ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Behemoth เทพอสูรคลั่ง

    ลำดับตอนที่ #10 : ออกล่าหมาป่า

    • อัปเดตล่าสุด 11 ต.ค. 56


     บทที่10 ออกล่าหมาป่า

                เมื่อเลือดหยุดไหลแล้วหยดลงมาเป็นหยดสุดท้าย ผมก็ทำการยกเนื้อส่วนของผมกับเทียร์ออกมาจากครัวแล้วไปวางไว้ที่โต๊ะกินข้าวซึ่งบัดนี้ มีเทียร์นั่งอยู่ก่อนแล้วด้วยท่าทีที่ดูกระหายสุดๆ เมื่อผมวางเสร็จแล้วก็เดินกลับเข้าไปในครัว แล้วยกเครื่องดื่มของเทียร์ออกมา ซึ่งเทียร์ก็ดูจะดีใจมาก

                โอ้ เอ็น เจ้าช่างรู้ใจข้าซะเหลือเกินนะ เธอพูดพลางค่อยๆจิบเลือดของผมอย่างเอร็ดอร่อย

                ผมถอนหายใจแล้วค่อยๆนั่งลงที่เก้าอี้ด้านตรงข้ามที่ตอนนี้มีเนื้อของผมวางไว้อยู่ ผมค่อยๆใช้มีดและส้อมหั่นออกมาเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วเอาใส่ปากอย่างเชื่องช้า เป็นพฤตืกรรมของพวกขุนนางของพวกมนุษย์ สาเหตุที่ผมต้องกินแบบนี้เพราะว่าถูกอลิซบังคับให้ทำแบบนี้มาตั้งแต่ตอนที่ถูกจับขังไว้ที่นี่จนมันกลายเป็นนิสัยไปเสียแล้ว

                เทียร์ แล้วอลิซล่ะ เมื่อผมเคี้ยวเสร็จผมก็เอ่ยปากถาม ซึ่งตอนนี้เทียร์ก็ทำพฤติกรรมเดียวกันเหมือนกับนายหญิงผู้สุงศักดิ์กำลังรับประทานอาหารอยู่ ถ้าไม่ติดที่ว่าสิ่งที่เธอกำลังจิบอยู้วล่ะก็ ผมคงเอ่ยปากชมไปแล้ว

                ไม่รู้เหมือนกันสินะ ทันทีที่เธอคนนั้นเดินลงมาถึงข้างล่างเธอก็รีบเร่งออกจากบ้านไปเลยน่ะ

                เห้อ แย่จริงๆ แต่ช่างเถอะ เทียร์ สรุปเธอจะเอาเครื่องนอนแบบฉันสินะถึงจะไปนอนห้องตัวเอง

                “ใช่สิ ข้าไม่ขอนอนที่นอนแข็งๆหรอกนะ ขนาดยัยอลิซอะไรนั่นเตียงยังเป็นของชั้นเลิศนี่น่า ข้าเป็นถึงเผ่าพันธ์อันยิ่งใหญ่ ไม่มีทางด้อยกว่าอยู่แล้วจริงไหมเผ่าพันธ์อันยิ่งใหญ่แล้วทำไมถึงมายุ่งเกี่ยวกับคนต่ำต้อยอย่างเราล่ะ ก็แค่ไม่อยากเสียหน้าก็เท่านั้นเองไม่ใช่รึไงกัน

                ได้ๆ งั้นเดี๋ยวฉันไปล่ามาให้ละกัน อ้อเห็นแบบนี้รู้สึกว่ายัยอลิซจะเอาของที่ฉันทำออกไปส่งขายให้พวกขุนนางมนุษย์ชั้นสูงข้างนอกด้วยนะ ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าจะระดับต่ำกว่ายัยนั่น คิดถึงก็รู้สึกเหมือนโดนหลอกยังไงก็ไม่รู้ ที่วันนึงจู่ๆอลิซก็จะมาสั่งให้ผมไปทำเครื่องเรือนเครื่องใช้มาให้ แล้วเมื่อผมทำมาให้ ของพวกนั้นก็จะถูกส่งออกไปนอกเกาะทุกๆครึ่งเดือน แต่มันก็ไม่ได้ลำบากอะรเลยไม่ปริปากบ่นแม้สักนิดเดียว

