ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] งานนี้...พี่ต้องมี...ลูก YulsiC yuri x sica

    ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 12

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.74K
      3
      21 พ.ย. 55

     

    งานนี้...พี่ต้องมี...ลูก

     

    Chapter  12

     

    “ ขอโทษอีกครั้งนะคะ หนูทำให้คุณต้องมาลำบากด้วยอีกแล้ว ”

    เด็กน้อยก้มหน้าก้มตาขอโทษคนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเธอ ก็แบบว่าเด็กสาวลืมเอากระเป๋าสตางค์มาด้วยน่ะสิ แล้วก็หิวข้าวมากด้วย สามีก็ยังไม่กลับมาหาเลย พี่เจสหายไปตั้งแต่ตอนสายๆ จนตอนนี้มันบ่ายแก่ๆแล้วนะ พี่เจสสุดที่รักก็ยังไม่กลับมาเลย หิวก็หิวไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยมานั่งกลืนน้ำลายอยู่ไม่ห่าง จากร้านอาหารที่อยากจะเข้าไปกิน พอดูเงินในกระเป๋าก็มีแค่พอซื้อน้ำดื่มได้เท่านั้น ไม่พอที่จะซื้ออาหารกินได้เลย พอดีว่าคุณคนหล่อผู้ใจดีคนนี้ผ่านมาเห็นเด็กน้อยนั่งกลืนน้ำลาย สายตาจ้องมองไปยังคนที่กำลังกินอาหารอยู่ในร้าน ด้วยสายตาแบบที่ว่าน่าสงสารสุดๆ คนที่ดูเหมือนเย็นชาก็อดที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือไม่ได้ ก็เลยชวนเด็กน้อยเข้าไปกินข้าวด้วยกัน แรกๆเด็กสาวทำมีเป็นไม่อยากจะไปกินด้วยคงเพราะเกรงใจ แต่พอหลอกล่อชักชวนไปมา เธอก็เลยยอมเข้าไปกินข้าวด้วยแบบที่หิวซะเต็มประดาเลยล่ะ หิวก็หิวแล้วยังจะมาทำยิ่งอีกนะเด็กดื้อเอ๊ย

    “ ไม่เป็นไรหรอก คิดซะว่าฉันได้ทำบุญในวันหยุดก็แล้วนะ ”

    ฟังดูดีนะ ได้ทำบุญในวันหยุด แต่คนที่ที่ถูกเขาทำบุญด้วยนี่สิ ถึงกับหน้าชาไปเลยทีเดียว ก็รู้ว่าเธอน่ะไม่มีอะไรเลย ไม่มีเงินไม่มีใคร มากับคนรักแต่ก็ไม่รู้ว่าคนรักหายไปไหน ติดต่อก็ไม่ได้เพราะอีกฝ่ายไม่ยอมเปิดเครื่องเลย จะกลับบ้านก็ไม่ได้เพราะเงินไม่มี ก็เลยต้องมาเตร็ดเตร่อยู่ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ เพื่อรอเวลาให้สามีมารับกลับไป แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่พี่เจสจะมา พอมาเจอคนใจดีที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือ เขาก็ดูเย็นชาจนไม่กล้าที่จะพูดคุยอะไรด้วยเลย เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะเกิดความรำคาญ แค่ที่เขาพูดมาก็น่าจะบอกได้แล้วว่า เขาไม่อยากจะยุ่งอะไรกับเด็กที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าอย่างเธอสักเท่าไหร่เลย

    “ อ้าว...หยุดกินทำไม หิวไม่ใช่เหรอ ”

    เด็กสาวไม่ยอมตอบ หากแต่เอาก้มหน้าก้มตามองที่จานข้าวของตัวเองอย่างเดียวเลย สงสัยว่าเขาคงจะพูดอะไรที่มันฟังไม่เข้าหูเด็กล่ะมั้ง เจ้าหล่อนถึงได้มีท่าทีเปลี่ยนไปจากก่อนหน้านี้มากเลย อาจจะเป็นเพราะคำที่ว่าทำบุญในวันหยุดก็ได้ ก็แบบว่าไม่คิดอะไรกับคำพูดของตัวเอง แต่ถ้าหากว่ามันจะทำให้เด็กสาวคนนี้คิดมากล่ะก็...ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้น ฉันขอโทษที่ไม่ได้รักษาน้ำใจของเธอ

    “ ฉันขอโทษ หากว่าฉันพูดอะไรผิดไป กินข้าวต่อเถอะ ฉันยังอยากมีเพื่อนกินข้าวนะ ”

