ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] งานนี้...พี่ต้องมี...ลูก YulsiC yuri x sica

    ลำดับตอนที่ #20 : Chapter 20

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.56K
      2
      22 พ.ย. 55

     

    งานนี้...พี่ต้องมี...ลูก

     

    Chapter  20

     

    “ ฟานี่...ฉันขอถามอะไรหน่อยสิ ”

    ทิฟฟานี่กำลังจะตักอาหารเข้าปาก เจสสิก้าก็เล่นมาเอ่ยถามคำถามกับเธอพอดี ไม่รู้ว่าน้องสามีต้องการจะถามอะไร หากเธอตอบได้ก็จะตอบ แต่ว่าทำไมเจสสิก้าไม่รอให้เธอตักอาหารเข้าปากก่อนนะ มาขัดจังหวะคนกำลังกินมันบาปนะยะ อีกอย่างฉันหิวจนท้องกิ่วไปหมดแล้วนะ ตอนนี้อยากกินข้าวมากเลยรู้ไหม

    “ ก็ว่ามาสิ...กินไปคุยไปก็ได้ ”

    พออนุญาตให้เพื่อนสาวตั้งคำถามได้ ทิฟฟานี่ก็ตักอาหารเข้าปากของตนเหมือนความตั้งใจเดิม ก็คนมันหิวนี่นา กว่าจะรักษาคนไข้แต่ละรายเสร็จก็ปามาตั้งครึ่งค่อนวันแล้ว นี่ยังมีน้องสามีมานั่งคอยจะจ้อยู่ด้วย เอาเป็นว่ากินไปคุยไปละกันนะจ๊ะ พี่สะใภ้หิวมาก

    “ ฟานี่...ฉันพลาดให้ยูริอ่ะ ”

    พรืด...!!!

    ทิฟฟานี่พ่นข้าวออกมาจากปากอย่างที่ไม่ได้ตั้งใจ เธอเก็บอาการตกใจเอาไว้ไม่อยู่จริงๆ ยังไงกันล่ะ...ที่บอกว่าพลาดน่ะมันยังไง แกไปพลาดอะไรให้ยูริ อย่าบอกนะว่าหลังจากยาถ่ายขั้นเทพนั่นแล้ว แกยอมให้สามีฟีทเจอริ่งด้วยอีกแล้ว ไม่สิ...ถ้าแกไม่ยอมใครจะไปกดแกได้ ต้องถามว่าแกไปฟีทเจอริ่งกับยูริเองอีกแล้วล่ะสิ ไหนบอกว่าไม่ชอบผู้ชายไง แล้วทำไมยอมเขาตั้งสองครั้งล่ะ ปากไม่ตรงกับใจเลยนะแก...ยัยเป็ด

    “ แก...แกพลาดให้ยูริ หมายความว่า... ”

    “ กินยาคุมตอนนี้ยังจะทันมั้ยอ้า ”

    หมายความว่าแกพลาดอย่างหนักเลยล่ะสิท่า แกยอมให้ไอ้หื่นหน้าหล่อที่กำลังเล่นอยู่กับลูกสาวฉัน ปล่อยของใส่แล้วใช่ไหมนั่น ตายห่านเลยล่ะแกเอ๋ย แล้วๆๆ...แล้วนี่แกปล่อยให้มันผ่านกี่ชั่วโมงแล้วล่ะยะ ถ้ายังไม่เกิน72ชั่วโมงนั่นฉันก็พอจะช่วยแกได้อยู่หรอกนะ แต่ถ้าเกินนั้นไปแล้วล่ะก็ ฉันขอบอกให้แกซ้อมเลี้ยงลูกฉันไปก่อนเลยละกัน

    “ นานเท่าไหร่...แกกับยูริน่ะ ”

    ทิฟฟานี่แสดงอาการตกใจเพียงชั่วครู แล้วเธอก็กลับมาตักอาหารเข้าปากอีกครั้ง ก็เรื่องมันผ่านมาแล้วจะไปตื่นเต้นนานกันทำไม เสียเวลากินข้าวไปเปล่าๆเนอะ แล้วถึงจะตกใจไปมากกว่านี้ มันก็ไม่สามารถที่จะช่วยทำอะไรได้หรอก

    “ เมื่อคืน...เพราะฉันใจอ่อน อยากจะเป็นคนดีก็เลย...ไม่ได้ป้องกันอะไรเลยน่ะสิ ”

    เจสสิก้ายอมสารภาพกับพี่สะใภ้ออกมาเลยว่า ที่เธอพลาดพลั้งให้กับยูรินั้น มันคือความสงสารและใจอ่อนของตัวเอง เจสสิก้าคิดว่าความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับยูริ มันเกิดมาจากความสงสารและเห็นใจ หาได้ใช่ความรักหรืออ่อนไหวกับอีกคนไม่ เธออาจจะคิดแบบนั้น หากแต่ยูริคิดเหมือนอย่างที่เธอคิดหรือเปล่าล่ะ

