ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Where is my shawty รักร้ายสยบหัวใจยัยตัวแสบ

    ลำดับตอนที่ #2 : 01 . chapter one / met first is destiny ? (rewrite)

    • อัปเดตล่าสุด 7 ต.ค. 58



    CHAPTER
    01


     

                “พันไมล์ ~” ฉันฟุบหน้าลงกับโต๊ะพร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างปิดหูตัวเอง  ทำให้อีกฝ่ายที่กำลังเรียกชื่อฉันได้รู้ว่าฉันเริ่มรำคาญเจ้าหล่อนแล้ว

     

              ไมล์ อย่าปิดหูสิฟังกูก่อน ... นี่ถ้ามึงไม่ไปมันก็ไม่สนุกนะ


              มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบงานเลี้ยง  คนเยอะแยะหนวกหู แล้วไอ้สัตย์ ไอ้ตรี ไอ้หมอกอ่ะทำไมไม่ไปชวนมัน ฉันลุกขึ้นนั่งดี ๆ แล้วคุยกับเพื่อนอย่างตั้งใจ  ก็เข้าใจว่าเพื่อนสนิทอยากให้ไปงานเลี้ยงวันเกิดของแฟน ... แต่ฉันไม่ชอบนี่คนเยอะแยะหนวกหูจะตาย


              ไอ้สามตัวนั้นมันเป็นผู้ชายอ่ะเดี๋ยวพี่กัสหึง โถ่ ... ไปแค่แปปเดียวเองนะ  มึงคงไม่ปล่อยให้กูไปคนเดียวหรอกใช่ไหม  ในนั้นมีแต่เพื่อนพี่กัสถ้ากูไปคนเดียวต้องอึดอัดมากแน่ ๆ นะมึงขอร้องละแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว พี่กัสที่มันว่าก็แฟนมันนั่นแหละ กลัวกัสหึงแต่ไม่กลัวกูโกรธ ? อืมดี -___-  ไวน์ขอร้องพร้อมกับสงสารตาอ้อนวอนมาให้ ... จะให้ทำยังไงล่ะมาแบบนี้ก็ต้องยอมเพื่อนคนนี้ทุกที


              โอเค ๆ ที่ไหนเมื่อไหร่ว่ามา เมื่อสิ้นสุดคำพูดของฉันไวน์ก็กระโดดกอดพร้อมกับตะโกนออกมาด้วยความดีใจ  หลังจากนั้นก็หยิบกระดาษกับปากกามาจดสถานที่ของร้านอย่างละเอียดแล้วส่งมาให้ฉัน


              ฉันอ่านรายละเอียดในกระดาษอย่างผ่าน ๆ ในนั้นมีวันที่เวลาของวันงาน สถานที่ร้าน ที่อยู่ รหัสไปรษณีย์ (ใส่มาทำไม -*-) ลักษณะของร้าน บลา ๆ


              เขียนมาเยอะขนาดนี้เอาชื่อพ่อเจ้าของร้านมาด้วยเลยไหม ฉันพูดเชิงตำหนิไวน์ที่เขียนเยอะมากเกินไปจนโอเวอร์ แต่เพื่อนสนิทตรงหน้าก็ไม่ดีมีท่าทีโกรธ ได้แต่ยิ้แหย ๆ กลับมาเท่านั้น


              ก็กูกลัวมึงหลงนี่ ... เอาเถอะยังไงมึงก็ค้องไปให้ได้นะ


              แต่ว่าต้อง ...


              ไม่กลับดึกเกินสี่ทุ่ม  ไม่ดื่ม  ไม่แดนซ์ ไวน์พูดขัดพร้อมกับยักคิ้ว


              รู้แล้วก็ดี 


     

     

              ถึงจะบอกว่ายัยไวน์เขียนมาเยอะก็เถอะ ... ตอนนี้ฉันก็ยังหาร้านที่เพื่อนบอกไม่เจอเลย TT เดินวนอยู่แถบนี้มาสี่ห้ารอบแล้วเนี่ย  เอาไงดีไม่เคยาแถวนี้ด้วยสิ


              ว่าไงคนสวย ... มาคนเดียวเหรอไปเที่ยวกับพวกเราไหมครับ ผู้ชายรูปร่างหน้าตาดีสองคนเดินเข้ามาทักฉันพร้อมกับร้อยยิ้มเป็นมิตร


              เอ่อ ...