    พอได้ยินแบบนั้น ดานี่ก็ยิ้มร่าได้ทันทีเลย เธอรู้สึกสะเทือนใจกับคำพูดของเขา รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวอะไรสักอย่าง แต่พอเขาพูดแบบนั้นแล้ว ก็รู้ว่าอีกฝ่ายเข้าใจเธอขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ แม้ว่าจะเป็นเด็ก แต่เด็กก็มีหัวใจเหมือนกันนะ เด็กก็มีความคิดมีจิตใจที่ไม่ต่างอะไรไปจากผู้ใหญ่เลย เจ็บได้ร้องไห้เป็น แล้วก็รักใครหมดทั้งใจเป็นด้วยเหมือนกัน

    “ ค่ะ ”

    พอตอบอีกคนกลับไป เด็กสาวก็ตักอาหารเข้าปาก แล้วก็ตามด้วยอาหารอีกหลายอย่าง ที่ผู้ใหญ่ใจดีท่านนี้สั่งมาให้กินจนเต็มโต๊ะ ดานี่ยอมรับว่าเกรงใจเขานะ แต่ว่าเธอก็หิวด้วยเช่นกัน จึงไม่ได้หลงเหลือความเกรงใจใดๆกับคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเลย ส่วนคนที่ชักชวนให้เด็กหลงทางคนนี้มากินข้าวด้วย ก็มีลอบยิ้มอยู่เรื่อย เขายิ้มออกมาเวลาที่เด็กสาวก้มหน้าก้มตากินอาหาร ไม่ใช่ว่าเขาจะยิ้มอยู่ตลอดเวลาซะเมื่อไหร่ ถ้าเด็กสาวที่นั่งอยู่ด้วยเงยหน้าขึ้นมามอง เขาก็จะหุบยิ้มทันทีทันใด แบบที่ว่าไม่อยากจะให้เด็กมันรู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว คนที่เอาแต่เต๊ะท่าทำหน้านิ่งคนนี้ เป็นคนที่อารมณ์ดีอยู่เสมอต่างหากล่ะ ที่ต้องทำแบบนี้ก็เพราะว่าความที่เป็นคนอารมณ์ดีของเขานั้น มันเคยทำให้เขาเจ็บปวดมากมายยังไงล่ะ เจ็บมากจนต้องเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนละคน

    “ เธอมากับใครล่ะ หรือว่ามาคนเดียว ”

    “ หนูมากับ...แฟนค่ะ แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าพี่เค้าไปอยู่ที่ไหน หนูพยายามติดต่อแล้วแต่ทำไม่ได้เลย บางทีอาจจะคุยธุระอยู่กับลูกค้าก็ได้ เพราะพี่เค้าเป็นนักธุรกิจน่ะค่ะ ”

    ใช่...เพราะเจสสิก้าเป็นนักธุระกิจ ถึงทำให้เธอกับสามีต้องห่างกันออกไปเรื่อยๆ ก็เข้าใจว่าพี่เจสมีงานมากมาย กว่าจะปลีกตัวมาหาเธอได้ มันก็ต้องใช้เวลาอยู่เหมือนกัน แต่พอได้มาอยู่ด้วยกัน ก็ดันมีเรื่องอะไรต่อมิอะไรเข้ามาทำให้ต้องห่างกันอีกแล้ว นี่ยังไม่รู้เลยว่าคืนนี้สามีจะมานอนด้วยไหม หรือว่าเธอจะต้องกลับไปนอนที่บ้านแค่คนเดียวอีกเหมือนเช่นเคย

    “ สรุปแล้วเธอโดนทิ้งล่ะสินะ มีแฟนแก่กว่างั้นเหรอ ”

    “ ค่ะ เราสองคนอายุห่างกันสิบปี แต่พี่เจสไม่มีทางทิ้งหนูไปไหนหรอกค่... ไม่มีทาง ”

    เด็กคนนี้เป็นคนยังไงกันแน่นะ จะว่าเป็นเด็กที่คอยใช้ความสาวความน่ารัก มาคอยหลอกลวงผู้ใหญ่ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะเท่าที่มานั่งกินข้าวด้วยกัน ก็ไม่เห็นว่าเจ้าหล่อนจะขอเขาสั่งอะไรเพิ่มเลย ไม่เห็นว่าจะขอนั่นนี่เหมือนอย่างกับพวกเด็กสาวที่เขาเคยเจอมาเลย เด็กคนนี้ดูเป็นผู้ดีกว่านั้นเยอะ เธอคงจะโดนแฟนทิ้งเอาไว้จริงๆนั่นแหละ แต่ยังไม่ยอมรับความจริงเท่านั้น

