ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] งานนี้...พี่ต้องมี...ลูก YulsiC yuri x sica

    ลำดับตอนที่ #25 : Chapter 25

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.29K
      1
      23 พ.ย. 55

     

    งานนี้...พี่ต้องมี...ลูก

     

    Chapter  25

     

    “ มาช้าจังเลยนะคะ แล้วยูบินล่ะ พี่แทเอาลูกไปทิ้งไว้ที่ไหน ”

    พอเจอหน้ากันเมียที่รักก็ทักซะให้คนที่ฟังรู้สึกผิดขึ้นมายังไงก็ไม่รู้ ทิฟฟานี่ถามหาลูกสาว ซึ่งเมื่อเช้านี้สามีได้พาลูกไปที่ทำงานด้วย แต่ขากลับทำไมเขาถึงกลับมารับเธอแค่คนเดียว แล้วลูกหมาของเธอล่ะ เขาเอาลูกไปทิ้งไว้ที่ไหนกันนะ อย่าให้รู้นะว่าลืมลูกเอาไว้ที่บริษัทน่ะ ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ แม่จะด่าซะให้เปิงไปเลยคอยดูสิ เห็นหน้าหวานๆแบบนี้ก็ด่าเป็นนะคะสามีขา

    “ ปะ...เปล่าจ้ะ พี่ไม่ได้เอาลูกหมาที่น่ารักของเราไปทิ้งที่ไหนทั้งนั้นแหละ เพียงแต่วันนี้เจ้าลูกหมามันอ้อนจะอยู่กับยัยเจสกับยูริน่ะ พี่ก็เลยจะให้สองคนนั้นเลี้ยงลูกให้เราไง แล้วอีกอย่างนะ ยัยเจสจะได้เตรียมตัวเป็นแม่คนไงล่ะ ฟานี่คงจะไม่ว่าพี่ที่เอาลูกให้น้องสาวเลี้ยงแทนหรอก...ใช่มั้ย ”

    กลัวเมียจะด่าอยู่เหมือนกันนะ ที่อยู่ๆเขายกลูกน้อยให้น้องสาวกับน้องเขยเลี้ยงให้น่ะ ก็แบบว่ายูบินร้องไห้กระจองอแงไม่หยุด เหตุเพราะอยากจะอยู่กับคุณอาทั้งสอง เขาพยายามที่จะพาลูกน้อยมาหาภรรยาแล้วนะ แต่ก็อย่างว่าแหละ เขาขัดใจลูกสาวไม่เคยได้เลยสักครั้ง แล้วครั้งนี้ก็อีกเช่นกัน เขาก็ขัดใจยูบินไม่อีกได้อยู่ดี ในเมื่อลูกหมามันอยากจะมีพ่อแม่ใหม่ ก็เลยปล่อยมันให้ไปอยู่กับพ่อใหม่แม่ใหม่ละกัน

    “ ถ้าพี่แทเอาลูกไปฝากไว้กับยัยเจสก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ยังไงนั่นก็อากับหลานกัน แต่ที่ฟานี่จะว่า ก็คงจะว่าเรื่องรอยที่แก้มของพี่แทมากกว่ามั้งคะ ไม่ทราบว่าพี่เอาหน้าไปถูกับปากของใครมางั้นเหรอ ”

    ทิฟฟานี่ไม่ได้ตั้งใจที่จะเห็นไอ้รอยสีระเรื่อบนแก้มของสามีหรอกนะ พอดีว่าหันไปคุยด้วย ก็เลยเจอกับสิ่งที่เธอคิดว่าเป็นรอยลิปสติกน่ะสิ ทีแรกที่เห็นก็คิดว่าสามีคงจะเกาหน้าของตัวเองจนมันเกิดเป็นรอยแดง แต่พอมองไปมองมา แบบว่าซูมกันใกล้ๆ ก็มั่นใจอย่างแรงเลยว่ารอยนั่นมันคือรอยลิปสติก แล้วไม่ทราบว่าคุณสามีสุดที่รักเอาแก้มไปให้ใครจูบมา

    “ แก้ม รอยลิปสติก ”