    “ ยังไม่ถึง72ชั่วโมงก็ยังพอทันนะ แต่แกจะพึ่งยาคุมปกติไม่ได้ แบบนั้นไม่ได้ผลหรอก รอเลี้ยงลูกอย่างเดียวเลย แกจะต้องกินยาคุมฉุกเฉินเท่านั้นนะ ถึงจะเอาไอ้ตัวน้อยอยู่ เม็ดแรกกินไปก่อน12ชั่วโมง แล้วตามด้วยเม็ดสอง ยิ่งแกกินยาเร็วเท่าไหร่ เปอร์เซนการท้องก็จะมีมากเท่านั้น ยิ่งยังไม่ถึง24ชั่วโมงก็ยิ่งดีนะ แต่ว่า...ไม่อยากจะมีลูกจริงๆเหรอ เด็กน่ะ...น่ารักนะ ”

    ทิฟฟานี่ให้คำแนะนำที่ดีมากเลยนะ มันเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังอับจนหนทางมากเลย ขอบคุณจริงๆนะพี่สะใภ้ แต่จะดีกว่านี้มากรู้ไหม ถ้าหล่อนไม่พูดถึงเรื่องมีลูกกับฉัน ก็รู้อยู่เต็มอกไมใช่เหรอ ว่าน้องสามีคนนี้ไม่ชอบผู้ชาย ไม่อยากจะมีลูก ไม่ถูกโรคกับเด็กเลยสักนิด แล้วหล่อนยังจะมาพูดเรื่องมีลูกกับฉันทำไมยะ แล้วก็ไอ้สายตาแบบนั้นมันหมายความว่าอะไร สายตาที่เธอกำลังมองฉันแล้วก็มองไอ้หื่นนั่นน่ะ

    “ ฟานี่...ฉันไม่อยากมีภาระติดตัวหรอกนะ เด็กน่ะ...ฉันไม่อยากมีเลย ”

    ใช่...เรื่องนี้เธอรู้ดีนี่นา ทิฟฟานี่รู้ดีว่าเจสสิก้าเกลียดเด็กขนาดไหน แม้แต่ยูบินเองก็ใช่ว่าคุณอาคนสวยคนนี้จะปลื้มด้วยนะ เด็กน้อยน่ะรักอาสาว แต่ว่าคนเป็นอากลับเลือกที่จะเลี่ยงหนีหลานน้อยซะงั้น แทยอนก็ช่างคิดนะ ที่เอาลูกหมาไปฝากให้เจสสิก้าเลี้ยง ขนาดว่าอยู่กับพ่อกับแม่ลูกน้อยก็ซนบรรลัย นี่มาอยู่กับเจสสิก้ายูบินจะไม่ซนเหลือหลายหรอกเหรอ ทีแรกก็ตกใจนะที่พี่เลี้ยงโทรมาบอกว่ายูบินหายไป แต่พอถามสามีก็บอกว่าลูกหมาแอบตามมาด้วย ซึ่งเขาได้ฝากลูกไว้กับเจสสิก้า เธอก็เบาใจนะที่รู้ว่าลูกปลอดภัย แต่ก็อดเป็นห่วงเจสสิก้าไม่ได้ ที่เธอจะต้องมารับมือกับยูบิน ไหนจะสามีสุดหื่นที่ดันกลายมาเป็นพี่เลี้ยงจำเป็นอีก พอคิดแล้วก็ปวดหัวแทนจริงๆเลยนะ น่าสงสารชะมัดเลยเพื่อนฉัน

    “ แต่ฉันว่าสามีของเธอเนี่ย อยากจะมีลูกน้อยแล้วนะ ไม่เชื่อก็ลองมองไปดูสิ ว่ายูริเหมือนคนเป็นพ่อมั้ย ”

    “ คนแบบนั้นเป็นพ่อของใครไม่ได้หรอก ขนาดว่าตัวเองก็ยังดูแลไม่ได้เลย ”

    ทิฟฟานี่โบ้ยหน้าไปยังด้านหลังของเจสสิก้า ซึ่งแน่นอนว่าเจสสิก้ามองตามพี่สะใภ้ไป แล้วเธอก็ได้เจอเข้ากับชายที่เธอกล่าวหาเมื่อสักครู่ กับเด็กน้อยวัยกำลังซน ที่กำลังเล่นหยอกล้อกันหัวเราะเสียงดังคิกคัก ไม่คิดหรอกว่าตัวเองจะได้เห็นภาพที่ยูริดูน่ารักขนาดนี้ เขาทั้งยิ้มทั้งหัวเราะอยู่ไม่หยุด จนทำให้คนบางคนแอบยิ้มตาม ทั้งที่ปากก็พร่ำบอกเสมอนะว่าเกลียดผู้ชาย แต่ว่าการกระทำของตัวเองมันขัดกับสิ่งที่พูดไปเลยนะ ซึ่งอาการของเจสสิก้ามันอยู่ในสายตาของทิฟฟานี่ตลอดเวลาเลย นี่น่ะเหรอที่เธอบอกว่าไม่ชอบน่ะ แต่ทำไมกลับมานั่งยิ้มร่าให้สามีล่ะเนี่ย แอบรักไอ้คุณหน้าหล่อสุดหื่นนั่นแล้วหรือเปล่านะ รักแบบที่ไม่รู้ตัวน่ะ ผู้ร้ายปากแข็งก็แบบนี้แหละ แต่อีกไม่นานหรอกนะ เธอจะต้องยอมรับใจของตัวเองจริงๆอย่างแน่นอนเลยล่ะ...เจสสิก้าเอ๊ย