    “ แล้วเธอจะกลับยังไง ฉันไปส่งให้เอามั้ย ”

    ก็คิดว่าเด็กคนนี้คงจะไม่มีเงินจ่ายค่าแท็กซี่อีกนั่นแหละ ไหนๆก็ช่วยมาตั้งแต่ต้นแล้ว เขาก็คิดว่าน่าจะช่วยให้มันตลอดรอดฝั่ง ก็แค่เด็กคนเดียวเอง ทำไมเขาจะยื่นมือเข้าไปช่วยเธอไม่ได้ล่ะ แล้วอีกอย่างนะเด็กสาวไม่ควรจะไปไหนมาไหนแค่คนเดียว ก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองดีเลิศจนตัดกิเลสขาดหรอก หากแต่ว่าเจอเด็กอายุวัยใกล้คุกใกล้ตารางแบบนี้แล้ว บอกตามตรงเลยว่าไม่เกิดอารมณ์แม้แต่น้อย สักนิดก็ไม่มีเลย

    “ จะดีเหรอคะ ”

    “ ดีไม่ดีก็แล้วแต่เธอละกัน ฉันก็แค่อยากจะช่วยเท่านั้นแหละ ”

    “ ค่ะ ไปส่งก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ คุณยุนอา ”

     

    *_*_*_*_*

    *_*_*_*

    *_*_*

    *_*

    *

     

    “ เดี๋ยวก่อนสิ นั่นเธอกำลังะไปไหนน่ะ ”

    “ กลับบ้าน ฉันทิ้งเด็กเอาไว้นานแล้ว ความจริงวันนี้ฉันไม่จำเป็นจะต้องมาดูแลนายเลยนะ วันนี้ฉันควรจะได้อยู่กับเมียของฉัน ไม่ใช่มาอยู่กับนายแบบนี้ ”

    เจสสิก้าระเบิดอารมณ์ใส่สามี เพราะวันนี้เธอทนอยู่กับเขามาทั้งวันแล้ว มันทรมานใจนะที่ต้องมาทนฝืนอยู่กับคนที่ตนไม่ได้รัก ไหนจะต้องมาปั้นหน้าทำดีกับไอ้บ้านี่ตอนที่แม่สามีอยู่ด้วยอีก เหนื่อยนะรู้ไหม มันเหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจเลย เหนื่อยไปหมดทุกอย่าง เหนื่อยสุดๆ

    “ เจสสิก้า...พี่รู้ว่าเธอไม่ชอบขี้หน้าพี่ พี่รู้ว่าเธอเกลียดผู้ชาย แต่เธอรู้มั้ย...ว่าเธอทำให้ใครบางคน ไม่รู้สึกเหงาใจเลยนะ ”

    ไม่ใช่เพราะเป็นคนปากหวาน หากแต่ว่าทุกอย่างที่พูดออกไปนั้น มันมาจากใจของยูริจริงๆ เพราะตั้งแต่ที่เจสสิก้ามาหาเขาที่โรงพยาบาล มันก็ไม่มีคำว่าเหงาหลงเหรออีกต่อไปเลย อย่าคิดว่าการที่ได้นอนกับผู้หญิงมาหลายต่อหลายคน มันจะทำให้คนบางคนคลายเหงาลงไปได้นะ ที่ผ่านมาเขานอนกับใคร ก็เพื่อระบายความเหงาทั้งนั้น บอกตามตรงว่ากลัวการมีชีวิตคู่ กลัวว่าตัวเองจะเบื่อกับอะไรที่มันจำเจ ไม่อยากจะเอาชีวิตไปผูกมัดกับใคร แต่พอได้มาเจอกับเธอคนนี้ การได้มาใช้ชีวิตอยู่กับเจสสิก้า แม้จะไม่กี่ชั่วโมงก็ตามที บอกได้เลยนะว่าเขาไม่กลัวเรื่องอะไรทำนองนั้นอีกแล้ว ชีวิตนี้ไม่เหงาหรือหวาดกลัวเรื่องราวจำเจเลย เพราะว่าเจสสิก้าไม่เคยทำให้เขาเบื่อหน้าเธอเลยแม้แต่น้อย

    “ อย่ามาทำเป็นปากหวานหน่อยเลยน่า นายอาจจะไม่รู้สึกเบื่อฉัน แต่ว่าฉันกลับรู้สึกเบื่อนายจัง เบื่อมากๆด้วยล่ะ ขอตัวนะ...คิดถึงเมีย ”

