ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 3
เพลิงรัก ไฟปรารถนา
Chapter 03
สองสามีภรรยานั่งมองหน้ากันไปมาอย่างไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี บริษัทก็กำลังมีปัญหาจนใกล้ที่จะล้มละลาย แถมเจ้าหนี้รายใหญ่ยังเร่งรัดที่จะเอาหนี้สินที่ไปกู้มาอีก มันช่างเป็นปัญหาที่ใหญ่หลวงซะนี่กระไร ควอน ซังวู กับ ควอน ฮยอนมี ทุกข์ใจกับเรื่องนี้จนไม่เป็นอันทำการทำงานเลย วันนี้ทั้งวันก็เอาแต่นั่งกลุ้มใจ ไหนจะค่าใช้จ่ายนั่นนี่ทั้งที่บ้าน และที่บริษัท ทำไมปัญหามากมายเหล่านี้ถึงได้เกิดขึ้นกับครอบครัวของตระกูลควอนได้นะ แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีแฝงอยู่ มีที่ไหนเจ้าหนี้จะยอมยกหนี้สินทั้งหมดให้เป็นโมฆะ ไม่ใช่แค่เท่านั้น เขายังจะยกเงินให้อีกหลายล้าน เพื่อให้เอาไปฟื้นฟูบริษัท แต่มีข้อแม้อยู่ว่า ลูกคนเดียวของบ้านนี้จะต้องยอมแต่งงานกับน้องสาวของเขา ทุกอย่างถึงจะเป็นไปตามที่ตกลงกันเอาไว้ แต่ถ้าเกิดว่ายูริไม่ยอมตกลงเมื่อไหร่ เขาจะมาเอาบริษัทนี้ไป และตระกูลควอนจะต้องเป็นบุคคลล้มละลาย ไร้ซึ่งเครดิตใดๆอีก แม้แต่บ้านที่ใช้ซุกหัวนอนก็จะไม่มี สรุปแล้วความหวังทั้งหมดจะไปตกอยู่ที่ยูริเพียงคนเดียว เพราะตอนนี้ธุรกิจทั้งหมดที่ตระกูลควอนมี มีเพียงยูริที่จะชี้ชะตาได้ว่าจะล้มละลาย หรือจะยังเชิดหน้าชูตาต่อไปได้อีก
“ ฟานี่ ” เสียงของยูริดังมาจากด้านหลังของทิฟฟานี่
“ คะ มีอะไรคะยูล ”
ทิฟฟานี่ไม่ได้หันไปมองยูริ เพราะเธอมัวแต่หั่นผัก เพื่อเตรียมทำอาหารเย็น จึงไม่ได้สนใจแฟนสักเท่าไหร่ หมู่นี้ยูริชอบมาขลุกอยู่ที่ห้องของทิฟฟานี่เป็นประจำทุกวัน ขนาดวันหยุดราชการก็ไม่เว้น วันนี้ก็อีกเช่นยูริมาขอทานข้าวเย็นกับทิฟฟานี่ เพราะรู้ว่าถ้าชวนทิฟฟานี่ไปทานข้างนอก ยังไงทิฟฟานี่ก็คงไม่ยอมออกไปหรอก เพราะเธอกลัวว่าจะไม่ได้ทำงานที่ยังทำค้างเอาไว้ แถมยังกลัวยูริจะสิ้นเปลืองเงินทองอีก ดังนั้นก็เลยต้องมาทำกันเองที่ห้องของทิฟฟานี่นี่แหละ
“ หลังจากที่เรียนจบแล้ว ฟานี่จะทำอะไรต่อไป จะทำงานหรือว่ายังจะเรียนต่ออีก ”
“ ฟานี่ว่าจะทำงานไปด้วย แล้วก็เรียนไปด้วย ยูลว่าดีไหม ”
“ ก็ดีนะ อนาคตยูลอาจจะมีแฟนเป็นด๊อกเตอร์ก็ได้นะเนี่ย ”
ยูริเอ่ยแซวทิฟฟานี่เล่นๆ แต่นั่นคือสิ่งที่ทิฟฟานี่หวังเอาไว้ แต่มันจะมีวันนั้นไหม ฐานะก็เท่านี้แค่ที่ได้เรียนจนถึงระดับปริญญาตรีนี่ก็ดีถมไปแล้ว ยังจะหวังเรียนให้สูงกว่านี้อีกเหรอ มันคงเป็นได้แค่ฝันเท่านั้นแหละ ฝันที่เลือนลางและห่างไกล