    “ น่ารักดีนะ...เหมือนพ่อกับลูกกันเลย...จริงมั้ย ”

    ทิฟฟานี่เห็นเพื่อนนั่งมองสามีกับลูกน้อยของตัวเองอย่างเพลิดเพลิน เธอก็เลยลองถามออกไป เผื่อว่าเจสสิก้าจะเคลิ้มหลุดปากพูดอะไรออกมาบ้าง เค้าบอกว่าความจริงใจจะหลุดออกมาจากปากของคนปากแข็ง ก็ตอนที่คนๆนั้นกำลังเผลอนี่แหละ เพราะไม่ได้คิดอะไรในหัวไง เดี๋ยวความรู้สึกจริงๆของเจสสิก้าก็จะเผยออกมา อยากจะรู้จริงๆเลยนะว่า น้องสามีจะปากแข็งต่อไปไหม

    “ อือ...น่ารัก ”

    “ แล้วรักเค้ามั้ยล่ะ ”

     

    *_*_*_*_*

    *_*_*_*

    *_*_*

    *_*

    *

     

    “ คุณครูอิมคะถ้าไม่รังเกียจ เรา...เราไปทานข้าวด้วยกันมั้ยคะ ”

    คุณครูสาวสวยคนนึงเอ่ยปากชวนยุนอา ที่กำลังนั่งนิ่งง่วนอยู่กับการจัดารางการสอนของตัวเอง ครูสาวคนนี้เป็นคนขี้อายมาก แต่เธอกลับเอ่ยปากชวนคุณครูคนใหม่ไปทานข้าวด้วยกัน นั่นแสดงให้เห็นว่าเธอถูกใจเขาเข้าให้แล้วน่ะสิ แต่ว่าครูหนุ่มกลับแค่ยิ้มทานการตอบรับ เขายังไม่อยากจะไปทานข้าวกับใครหรอก เพราะว่าตอนนี้ยังเคลียร์งานของตัวเองไม่เสร็จ

    “ ขอบคุณครับ แล้วก็ต้องขอโทษด้วย คือผมขอทำงานตรงนี้ให้เสร็จก่อนนะครับ เชิญคุณครูตามสบายเลย ”    

    เหมือนจะเป็นการปฏิเสธที่ฟังแล้วดูดีนะ อยากจะเคลียร์งานให้เสร็จก่อน จึงสามารถไปทานข้าวด้วยกันได้ คุณครูสาวก็เลยต้องไปกินข้าวกับเพื่อนร่วมงานของเธอตามปกติ ความจริงก็เสียดายนะ ที่ตัวเองต้องปฏิเสธสาวสวยแบบนั้น แต่เพราะงานนี่แหละที่ทำให้เขาตัดใจยอมเสียโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับคนสวยๆ

    “ ไม่เป็นไรค่ะ เอาไว้โอกาสหน้าก็ได้ ฉันขอตัวก่อนนะคะคุณครูอิม ” 

    “ ครับ...ทานข้าวให้อร่อยนะครับ จะให้ดีก็ทานเผื่อผมด้วยล่ะ ”

    ยุนอาก็ไม่วายหวานเสน่ห์อยู่ดี เขายิ้มหวานชวนฝันให้กับคุณครูสาว เพื่อเป็นการปลอบใจที่ได้ปฏิเสธความหวังดีของอีกฝ่าย และมันก็มักจะได้ผลประจำ ผู้หญิงพอถูกคนที่ตัวเองปลื้มเอาใจใส่หน่อย ก็ย่อมจะละลายเหมือนเทียนถูกไปรนแล้วล่ะ ที่ยิ้มให้อย่าคิดว่าจริงใจด้วยนะ มันก็แค่มารยาเท่านั้น ถ้าให้ทำก็คงจะหลอกฟันแล้วก็ทิ้งไปอีกเหมือนเดิมนั่นแหละ

    “ ค่ะ...ฉันจทานเผื่อคุณครูอิมนะคะ ”

    แล้วเธอก็เดินจากไป พร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดฝาด ก็คงมันกำลังเขินนี้นา แบบว่าถูกผู้ชายหล่อๆพูดให้รู้สึกอบอุ่นแบบนั้น เป็นใครก็ต้องมีอาการเหมือนเธอกันทั้งนั้นแหละ แบบนี้เรียกว่ารักได้หรือเปล่านะ รักแรกซะด้วยสิ

    “ หึๆๆ...เหมือนกันหมดเลยสินะ...ผู้หญิงเนี่ย ”

    “ คุรครูคะ ไม่ออกไปทานข้าวเหรอคะ ”

    ในระหว่างนั้นเอง ที่ดานี่เดินเข้ามาในห้องพักครู พอดีว่าหัวหน้าห้องวานให้เด็กสาว เอาการบ้านวิชาคณิตศาสตร์มาส่งที่ดต๊ะของคุณครูประจำวิชา เธอจึงได้เห็นว่าคุณครูครใหม่ยังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานอยู่เลย จะขยันไปไหนคะคุณครูอิม แค่นี้ยังทำให้ใครต่อใครเห็นคุณเป็นเทพบุตรไม่พออีกเหรอ

