ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Behemoth เทพอสูรคลั่ง

    ลำดับตอนที่ #16 : กลับมาแล้ว

    • อัปเดตล่าสุด 18 ต.ค. 56


    บทที่16 กลับมาแล้ว

                ยามเช้าที่ตะวันสาดแสงส่องมาแตะต้องผืนหญ้า สะท้อนกับหยาดละอองน้ำทำให้ดูระยิบระยับ และมีทะเลสีฟ้าอยู่เป็นฉากหลังทิ้งเกาะนรกไว้เป็นเพียงอดีต แล้วก้าวเดินต่อไปข้างหน้า

                ขณะนี้ตัวผมเอ็นไรเมียวจิก็กำลังกลับสู่บ้านเกิดเมืองนอน ความรู้สึกที่ตื่นเต้นและตื้นตันจนทำให้หัวใจของผมสั่นอย่างไม่เป็นจังหวะ

                เอ็นอีกไม่นานก็ถึงแล้วล่ะนะ จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยหน่อยสิ อ้อ ผู้ติดตามทั้ง 2 ของนายน่ะเป็นใครบ้างก็ช่วยแนะนำหน่อยสิ อ้อแน่นอนแฟนนายด้วยนะ เสียงที่ยียวนกวนประสาทของลามูสนั้นดังขึ้น ทำเอาตัวผมสะดุ้งตกใจในคำพูดสุดท้าย

                ซึ่งในเวลาไม่นานหลังจากที่ลามูสพูด ก็ถูกอลิซที่เกาะอยู่บนหลังผมถึงเมื่อสักครู่กระโดดออกไปถีบ

                ใครเป็นแฟนเอ็นกันล่ะยะ เป็นแค่อสูรแท้ๆอย่ามากวนประสาทฉันนะ อลิซตะโกนออกมาแล้วยังกระทืบซ้ำลงไปที่ลำตัวของลามูสอีกหลายครั้ง

                ฮะฮะ ลามูสเอ๋ยเจ้าจะเจอแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆนะถ้ายังพูดแบบนั้นอยู่อีก

                ท่านเอ็น ข้าขอแนะนำตัวกับพวกพ้องของท่านก่อนนะขอรับ เฟนริวก้าวออกมาแล้วหันหน้าไปทางทุกคน

                ตามสบายเลย

                ข้านั้นมีนามว่า เฟนริว เจ้าชายแห่งเผ่าพันธ์หมาป่านรก ข้ารับใช้ของท่านเอ็นที่สูงส่ง และ ตัวข้านั้นเป็น ครึ่งอสูร ครึ่งสัตว์เทพ เฟนริวเอ่ยออกมาแวบนึงผมสาบานได้ว่าอลิซหันมาเหลือบมองแวบนึง

                เมื่อเฟนริวเอ่ยจบแล้ว ก็กลับมายืนอยู่ด้านหลังของผม จากนั้นเทียร์ที่ยืนอยู่ข้างๆผม ก็เดินเอ่ยแนะนำตัวบ้าง

                คิคิคิ เอ็นเจ้าก็มีสหายที่ดีเหมือนกันนี่น่า เอาล่ะข้าแนะนำตัวบ้างละกัน ข้านั้นมีนามว่าเทียร่า ชาออส อ้อพวกเจ้าอย่าเรียกข้าว่าเทียร์นะเดี๋ยวหาว่าไม่เตือน เรียกชาออสก็ได้ จริงสิๆต้องบอกด้วยสินะว่าข้านั้นเผ่าอะไร สัตว์เทพ มังกร สิ้นคำพูดของเทียร์เธอก็แวบมาอยู่ที่ข้างหลังผมแล้ว อ้าปากเล็กน้อยเผยฟันสีขาวแวววาออกมาแล้วกัดงับเข้าที่คอของผม

                ลามูส โฟลเก้ ไอริช อลิซ ที่เห็นดังนั้นก็ตั้งท่าจะพุ่งเข้ามาลากเธอออกไป แต่ผมยกมือห้ามไว้ก่อน เพียงไม่นานเธอก็ถอนริมฝีปากออก หลงเหลือไว้เพียงรอยเลือดที่อยู่บนคอของผมเท่านั้น ผมค่อยๆเอาขนหมาป่ามาปิดไว้ ทันทีที่ผมจับความรู้สึกสงสัยบนใบหน้าของทุกคนได้ เทียร์ก็หัวเราะออกมาแล้วก็เดินกลับมาอยู่ที่ข้างตัวของผม