    แทยอนพึมพัมกับตัวเองเบาๆ แล้วเขาก็รีบหากระจกมาส่องดูหน้าของตัวเอง หันซ้ายปลอดภัยไร้ปัญหา แต่พอหันมาทางขวา โอ้แม่เจ้า...รอยลิปสติกจริงๆด้วย สีแดงสดมาเลยเชียวล่ะ มือน้อยๆยกขึ้นลูบใบหน้าของตัวเอง เหมือนกับว่าเขาจะพยายามลบร่องรอย ที่ติดอยู่บนแก้มให้หลุดออก แต่ทิฟฟานี่อยากจะบอกเขาเหลือเกินว่า ผู้หญิงที่เขาปล่อยให้จูบน่ะใช้ลิปสติกราคาแพงมาก มากพอที่จะทำให้ลบไม่ออกง่ายๆหรอก เคยเห็นไหมแบบที่ติดทนติดนาน ต่อให้เอาไปถูกับอะไรก็ออกยาก อย่าพยายามทำลายหลักฐานเลยนะคะที่รัก ยังไงซะฟานี่ก็เห็นหมดแล้วล่ะ

    มือนุ่มนิ่มของทิฟฟานี่ยื่นเข้ามากระชากคอเสื้อเชิ้ตของสามีเข้ามาหาตน เธอกำคอเสื้อของแทยอนเอาไว้ พร้อมกับรั้งคอของเขาให้โน้มลงมาหาเธอ ลูกก็ไม่ได้พามาด้วยแบบนี้ สงสัยว่าเธอคงจะต้องแสดงบทบู้กับสามีได้แล้วล่ะ ก็ยูบินยังเด็กอยู่มาก จึงไม่อยากให้เห็นฉากมันส์สะเด็ดของพ่อกับแม่ แต่เมื่อลูกหมาไม่ได้อยู่ที่นี่ เพราะฉะนั้นมันก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปแล้วล่ะ จะจัดการกับสามีชีกอตอนนี้ก็ยังได้

    “ อูย...ฟานี่ ใจเย็นๆสิจ๊ะ นี่มันยังไม่พ้นเขตของโรงพยาบาลเลยนะ ”

    “ ค่ะ เพราะว่ามันยังอยู่ในเขตของโรงพยาบาลยังไงล่ะคะ ฟานี่ถึงได้อยากจะลงมือให้เสร็จๆไง พอซ้อมพี่แทเสร็จแล้ว ก็ให้บุรุษพยาบาลเข็นเข้าห้องเก็บศพไปเลยยังไงล่ะคะ ”

    หมายความว่ายังไงล่ะจ๊ะเมียจ๋า นี่ยังไม่ได้ฟังสามีอธิบายอะไรเลยนะ ยังไม่ทันได้อ้าปากพูดอะไรเลย เธอก็จะฆ่าพี่ซะแล้วเหรอ มันจะไม่ดูโหดร้ายไปหน่อยเหรอจ๊ะที่รัก เปิดโอกาสให้พี่ได้อธิบายอะไรบ้างสิ ไอ้รอยนี่พี่ไม่ได้ตั้งใจใหมันติดแก้มมาเลยนะ แบบว่ามีคนส่งจูบลอยผ่านหนาพี่ไป แต่ว่าลมมันพัดให้จูบนั้นลอยมาแปะแหมะเข้าที่แก้มของพี่พอดีเลย เห็นไหมว่ามันเป็นอุบัติเหตุทั้งนั้นเลยอ่ะ

    “ ฟาเน่จ๋า ให้พี่ได้อธิบายอะไรสักนิดสักหน่อยบ้างสิจ๊ะ ฟังพี่แทก่อนนะ ”

    “ อะไรล่ะคะ ขอให้มันฟังขึ้นนะ ถ้าไม่ล่ะก็...ไอ้ช้างน้อยของพี่แทมันจะไม่ได้อยู่ติดตัวพี่แทไปนะคะ ”

