คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : CHAPTER : 01
ช่วงเที่ยงกว่าๆเป็นเวลาพักของเหล่าพนักงานออฟฟิศ
เทรนนี่ โปรดิวเซอร์และครูฝึกต่างๆในค่าย เสียงเอะอะของเด็กๆที่ดังอยู่หน้าห้องเรียกความสนใจจากจีฮุนได้ไม่น้อย
เขาละสายตาจากกระดาษเขียนเพลงตรงหน้าและกดปิดเสียงทำนองเพลงในแลปท็อปลง
จัดการผลักเก้าอี้ล้อหมุนออกมายืดเส้นยืดสายเล็กน้อยก่อนจะเดินออกมาจากห้องทำงานเล็กๆของตัวเองมาห้องด้านนอกที่ใช้ร่วมกับเพื่อนร่วมงานนามว่า
ฮง จีซู ที่ไม่รู้ว่าตอนนี้หายหน้าหายตาไปไหนแล้ว
มือบางยกสมาร์ทโฟนขึ้นมาดูเพียงเล็กน้อยดูความเคลื่อนไหวต่างๆ
จนได้ยินเสียงลูกบิดประตูพร้อมใบหน้าอึนๆของเทรนนี่ตัวป่วนที่ชอบมาเล่นกับลูกชายเขาบ่อยๆ
"พี่จีฮุน
น้องชานไม่มาหรอครับ"
"ไม่จ้ะ
น้องไปโรงเรียนวันแรก"
"อ๋อ...งั้นไม่กวนแล้วครับ
ไปนะครับ"
เด็กหน้ามึนหนึ่งในเทรนนี่ที่กำลังจะเดบิวร์อย่าง
จอน วอนอู ปิดประตูลงเบาๆก่อนจะเดินออกไป จีฮุนรู้จักกับเด็กๆวงนี้ดีเพราะเป็นคนทำเพลงทั้งหมดให้
มัวแต่นั่งเหม่อคิดอะไรมากมาย ทั้งเรื่องเจ้าแสบที่อยู่โรงเรียน
เรื่องเพลงที่ต้องแต่งให้ทันต้นเดือนหน้าอีก มันยากหน่อยตรงที่ยังสื่ออารมณ์ได้ไม่ดีพอ
เขาไม่มีความรักแบบหนุ่มสาวมาจะสามปีแล้ว มีก็แต่ความรักแบบแม่ลูกนี่แหละ
ยังไม่ทันจะได้คิดอะไรมากกว่านั้น
เสียงลูกบิดประตูดังขึ้นอีกครั้งพร้อมร่างโปร่งเจ้าของใบหน้าเจ้าชายที่เดินเข้ามาด้วยประโยคสุดพิลึกตามเคย
“ฮาย จีฮุนนี่ ฉันพาเพื่อนร่วมงานคนใหม่มาแนะนำแหละ"
จีฮุนนั่งฟังเงียบๆไม่หือไม่อืออะไรทั้งสิ้น
แขนเรียวของจีซูดึงร่างของชายหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่หลังประตูเข้ามาในห้อง
ในคราแรกที่ร่างสูงมองมาที่เขาอีกคนดูตกใจไม่น้อยแต่สุดท้ายก็โค้งเก้าสิบองศาให้พร้อมกับกล่าวแนะนำตัว
"สวัสดีครับ
ผม...ควอน ซูนยอง จากนี้ไปขอฝากตัวด้วยนะครับ"
"จ้ะ...พี่ อี
จีฮุน เป็นนักแต่งเพลง อายุจะสามสิบแล้วด้วย ไม่ทักผิดว่าน้องอีกนะ"
ปากบางยกยิ้มกันเองจนคนอายุน้อยกว่าต้องเกาแก้มตัวเองแก้เก้อ
ทั้งเขินทั้งอายที่ตัวเองไปลดอายุให้คนอีกเกือบสิบปี
แต่ใบหน้าขาวเนียนกับรูปร่างบอบบางนั่นน่ะ มันเข้ากับคนอายุจะสามสิบที่ไหนกัน ถ้าอย่างพี่จีซูนี่ก็ว่าไปอย่าง
บอกว่าสามห้ายังเชื่อเลยครับคุณ
ไม่เป็นไร อายุเป็นเพียงตัวเลข ไม่ใช่อุปสรรคในความรักซะหน่อยเนอะ
"รู้จักกันแล้วเนอะ
ต่อจากนี้แกกับซูนยองต้องทำงานด้วยกันนะ แกแต่งเพลงส่วนซูนยองเขาคิดท่าเต้น
แต่ตอนนี้กินข้าวก่อนนะ หิวมาก"
เป็นจีซูที่ตัดจบคำถามต่างๆที่กำลังจะตามมา
อาหารที่ถูกเอาขึ้นมาด้วยถูกวางไว้บนโต๊ะเหมือนทุกวัน
จะแปลกตาหน่อยก็คงเป็นครูสอนเต้นคนใหม่ที่เพิ่มเข้ามา
จีฮุนยังคงนั่งอยู่ที่เดิมห่างจากสองคนนั้นไม่มากเท่าไหร่
มือบางหยิบกล่องข้าวกับตะเกียบขึ้นมาก่อนจะลงมือกินเป็นคนแรก
ซูนยองมองการกระทำนั้นแล้วก็ได้แต่อมยิ้ม แอบสงสัยอยู่ไม่น้อยว่าคนตัวเล็กจะมีแฟนไปแล้วหรือยัง
ดูจากรูปร่างหน้าตาแล้วคงมีคนเข้ามาให้เลือกมากมาย จะพอมีหวังหรือเปล่านะ
"เอ่อ...พี่จีซูครับ
พี่จีฮุนเขามีแฟนหรือยัง"
"หืม? จีฮุนเหรอ ไม่มีอ่ะ โสด"
คนอายุมากกว่าพูดเสียงไม่ดังนักเพราะพอจะจับน้ำเสียงของรุ่นน้องได้
ทำเพียงตอบไปเบาๆทั้งที่ข้าวยังเต็มปาก
นี่ถ้าไม่เห็นว่าเป็นรุ่นพี่พ่อจะด่าเรื่องไม่มีมารยาทให้หน้าชาเลย
"ยังพูดไม่จบนะ
โสด...แต่ลูกหนึ่ง.."
