าปิดแม่นะลูก " �นางเอามือลูบศรีษะ บุตรสาวเบา ๆ�
"ค่ะแม่ " �ไม่กล้าสบตา แต่ก็ยังกล้าพอที่จะรับปากมารดา
"ไปเถอะค่ะแม่ �เดียวเลยเวลานัด" �ไม่ทันเสียแล้ว คนตัวโตเดินหน้าหงิกมาทีเดียว
"ทำไมช้าจังเลยล่ะบัว พี่ให้มาตั้งนานแล้ว" �
"อย่าว่าน้องเลย แม่เองแหละที่ชวนน้องคุย" �นางได้แต่ส่ายหน้าระอามันจริง ๆ �ไอ้ลูกคนนี้ �ทีกับคนอื่นพูดเพราะพูดดีด้วย �ทีกับบัวชมพูจ้องแต่จะกัดท่าเดียว
เขาจึงเข้าไปช่วยเธอประคองมารดา เพื่อลงบันไดอย่างระมัดระวัง �มาถึงรถ �
"บัวนั่งกับคุณแม่นะค่ะ" �เธอตามเข้าไปนั่งข้างมารดาที่เบาะหลังทันที �
"อ่าวเป็นงั้นไป" �ได้แต่ร้อง �แต่ไม่ได้อะไร หล่อน ฝากไว้ก่อนเถอะแม่ดอกบัว � เขาได้ยินเสียงมารดาหัวเราะชอบใจที่เธอให้เขาเป็นแค่คนขับรถ �มีเพียงการสนทนากันของสองแม่ลูกด้านหล้งเขาเท่านั้น �จนถึงโรงพยาบาล �
การตรวจร่างกายของ �คุณภาสิณี �ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว �และจะหายเป็นปกติในไม่ช้า �สร้างรอยยิ้มให้กับตัวนางและลูกได้ดีทีเดียว �แต่หมอยังกำชับให้ช่วงนี้ต้องพักผ่อนมาก ๆ �อย่าเพิ่งหักโหม �เขาจึงมีความคิดขึ้นมา �นานแล้วสินะที่ครอบครัวเขาไม่ได้ไปพักผ่อนไหนเลยตลอดหลายปีที่เขมารับหน้าทีแทนมารดา �เห็นจะเวลานี้เป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด �เมื่อเสร็จจากโรงพยาบาลเขาจึงพามารดามาทานอาหารที่เป็นอาหาร สไตร์เม็กซิกัน �ที่มารดาชื่นชอบเป็นพิเศษ
"ไม่กลับบ้านเลยหรอลูก " เมื่อเห็นหัวรถมุ่งหน้าไปทางถนนแจ้งวัฒนะ �จึงเอยถามเขา
"ยังครับคุณแม่ �พอดีเพื่อนผมแนะนำร้านอาหาร เม็กซิกัน �ให้ �ผมเลยว่าจะพาคุณแม่กับน้องบัวไปลองทาน" �เขามองที่มารดาเห็นนางยิ้มอย่างพอใจ
นานแล้วที่ไม่ค่อยได้ท่านอาหารเม็กซิกัน � นางจึงขอบคุณบุตรชายผ่านทางสายตา ที่เขายังจำได้ว่านางชอบอาหารสไตร์นี้
เมื่อรถเลี้ยวเข้ามาจอดที่ร้านอาหาร �Quepasa mexican �เป็นหารอาหารแบบกันเอง �วันนี้ผู้คนไม่พุกพล่านเท่าไหร่นัก �เขาจึงหามุมสงบ ๆ �นั้ง �
"คุณแม่ทานอะไรดีครับ" เมื่อมารดากวาดสายตามองที่เมนูอาหารที่มากมายเหลือเกิน แต่สิ่งที่นางชื่นชอบมาก
"แม่เอาทาโก้ เนื้อ 2 ชิ้น �เบอริโต้ฟาจิต้าไก่ อีกหนึ่งชิ้น �น้ำแม่ขอน้ำเปล่า" �อยากทานหลายสิ่งหลายอย่าง �แต่เอาแค่นี้ก่อน �
"น้องบัวล่ะครับเอาอะไรดี หรือว่าตามใจพี่" เพราะไม่ว่าจะทำอะไรเธอมักจะบอกว่าตามใจเขาตลอด �เลยอดแซวเธอไม่ได้ �คนถูกแซวหน้าแดงเป็นตำลึงสุก
