ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] งานนี้...พี่ต้องมี...ลูก YulsiC yuri x sica

    ลำดับตอนที่ #22 : Chapter 22

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.73K
      2
      23 พ.ย. 55

     

    งานนี้...พี่ต้องมี...ลูก

     

    Chapter 22

     

     

     

     

     

     

    พี่รักเธอนะ เจสสิก้า

     

     

    ฝันไปหรือเปล่า มันเป็นความฝันอย่างนั้นหรอกเหรอ คนอย่างนั้นจะรักใครเป็น แม้ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยินมากับหู แต่เธอก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาไม่ได้พูดแบบนั้นออกมา ควอน ยูริ บอกรัก เจสสิก้า จอง อยากจะคิดว่าทั้งหมดที่ผ่านมานั้นมันเป็นแค่ความฝัน แต่ว่ามันก็ยังเป็นความจริงอยู่ดีนั่นแหละ ความจริงที่ว่าเธอกับเขามีอะไรกันอีกแล้ว และความจริงที่ว่า...เธอกับเขาจะต้องอยู่ด้วยกันไปอีกอย่างน้อยก็ห้าเดือน

     

     

    ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปรอบๆห้อง เจสสิก้ากำลังมองหาใครบางคน คนที่นอนอยู่บนเตียงกับเธอเมื่อคืน แต่ตอนนี้เขาไม่ได้นอนอยู่บนเตียงกับเธอแล้ว ควอน ยูริ หายไปไหน ทุกทีไม่เห็นตื่นเช้าแบบนี้เลยนี่นา สงสัยคงไปเข้าห้องน้ำอยู่ล่ะมั้ง ร่างบางที่ไม่ได้สวมอาภรณ์ใดๆยังนอนเอาแขนก่ายหน้าผากของตัวเอง เจสสิก้ากำลังคิดอะไรบางอย่าง อะไรที่เธอไม่เข้าใจ อะไรที่ทำให้เธอใจง่ายกับยูริถึงขนาดนี้ รักก็ไม่ได้รัก แต่ทำไมถึงไม่ขัดขืนเลยสักครั้ง ไม่เคยขัดใจของเขาเลยสักนิด ความรู้สึกมากมายเข้ามาถาโถมในใจดวงน้อยดวงนี้ ไม่ได้รัก แต่ก็ไม่ได้เกลียดเช่นกัน

     

     

     

    ควอน ยูริ นายรักฉันจริงๆเหรอ

     

     

    เมื่อคิดถึงคำพูดของคนๆนี้ทีไร ทำไมใจมันต้องสั่นไหวอยู่ร่ำไปนะ อย่าว่าแต่ให้คิดถึงคำพูดชวนฝันนั่นเลย แค่ได้อยู่ใกล้ก็รู้สึกได้ว่าตัวเองไม่เหมือนเดิมแล้ว จากที่ไม่เคยอ่นให้ใคร ทำไมถึงได้ยอมคนๆนี้นะ ทำไมคนอวดดีถือตัวอย่าง เจสสิก้า จอง ถึงได้ยอมพ่านแพ้ให้กับคนไม่เอาไหนอย่าง ควอน ยูริ ทั้งที่เขาไม่ได้มีอะไรที่เหนือไปกว่าเธอเลยสักนิด ไม่มีอะไรดีหรือเที่ยบเท่าได้เลย ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ไม่เข้าใจหัวใจของนายด้วยนะ ควอน ยูริ

     

     

