คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #40 : Chapter 40
งานนี้...พี่ต้องมี...ลูก
Chapter 40
“ อาห์...ดานี่ ทำไมเธอถึงเกิดมาช้ากว่าฉันนักนะ สี่ห้าปีฉันก็จะไม่คิดมากแบบนี้หรอก นี่เธอเล่นเกิดมาทีหลังฉันตั้งสิบสี่ปี กว่าจะได้แต่งงานกัน ฉันก็คงจะแก่เข้าไปทุกทีแล้วสินะ น่าเสียดายชะมัดเลย ”
ยุนอากำลังพร่ำเพ้อถึงคนที่ตัวเองรัก มือใหญ่ยื่นไปคว้าเอาหมอนข้างเข้ามากอดรัด ยุนอาฟัดกับหมอนข้างอย่างเมามันส์ ประหนึ่งว่ามันเป็นตัวแทนของแม่หนูน้อยในฝันของเอง ความจริงคืนนี้ยุนอาจะเอาตัวดานี่ไว้แล้วนะ แบบว่าจะเอาน้องนางมานอนกอดอีกสักคืน แต่ว่าผู้เป็นแม่ไม่อนุญาตให้เขาทำแบบนั้น เพราะเกรงว่าว่าที่ลูกสะใภ้จะดูไม่ดีไปมากกว่านี้ เพราะฉะนั้นว่าที่สามีที่ดีก็เลยต้องจำใจ เอาตัวแม่หนูน้อยไปส่งที่ย้านของเธอ
“ แต่ว่า...ทำไมวันนั้นฉันไม่จัดเธอไปเลยนะ เราจะได้นอนด้วยกันจริงๆ ไม่ต้องมาโกหกว่ามีอะไรกันแบบนี้ ชักอยากจะมีเมียเป็นตัวเป็นตนซะแล้วสิเนี่ย ฉันคิดถึงเธอจังเลยเด็กน้อย อยากนอนกอดเธออีกสักคืนจัง ”
ยุนอาท่าจะเป็นเอามาก เขายังคงนอนเพ้อหาดานี่อยู่ไม่หยุด หมอนข้างก็ยังถูกกอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่อย่างนั้น ตอนนี้ยุนอาผู้เย็นชาหายไปไหนแล้วไม่รู้ มีแต่ตาแก่โลลิคที่กำลังเพ้อฝันถึงเด็กเท่านั้นแหละ ยอมรับแบบหน้าด้านๆเลยนะ ว่าเขาหลงรักเด็กคนนี้เข้าให้แล้ว รักแบบหัวปักหัวปำเลยด้วยล่ะ อยากให้คุณน้องหนูโตเร็วๆจังเลย เวลาที่จะทำอะไรต่อมิอะไร ก็จะได้ไม่ต้องมานั่งหวาดระแวงเรื่องคุกเรื่องตารางอีก
“ กอดฉันแทนเด็กคนนั้นก็ได้ ฉันก็อยากให้มีคนมากอดเหมือนกัน ”
“ เฮ๊ย...แก...แกเข้ามาในห้องนอนของฉันได้ยังไง ”
ยุนอาแทบช็อค เมื่อเขาหันกลับมาเจอแขกผู้ไม่ได้รับเชิญ ซึ่งมันแอบมานอนอยู่บนเตียงเดียวกันกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ รู้แต่ว่าพอได้ยินเสียงทุ้มๆนั่น เขาก็หันมามองทันที ปรากฎว่าไอ้ดำมันมานอนอยู่บนเตียงด้วยล่ะ ไม่รู้ว่ามันมานอนตอนไหน ที่นี่มันบ้านของเขานะไม่ใช่คอนโดสักหน่อย นี่มันบ้านส่วนบุคคลแต่ไอ้มืดนี่เข้ามาได้อย่างง่ายดายเลย
“ ก็เดินเข้ามาน่ะสิ ”