    “ ยังหรอก ฉันยังทำงานไม่เสร็จน่ะ แล้วอีกอย่างก็ไม่รู้สึกหิวด้วย แล้วเธอล่ะ...กินข้าวหรือยัง ”

    “ เรียบร้อยแล้วค่ะ ”

    พอตอบคำถามของยุนอาแล้ว ดานี่ก็เดินเลยเขาไปยังโต๊ะทำงานของคุณครูที่สอนวิชาคณิตศรสตร์ เธอวางกองสมุดการบ้านลงไปที่โต๊ะตัวใหญ่นั่นอย่างระมัดระวัง แต่ไม่รู้ว่าไปทำอิท่าไหน หนังสือที่กองอยู่บนโต๊ะตัวใหญ่นั่น ก็พากันหล่นลงไปยังพื้นห้อง แบบที่ว่ากระจายเกลื่อนกราดเลย ทำไมถึงได้ซุ่มซ่ามอย่างนี้นะ ทั้งที่ความจริงแล้วเธอออกจะเรียบร้อยระมัดระวังอยู่เสมอ แต่วันนี้เธอกลับทำตัวซุ่มซ่านไม่น่ารักเอาซะเลย มือน้อยๆรีบตามเก็บหนังสือที่มันกระจัดกระจายอยู่ตามพื้น เธอไม่อยากจะให้คุณครุเจ้าของโต๊มาเห็นเข้า เดี๋ยวจะโดนดุเอาน่ะสิ ยังไงก็เก็บให้เสร็จเร็วๆท่าจะดีกว่านะ

    โป๊ก...!!!

    “ อื๊อ...หัวแข็งใช้ได้เลยนะเธอเนี่ย ”

    “ ขะ...ขอโทษค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจ ”

    ยุนอายกมือลูบที่หัวของตัวเองเบาๆ เขาเห็นเด็กสาวกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก ก็เลยคิดว่าจะมาช่วยซะหน่อย พอย่อตัวลงไปหมายจะหยิบหนังสือเล่มที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมา ดานี่ก็จะเก็บหนังสือเล่มนั้นด้วย ทั้งของคนก็เลยเอาหัวมาโขกกันเล่นล่ะมั้ง ไม่ใช่ว่าจะมีแค่ยุนอาเท่านั้นที่เจ็บตัว ดานี่เองก็เหมือนกัน เธอเจ็บหน้าผากอยู่เหมือนกันนะ แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมา เพาะว่ากำลังรู้สึกผิดที่ตัวเองต้องมาทำให้คุณครูเจ็บตัว

    “ ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่นา เธอเองก็คงจะเจ็บเหมือนกัน ”

    “ ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ แค่นี้เอง ”

    ยุนอาก้มลงไปหยิบหนังสือเล่มที่ตั้งใจจะหยิบตั้งแต่แรก เขาคว้ามันมาไว้ในมือ แล้วก็ยื่นให้กับคนที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆโต๊ะของเขา ดานี่เงยหน้ามองคุณครูใจดี เธอรับหนังสือมาจากยุนอา แล้วก็ยิ้มตอบรับความมีน้ำใจของเขา เด็กสาวรู้สึกว่าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าคนนี้ ให้ความรู้สึกดีกับเธอเหมือนอย่างที่เจสสิก้ามีให้เลย รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะ

    “ ขอบคุณค่ะ คราวหน้าหนูจะระวังให้มากกว่านี้ ”

    “ เธอจะระวังทุกเรื่องเลยเหรอ เรื่องอะไรก็ไม่น่าจะระวังเท่าเรื่องรอยที่อยู่บนคอหรอกนะ คราวหน้าถ้าจะมีอะไรกับแฟนล่ะก็...บอกเค้าด้วยล่ะ ว่าอย่าสร้างร่องรอยให้มันบ่อยนัก  เพราะว่าคุณครูประจำชั้นเห็นมันชัดเจนเลยนะ ”

     

    *_*_*_*_*

    *_*_*_*

    *_*_*

    *_*

    *

     

    “ แล้วรักเค้ามั้นล่ะ ”

    “ รัก...งั้นเหรอ ”

    คำพูดของทิฟฟานี่ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเจสสิก้า เธอไม่น่าไปหลงกลตอบตามที่ทิฟฟานี่ถามเลย แต่ว่าทำไมพี่สะใภ้ถึงได้ถามเธอมาแบบนั้นนะ รักไหมน่ะเหรอ... ไม่หรอก... เธอไม่ได้รักยูริหรอก ไม่ได้รักเลยสักนิด ก็คนๆนี้ไม่ได้มีอะไรดีไปกว่าความหล่อกับความน่ารักเลยนี่ ส่วนที่เหลือบอกได้คำเดียวว่า...แย่ หรือจะเรียกให้ถูกมันต้องพูดว่า...แย่มาก งานการก็ไม่รู้จักที่จะทำ วันๆก็ทำตัวไร้สาระ ไม่รู้ว่ามันจะเกิดมาให้รกดลกใบนี้ทำไมนะ คนไม่มีประโยชน์แบบนี้ก็มีด้วยนะเนี่ย แล้วแบบนี้จะให้เธอไปหลงรักคนอย่างยูริได้ยังไง ท่องเอาไว้เจสสิก้า ท่องจำให้มันขึ้นใจไปเลยนะ ว่าเธอรักแค่ดานี่คนเดียว หัวใจดวงนี้จะมีแค่เด็กคนนั้นแค่คนเดียว