เคล้ง!
ตะเกียบในมือหนาร่วงลงกับพื้นทันที
ตาคมจ้องมองใบหน้าหวานใสที่เขาตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นแล้วก็ได้แต่ตกใจ อะไรคือการบอกว่าโสดแต่ลูกหนึ่งวะ
นี่ตกใจนะเนี่ย เป็นแม่คนแล้วเหรอ ดูจากหน้าตาไม่น่าเป็นพ่อใครได้นะ โกหกกันหรือเปล่าเนี่ย
"เป็นอะไรเหรอซูนยอง
มองหน้าพี่เหมือนมีอะไรสงสัย"
"ปะ...เปล่าครับ..”
ชายหนุ่มก้มลงหยิบตะเกียบที่ตกพื้นของตัวเองขึ้นมาเงียบๆ
ความจริงก็อยากจะถามออกไปตรงๆตามนิสัยแต่มาคิดดูอีกที เพิ่งเจอกันครั้งแรกจะถามเรื่องครอบครัวไปแบบนั้นมันก็กระไรอยู่
ไว้สนิทกันกว่านี้ค่อยถามก็ยังไม่สายไม่ใช่หรือไง
ตะเกียบคู่ใหม่ถูกใช่คีบข้าวเข้าปากไปเงียบๆอีกครั้ง มันไม่ค่อยใช่นิสัยเขาเท่าไหร่หรอกการนั่งเงียบน่ะ
แต่คือตกใจอยู่ทำใจแป๊ปนึง
แต่ก็เหมือนใครบางคนจะไม่ได้รู้เรื่องเท่าไหร่
"น้องมันถามว่าแกมีแฟนมั้ย
ฉันเลยตอบว่าโสดแต่มีลูกแล้ว น้องมันตกใจทำตะเกียบตกมือเลยเนี่ย"
"ฮ่าๆ
เรื่องแค่นี้ทำไมไม่ถามพี่ตรงๆล่ะ จริงๆพี่ก็มีลูกชายอยู่หละ
แต่ที่โสดคือหย่ากับแฟนมาจะสามปีเต็มแล้วหละ"
ข้าวก็เกือบจะพุ่งออกจากปากอยู่รอมร่อ
แต่สติที่ยังพอมีเลยไม่ได้ทำให้มันพุ่งออกมาตามที่คิด
คนตัวเล็กที่ยังนั่งยิ้มมองหน้าคนอายุน้อยกว่าที่มีสีหน้าเดาไม่ค่อยออกว่าจะเอายังไงแน่
เดี๋ยวก็หงอยเดี๋ยวก็ตกใจเดี๋ยวก็ดีใจ เดาทางเริ่มจะไม่ถูกแล้วเหมือนกัน
แต่ดูจากท่าทางน้องมันคงกำลังรู้สึกเป็นปลื้มอะไรสักอย่างในตัวเขาล่ะมั้งถึงได้ถาม
เด็กสมัยนี้ทำไมถึงไปถูกสเป็กคนแก่กว่ากันนะ?
"เอ้า...ยิ้มอะไรตาหายหมดล่ะ
กินข้าวไป เด็กนี่นิ"
จีฮุนมองหน้าแป้นแล้นของคนถูกดุเมื่อครู่
ยิ้มจนตาหายขนาดนั้นมีอะไรพอใจนักก็ไม่รู้นะ เมื่อกี๊ยังนั่งหงอยไม่หือไม่อืออยู่เลย
เปลี่ยนอารมณ์เร็วจริง ได้แต่คิดแล้วก็ก้มหน้าก้มตากินต่อ ยอมรับว่ารู้สึกดีนะที่อายุขนาดนี้แล้วยังมีเด็กทักผิดว่าเป็นรุ่นน้องแถมมาแอบปลื้มอีก
แต่ก็เพราะอายุขนาดนี้แล้วอีกนั่นแหละเลยไม่ค่อยจะใส่ใจว่าเด็กจะจริงจังด้วยหรือเปล่า
แต่ละวันหมดไปกับการทำงานการเลี้ยงลูกแบบนี้คงได้เจอใครเข้ามาจีบหรอก
แต่ตอนนี้ถ้ามีก็โอเคนะ เริ่มเลี้ยงลูกคนเดียวไม่ไหวซะแล้วสิ
.............................
ช่วงบ่ายสามโมงครึ่งเป็นเวลาเลิกเรียนของเด็กประถมวัย
จีฮุนที่พอกินข้าวเสร็จก็นั่งคุยกับซูนยองและจีซูเรื่องเพลงของเด็กๆก็ติดลมจนเสียงแจ้งเตือนที่ตั้งไว้ในสมาร์ทโฟนดังขึ้นว่าถึงเวลาไปรับเจ้าเด็กแสบแล้ว
จีซูรบเร้าอยากไปรับหลานเองบ้างแต่จีฮุนปฏิเสธไปเพราะเดี๋ยวจะพาหลานไปเที่ยวตามใจอีก
จีฮุนน่ะพยายามสอนให้ลูกทำอะไรเองได้ มีเหตุผล อดทนรออะไรให้ได้
แต่ถ้าปล่อยให้อยู่กับจีซูล่ะก็ รายนั้นตามใจหลานอย่างกับอะไรดี
น้องชานต้องโตมาแบบมีเหตุผลสิ จีฮุนเชื่อแบบนั้น
"จะไม่ให้ไปรับแทบจริงๆเหรอ
ไม่พาเที่ยวหรอกน่า"
"ไม่!