                เรื่องปกติ อลิซตาเธอแล้ว

                เฮอะ ฉัน อลิซ ชาเร็น อัศ....ไม่สิ อดีต อัศวินขั้น 4 ผู้ร้ายหลบหนี จะเรียกอะไรก็แล้วแต่เถอะพวกอสูรชั้นต่ำ สิ้นคำพูดที่เป็นประโยคชวนหาเรื่อง ไม่สิคงมีเรื่องกันไปแล้วล่ะถ้ายังไม่เห็นแก่หน้าของผมล่ะนะ

                อลิซเธอพูดแบบนี้อีกแล้วนะ ยังไงเธอก็มีส่วนหนึ่งของอสูรอยู่ในตัวก็เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้นะผมพูดขึ้น ซึ่งอิลซก็เบือนหน้าหนีไปทันที

                เอ็นไปได้แล้ว เราจะเข้าเขตป่าอสูรแล้ว โฟลเก้พูดออกมา ก็ทำให้ขบวนการเดินทางของเรานั้นได้สาวเท้าเข้าไปยังป่าอสูร

                กลิ่นที่เต็มไปด้วยพืชไม้ใบหญ้าที่แตกต่างจากที่อื่น พร้อมทั้งมีกลิ่นคาวเลือดลอยปะปนมากับอากาศจางๆ นี่แหละกลิ่นที่ชวนน่าคิดถึง กลิ่นของป่าอสูร

                ทันทีที่ผมเข้ามาในป่าอสูร ผมก็พลันเกิดความรู้สึกที่ไม่ได้สัมผัสมานาน ความรู้สึกที่อยากกระโดดปีนป่ายอยู่บนต้นไม้ ผมจึงทำตามความรู้สึกนั้นในทันที กระโดดขึ้นไปยังยอดต้นไม้ที่สูงกว่า 10 เมตร กระโจนไปต้นข้างๆ อย่างรวดเร็วและว่องไว เพียงไม่นานสัตวย์ในป่าก็เริ่มรู้สึกผิดสังเกต ก็ค่อยๆเดินออกมาดูราวๆกับจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อผมลองมองดูรอบๆ ทั้งผมทั้งลามูส โฟลเก้ ไอริช และแม้กระทั่งเฟนริวก็อยู่บนยอดต้นไม้ ณ ข้างล่างนั้นก็มีเพียงอลิซและ เทียร์ที่กำลังสนทนาอะไรสักอย่างอยู่

                ทำไมพวกเขาถึงทำแบบนั้น และแม้แต่ฉันก็ยังอยากจะทำแบบนั้นล่ะเทียร่า อลิซพูดขึ้น

                หึหึ ไม่แปลกหรอกอลิซ สัญชาตญาณของอสูรทุกตนเป็นแบบนั้น ความรู้สึกยามเมื่อไม่ได้กลับบ้านมานานแสนนาน ป่าอสูรเป็นพื้นที่สำหรับอสูร ความรู้สึกเหล่านั้นจะเปล่งออกมา แม้กระทั่งเจ้าหรือเฟนริวก็ยังเกิดความรู้สึกแบบเดียวกัน เหมือนราวกับว่า ป่ากำลังบอกว่า ยินดีที่ได้กลับมาอะไรอย่างนั้น เจ้าปล่อยตัวไปตามสัญชาตญาณเถิด เมื่ออลิซได้ฟังคำพูดของเทียร์แล้วก็อึ้งไปสักพักแล้วก็ยิ้มออกมา แล้วก็กระโดดขึ้นมาบนยอดต้นไม้อย่างรวดเร็ว เสมือนกับว่าพวกเรากำลังเล่นวิ่งไล่จับกันอยู่ กระโดดไปมาอย่างรวดเร็ว

                ซึ่งเทียร์เห็นแบบนั้นก็หัวเราะอย่างเริงร่า แล้วก็สยายปีกมังกรออกมาแล้วบินขึ้นสูงเสียดฟ้า

                โฟลเก้ ลามูส เรามาดูซิว่าใครจะถึงก่อน เมื่อ 13 ปีก่อนฉันตามนายไม่ได้เลยนะโฟลเก้ ผมพูดขึ้น

                เอาสิ เอ็นฉันอยากรู้จริงๆเลยว่า ไปอยู่บนเกาะนรกนั้นแล้วนายได้อะไรกลับมาบ้าง ลามูสพูดขึ้นพร้อมกับหยุดยืนอยู่ที่ยอดต้นไม้ต้นหนึ่ง

                ได้สิ แม้โฟลเก้จะพูดน้อยแต่ผมก็เห็นได้ว่า โฟลเก้กำลังยิ้มอยู่ พร้อมกับที่หยุดอยู่บนต้นไม้ต้นใกล้ๆ ตอนนี้พวกเราสามคนยืนอยู่บนยอดต้นไม้ที่เป็นขนาบเดียวกันหันหน้าไปทางเดียวกัน หันหน้าเข้าสู่เมืองอสูร