“ แล้วยูลล่ะ จะทำอะไรต่อไป ”
ทิฟฟานี่ลองถามยูริดูบ้าง เธอก็อยากจะรู้อนาคตของแฟนเธอเหมือนกัน
“ ยูลคงจะต้องไปดูแลกิจการของครอบครัวต่อจากพ่อกับแม่น่ะ ยูลไม่ค่อยอยากทำมันสักเท่าไหร่หรอก แต่ก็ต้องทำ ”
ยูริยอมรับว่าเขาไม่อยากจะเดินตามทางที่พ่อกับแม่ปูเอาไว้ให้ มันเป็นทางที่ดีทางที่ราดยางแล้ว แถมมีดอกกุหลาบโปรยเอาไว้ให้เดินไปอีก แต่ยูริไม่ได้ต้องการแบบนี้ เขาไม่อยากให้พ่อแม่จัดการหรือมาวุ่นวายกับชีวิตของเขา แค่ทั้งสองคนพยายามแยกเขาออกจากทิฟฟานี่ ยูริก็ทรมานแทบจะขาดใจอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเขาได้เข้าไปทำงานที่บริษัท ที่มีงานกองสุมหัวอยู่ตลอดเวลา แล้วไม่มีเวลาได้เจอกับทิฟฟานี่ยูริจะทำยังไง
“ อย่าพูดอย่างนั้นสิ นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ยูลได้เรียนแล้วก็มีอนาคตที่ดีนะ ”
ทิฟฟานี่พูดปลอบใจยูริเต็มที่ เธอเองก็รู้ดีว่าถ้ายูริได้ไปทำงานของครอบครัว ทั้งสองคนก็จะมีเวลาให้กันน้อยลง แต่ทิฟฟานี่มั่นใจว่าความรักที่มีให้กัน จะไม่มีวันลดลงไป
“ มันก็จริงอ่ะนะ ว่าแต่ฟานี่มีอะไรให้ยูลช่วยบ้างไหม รอกินอย่างเดียวยูลเกรงใจน่ะ ”
การยืนดูแฟนทำอาหารให้ทาน โดยที่ไม่ได้ช่วยเหลืออะไร มันก็เป็นเรื่องที่น่าอายอยู่เหมือนกัน
“ งั้น ยูลช่วยเอาจานไปจัดที่โต๊ะอาหารทีนะ ”
“จ้ะ ”
ว่าแล้วยูริก็หยิบจับจานไปจัดวางที่โต๊ะอาหาร มันไม่ได้เป็นโต๊ะอะไรที่ใหญ่มากมาย ไม่ได้หรูหราหรือมีราคาแพง มันเป็นแค่โต๊ะตัวเตี้ยๆที่ไม่มีเก้าอี้ มีแค่เบาะผ้านุ่มๆที่ใช้รองนั่ง หรือที่เรียกกันว่าโต๊ะญี่ปุ่นนั่นแหละ ยูริจัดวางจานให้เรียบร้อย และทิฟฟานี่ก็ยกจานอาหารที่เพิ่งจะทำเสร็จมาวางเอาไว้ จากนั้นทั้งสองก็จัดการกับมัน ยูริตักอาหารใส่จานข้าวของทิฟฟานี่ เขาแสดงให้ทิฟฟานี่เห็นว่า เขารักและห่วงใยเธอมากแค่ไหน ส่วนทิฟฟานี่เองก็ทำอย่างเดียวกัน ทิฟฟานี่กับยูริทานอาหารกันอย่างมีความสุข เมื่อเรื่องบนโต๊ะอาหารผ่านไป จานชามถูกล้างทำความสะอาด และจัดเก็บเข้าที่อย่างเป็นระเบียบแล้ว ทั้งสองคนก็มานั่งดูทีวีที่โซฟาเพื่อรอให้อาหารย่อย แต่ระหว่างที่นั่งดูรายการโปรดกันอยู่นั้น จู่ๆยูริก็ลงไปนั่งคุกเข่ากับฟื้น เขานั่งอยู่ตรงหน้าของทิฟฟานี่ ทิฟฟานี่เห็นยูริทำแบบนั้น เธอก็ออกที่จะแปลกใจอยู่นะว่ายูริคิดจะทำอะไร
“ ยูล ลงไปนั่งกับพื้นทำไม ”
ยูริไม่ตอบอะไรกลับมา แต่เขากลับเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแทน ยิ่งสร้างความสงสัยให้ทิฟฟานี่เข้าไปใหญ่