จะงอแงเป็นเด็กไปทำไมเดี๋ยวหลานก็มา ไปแล้ว อยู่สอนงานน้องไปนั่นแหละ"
จีฮุนเดินออกไปอย่างไม่ค่อยจะเร่งรีบเท่าไหร่
พอแผ่นหลังบางของคุณแม่คนเก่งพ้นขอบประตูไปก็ได้เวลาที่ซูนยองจะได้ซักประวัติโดยละเอียดของอีกคนเสียทีว่าตกลงไปไงมาไงถึงได้เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวแบบนี้
รู้จุดจะได้รับมือได้ เผื่อจะไปเลี้ยงลูกช่วยในฐานะคุณพ่อไง
"มอง มอง
มีอะไรก็ถามมาครับไอ้น้อง เล่นวัตถุโบราณเชียวนะ"
"นิดนึงพี่
พี่จีฮุนเขาหย่าขาดกับแฟนแล้วเหรอ แล้วเลี้ยงลูกคนเดียวเนี่ยนะ"
"อืม
ที่จริงจีฮุนไม่ใช่คนโซลหรอก เป็นคนปูซาน แต่พ่อกับแม่เสียเลยย้ายมาอยู่โซลคนเดียว
บ้านมันรวยนะ พอแต่งงานก็ได้แฟนรวยอีก อดีตสามีคุณเธอก็ท่านประธานนี่เอง
แต่คลอดลูกได้ห้าเดือนมันก็หย่า เห็นเค้าเล่ากันว่าแฟนมีคนอื่นมั้ง
ตอนนี้มันเลยโสดแต่ลูกหนึ่ง จบ."
ซูนยองพยักหน้าเข้าใจพลางกระตุกยิ้ม
แอบตกใจที่บอกว่าอดีตสามีคือ อี ซึงฮุน แต่อดีตก็คืออดีตนี่นะ
ฮงจีซูผู้ให้รายละเอียดเขาเองก็ไม่ตกหล่นแม้เรื่องเล็กๆเลยสักนิด เอามาซะะนึกว่าไปค้นประวัติในเน็ต
รู้ลึก รู้จริง รู้ละเอียดยิบเลยหละ
ตอนนี้โสดแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนคุยคนมาจีบนี่เนอะ
อันนี้ก็ต้องถามผู้รอบรู้ดูอีกนั่นแหละว่ายังไง
แล้วถ้าถ่านไฟเก่าคุล่ะ ยิ่งอยู่ใกล้กันแบบนี้อยู่ด้วย
"แล้ว...พี่เขามีคนมาจีบมาคุยบ้างหรือเปล่า”
"หืม? ก็ไม่มีนะ วันๆอยู่แต่กับลูกกับทำงาน แล้วก็ดูท่าทางถ่านไฟคงไม่คุแล้วหละ
เห็นท่านประธานขอคืนดีหลายทีแล้วแต่จีฮุนไม่เอาด้วย"
"อืม....ใจแข็งหน้าดูเลยนะครับเนี่ย
ถ้าผมจะลองจีบพี่เขาดูบ้าง พี่ว่ามันจะรอดมั้ยอ่ะ"
จบประโยคจีซูหันขวับมามองหน้ารุ่นน้องยิ้มๆ
เห็นเด็กมันนั่งยิ้มอยู่ก่อนแล้วก็ได้แต่ส่ายหัวให้ความคิดที่สุดแสนจะบ้าบอ จีซูคิดว่าซูนยองคงไม่ได้คิดจะแค่เล่นสนุกหรอกเพราะจากสายตาที่มองจีฮุนแล้วมันมีประกายวิบวับบางอย่าง
แถมมันก็โตๆกันแล้วทั้งซูนยองทั้งจีฮุน ถ้าสองคนนี้คิดจะคบกันจริงมันก็ไม่ผิดอะไร
ถ้าทางบ้านซูนยองไม่ติติงเรื่องที่จีฮุนเคยแต่งงานมีลูกมาแล้วน่ะนะ
"ก็แล้วแต่เถอะ
แต่ถ้าจะจีบแม่ให้เข้าทางลูก ลูกรักแล้วเดี๋ยวแม่ก็รักด้วย สู้ๆไอ้น้องชาย"
ฮงจีซูตบบ่าคนอายุน้อยกว่าเบาๆก่อนจะเดินเข้าไปดูความเรียบร้อยในห้องอัดเพลงบ้าง
ทิ้งไว้แค่ซูนยองกับรอยยิ้มเพ้อฝันราวกับเด็กหนุ่มสิบหกที่เพิ่งเคยจะลองมีความรักครั้งแรก
ทั้งที่ผ่านอะไรแบบนี้มาแล้วแถมดูเหมือนจะเข้าใจลึกซึ้งไปถึงเรื่องอย่างว่าด้วยก็เถอะ
แต่เท่าที่ผ่านมามันแค่นึกสนุกเล่นๆแต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้น
มันรู้สึกว่าเราควรคิดจริงจังกับใครสักคนเพื่อเริ่มสร้างพื้นฐานครอบครัวได้แล้ว
ควรจริงจังกับความรักให้มาก อาจเพราะรู้สึกว่าคนนี้เป็นคนที่เคยผ่านชีวิตครอบครัวมาก่อนมั้งเขาเลยต้องพยายามเข้าใจชีวิตคู่ให้มากขึ้น
เริ่มมองย้อนไปดูสิ่งที่คนเป็นพ่อพยายามยัดเยียดให้ตลอด
เข้าใจแล้วครับว่าเพื่ออะไร แต่ตอนนี้ของตามหาหัวใจให้เจอก่อน
เรื่องอื่นค่อยว่ากันอีกทีเนอะ
คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนรู้สึกไร้สาระ
รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่จีซูเดินมานั่งลงที่เดิม คนแก่กว่านั่งบ่นอะไรเรื่อยเปื่อยว่าเด็กมาใช้ห้องแล้วไม่ยอมเก็บ