    “ อาเจส...อาเจส ”

    ยูบินที่นั่งอยู่เบาะหลังยื่นมือมาดึงแขนเสื้อเชิ้ตของเจสสิก้า เด็กน้อยกระตุกแขนเสื้อของอาสาวอยู่หลายที กว่าผู้เป็นอาจะหันมาให้ความสนใจตัวเอง เจสสิก้าเอี้ยวตัวหันกลับไปหาเจ้าตัวป่วน ซึ่งดูเหมือนว่าตอนนี้ลูกหมากำลังอยากจะขออะไรจากเธอ

    “ หือ...ว่ายังไงคะ ยูบินมีอะไรกับอางั้นเหรอ ”

    เจสสิก้าเอ่ยถามหลายสาวตัวน้อย ที่กำลังดิ้นยุกยิกอยู่ที่เบาะด้านหลัง ความจริงก็ไม่ได้อยากจะเอาเจ้าตัวน้อยนี่มาด้วยหรอกนะ แต่นั่นเป็นเพราะว่าทิฟฟานี่ไม่มีเวลาดูแลลูก ก็คนไข้เยอะมากเลยด้วย แถมคุณพยายาลที่ทำงานอยู่ด้วยกันก็งานล้นมือ สุดท้ายคุณอาผู้ใจดีก็เลยต้องรับเอาเจ้าตัวแสบนี่มาเลี้ยงอีกแล้ว แถมก่อนจะออกมาจากโรงพยาบาล ทิฟฟานี่ก็ยังบอกให้เธอคิดว่ายูบินเป็นลูกแท้ๆดู เผื่ออยากจะเปลี่ยนใจมีลูกขึ้นมากับเขาบ้าง ขอยืนยัน , นั่งยัน , นอนยันเลยนะว่า ฉันจะไม่ยอมมีลูกกับไอ้หื่นยูรินั่นเป็นอันขาด ถ้าจะให้อุ้มลูกท้องโย้เหมือนลิงอุ้มแตงโมล่ะก็ เจสสิก้าคนนี้ขอยอมตายซะยังดีกว่าเลย

    “ หนูอยากด้ายของเล่น พาไปชื้อหน่อยจิ ”

    เด็กน้อยเกาะแขนของผู้เป็นอย่างอย่างแนบแน่น เหมือนกับเขียดตะปาดเกาะต้นไม้เลย แถมยังใช้มารยาทำตาแป๋ว ให้คนที่เห็นเป็นต้องใจอ่อนไปตามๆกัน มารยาสาไถมันเยอะเหมือนพ่อไม่มีผิด ไม่แปลกใจหรอกที่ทิฟฟานี่จะเอายูบินไม่ค่อยอยู่ ให้ตายสิ...ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ใช่คนใจอ่อนอะไรนักหนา แต่พอมาเจอลูกหมาใส่จริตมารยาด้วย ก็รู้สึกว่าใจมันชักจะเริ่มอ่อนระทวยไปกับเด็กซะแล้วสิ

    “ เอาน่าน้องเจส พาหลานไปซื้อของเล่นหน่อยนะ เพราะพี่ก็อยากจะได้ของเล่นเหมือนกัน ”

    ดูเหมือนว่าในรถยนต์คันนี้ จะไม่ได้มีแค่เด็กหญิง คิม ยูบิน คนเดียวซะแล้วสิ แต่ดันมีเด็กชาย ควอน ยูริ เกิดมาด้วยอีกคน แค่หลานอยากได้ของเล่นคนเดียว ฉันก็ว่ามันจะยุ่งยากวุ่นวายแล้วนะ นี่สามีดันจะอยากได้ของเล่นเหมือนหลานอีก สรุปแล้วมีแค่ฉันคนเดียวสินะที่เป็นผู้ใหญ่ ส่วนที่เหลือนั่นเด็กน้อยหมดเลย เจริญดีจริงเลยนะ เจสสิก้า จอง ได้ทั้งลูกทั้งสามีอยู่ในตัวคนๆเดียวกันน่ะ

    “ นายนี่มันจริงๆเลยนะ ไปตามใจเด็กได้ยังไง แบบนี้หลานของฉันก็เสียเด็กหมดพอดี ”

    “ แล้วจะพาไปซื้อมั้ยล่ะ ”