              เดี๋ยวพวกผมเลี้ยงเอง ... หรือว่าคุณกำลังรอเพื่อนอยู่ครับ ?” ฉันมองหาทางหลีกหนีสองคนนี้อยู่จะบอกว่ารอเพื่อนอยู่ก็ไม่ได้ หากสองคนนี้บอกว่าจะยืนรอเป็นเพื่อนล่ะ


              จริง ๆ แล้วเพื่อนฉันให้เข้าไปรอในร้านนี้น่ะค่ะ ฉันชี้เข้าไปในร้านที่ฉันกำลังยืนอยู่


              อ๋อ ... ให้พวกผมไปรอเป็นเพื่อนไหมครับ


                 “ไม่เป็นไรค่ะ ... เดี๋ยวแฟนฉันก็กำลังจะมาแล้วเหมือนกัน ฉันพูดยิ้ม ๆ และเน้นหนัก ๆ ที่คำว่า แฟน ทั้งสองคนมองหน้าฉันพร้อมกับยิ้มแห้ง ๆ


              งั้นเดี๋ยวฉันเข้าไปในร้านก่อนนะคะ ฉันรีบเดินหนีจากสองคนนั้นเข้ามาในร้านปริศนานี่ทันที  เข้ามาในร้านก็พบว่าที่นี่เป็นผับ ดี ๆ นี่เองฉันเดินวนไปวนมาจนมาหยุดที่มุม ๆ นึงพร้อมกับนั่งลง


              ฉันยังไม่อยากรีบออกไป เพราะถ้าหากเจอสองคนนั้นอีกรอบจะยุ่งเอาอีกเลยคิดว่าควรจะอยู่ในนี้สักพักแล้วค่อยออกไปตามหาร้านที่ยัยไวน์อยู่


              รับอะไรดีครับ



              ขอเป็นน้ำส้มแล้วกันค่ะ ฉันตอบพนักงานแบบส่ง ๆ ก่อนจะหยิบไอโฟนขึ้นมากดข้อความส่งไปหาไวน์ เพื่อบอกว่อาจจะถึงที่ร้านช้าหน่อย จากนั้นก็เก็บใส่กระเป๋าตามเดิม 


              ส่วนที่ฉันนั่งเรียกได้ว่าเป็นหัวมุมของร้าน อยู่ห่างจากประร้านเพียงเล็กน้อย  มุมที่ฉันนั่งนั่นเรียกได้ว่ามองเห็นแทบทุกคนและทุกส่วนของร้านก็ว่าได้ 


              ฉันมองคนที่กำลังเต้นกันอย่างสนุกสนานกลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งไปทั่วมันแทบจะทำให้ฉันอยากจะออกไปจากร้านนี้ให้เร็วทีสุด


              ภาพตรงหน้าทำให้ฉันปวดหัวได้ไม่น้อยฉันจึงเลื่อนสายตาขึ้นไปมองชั้นบนที่ดูเหมือนจะเรียกว่าโซนวีไอพี เป็นระเบียงที่มีรั้วกันใสทำให้คนจากด้านล่างมองคนด้านบนได้ และคนด้านบนก็สามารถมองคนด้านล่างได้เช่นกัน


              ฉันดื่มน้ำส้มหนึ่งอีกใหญ่ก่อนจะพิงตัวลงพนักพิงโซฟาจากนั้นก็ไล่สายตามองโซนวีไอพีที่ละส่วน  จนมาหยุดกับโต๊ะโต๊ะหนึ่ง หญิงสาวกำลังนั่งอยู่บนตักของชายหนุมบนโซฟาหรูสีแดงสด .... ทั้งคู่กำลังจูบแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม


              ปกติฉันไม่ใช่พวกสาวโรคจิตที่แอบมองชาวบ้านเค้าจูบกันหรอก ... แต่นี่เป็นเพียงแค่อาการเผลอมองเท่านั้น


              ฉันกำลังจะละสายตาออกมาจากโต๊ะนั้นแล้ว ... แต่สายตาของชายหนุ่มที่กำลังถูกหญิงสาวขึ้นคร่อมอยู่นั้นก็มองมาที่ฉัน  เขาผละหญิงสาวออกพร้อมกับกระไวน์ในแก้วขึ้นดื่มจากนั้นก็มองมาที่ฉันอีกครั้งพร้อมกับพูดี่ฉันไม่ได้ยินเสียงแต่อ่านปากได้ว่า


              ยัยถ้ำมอง


              ฉันทำอะไรไม่ได้นอกจากหลุบตาลงต่ำและไม่ได้มองขึ้นไปด้านบนอีก ... คอฉันเริ่มแห้งจึงหยิบน้ำส้มขึ้นมาจิบอีกครั้งพร้อมกับมองเวลาในนาฬิกาข้อมือจึงรู้ว่านี่ก็เป็นเวลานานมากแล้วที่ฉันอยู่ในร้านนี้


              ฉันวางเงินไว้บนโต๊ะจำนวนนึงซึ่งคิดว่าน่าจะพอกับน้ำส้มที่ฉันดื่มไป  จากนั้นก็เดินออกจากร้านมาและมองหาร้านที่ไวน์อยู่ต่อไป


              มองคนอื่นเขาจูบกันแล้วคิดจะหนีเหรอ ฉันหยุดอยู่กับที่ทันีพร้อมกับหันไปมองต้นเสียงก็พบว่าเป็นผู้ชายที่กล่าวหาว่าฉันเป็นยัยถ้ำมอง


              คะ ?” ฉันเลิกคิ้วถามเสียงสูง


              นี่รับผิดชอบหน่อยก็ดีนะ ผู้ชายคนนี้เดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับทำคาเบดงแบบฉากในการ์ตูนญี่ปุ่นที่ผู้ชายใช้มือพิงกำแพงไม่ให้ผู้หญิงหนีไปไหนได้ ... ฉันคงจะดีใจและเคลิ้มมากหากเป็นสถานการณ์อื่นที่ไม่สถานการณ์นี้


              รับผิดชอบอะไรคะ ... กรุณาอย่าทำรุ่มร่ามกับฉัน ชวยถอยออกไปด้วยค่ะ


              โอ๊ะ ... ขอโทษครับตรงนี้คงไม่เหมาะสินะ เขขาพูดพร้อมกับดึงฉันเข้าไปในซอกตึกที่มีความมืดเข้าปกคลุม มีเพียงแค่ไฟจากเสาไฟที่ดูจะติด ๆ ดับ ๆ


              ซอกตึกเหรอ ... แปลกนะ แต่ก็ดีถือว่าเปลี่ยนบรรบากาศอยู่แต่บนเตียงกับโซฟามันน่าเบื่อแล้วเนอะ J


              คุณหมายความว่าไง  นี่ ! ปล่อยนะ


              จริงสิ ! คุณยังไม่รู้จักผมเลยนี่นา ผมชื่อ ... คงไม่จำเป็นหรอกมั้งได้ครั้งเดียวแล้วก็จบ ๆ กันไปเขาทำเป็นไม่สนที่ฉันพูด จงใจข้ามประโยคของฉันไปโดยสิ้นเชิง


              นี่พูดอะไรของคุณเนี่ย ! บอกให้ปล่อยคุณมีสิทธิอะไรมาทำกับฉันแบบนี้ !!”