ยูริตอบอย่างกวนบาทา ก็เขาเดินเข้ามาในห้องนอนของไอ้หัวล้านนี่จริงๆนี่นา ไม่ใช่ว่าเหาะเหินเดินอาการ หรือว่ามีวิชาอำพรางกายหายตัวเข้ามาซะเมื่อไหร่กันล่ะ ก็ขออนุญาตเจ้าของบ้านแล้ว หมายถึงคุณนายอิมอ่ะนะ แล้วท่านก็ยอมให้เขาเข้ามาหาลุกชายของท่านได้ เพราะเป็นที่รู้จักกันดีระหว่างสองตระกูล ว่ายูริกับยุนอานั้น มันสนิทสมนกันขนาดไหน แล้วทั้งคู่ก็เคยผลัดกันไปนอนค้างที่บ้านของอีกฝ่ายอยู่บ่อยๆ สมัยที่ยังเรียนยังเที่ยวด้วยกันอ่ะนะ แต่พอโตมาแล้วก็ไม่เคยไปนอนค้างด้วยกันเลย เพราะต่างคนต่างก็ต้องไปนอนค้างตามโรงแรมกับผู้หญิงซะเป็นส่วนใหญ่
“ เออ...แล้วทำไมแกถึงมาที่นี่ล่ะ ทำไมไม่ไปนอนกับเมียของแกเล่า ”
“ ก็ฉันถูกเมียเกลียดขี้หน้าแล้วน่ะสิ ”
ยูริถูกเจสสิก้าไล่ให้ไปตายยังไงล่ะ แต่เขาจะไปตายง่าๆตามที่เมียต้องการยังไม่ได้ ก็เลยต้องมาอาศัยบ้านของเพื่อน เพื่อใช้เป็นที่พักพิงกาย ใช้อาศัยหลับนอนก่อนสักคืน ก็ใครใช้ให้มันเป็นคนก่อเรื่องเองล่ะ แถมพอมันจุดไฟใสน้ำมันแล้ว ไอ้เหม่งมันก็เปิดแน็บโกยอ้าวไม่หันกลับไปมองเขาเลยสักนิด มันทิ้งเพื่อนเอาไว้ท่ามกลางเปลวไฟแห่งโทสะของเจสสิก้า แล้วคุณภรรยาก็ยังมาเข้าใจเขาผิดไปอีก เพราะฉะนั้นคืนนี้ยุนอาจะต้องรับผิดชอบคุณเพื่อนอย่างเขาด้วยล่ะ
“ ก็แกมันน่าเกลียดนี่นา ”
“ ที่ฉันถูกเกลียดก็เพราะแกนั่นแหละ ถ้าแกไม่พาดานี่ไปที่นั่น ป่านนี้ฉันกับเจสสิก้าก็คงจะนอนปั้มลูกด้วยกันแล้ว แต่เป็นเพราะแก...เพราะแกคนเดียวเลย ฉันถึงต้องมานอนหง่าวหนาวใจอยู่แบบนี้ยังไงล่ะ ”
มันถูกต้องตามที่ยูริว่ามาทุกอย่างนั่นแหละ ยุนอาเป็นคนก่อเรื่องขึ้นมาเองทั้งนั้น แต่จะมาโทษเพื่อนคนเดียวก็ไม่ถูกนะ ในเมื่อยูริเองก็บ้าไปพูดอะไรที่มันมัดตัวเองเอาไว้ด้วยล่ะ สรุปก็ผิดมันทั้งคู่นั่นแหละ ยุนอาผิดที่ยิ้มแบบมีเลศนัยให้ยูริ ซึ่งมันทำให้เจสสิก้าเข้าใจผิด ส่วนยูริก็ผิดที่ไปบ้าจี้ยอมรับผิดตามที่เจสสิก้าต้องการ มันก็พอกันนั่นแหละ แต่ตัวการในเรื่องนี้คือยุนอา
“ อ้าว...นี่ฉันเป็นคนก่อเรื่องหรอกเหรอ ”
“ ก็เออสิวะ แกรู้มั้ยว่าเจสสิก้าถึงกับขอหย่าเลยนะ ”