“ ทำอะไรน่ะยูล ”
“ ฟานี่ หลับตาก่อนสิ ”
อยู่ดีๆยูริก็ขอให้ทิฟฟานี่หลับตา ทิฟฟานี่ก็ยังคงอยู่สงสัย แต่เธอก็ทำตามที่ยูริขออย่างว่าง่าย พอทิฟฟานี่หลับตาลงสนิทดีแล้ว ยูริก็ควักเอากล่องกำมะหยี่สีแดงออกมา ภายในกล่องนั้นมีแหวนเพชรวงเล็กๆวางเอาไว้ มันเป็นแหวนที่เรียบง่าย ไม่มีสะดุดตา ยูริอุตส่าห์เก็บหอมรอมริบเงินค่าขนม และเงินพิเศษต่างๆนาที่พ่อแม่ให้มาตั้งหลายปี ก็เพื่อการนี้โดเฉพาะ ยูริเปิดกล่องกำมะหยี่แล้วหยิบเอาของที่อยู่ข้างในออกมา แล้วก็สวมมันใส่นิ้วนางข้างซ้ายของทิฟฟานี่ จากนั้นก็ดึงเอามือนิ่มๆมาจูบอย่างแผ่วเบา เป็นจังหวะเดียวกับที่ทิฟฟานี่ลืมตาขึ้นมาพอดี
“ ยูล ”
ทิฟฟานี่ตื้นตันใจกับสิ่งที่ยูริทำให้เธอ จนไม่สามรถที่จะพูดอะไรไปมากกว่านี้
“ ถ้าเรียนจบแล้ว เราแต่งงานกันนะ ”
นั่นคือทั้งหมดที่ยูริต้องการจะบอก เข้าต้องรีบจองทิฟฟานี่เอาไว้ก่อน เพราะอนาคตมันไม่แน่ไม่นอน ยูริกลัวว่าหากเมื่อทั้งสองเรียนจบและแยกย้ายกันไป หรือไม่ก็ห่างเหินกันอะไรที่เคยเชื่อมั่นมันอาจจะเปลี่ยนผันไป เพื่อเป็นการปลอดภัยไว้ก่อน ยูริก็เลยขอทิฟฟานี่แต่งงานมันตอนนี้แหละซะเลย
“ ว่ายังไง ฟานี่จะยอมเป็นเจ้าสาวของยูลไหม ”
ยูริทำตาหวานเยิ้มส่งไปให้ทิฟฟานี่ เขาหวังไว้เป็นอย่างยิ่งว่าทิฟฟานี่จะไม่ปฏิเสธ
“ ตกลงค่ะ ”
แค่สามคำเท่านั้น ยูริก็ยิ้มหน้าบานจนแก้มแทบปริ เขาดีใจยิ่งกว่าได้ตำแหน่งนักกีฬาดีเด่นซะอีก ก็ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้ายอมตกลงแต่งงานกับเขาแล้ว จะมีอะไรมีความสุขไปมากกว่านี้อีกล่ะ
“ ฟานี่จะแต่งงานกับยูล ”
ยูริโผเข้ากอดทิฟฟานี่ด้วยความดีใจ และทิฟฟานี่เองก็กอดตอบยูริอย่างรักใคร่ แต่ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือของยูริก็ดังขึ้นในบัลดล มั่นทั้งดังทั้งสั่นจนยูริต้องรีบรับสาย
“ คะแม่ ”
ยูริกรอกเสียงใสๆผ่านโทรศัพท์ไร้สาย เพื่อสื่อสารไปหาปลายสายที่ติดต่อมาหาเขา
( ยูล แกอยู่ที่ไหน )
สิ่งแรกที่แม่ของเขาถามหา ก็คือที่อยู่ของลูกสาว ดูเหมือนว่าฮยอนมีจะระแวงว่ายูริจะอยู่กับทิฟฟานี่ คนที่ครอบครัวไม่ต้องการ เพราะความยากจนไม่มีหน้าไม่มีตาทางสังคม ต่อให้ดิ้นรนขวานขวายมากมายแค่ไหน กาก้ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนเป็นหงษ์ไปได้หรอก ดูยังไงก็ไม่เหมาะกับยูริลูกสาวของผู้ที่(เคย)มั่งมีอย่างเธอ
“เอ่อ ยูลอยู่บ้านเพื่อนน่ะค่ะ แม่มีอะไรหรือเปล่าคะ ”