                โห เช่นนี้เจ้าก็รีบๆทำเถอะข้าขอตามไปดูด้วยละกันเธอพูดพลางเอาผ้าเช็ดปาก เช็ดที่ริมฝีปากเล็กน้อย ซึ่งเมื่อผมมองไปที่จานของเธอที่เคยมีเนื้ออยู่เต็มจาน แต่บัดนี้กลับไม่เหลือเลย อดคิดไม่ได้ว่าเธอกินหมดตั้งแต่เมื่อไร

                ผมเลยจัดการเนื้อที่มีอยู่ในจานผมให้เรียบร้อย ด้วยเวลาที่ไม่ถึง3นาที ก็ทานหมดแล้ว

                งั้นก็ไปกันเถอะ ผมลุกขึ้นแล้วนำจานไปเก็บไว้ในครัวอย่างรวดเร็ว แล้วผมก็วิ่งเข้าไปในป่าโดยที่มีเทียรตามมาอย่างติดๆ

                สิ่งที่ผมกำลังตามหานั่นก็คือ หมาป่าขนดำซึ่งเรียกได้ว่ามีอยู่ชุกชุมทั่วเกาะแห่งนี้ ขนที่ดูนุ่มนิ่มของมัน ที่จริงแล้วเปรียบเสมือนเกราะที่แข็งกล้า มีเพียงแร่ไม่กี่ชนิดที่สามารถแทงเข้าถึงเนื้อได้ แต่ทว่าการที่จะเก็บเอาขนหมาป่าดำให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์นั้น ค่อนข้างที่จะยากมาก ดังนั้นมีเพียงวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือ ตัดคอมันทิ้งซะ เพราะส่วนที่เชื่อมระหว่างหัวกับลำตัวนั้นเป็นส่วนที่มีขนน้อยที่สุด

                ในขณะที่ผมวิ่งอยู่ผมก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างกำลังล้อมพวกผมอยู่ หึ ผมแสยะยิ้มออกมาด้วยความยินดี สาเหตุก็คือไม่ต้องหาตัวให้ยุ่งยาก เพราะมันอยู่ต่อหน้าผมแล้ว พริบตานั้นผมก็หยุดนิ่งอยู่กับที่

                มีอะไรงั้นเหรอ เทียร์ถามขึ้น

                ถ้าอยากให้ขนมันสมบูรณ์ก็อย่าเพิ่งชวนคุยล่ะ หึหึ ผมพูดขึ้น โดยที่เทียร์ก็แปลกใจเล็กๆเช่นกันเพราะไม่เคยเห็นผมหัวเราะมาก่อน เพราะตอนที่ผมหัวเราะนั่นคือช่วงเวลาที่ผมตื่นเต้นมากที่สุดไงล่ะ!!

                พริบตานั้นก็มีหมาป่าตัวนึงกระโจนเข้ามาหาผม เขี้ยวสีขาวประกายทองยาวโค้สวยงามกัดอย่างเตมแรงมาที่แขนของผม ช่วงเวลาที่มันหลงดีใจคิดว่ากำจัดศัตรูของมันได้แล้วนั้น ก็เป็นช่วงเวลาที่มันได้หายไปจากโลก เพราะทันทีที่มันกัดเข้าที่แขนขวาของผม ผมก็ใช้แขนซ้ายกระซวกไปที่ลำคอของมันจนมันขาดใจตาย วิธีนี้เป็นอีกวิธีที่จะทำให้ขนมีสภาพสมบูรณ์ยิ่งกว่าการตัดคอมันเสียอีก