มันยังมีหน้ามาถามอีกนะ ว่าเรื่องบ้าๆพวกนี้ใครเป็นคนก่อ เพิ่งจะมารู้ตัวหรือไงไอ้หัวเถิก ครอบครัวของเพื่อนกำลังจะพินาศ ก็เพราะฝีมือแกนี่แหละ ไอ้บ้ากามชอบกินเด็ก ไอ้วัวแก่อยากกินหญ้าอ่อน เพื่อนตกอยู่ในสถานะการณ์คับขัน มันยังมีเวลามานอนฟัดหมอนแทนเด็กอีก ดีเหลือเกินนะจุดไฟเผาบ้านเพื่อน แล้วก็มานอนฝันเปียกอยู่แบบนี้น่ะ
“ ทำไมต้องขอหย่าด้วยล่ะ แล้วแกไปทำอะไรให้เมียอีก ”
ยังจะมีหน้ามาถามอีกนะไอ้หัวเถิก ฉันจะได้เลิกกับเมียก็เพราะความเข้าใจผิดที่แกสร้างเอาไว้ให้ไง ราดน้ำมันทิ้งเอาไว้ แล้วก็โยนไม่ขีดไฟใส่ จนไฟมันลุกไหม้ไปหมด แล้วยังจะมาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อะไรอีกนะ เดี๋ยวฉันจะใส่ไฟแกกับเด็กคนนั้นบ้าง เอาให้มันไหม้ยิ่งกว่าที่ฉันโดนมาอีกเลยล่ะ
“ ไม่ว่าฉันจะทำหรือไม่ ยังไงแกก็ต้องช่วยฉันแก้ปัญหานี้ ”
มันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ก็ในเมื่อยุนอาเป็นคนที่เริ่มก่อร่างสร้างเรื่อง มันก็ต้องเป็นคนที่เข้ามาแก้ไขสะสางให้เรียบร้อย คนกำลังจะมีครอบครัวที่อบอุ่นสงบสุข กำลังจะเร่งผลิตลูกน้อยๆที่น่ารัก แต่เพราะไอ้เพื่อนชั่วคนนี้คนเดียวเลย ทุกสิ่งทุกอย่างก็มาสลายหายไปในพริบตา ฝันที่วาดเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง กลับมาถูกเพื่อนเอาเท้าลบไปซะอย่างนั้น อยากกลับไปนอนกับเมียจังเลย คิดถึงเธอจังเจสสิก้า แล้วเธอล่ะจะคิดถึงพี่ไหม
“ ถ้าฉันไม่ช่วยแกล่ะ แกจะทำไม ”
ยุนอาทำหน้ากวนบาทาใส่ยูริ อย่างกับคนๆนี้จะแคร์เรื่องของชาวบ้านอย่างนั้นแหละ แต่ว่า...แค่เขายิ้มให้ยูริเฉยๆ ทำไมสองคนผัวเมียคู่นี้ต้องมาทะเลาะกันด้วย ไร้สาระชะมัดเลยนะพวกนี้ เจสสิก้าเองก็ไม่รู้จะเก็บดานี่เอาไว้ทำไม หลอกเด็กให้รอเก้อมาหลายครั้งแล้วล่ะสิ ดูได้จากสีหน้าของดานี่ แล้วบอกได้เลยว่าเธอถูกละเลย มันก็น่าจะดีแล้วไม่ใช่เหรอ ที่ดานี่ได้เจอคนใหม่ที่มีดีมากกว่าที่ตาเห็นน่ะ อีกอย่างเจสสิก้าเองก็แต่งงานไปแล้ว ควรจะตัดใจจากดานี่ได้แล้วนะ ยังจะเอาเรื่องนี้มาทะเลาะกับไอ้ดำมันอีกฃ
“ ฉันจะให้เจสสิก้าเอาดานี่ไปเป็นเมียอีกครั้ง หรือไม่ฉันก็จะเอาเด็กนั่นมาทำเมียซะเอง ”
*-*-*-*-*
*-*-*-*
*-*-*
*-*
*
“ นี่...แกกับคุณยูริทะเลาะกันมาเหรอ ”