    คนป่วยที่นอนอยู่บนเตียงของคนไข้ ทำได้แค่มองดูเมียของตัวเองทำหน้าไม่ปลื้มเท่านั้น ไม่ว่าเขาจะพูดจะบอกอะไรออกไป เจสสิก้าก็คงจะไม่เชื่อใจเขาอยู่ดีนั่นแหละ อยากจะบอกเธอนะ พี่อยากจะบอกเธอว่า บางทีความรู้สึกของคนมันก็เปลี่ยนกันได้นะ เมื่อก่อนพี่อาจจะอยากได้เธอมาเป็นแค่แม่พันธ์ เพื่อให้กำเนิดลูกน้อยเท่านั้น แต่พอเธอได้มาดูแลพี่ถึงแม้ว่าจะเป็นแบบที่ไม่เต็มใจ แต่มันก็ทำให้คนที่ไร้หัวใจคนนี้ รู้สึกดีขึ้นมาได้อย่างบอกไม่ถูกเลยนะ ดีใจที่ได้เธอมาเป็นเมีย แล้วก็ยิ่งดีใจเข้าไปใหญ่ เมื่อได้รู้ว่าพี่เป็นคนแรกของเธอ เธออาจจะมีเมียมาก่อนหน้านี้ แต่รับรองว่าเธอได้พี่เป็นสามีคนเดียวนะเออ

     “ เดี๋ยวก่อน ”

    ยูริคว้าหมับเข้าที่ข้อมือเล็กๆของเจสสิก้า พร้อมกับออกแรงฉุดรั้งเจ้าหล่อนเอาไว้ จะบอกว่าเขาไม่อยากให้เธอไปหาเด็กคนนั้นก็ว่าได้นะ เป็นใครก็คงจะทำเหมือนกับเขานั่นแหละ ไม่มีใครอยากจะให้เมียของตัวเองไปหาคนอื่น ไม่อยากให้เจสสิก้ากลับไปหาเมียเด็กคนนั้น ไม่อยากให้เธอจากเขาไปเลย อยากให้อยู่ทะเลาะกันต่อ ได้ยินเสียงเธอด่าก็ยังดีกว่านอนอยู่คนเดียว

    “ นี่ปล่อยนะ ฉันบอกให้ปล่อยไง ”

    เจสสิก้าพยายามสะบัดข้อมือ เพื่อให้ตวเองหลุดจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย แต่มันก็ไม่มีผลอะไรเลย ไม่ว่าเธอจะสะบัดให้ข้อมือหลุดออกจากแขน ยูริก็ไม่ยอมปล่อยให้เธอได้เป็นอิสระ จะมาจับไว้ทำไมเนี่ย คนเค้าจะไปหาเมียอ่ะ แกรู้ไหมว่าฉันทิ้งดานี่เอาไว้ที่ห้าง แล้วป่านนี้ก็ไม่รู้ด้วยว่าเมียจะเป็นยังไง แกโตเป็นวัวเป็นควายแล้วนะ อยู่คนเดียวก็ได้ไม่ใช่เหรอ แต่เมียของฉันยังเด็กอยู่น่าเป็นห่วงกว่าแกอีก ปล่อยสิยะไอ้หื่น

    “ เจสสิก้า อย่าไปเลยนะ อยู่เป็นเพื่อนพี่ก่อนได้มั้ย ”

    รู้ว่าเธอเกลียดขี้หน้า แต่พี่ไม่อยากให้เธอไปจริงๆ แม้จะยังไม่ได้รัก แต่ก็ยังไม่อยากจะต้องมาแข่งกับใครหรอกนะ ถึงอีกฝ่ายจะเป็นเด็กก็เถอะ ยังไงก็ไม่อยากจะมีคู่แข่ง ยังไม่อยากให้เธอไป อยากให้อยู่ด่าพี่ต่ออีกสักหน่อย เพราะว่าพี่...เหงา

    “ ไม่ได้ ฉันทิ้งเด็กไว้คนเดียวมานานแล้ว ยังไงก็ต้องไป ส่วนนายน่ะก็...ก็เอานี่ไปนอนกอดก่อนก็แล้วกัน ”

