ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Behemoth เทพอสูรคลั่ง

    ลำดับตอนที่ #6 : Sector 9

    • อัปเดตล่าสุด 9 ต.ค. 56


    บทที่6 Sector 9 

                เป็นเวลากว่า 13 ปีแล้วที่เอ็นถูกมนุษย์จับขังไว้ในเกาะที่เป็นดั่งคุกนรก หนาแน่นที่สุดและอันตรายที่สุด เต็มไปด้วยสัตว์ดุร้าย นานาชนิดที่อันตรายยิ่งกว่าสัตว์ในป่าอสูรเสียอีก อันที่จริงเอ็นควรจะถูกประหารชีวิตไปแล้ว แต่ว่าอลิซอัศวินเด็กหญิงเป็นผุ้ขอชีวิตเอ็นเอาไว้ แม้นั่นจะหมายถึงว่าอลิซจะต้องถูกจำคุกอยู่ในเกาะ Sector 9 เช่นเดียวกัน ที่ว่าเกาะนี้เป็นคุกที่หนาแน่นที่สุดไม่ใช่การกล่าวเกินจริงแต่อย่างใด เรือรบกว่า50ลำคุ้มกันอยู่รอบเกาะนี้เรื่องที่จะแอบเล็ดลอดโดยไม่ให้เรือรบสังเกตุได้นั้นไม่มีทางเป็นไปได้เลย เพราะอะไรนั้นไม่มีใครรู้แต่ไม่เคยมีใครหนีรอดออกไปได้มาก่อน ยิ่งจะบุกฝ่าวงล้อมเข้าไปช่วยคนในนั้นยิ่งเป็นไปไม่ได้ เข้าได้แต่ออกไม่ได้ มันจึงเป็นคุกที่แน่นหนาที่สุดในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว

                นานมากแล้วที่ผมถูกขังอยู่บนเกาะนี้ ป่านนี้ทุกคนจะเป็นยังไงกันบ้างนะ ราชาอสูร โฟลเก้ และ ลามูส จริงสิ พ่อกับแม่ พวกท่านคงจะรู้ข่าวแล้วสินะที่ผมถูกจับมาที่นี่ จนถึงตอนนี้ผมก็อายุ 17ปีแล้ว สงครามจะเป็นยังไงกันบ้างแล้วนะ ถึงจะมีมนุษย์มาทุกๆปีแต่ก็บอกข่าวแค่ยัยอลิซคนเดียวเท่านั้นนั่นแหละ ไม่มีทางบอกผมหรอก แต่ถึงผมจะพูดโน่นพูดนี่แต่ก็ต้องขอบคุณอลิซล่ะ เพราะว่าเธอทำให้ผมไม่ต้องถูกประหารชีวิต ตอนนี้ผมอยู่ในบ้านที่สร้างขึ้นมากับอลิซทำจากกระดูกสัตว์ สวยงามไม่เลวเลยทีเดียวมี2ห้องนอน 1ห้องครัว 2ห้องน้ำ มีห้องนั่งเล่นด้วย ซึ่งยังมีอาคารเอนกประสงค์ กับลานฝึกฝนของผมเองด้วย แต่ว่าอลิซไม่รู้เรื่องที่ผมแอบสร้างลานฝึกฝนหรอกนะ ไม่งั้นเรื่องนี้ก็เข้าหูพาลาดินน่ะสิ ขณะนี้ผมกำลังนอนเอกเขนกอยู่บนเตียงของผม พลางลูบเสื้อคลุมขนหมาป่าสีดำเงาของผมไปด้วย อยู่ที่นี่ก็เงียบสงบดีนะ..........
               
    เห้! เอ็นฉันหิวแล้ว......ความสงบของผมหยุดลงในทันทีเมื่อตอนนี้ อลิซเปิดประตูห้องผมเข้ามาอย่างแรงโดยไม่มีการเคาะประตูแต่อย่างใดเลย ผมหันหัวไปมองอลิซด้วยสายตาที่เหมือนจะพูดว่า แล้วยังไง อลิซเธอใส่ชุดอัศวินสีขาวโพลน ห้อยดาบสีทองอร่ามไว้2ข้าง ดูเหมือนนั่นจะเป็นของตกทอดประจำตระกูลล่ะมั้งนะ สายตาของผมดูเหมือนจะสื่อความหมายไม่ได้แฮะ ไม่สิน่าจะสื่อได้แหละ แต่ว่าเธอกลับมองตอกกลับมาด้วยสายตาที่ว่า ถึงตายนายก็ต้องไปหาอาหารมาให้ฉันกินซะ เหอะ ผมจะทำอาหารให้กับมนุษย์งั้นเหรอ เรื่องนั้น......