เจสสิก้าไม่ได้ตอบคำถามของพี่สะใภ้ เธอเอาแต่ทำหูทวนลมไม่ใสใจที่จะรับฟังทิฟฟานี่เลย สายตาของเจสสิก้าเพ่งมองแต่หนังที่กำลังเล่น เธอเอาแต่จ้องมองหน้าจอทีวีอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่ใช่ว่าไม่ได้ยินที่พี่สะใภ้ถาม แต่คนมันกำลังใช้ความคิดอยู่ต่างหาก แม้ว่าตาจะมองที่ทีวี แต่ใจน่ะมันล่องลอยออกไปในอากาศแล้ว ใจมันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วล่ะ
“ ยัยเจส...แกช่วยสนใจเมียฉันหน่อยได้มั้ยฮะ ไม่ได้ยินที่ฟานี่ถามเหรอ ปากน่ะมีมั้ย ”
“ ช่างเถอะค่ะพี่แท ยัยเจสคงมีเรื่องอะไรให้ต้องคิดน่ะ พี่แทพาลูกไปเล่นในห้องนอนก่อนนะคะ ”
ทิฟฟานี่เห็นสามีใส่อารมณ์กับน้องสาว เธอก็เลยปรามเขาเอาไว้ เพราะเกรงว่ามันจะยิ่งไปซ้ำเติมเจสสิก้าอีก แค่มองดูก็รู้ว่าเพื่อนมีปัญหามาแน่ๆ แต่ว่าเจสสิก้าเป็นพวกปากหนัก ก็เลยไม่ค่อยจะปริปากพูดอะไรออกมาง่ายๆ การที่จะไปใส่อารมณ์กับคนที่ไม่มีแก่ใจแบบนี้ มันก็ไม่ต่างอะไรกับการชกกำแพง ไม่ว่าจะชกไปสักเท่าไหร่ มันก็ไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้นแหละ
“ ก็ได้จ้ะ ยูบิน...งั้นเราสองคนไปดูสาวๆบิ๊กบึ้มกันดีกว่านะ หม่าม๊าอนุญาตแล้ว ”
“ จริงนะ หม่าม๊าอานุญาตแล้วจริงนะ ”
ยูบินหันไปมองหน้าของผู้เป็นแม่อีกครั้ง เพื่อต้องการคำยืนยันจากทิฟฟานี่ ก็แบบว่ากลัวจะถูกสังหารเหมือนคราวที่แล้วไงล่ะ ลูกหมามันก็เลยอยากได้ความมั่นใจ หรือจะเรียกว่าปลอดภัยไว้ก่อนก็ได้ ถามแม่ให้แน่ใจก่อน แล้วค่อยไปดูสาวๆในชุดว่ายน้ำ ทั้งหมดนั่นก็เพื่อตัวเองกับพ่อหมา แล้วทิฟฟานี่ก็พยักหน้ารับ ว่าตัวเองอนุญาตุให้ลูกและสามีดูสาวๆบิ๊กบึ้มได้
“ ป๊ะป๋าลุยโลด ”
แทยอนก็ทำตามที่ลูกหมามันสั่ง เขาอุ้มลูกขึ้นมาไว้แนบอก จากนั้นก็พาขึ้นห้องนอนไป ปล่อยให้ภรรยากับน้องสาวอยู่กันตามลำพัง เพราะคิดว่าผู้หญิงด้วยกัน คงจะคุยกันรู้เรื่องกว่าผู้ชายอย่างเขา พอสามีกับลูกน้อยไปไกลจนลับตาแล้ว ทิฟฟานี่ก็ทิ้งตัวลงไปนั่งข้างๆเจสสิก้า ตอนนี้ในห้องนั่งเล่นจึงมีแต่สองสาวนี้เท่านั้น
เจสสิก้าเหลือบมองหน้าของพี่สะใภ้ ก่อนที่เธอจะถอนหายใจหนักๆอีกหนึ่งครั้ง เธอไม่อยากจะพูดกับแทยอนสักเท่าไหร่หรอก เพราะคิดว่าผู้ชายก็น่าจะคิดเหมือนๆกัน ที่เธออยากคุยด้วยนั้นก็มีแต่ทิฟฟานี่ ตอนนี้มีแต่ทิฟฟานี่คนเดียวเท่านั้น ที่พอจะเป็นที่พึ่งทางใจของเธอได้บ้าง อยากจะระบายความในใจออกไปนะ แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง
ทิฟฟานี่ยิ้มให้เพื่อนสาวอย่างใจดี แม้ทั้งคู่จะมีอายุที่เท่ากัน แต่ในสถานะการณ์แบบนี้ ทิฟฟานี่ดูจะมีวุฒิภาวะมากกว่าเจสสิก้า นั่นเพราะเธอเคยเจอกับปัญหาครอบครัวมาก่อน แม้ว่าอาจจะไม่หนักเหมือนอย่างที่เพื่อนกำลังเผชิญอยู่ แต่ทิฟฟานี่ก็สามารถรับมือกับอะไรๆหลายต่อหลายอย่างมาแล้ว และครั้งนี้เธอก็จะสามารถช่วยให้เพื่อนหายเศร้าได้
“ อยากจะบอกอะไรฉันมั้ย ไม่ว่าเรื่องอะไรก็บอกมาได้นะ อยากจะพูดอยากจะระบายอะไรมาก็ตามสบายเลย ฉันพร้อมที่จะรับฟังแกอยู่แล้ว เรื่องอะไรที่ทำให้แกเป็นแบบนี้ ถ้าแนช่วยได้ฉันจะช่วยอย่างเต็มกำลังเลย แต่ถ้าแกยังไม่พร้อมที่จะเล่าก็ไม่เป็นไรนะ เอาไว้ให้ใจเย็นก่อนก็ได้ ”
ทิฟฟานี่พยายามที่จะช่วยเหลือเจสสิก้าแล้วนะ แต่อีกฝ่ายก็เอาแต่นิ่งงัน ไม่พูดไม่จาอะไรเลย เจสสิก้าไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน เธอมักจะเป็นคนที่ไม่สนใจไม่แยแสอะไร และไม่เก็บเอาอะไรมาใส่ใจเลย ถ้ามันไม่สำคัญกับตัวเองหรือครอบครัว แต่วันนี้เธอกลับมาทำหน้าเหมือนกับคนที่ไร้วิญญาณ ใบหน้าสวยๆพลันดูไม่มีชีวิตชีวาเอาซะเลย แม้จะมีเครื่องสำอางค์ปกปิดมา ยังไงซะมันก็ยังไม่สามารถปกปิดความเศร้าของเธอได้
ทิฟฟานี่ยื่นมือไปแตะที่หลังมือของอีกคน แล้วก็ออกแรงตบเบาๆเพื่อเป็นการปลอบใจ ในเมื่อเจสสิก้าไม่ยอมปริปากพูดอะไรเลย ทิฟฟานี่ก็เลยคิดว่าน่าจะปล่อยให้เพื่อนได้อยู่คนเดียว ให้เจสสิก้าได้คิดอะไรคนเดียวคงจะดีกว่า เธอจึงยันกายลุกขึ้นยืน แล้วก็หมุนตัวเตรียมก้าวขาจากไป แต่เจสสิก้ารั้งแขนของเธอเอาไว้ก่อน
“ ฉัน...ฉันกับยูริจะหย่ากัน ”
เจสสิก้าพูดไปน้ำตาก็เริ่มไหลออกมาเรื่อยๆ เธอยอมเปิดปากบอกเพื่อนแล้ว ว่าทำไมเธอถึงได้เป็นแบบนี้ เจสสิก้าเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป เธอร้องไห้อย่างไม่อายพี่สะใภ้เลยสักนิด ซึ่งทิฟฟานี่เองก็ไม่ได้ถือสาอะไรกับน้องของสามี ตรงกันข้ามเธอยังกลับมานั่งที่เดิม จากนั้นก็รั้งร่างของเจสสิก้าเข้ามากอดเอาไว้ แม้จะยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้ แต่ทิฟฟานี่ก็ยินดีที่จะรับฟัง
“ ฉันขอยูริหย่า แต่ฉัน...ฉัน... ”
“ ไม่อยากจะหย่าใช่มั้ย ”