              มีสิทธิสิ ก็คุณมาทำให้ผมอดขึ้นสวรรค์นี่


              ขึ้นสวรรค์ ? นายตายแล้วหรือไงถึงจะขึ้นสวรรค์น่ะหะ !!” ฉันพูดพร้อมกับผลักเขาออกจากตัวฉันอย่างสุดแรง แต่ก็ดูจะไม่เป็นผลเพราะหมอนี่นอกจากจะไม่ปล่อยแล้วยังโถมตัวเข้าใส่ฉันมากกว่าเดิมเสียอีก


              นี่ที่รัก ... อย่าทำเป็นไม่รู้หน่อยเลยว่าผมหมายถึงอะไร


              ฉันจะรู้ได้ยังไงว่านายหมายถึงอะไร ไม่ใช่พระเจ้านะที่จะได้รุ้กอย่าง !”


              เอาเถอะ ... ตอนนี้คุณไม่รู้เดี๋ยวผมจะทำให้คุณรู้เอง เพราะผมจะพาคุณขึ้นไปทัวร์บนสวรรค์อย่างสนุกสนานอย่างที่คุณลืมไม่ลงเอง !” เมื่อเขาพูดจบก็กดจูบบนริมฝีปากฉันทันที เขาค่อย ๆ บดขยี้ริมฝีปากบนลงมาล่างอย่างข้า ๆ และหนักหน่วง พยายามส่งลิ้นเข้ามาในริมฝีปากของฉันแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะฉันยังคงเม้มปากแน่น


              อ๊ะ !” ฉันร้องออกมาทันทีเมื่อเขาใช้มือบีบสันกรามของฉันอย่างแรง จึงเป็นจังหวะให้เขาสอดลิ้นเข้ามาตวัดทั่วโพรงปาก  ฉันไม่ประสีประสาอะไรทั้งสิ้นความรู้สึกตอนนี้มันตื้อไปหมดทำอะไรไม่ถูก


               ~


              “Damn !” เขาสบถออกมาด้วยความไม่พอใจหลังจากที่ถอนริมฝีปปากออกไปแล้ว จากนั้นก็กดรับโทรศัพท์


                “มีอะไรวะ  ถ้าเหตุผลฟังไม่ขึ้นมึงรู้นะว่ามึงจะโดนอะไร ... หะ! แล้วมึงจับตัวมันไว้เปล่า ... เออ ๆ อีกสิบนาทีกูถึง ผู้ชายคนนั้นคุยโทรศัพท์เสร็จก็เดินออกไปทันทีโดยไม่หันมาสนใจฉันอีก


              นั่นอะไร ... ฉันนั่งลงกับพื้นอย่างหมดแรง น้ำตาที่คลออยู่บนชอบตาเริ่มไหลออกมาช้า ๆ ... ฉันไม่รู้ว่าตัวเองร้องไห้ทำไม ไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ ... มันสับสนและตื้อไปหมด


                ♫~

              ฉันมองโทรศัพท์ที่อยู่ในมือเมื่อสายเรียกเข้าขึ้นชื่อว่าไวน์ฉันก็กดรับทันที


              (ไมล์มึงอยู่ไหนอ่ะ ทำไมนาน)


              “อึก โทษนะมึงกูไปไม่ได้จริง ๆ พอดีมีเรื่องนิดหน่อย


              (มึงโอเคใช่ไหม ?)


              “กูโอเค ... ขอโทษนะที่ผิดสัญญา


              (เห้ย  ! ไม่เป็นไร ๆ เดี๋ยวกก็จะกลับแล้วแหละถ้ามึงไม่มา เจอกันที่ม.นะ)


              อืมเจอกัน  บายหลังจากที่กดตัดสายฉันใช้หลังมือปาดน้ำตาบนใบหน้าออกอย่างลวก ๆ จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนและเดินกลับบ้าน  พลางคิดในหัวว่าถ้าได้เจอผู้ชายคนนั้นอีกมันไม่ตายดีแน่ !

     


     




     

     TBC.


    (c)  Chess theme

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×