ซึ่งเขาเองก็ทำได้แค่นั่งหัวเราะไปด้วย จะว่าไปเด็กๆเทรนนี่เซ็ตนี้ความสามารถด้านการร้องเพลงแน่นมาก
การแสดงสีหน้าตอนร้องตอนแร็พถือว่าดีเยี่ยม แต่ทักษะการเต้นนี่ค่อนข้างเป็นศูนย์
แต่ก็สอนง่ายเพราะแค่สอนไปครึ่งวันก็รู้เรื่อง เต้นได้กันทุกคนแล้ว
ก็คงเคยฝึกเคยถูกคัดเลือกมาแล้วแต่ทิ้งช่วงนานจนลืมไปบ้างแหละมั้ง
คงต้องทวนความจำอีกนิดนั่นแหละ
"คุงอาจีซูวววววว
น้องชานมีอะใยให้ยูย้วยยยยย”
"อะไรครับหลาน
มาให้อาดูสิมีอะไรให้ดู"
เสียงใสๆดังเข้ามาในห้องพร้อมร่างเล็กๆของเด็กชายวัยอนุบาลที่ปีนขึ้นมานั่งข้างจีซูที่เป็นที่นั่งข้างเขาเช่นกัน
เด็กชายหน้าตาน่ารักดูนุ่มนิ่มอยู่ในชุดนักเรียนสีฟ้าสดใสกำลังพูดจ้อเกี่ยวกับรูปวาดลายเส้นยึกยือของตัวเองว่ามีอะไรบ้างในแผ่นกระดาษนั้น
ส่วนคุณแม่ของเด็กน้อยก็กลับลงมานั่งมองดูลูกชายตัวเองยิ้มๆด้วยสีหน้าพอใจ
หน้าเหมือนแม่เลย...หมายถึงน่ารักอ่ะ
"น้องชานสวัสดีคุณอาซูนยองก่อนลูก"
"อาซูนฉะหวัดยีฮับ
น้องชานชื่อน้องชาน อายุฉาบขวบคึ่ง"
"ครับ
ไหนเล่าให้อาฟังด้วยสิว่าในรูปมีอะไรบ้าง"
เด็กน้อยพยักหน้าพลางขยับมานั่งชิดกับร่างของคนเป็นอา
วางรูปวาดของตัวเองไว้ตรงหน้าขาก่อนจะใช้นิ้วเล็กๆชี้ไปในรูปว่ามีอะไรบ้าง
"อังงี้ดอกไม้
อังงี้คุงผีเฉื้อ อังงี้น้องชานอังงี้คุงแม่ อังงี้คุงกาต่าย
คุงคูจุนบอกว่าน้องชานวาดฉวย ให้ฉามยาวย้วยยย"
"เก่งจังเลยครับ
ไหนคนเก่งแปะแปะกับคุณอาหน่อยสิ"
"แปะแปะ"
น้องชานรับรู้คำว่าแปะแปะทันทีที่ฝ่ามือหนายื่นมาใกล้
มือเล็กตีลงไปสองทีจนดังแปะแปะจริงๆก็หัวเราะคิกคักชอบใจ ซูนยองรู้สึกว่าตัวเองชอบเด็กคนนี้เป็นพิเศษ
น้องไม่ขี้อายไม่กลัวคนเหมือนเด็กๆที่เขาเคยเจอ
พูดเก่งช่างพูดถึงบางคำจะพูดไม่ชัดแต่ก็พอจะเดาออกแล้วรู้เรื่องว่าพูดอะไรอยู่
น่ารักน่าฟัดทั้งแม่ทั้งลูกจริงๆเลยน้าาา อุ๊ย! ลั่น..
"ซูนยองดูรักเด็กนะ
เข้ากับน้องชานเร็วมากเลย”
"แกก็ลองเอาน้องชานให้น้องมันเลี้ยงดิ
แกก็ไปให้มันเลี้ยงด้วยเลยจะได้จบๆ"
"ไอ้บ้า ถามน้องเขาก่อนมั้ยว่าเต็มใจหรือเปล่า
มั่วจริงๆ"
"ไม่หรอกครับ
มาให้เลี้ยงทั้งแม่ทั้งลูกก็ได้
ผมเต็มใจรับเลี้ยงนะถ้าพี่ไม่เกี่ยงเรื่องอายุ"
รุกแรงเลยละกัน คราวหน้าจะได้ไม่ตกใจเนอะ
...............................
"คุงแม่น้องชานง่วงนอน
กลับบ้านกันนะ"
"น้องชานนอนรอคุณแม่ตรงโซฟาก่อนลูก
เดี๋ยวคุณแม่ทำงานก่อนนะครับคนเก่ง"
เป็นเวลาเดิมที่เด็กชายตัวแสบจะเริ่มแบตหมดอีกครั้ง
เวลาทุ่มครึ่งคือเวลานอนปกติของเด็กน้อยแต่วันนี้คนเป็นแม่กลับยังคงนั่งจดจ่อกับกระดาษเขียนเพลงอยู่
ซูนยองนั่งมองบทสนทนาเมื่อครู่ก็แอบจะสงสารน้องชานไม่น้อย
ตัวแสบที่เล่นซนทั้งวันผละออกจากคนเป็นแม่เดินเตาะแตะมาทางเขา
ร่างนุ่มนิ่มปีนขึ้นมานั่งบนโซฟาไม่ได้งอแงอะไร หัวกลมโยกไปมาจนน่าสงสารเพราะความง่วง
ไหนจะตาตี่ๆที่แทบจะปิดนั่นอีกล่ะ
แขนแกร่งจัดการอุ้มร่างของเด็กตัวเล็กเข้ามาใกล้ก่อนจะวางหัวทุยลงบนตักตัวเองพลางลูบหัวเบาๆ
ปากหยักยกยิ้มให้กับภาพตรงหน้า เด็กชายอี ชานกำลังหลับฝันดี
ปากเล็กๆระบายยิ้มอย่างแสนสุข เป็นอะไรที่น่ารักน่าหยิกซะไม่มี
"จีฮุน
ซูนยองฉันกลับก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้"
"อืม...ขับรถดีดี..."