                ครับๆ ไปเดี๋ยวนี้นี่แหละ.....เรื่องนั้น ต้องทำอยู่แล้วล่ะ ผมพูดพลางเปิดหน้าต่างข้างๆเตียงที่ผมนอนอยู่ จากนั้นก็กระโดดลงไปข้างล่าง ตุบ! กระโดดลงมาถึงพื้นได้อย่างสวยงาม
               
    เอ็น ไปเอาตัวอะไรมาก็ได้นะขอแค่ไม่ใช่แมลงก็พอ อ้อ อย่าเอาจ่าฝูงมาล่ะเนื้อมันแข็งเกินไป เดี๋ยวฉันจะเตรียมเครื่องปรุงไว้รอนายกลับมาละกันนะ อลิซตะโกนลงมาด้วยน้ำเสียงสดใส ราวกับเสียงที่ดังมาจากนางฟ้าก็ไม่ปาน
               
    อา ได้เลย ผมเดินเข้าไปในป่าที่นี่เต็มไปด้วยสัตว์ต่างๆ นานาชนิดแต่ว่าพวกสัตว์กินเนื้อที่กล้าเข้าใกล้ผมนั้นน่ะในป่านี้ไม่ค่อยจะมีสักเท่าไรนักหรอก เพราะว่าพวกสัตว์ป่าคงจะมีพลังนั้นน่ะนะ พลังจับไออสูรยังไงล่ะ อสูรเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ค่อยจะมีสัตว์ที่ไหนอยากจะเข้าใกล้นักหรอก เพราะว่าเผ่าอสูรเป็นเผ่าพันธุ์ของนักล่า แล้วยิ่งเป็นอสูรที่มีพลังแกร่งกล้าว่ากันว่า แค่คนคนนั้นทอดสายตาไปจะไม่มีสัตว์ตัวใดอยู่ในสายตาของเขาคนนั้นเลย นั่นแหละเป็นความแข็งแกร่งที่ผมตั้งเป้าหมายเอาไว้ ผมจะได้ออกจากที่นี่ไปเสียที

                            ครืน!!

              เสียงอะไรน่ะ ผมหันกลับไปก็เจอกับสัตว์ขนาดมหึมา.......เอ ถ้าจำไม่ผิดมันอยู่ในป่าส่วนที่ลึกที่สุดไม่ใช่หรือ แล้วมันมาโผล่ที่นี่ได้ยังไงกัน เอาเถอะเอาเจ้านี่ละกัน ชั่วพริบตานั้นผมปล่อยจิตสังหารออกมาจนถึงขนาดที่เจ้าสัตว์ประหลาดนั้นรับรู้ถึงความกลัวที่สุดในชีวิต แต่ว่าผมคงไม่ยอมปล่อยมันไปหรอก เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะเจ้านี่จะสามารถทำให้ผมไม่ต้องออกไปล่าสัตว์สักพักใหญ่เลยน่ะสิ เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้ว ผมชักมีดที่อยู่ทั้งขา2ข้างผมขึ้นมา แล้วเข้าจู่โจมอย่างรวดเร็ว จู่โจมในครั้งเดียวจนคอของเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นขาดสะบั้นลงกองกับพื้น ฆ่าได้แล้วรีบเอากลับไปให้ยัยอลิซดีกว่า ผมค่อยๆลากเจ้าตัวอะไรสักอย่างนี้ไป อืมเจ้านี่ดูท่าน่าอร่อยด้วยสิ รีบๆกลับดีกว่า ผมมาถึงหน้าบ้านอย่างรวดเร็ว แต่ไม่พบวี่แววของอลิซเลย ผมเลยไปหารอบๆบ้านในที่สุดก็เจออลิซกำลังยืนคุยกับใครบางคนอยู่ คุยอะไรกันนะผมแอบอยู่หลังลังไม้เพราะเห็นท่าทางไม่น่าไว้ใจของอลิซ ซึ่งตอนนี้กำลังคุกเข่าอยู่มือขวาประทับอยู่ที่หน้าอกซ้าย ถ้าจำไม่ผิดนั่นคือท่าทางการคำนับต่อพาลาดิน หรือว่านั่นกำลังคุยกับพาลาดินอยู่งั้นเหรอ ผมค่อยๆเงี่ยหูฟังที่พวกเขากำลังพูดกัน