ทิฟฟานี่พูดแทรกขึ้นมาทันที ที่เธอได้ยินเจสสิก้าพูดเสียงตะกุกตะกัก ก็เพราะว่าการเป็นเพื่อนกันมานาน จึงทำให้ทิฟฟานี่รู้ทันความคิดของเจสสิก้า มือนิ่มของหญิงสาวลูบไล้ที่เรือนผมของน้องสามีอย่างเบามือ ทิฟฟานี่ค่อยๆกดศรีษะของเจสสิก้าให้ลงมาซบที่ไหล่ของเธอ จากนั้นแขนเล็กก็โอบกอดร่างบางที่กำลังสั่นสะอื้นอย่างห่วงใย
“ ฟานี่...ฉันกำลังจะเสียคนที่ฉันรักไป เพราะปากของฉันเอง ฉันไม่อยากเสียยูริไป ฉันรักเค้า ฉันรักยูริ ”
แม้ก่อนหน้านี้เจสสิก้าจะทำเป็นปากกล้าใจแข็งกับยูริ แต่พอลับหลังเขามาแล้ว เธอกลับเปลี่ยนเป็นอีกคน เจสสิก้าคนที่เข้มแข็งจิตใจเด็ดเดี่ยวได้หายไปแล้ว ตอนนี้มีแต่เจสสิก้าคนที่อ่อนแอเท่านั้น ที่ตรงนี้ ตอนนี้ มีแต่ผู้หญิงเจ้าน้ำตา ที่กำลังร้องไห้ฟูมฟายเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไปเพราะความเอาแต่ใจของตน
“ รักเค้า...แล้วไปขอหย่ากับเค้าทำไมล่ะ ”
“ ฉัน...ฉันคิดว่าเค้าเป็นคนวางแผนให้ดานี่มาเจอฉันกับเค้า แล้วเค้าก็ยอมรับว่าได้ทำจริง ”
เพราะคิดว่าถูกคนรักหักหลัง เจสสิก้าจึงได้ตันสินใจทำอะไรที่มันตรงข้ามกับความรู้สึก เธอรักยูริจนสามารถพูดได้อย่างเต็มปาก แต่ก็ยังทำปากเก่งไล่เขาไปตายบ้างล่ะ ขอลิกขอหย่าบ้างล่ะ แบบว่าเก่งแต่ปากเท่านั้น แต่พอลับหลังก็มานั่งร้องไห้เสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปแล้ว แม้จะรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่ทำกับดานี่ แต่ก็ไม่รู้สึกว่าเธอจะเสียใจเท่ากับที่ทำกับสามีเลย
“ นี่เจอกันแล้วเหรอ แกได้บอกดานี่หรือยัง ”
“ ดานี่รู้เรื่องของฉันกับยูริหมดแล้ว เรื่องมันถึงได้เป็นแบบนี้ไงล่ะ ฉันถึงได้ขอหย่ากับยูริยังไง ”
เจสสิก้าเล่าเรื่องราวที่เธอได้พบเจอให้กับพี่สะใภ้ฟัง และทิฟฟานี่ก็เข้าใจอะไรได้ดี ที่แท้เรื่องมันเกิดขึ้นเพราะการเผชิญหน้ากันของดานี่กับเจสสิก้า ก้เคยบอกเคยเตือนเพื่อนสาวอยู่หลายครั้งแล้วนะ ว่าให้บอกความจริงกับเด็กมันไปซะ แต่เจสสิก้าก็มั่นใจว่าตัวเองจะหย่ากับสามีได้ แล้วก้จะกลับมาอยู่กินกับดานี่ แล้วผลสุดท้ายก็กลายเป็นว่าเจสสิก้ารักยูริจริงๆ แต่ก็ยังตัดใจจากดานี่ไม่ได้ หรือว่าแค่ยังห่วงเด็กมันอยู่แค่นั้นกันนะ
