ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] งานนี้...พี่ต้องมี...ลูก YulsiC yuri x sica

    ลำดับตอนที่ #72 : Chapter 72

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.27K
      1
      7 พ.ค. 56

     

    งานนี้...พี่ต้องมี...ลูก

     

    Chapter  72

     

    “ ดานี่...ทำไมออกไปเร็วจังวะ ”

    จียองออกมาจากห้องนอนของยุนอา ซึ่งตอนนี้เจ้าของห้องนั้นไปนอนอยู่ที่ลานจอดรถ ส่วนภายในห้องเป็นของสามีภรรยาคู่หนึ่ง ซึ่งได้มาอาศัยชายคาใบบุญของยุนอาเพื่อพรอดรักกัน ก็ไม่ได้รู้รายละเอียดของเรื่องนี้เท่าไหร่หรอกนะ แต่ก็เข้าใจว่ายงฮวากำลังช่วยดานี่อยู่ และเธอเองก็ต้องรีบตามหาดานี่ให้เจอ ยังไงก็ต้องตามยัยนางเอกเจ้าน้ำตานั่นให้ทัน ไม่อย่างนั้นมีหวังได้ดราม่าก่อนไปเรียกต่อยังต่างประเทศแน่ๆเลย

    ขายาวๆของเด็กสาววับเผาะ ได้ก้าวสาวเท้าวิ่งลัดเลาะไปตามทางเดิน จียองมองซ้ายแลขวาแล้วก็เห็นเด็กสาววัยรุ่นราวคราวเดียวกัน กำลังจะเดินเข้าไปในลิฟท์ เพียงได้เห็นแค่ด้านหลังเท่านั้นแหละ จียองรีบเร่งความเร็วเพื่อที่จะไปให้ทันเด็กสาวคนนั้น ดานี่เดินเข้าไปในลิฟท์ เธอเอาแต่ก้มหน้าก้มตามองไปที่พื้น พร้อมกันนั้นเธอก็ยืนสะอื้นน้ำตาตก เหตุเพราะช้ำรักอย่างหนักหนา แต่ทว่ามันเป็นความดราม่าที่ผิดคนเท่านั้นเอง

    “ ดานี่...เดี๋ยวก่อน ดานี่รอฉันก่อน ”

    ประตูลิฟท์กำลังจะเลื่อนปิด จียองก็แหกปากร้องเรียกให้เพื่อนรอ แต่ดูเหมือนว่าเสียงของเธอมันจะไปไม่ถึงอีกคน จียองร้องเรียกชื่อของเพื่อนจนคนแถวนั้นได้มองเธอเป็นตาเดียวกัน แต่ถึงกระนั้นดานี่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเธอเลย ให้ตายสิ...ดานี่มันเสียใจหรือว่ามันหูหนวกกันแน่ แหกปากเรียกซะดังลั่นเพื่อนสาวก็ยังไม่ได้ยิน แถมยังยืนก้มหน้าดราม่าเป็นนางเอก mv อีกต่างหาก แล้วนั่นๆๆประตูลิฟท์จะปิดสนิทแล้ว ต้องเร่งความเร็วระดับเครื่องเจ็ท จียองวิ่งแบบไม่คิดจะเบรคเลยสักนิด เธอฟุ่งเข้าหาดานี่สุดตัว เด็กสาวบื่นแขนออกไปหามือหวังแค่เอื้อมให้ถึง แต่ทว่าประตูลิฟท์มันประกบติดปิดเข้าอย่างสนิทแล้วนี่สิ

    “ อ๊าย....บ้าเอ๊ย ยัยดานี่บ้า ถ้าฉันลงไปทันแกนะ จ่ายค่าวิ่งตามมาเลย ”

     

    *_*_*

    *_*

    *

     

    “ หิวหรือยังคะพี่แท ”

    ทิฟฟานี่หันไปถามแทยอน ขณะที่เธอกำลังนั่งปอกเปลือกแอปเปิ้ลให้เขากับลูกหมาอยู่ คุณหมอยิ้มร่าให้สามีพร้อมกันนี้ก็ชำเลืองมองลูกหมาของตนด้วยเช่นกัน แทยอนเองก็นอนมองหน้าของลูกหมา สลับไปมากับการมองหน้าของแม่หมี ซึ่งตอนนี้กำลังนั่งทำหน้าสวยให้เขาได้ชื่นใจ ส่วนยูบินนั้นไซร้ก็นั่งวาดรูปและระบายสีอยู่บนเตียงของคนไข้ไปตามประสา

    “ หิวแล้วครับผม หิวมากมาย หิวจนจะตายอยู่แล้วครับ แต่ที่พี่หิวอย่างหนัก ก็คือพี่หิวรักจากฟานี่อ่ะนะ ”