    ดูเหมือนว่าคุณภรรยาจะอยากฟังอะไรที่มันดีๆ ซึ่งแน่นอนว่าคุณสามีต้องมีคำอธิบายที่ดีๆให้กับเธอได้แน่ แต่ว่าเธอจะเชื่อหรือไม่นั้น มันก็เป็นอีกเรื่องนึง อธิบายมาดีๆนะคะพี่แท สรรหาคำพูดที่มันฟังแล้วรื่นหูมาด้วยล่ะ ถ้าพูดอะไรที่มันฟังแล้วไม่ได้ใจล่ะก็ ลูกหมีลูกหมาก็ไม่ได้เกิดกันล่ะงานนี้ แม่จะถอนรากถอนโคนมันออกให้หมดเลย โปรดอย่าลืมนะคะว่าเมียน่ะเป็นศัลยแพทย์นะ จับมีดตัดฉับเดียวได้ขาดวิ่นแน่

    “ เอ่อคือ...ไอ้รอยที่แก้มของพี่น่ะ เรื่องมันเป็นแบบนี้นะจ๊ะ แบบว่ามีผู้หญิงงคนนึงเดินผ่านพี่อะนะ แล้วบังเอิญยังไงก็ไม่รู้ เธอก็เลยสะดุดขาตัวเอง แล้วพี่ที่เป็นคนดีของสังคน ซึ่งอยู่ใกล้เธอมากที่สุดก็เลยเข้าไปพยุงเอาไว้ แล้วมันก็บังเอิญอีกเช่นกันนะ ที่แก้มของพี่มันไปชนเข้ากับปากของเธอพอดีเลย มันก็เลยมีรอยลิปสติกติดแก้มพี่มายังไงล่ะครับ ”

    “ ฟังดูมีเหตุผลดีจริงๆเลยนะคะ มีแต่เหตุบังเอิญทั้งนั้นเลย บังเอิญบ้านแกน่ะสิ ไอ้เตี้ย...เห็นอยู่ตำตาว่านี่มันรอยตั้งใจจูบมาชัดๆ ยังจะมาทำเป็นเนียนบอกว่าบังเอิญอีกเหรอห๊า สารภาพมาซะดีๆ ว่าพี่แทเอาแก้มไปชนกับปากของใครมา ”

    ต่อให้ไอ้พ่อหมามันขุดหาคำแก้ตัวดีๆมาสักแค่ไหน แม่หมีสุดที่รักก็ไม่เชื่อใจของสามีอยู่ดีนั่นแหละ ก็รอยมันเด่นชัดซะขนาดนี้ ยังจะมีหน้ามาบอกว่าบังเอิญถูกจูบอีก เห็นๆกันอยู่ว่านี่มันตั้งใจจูบแบบเน้นๆเลยล่ะ กล้ามากนะไอ้คุณหมา แกกล้ามากเลยนะที่เอารอยลิปสติกนี่มาให้เมียดู แสดงว่าแกอยากจะตายมากเลยใช่มั้ย ถึงได้เอาไอ้ร่องรอยของความหื่นมาฝากฉันแบบนี้

    “ ฟานี่...คือพี่...พี่ไม่ได้เอาแก้มไปชนกับปากของใครมาจริงๆนะจ๊ะ มีแต่คนอื่นเอาปากมาชนกับแก้มนุ่มๆของพี่เองอ่ะ แบบว่าพี่ไม่ได้เต็มใจให้เค้าทำแบบนี้เลยนะ ”

    “ ไม่ได้เต็มใจแล้วทำไมไม่รู้จักหลีกเลี่ยง ไม่รู้จักหนีเลยหรือไง แล้วไหนบอกว่าไม่รู้ว่าได้ลิปสติกนี่มายังไง ทำไมถึงต้องมาโกหกกันด้วย ”

    แทยอนหาทางหนีไม่ได้ เขาทำอะไรไม่ถูกแล้ว ทำไมวันนี้แม่หมีโหดได้ใจมากมายเลยล่ะ ดูสิกระชากคอเสื้อสามี ทั้งดึงทึ้งไปมาประหนึ่งว่านี่คือตุ๊กตาระบายอารมณ์อย่างนั้นแหละ ฟานี่จ๋า...พี่ไม่ได้คิดที่จะให้ใครมาจูบเลยนะ หากว่าพี่เจตนาแบบนั้นจริงๆแล้วล่ะก็ พี่จะไม่ทิ้งร่องรอยให้น้องได้เห็นมันหรอกนะจ๊ะ ที่เห็นเนี่ยแสดงว่าพี่ไม่ได้ตั้งใจเน้อ