    เจสสิก้ายื่นตุ๊กตามิคกี้เมาส์ที่ซื้อมาให้สามี ความจริงมันน่ะเป็นของดานี่เมียเด็กนะ แต่เพราะเห็นหน้าเศร้าๆของไอ้หื่นแล้ว ก็เลยเกิดความมีเมตตาขึ้นมา ก็พอจะเข้าใจว่าการนอนอยู่ที่โรงพยาบาลน่ะมันทั้งเหงาทั้งน่าเบื่อแค่ไหน ฉันก็อยากจะอยู่ด่าแกอีกนะ แต่ว่าฉันก็เป็นห่วงเมีของฉันเหมือนกัน กลับบ้านแล้วค่อยไปกัดกันอีกก็ได้ ยังไงฉันก็ต้องอยู่บ้านเดียวกับนายอยู่แล้วนี่นา

    “ ให้พี่เหรอ เป็นห่วงเค้าล่ะสิ ”

    “ อย่าคิดอะไรที่มันให้ความสำคัญกับตัวเองมากนัก ฉันให้นายเอาไว้คุยด้วยแก้เหงาเท่านั้น ไม่ได้เป็นห่วงเป็นใยอะไรนายหรอกนะ สงสารหรอกถึงได้ให้ ”

    ยูริรับเจ้าตุ๊กตามิคกี้เมาส์มาจากเจสสิก้า แล้วก็เอามากอดไว้แนบอก ทำเอาคนที่ยืนดูถึงกับเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว เวลาที่ยูริไม่หื่นนี่ก็ดูน่ารักดีอยู่หรอกนะ ยอมรับว่าทุกอย่างดูดีดูเพอร์เฟคไปหมด เสียอย่างเดียว เสียตรงที่มันหื่นจัดนี่แหละ ถ้ายูริลดตรงนี้ลงไปได้ เธออาจจะมองเขาดีขึ้นกว่านี้บ้างก็ได้นะ ใช่ว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงจะขี้ริ้วขี้เหร่ซะเมื่อไหร่ล่ะ สามีของเธอเขาดูหล่อมากเลยเชียวล่ะ แต่ว่า...เจสสิก้าคนนี้ก็ยังไม่ได้รักอยู่ดี หล่อแค่ไหนถ้าไม่มีใจอะไรๆก็ไม่มีผล

    “ ขอบคุณครับ ”

    แล้วยูริก็ทำในสิ่งที่เจสสิก้าคิดไม่ถึง เขายกมือของเธอขึ้นมาแล้วก็ฝากจุมพิตเอาไว้ให้ จมูกโด่งของคนป่วยถูกกดฝังลงไปที่หลังมือของอีกคน ไม่รู้ว่าเป็นเล่ห์กลมารยาของยูริหรือเปล่านะ แต่ที่แน่ๆมันทำให้คนที่โดนจูบถึงกับเม้มริมฝีปากของตัวเองเอาไว้แน่น ทำไมไอ้บ้านี่มันถึงได้ทำอะไรที่ดูจะโรแมนติกแบบนี้ล่ะ อย่ามาทำให้ใจอ่อนเชียวนะ อย่าใจอ่อนด้วยเชียวนะเจสสิก้า นี่มันก็แค่มารยาของไอ้หื่นเท่านั้น อย่าได้เผลอไปหลงกลเชียว เดี๋ยวได้เสียวก่อนไปหาเมียนะเออ

    “ พอได้แล้ว ฉันจะต้องไปจริงๆแล้วล่ะ ”

    เจสสิก้ารีบชักมือออกมาจากการเกาะกุมจากมือของสามี ทำให้ยูริหน้าหน้าเสียทันทีด้วยเช่นกัน คนอุตส่าห์จะทำซึ้งแล้วนะ ทำไมเธอไม่หลงซึ้งไปกับพี่ล่ะจ๊ะคนสวย ซึ้งสักนิดสักหน่อยก็ยังดีนะเออ ไม่เป็นไรวันนี้พี่รั้งเธอเอาไว้ไม่ได้ แต่อย่างน้อยเธอก็แอบยิ้มให้ได้เห็นเป็นบุญตา ก็ไม่ใช่ว่าเจสสิก้าจะยิ้มให้ได้เห็นเลย เธอไมเคยยิ้มให้เขาได้เห็นเลยสักครั้ง แต่วันนี้เธอแอบยิ้มด้วยล่ะ แม้จะแค่นิดหน่อยแต่ก็ถือว่าเธอยิ้มให้พี่นะ คืนนี้พี่จะยอมให้เธอกลับไปนอนกับเมียเด็กคนนั้น แล้วถ้าพี่ได้ออกไปจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ พี่จะจัดเธอให้สมกับที่เมื่อคืนพี่อดเลยเชียวล่ะ

    “ งั้น...พรุ่งนี้มารับพี่กลับบ้านด้วยนะจ๊ะคนสวย ”