    แทยอนตอบคำถามของทิฟฟานี่ด้วยวาจาออดอ้อน พูดมาซะชวนอ้วกขนาดนั้น แต่ทิฟฟานี่ก็ไม่ได้ทำอะไร นอกจากยิ้มอย่างไว้ลายตามแบบฉบับของคนใจเย็น ใช่ว่าเธอจะไม่ดีใจไปกับคำหวานของสามี แต่ทำให้แทยอนเห็นไม่ได้ว่าเธอก็เหลิงไปกับวาจาของเขา ขืนแสดงออกมาให้อีกคนเห็นเข้าสิ มีหวังได้เสียการปกครองแน่ๆเลยล่ะ

    “ พูดไปเรื่อยนะคะ ยูบิน...แล้วหนูล่ะจ๊ะ หิวหรือยังลูก ”

    “ หนูยังมะหิวจ้า ”

    ที่พูดน่ะไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองแม่เลยสักนิด ยูบินก้มหน้าก้มตาวาดรูปและระบายสีต่อไป ทิฟฟานี่เองก็พอจะเข้าในอยู่หรอกนะ ก็ยูบินกินขนมไปแล้วตั้งเยอะ มันก็ไม่แปลกนะเออหากเจ้าตัวเล็กมันจะไม่หิว งั้นก็เหลือแค่สามีใจปลาซิวคนเดียวแล้วสินะ ที่ยังไม่ได้กินข้าวกินปลา ด้วยหน้าที่ของภรรยาซึ่งมีอยู่ในตัว ทิฟฟานี่ก็วางผลแอปเปิ้ลลงในถาด พร้อมกันนั้นเธอก็บอกกับสามีไปว่า

    “ พี่รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวฟานี่จะไปเอาอาหารมาให้  ยูบิน...หนูก็เล่นดีๆนะจ๊ะ อย่าก่อเรื่องอีกนะลูกรัก ”

    “ จ้า...หนูมะก่อเรื่องแน่นอน ”

    ลูกหมามันโก่คอขานรับคำสั่งของผู้เป็นแม่ แถมยังทำท่าตะเบะเหมือนทหารที่ทำความเคารพผู้บรรชาการไม่มีผิด ทิฟฟานี่มองกิริยาที่ลูกน้อยทำ แล้วก็ยิ้มขำๆก่อนที่เธอจะเดินออกไปจากห้องพักของผู้ป่วย ก็หวังด้วยว่าสามีกับลูกหมาจะไม่กัดกันอีก แทยอนคงไม่กัดยูบินอยู่แล้ว แต่ว่าเจ้าตัวป่วนนี่สิไม่น่าไว้ใจสักเท่าไหร่เลย

    “ ยูบิน...หนูวาดรูปอะไรเหรอลูก ”

    ก็เห็นลูกสาวง่วนอยู่กับกับการขีดเขียนอะไรอยู่ก็ไม่รู้ แทยอนก็เลยอดสงสัยไม่ได้ว่าลูกหมามันกำลังทะไรของมัน แถมยิ่งยูบินมานั่งหันหลังให้เขาอีก มันก็ยิ่งทำให้เกิดความสงสัยหนักเข้าไปอีก เจ้าตัวแสบมันขยับตัวยุกยิก ก้นน้อยๆส่ายไปส่ายมาก็ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือเปล่านะ แต่ที่แน่ๆก็คือเห็นแล้วหมั่นเขี้ยวชะมัด อยากจะกัดก้นน้อยๆนั่นเหลือเกิน แก้แค้นที่มันมากัดนมของพ่อไงล่ะ เสียอย่างเดียวนะที่เขาชขยับตัวไม่ได้

    “ เซอไพรส์จ้า เพราะงั้นให้ดูมะได้นะ ”

    ยูบินหันหน้ามามองแทยอนแค่แว๊บเดียว ที่หนมาก็เพื่อตอบคำถามของผู้เป็นพ่อเท่านั้น ไม่ได้คิดที่จะคุยนานๆด้วยหรอกนะ แทยอนยักคิ้มที่แทบจะมองไม่เห็นให้ลูกสาว ก็คนมันสงสัยหนักจึงอยากจะเอ่ยถามออกมาอีกสักระรอก แต่สีหน้าของยูบินบอกว่าไม่ต้องมาสงสัย เดี๋ยวจะจัดเซอไพรส์ให้ได้ตะลึงกันไปเลย

    “ แค่นิดเดียวก็ดูไม่ได้เหรอลูก ”

    เพราะมันทำอะไรไม่รู้ยุกยิกอยู่ที่ท่อนขาของเขา แทยอนจึงเอ่ยถามลูกสาวอีกครั้งเบาๆ แต่ยิ่งเขายิงคำถามใส่เจ้าลูกหมามากเท่าไหร่ ไอ้ตัวแสบมันก็ยิ่งไม่ใส่ใจกับคำถามของเขามากเท่านั้น ไม่ว่าแทยอนจะพูดจะถามอะไรก็ตาม ยูบินก็ยังทำหูทวนลม แถมส่ายก้นดุ๊กดิ๊กไปมา เหมือนกับการ์ตูนที่ผู้เป็นพ่อเคยเปิดให้ลูกหมามันดู ไม่ต้องให้บอกก็คงจะรู้อยู่หรอกนะว่ามันเป็นการ์ตูนเรื่องอะไร