                หึหึ ตัวนี้ขนาดใหญ่กำลังดี เสียงหัวเราะดังออกมาจากในลำคอของผม โดยที่พวกหมาป่าที่เคยล้อมผมเอาไว้เริ่มแสดงอาการหวาดกลัว แต่ไม่ปล่อยให้หนีไปหรอก มีประมาณ 15 ตัวสินะ จ่าฝูงอยู่ไหม

                ผมสังเกตเห็นหมาป่าที่มีขนสีดำยิ่งกว่าตัวอื่นๆ และก็ตัวใหญ่กว่าอีกด้วย และสิ่งที่บ่งบอกว่าเป็นจ่าฝูงนั่นก็คือ หางมันโค้งงอขึ้นฟ้า ตัวนี้แหละที่ผมจะเอามาเป็นเสื้อตัวใหม่ของผม หึหึหึ

                ผมค่อยๆย่างก้าวไปหาจ่าฝูงตัวนั้นราวกับมัจจุราช ทันทีที่พวกมันเห็นขนหมาป่าดำที่ผมพาดเอาไว้ที่ไหล่ มันก็พุ่งเข้าโจมตีผมอย่างบ้าคลั่ง เพราะนี่คือขนของอดีตจ่าฝูงหมาป่าดำ ทันทีที่มันกระโจนเข้ามา ผมก็เอี้ยวตัวหลบไปได้แต่ทว่ามือขวาของผมที่คิดจะจบชีวิตมันซะตรงนั้นกลับขยับไม่ได้ เมื่อผมมองไปที่มือก็พบว่า มีหมาป่า2ตัวกำลังดึงแขนผมเอาไว้อยู่ เมื่อเห็นดังนั้น ผมเลยใช้เท้าซ้ายเตะตะวัดทั้ง2ตัวจนกระเด็นไปไกล โดยที่มันแทบจะตายในทันที เพราะโดนกระแทกที่หัวอย่างรุนแรง เมื่อผมหันกลับมาก็เห็นเขี้ยวสีขาวยาวโค้งพุ่งมาอีกคืบนึงก็ใกล้จะถึงตัวผม

                คลื่นอัดกระแทก ผมเกร็งพลังไปทั่วทั้งตัวจนปรากฏเป็นไอสีดำมืดกระแทกจนหมาป่าตัวนั้นกระเด็นไป

                โอ้ ทำได้ถึงขั้นนี้ตั้งแต่เมื่อไรเนี่ยเอ็น เทียร์เอ่ยออกมาซึ่งเมื่อผมหันไปดูต้นเสียง ก็เห็นเทียร์ในร่างมนุษย์ที่มีปีกมังกรสีดำบินอยู่เบื้องบน

                ตั้งนานแล้วล่ะแค่ไม่เคยใช้ ผมพูดไปพร้อมกับพุ่งไปหาตัวจ่าฝูง แต่กลับพบว่ามีหมาป่าอีก2ตัวเข้ามาขวางเอาไว้ เฮอะ ผมส่งเสียงอย่างไม่ยี่หระ แล้วใช้มือทั้ง2ข้างกระซวกไปที่คอของทั้ง 2 ตัวจนล้มลงไปกองกับพื้น

                อืมดูท่า ถ้าไม่จัดการลูกน้องให้หมดก็ฆ่าตัวหัวหน้าไม่ได้สินะ คิดได้แล้วผมก็หายตัวไปจากมโนภาพของเหล่าหมาป่า เมื่อผมกลับมาโผล่ที่เดิม หมาป่าอีก 10 ตัวก็ล้มลงไปกองกับพื้น ซึ่งเหลือแต่ตัวจ่าฝูงเพียงตัวเดียวเท่านั้น ทันทีที่ผมคิดจะเข้าไปปลิดชีวิตมัน มันก็อ้าปากออกมาแล้วทำในสิ่งที่ผมตกตะลึงมาก

                เจ้ามนุษย์เจ้าบังอาจมาก ที่ทำกับเหล่าลูกน้องที่น่ารักของฉัน เห้ย มันพูด! มันพูดได้!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×