    “ พะ...พี่เปล่าโกหกนะจ๊ะที่รัก ก้เค้ามาจูบที่เองอ่ะ ”

    “ แล้วไม่มีปากบอกหรือไงว่าห้ามจูบอ่ะ ตายซะพี่แท ตายซะไอ้คนกะล่อน ”

     

    *-*-*-*-*

    *-*-*-*

    *-*-*

    *-*

    *

     

    “ ตัวนี้เป็นไง น่ารักดีมั้ย ”

    เจสสิก้าหยิบเอาเสื้อผ้าสำหรับเด็กมาวัดกับตัวของหลานน้อย ยูบินก็ยืนให้ผู้เป็นอาวัดตัวอย่างว่าง่าย ตั้งแต่ที่หนูน้อยรู้ว่าอารักตัวเอง ยูบินก็ทำตัวเป็นเด็กดีมาตลอดทั้งวันเลย แล้วยิ่งดีเข้าไปใหญ่ เมื่อป๊ะป๋าอนุญาตให้ตัวเอง นอนค้างกับคุณอาทั้งสองคนได้ ลูกหมาก็เลยกลายร่างเป็นลูกหมีสักพัก ก็รู้ว่าอารักตัวเองแล้วนี่นา เมื่ออารักก็ต้องทำตัวเป็นเด็กดีสิ

    “ น่าร๊ากที่ฉุดเยย ”

    เจสสิก้ายิ้มให้กับหลานน้อยอย่างเอ็นดู ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่าเธอจะต้องมาวุ่นวายอยู่กับเด็ก ทั้งที่ตัวเองก็ออกจะไม่ชอบเด็กอยู่แท้ๆ แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เปลี่ยนไปอย่างไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นมาได้ วันนี้เธอรับเอาหลานน้อยมาเลี้ยงด้วยแหละ เลี้ยงดูแบบทั้งวันทั้งคืนเลยนะ ประหนึ่งว่าเธอกับสามีกำลังสวมบทของพ่อกับแม่ ที่ต้องมาคอยดูแลลูกน้อยเลยล่ะ

    “ ครับน่ารัก น่ารักทั้งอา น่ารักทั้งหลานเลย ”

    ยูริที่ยืนอยู่ด้านหลังของยูบินเอ่ยชมภรรยาพร้อมกับหลานน้อย วันนี้เจสสิก้าดูน่ารักมากเลย ยิ่งตอนที่เธอได้อยู่กับยูบินก็ยิ่งดูน่ารักน่าหลง เหมือนแม่ดูแลลูกยังไงอย่างงั้น คำชมที่เขาเอ่ยออกไป ทำให้คนที่ได้ฟังถึงกับใจสั่นกันเลยทีเดียว ก็รู้ว่ายูริน่ะปากหวาน นั่นเป็นสิ่งที่เขาชอบกระทำกับเธอและสาวอื่น ทั้งที่รู้อย่างนั้น แต่ทำไมเธอถึงใจสั่นด้วยก็ไม่รู้

    “ ยูบินน่าร๊าก อาเจสก็น่าร๊าก ”

    ยูบินมองหน้าของอาสาวอย่างรักใคร่ หนูน้อยรักอาคนนี้มากมายจริงๆนะ รักเหมือนกับที่รักแม่หมีเลย รักมากจนอยากจะอยู่ด้วยกัน เหมือนอย่างวันนี้ไง ที่หนูน้อยร้องไห้งอแงเพียงเพื่อแค่ให้ได้นอนค้างกับคุณอา แล้วอีกอย่างนอกจากจะรักอาเจสแล้ว ยูบินยังรักอายูลมากๆด้วย รักเหมือนกับที่รักพ่อหมาเลย

    “ แล้วอายูลล่ะครับ อายูลน่ารักมั้ย ”