    เมื่อนอนคิดถึงเรื่องของคืนที่ผ่านมาจนไม่รู้ว่าจะคิดยังไงอีกแล้ว เจสสิก้าจึงตัดสินใจลุกออกจากเตียง เธอคิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว คิดไปคิดมาก็มีแต่เรื่องเดิมๆ มีแต่เรื่องของยูริกับเธอเท่านั้น และเพื่อไล่ความสับสนวุ่นวายนั่นออกไปจากใจ แม่คนสวยจึงได้หวังพึ่งการอาบน้ำ หวังว่าการเอาน้ำจะช่วยล้างความคิดฟุ้งซ่านที่อยู่ในหัวของตัวเองออกไปได้ น้ำเย็นๆที่ไหลรินลงมาราดรดตัว ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาบ้างนิดหน่อย มันช่วยลดความคิดฟุ้งซ่านลงไปได้บ้าง แต่ก็ยังล้างออกไปไม่หมด นี่มันความรู้สึกนึกคิดนะ ไม่ใช่ขี้ไคลซะหน่อย ถึงจะได้ขัดๆถูกแล้วก็เอาน้ำล้างออกไป หากสับสนในเรื่องของหัวใจ ก็ควรที่จะใช้หัวใจด้วยกันล้างออกสิ ไม่ใช่น้ำประปาเหมือนอย่างที่เธอกำลังทำอยู่ในตอนนี้

     

     

    จริงอยู่ที่น้ำประปาทำให้เจสสิก้าณุ้สึกดีขึ้นมา แต่มันก็ช่วยได้แค่เพียงชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้น สรุปแล้วการอาบน้ำช่วยได้แค่ทำให้ใจเย็นขึ้น ไม่ได้ช่วยลบล้าวอะไรต่อมิอะไรที่อยู่ภายในหัวของเธอเลย แบบนี้ขืนอาบน้ำต่อไปก็มีแต่จะสิ้นเปลืองทรัพยากรธรรมชาติไปเปล่าๆ เจสสิก้าจึงตัดสินใจออกมาจากห้องน้ำซะ เธอออกมาแต่งเนื้อแต่งตัว เพื่อที่จะได้ออกไปทำงาน รู้สึกแปลกยังไงก็ไม่รู้นะ รู้สึกเหมือนมันขาดอะไรไป อะไรที่เธอจะต้องเห็นอยู่ทุกเช้า อะไรที่จะคอยมายียวนกวนโมโหของเธออยู่ตลอด อะไรที่ขาดหายไปนั้นคือ ควอน ยูริ ใช่ไหม

     

     

     

    นายหายไปไหนของนายกันนะ ...ยูริ

     

     

    พอแต่งเนื้อแต่งตัวเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจสสิก้าก็เดินออกมาจากห้องนอน พร้อมกับกระเป๋าเอกสารของตัวเอง ขาเรียวก้าวฉับๆไปอย่างรวดเร็ว นั่นก็เพื่อที่จะรีบไปทำงานที่กองพะเนินเทินทึกอยู่ที่บริษัท แต่แล้วสายตาของเจสสิก้าก็เหลือบไปเห็นกระดาษโน๊ตแผ่นน้อย ซึ่งมันก็แปะอยู่กับประตูห้องนั่นแหละ กระดาษโน๊ตแผ่นน้อยลายมิกกี้เม้าส์ ถูกขีดเขียนข้องความเอาไว้ด้วยตัวอักษรน่ารัก เจสสิก้าจึงหยิบมันออกมาดู ข้อความในกระดาษแผ่นน้อยนั่นเขียนเอาไว้ว่า...

     

     

     

    อรุณสวัสดิ์ครับ หวังว่าเช้านี้น้องเจสคงจะอารมณ์ดีขึ้นมาแล้วนะ คงจะดีใจล่ะสิท่า ที่ตื่นมาแล้วไม่เจอหน้าพี่ ตอนนี้พี่อยู่ข้างนอกครับ พี่ออกมาทำธุระน่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ หรือจะต้องบอกว่าเป็นห่วงพี่หน่อยนะสิ เป็นห่วงพี่หน่อยนะครับ เพราะว่าพี่เป็นห่วงน้องเจสอยู่นะ....

