ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Secret Room Of Me ss.2

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ

    • อัปเดตล่าสุด 17 เม.ย. 62



    ชื่อ - นามสกุล : เคียร์ร่า แมกดีเลีย
    เพศ : หญิง
    อายุ : 17 ปี
    รูปร่างภายนอก : สีตา #A39A7E | ตาเรียวทรงไข่
                              สีผม #CFC8BF | ผมยาวตรงถึงกลางหลัง มีหน้าม้ายาวปรกถึงโหนกแก้ม จึงบังตาทำให้มันแซกไปข้างใดข้างหนึ่ง
                              สีผิว #FFF6EF
    ประวัติ : ตั้งแต่จำความได้ก็อยู่กับแม่แค่สองคน เธอไม่เคยถามถึงพ่อเพราะเวลาถามทีไรแม่ก็มักจะแสดงท่าทีหงุดหงิดอยู่เสมอ ฐานะของเธอสองคนไม่ดีนักแต่ก็พอมีกินมีใช้อยู่ทุกวัน มีที่ซุกหัวนอนไม่ต้องไปนอนข้างถนนอย่างขอทานหรือพวกไร้บ้าน เธอได้รับการศึกษาถึงแค่เกรด 9 เท่านั้น (ม.3) เธอออกมาช่วยแม่ทำมาหากิน ถึงแม้เธอจะมีความฝันที่อยากจะเป็นวิศวะกรรมก็ตาม เธอเป็นเด็กหัวดีและสอบชิงทุนได้ แต่เธอยอมสละสิทธิ์เพื่อที่จะออกมาช่วยแม่ทำงาน 
                   จนเธออายุได้ 17 ปี แม่ก็แต่งงานใหม่กับผู้ชายคนหนึ่งที่ฐานะการเงินดีคนหนึ่ง เขาเป็นผู้ชายวัยกลางคนที่เหมือนผู้ใหญ่ใจดีคนหนึ่ง เธอเชื่อแบบนั้นจนกระทั่งในคืนหนึ่งเธอถูกข่มขืนโดยพ่อคนใหม่ เธอกรีดร้องและอ้อนวอนเขาทั้งน้ำตา หวังให้เขาเห็นใจ แต่ไม่.. ทุกอย่างเริ่มต้นในคืนนั้น เมื่อเช้าวันใหม่มาถึง เธอตระเกียกตระกายไปหาแม่พร้อมกันเล่าให้ฟังทั้งน้ำตา ทั้งสัมผัสและเสียงกระซิบของมันยังตามหลอกหลอน เธอหวังว่าแม่ของเธอจะทำอะไรได้บ้างแต่ไม่เลย.. แม่ของเธอเมินเฉยและหาว่าเธอไปยั่วยวนเขาก่อน เธอปฎิเสธทั้งเสียงกรีดร้อง แต่ก็ไม่มีอะไรตอบกลับมา ในตอนนั้นเธอเห็น ท่ามกลางม่านน้ำตาที่เอ่อล้นของเธอ สายตาที่เธอเห็นคือสายตาที่แม่คนหนึ่งมองมาที่ลูกราวกับมองดูสัตว์ที่กำลังถูกเชือด เธอจุกจนพูดไม่ออก น้ำตาเหมือนจะทะลักออกมาแต่กลับแห้งเหือด เธอเจ็บทั้งกายและใจ คนที่รักและเชื่อใจมาตลอดกลับเป็นคนที่ทรยศเธอเสียเอง
                    เธอกลับไปที่ห้อง แต่ภาพในคืนนั้นยังฉายชัดอยู่ในหัว เธอกรีดร้องพลางทำลายทุกอย่างในนั้นราวกับคนบ้า เธอรังเกียจเตียงที่เธอถูกบังคับให้นอนไปกับมัน เกลียดแจกันที่เธอมองยามที่เธอถูกขืนใจ เกลียดทุกๆอย่างที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้!! เธอรังเกียจและขยะแขยงตัวเอง เด็กสาวเคลื่อนตัวไปที่ห้องน้ำและจึงแช่ตัวในอ่างใบใหญ่ หวังให้สายน้ำช่วยชะล้างมลทิน เธอสัมผัสได้ถึงขอบตาที่ร้อนผ่าว ภาพเหล่านั้นวนเวียนไปมาเป็นฉากๆราวกับภาพยนต์ฉายซ้ำ เธอขัดร่างกายตัวเองด้วยหินขัด ขัดให้แรงกว่านี้ ล้างมันออกไปให้หมด ! สัมผัสน่ารังเกียจ ผิวกายน่ารังเกียจ คำพูดที่หลอกหลอนเธอวนไปมา เธอขัดจนผิวถลอก เลือดสีแดงฉานค่อยๆซึมออกมา แต่เธอไม่หยุด พลันได้ยินเสียงโวยวายดังใกล้เข้ามา เธอเห็นมันพังประตูเข้ามา และสั่งให้คนรับใช้จับตัวเธอไว้ เธอกรีดร้องและดิ้นไปมา ทันใดนั้นเธอเห็นสายตาของมันมองมาที่เธออย่างรังเกียจเล็กน้อยเมื่อเห็นบาดแผลบนตัวเธอ เธอนิ่งงันไปซักพักแต่ก็นานพอที่จะทำให้พวกคนใช้ฉีดยาสลบใส่เธอ