    “ ป๊ะป๋า...หนูวาดรูปให้ป๊ะป๋าล่ะ ถ้าหนูให้...ป๊ะป๋าจาเอามะ ”

    ยูบินเอี้ยวตัวให้เอียงออกแนวเฉียงนิดๆ ก่อนจะเอามือน้อยๆสะกิดที่ฝ่ามือของแทยอน พร้อมกับป้อนคำถามที่ดูเหมือนจะไม่ต้องการคำตอบเท่าไหร่ นั่นก็เพราะไม่ว่าผู้เป็นพ่อจะตอบแบบไหน ยังไงซะแทยอนก็ต้องได้รับของขวัญจากยูบินอยู่ดี และถึงลูกหมามันไม่ถามพ่อหมาก็ต้องรับรูปที่ลูกหมามันวาดให้เสมอ อะไรก็ตามที่ลูกรักคนนี้มอบให้ ผู้เป็นพ่อก็ยินดีและเต็มใจรับอย่างไม่มีเงื่อนไขอยู่แล้ว

    “ เอาสิลูก ไม่ว่าหนูจะให้อะไรนะ พ่อก็จะรับเอาไว้ทุกอย่าง แล้วก็จะเก็บรักษาให้ดีเลยล่ะ ”

    “ จริงนะ....ป๊ะป๋าจาเก็บเอาไว้ให้ดีจริงๆนะ ”

    ถามซ้ำเพื่อความมั่นใจ แม่สอนเอาไว้ว่า ถ้าหากผู้ใหญ่ยังไม่อนุญาต อย่าทำอะไรโดยพละการเป็นอันขาด แล้วถ้ามีอะไรที่ไม่เข้าใจหรือไม่แน่ใจ ก็ให้ถามซ้ำได้เสมอแต่อย่าบ่อยเกินพอดี ดังนั้นเด็กดีๆอย่างยูบินจึงต้องถามผู้เป็นพ่อซ้ำอีกครั้ง แล้วแทยอนก็พยักหน้ารับเป็นการย้ำคำถามของยูบิน พอได้รับคำยืนยันจากผู้เป็นพ่อแล้ว เจ้าลูกหมามันก็หันเอียงหน้าให้หันข้าง ตามด้วยรอยยิ้มแห่งความน่ารักตามแบบฉบับของยูบิน

    “ งั้น...ป๊ะป๋าหลับตาก่อนฉิ เดี๋ยวให้หนูนับหนึ่งถึงฉาม ป๊ะป๋าค่อยลืมตานะ ”

    “ ต้องหลับตาด้วยเหรอ ก็ได้ครั้บ...งั้นพ่อหลับตาล่ะนะ ”

    แทยอนหลับตาลงตามที่ลูกหมามันขอมา ในใจนั้นนึกเอาไว้เลยว่ายูบินช่างเป็นเด็กที่น่ารักจริงๆ เข้าใจหาวิธีการทำให้พ่อแม่รู้สึกดีได้เก่งนะ มีการให้ปิดตาเพื่อจะทำเซอไพรส์พ่อซะด้วย มันน่ารักน่าชังเหมือนใครกันนะ ลูกหมาก็ต้องน่ารักเหมือนพ่อหมาสิเนอะ พ่อของมันน่ารักยังไงลูกของมันก็ต้องน่ารักอย่างนั้นแหละ ขอบใจนะลูกรัก หนูช่างเป็นเด็กที่น่ารักจริงๆเลยนะยูบิน พ่อล่ะรู้สึกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ แบบว่าปลื้มใจจนน้ำตาจะไหลให้ได้เลยซะจริงๆ ซึ้งอ่ะ

    “ หนึ่ง...ฉอง...ฉาม นี่ไง...เซอไพรส์นะจ๊ะป๊ะป๋าจ๋า ”

    โอ๊ะ...น้ำตาจะไหลเหมือนอย่างที่ใจนึกจริงๆ แทยอนกระพริบตาปริบๆ เขาไม่นึกเลยว่าลูกสาวจะมีฝีมือในด้านศิลปะขนาดนี้ ทั้งลายเส้นและสีนั้นมันช่างให้อารมณ์ศิลป์ได้ดีจริงๆ ลายเส้นที่มั่นคงหนักแน่นนั้นบ่อบอกได้เลยว่าลูกสาวมีคามมั่นใจในตัวเองสูง และสีที่ใช้ระบายก็ช่างเป็นอะไรที่บรรยายไม่ถูกจริงๆ ทุกอย่างดูดีมากมายจนผู้เป็นพ่อต้องเผยยิ้มออกมา อยากบอกจริงๆว่าลูกหมามันฝีมือดีเอามากๆ และจะดีมากกว่านี้เลยนะ ถ้ามันไม่มาวาดและระบายสีลงบนเฝือกที่ขาของเขา