     

    เดินไปที่ห้องครัวสิครับ

     

     

    ยูริสั่งให้เจสสิก้าเดินไปที่ห้องครัว เธอก็เดินไปตามที่เขาสั่ง คิดมาได้ยังไงนะยูริ ฉันจะอารมณ์ดีได้ยัง ในเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วสามีไม่อยู่ด้วยน่ะ ไหนบอกว่าให้ฉันทำหน้าที่ของภรรยาไง แล้วนายทำหน้าที่ของสามีที่ดีแล้วหรือยังล่ะ ทำเหมือนหลอกฟันแล้วทิ้งไปเลยนะ มีอย่างที่ไหนนอนด้วยกันแต่ดันหนีไปก่อนที่จะได้เจอ เจสสิก้าเดินเข้ามาในห้องครัว แล้วเธอก็เจอกับชามโจ๊กที่ยังอุ่นๆอยู่ โดยที่ข้างๆชามก็มีกระดาษโน๊ตวางเอาไว้อีกแผ่น 

     

     

     

    อาหารเช้ามันสำคัญต่อร่างกายนะครับ ทานโจ๊กก่อนไปทำงานนะ จะได้มีแรงสู้กับกองเอกสารที่อยู่บนโต๊ะทำงาน อ้อโจ๊กชามนี้น่ะ พี่ไม่ได้ทำเอง

    หรอกนะครับ เพราะเวลาไม่พอ ก็เลยออกไปซื้อมาใส่ชามไว้ให้น้องเจส ทานให้อร่อยนะครับ และสุดท้าย...อย่าเกลียดพี่เลยนะคนดี

     

     

    I…LOVE…YOU…JESSICA JUNG

     

     

    FROM…KWON YURI

     

     

     

     

     

     

     

    นายกำลังทำอะไรกันแน่...ยูริ นายกำลังคิดที่จะทำให้ฉันเชื่อว่านายรักฉันจริงๆ...งั้นเหรอ

     

     

    พออ่านข้อความที่สามีทิ้งเอาไว้ให้แล้ว เจสสิก้าวางกระดาษโน๊ตลงไปไว้ที่เดิม จากนั้นเธอก็ยกชามโจ๊กไปที่โต๊ะอาหาร ไม่อยากจะคิดแบบนี้หรอกนะ แต่ว่านายกำลังทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นนะ จะบอกว่าเกลียดก็คงจะบอกไม่ได้ เพราะฉันไม่ได้เกลียดนาย แต่ก็ยังไม่ได้รักอยู่ดี ถึงแม้ว่านายจะทำตัวให้ดูน่ารักแค่ไหนก็ตามที หรือว่าบางทีฉันน่าจะลองเปิดใจให้นายบ้างนะ เปิดใจให้กันและกัน รวมทั้งเปิดใจให้ฉันด้วย

     

     

     

    น่ารักเหมือนกันนี่นา หวังว่านายจะน่ารักไปแบบนี้เรื่อยๆนะ ควอน ยูริ ถ้านายเป็นแบบนี้ได้ตลอด บางทีฉันอาจจะเปลี่ยนใจมารักนายก็ได้ แต่ต้องให้ดานี่ทิ้งฉันไปก่อนนะ

     

     

     

     

     

     

    *-*-*-*-*

     

     

     

    *-*-*-*

     

     

     

    *-*-*

     

     

     

    *-*

     

     

     

    *

     

     

     

     

     

     

    อ่ะอ้าม...

     

     

     

    ม่ายอ๊าว...หนูมะอยากกินข้าว

     

     

    ยูบินเบือนหน้าหนีแทยอนแบบที่ว่าไม่อยากให่อมาป้อนข้าว มันเป็นเรื่องธรรมดาของเด็กอยู่แล้ว ที่จะต้องเรื่องมากงอแงเรื่องการกินข้าว นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่แทยอนค่อนข้างหนักใจ ยูบินไม่ค่อยจะกินข้าวกินปลาเลย เอาแต่กินขนมไร้สาระอยู่ได้ทั้งวัน เชื่อว่าพ่อแม่หลายๆท่านก็คงจะเป็นเช่นเดียวกัน ลูกงอแงไม่ยอมกินข้าวกินปลา จะทำยังไงดีหว่าลูกหมาถึงจะยอมอ้าปากงับช้อนข้าวได้เนี่ย 

     

     

     

    ไม่กินข้าวแล้วจะกินอะไรล่ะ เอาน่า...อย่าดื้อนะ กินข้าวหน่อยเร๊วเด็กดี

     

     