                ......ค่ะ รับทราบค่ะ ถ้าหากเขาไม่ยอมร่วมมือด้วยให้จัดการทันที อะไรนะ ยัยอลิซกำลังพูดถึงใครกันอยู่น่ะ หรือว่าจะเป็นเรา ตอนนั้นเองอลิซลุกขึ้นแล้วทำท่าจะเดินกลับมา แย่แล้ว! ผมจึงรีบวิ่งกลับไปที่หน้าบ้านทำเป็นว่าเพิ่งกลับมาถึงละกัน

                อ้าวเอ็น นายกลับมาแล้วเหรอไวจังนะเอาของกินกลับมาด้วยรึ.......เปล่า เมื่อผมกลับมายืนข้างเจ้าสัตว์ประหลาดแล้วอลิซก็มาถึงพอดี และทำหน้าถอดสีในทันทีที่เห็นเจ้าสัตว์ประหลาดนี่

                อา กลับมาแล้ว ก่อนอื่นต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

                นั่นมันตัวอะไรน่ะ

                ไม่รู้เหมือนกันแต่มันมาหาเรื่องฉันก่อนนะ

                เห้อนายนี่นะเอากลับมาทั้งๆที่ไม่รู้ว่ากินได้รึเปล่าเนี่ยนะ บ้าจริงๆเลย อลิซเอามือกุมขมับแล้วส่ายหัวไปมา อะไรกันน่ะท่าทางแบบนั้นอุตส่าห์ไปหาของกินมาให้แท้ๆนะ

                เอาเถอะ เดี๋ยวฉันจะปรุงมันให้เองละกัน แต่ว่านะเจ้านี่ท่าจะหนังเหนียวน่าดูนายตัดคอมันได้ยังไงล่ะเนี่ย อลิซพูดพลางใช้มีดที่ไม่รู้ว่าเอาออกมาตอนไหนลองแทงดู แต่ผลปรากฎว่ามันกลับทำได้แค่ทำให้หนังเจ้าตัวนั้นยุบตัวลงไปเหมือนเอานิ้วจิ้มลงในฟองน้ำแค่นั้นเอง แต่ไอ้คำถามสิน่าปวดหัวผมจะบอกได้ยังไงเล่าว่าผมครูพักลักจำมาจากตัวอลิซเองน่ะ ไอ้ท่าที่รวบรวมพลังมาไว้ในมือแล้วลับให้มันเฉียบคมขึ้น ช่างเป็นวิชาที่อันตรายดีจริงๆน้า เอายังไงดีล่ะเนี่ย

                ไม่รู้เหมือนกันสิ แค่ฟันมันฉับๆมันก็ขาดแล้วนี่น่า เออตอบแบบนี้ก็ง่ายดีนี่หว่า เรานี่ก็ฉลาดเหมือนกันแฮะ ฮ่าฮ่าฮ่า

                เห้อ นายนี่น้าเป็นแบบนี้ประจำเลย นายไปพักก่อนไปเพราะดูท่าจะต้องทำอีกนานเลยล่ะนะ เธฮพูดพลางทำมือไล่ไปชิ้วๆ ทนไว้ๆยังไงเธอก็เป็นผู้มีพระคุณ ใช่ผมพูดกับตัวเองแบบนี้มาตลอดกว่า 13 ปี ทั้งๆที่บุญคุณช่วยให้ผมมีชีวิตอยู่ต่อไป มันน่าจะหมดไปนานแล้วก็ตาม แต่เพราะอะไรกันนะที่ใจผมมันรู้สึกอบอุ่นเวลาได้อยู่ใกล้ๆกับเธอ บางทีคำว่าบุญคุณแล้วสำหรับผมมันก็อาจจะเป็นเพียงข้ออ้างก็ได้ และบางทีผมก็เคยเกิดความคิดบ้าๆอย่างนึงขึ้นมาว่า อยากอยู่กับเธอตลอดไปแม้กระทั่งชีวิตก็ยอมยกให้ได้ มันเป็นเพราะอะไรกันนะ ผมช่างไม่เข้าใจจิตใจตัวเองซะจริงๆ แต่ยังไงซะมันก็แค่ความคิดเพียงชั่ววูบเดียวเท่านั้น เพราะไม่ว่าจะอย่างไร อสูรกับมนุษย์ก็ดูท่าจะไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้เลย 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×