    ยูริย่อตัวลงมานั่งคุกเข่าอยู่ข้างหลังหลานน้อย ยูริก็เลยหันไปหาอาเขย พร้อมกับเอามืออ้วนป้อมของตน ไปแตะแปะที่แก้มทั้งสองข้างของเขา จากนั้นยูบินก็ออกแรงที่มีอยู่น้อยนิด ดันแก้มของยูริเข้าไป พร้อมกันนั้นหนูน้อยก็จูบจ๊วบเข้าที่จมูกโด่งของคุรอายูลหนักๆ จนเสียงดังก้องไปเข้าทั้งสองหูของคนที่ถูกจูบ

    “ อายูลก็น่าร๊าก ”

    “ หึๆๆ สรุปแล้วเราทั้งสามคนน่ารักกันหมดเลยสินะ มา...เดี๋ยวอาจะพาหนูไปหาของเล่นกัน ”

    ว่าแล้วยูริก็ใช้แขนแกร่งของตัวเอง ช้อนร่างน้อยๆขึ้นมาจากพื้น เขาอุ้มยูบินให้ขึ้นมาอยู่แนบอก เหมือนพ่อที่กำลังอุ้มลุกน้อยอันเป็นที่รักของตนเลย ความจริงเขาก็อยากจะมีลูกนะ อยากจะมีผู้สืบสกุลอยู่เหมือนกัน แต่ว่าปัญหามันอยู่ที่เจสสิก้า ไม่รู้ว่าเธอกินยาคุมนั่นอยู่ไหม เขาไม่อยากให้เธอกินมันเลย อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติมากกว่า ทั้งที่ก็ร้องขอลุกจากภรรยาคนสวยไปแล้ว เธอกลับตอบมาด้วยคำว่าเอาหมัดสองหมัดไปแทนก่อนละกัน แบบนั้นลูกของพ่อคงจะได้เกิดยากอยู่ล่ะมั้งเนี่ย

    เจสสิก้าก็ยืนมองสองคนอาหลานที่กำลังกอดอุ้มกันอย่างน่ารักน่าเอ็นดู คำพูดที่ทิฟฟานี่เคยถามเธอนั้นมันแล่นเข้ามาในหัวอีกครั้ง กับคำพูดที่ว่าเธอไม่อยากจะมีลูกจริงๆน่ะเหรอ ไม่อยากมีลูกงั้นเหรอ ฉันไม่อยากมีลูกเลย ไม่อยากจะมีไอ้ตัวเล็กๆน่ารักแบบนี้หรอก ไม่อยากได้ลูกเลยสักนิด แต่ทำไมเวลาที่มองยูบินกับยูริแล้ว ฉันถึงคิดว่ามันดูน่ารักน่าอบอุ่นนักล่ะเนี่ย

    “ นี่นายยังจะพาหลานไปหาของเล่นอีกเหรอ เรากลับบ้านกันได้แล้วมั้ง ”

    ก็เห็นว่าตอนนี้มันก็เย็นมากแล้ว ยูบินยังเป็นเด็กอยู่นะขืนยังพาตากแอร์ตามห้างนานๆ มีหวังได้ไม่สบายกันพอดี ซึ่งแน่นอนว่าเธอหรือพ่อแม่ของหนูน้อยคงไม่อยากจะให้เป็นแบบนั้นหรอก แต่ดูเหมือนว่ายูบินจะไม่ยอมนะ ที่ได้ยินอาสาวพูดว่าจะพากลับบ้านแล้วอ่ะ ก็หนูอยากได้ของเล่นก่อนน่ะ ขอของเล่นก่อนแล้วค่อยกลับก็ได้

    “ มะอาว ยังม่ายกลับ หนูจาเอาของเล่น ”

    “ น่าน้องเจส ขอเวลาแค่ไม่กี่นาทีเองนะครับ พอได้ของเล่นแล้วเราก็กลับกันเลยนะ ”

    ยูริช่วยหลานน้อยออดอ้อนเจสสิก้าเอาไว้  เขาอยากจะใช้เวลาอยู่กับภรรยาและลูกหมาของคนอื่นให้นานๆ เวลานี้เราทั้งสามคนเหมือนพ่อ แม่ ลูก กันจริงๆไปแล้วนะ เพราะจากสายตาที่เจสสิก้ามองยูบินนั้น มันเต็มไปด้วยความรักใคร่ในแบบที่คนเป็นแม่ส่วนใหญ่มีกัน แถมเธอยังมองมาที่สามีอย่างที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า เธอรู้สึกดีกับเขามากแค่ไหน แม้ว่าปากของแม่คนงามจะยังยืนยันว่าไม่ได้รัก แต่ว่าการกระทำของเธอน่ะ มันนำโด่งไปไกลแล้ว