    แทยอนพยายามพูดจาหว่านล้อมให้ยูบินกินข้าว มันเป็นหน้าที่ของผู้เป็นพ่อ ที่จะต้องป้อนข้าวให้ลูกได้กิน นั่นก็เพราะว่าคุณแม่หมีคนสวยของไอ้ลูกหมายังไม่ลงมาจากห้องนอนเลย เขาก็เลยต้องมานั่งป้อนข้าวใหลูก ส่วนคุณพี่เลี้ยงก็ลางานไปเยี่ยมญาติ วันนี้คุณพ่อก็เลยต้องลงมือเลี้ยงลูกเองอีกแล้ว และที่สำคัญ...เขาก็คงต้องพายูบินไปเลี้ยงที่บริษัทด้วยอีกแน่ๆเลย

     

     

     

    หึ...หนูม่ายกิน ปาป๋ากินเองฉิ

     

     

    นั่น...มันยังมีการย้อนมาบอกเขาอีกนะ จะบ้าเหรอฮะ...ถ้าพ่อจะกินข้าวพ่อกินไปนานแล้วนะ ไม่ต้องมารอให้ลูกหมาบอกหรอก ชิ...เอาใจยากจริงๆเลยนะลูกหมาเอ๊ย ไอ้ตัวเล็กส่ายหน้าไปมา ประมาณว่าไม่อยากกิน ไม่ต้องมาป้อนหนูเลย ถ้าป๊าป๋าอยากกินก็กินเองไปเลยนะ อย่ามาบังคับใจกัน

     

     

     

    แน่ะ...พ่อกินไปแล้ว แต่หนูยังไมกินเลยนะ กินสักคำหน่อยเร๊ว

     

     

     

    หึ...หม่าม๊า

     

     

    หนูน้อยวิ่งเข้าไปหามารดา พร้อมกับกอดหมับเข้าที่ขางามๆของผู้เป็นแม่ ใบหน้าน้อยๆถูไถไปตามเรียวขาของทิฟฟานี่ ตอนนี้ต้องออดอ้อนแม่ให้เต็มที่ เพราะนี่คือทางรอดเดียวของลูกหมาน้อยตาดำตัวนี้

     

     

     

    เป็นอะไรไปคะคนเก่ง ลูกเป็นอะไรไปคะพี่แท

     

     

    ทิฟฟานี่ย่อตัวลงไปลูบผมของลูกน้อย เธอเพิ่งจะลงมาข้างล่าง แล้วก็มาเจอกับลูกหมา ที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ไม่รู้ว่าพ่อลูกคู่นี้ทำอะไรกันมา แต่ว่ายูบินทำหน้าทำตาได้น่าสงสารมากเลยล่ะ หวังว่าสามีคงจะไม่ได้แกล้งลูกอีกหรอกนะเนี่ย

     

     

     

    ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ แค่มารยาไม่อยากกินข้าวน่ะ ” 

     

     

    แทยอนไม่ได้รักษาภาพพจน์ของยูบินเลยสักนิด ไอ้ลูกหมามันก็เลยหัยควับไปมองหน้าของพ่อหมาอย่างหาเรื่อง อะไรวะเนี่ย...ตัวเล็กอย่างกับลูกเห็บหมายังจะมาทำตาเขียวใส่อีก เดี๋ยวพ่อก็จับช้อนยัดปากเลยนี่ไอ้ลูกหมาเอ๊ย ออเซาะเก่งจริงๆนะลูกพ่อ 

     

     

     

    ยูบิน...กลับไปนั่งที่เดิมเดี๋ยวนี้เลยนะ

     

     

    ทิฟฟานีทำเสียงเย็นใส่ลูกน้อย เธอต้องเล่นบทโหดกับลูกสาวทั้งที่ไม่อยากจะทำ นั่นเพราะยูบินักำลังจะเป็นเด็กดื้อ ความจริงก็ดื้อมาตั้งนานแล้วล่ะ แต่ว่าคุณแม่หมีคนสวยไม่เคยเจอกับตัวเลยสักครั้ง เธอจึงไม่เคยทำแบบนี้กับลูก แต่วันนี้ลูกหมาไม่ยอมกินข้าวกับพ่อ ก็เลยต้องมีไม้แข็งกันบ้างล่ะ