"เอาเอ็นซิราด้า ไก่ ค่ะ น้ำขอโค้กค่ะ " �ถ้าไม่กลัวอ้วนนะจะกินเยอะ ๆ เลยหน้าตาน่าทานทั้งนั้นเลย
แต่ก็มีแอบค้อนคนตัวโตที่นั้งตรงกันข้าม
"นึกว่าจะตามใจพี่สะอีก �ผมเอาบาร์บีคิวริบ �2 �ที �แล้วขอชิบกับซอสซ่า ด้วยนะครับ" �ช่วงรออาหาร เขาก็ตัดสินใจบอกในสิ่งที่เขาตั้งใจไว้แก่มารดาทันที
"แม่ครับ ผมว่าเราไม่ได้ไปพักผ่อนกันนานมากแล้ว �ผมว่าช่วงนี้ไปจะหาเวลาว่างพาคุณกับน้องบัวไปพักผ่อนกันสักพัก" �แปลกใจที่บุตรชายอยากไปเที่ยว
"อืม �ดีเหมือนกันนะ แล้วจะไปที่ไหน" �แต่นางก็เห็นด้วยเพราะนานแล้วที่ไม่ได้ไปไหนอย่างบุตรชายนางว่า
"น้องบัวอยากไปไหนครับ "คราวนี้หันมาทำตาเยิ้มให้คนที่นั่งเงียบฟังการสนทนาเอาดื้อ ๆ�
"แล้วแต่พี่คินค่ะ " �เธอไม่ค่อยได้ไปไหน �จึงตามแต่เขา �พอนึกขึ้นได้อีกคนก็เอาแต่หัวเราะชอบใจ ที่เธอหลงกลเขาจนได้
"งั้นเดียวผมดูอีกทีนะครับว่าจะไปไหนกันดี �" �เขาเพราะเห็นว่าอาหารมาแล้วจึงลงมือทานกันอย่าง
เอร็ดอร่อย ไม่แม้แต่จะคุย �เพราะสาระวนกับอาหารของใครของมัน �วันนี้มารดาเจริญอาหารกว่าทุกวัน �เขาจึงยิ้มภูมิใจที่คิดถูกพามารดามาทานอาหารกันที่นี้
"อาหารเขาอร่อยถูกปากจริง ๆ เลยว่าไหมบัว " �นางเอยขึ้น �เมื่อขึ้นรถเดินทางกลับบ้าน
"ค่ะ �บัวชอบจังอาหารก็อร่อย �ร้านก็แบบสะบาย ๆ �ค่ะ "เห็นด้วยกับมารดา �
"วันหน้าค่อยมาทานกันอีกนะครับคุณแม่" �เมื่อทุกคนลงความเห็นตรงกันว่าต้องมีครั้งต่อไปในไม่ช้าแน่นอน
เมื่อกลับมาถึงบ้าน �ภาคินและบัวชมพู ต่างช่วยกันพยุงมารดาขึ้นข้างบน เพื่อพักผ่อน �หลังจากตระเวนมาทั้งวัน �
"ไปพักผ่อนกันเถอะลูก " �นางรีบบอกให้พวกลูก ๆ รีบกลับไปพักผ่อน
"ค่ะ-ครับ " �ขานตอบพร้อมกัน �เขาจึงหันมายิ้มเจ้าเล่ย์ให้ แม่ดอกบัว
"ใจเราตรงกันเลยนะ" �พูดออกมาลอย ๆ �ใกล้จะจบแล้วสินะ ปัญหาของเขากลับแพทตี้ �จะได้เอาจริงเอาจังกับแม่ดอกบัวเสียที �เดียวมีมือดีมาเด็ดไปเสียก่อน เป็นเรื่องแน่
"ไปครับน้องบัว คุณแม่จะได้พักผ่อนเสียที" �เขาชวนหน้าตายทันที �พร้อมกับจูงมือ เธอเดินจากไปทันที �ไม่ได้มองเลยว่ามารดามองพวกเขาตาปริบ ๆ �ตามหลัง แต่ไม่ได้เอยอะไรปล่อยทั้งคู่ไปพักผ่อนอย่างที่นางบอกแต่เรียก
"ขอให้ทุกอย่างจบด้วยดีทีเถอะ �อย่าให้มีอะไรอีกเลย �" �เหมือนมีบางอย่าง �ทำให้นางรู้สึกว่าเรื่องนี้จะไม่จบลงง่าย ๆ �อย่างที่บุตรชายบอกแต่แรก �นางจึงได้แต่ภาวนาในใจ �และอดห่วงทั้งสองคนไม่ได้ �โดยเฉพาะ �บัวชมพู �นางห่วงเธอเหลือเกินตอนนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น