ยูริไม่สามรถบอกความจริงกับแม่ของเขาได้ว่า เขามาอยู่กับทิฟฟานี่ ถ้าแม่ของเขารู้มันจะเป็นเรื่องใหญ่ แล้วทิฟฟานี่จะเดือดร้อนเอาได้
( แกรีบกลับมาบ้านให้มันเร็วหน่อยจะได้ไหม พ่อกับแม่มีเรื่องจะคุยด้วย )
ฮยอนมีพูดด้วยน้เสียงที่บ่งบอกว่า สิ่งที่จะคุยด้วยนั้นมันเป็นเรื่องสำคัญมาก
“ ค่ะ ยูลจะรีบกลับเดี๋ยวนี้เลย ”
จากนั้นยูริก็วางสายจากมารดา แล้วก็หันมาเผชิญหน้ากับทิฟฟานี่ ที่นั่งทำหน้าซื่ออยู่ที่โซฟา
“ ฟานี่ ยูลต้องกลับบ้านก่อนนะ พอดีพ่อกับแม่มีธุระจะคุยด้วยน่ะ ”
ยูริฝืนใจบอกลาทิฟฟานี่ ทั้งที่เขายังไม่อยากจะจากบุคคลอันเป็นที่รักไปไหน ส่วนทิฟฟี่ก็ได้แต่ยิ้มให้อย่างเข้าใจ
“ ค่ะ ขับรถกลับดีๆนะคะ ”
“ จ้ะ ฟานี่ก็ดูแลตัวเองด้วยนะ แล้วอย่าลืมล็อคประตูห้องล่ะ ยูลเป็นห่วง ”
ก่อนที่จะไป ยูริก็ไม่วายที่จะสั่งทิฟฟานี่ให้ทำโน่นทำนี่ด้วยความเป็นห่วง
“ ค่ะที่รัก ไปได้แล้ว ฟานี่จะได้อ่านหนังสือ ”
ทิฟฟานี่ยิ้มหวานให้ยูริ พ้อมกับดันหลังของอีกคนให้ออกจากห้องไป ทั้งที่ในใจอยากให้ยูริอยู่ต่อ แต่ทำยังไงได้ในเมื่อมันเป็นธุระที่ยูริจะต้องไปคุยกับพ่อแม่ เธอทำได้แค่ยินยอมให้ยูริกลับบ้านไป เมื่อส่งยูริที่หน้าห้องแล้วทิฟฟานี่ก็กลับเข้ามาอ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวสอบ ซึ่งจะมีขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้
“ พี่แท กลับมาช้าจังเลยนะคะ ”
เจสสิก้าโผเข้ากอดพี่สาวอย่างรักใคร่ เพราะวันนี้ทั้งวันเธอเอาแต่นั่งนึกถึงสิ่งที่แทยอนบอกเท่านั้น
“ พอดีงานพี่มันเยอะมาก พี่ก็เลยต้องเคลียร์ให้มันหมดๆไป ถ้าดองเอาไว้มากๆมันจะเหนื่อยที่ต้องมาตามเก็บทีหลัง ”
แทยอนอธิบายให้เจสสิก้าฟังว่า ทำไมเขาได้กลับบ้านช้า ไม่ใช่เพราะเคลียร์งานหรืออะไรที่บริษัทหรอก หากแต่เขาบุกไปหา ควอน ซัง
วู ที่บริษัทที่ซังวูเป็นเจ้าของอยู่ต่างหาก ที่แทยอนต้องไปที่นั่น ก็เพราะยูริคนเดียวเท่านั้น เขาไปยื่นข้อเสนอที่จะทำให้บริษัทนี่ยังอยู่ได้ แถมจะให้เครดิตเพิ่ม หากครอบครัวนี้ทำตามที่เขาขอ นั่นคือยูริต้องมาแต่งงานกับเจสสิก้า หากยูริปฏิเสธทุกอย่างที่พูดมาจะกลายเป็นศูนย์ ตระกูลควอนจะไม่เหลืออะไรไว้สักอย่าง แม้แต่ศักดิ์ศรีก็จะไม่มีเหลือเช่นกัน
“ ว่าแต่เราเถอะ หิวข้าวหรือยัง ”
“ แล้วพี่แทล่ะคะ ”
“ ถ้าสิก้าหิว พี่ก็หิว ”
แทยอนพูดอย่างเอาใจน้อง และรู้ดีว่าน้องจะตอบเขาอย่างไร
“ ถ้าพี่แทหิว สิก้าก็หิวค่ะ ”