    “ อือ...เดี๋ยวฉันมารับ จะออกเมื่อไหร่ก็โทรมาละกัน ”

    พูดแค่นั้นเจสสิก้าก็เดินออกไปจากห้องพักของคนป่วย พอเห็นเมียเดินลับตาไปแล้ว ไอ้หื่นหน้าหล่อก็เอาตุ๊กตามิคกี้เมาส์ที่กอดแนบอก ขึ้นมาหอมแก้มซ้ายทีขวาที ยูริทำเหมือนเด็กที่ได้อะไรที่มันถูกใจ ชายหนุ่มกอดรัดฟัดเหวี่ยงตุ๊กตาที่เมียทิ้งเอาไว้ให้เป็นเพื่อนอย่างเมามันส์ จะบอกว่าดีใจที่เมียอุตส่าห์มีเยื่อใยให้ก็ได้นะ เพราะเขาก็ไม่คิดว่าเจสสิก้าจะยอมยกตุ๊กตาตัวนี้ให้ เขาก็รู้อยู่เหมือนกันว่าเธอจะเอาเจ้ามิคกี้เมาส์ตัวนี้ไปให้ใคร ยูริมัวแต่เล่นอยู่กับสมบัติที่เมียทิ้งเอาไว้ให้ดูต่างหน้า จนไม่ทันสังเกตุว่าเจสสิก้าย้อมกลับมาดูอาการเขาอีก เธอก็ไม่คิดหรอกว่าตัวเองจะได้มาเจอกับภาพนี้ ยูริก็ดูน่ารักอยู่เหมือนกันนะ ยิ่งตอนที่เขาหอมแก้มเจ้ามิคกี้ สามีก็ยิ่งดูน่ารักเข้าไปใหญ่ อย่ามาทำน่ารักให้ฉันรู้สึกดีเชียวนะไอ้หื่น อย่ามาทำให้ฉันรักแกเชียวนะ ถ้าแนรักใครฉันรักแบบไม่ปล่อยเลยนะแก

     

    *_*_*_*_*

    *_*_*_*

    *_*_*

    *_*

    *

     

    “ ป๊ะป๋า นี่อะไยอ่ะ ”

    “ โอ๊ย...ยูบินอย่าสิลูก ”

    หนูน้อยสงสัยไอ้รอยแดงที่มันขึ้นเป็นริ้วๆเต็มหน้าของผู้เป็นพ่อ ลูกหมาที่รักมันก็เลยเอามือไปฟาดป๊าบเข้าที่หน้าของพ่อหมาอย่างจัง นั่นก็เพื่ออยากจะลองทาบดูว่านิ้วมือของตัวเองจะเต็มเท่ารอยนั่นไหม ผลปรากฎว่าไม่เต็มนะหนูมือเล็กไปหน่อย แต่ว่าพ่อหมาสิกลับเป็นฝ่ายที่ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดแทน ก็แบบว่าลูกหมามันจะเจริญรอยตามแม่มันล่ะสินะ เอะอะก็ตะปบเลย สงสัยได้ลูก แต่อย่าเอามือมาฟาดหน้าของพ่อ มันเจ็บนะเออ

    “ สม...เอาอีกสิยูบิน ลองใหม่สิจ๊ะ เผื่อมันจะได้ ”

    ทิฟฟานี่ก็ยุให้ลูกฟาดหน้าของพ่อหมาอีก และหนูน้อยลูกหมาก็ฟาดป๊าบๆเข้าที่หน้าของผู้เป็นพ่อเข้าให้อีก คราวนี้มาสองมือเลย ไอ้พ่อหมาที่อุ้มลูกหมาก็ไม่รู้จะป้องกันตัวยังไง งานนี้โดนแม่กับลูกเล่นงานไปเต็มๆ ยิ่งแทยอนร้องโอดครวญมากเท่าไหร่ หนูน้อยลูกพ่อหมาก็ตะปบตบหน้าป๊าบๆเข้าไปใหญ่ ทิฟฟานี่และนางพยาบาลคนอื่นๆก็ได้แต่ยิ้มให้เท่านั้น คนอื่นอาจจะเห็นว่านี่มันเป็นเรื่องสนุก แต่ว่าแทยอนไม่เห็นด้วยเลยนะ มันสนุกตรงไหนมิทราบครับคุณสาวๆ ผมเจ็บนะครับแต่พวกคุณๆกลับหัวเราะกันคิกคักเลย

    “ ฟานี่...มาเอาลูกไปเถอะ หน้าพี่ช้ำไปหมดแล้ว ”