    เมื่อถูกคุณแม่คนสวยไล่ให้กลับไปนั่งที่เดิม ยูบินก็เดินคอตกกลับไปนั่งประจำที่ของตัวเอง น้อยใจแม่แบบสุดๆไปเลยอ่ะ หม่าม๊าไม่เคยพูดเสียงเฉียบขาดแบบนี้กับหนูน้อยเลยนะ วันนี้มาอย่างฌหดเลย หนูกลัวนะรู้ป่าว หม่าม๊าตกมันหรือเปล่าเนี่ย ยูบินกลัวแม่จนต้องกลับมานั่งเก้าอี้ตัวน้อยของตัวเอง พร้อมกันนั้นเจ้าลูกหมาก็อ้าปากรอให้ผู้เป็นพ่อป้อนข้าว

     

     

    แทยอนยิ้มที่มุมปากอย่างมีชัย จะมีสักกี่ครั้งกันนะ ที่ทิฟฟานี่จะไม่ต่อว่าหรือเล่นงานเขา เมื่อแม่ลูกสาวตัวดีแผลงฤทธิ์ เป็นไงบ้างลูกรัก แม่หมีของแกสุดยอดไปเลยไหม พูดคำเดียวรู้ผลกันเลยฮุๆๆ ฟานี่ที่รักจ๋า เธอรู้ไหมว่าวันนี้เธอทำให้พี่มีความสุขที่สุดเลยล่ะ แบบว่าลูกไม่มีหือเลยอะ สามีล่ะชอบมากเลยจ้ะที่รัก

     

     

     

    อ้าปากกว้างๆหน่อยสิลูก กินเยอะๆนะเดี๋ยวจะไม่โต

     

     

    ยูบินก็อ้าปากกว้างๆเหมือนอย่างที่แทยอนสั่ง เด็กน้อยกินข้ามอย่างฝืนใจ พร้อมกับทำหน้าบูดใส่ผู้เป็นแม่ ทิฟฟานี่ก็นั่งจิบกาแฟอยู่ข้างๆยูบินนั่นแหละ เธอเหลือบมองลูกสาวสลับกับมองหน้าสามี อะไรมันจะน่ารักกันได้ขนาดนี้นะ พ่อลูกป้อนข้าวกันเนี่ย น่ารักเป็นที่สุดเลย

     

     

     

    วันนี้พี่แทก็ต้องเลี้ยงลูกสินะคะ

     

     

     

    จ้ะ...พี่ต้องเอาแกไปด้วยอ่ะ ถามทำไมจ๊ะ หรือว่าฟานี่จะเอาลูกไปเลี้ยงแทนพี่ล่ะ

     

     

    ถ้าเมียที่รักเอาลูกไปเลี้ยงนี่ มันจะเป็นอะไรที่เพอร์เฟคมากเลยนะจ๊ะ พี่ก็จะได้ทำงานอย่างเป็นสุข แบบว่าไม่ต้องเอาลูกไปอวดใคร โดยเฉพาะสาวๆอ่ะนะ เวลาที่ลูหมามันเรียกพี่ว่าป๊ะป๋า เธอรู้ไหมจ๊ะว่าพี่อายแค่ไหน อายที่สาวๆเหล่านั้นพากันเดินหนีพี่อ่ะ เหตุผลก็เพราะว่าพี่มีลูกมีเมียแล้วนั่นเองล่ะเน้อ

     

     

     

    เปล่าหรอกค่ะ วันนี้ฟานี่ก็คงจะไม่ว่างอีกนั่นแหละ แค่ถามดูเฉยๆค่ะ รีบป้อนข้าวลูกซะสิคะจะได้ไปทำงานกัน

     

     

     

    เอ้ายูบิน รีบกินข้าวซะนะลูก อ้าม...