    “ ป๊ะป๋า...มันฉวยป่ะ ”

    “ สวยสิลูก...สวยมากเลยด้วย ”

    “ ป๊ะป๋าดีใจจนน้ำตาไหลเยยเหยอ ”

    “ ใช่ลูกรัก...ป๊ะป๋าดีใจมาก และจะดีใจมากถ้าแกไม่มาทำให้เฝือกของพ่อเลอะสีแบบนี้ ”

    “ เลอะที่ไหน...นี่เขาเรียกว่าฉินละปะต่างหากเล่า ไม่ไหวๆ...ป๊ะป๋าไม่มีฉินเอาฉะเย๊ย วัยยุ่ยเช็ง ”

     

    *_*_*_*

    *_*

    *

     

    “ อันนี้ก็สวย...นี่ก็น่ารัก ทำมันมันถึงได้มีแต่ของน่ารักน่าซื้อแบบนี้เนี่ย ”

    เจสสิก้าเหมือนคนบ้าเลยเชียวล่ะ วันนี้ทั้งวันเธอเอาแต่จับจ่ายใช้เงินแบบลืมตาย ไปกับไอ้ของใช้เด็กเล็กทั้งหลายแหล่ นั่นก็เข้าตานี่ก็น่ารัก ถ้าเกิดว่าลูกของเธอได้ใช้ของพวกนี้นะ มันคงจะเพิ่มความน่ารักน่าชังได้เป็นเท่าทวีเลยล่ะ ก็อย่างว่านั่นแหละนะ แม่ก็สวย พ่อก็หล่อ แล้วลูกที่จะเกิดมามันก็ต้องน่ารักและดูดีอยู่แล้วล่ะจริงไหม

    “ ยูริ...นายว่าถ้าลูกของเราได้ใช้ของพวกนี้ ลูกเราจะต้องดูดีและน่ารักเอามากๆเลยจริงมั้ย ”

    “ ครับ...ก็คุณแม่คนสวยเป็นคนเลือกให้ ถ้าลูกของเราได้ใส่ก็ต้องดูน่ารักแน่นอนครับ ”

    ตาถึงมากเลยนะยูริ นี่เมียไม่ได้ขี้เห่อหรือโอเวอร์ใดๆกับลูกน้อยที่คอยวันคลอดเลยนะไม่ได้อวยอะไรด้วยทั้งสิ้นเลยนะ ก็แบบว่าหลักฐานมันเต็มตาอยู่ไม่ใช่เหรอ ยูริก็หน้าตาพ่อไปวัดไปว่าได้ อาจจะไม่หล่อลากไส้ใครๆ แต่ว่าอะไรๆในตัวของผู้ชายคนนี้มันเร้าใจชนีได้ดีทีเดียว ส่วนเจสสิก้าก็แบว่าไม่ได้สวยไปกว่าใครๆ แต่ว่าอย่าได้มายืนใกล้ๆเธอเชียวนะ ไม่งั้นจะหาว่าหน้าตาดีแล้วไม่มีเตือน ก็แบบว่าสวยไม่มาก แต่ว่ามีคนอยากได้เยอะเท่านั้นเอง

    “ ตาถึงของมากเลยนะคะที่รัก...ไม่ผิดหวังจริงๆที่วันนี้ฉันมากับนาย ”

    ปากของคนเจ้าเล่ห์ก็ออเซาะฉอเลาะไปเรื่อย แอบเนียนใช้คำว่าที่รักแบบที่ใจอยากเรียกมานานแล้ว ถ้าเป็นเวลาปกติเจสสิก้าจะไม่เรียกยูริแบบนี้เป็นอันขาด ก็ประมาณว่ามากล้าที่จะเรียก เพราะรู้สึกเขินกับคำพูดของตัวเอง แต่ในวันนี้สถานกาณ์มันเป็นใจ ก็เลยเนียนพูดไปแบบที่ทำให้ดูเหมือนไม่จริงจัง แต่เชื่อเถอะว่าคนพูดนั้นจริงใจอย่างที่เป็นไปแบบเก๊กๆ

    “ ที่รัก...น้องเจสเรียกพี่ว่าที่รักเหรอครับ ”

    ดีใจอย่างบอกไม่ถูกจริงๆเลยนะ รู้ไหมว่าคำๆนี้เข้าอยากจะได้ยินจากปากของเธอนักหนา รอมาตั้งแต่ที่รู้ตัวว่าหลงรัก รอจนมาถึงวันที่ปักหลักฝากลูกน้อยให้อาศัยอยู่ในท้องของเธอนั่นแหละ และแล้วในที่สุดคำว่ที่รักก็ได้หลุดออกมา พอได้ยินแล้วนะเกิดความรู้สึกประหนึ่งว่า ตนนั้นได้เลื่อนขั้นจากคนขับรถไปเป็นผู้บริหารสูงสุดเชียวล่ะ