“ ฉันไม่รู้ว่าจะทำยังไงแล้วฟานี่ ฉันคิดอะไรไม่ออกเลย ฉันหาทางออกไม่เจอ ก็เลยหลุดปากขอหย่า แล้วยูริก็ตกลงที่จะหย่า ฉันทำผิดมากมั้ย ฉันทำผิดไปใช่มั้ย...ฟานี่ ”
น้ำใสๆก็ยังรินไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยของคนเจ้าน้ำตา เจสสิก้าดูจะอักอั้นตันใจ จนไม่สามารถที่จะเก็บความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองได้แล้ว เธอระบายความในใจออกมาให้พี่สะได้รับฟังหมด เพราะเก็บเอาไว้คนเดียวไม่ไหวแล้ว ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับเรื่องที่ตัวเองได้ก่อเอาไว้ ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงให้ทุกอย่างมันจบลงไปด้วยดี จบแบบที่ไม่ต้องเสียยูริไป แล้วก็ไม่ทำร้ายจิตใจของดานี่มากไปกว่านี้
“ ไม่มีใครผิดหรือถูกหรอก ก็แค่ใช้อารมณ์คุยกันเท่านั้นแหละ ลองหันหน้าเข้าหากันอีกครั้ง แล้วก็ใช้หัวใจและเหตุผลคุยกันใหม่ ฉันว่าอะไรๆมันต้องดีขึ้นมาแน่ๆเลย ”
หากใช้แต่อารมณ์คุยกัน ผลที่ตามมามันจะมากมายเป็นเท่าทวี กับอารมณ์ที่เดือดดาลของทั้งสองฝ่าย เท่าที่ได้รับฟังเจสสิก้าพูดมา ก็เข้าใจว่าทั้งคู่ยังอยู่ในช่วงที่จะต้องปรับตัวเข้าหากัน ทั้งคู่เริ่มต้นมาด้วยความใคร่สิเหน่หา หาได้เริ่มต้นมาด้วยความรักเหมือนอย่างคู่ของเอกับแทยอนไม่ ดังนั้นพอมีเรื่องอะไรมากระทบกระทั่งใจกันหน่อย ก็เลยกลายเป็นว่าต่างฝ่ายต่างยึดเอาแต่ความคิดของตัวเอง ไม่ได้นึกถึงจิตใจของอีกฝ่าย เรื่องมันก็เลยบานปลายออกไปเหมือนไฟลามทุ่ง
“ แต่ฉันไล่เค้าไปแล้วนะ แถมยังไล่ไปตายอีกด้วย เราคงจะกลับมาคุยกันไม่ได้แล้วล่ะ แนอายที่จะกลับไปง้อนายนั่น ”
“ เจสสิก้า...ขอแนะนำอะไรสักหน่อยนะ ฉันรู้ว่าแกเป็นพวกทิฐิสูง เป็นพวกที่ไม่ยอมใครง่ายๆ แต่แกรักยูริไม่ใช่เหรอ แล้วก็ยังรักมากกว่าที่รักดานี่ซะอีก ฉันพูดถูกมั้ย...อย่ามาปฏิเสธนะว่าแกไม่ได้รักยูริมากกว่าดานี่ แกห่างกับดานี่มาสักพัก แต่แกไม่เจอเด็กมันก็ได้ หรือจะพูดให้ถูกก็คือ...แกลืมเด็กมันไปแล้วด้วยซ้ำ แกลืมดานี่เสมอเวลาที่แกอยู่กับยูริ แต่นี่แกกับเค้าห่างกันแค่ไม่เท่าไร แกก็ร้องไห้ฟูมฟายหาเค้าแล้ว ในเมื่อรักเค้ามากขนาดนี้ ก็ลองลดทิฐิลงไปบ้างนะ ลองหันกลับไปคุยกันใหม่อีกที ลองใช้หัวใจคุยกัน อย่าใช้แต่อารมณ์ รักกันมันก็ต้องลองเชื่อใจกัน ไม่งั้นแกก็จะทุกข์ทรมานใจไม่มีวันที่สิ้นสุดหรอก ฉันบอกแกได้แค่นี้แหละ ”