    คุณสามีที่รับหน้าที่เป็นสารถีหันมาถามผู้เป็นภรรยา ซึ่งนั่นอยู่เบาะข้างๆกัน เขารู้ว่าเด็กน่ะจะต้องเอาอกเอาใจกันสักนิดสักน่อยนะ หากจะเอาให้อยู่หมัดล่ะก็ แต่เจสสิก้าเหมือนจะเลี้ยงเด็กไม่เป็นเอาซะเลย แล้วแบบนี้จะเป็นแม่ของลูกให้เขาได้ยังไง มันต้องพาไปเรียนรู้การเลี้ยงลูกด้วยกันน่ะสิ ใช่ว่าเขาอยากจะได้ของเล่นจริงๆซะที่ไหน ก็แค่อยากจะหลอกเมียให้พาไปเที่ยวห้างต่างหากล่ะ อยากจะทำเหมือนที่พ่อแม่กลับลูกน้อยในละครทำกันไง แบบว่ามีเด็กน้อยคอยเชื่อมความสัมพันธ์ให้พระเอกกับนางเองไง ฟังดูโรแมนติกดีใช่ไหมล่ะ แล้วพอพระเอกกับนางเอกปิ้งกันขึ้นมา สุดท้ายก็จะไปจบที่เตียง เหอๆๆ...ความคิดนี้สุดยอดไปเลยเน้อ

    “ พาหนูปายหน่อยน๊า ”

    พอเห็นสีหน้าและแววตาของสามีกับเด็กน้อยแล้ว เจสสิก้าก็ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่หนักใจกับเด็กสองคนที่ต่างวัยนี่จริงๆเลยนะ แต่ว่า...ยูบินก็น่ารักจริงๆนั่นแหละ แถมวันนี้สามีก็ทำตัวน่ารักอยู่เหมือนกัน ดังนั้นเธอก็จะตอบแทนความน่ารักของทั้งสองคนก็แล้วกันนะ

    “ ก็ได้...นายก็อย่าลืมแวะห้างข้างหน้าด้วยล่ะ เราจะได้ไปซื้อของเล่นกัน ”

    ใช่...เราจะแวะซื้อของเล่นกัน แล้วฉันก็จะได้ไปหาซื้อยาคุมฉุกเฉินด้วย ก็คนมันไม่อยากท้องนี่นา ฉันยังไม่อยากมีลูกเข้าใจไหม ต่อให้ตายฉันก็ไม่อยากมี ชีวิตนี้ฉันจะเป็นหมัน ฮ่าๆๆ ให้ทิฟฟานี่ทำหมันให้ดีไหมว่า จะได้ไม่ต้องมากลุ้มเรื่องท้องอะไรแบบนี้อีก

    “ อาเจส...น่ารัก ”

    ยูบินพูดออกมาตามประสาเด็ก ในเมื่อตัวเองคิดยังไงก็มักะพูดออกไปแบบนั้น ซึ่งมันก็ทำให้คนที่ถูกชม อายจนแก้มแดงกันเลยทีเดียว ข้อดีของลูกหมาที่ได้มาจากพ่อก็เรื่องปากหวานนี่แหละ แน่นอนอยู่แล้วล่ะหลาน อาเจสคนนี้น่ารักอยู่แล้ว ไม่งั้นไม่มีเมียเด็กมาเก็บไว้ในสต๊อกหรอกนะจ๊ะ

    ยูริใช้เวลาไม่นานเขาก็พาภรรยากับหลานเข้ามายังห้างสรรพสินค้า วันนี้เจสสิก้าลางานช่วงบ่าย เพราะว่าท่านรองประธาน คิม แทยอน สั่งให้ดูแลลูกมาให้ และแน่นอนว่าเธอไม่มีเวลาได้ทำการทำงานเลย ถึงแม้จะมียูริอยู่เป็นผู้ช่วยก็ตามที สุดท้ายคุณอาผู้จัดการคนสวย ก็เลยตัดสินใจลางานมันครึ่งวันซะเลย เพราะไหนๆก็ทำงานไม่ได้อยู่แล้วนี่ หากจะลางานก็คงไม่ต่างกันหรอก

    “ ยูริ...นายพายูบินไปซื้อของเล่นก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะไปทำธุระของฉันก่อน แล้วก็อย่างสร้างเรื่องวุ่นวายกันล่ะ ฉันขี้เกียจมาตามล้างตามเช็ดให้ ”

    “ ครับ...พี่จะดูแลหลานให้เป็นอย่างดีเลย น้องเจสวางใจได้ ใช่มั้ยยูบิน เราสองคนจะทำตัวดีๆ..ใช่มั้ย ”

    “ จ้า...หนูจาเปนเด็กดี ”

    แล้วเจสสิก้าก็เดินจากสองคนนั่นไป เธอเดินตรงไปยังแผนกขายยา แบบที่ว่าไม่มีการลังเลใดๆเลย ก็แน่ล่ะยังไงก็ต้องรีบซื้อยา แล้วจะได้รีบกินเพื่อหยุดการปฏิสนธิของอะไรที่เธอไม่ต้องการ ส่วนอาเขยกับหลานน้อยก็เดินไปหาแผนกของเล่น ยูริกับยูบินเดินจูงมือกันไปพรางๆ อุ้มกันบ้างเป็นบางช่วง ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังมุ่งหน้าไปยังแผนกขายของเล่น ยูริก็เหลือบไปเห็นของที่ถูกใจ เขาก้เลยพายูริออกไปนอกเส้นทางเดิม

    “ สวัสดีค่า...สนใจสินค้าชิ้นไหนเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ ”

    พนักงานขายเครื่องประดับเอ่ยถามลูกค้าตามมารยาท หน้าที่ของพวกเธอก็คือทำให้ลูกค้าพึงพอใจ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม แต่คุณสมบัติของพนักงานขายก็คือวาจาและการบริการ หากไม่รักการบริการก็ไม่สามารถทำงานแบบนี้ได้หรอก