                    เธอตื่นมาพร้อมกับพบว่าข้าวของต่างๆหายไป พวกเขาย้ายเธอมาที่ห้องๆหนึ่ง เป็นห้องสีขาวล้วนทั้งหมด ไม่มีแม้แต่ข้าวของเครื่องใช้ เตียงสีขาวเหมือนเตียงผู้ป่วย พวกเขาปฎิบัติกับเธอเหมือนกับว่าเธอเป็นคนบ้า ในใจลึกๆเธอหวังว่าให้เธอเป็นบ้าไปซะเลยจะดีกว่าต้องมาจำทุกอย่างได้แบบนี้ ทันใดนั้นเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น มันมองมาที่เธอพลางพูดอะไรบางอย่าง เธอไม่สนใจที่จะฟัง เธอเห็นสายตาของมัน ไม่ใช่สายตารังเกียจต่อไป มันเป็นสายตาของความกระหาย เธอตัวสั่นเทาแม้กระทั่งตอนที่มันจากไปแล้ว เธอกอดตัวเองพลางขบคิดอย่างกระวนกระวาย พลันภาพตอนที่มันมองมาที่แผลของเธอด้วยความรังเกียจก็ฉายเข้ามาในหัว คิดได้ดังนั้นเธอจึงเริ่มลงมือกรีดและข่วนไปที่ผิวหนังตัวเอง เลือดค่อยๆซึมออกมาอีกครั้งจากแผลเก่าและแผลใหม่ เธอเจ็บแต่แบบนี้ยังซะกว่าเป็นของเล่นให้กับมัน อีกครั้งที่เธอได้ยินเสียงคนกีดร้องด้วยความตกใจจากหน้าประตุ เป็นหญิงรับใช้คนหนึ่งที่นำอาหารมาให้ ก่อนจะตะโกนเรียกคนอื่น และเรื่องราวก็วนลูป เธอถูกฉีดยาสลบอีกครั้ง
                    เธอตื่นมาพบกับเล็บที่สั้นกุด พวกเขาป้องกันไม่ให้เธอทำร้ายตัวเองอีก แต่เมื่อพบว่าตามตัวของเธอมีแต่บาดแผลเธอก็ระบายยิ้มออกมาด้วยรู้ว่ามันต้องไม่พิศวาทเธอตอนนี้แน่ๆ แต่เธอก็ดีใจได้ไม่นาน เพราะแผลนี้ต้องมีวันหาย เธอคิดแผลการ..
    เธอจะฆ่าตัวตาย
                     เธอนำเชือกที่แอบหยิบมาจากข้างนอกและตัดสินใจผูกคอตัวเองกับพัดลมเพดาน เธอรับรู้ได้ถึงอากาศที่กำลังหายไป ลำคอร้อนผ่าวลามขึ้นมาเรื่อยๆ พลันรู้สึกได้ถึงน้ำตาที่ไหลออกมา เธอยังไม่อยากตาย ! เธอต้องการมีชีวิตอยู่ ! เธอยังมีที่ที่ต้องการไป อยากจะกินของอร่อยๆ อยากจะหัวเราะ อยากจะร้องเพลง อ่านหนังสือที่เคยอ่านค้างไว้ แต่เธอไม่อยากใช้ชีวิตแบบนี้ แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว ความทรมาณนี้กัดกินเธอมากเกินไป เหตุผลที่เธออยากจะมีชีวิตอยู่ต่อเบาบางลงเมื่อเทียบกับสิ่งที่ต้องเจอ พลันเธอปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาแผ่วเบา เธอยกยิ้ม พลางคิดว่าการจะตายนี้มันใช้เวลานานเหลือเกิน นานมากพอที่จะทำให้ความทรงจำต่างๆฉายซ้ำไปมาในหัว ภาพที่เธอเคยหัวเราะไปกับเพื่อนตอนไฮสคูล ภาพที่แม่และเธอมีความสุขด้วยกัน รอยยิ้ม เสียงหัวเราะหรือแม้กระทั่งน้ำตากำลังประทุเข้ามาในหัว ถ้าฉันตายไปจะมีใครเสียใจรึเปล่า? เธอคิดอย่างขบขันแม้กำลังจะตาย แต่แล้วก็มีภาพของใครบางคนฉายเข้ามาในหัว เด็กผู้ชายอายุมากกว่าเธอราว1-2ปี เขาหน้าตาเหมือนกับเธอทั้งสีผม แม้กระทั่งหน้าตา พลันภาพทุกอย่างก็กระแทกเข้ามา เธอจำได้แล้ว เธอมีพี่ชาย! 
                     คิดได้ดังนั้นเธอก็รู้สึกถึงความหมายที่จะมีชีวิตต่อ เด็กสาวดิ้นรนพยายามใช้เท้าตะเกียยตระกายให้ถึงพื้น แต่ไม่ได้ผล เธอจะตายแล้วจริงๆ เธอพยายามจะเปล่งเสียงกรีดร้อง แต่ลำคอกลับแห้งผาก ไม่ ! เธอไม่อยากตาย !!
                     พลันเสียงบางอย่างขาดดังกระทบโสตหู รับรู้ได้ถึงแรงกระแทกเมื่อตัวของเธอถึงพื้น เธอไอออกมาอย่างมึนงง ก่อนจะสูดอากาศเข้าไปจนสำลัก ร่างกายสั่นเทาเมื่อรับรู้ได้ว่าเธอเฉียดความเป็นความตาย เธอกระพริบตาเพื่อไล่น้ำตาที่กำลังเอ่อล้นออกมา พลางเหลือบไปเห็นเชือกที่ขาด เธอหอบหายใจอย่างรุนแรงพลางกุมมือตัวเองไว้ที่อก หัวใจเต้นกระหน่ำจนกลัวว่ามันจะกระเด้นออกมา นี้ต้องเป็นสัญญาณจากพระเจ้าที่ให้เธอตามหาพี่ชายแน่!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×