     

     

    ยูบินก็กินข้าวตามที่แทยอนสั่งอีกนั่นแหละ เด็กน้อยอ้าปากกว้างรอรับเอาข้าวเข้าปาก แทยอนก็ยื่นช้อนไปจ่อที่ปากของลูกน้อย แล้วไอ้ลูกหมาก็กัดกั๊บลงไปบนช้อน จากนั้นก็รูดเอาข้าวเข้าไปอมไว้ในปาก พร้อมกับเคี้ยวตุ้ยๆจนแก้มทั้งสองข้างตุ่ยออกมา แทยอนก็หัวเราะร่า เมื่อเห็นว่าลูกหมามันน่ารัก แต่ยูบินไม่ได้คิดแบบนั้น หนูน้อยคิดว่าตัวเองกลายเป็นตัวตลกของพ่อ จึงได้ตัดสินใจทำอะไรที่แทยอนกับทิฟานี่ไม่คาดคิด

     

     

     

    ฟู้ด...

     

     

     

    อุ๊...พี่แท

     

     

     

    อ๋า...ยูบิน พ่นเข้าใส่หน้าพ่อทำไม

     

     

    แทยอนแหกปากร้องลั่น เมื่อเขานั้นถูกยูบินพ่นข้าวใส่หน้า ไม่นึกเลยว่าลูกหมาที่น่ารักของพ่อ จะเล่นแบบนี้กันได้ ทำไมหนูถึงทำกับพ่อแบบนี้ล่ะลูก ทำไมมาทำกับพ่อหมาของลูกหมาแบบนี้ล่ะ แล้วนี่ดูสิ...เสื้อผ้าของพ่อเปื้อนหมดเลยอ่ะ ฟานี่จ๋า...ฆ่าลูกหมาให้สามีที เค้าโดนลูกหมาแกล้งอ่ะ ยูบินใจร้าย...

     

     

     

    ป๊ะป๋าบ้า หนูไม่ร๊ากป๊าป๋าแย๊ว

     

     

     

    ยูบิน ทำไมหนูพูดกับป๊ะป๋าแบบนี้ล่ะลูก มันไม่น่ารักเลยนะ

     

     

     

    หนูม่ายร๊ากป๊ะป๋าแย๊ว จาไปหาอายูล...

     

     

     

     

     

     

    *_*_*_*_*

     

     

     

    *_*_*_*

     

     

     

    *_*_*

     

     

     

    *_*

     

     

     

    *

     

     

     

     

     

     

    ดานี่...มานั่งทำอะไรคนเดียวล่ะ

     

     

     

    อ้าว...พี่ยงฮวา มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่คะ

     

     

    ดานี่ที่นั่งเล่นอยู่ภายในบ้านกล่าวทักทายญาติผู้พี่ ที่เพิ่งจะได้เห็นหน้ากัน หลังจากที่เขากับภรรยาไปทำงานยังต่างประเทศ จอง ยงฮวา ญาติผู้พี่ของ ดานี่ วันนี้เด็กสาวไม่ได้ไปโรงเรียน เพราะว่าเธอไม่มีสมาธิที่จะไปเรียนหนังสือหรอก จึงถือวิสาสะหยุดเรียนโดยไม่ได้บอกใคร แม้กระทั่งครูประจำชั้น 

     

     

     

    พี่มาถึงตั้งแต่เช้ามืดแล้วล่ะ พอดีว่ายังพอมีแรงก็เลยจะมาทักทานคุณน้าทั้งสองท่านน่ะ ว่าแต่...เราไม่ไปโรงเรียนเหรอ ชักจะเกเราใหญ่แล้วนะ

     

     

     

    ขอโทษค่ะ คือหนูรู้สึกไม่ค่อยสบาย ก็เลยอยากหยุดพักสักวันน่ะคะ

     

     