    “ ฉันเหรอ...ก็แค่เรียกเล่นๆน่ะ ไม่ได้จริงจังอะไร ”

    ใครบอกล่ะว่าเธอเรียกเล่นๆ ที่รัก...ถ้าไม่รักแล้วเธอจะเรียกไหม ถ้าหากว่าใจไม่ต้องการอย่างนั้น ฝันไปเถอะว่าคนอย่าง จอง เจสสิก้า จะปล่อยให้มันหลุดปากออกมาแบบนี้ ทำไงได้ล่ะก็คนมันขี้เก๊กนี่นา คนสวยปากไม่ตรงกับใจก็ไม่ผิดใช่ไหมล่ะ เพราะงั้นก็มุดน้ำดำดินมันต่อไปละกันนะ ก็คนสวยชอบเก๊กอ่ะทำไงได้ แต่ขอให้รู้ไว้ว่าภายในใจไม่ได้เก๊ก เหมือนอย่างที่ได้แสดงออกมาให้เห็นหรอกนะเออ ถ้าไม่รักนายฆ่าให้ตายฉันก็ไม่เรียกว่าที่รักหรอกนะยูริ

    “ ไม่ได้จริงจัง...แต่มันฝังในใจของพี่นะครับ ไม่เป็นไร...ถึงแม้ว่าน้องเจสจะไม่ได้เจตนา แต่พี่หน้าด้านเชื่อว่าน้องเจสพูดจริง ”

    หน้าด้าน...เหมือนนิสัยเดิมๆของยูริจะคืนกลับมา นี่มันนิสัยของนายเพลย์บอยตอนที่ยังไม่ได้แต่งงานเลยนะ  หน้าด้านหน้าหนาหน้าพื้นคอนกรีตชนิดหนาพิเศษเลยด้วย ไม่ได้แค่พูดแบบเข้าข้างตัวเองเพียงอย่างเดียวนะ ยูริยังขยับเข้าหาเจสสิก้าแล้วใช้สายตาโลมเลียเมียที่รัก ในแบบที่เขาเคยทำเมื่อครั้งแรกพบกับเธออีก คราวนี้แม่คนสวยขี้เก๊กเริ่มที่จะรู้สึกหวั่นใจบ้างแล้วล่ะ นั่นเพราะปฏิกิริยาของสามีมันเปลี่ยนไป

    “ เฮ้...นายจะทำอะไรอะไรน่ะ ถอยห่างอีกนิดได้มั้ยล่ะ ฉันรู้สึกร้อน ”

    เจสสิก้าเริ่มที่จะมีอาการนิดๆแล้วล่ะ หน้าตาของเธอเริ่มมีเลือดฝาด ริมฝีปากเก่งกล้าเริ่มอ้าเผยอและสั่นนิดๆ ยิ่งสามีขยับเข้ามาใกล้แบบประชิด ไอ้ความรู้สึกตะหงิดๆภยในใจมันก็เริ่มที่จะมี จากแรกเริ่มเดิมทีไม่เคยจะเป็นแบบนี้กับใคร แล้วเหตุไฉนเธอถึงได้เริ่มรู้สึกอ่อนแอและหวั่นไหวอย่างที่ไม่คาดคิดเช่นนี้

    “ รู้สึกร้อนมากมั้ยครับน้องเจส ”

    “ ร้อนมาก...มากจนฉันเริ่มอยากจะถอดแล้วสิ ”

    ไม่ได้เป็นอันขาดนะ จะปล่อยให้ยูริเห็นเธอในสภาพอ่อนไหวแบบนี้ไม่ได้ ขืนปล่อยให้เขารู้สิมีหวังได้ใจ เคยเก๊กมายังไงก็ต้องเก๊กต่อไปอีกนั่นแหละ ไม่งั้นคนสวยจะซวยถึงขั้นถูกสามีขี้หลีจับทางได้ คราวนี้แหละเก๊กให้ตายก็ไม่น่าจะรอด จากที่เคยเก๊กงามมาตลอดมันจะกลายเป็นเรื่องสูญเปล่า และต่อไปเธอก็จะข่มเขาให้อยู่ในโอวาสได้ลำบาก

    “ ถ้าอยากจะถอดขนาดนั้น ไปถอดกันที่บ้านดีกว่ามั้ยครับ ที่จะเป็คนถอดให้น้องเจสเองเลยล่ะ ”