                พร้อมนะ ผมพูดขึ้น

                อา แม้จะเป็นการแข่งย่อมๆ ลามูสพูดขึ้น

                เราก็จะขอให้คำสัตย์ว่า โฟลเก้เอ่ย

                จิตแห่งอสูรสถิตอยู่กับเรา สิ้นคำที่ผมพูดออกมา ตัวผมก็พุ่งตัวกระโดดออกมาด้วยความเร็วสูงสุด ยอดต้นไม้ทั้งสามหักโค่นลงมาในทันทีที่ตัวของพวกเราหายไปจากโสตประสาทของไอริช อลิซ

                พุ่งตัวออกมาโดยที่ไม่จำเป็นต้องแตะยอดต้นไม้อื่นอีกเลย เพียงไม่นานก็เห็นเมืองอสูรที่อยู่ลิบๆ

                เอ็นนายเร็วขึ้นนะ แต่ว่าไม่พอหรอก โฟลเก้พูดขึ้นแล้วก็มีแท่นน้ำแข็งปรากฏขึ้นกลางอากาศ พริบตานั้นโฟลเก้ก็ใช้น้ำแข็งเป็นแท่นเหยียบเพิ่มความเร็วให้ตัวเอง จนแซงหน้าไปอย่างรวดเร็ว

                อย่าไปยอมเซ่ เอ็นฉันไปก่อนล่ะ สิ้นเสียงโฟลเก้ก็หยิบปืนคู่ออกมา แล้วยิงไปด้านหลังปรากฏเป็นไฟกลายเป็นไอพ่นพุ่งไปข้างหน้า ตามโฟลเก้ไปติด

                ขี้โกงนี่น่า ได้ ผมเอ่ยขึ้นก็ฟันมือไปด้านหน้ากลายเป็นรอยแยกของอากาศออกมา

                วิชาแหงเทียร์ แหวกมิติ ผมเข้าไปในช่องมืดดำนั้น มาโผล่อีกทีก็หน้าเมืองอสูร แต่ว่าความเร็วนั้นไม่ได้หยุดไปด้วย ซวยแล้ว

                บรึม!! เกิดหลุมยุบจากโดยตัวผมเป็นศูนย์กลางอยู่ที่ด้านหน้าเมืองอสูร ไม่นานนักโฟลเก้ ก็ลอยมาถึง ตามมาด้วยลามูส

                ฉันคนแรก ผมพูดขึ้น

                ชิเล่นใช้วิชาสายความมืดนี่น่า ลามูสเอ่ย

                เก่งขึ้นมากเลยนี่เอ็น พอโฟลเก้ชมแล้วรู้สึกดีใจแฮะ

                นี่ฉันมารอพวกนายตั้งนานแล้วนะ จู่ๆเสียงที่นุ่มลื่นของเทียร์ก็ดังขึ้น พอฝุ่นจางหายไป ก็พบเจอกับเทียร์ที่กำลังนั่งเล่นอยู่พร้อมกับที่ อลิซกำลังมองดูรอบๆอย่างสนอกสนใจ เฟนริวก็หมอบอยู่ข้างๆ ส่วนไอริชก็ค่อยเดินอย่างสงบเสงี่ยมมาเกาะอยู่ที่ข้างๆผมตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่ทราบได้

                นี่คุณเธอไม่วิตกกังวลเลยเรอะ ผมค่อยๆมองดูเมืองอสูรที่ไม่ได้กลับมาซะนาน จากนั้นไม่นาน ผมก็ได้ยินเสียงแตรเฉลิมชัย ประตูเมืองค่อยๆเลื่อนลงมา สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาคือชาวเมืองอสูรที่กำลังรายล้อมไปหมดอยู่ภายในเมือง ถูกกั้นไว้ด้วยทหาร ถือธงชัยเป็นทางยาวทอดตรงไปยังใจกลางเมือง

                ยินดีต้อนรับกลับมานะเอ็น ไปกันเถอะ โฟลเก้พูดขึ้นแล้วเดินสาวเท้านำไปข้างหน้า

                นี่มันอะไรน่ะ ผมเอ่ยขึ้นอย่างตกใจ

                ฉลองให้กับการกลับมาของเทพอสูรไงเล่าไปถอะน่า สิ้นคำพูดของลามูส ผมก็เดินก้าวเข้าไปผ่านประตูเมือง

                ผมในที่สุดก็ได้กลับมา กลับมาถึงบ้านสักที

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×