"ครับ
กลับบ้านปลอดภัยนะครับ"
จีซูที่ยืนอยู่หน้าประตูแอบเบะปากเบาๆให้เพื่อนตัวเล็กของตัวเองที่ไม่ได้คิดจะสนใจใยดีกันสักนิด
หันไปโบกมือลารุ่นน้องคนใหม่ก็เดินออกไป ซูนยองก้มลงมองเด็กน้อยบนตักด้วยรอยยิ้มที่ระบายอยู่เต็มแก้ม
เด็กอะไรน่าเอ็นดูจริงๆ เหมือนแม่เอามากๆเลยด้วย ความจริงเค้าควรกลับบ้านตั้งนานแล้วนั่นแหละ
เพราะพรุ่งนี้ถึงจะเริ่มทำงานแบบจริงจังสักที
แต่ว่าก็อยากมานั่งมองคุณแม่ตัวเล็กที่นั่งแต่งเพลงอยู่มากกว่า เพราะตอนที่อีกคนแต่งเพลงมันดูมีเสน่ห์เอามากๆเลยหละ
ใบหน้าหวานจะแสดงอารมณ์ต่างๆออกมาไม่หยุด
ซึ่งนั่นน่ะน่ามอง
"อ่า...พี่ว่ากลับได้แล้วหละ
นี่ก็จะดึกแล้ว"
"ครับ
งั้นเดี๋ยวผมอุ้มน้องชานไปส่งนะครับ พี่ขับรถมาเองใช่หรือเปล่า?"
"ใช่
งั้นรบกวนหน่อยล่ะ"
จีฮุนยิ้มบางๆ
ก้มลงไปหยิบเป้ของอีกคนมาถือเอาไว้ในมือตัวเองบ้าง
ร่างเล็กๆของน้องชานถูกช้อนขึ้นแนบอกราวกับว่าเจ้าตัวแสบนั่นเบาหวิว ทีเขาอุ้มทำไมมันดูหนักนักล่ะ
คนอายุน้อยกว่าที่มีร่างของเด็กตัวเล็กอยู่ในอ้อมแขนขนาบข้างด้วยร่างบางๆของคุณแม่คนเก่ง
เด็กๆเทรนนี่ที่เริ่มเดินออกมาจากห้องซ้อมมองตามเค้าสองคนพลางส่งยิ้มให้ไปด้วย
มีบ้างที่ชี้ๆมาแล้วก็หันไปพูดคุยกันเสียงเบา
ถ้าหูไม่ดีหรือเดินไกลหน่อยก็คงไม่ได้ยินหรอก แต่นี่เดินออกมาไม่ค่อยห่างเท่าไหร่
เลยได้ยินค่อนข้างจะชัดทีเดียวหละ
'ดูซิ
เหมือนพ่อแม่ลูกเลยเนอะ ใส่เสื้อลายเดียวกัน รองเท้ากระเป๋าด้วย เหมือนชุดคู่เลย'
'ใช่ๆ พ่อก็หล่อ
แม่น่ารัก ลูกก็น่าหมั่นเขี้ยว จับพีดีกับครูสอนเต้นจิ้นกันจะผิดมั้ยเนี่ย'
พูดจบก็หันไปหัวเราะคิกคักกัน
จีฮุนเงยหน้าขึ้นมองคนอายุน้อยกว่าก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่อีกคนก้มหน้าลงมามองเขาพอดิบพอดี
รอยยิ้มทะเล้นถูกจุดขึ้นบนริมฝีปากหยักจนเขาต้องขำขึ้นเบาๆกับความทะเล้นแบบนี้
นานแล้วเหมือนกันตั้งแต่ช่วงมหาลัยที่ไม่ได้เห็นรอยยิ้มแบบนี้จากใครเลย
เพราะคนรุ่นราวคราวเดียวกับเขาคงไม่มีมาจีบกันแบบวัยรุ่นหรอก แค่คุยกันเข้าใจ
ไว้ใจกันมากพอก็คบกันได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องมาหยอดมาจีบกันให้วุ่นวายหรอกนะ
แต่นานๆมีทีก็ดีนะ เหมือนได้ย้อนวัยตัวเองด้วยไง
"พี่จีฮุนครับ
จะลงบันไดหรือลงลิฟต์ดีครับ"
"ลงลิฟต์ดีกว่านะ
เราจะได้ไม่เมื่อยเดิน เจ้าตัวแสบยิ่งหนักๆอยู่ด้วย"
ซูนยองเดินนำไปที่หน้าลิฟต์จากที่ตอนแรกจะลงบันได
แต่พอมาคิดดูอีกทีเขาไม่ได้มาคนเดียว แต่มากับคุณแม่และคุณลูกตัวเล็กซึ่งจีฮุนอาจไม่ชอบใช้บันไดเหมือนเขาก็ได้
เป็นจีฮุนที่จัดการกดเปิดลิฟต์ให้
ดีหน่อยที่เจ้ากล่องสี่เหลี่ยมนี่ไม่มีคนเลยสักคนเพราะก็ค่อนข้างเป็นเวลาที่ไม่มีใครออกไปไหน
พนักงานก็เลิกกันตั้งแต่ห้าโมงเย็น เทรนนี่ก็คงจะรอกลับหอพร้อมกันกับเพื่อนคนอื่นนั่นแหละ
พอเลิฟต์ปิดลงระบุชั้นเรียบร้อยบรรยากาศก็ตกอยู่ในความเงียบ
ไม่ได้น่าอึดอัดหรอก แต่ซูนยองแค่ไม่ชอบความเงียบเท่านั้นแหละ
"ปกติพี่ก็ขึ้นลงลิฟต์ตลอดเลยเหรอครับ"
"เปล่าหรอก
พี่ชอบลงบันไดมากกว่า มันได้ออกกำลังกายสมองก็แล่นดี เราล่ะ ชอบเดินมากกว่าเหรอ?"