    รู้สึกฮึกเฮิมยังไงก็รู้สินะ แบบว่าเขาไม่อยากจะให้เมียมาข่มอีกต่อไปแล้วสิ ดูซิทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำ เมารถแทนเมาเหล้าแบบนี้ เมียที่รักก็ยังมายึดกระเป๋าตังค์ไปอีก แล้วแค่นั้นยังไม่หนำใจเธอหรืออย่างไรกันนะ เจสสิก้ายังจับจ่ายใช้เงินที่เขาหามาอย่างไม่หยุดมือเลย เมียใครวะขี้เหนียวจริงๆเชียว เงินของตัวเองล่ะใช้เลยนะ แล้วก็มาล้วงแบบทะลวงให้สามีได้เสียวเล่น จากนั้นเธอก็ได้กลายเป็นเทพเจ้านักช้อป

     “ แหม...นายนี่นะ อยากจะถอดให้ฉันงั้นเหรอยูริ ”

    “ แล้วยอมให้พี่เป็นคนถอดให้มั้ยล่ะ ”

    เหมือนตัวเองจะถูกท้าทายไม่ได้ยังไงก็ไม่รู้สินะ ยิ่งถูกท้าก็ยิ่งรู้สึกว่าอยากจะสู้ พักหลังๆมานี้ไม่ค่อยได้เป็นฝ่ายรุกเท่าไหร่ เพราะว่าเจสสิก้าชอบที่จะให้เขากลายเป็นฝ่ายรับอยู่เสมอ ตั้งแต่ที่เธอรู้ตัวว่าตั้งท้องอ่อนๆ แม่งามงอนก็มีแต่ต้อง On Top เขาอยู่ร่ำไป อยากจะเป็นคนที่ On เธอบ้างหลังจากที่ห่างหายมานาน มันเป็นความต้องการตามสัญชาตญาณของพ่อยอดชาย

    เจสสิก้าก็บ้าบิ่นเป็นไปกับสามี ยอมน้อยหน้าได้ที่ไหนกันล่ะกับไอ้เรื่องแบบนี้ ก็ต้องเข้าใจนะว่าเธอเป็นคนประเภทฆ่าได้หยามไม่ได้ และเรื่องท้าทายยิ่งยอมกันไม่ได้เลยจริงๆ จะให้ชิ่งหรือจะให้หนีไม่มีทาง คนอย่างเจสสิก้าไม่มีทางทำแบบนั้นเป็นอันขาด เดี๋ยวจะหาว่าหญิงสิกเก่งแต่ปากไม่กล้าทำจริง

    มือเล็กยื่อนเข้าไปจับที่เนคไทของผู้เป็นสามี จากนั้นเธอก็เลี้ยวนิ้วเกี่ยวมันให้เป็นเกรียว ก่อนที่จะดึงกระชากให้ริมฝีปากของเขาและเธอใกล้กัน ไม่ได้หวังต้องการที่จะจูบยูริเลยสักนิด เพราะที่นี่คือที่สาธารณะซึ่งมีประชาชนอื้อซ่ามากกว่าดาราทั้งประเทศมารวมตัวกัน ดังนั้นก็แค่เรียกสามีเข้ามาฟังเสียงกระซิบ

    “ ก็เอาสิคะสุดหล่อ ”

    “ ไปตอนนีเลยได้มั้ยคนสวย ”

    “ จุ๊ๆๆๆ...อย่าเพิ่งด่วนไปสิคะสามีขา จ่ายค่าทำขวัญให้ฉันก่อน แล้วเราค่อยกลับไปถอดกันที่บ้าน ”

     

    *_*_*

    *_*

    *

     

    “ ไงยะแม่นางเอก เจอตัวสักทีนะ ”

    จียองยืนท้าวสะเอวรอเพื่อนอยู่หน้าลิฟท์ เธอวิ่งลิ้นห้อยเหงื่อตกลงมาจากชั้นบน อย่าต้องให้บอกเลยนะว่าต้องลากสังขารมาจากชั้นไหน เอาเป้นนว่ามันสูงก็แล้วกัน วิ่งกันให้ตับแลบลิ้นห้อยเป็นหมาน้อยออกกำลังกายมาเลย แล้วดีนะที่เธอไปเจอลิฟท์สำหรับขนสิ่งของ ไม่งั้นก้คงลงมาไม่ทันได้เจอหน้าของดานี่หรอก

    “ ไหนว่ายังไม่กลับไง แล้วนี่ลงมาทำไมล่ะจียอง ”

    ทั้งพูดจากวนบาทานิดๆ แถมมีการยกมือขึ้นมากรีดเอาน้ำตาออกจากใบหน้าอีก ทั้งสงสารทั้งอยากจะต่อว่าเพื่อนคืน แต่ว่านึกขึ้นได้ว่าพี่ชายที่อยู่ห้องข้างบนสั่งมาว่ายังไงบ้าง ดังนั้นจียองจะไม่เสียเวลามาต่อความยาวสาวความยืดกับดานี่เป็นอันขาด ขืนต่อกันยาวๆสิมีหวังอารมณ์จะพาลขุ่นไปกันหมด