    ยูบินก็ทำตาใสใส่เจสสิก้า ประหนึ่งว่านี่คือสายตาของลูกน้อย ที่อ้อนวอนของให้ผู้เป็นแม่เห็นอกเห็นใจ ยูบินใช้มารยาที่ตัวเองสั่งสมมาอย่างเต็มที่ หนูน้อยจ้องหน้าของอาสาวอย่างคาดหวัง ดวงตาใสๆเริ่มมีน้ำออกมาคลอเบ้า อีกนิดก็จะไหลออกมาแล้ว เจสสิก้าเห็นแล้วก็ได้แต่ระอาใจตัวเอง ทั้งที่ก็ไม่ได้อะไรกับเด้กมากมาย แต่ทำไมเธอถึงต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ด้วยนะ

    “ ก็ได้ เอาแค่ของเล่นแล้วค่อยกลับก็ได้ แต่อย่านานนักนะ ”

    “ เซอร์เยสเซอร์ ”

    “ เยดเชอร์ ”

    ยูริยืนทำท่าตะเบะให้เจสสิก้า เหมือนกับผู้ใต้บัญชาที่ทำความเคารพผู้นำ เมื่อเห็นอาเขยทำท่าน่าสนุก ยูบินก็ทำตามพร้อมกับขานรับเหมือนที่ยูริทำอีกเช่นกัน ภาพของคนต่างวัยที่อยู่ตรงหน้า ทำให้หญิงสาวที่มองได้แต่ยืนยิ้มอย่างเอ็นดู นี่ขนาดเป็นแค่อาเขยกับหลานสาวนะ ยังเหมือนกันได้มากขนาดนี้ แล้วถ้าเขามีลูกขึ้นมา มันจะเหมือนกันซะขนาดไหนเนี่ย

    “ หึๆๆ...นายนี่น๊า ไปสิ...จะไปหาของเล่นกันไม่ใช่เหรอ มัวแต่มายืนทำความเคารพฉันแล้วมันจะได้ของเล่นมั้ย ”

    ยูริยิ้มหวานให้กับผู้เป็นภรรยา ซึ่งแน่นอนว่าเจสสิก้ายิ้มตอบกลับไป ก็ไม่มีเหตุผลอะไร ที่เธอจะต้องมาทำหน้าบึ้งตึงใส่เขาเลยนี่นา วันนี้ยูริทำหน้าที่ของเขาได้ดีมากเลยทีเดียวนะ เขาปลอบโยนเธอในยามที่เธอทุกข์ใจ เขาคอยให้กำลังใจในยามที่เธอรู้สึกสิ้นหวัง เขาอยู่เคียงข้างในยามที่เธอมีปัญหา แค่นี่ก็น่าจะเพียงพอแล้วล่ะที่เธอจะยิ้มให้กับเขา

    “ ครับผม งั้น...เราทั้งสามคนก็ไปหาของเล่นกันดีกว่าเนอะ ”

    ยูริไม่พูดเปล่า เขาคว้าข้อมือของเจสสิก้า แล้วก็ฉุดให้เธอเดินตาม เจสสิก้าเองก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะปฏิเสธหรือขัดขืนอะไรเลย เธอยอมเดินตามยูริอย่างว่าง่าย มือใหญ่เลื่อนลงไปกุมมือเล็กอย่างแนบเนียน นิ้วเรียวทั้งห้าสอดประสานกับนิ้วมือของอีก ความอบอุ่นจากชายหนุ่ม ถูกส่งไปให้กับหญิงสาวที่เดินเคียงข้างกัน โดยที่มืออีกข้างนั้นยังโอบกอดเจ้าตัวน้อยอยู่เลย เจสสิก้าเงยขึ้นไปมองหน้าของคนตัวสูง ซึ่งตอนนี้เขาไม่ได้มองเธอกลับมาหรอก เพราะต้องมองทางข้างหน้า แต่ก็มีชำเรืองตามามองบ้างนิดนึงพอเป็นพิธี แบบว่าต้องมีเล่นตัวกันบ้างอ่ะนะ ไม่งั้นเจสสิก้าจะไม่เห็นค่าของเขาเลย