"ครับ
เดินมากๆร่างกายจะคล่องตัว ตอนเต้นจะได้คล่องขึ้นมาด้วย จะว่าไป
เราก็มีหลายอย่างเหมือนกันเลยนะครับ"
"หืม? อะไรเหรอ พี่ไม่เห็นว่าจะเหมือนเลยนะ"
จีฮุนตีหน้างงเล็กน้อย
จ้องมองใบหน้าหล่อทะเล้นของเด็กตรงหน้าแล้วก็ยิ่งงงหนัก คือจะว่ายังไงดีล่ะ
จะบอกว่าตามเด็กไม่ทันก็คงไม่ผิดเท่าไหร่ ใครมันจะไปตามทันกัน
ผ่านช่วงอายุนี้มาห้าปีแล้วนะ ตามความคิดเด็กไม่ทันหรอก
ติ๊ง!
ยังไม่ทันได้คำตอบจากคนอายุน้อยกว่า
ประตูลิฟต์ก็เปิดขึ้นเสียก่อน ซูนยองเดินออกมามุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถเป็นอันดับแรกก่อนจะหยุดเล็กน้อยให้อีกคนเดินนำไปที่รถก่อนตน
มองตามแผ่นหลังบางของอีกคนก็ได้แต่ยิ้มบ้าบออยู่คนเดียว
ที่บอกว่ามีอะไรเหมือนกันน่ะก็ไม่รู้หรอกว่าอะไรบ้าง แต่ดูการแต่งตัวเค้าสองคนสิ
เสื้อยืดสีขาวสกรีนลายเรียบๆ รองเท้ากับกระเป๋าอีก
เหมือนครอบครัวที่กำลังไปเที่ยวพักผ่อนกันเลยนะ
เดินตามมาได้สักพักก็เห็นว่าอีกคนยืนตีหน้ายุ่งอยู่
พอมองไปที่รถสปอร์ตสีดำสนิทถึงได้รู้ว่าเพราะอะไร โดนปล่อยลมรถเหรอ? ตลกสิ้นดี
"แบบนี้ก็แย่สิครับ
ให้ผมไปส่งดีกว่านะ นั่งแท็กซี่กลับอันตราย"
"ไม่เป็นไรหรอก
รบกวนเปล่าๆ พี่โตจนเป็นแม่คนแล้วดูแลตัวเองได้น่า"
ดูเหมือนคุณแม่คนเก่งจะเริ่มดื้อขึ้นมาเสียอย่างนั้น
แขนเรียวทำท่าจะดึงร่างของน้องชานไปอุ้มแต่ซูนยองเบี่ยงตัวหลบเบาๆ
พร้อมกับตีหน้าดุใส่คุณแม่ที่เอาแต่ใจตัวเองอยู่จนอีกคนหลุดขำ
มีอย่างที่ไหนคนอายุน้อยกว่ามาทำหน้าดุเขาที่โตจนเป็นแม่คนแล้ว คิดอะไรอยู่ของเขาก็ไม่รู้นะ
จีฮุนทำท่าจะดึงร่างของน้องชานมาไว้กับตัวเอง แต่อีกคนก็กระชับกอดแน่นขึ้นอีก
คิดจะเปิดสงครามหรือไงกันนะ
"มีอะไรกันหรือเปล่าครับ
อ้าว...จีฮุน ดึกแล้วทำไมไม่พาลูกกลับล่ะ"
"ท่านประธาน...พอดีรถเสียน่ะครับ
แต่ก็ว่าจะกลับแล้ว"
จีฮุนดูนิ่งทันทีที่ร่างสูงของชายหนุ่มอีกคนเดินเข้ามาหา
ร่างบางถอยห่างจากอีกคนออกมาเล็กน้อย ไม่ได้ตั้งใจถดหนีอีกคนจนดูหน้าเกลียดเกินไป
แต่ก็ห่างมากพอที่จะไม่ให้เหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น
ซึงฮุนมองการกระทำของคนตัวเล็กแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ
ทั้งที่พยายามเข้าหาแต่จีฮุนกลับพยายามถอยห่างออกไป ต่างจากซูนยองที่ยกยิ้มสะใจที่จีฮุนทำแบบนี้
ความจริงเขากับไอ้หมอนี่ไม่ค่อยจะถูกกันหรอก ตอนซึงฮุนแต่งงานเขายังไม่ไปเลย
คิดอยู่ว่าใครเป็นเจ้าสาวผู้โชคร้ายคนนั้น แต่ไม่คิดว่าจะโชคร้ายจะตกมาถึงคนน่ารักแบบนี้
ใครจะรู้กัน ว่าหน้าหล่อๆแบบนี้น่ะนิสัยจะเสียแค่ไหน
"แล้วนี่จะกลับยังไง
ให้ผมไปส่งมั้ย? คุณกลับแท็กซี่คงอันตราย"
"ขอบคุณครับ
แต่ซูนยองอาสาจะไปส่ง ขอตัวนะครับ"
จีฮุนโค้งให้อีกคนเล็กน้อยก่อนจะเดินห่างออกไป
ซูนยองยิ้มมุมปากพร้อมกับยักคิ้วให้คนตรงหน้า ซึงฮุนทำหน้าเหมือนกำลังเดือดเอามากๆนั่นยิ่งทำให้เขาได้ใจ
ตลอดชีวิตพ่อของเขาเอาคนนิสัยแบบนี้มาเปรียบเทียบกับเขาได้ยังไง
คนที่ดีแต่ใช้อารมณ์ในทุกอย่าง ท่าดีทีเหลวมันสะทุกเรื่อง
แต่ก็ยอมรับว่ามีความสามารถอยู่ที่บริหารบริษัทได้ แต่ถ้าไม่มีคนคอยหนุนหลังจะได้ถึงขนาดนี้หรือเปล่าล่ะ?