    “ ผมขอดูสร้อยเส้นนั้นหน่อยได้มั้ยครับ เส้นที่มีจี้รูปหัวใจน่ะครับ ”

    “ ได้สิคะ...นี่ค่ะ เชิญชมได้ตามสบายเลยนะคะ ”

    ยูริรับสร้อยเพชรเส้นเล็กมาดู เขาถูกใจสร้อยคอเส้นนี้ตั้งแต่แรกเห็นเลยล่ะ อยากให้เจสสิก้าได้ใส่มันจัง เขาอยากให้เธอใส่สร้อยเส้นนี้ให้ดู มันจะต้องดูดีมากเลยแน่ๆ และจะดูดีมากหากมันได้ไปอยู่บนคอของเมียคนสวย

    “ ครับ...ผมขอเส้นนี้นะครับ ”

     

     

    ( พี่เจส...ทำไมเพิ่งจะโทรมาล่ะคะ หนูรอพี่เจสนานแล้วนะ )

    เด็กสาวทำเสียงที่บ่งบอกได้ว่าเธอกำลังงอนสามีอยู่ ก็แน่ล่ะ...เล่นหายเงียบไปเฉยเลย ไม่ติดต่อดานี่เลยสักนิด ก็เป็นเรื่องธรรมดาหากเด็กสาวจะไม่พอใจคนรัก ไม่รู้ว่าเจสสิก้าจะเป็นยังไง สามีจะห่วงเธอเหมือนอย่างที่เธอห่วงสามีหรือไม่ แต่ยังไงก็ดีใจนะ ดีใจที่ในที่สุดพี่เจสก็โทรมาหาตนจนได้

    “ ดานี่...พี่ขอโทษจริงๆนะ พอดีว่าพี่มีเรื่องอะไรให้ต้องทำเยอะเลยล่ะ พี่คิดถึงเธอนะ ”

    พออยู่พ้นหูพ้นตายูริกับยูบินไปแล้ว เจสสิก้าก็แอบมาโทรหาเมียเด็กของตน เจสสิก้าทำเป็นปากหวานผ่านสัญญาณโทรศัพท์ นี่เป็นนิสัยที่เหมือนกันอีกอย่างของเจสสิก้ากับแทยอน กับคนที่ตัวเองรักจะปากหวานเอาอกเอาใจกันเป็นพิเศษ ซึ่งยูริยังไม่เคยเจอแบบนี้หรอก อย่างมากเขาก็แค่เจอเจสสิก้าด่าแบบไม่มีดีเท่านั้นแหละ แต่สำหรับสาวน้อยคนนี้ เจสสิก้าทุ่มใจให้เธอไปเลย

    ( อย่ามาทำปากหวานหน่อยเลยค่ะ ยังไงก็อย่าโหมทำงานเยอะนักนะคะ หนูเป็นห่วง )

    “ ถ้าเป็นห่วงพี่มากขนาดนั้น คืนนี้ก็มาเจอกันหน่อยสิ พี่มีขอจะให้ด้วยนะ ถือว่าเป็นการไถ่โทษที่ทำให้เมียของพี่เป็นห่วงไง ดานี่ออกมาหาพี่ที่คอนโดได้มั้ย พี่คิดถึงเธอนะ อยากจะเจอสุดที่รักสักหน่อย ”

    “ ค่ะ...แล้วหนูจะไปรอพี่เจสที่คอนโดนะคะ บายค่ะที่รัก ”

     

     

    “ อา...สวยชะมัดเลย ”

    ยูริยืนจ้องสิ่งที่เป็นของอิสตรี เขากำลังหลงใหลกับซีทรูลายลูกไม้ตัวสีดำสุดเซ็กซี่ แบบว่าเดินผ่านแผนกชุดชั้นในพอดี แล้วสายตาอันแหลมคมก็เหลือมาเห็นซีทรูตัวนี่เข้า ความรู้สึกอยากได้ก็แล่นเข้ามาเสียบหัวใจเข้าอย่างจัง ถึงขนาดที่ว่าทำให้เขาเดินเข้ามาในแผนกนี้อย่างที่ลืมอายกันไปเลย เพราะปกติผู้ชายจะไม่มาอยู่ในแผนขายชุดชั้นในของสตรีหรอก นอกจากตุ๊ดเท่านั้นแหละ ที่เข้ามาอย่างไม่อายใครเลย

    “ ถ้าหากว่ามันไปอยู่บนตัวเธอล่ะเจสสิก้า มันจะสวยมากขนาดไหนกันนะ ”