แทยอนถามเจสสิก้า ก็เหมือนกับว่าเขากำลังถามตัวเอง เพราะเจสสิก้าเล่นตอบเหมือนที่เขาตอบทุกอย่างเลย นี่ล่ะน๊าที่เขาว่าพี่กับน้อง
มันย่อมเหมือนกัน แทยอนเอามือลูบที่ผมยาวสลวยของเจสสิก้าด้วยความเอ็นดู น้องสาวของเขาช่างน่ารักน่าถนอมซะเหลือเกิน แต่ทำไมคนบางคนถึงได้มองไม้เห็นอย่างที่เขาเห็นนะ
“ อืม พี่แทว่าตอนนี้ พี่แทชักจะหิวแล้วล่ะ ”
“ งั้น สิก้าก็จะหิวด้วย ”
เจสสิก้ายิ้มหวานส่งให้ผู้เป็นพี่อย่างล้อเลียน และแทยอนก็ยิ้มตอบเธอ ก็เจสสิก้าเล่นน่ารักขนาดนี้ แล้วจะไม่ให้แทยอนรักได้ยังไง
“ ป่ะ ไปทานข้าวกัน ”
แทยอนโอบเอวของน้องสาวเอาไว้ แล้วพาเดินไปที่โต๊ะอาหาร สองพี่น้องทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย แต่ที่ดูแปลกไปน่าจะเป็นเจสสิก้า ที่วันนี้เธอทานอาหารได้เยอะกว่าปกติ อาจจะเป็นเพราะแทยอนเคยบอกเธอเอาไว้ว่า ยูริจะมาหาล่ะมั้ง เจสสิก้าก็เลยมีความสุขล้น จนสามารถทานอะไรต่อมิอะไรได้มากมายแบบนี้ นั่นก็เป็นสิ่งที่ดีแล้วล่ะ แทยอนจำเป็นต้องหลอกน้อง เพื่อไม่ให้เจสสิก้าต้องตรอมใจตาย เพราะใครบางคน คนที่ไม่เคยจะเหลียวแลเจสสิก้าเลย แต่แทยอนคิดว่าอีกไม่กี่วันยูริจะมาที่บ้านหลังนี้ ส่วนจะมาหาเจสสิก้าหรือไม่อันนั้นก็แล้วแต่มันเลย
“ พ่อกับแม่ล้อยูลเล่นใช่ไหม ”
ยูริแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตนได้ยินจากปากของพ่อกับแม่ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ทำไมอยู่ๆทั้งสองคนถึงอยากให้เขาแต่งงานกับคน
ที่เขาไม่ได้รักแบบนี้
“ ฉันกับแม่แก เป็นเพื่อนเล่นของแกงั้นเหรอ ยูริ ”
ควอน ซังวูทำหน้าจริงจังใส่ยูริเพื่อให้รู้ว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น นี่มันคือเรื่องจริงที่เลี่ยงไม่ได้ ถึงซังวูจะไม่อยากให้ลูกต้องแต่งงานอย่างฝืน
ใจ แต่ทำยังไงได้ในเมื่อทุกอย่างที่ยูริตัดสินใจ มันหมายถึงอนาคตของตระกูลเลยนะ
“ แต่ ยูลไม่แต่งกับคนๆนั้นไม่ได้เหรอ พ่อกับแม่ก็รู้นี่ว่ายูลมีแฟนแล้วนะ ”
ยูริค้านหัวชนฝา ก็จะให้ยินยอมแต่งงานกับคนที่ตนไม่ได้รักได้ยังไงล่ะ เขารักกับทิฟฟานี่อยู่พ่อกับแม่ก็รู้ แล้วนี่ยังจะมาบังคับให้แต่งงานกับคนอื่นอีก จริงอยู่ที่พ่อกับแม่เนคนให้ชีวิต แต่ยูริอยากมีสิทธิ์ในการใช้หัวใจของตนบ้าง
“ ไม่ได้ ฉันรู้ว่าแกกับยัยเด็กนั่นเป็นแฟนกัน แต่ถ้าแกยังคบหากันอยู่ดูยังไงก็ไร้อนาคต แกควรจะอยู่กับคนที่เค้ามีทุกอย่างเพียบพร้อม
มีหน้ามีตาทางสังคมเป็นที่ยอมรับของใครต่อใคร และที่สำคัญเค้ายังจะช่วยพยุงฐานะของเราได้ด้วย ซึ่งยัยเด็นจนๆคนนั้นทำให้แกไม่ได้ หรือแกจะเถียงฉัน ว่าที่ฉันพูดมานั้นมันไม่จริง ”