    ควอน ยูริ ทำไมนายถึงทำให้ฉันเป็นแบบนี้ ทำไมนายถึงได้มีอิทธิพลกับหัวใจของฉันถึงขนาดนี้นะทั้งที่เมื่อก่อนฉันไม่เคยให้ผู้ชายคนไหน ได้แตะต้องแม้แต่ปลายก้อยเลยด้วยซ้ำ แต่กับนายทำไมฉันถึงยอมให้นายแตะได้ทั้งตัวก็ไม่รู้ จะบอกว่าไม่ชอบก็ไม่ใช่ จะบอกว่าชอบมากมายก็ไม่เชิง ไม่รู้สิ...ไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงได้รู้สึกกับนายแบบนี้นะ อย่าบอกนะว่าฉันเริ่มที่จะชอบนายแล้วน่ะ

    “ ยูริ นายไม่ต้องจับมือฉันแน่นขนาดนี้ก็ได้ ”

    “ ไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยวที่รักของพี่หาย ”

     

    *_*_*_*_*

    *_*_*_*

    *_*_*

    *_*

    *

     

    “ เป็นยังไงบ้างล่ะ วันนี้ได้ไปเจอกับสุดที่รักของคุณบ้างมั้ย ”

    ยงฮวาเอ่ยถามภรรยา หลังจากที่ทั้งคู่ทานอาหารเย็นกันไปแล้วเรียบร้อย วันนี้เขารอให้ภรรยากลับมาบ้านอย่างเดียวดาย น้องสาวก็ไม่มาเล่นเป็นเพื่อน เขาจึงต้องรอคอยซอฮยอนเพียงลำพัง รอคอยทั้งๆที่ก็รู้ว่าอีกคนไม่ได้คิดถึงเขาเลย ซอฮยอนไม่ได้คิดถึงเขา เหมือนอย่างที่เขาได้คิดถึงเธอ

    “ ที่ถามเนี่ย ต้องการอะไรเหรอคะ ”

    ซอฮยอนตอบคำถามของสามีอย่างไม่ค่อยจะเต็มใจสักเท่าไหร่ เธออารมณ์เสียมากมายหลังจากที่กลับมาจากไปพบคนรักเก่ามา อยากบอกว่าเสียใจมากที่ยุนอาปฏิเสธที่จะรับฟังอะไรจากเธอ เขายืนเป็นกระต่ายขาเดียวที่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ยืนยันที่จะไม่ฟังท่าเดียวเลย

    “ เปล่านี่นา ผมก็แค่เป็นห่วงคุณเท่านั้น กลัวว่าคุณจะผิดหวัง ”

    ผิดหวัง ใช่...ฉันผิดหวังกลับมาจริงๆนั่นแหละ ผิดหวังจากคนรัก ผิดหวังกับตัวเอง แล้วก็ผิดหวังจากคุณยังไงล่ะ ทำไม...ทำไมผู้หญิงที่คุณต้องการถึงต้องเป็นฉัน ทำไมคุณถึงได้กักขังและพรากฉันมาจากยุนอาด้วย ทำไมถึงได้ใจร้ายกับผู้หญิงตัวเล็กๆแบบนี้ คุณมันใจร้ายรู้บ้างไหมยงฮวา คุณมันเป็นปีศาจร้ายในคราบของเทพบุตร

    “ ไม่ต้องมาตอกย้ำกันขนาดนั้นก็ได้ ใช่สิ...วันนี้ฉันผิดหวัง แต่ฉันก็ยังไม่หมดความพยายามหรอกนะ ยังไงฉันก็ต้องทำให้ยุนอาเข้าใจในสิ่งที่ฉันทำลงไปให้ได้ ”

    “ ซอฮยอน ผมว่าเค้าคงหมดรักคุณแล้วล่ะ ”