    “ ก็ลงมาทำหน้าสวยใส่เธอไง ”

    “ ไม่ต้องเก๊กก็สวยแล้ว ลงมาแบบนี้แสดงว่าเห็นหมดแล้วใช่มั้ยล่ะ สะใจเธอแล้วนะ งั้นกลับกันเถอะ ”

    ดานี่รีบเดินมาจับที่ข้อมือของจียอง พร้อมกันนั้นเธอก็พยายามที่จะฉุดให้เพื่อนก้าวเท้าตาม แต่ดูเหมือนการกระทำของเธอจะไม่ได้ผล เพราะอีกคนไม่ยอมขยับตัวตามเลยสักนิด ตรงกันข้ามจียองกลับเป็นคนที่ฉุดดานี่เอาไว้ เด็กสาวไม่ยอมปล่อยให้เพื่อนเดินหนีไปไหนได้ นั่นเพราะภารกิจที่ตัวเองได้รับมอบหมายมามันยังไม่เสร็จสิ้นน่ะสิ แต่ถ้ามันผ่านพ้นไปได้ตามที่ยงฮวาสั่งมา จียองจะยอมปล่อยดานี่ไปแบบไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น

    “ ยังก่อนดานี่...เรายังกลับกันไม่ได้ ถ้าฉันยังทำให้เธอกระจ่างใจไม่สำเร็จ ”

    “ อะไรเหรอจียอง กระจ่างจอะไร ”

    ไม่ต้องไปสนใจกับคำถามของเพื่อน ดานี่อยากรู้อยากถามอะไรก็ปล่อยให้ถามไป ไม่ค่อยจะมีเวลาเท่าไหร่หรอกนะ ดังนั้นอย่ามัวมาเสียเวลากับการตอบคำถามที่มีคำตอบอยู่ใกล้ๆนี้เลย ปากของเธอพูดพร่ำรำพันบอกไป มันจะมีความหมายใดเท่ากับการพาดานี่ไปหาคำตอบนั่นเอง ตอนนี้คำตอบอยู่ไม่ไกลแล้วล่ะ เดินไปอีกนิดก็ถึงจุดที่มีคำตอบแล้ว

    ดานี่ยังคงทำตัวดื้อดึงเข็งขืนกับจียอง นั่นเพราะเธอยังไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังจะไปไหน จียองจะพาเธอเดินไปที่ใดกันแน่ แล้วคำถามที่เธอได้เอ่ยถามไปนั่นอีกล่ะ เพื่อนสาวยังไม่ได้ตอบออกมาสักคำเลยนะ แต่ถึงกระนั้นการแข็งขืนของดานี่มันก็ไม่ค่อยจะมีผล จนเมื่อจียองพาเธอมาหยุดอยู่ข้างๆรถสปอร์ตคันนึงซุ่งดานี่ก็คุ้นเคยกับรถคันนี้อยู่ไม่น้อย

    “ อยากได้คำตอบใช่มั้ย ในรถคันนี้มีคำตอบให้เธอนะดานี่ ถ้าอยากรู้อะไรต่อจากนี้ก็เข้าไปดูเอง ”

    “ พูดอะไรน่ะจียอง คำตอบอะไรของเธอ แล้วรถคันนี้เกี่ยวอะไรด้วย ในรถมีอะไรให้ฉันงั้นเหรอ ”

    ไม่รู้เลยว่าภายในรถคนนี้มีคำตอบอะไรกันแน่ จียองเตียมอะไรไว้ให้เธองั้นเหรอ ของขวัญจากใครกันนะ อะไรที่มันทำทำให้เธอกระจ่าง แล้วกระจ่างเรื่องอะไรอีกล่ะ นี่เพิ่งจะกระจ่างมากับตาเลยนะ เห็นคนรักของตัวเองนอนกับหญิงอื่น แม้จะไม่ได้เห็นหน้าเจ้าของห้อง แต่มั่นใจได้แน่นอนว่ายังไงก็ต้องเป็นยุนอา ก็จะมีใครล่ะที่จะพาผู้หญิงเข้าไปนอนในนั้นได้ หากเจ้าของห้องไม่ได้เป็นคนพาเข้าไปเอง ดังนั้นดานี่จึงได้เชื่อในสิ่งที่เห็น เชื่อในความคิดของตัวเองอย่างไม่ต้องสงสัย จนมาถึงตอนนี้

    “ ของขวัญจากที่ยงฮวาน่ะ พี่เขบอกว่า...ให้ฉันพาเธอมาที่รถคันนี้ ภายในรถมีของขวัญชิ้นสำคัญให้เธอ ”

    “ มันคืออะไรล่ะจียองไอ้ของขวัญที่ว่าเธอมาน่ะ ”