"แผนนี้ไม่ค่อยเนียน
ไปหามาใหม่นะครับ อ่อ...พี่จีฮุนนี่น่ารักดีนะครับ น้องชานด้วย"
ไม่รอเห็นใบหน้าเดือดจัดของอีกคนต่อ
ซูนยองสาวเท้ามาจนหยุดยืนต่อหน้าคุณแม่ตัวเล็กที่มีสีหน้าไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่
เพียงแต่ใบหน้าจะดูเหวี่ยงกว่าเดิมไปหน่อยก็เท่านั้น
"คุยอะไรกันเหรอ"
"ทั่วไปแหละครับ
ไปเถอะอย่าสนใจไปเลย กลับบ้านกันดีกว่า"
จีฮุนมองคนอายุน้อยกว่าแล้วพยักหน้า
เขาไม่ได้ใส่ใจว่าสองคนนี้จะคุยอะไรกัน เขาแค่ไม่อยากอยู่ใกล้ผู้ชายแผนสูงอย่างซึงฮุนนานๆก็เท่านั้น
ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ในหัวกันแน่
ยิ่งได้รู้จักผู้ชายคนนี้ลึกก็ยิ่งเหมือนจะไม่รู้อะไรเลย
ดูเป็นภาพลักษณ์ที่ถูกจัดฉากขึ้นทั้งนั้น ไม่มีความจริงอะไรเลย
จนไม่มั่นใจว่าตอนแต่งงานกัน เป็นแค่การแสดงละครหรือเปล่า...
............
"น้องชานมานี่ครับ
อาบน้ำก่อนเร็วลูก ให้อาซูนกลับบ้านเร็วลูก"
"ม่ะอาว
น้องชานจะเย่นกะอาซูนก่อนนนน"
"ซูนยองอ่า
พี่เหนื่อยเลิกพาน้องชานเล่นได้แล้วดึกแล้วนะ"
เสียงหวานของคุณแม่คนเก่งยานครางเพราะเริ่มเหนื่อย
พอซูนยองขับรถมาส่งเขาที่บ้านอีกคนก็อาสาอุ้มน้องชานเข้ามาส่งในบ้าน
พอถึงข้างในบ้านเจ้าตัวแสบดันตื่นขึ้นมางอแงร้องไห้จ้าเสียจนลั่นบ้าน
ลำบากซูนยองต้องช่วยโอ๋อีกทางนั่นแหละถึงได้หยุดร้อง
พอหยุดร้องได้คุณอาคนดีก็เล่นกับหลานจนติดลมไม่ยอมไปอาบน้ำอย่างที่เห็น
ลำบากต้องวิ่งไล่จับเด็กแสบจนต้องขอร้องให้หยุดกันทั้งอาทั้งหลานนั่นแหละ
วิ่งไล่กันรอบบ้านจนจีฮุนตาลายไปหมด พลังเยอะทั้งอาทั้งหลานเลยเชียว
"น้องชานไปอาบน้ำกับคุณแม่นะครับ
อาต้องกลับบ้านแล้ว"
"ง่ะ อย่าพึ่งซี้
น้องชานอาบน้ำเฉ็ดค่อยกลับ นะอาซูนนะ"
เด็กแสบกอดคอคนเป็นอาที่นั่งอยู่บนพื้นแน่น
ซูนยองเองก็กอดเอวหลานตัวเล็กเอาไว้ ยอมรับว่าแพ้ลูกอ้อนเด็กแสบเข้าให้เต็มๆ ได้แต่ส่งสายตาถามคนเป็นแม่ของเด็กตัวเล็กไป
จีฮุนพยักหน้าเบาๆเป็นการตอบตกลง ซูนยองยิ้มกว้าง จีฮุนดึงตัวลูกชายตัวแสบเข้าไปหอมเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว
มีพรรคพวกแล้วลืมคุณแม่เลยนะลูกชาย
"พี่รบกวนเราหน่อยนะ
อยู่รอตรงนี้ก่อนได้หรือเปล่ากลัวน้องชานงอแง"
"ได้เสมอครับ
แค่พี่ขอผมจะทำให้"
"จ้า
ไม่ต้องมาตาหวาน พี่ไม่เขินนะ หัดมาใหม่ไป"
"โห~~ เฟลนะเนี่ย พาน้องชานไปอาบน้ำเถอะครับ"
ซูนยองยิ้มขำๆไม่ต่างจากจีฮุนเท่าไหร่นัก
ก็โตๆกันแล้ว ไอ้รอยยิ้มตาหวานน่ะใช้ไม่ได้หรอกนะกับคนที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว
จะใช้ได้ก็แต่กับคนที่ยังวัยรุ่นลองรักเท่านั้นแหละ
ตาคมมองตามแผ่นหลังบางของคุณแม่คุณลูกที่เดินขึ้นบันไดบ้านไปแล้วก็ทิ้งตัวลงบนโซฟา
อาหารที่กินไปเมื่อช่วงเย็นๆกำลังย่อย เริ่มจะหิวขึ้นมาอีกรอบเสียแล้ว
ถึงบ้านคงต้องหาอะไรกินอีกตามเคย