    ความจริงนั้นเด็กสาวก็ไม่สบายจริงๆนั่นแหละ แต่ไม่ใช่ไม่สบายกายนะ หากแต่เธอไม่สบายใจอยู่ต่างหากล่ะ ดานี่กำลังป่วยใจอยู่ เธอช้ำจาจากใครบางคน และคนๆนั้นก็คือคนที่เธอรัก เจสสิก้านัดให้เด็กสาวไปหาที่คอนโด แล้วเด็กผู้แสนใสซื่อก็ไปหาสามี เธอไปรอเจสสิก้าอยู่นาน รอแล้วรอเล่า รอจนไม่รู้ว่าจะรอยังไง พอโทรหาสามี พี่เจสที่รักก็ไม่รับสาย ไม่รู้สิ...เธอรู้สึกว่าคนรักเริ่มที่จะไม่เหมือนเดิมแล้วนะ เมื่อก่อนเจสสิก้าไม่เคยทำให้เธอผิดหวังเลยสักครั้ง พูดคำไหนเป็นคำนั้น บอกว่าจะมาหาก็มา แต่พักหลังๆมานี่พี่เจสเปลี่ยนไปนะ ไม่ค่อยที่จะรักษาสัญญาเลย โทรหาก็ไม่ค่อยโทรอีก เวลาที่ได้อยู่ด้วยกันก็ดูเหมือนว่าจะมีน้อยลง อะไรๆก็ดูเปลี่ยนไป ไม่อยากจะคิดหรอกนะว่าสามีได้ปันใจไปให้คนอื่นแล้ว

     

     

     

    อย่างนั้นหรอกเหรอ แล้วนี่กินข้าวกินยาหรือยังล่ะ

     

     

     

    กินแล้วค่ะ แล้วพี่ซอฮยอนล่ะคะ ไม่ได้มาด้วยกันเหรอ

     

     

    ชายหนุ่มยิ้มเจือนๆให้กับเด็กสาว หลังจากที่ได้ยินน้องสาวคนนี้ถามหาภรรยาของตน ซอฮยอนน่ะเหรอ ตั้งแต่ที่เธอกับเขากลับมาถึงเกาหลีแล้ว เธอก็บอกว่าขอตัวกลับไปเยี่ยมคนที่บ้านหน่อย ถึงแม้ว่าเขาจะขอตามเธอไปด้วย แต่ซอฮยอนก็ไม่รอ เธอหลบเขาออกมาจากบ้านก่อนที่เขาจะตามออกมา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอจะไปหาใคร

     

     

     

    พอดีว่าซอฮยอนขอตัวกลับไปเยี่ยมคนที่บ้านของเธอน่ะ ก็เลยมาที่นี่คนเดียว

     

     

     

    เหรอคะ งั้น...วันนี้พี่ยงก็อยู่เป็นเพื่อนกับหนูได้ล่ะสิคะ

     

     

     

    ได้สิครับ แต่ว่า...บอกมาก่อนได้มั้ย ว่าใครที่มาทำให้น้องสาวของพี่เป็นแบบนี้

     

    ดานี่หน้าเหวอทันที ที่เธอถูกญาติผู้พี่คนนี้ถามอะไรออกมาอย่างรู้ทัน ยงฮวาดูอาการของดานี่ออก เข้ามองตาของเอก็รู้แล้วล่ะว่าสาวน้อยคนนี้กำลังอกหัก หรือไม่ก็ต้องมีปัญหากับคนรักแน่ๆเลย ที่คิดแบบนั้นก็เพราะว่าเขาก็เคยเป็นเหมือนอย่างที่เธอกำลังเป็นอยุ่นี่ยังไงล่ะ

     

     

     

    พี่ยงฮวา พี่พูดเรื่องอะไรเหรอคะ หนูไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย

     

     

    ดานี่ทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยสักนิด ถึงแม้ความจริงเธอจะรู้อยู่เต็มอกว่าอีกคนกำลังพูดถึงเรื่องอะไร จะให้เธอบอกไปได้ยังไงล่ะ ว่าตัวเองกำลังคิดหนักเกี่ยวกับเรื่องของสามี สามีที่เป็นผู้หญิงด้วยกันน่ะ แถมเธอก็อายุยังน้อยเกินไปกว่ที่จะมีอะไรกับใครแบบนี้ด้วย เรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับเจสสิก้า จะให้ใครมาล่วงรู้ไม่ได้เป็นอันขาด

     

     

     

    พี่สัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับพ่อแม่ของเธอนะ แต่เธอสามารถที่จะปรึกษาพี่ได้ พี่ยินดีที่จะช่วยเหลือ ขอแค่เอเอ่ยปากมาเท่านั้นแหละดานี่

     

     

     

    ถ้าหนูบอกว่า...หนูคิดถึงสามีล่ะ พี่จะช่วยหนูได้มั้ยคะพี่ยงฮวา


     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×