    “ ยูบิน พอได้แล้วลูก ป่ะไปเล่นกับคุณพี่สองคนนี้นะ เดี๋ยวหม่าม๊าจะทำแผลให้ป๊ะป๋าก่อน ”

    เด็กหญิงยูบินหันไปมองหน้าของผู่เป็นแม่ แล้วก็มองเลยไปยังคุณพี่พยาบาลสองคนที่อยู่กับผู้เป็นแม่ เด็กน้อยยิ้มแฉ่งอวดฟันที่เพิ่งจะขึ้นไม่กี่ซี่ให้สองสาว ซึ่งหนูน้อยทำได้น่ารักน่าเอ็นดูมากเลย จากนั้นก็หันมามองหน้าของพ่อหมา ที่ทำทีเป็นว่าอยากให้หนูน้อยไปเล่น ลูกหมายิ้มแฉ่งให้พ่อหมาอีกคนแล้วก็ฝากรักครั้งสุดท้ายเอาไว้ให้อีกป๊าบ ตามด้วยการจุ๊บแก้มอันบอบช้ำอีกหนึ่งที ขอบอกเลยว่ามันเอามาทั้งนิสัยของพ่อกับแม่นั่นแหละ ไอ้อะไรที่ไม่ใความรุนแรงเป็นของแทยอน ถ้าอะไรที่ใช้กำลังจะเป็นของทิฟฟานี่ เรื่องนี้ปฏิเสธไม่ลงจริงๆ

    “ ป๊ะป๋าเป็นไรอ่ะ จะตายแย้วอ๋อ ”

    โอ้...แน่ใจนะว่านี่มันลูกหมาน่ะ ทำไมมันมาแช่งให้พ่อของมันตายล่ะ รักพ่อจริงๆเหรอลูก แค่หนูพาแม่มาถล่มพ่อก็ว่าหนักแล้วนะ นี่เล่นแช่งให้พ่อตายเลย หนูอยากเป็นเด็กกำพร้าเหรอครับคนดี พ่อหมาหน้าตาหล่อเหลาแบบนี้หาได้ยากนะจะบอกให้ แล้วเดี๋ยวพ่อตายไปใครจะทำน้องน้อยมาให้หนูได้เล่นด้วยล่ะลูก สงสัยคืนนี้จะต้องปั้มลูกแข่งกับน้องเขยซะแล้วนะ เค้าบอกว่าผัวเมียตีกันบ่อยๆ ลูกก็จะดกตามมาด้วย งั้นเรามาตีกันอีกดีกว่านะจ๊ะเมียจ๋า

    “ หึๆๆ สมเป็นลูกพี่แทจริงๆเลยนะคะ รักกันจริงๆ มายูบิน มาเล่นกับคุณพี่สองนนี่นะ เดี๋ยวหมอฝากให้คุณสองคนช่วยดูแลน้องด้วยนะคะ จะพาไปเดินเล่นข้างนอกก็ได้ แกชอบที่กว้างๆน่ะค่ะ ”

    “ ค่ะ เดี๋ยวพวกเราสองคนจะดูแลน้องให้เป็นอย่างดีเลยค่ะ เชิญคุณหมอตามสบายนะคะ ไปกันเถอะค่ะน้องยูบิน เราไปกินขนมกันนะ ”

    เด็กน้อยพยักหน้าหงึกหงัก แต่ทุกครั้งก็ไม่เคยลืมที่จะยิ้มแฉ่งอวดฟันสวยซึ่งขึ้นมาไม่กี่ซี่ ยูบินเป็นที่รักของคุณพยาบาลทั้งสอง เพราะสองสาวนั้นพลัดกันหอมแก้มเด็กน้อยอยู่ไม่หยุด ไม่ได้จะเอาอกเอาใจต่อหน้าของพ่อแม่เด็กหรอกนะ แต่ว่ายูบินน่ารักจริงๆ แล้วคุณพยาบาลกับคุณลูกหมา ก็ออกไปจากห้องทำงานของคุณหมอหน้าสวย