ตาคมมองสำรวจไปทั่ว
บ้านสองชั้นหลังเล็กๆเหมาะสำหรับการอยู่เป็นครอบครัว ตกแต่งด้วยสีสันสดใสทั่วผนังด้วยกรอบรูป
ส่วนใหญ่จะเป็นรูปของเด็กชายอีชานที่อยู่ในช่วงวัยต่างๆนับตั้งแต่แรกเกิดจนถึงรูปที่ดูเหมือนจะเพิ่งถ่ายได้ไม่นานมานี้เอง
เป็นรูปที่ถ่ายคู่กับคุณแม่ ท่าทางจะเป็นการเซลฟี่ของสองแม่ลูกเสียมากกว่า
คิดอะไรสับเพเหระจนลืมดูเวล่ำเวลาเข้าจริงๆเสียแล้ว
ตวัดตามองนาฬิกาที่แขวนบนผนังก็บอกเวลาจะสามทุ่มเข้าไปแล้ว
"ไงคุณอา
หลานหลับไปแล้วจะกลับมั้ย หรือจะนั่งต่อ"
ร่างเล็กของคุณแม่คนเก่งในชุดเสื้อยืดสีเทาตัวใหญ่ที่มีกางเกงขายาวอยู่ข้างใน
ตอนนี้อีกคนก็ยังคงน่ารักเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แก้มเนียนก็ยังคงเนียนเช่นเคย
เพราะใบหน้าขาวใสที่ไร้เครื่องปรุงแต่งหรือเปล่านะ ถึงทำให้ดูมีเสน่ห์
"ครับ
ว่าจะกลับแล้วหละ รบกวนมาซะนานเลย"
"ไม่เป็นไรหรอก
พี่ก็รบกวนเราเหมือนกัน งั้นเดี๋ยวพี่เดินไปส่ง"
ซูนยองทำแค่ยิ้มบางๆ
คนอายุมากกว่าเดินนำออกมา รองเท้าแตะสีดำถูกสวมใส่แทนผ้าใบที่แทบจะสวมตลอดเวลา
เดินมาเพียงเล็กน้อยก็ถึงรถซีดานคันสวยที่จอดอยู่ของอีกคน
ยืนมองหน้ากันอยู่แบบนั้นโดยไม่ทราบสาเหตุ
มองกันไปมองกันมาก็ต้องหลุดยิ้มกันทั้งคู่
"งั้นพรุ่งนี้ผมมารับนะครับ
รับรองว่าจะไม่สายแน่นอน"
"ไม่เป็นไรก็ได้
เดี๋ยวพี่ไปเอง"
"ไม่สิครับ
เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมมารับไปพร้อมกัน ถึงไม่ไปผมก็จะมา ตกลงรือหเปล่า"
"ก็ได้
งั้นก็ขับรถดีดีล่ะ อย่าไปชนเสาไฟฟ้านะ เสียดายรถ"
ซูนยองยิ้มขำ
โบกมือให้คนตัวเล็กกว่าอยู่ซักพัก
จ้องมองคนตรงหน้าแล้วก็ได้แต่ยิ้มค้างอยู่แบบนั้น ทำไมนะ ฟ้าถึงไม่ส่งเขาสองคนมาเจอกันให้เร็วกว่านี้
ทำไมต้องส่งซึงฮุนมาเจอก่อนด้วย ได้แต่สงสัยแต่ไม่พูดออกมา
มันคงเป็นโชคชะตาที่ถูกขีดเอาไว้
ให้เราสองคนเจอกันในช่วงที่เหมาะและควร
"พี่ครับ..."
"อะไรหรอ...อ๊ะ..”
ฟอด!
จีฮุนเบิกตาโต
หับขวับไปมองหน้าเด็กตรงหน้าก็ได้แต่อ้าปากค้างเพราะสัมผัสเย็นๆจากจมูกโด่งที่แตะลงบนแก้มเขาเมื่อครู่
จะยกมือขึ้นฟาดมันก็อ้ำๆอึ้งๆไม่รู้เนื้อรู้ตัวเอ้เสียเลย ขัดใจชะมัด!
"กู๊ดไนต์คิสครับ
แล้วเจอกันใหม่พรุ่งนี้นะ"
เด็กตัวสูงวิ่งอ้อมไปขึ้นรถทันที
ก่อนที่มือบางๆของคุณแม่คนสวยจะฟาดแขนเข้าจริงๆ ก็ดูสิมีอย่างที่ไหนรู้จักกันยังไม่ถึงวันก็มาขโมยหอมไปเสียแล้ว
เจ้าเด็กทะลึ่งนี่ มือบางยกขึ้นกุมแก้มร้อนๆของตัวเองเอาไว้
ยืนมองว่าเด็กนี่จะกลับบ้านไปตอนไหนแต่ผลที่ได้กลับไม่ใช่รถจะเคลื่อนตัวออกไป
เป็นกระจกรถที่เลื่อนลงมาพร้อมเสียงทุ้มแทน
"ฝันดีนะครับ
ผมกลับแล้วนะ"
"ย๊า!
กลับไปเลยเจ้าเด็กทะลึ่ง!"
กะว่าจะไม่ตกใจแล้วนะ แต่รุกแรงขนาดนี้ก็ไม่ไหว
เตรียมตัวรับไม่ทันเลยหละ
..............
#ฟิคคุณแม่จีฮุน
ความคิดเห็น