ทิฟฟานี่ดันศรีษะของเจสสิก้าออกไปจากไหล่ของเธอ จากนั้นพี่สะใภ้คนสวยก็ยกมือขึ้นมาลูบไล่ตามกรอบหน้าของน้องสามี นิ้วเรียวปาดเช็ดเอาน้ำตาที่ไหลเปลือะใบหน้างามออก ใบหน้าของเจสสิก้าถูกเช็ดด้วยมือของพี่สะใภ้ ผู้ที่เป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่สาวในคราวเดียวกัน หญิงสาวค่อยๆหลับตาลงไป เพื่อที่จะได้ทำใจให้จิตใจของตนสงบลง
ทิฟฟานี่มองหน้าของอีกคนแล้วเธอก็ยิ้มหวานให้ ก่อนที่จะเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้กับใบหน้างามของเจสสิก้า ริมฝีปากบางที่มีลิสติกสีจากแบเอาไว้ กดลงไปแตะที่หน้าผากของน้องสามี ซึ่งเจสสิก้าเองก็เต็มใจที่จะให้พี่สะใภ้ทำแบบนั้น นอกจากผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้า จะเป็นน้องของสามีแล้ว ทิฟฟานี่ยังคิดว่าเจสสิก้าก็เหมือนกับเป็นน้องของตัวเองด้วย เพราะเธอไม่มีพี่มีน้อง จึงคิดว่าเจสสิก้าสามารถเป็นน้องของตัวเองได้ และเอเองก็สามารถเป็นพี่สาวให้กับยัยคนปากแข็งคนนี้ได้ด้วยเช่นกัน
“ ทิฟฟานี่...ขอบคุณนะ ”
“ ไม่เป็นไร ฉันรักแกนะ แกเหมือนเป็นน้องสาวของฉัน ดึกแล้วไปนอนดีกว่ามั้ย พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่นะ แล้วอีกอย่าง...ฉันรู้ว่าแกปากไม่ตรงกับใจ ครั้งต่อไปช่วยพูดอะไรเหมือนอย่างที่หัวใจแกต้องการด้วยล่ะ จะได้ไม่ต้องมานั่งหลั่งน้ำตาให้ฉันเช็ดแบบนี้อีก ”
*-*-*-*-*
*-*-*-*
*-*-*
*-*
*
Talk…………………….
วันนี้สั้นจริงๆเลยเน้อ เค้าว่ามันยังดราม่าน้อยไปอยู่นะ แต่ในเมื่อชื่อฟิคมันก็บอกอยู่เป็นนัยๆว่าจะไม่มีดรามา งั้นเค้าจะลดมันลงไป แล้วก็เอาหื่นๆฮาๆเข้ามาแทนละกัน ตอนหน้ามาหื่นอากับครอบครัวสุขสันต์ ที่ได้ห่างหายไปจากวงการNCนานพอดู แล้วก็มารอลุ้นด้วยว่าคุณครูชอบกินเด็กจะช่วยสองสามีภรรยาให้คืนดีกันได้มั้ย หรือว่างานมันจะมาเข้าตัวเองแทนก้ไม่รู้ เอาเป็นว่าเค้ารักทุกคนที่ให้กำลังใจ และที่แอบให้กำลังใจ(ในช่วงที่มีNC)ด้วยนะจ๊ะ ตอนหน้าไม่ดราม่า(เหรอ) จุฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
ความคิดเห็น