    ยูริยืนจินตนาการไปถึงตอนที่เจสสิก้าสวมซีทรูตัวนี้กันเลยทีเดียว ผิวขาวๆตัดกับซีทรูตัวสีดำลายลูกไม้ที่วาบหวิวตัวนี้ เรียวขาสวยที่ไม่มีชิ้นล่างมาปิด ชุดที่รัดรูปแสดงให้เห็นถึงสัดส่วนอันอวบอิ่มน่าหลงใหล ส่วนบนเป็นเกาะอกที่เน้นการโชว์เนินเนื้อเต่งตึงเด้งดึ๋งอย่างกับเจลลี่ คิดเห็นภาพแล้วน้ำลายสอเลย ส่วนตรงกลางก็จะรัดกระชับหน้าท้องแบนราบ พร้อมกับโชว์ให้เห็นถึงส่วนเว้า เอวกิ่วคอดที่บางครั้งเวลากอดก็กลัวว่าจะหักนั่น มันเห็นภาพตามที่จินตนการ แล้วก็อยากจะกดเมียมันซะตอนนี้เลยจริงๆ เหอๆๆ น้องเจสจ๋า คืนนี้เธอจะต้องใส่ซีทรูนี่ให้พี่ดูหน่อยน๊า

    “ อายูล...ไอ้นี่เข้าใฉ่แบบนี่หรอ ”

    ยูริเดินเข้ามาหายูริ พร้อมกับอะไรที่ดูคุ้นตาเขาเป็นอย่างมาก เด็กน้อยไปหยิบอะไรมาอีกล่ะ ซนจริงๆเลยนะไอ้คุณหลานเอ๊ย ยูริหันมาดูชัดๆว่าของที่อยู่ในมือหนูน้อยนั่นมันคืออะไร แล้วเขาก็กระจ่างแก่ใจ เมื่อยูบินจับมันยกขึ้นมา แล้วก็เอาส่วนที่เป็นเบ้าขึ้นมาปิดตาทั้งสองข้างของตัวเอง เหมือนกับการใส่แว่นตายังไงล่ะ ยูบินเอาบราไซน์บิ๊กบึ้มมาแปะที่หน้าของตัวเอง หนูน้อยเอาเต้าทั้งสองข้างมาปิดตา แล้วก็เต้นส่ายก้นไปมาดูน่ารักน่าเอ็นดู แต่คนที่อยู่ด้วยกลับถูกคุณผู้หญิงทั้งหลายแหล่มองอย่างแปลกๆ แบบว่าไอ้นี่มันโรคจิตหรือเปล่า ที่มายืนดูเด็กทำอะไรแบบนั้น หรือว่ามันสั่งสอนให้หนูน้อยที่น่ารักทำเรื่องแบบนี้กันนะ

    พอถูกสายตาของใครต่อใครจ้องมองอย่างกับว่าเขาเป็นผู้ร้าย ยูริก็รีบเข้าไปแย่งเอาบรามาจากยูบิน แต่หนูน้อยไม่ยอมยกบราให้ สองคนอาหลานก็เลยวุ่นวายอยู่กับการแก่งแย่งบรากัน เจสสิก้าก็เดินตามหาสามีกับหลานนี้ พอดีว่าเธอเห็นคนมุงกันตรงแผนกชุดชั้นในสตรี ก็นึกว่าจะมีอะไรดีๆมาจัดนำเสนอ เธอก็เลยเดินตรงไปยังจุดนั้น แล้วเจสสิก้าก็ต้องยืนตะลึกตัวแข็งทื่อ เมื่อเธอได้เจอเข้ากับอะไรดีๆ แล้วมันก็ดีเกินคาดซะด้วยสิ สามีกับหนูน้อยกำลังแย่งบรากันอยู่ ยูริก็ดึงบราอีกข้างส่วนอีกข้างก็เป็นยูบิน ต่างคนก็ต่างยื้อแย่งกัน แต่แล้วยูบินก็ปล่อยปลายอีกข้าง เมื่อลูกหมาเจอเข้ากับอาสาว ที่กำลังยืนทำหน้ายักษ์ พร้อมกับกำมั้ดทั้งสองข้างแน่นเลย ยุริหงายหลังล้มตึงลงไปนอนอยู่กับพื้น มือที่ควานหาของยึดเกาะก้ไปรั้งเอาชุดชั้นในต่างลงมาด้วย มันกองอยู่บนตัวเองเขาเต็มไปหมดเลย รังสีอำมหิตถูกแผ่ออกมาปกคลุมไปทั่วบริเวณนั้น ซึ่งแน่นอนว่ายูบินทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แต่ยูริอ้าปากค้างทันทีที่ได้เจอหน้าเมียเลย

    “ อาเจส...หนูป่าวน๊า ”

    “ นะ...น้องเจส...พี่เปล่าทำนะ ”

    “ ควอน ยูริ...แกอย่ามีชีวิตอยู่อีกต่อไปเลย ”

     

    *_*_*_*_*

    *_*_*_*

    *_*_*

    *_*

    *

     

    Talk……………………..

     

    หวัดดีจ้า...เค้ามาแล้วนะ ตอนนี้มากับความหื่น ,โหด , ฮา ของอาเขยกับหลานลูกหมาน้อย ที่ทั้งดื้อทั้งซนจนทำให้คนบางคน โดนเมียพิฆาตแบบไม่ตั้งใจ ก็หลานมันซนอ่ะให้ทำไงได้ รับกรรมกันไปนะ คุณควอน ตอนนี้ยูลสิกยาวสะใจดีมั้ยคะ ยังไงก็ขอให้มีความสุขกับการอ่านฟิคเน้อ เค้ารักรีดเดอร์นะคะ จุฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×