ควอน ฮยอนมี ยกเอาเหตุผลร้อยปดประการออกมาอ้าง เพื่อหวังจะโน้วน้าวจิตใจของยูริ ให้โอนอ่อนมาทางตน การที่ฮยอนมีเอาทิฟฟานี่มาเปรียบเทียบก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะเธอไม่ชอบหน้าของทิฟฟานี่อยู่แล้ว จนก็จนยังจะใฝ่สูงมายุ่งกับลูกของเธออีก ขนาดพายูริหนีมาเรียนในมหาลัยที่มีค่าเทอมแพงๆ แม่นั่นก็ยังสอบชิงทุนแล้วก็ตามมา มันช่างหน้าด้านหน้าหนาจริงๆยัยผู้หญิงคนนี้ แล้วอย่างนี้ฮยอนมีจะชอบขี้หน้าได้ยังไง คนอะไรไม่รู้จักเจียมเนื้อเจียมตัว ไม่รู้จักตักน้ำใส่กระโหลกดูเงาของตัวเองซะบ้างเลย
“ แม่ ถึงฟานี่จะไม่ได้ร่ำรวยเหมือนกับเรา แต่ฟานี่เค้าก็เป็นคนดีนะ แล้วฟานี่ก็ยังจะมาเป็นลูกสะใภ้ของแม่อีก ”
“ ถึงจะดีแค่ไหน มันก็ไม่ได้ช่วยให้แกกินอิ่มท้องได้หรอก แล้วก็ไม่ต้องมาบอกฉันด้วยว่ามันจะมาเป็นลูกสะใภ้ของฉัน ต่อให้เอามันมาก
ราบเท้าฉันก็ไม่ยอมรับมันหรอก ”
ฮยอนมีแสดงท่าทางรังเกียจทิฟฟานี่อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งยูริเองก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้แม่ของตนยอมรับในตัวของิฟฟานี่ได้สักที ทิฟฟานี่ไม่ดีตรงไหน เธอมีดีแทบจะทุกอย่าง ยกเว้นก็แค่ทิฟฟานี่ไม่รวยเหมือนอย่างที่แม่ของเขาต้องการเท่านั้นเอง
“ ยูริ สิ่งที่พ่อกับแม่ต้องการจะบอกแกจริงๆก็คือ ถ้าอกไม่ยอมแต่งงานกับหนูเจสสิก้า คุณ คิม แทยอน จะมาเอาทุกสิ่งทุกอย่างของพวกเราไป ทั้งบริษัทกิจการต่างๆนาๆ รวมทั้งบ้านหลังนี้ เราก็จะไม่มีให้ซุกหัวนอน แกคิดดูให้มันดีๆนะ ว่าแกจะเลือกทิฟฟานี่คนที่ไม่มีอะไร หรือว่าแกจะเลือกหนูเจสสิก้า ที่มีให้แกได้ทุกอย่าง และอย่าลืมนะว่าชีวิตของพ่อกับแม่ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแกแค่คนเดียว ”
ซังวู พยายามที่จะใช้เหตุผลกับยูริ เพราะเขารู้ดีว่าลูกของเขาอาจจะต่อต้าน ถ้าหากว่าเขาใช้คำที่รุนแรง และบังคับจิตใจมากมายเหลือนอย่างที่ภรรยาของเขาทำ ยูริอาจจะเตลิดหนีออกจากบ้านไปได้ เพื่อเป็นการดีสำหรับทั้งสองฝ่าย การใช้วาจาที่ดูมีเหตุผลนี่แหละเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว
“ เราเป็นหนี้เค้าอยู่เท่าไหร่คะพ่อ ”
“ มากมายจนต่อให้เราขายทุกอย่างที่เรามี ก็ไม่สามารถที่จะชดใช้เค้าได้หมด ”
“ งั้นยูลจะไปคุยกับเค้าเอง เผื่อมันจะมีทางออกที่ดีกว่านี้บ้าง ”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น