    ตอนนี้ภายในห้องทำงานของทิฟฟานี่ก็เหลือแค่สองคนสามีภรรยาเท่านั้น ทิฟฟานี่หันไปเตรียมของที่จะใช้ทำแผลให้สามี วันนี้คุณหมอคนสวยไม่ยุ่งเท่าไหร่ ก็เลยมีเวลาดูแลลูกกับสามีได้ ยอมรับนะว่าพอเห็นสามีไปป้อล้อกับผู้หญิงคนอื่นแล้วมันจี๊ด มีลูกมีเมียอยู่แล้วยังจะไปหว่านเสน่ห์ใส่เด็กอีก ก็นึกว่ามันจะเก็บอาการอยู่บ้าง พอจะรู้นะว่าสามีเราอยู่กับเราก็เป็นของเรา แต่พอลับตาเราก็จะเป็นคนอื่น แต่ว่าไอ้ที่มันกล้ามาทำในโรงพยาบาลเนี่ย แสดงว่ามันพร้อมที่จะเข้าห้องดับจิตล่ะสินะ แบบว่าจัดการเสร็จเอาเข้าไปแช่เลย

    แต่พอเห็นลูกน้อยของมันแล้วก็ฆ่าไม่ลง สุดท้ายก็ต้องเอามาดูแลรักษาให้อีกตามเคย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำยังไงให้สามีเลิกเจ้าชู้ประตูดินสักที คนเป็นเมียมันเหนื่อยใจนะ คาดว่าอีกไม่นานเจสสิก้าจะเป็นเหมือนเธอ ก็ยูริเล่นเจ้าชู้ซะขนาดนั้นนี่นา ขนาดเธอน้องเขยคนนี้ก็ยังเคยจีบมาแล้วเลย แต่ว่าเจสสิก้าไม่รู้เท่านั้นแหละ

    “ ฟานี่ พี่ขอโทษนะ ”

    พ่อหมาเดินมาสวมกอดแม่หมีจากทางด้านหลัง ตอนนี้ก็ทำเป็นสำนึกผิดไปก่อน แต่พอมีโอกาสก็น่าจะเป็นเหมือนเดิมอีก ก็แบบนี้ประจำแหละ ออดอ้อนออเซาะเมียเพื่อไม่ให้ตัวเองโดนซ้อมอีก มันเป็นยุทธวิธีเอาตัวรอดของแทยอนนะเออ ซึ่งมันก็ใช้ได้ผลมาตลอด เพราะทิฟานี่ใจอ่อนยอมให้อภัยอยู่เรื่อยเหมือนกัน ก็นะนี่เขาเป็นสามีของเธอนะเออ

    “ ก็แบบนี้ทุกทีนั่นแหละค่ะ ขอโทษแล้วก็กลับมาทำอีกเหมือนเดิม ”

    “ หืม...อย่าพูดแบบนั้นสิ พี่สัญญานะ ว่าต่อจากนี้ไป พี่จะไม่ไปยุ่งกับใครอีกแล้ว จะยุ่งอยู่กับลูกกับเมียเท่านั้น ”

    พ่อหมามันเอาคางมาเกยไว้บนไหล่ของแม่หมี พร้อมกันนั้นก็ไซร้ซอกคอของคุณหมอคนงามไปด้วย ให้มันรู้กันไปว่าแทยอนลงทุนทำขนาดนี้ แล้วทิฟฟานี่จะไม่ใจอ่อนน่ะ ไอ้สามีจอมหื่นก็ไซร้ซอกคอของผู้เป็นภรรยาต่อไป ทิฟฟานี่ก็พยายามใช้มือดันหัวของสามีออก เพราะนี่มันโรงพยาบาลนะ ถึงแม้ว่าห้องนี้มันจะเป็นห้องทำงานส่วนตัวเองคุณหมอหน้าหวานก็จริง แต่ยังไงมันก็มีใครต่อใครสามารถเข้าออกห้องนี้ได้ จะทำอะไรก็ช่วยดูสถานที่หน่อยได้ไหมไอ้หมา

    “ อย่าทำแบบนี้สิ เดี่ยวก็มีคนมาเห็นเข้าหรอก แล้วฟานี่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ”

    “ ก็เอาไว้ที่เดิมนั่นแหละ แต่ว่าตอนนี้เราไปหามุมสร้างเบบี๋อีกสักคนดีกว่ามั้ย เรามาทำน้องให้ลูกกันเถอะนะ ลูกจะได้ไม่เหงาไง ”

     

    *_*_*_*_*_

    *_*_*_*

    *_*_*

    *_*

    *

     

    Talk..........................

     

    ตอนนี้ก็เอาแบบหื่นๆซึ้งบ้างไปอ่านกันก่อนละกัน ส่วนใครที่อยากจะให้หนูน้อยควอนก่อร่างสร้างตัว ก็รอไปอีกนิดนะคะ เดี๋ยวเค้าจะจัดหนักให้เลย เช่นเคยค่ะ เค้ารักรีดเดอร์นะคะ จุฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×