    ยงฮวาทิ้งตัวลงไปนั่งบนขอบเตียง ซึ่งมีซอฮยอนนั่งอยู่ใกล้ๆกัน เขาทั้งรักและเทิดทูนผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ  เขาต้องการที่จะครอบครองเธอทั้งกายและใจ แต่ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงไม่เคยได้ใจของเธอเลย ไม่ว่าเขาจะทุ่มเททำดีด้วยแค่ไหน ซอฮยอนก็ไม่เคยมองเห็นเลย สักนิดก็ไม่เคยมี

    “ คุณรู้ได้ยังไง ”

    “ ผมก็แค่พูดไปตามที่รู้สึก ผมรักคุณนะ คุณหันมารักผมหน่อยไม่ได้เหรอ ”

    ซอฮยอนรู้ว่าอีกฝ่ายรักตนมากเพียงใด เธอรับรู้ได้จากการกระทำของเขา รุบรู้ได้จากสิ่งต่างๆนาๆมากมายหลายอย่างที่เขามอบให้กับเธอ แต่ว่า...คนที่ไม่ได้รัก ไม่ว่าจะทำดีด้วยแค่ไหน มันก็ไม่สามารถที่จะทำให้เราเปลี่ยนใจไปรักคนๆนั้นได้ง่ายๆหรอก จอง ยงฮวา คุณก็รู้ว่าฉันไม่ได้รักคุณ แล้วทำไมคุณถึงไม่ปล่อยฉันไปสักที จะมารั้งฉันไว้ทำไม ในเมื่ออยู่กันไปคุณก็มีแต่ปวดใจไม่ต่างจากที่ฉันเป็น

    “ ยงฮวาคะ ฉันไม่ได้รักคุณ จะอีกกี่ครั้งฉันก็ขอบอกแบบนี้ ฉันไม่ได้รักคุณ ไม่เคยรัก แล้วก็จะไม่มีวันรัก คุณได้ยินฉันชัดเจนมั้ย คนไม่รักก็คือไม่รัก ต่อให้คุณดีกับฉันแค่ไหน มันก็ไม่ได้ทำให้ฉันรักคุณขึ้นมาได้หรอก ”

    ไม่ต้องมาย้ำคำที่แสนจะเจ็บปวดคำนี้บ่อยๆก็ได้ ไม่รักผมก็รู้ว่าไม่รัก แต่ผมก็จะขอยืนยันคำเดียวเหมือนกัน จะอีกสักกี่ครั้งกี่หน ผมคนนี้ คนที่ได้ชื่อว่าสามีของคุณ ก็จะขอยืนยันว่ารักเหมือนเดิม ผมรักคุณนะซอฮยอน จะอีกนานแค่ไหนผมก็รักคุณ หากความดีของผมมันยังส่งไปไม่ถึงใจของคุณ ผมก็จะไม่ทำดีอีกต่อไป ถ้าคุณชอบอะไรที่มันร้ายๆผมก็จะเป็นให้คุณ

    “ ไม่ว่าคุณจะบอกว่าไม่รักผมอีกสักกี่ครั้ง ผมก็ยังรักคุณไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ดีนั่นแหละ ซอ จูฮยอน ”

     

    *_*_*_*_*

    *_*_*_*

    *_*_*

    *_*

    *

     

    Talk...................

     

    มาแล้วเด้อ มาพร้อมกับงานของพี่แทด้วยล่ะ แบบว่าแม่หมีเห็นรอยลิปสติกที่แก้มของพี่แท แบบว่ารีบมารับเมียจนไม่ได้ส่องกระจกดูหน้าของตัวเอง สุดท้ายงานก็เข้าเลยอ่ะ แล้วก็มาน่ารักน่าชังกับคุณอาคุณหลาน ที่งานนี้มาเดินจูงมือกันอยู่ในห้าง ประหนุ่งว่าเป็นพ่อแม่ลูกกันจริงๆ อบอุ่นดีนะเออ แล้วก็มาจบกันที่คู่มาม่า คนนึงบอกรัก แต่อีกคนบอกไม่ มารอลุ้นกันต่อไปว่าใครคู่ใคร แล้วจะมีใครที่เจ็บปวดกันอีก สุดท้ายก็ยังจะบอกว่ารักรีดเดอร์อยู่เหมือนเดิมนะจ๊ะ


     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×