    ก็ยังสงสัยไปตามประสาของเด็กฉลาด เขาบอกว่ายิ่งเด็กสงสัยมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งกระตุ้นให้เด็กอยากได้คำตอบ ดังนั้นดานี่เองก็ไม่ต่างกัน เธอสงสัยและอยากได้คำตอบที่ตัวเองต้องการ แต่ว่าจียองก็ทำป็นกั๊กไม่ยอมปล่อยคำตอบสักที ดานี่ก็ทำได้แค่คะยั้นคะยอไปแบบที่เริ่มรู้สึกท้อใจนิดๆ ก็ความสงสัยนั้นก็ยังไม่ได้จางหายไปเลย

    “ ก็เข้าไปดูสิ บอกได้แค่นี้แหละ อ้อดานี่...เสร้๗กิจเมื่อไหร่โทรมานะ ฉันจะไปหาอะไรกินก่อน ทั้งหิวทั้งเหนื่อยเลยให้ตายสิ ”

    “ ก็ได้...ฉันเข้าไปดูเองก็ได้ ”

    ว่าแล้วดานี่ก็เปิดประตูรถออก จากนั้นเธอก็ได้เห็นใบหน้าขาวๆของใครบางคน แทบจะไม่เชื่อสายตาของตัวเอง ยุนอามานอนหลับยู่ในรถได้ยังไง เขาเข้ามานอนตอนไหน ก็ก่อนหน้านี้เธอยังเห็นเขานอนอยู่กับซอฮยอนไม่ใช่หรอกเหรอ ดูท่าทางจะอ่อนเพลียมากซะด้วยสิ แล้วจะเอาแรงที่ไหนลงมานอนในรถแบบนี้ ถ้าคิดให้ดีนอนบนเตียงนุ่มๆมันน่าจะดีกว่านะจริงไหม

    “ คุณยุนอา ”

    พอได้เห็นหน้าของคนรักแล้วรู้สึกเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ นี่น่ะเหรอของขวัญที่พี่ชายมอบให้ นี่สินะคำตอบที่จียองอยากให้เธอได้รู้ ทำไมทุกคนถึงได้ใจร้ายกับเด็กสาวอย่างเธอแบบนี้ แค่ที่ได้เห็นบนห้องก็นับว่ามากพอแล้วนะ นี่ยังจะให้ยุนอามาเหยียบหัวใจของเธอซ้ำอีกอย่างนั้นเหรอ พอเถอะไม่อยากจะเจ็บไปมากกว่านี้อีกแล้ว

    ดานี่ยืนมองหน้าของสามีอยู่ได้ไม่นาน เธอยืนกลั้นน้ำตีกระรอก ก่อนจะตัดสินใจเดินจากไป แต่ว่าเด็กสาวไปไหนยังไม่ได้ เมื่อข้อมือของเธอได้ถูกมือใหญ่ของใครอีกคนจับหมับเข้าให้ ตอนแรกเด็กสาวพยายามขัดขืน แต่พอฝืนไม่ไหวดานี่หันไปมองตามมือใหญ่ของคนๆนั้น ปรากฎว่าเธอต้องหยุดขัดขืนโดยพลันเมื่อเห็นว่าเป็นใคร

    “ เมียจ๋าจะหนีสามีไปไหนจ๊ะ สามีไม่สบายอยู่นะ เมียจ๋าจะทิ้งสามีได้ลงคอเชียวเหรอ ”

    “ หนูยังมีสิทธิ์ดูแลคุณได้อยู่เหรอคะคุณยุนอา ”

    “ ได้สิจ๊ะ ก็เมียจ๋าเป็นเมียคนเดียวของสามีนี่นา สามีคนนี้มีเมียคนเดียวคือเมียจ๋านะครับ ”

    “ แล้วพี่ซอละคะ คุณเอาพี่ซอไปไว้ไหน นั่นก็มียของคุณเหมือนกันนะคะ ”

    “ ไม่ใช่หรอกนะครับ ซอฮยอนเป็นเมียของคุณยงฮวา ส่วนเมียจ๋า ก็เป็นเมียคนเดียวของสามีนะครับ สามีรักเมียจ๋านะครับ ”

     

    *-*-*-*-*

    *-*-*-*

    *-*-*

    *-*

    *

     

    Talk…………………………………

    กลับมาอย่างต่อเนื่องค่ะรีดเดอร์ ไรท์เตอร์อยากให้มันจบเร็วๆน่ะค่ะ ดองมานานจนข้ามปีแล้ว กลัวรีดเดอร์จะเบื่อไปซะก่อน แต่ถ้าหากรีดเดอร์ยังไม่เบื่อนะคะ ตอนหน้าไรท์คิดว่าจะพาไปถอดเสื้อให้คุณนายควอนสักหน่อยนะคะ แล้วจะไปฮากับครอบครัวสุขสันต์ และหวานกันกับคู่โลลิ วันนี้เอาไปเท่านี้ก่อนนะคะ รักรีดเดอร์นะคะ จุฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×