หมากฝรั่งหนึบๆ

ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

รายงานโครงงาน

โครงงานสร้างสรรค์ประโยชน์

เรื่อง...หมากฝรั่งติดหนึบๆ 

ผู้จัดทำ

1.นางสาวพิริยาภรณ์  ประดับเพชร  ชั้น ม.4/2  เลขที่ 22

2.นางสาวศิวิภา  ชำนิงาน             ชั้น ม.4/2  เลขที่ 33 

เสนอ

คุณครูปราณปรียา  คุณประทุม 

โรงเรียนแก้งคร้อวิทยา

อำเภอแก้งคร้อ     จังหวัดชัยภูมิ

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาชัยภูมิ เขต 2

รายงานโครงงาน

โครงงานวิทยาศาสตร์

เรื่อง...หมากฝรั่งติดหนึบๆ

ผู้จัดทำ

1.นางสาวพิริยาภรณ์  ประดับเพชร   ชั้น ม.4/2  เลขที่ 22

2.นางสาวศิวิภา  ชำนิงาน                   ชั้น ม.4/2  เลขที่ 33

โรงเรียนแก้งคร้อวิทยา

อำเภอแก้งคร้อ     จังหวัดชัยภูมิ

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาชัยภูมิ เขต 2

ระยะเวลาที่จัดทำ 31 มกราคม 7 กุมภาพันธ์ 2554

อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ปราณปรียา  คุณประทุม

วิธีการศึกษา

1.ศึกษาค้นคว้าหาโครงงานที่สนใจและต้องการทดลอง

2.ปรึกษาคุณครูที่ปรึกษา

3.ศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม

4.ทำการทดลอง

5.บันทึกผล

6.สรุปผลการทดลอง

7.นำเสนอผลงาน

 บทคัดย่อ

            โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่อง...หมากฝรั่งติดหนึบได้จัดทำขึ้นเพื่อศึกษาหาวิธีที่ดีที่สุดที่จะกำจัดหมากฝรั่งที่ติดเสื้อผ้าเนื่องด้วยจากปัจจุบันหมากฝรั่งเป็นที่นิยมและคนส่วนมากมักจะทิ้งเศษหมากฝรั่งที่เคี้ยวแล้วไม่ถูกที่จึงเป็นปัญหาที่ตามมา คือส่งผลให้หมากฝรั่งที่เหนียวหนึบหนับติดตามเสื้อผ้า  รองเท้าและตามที่ต่างๆ ดังนั้นพวกเราจึงคิดที่จะทำโครงงานนี้ขึ้นมา   โดยได้ทำการทดลองอยู่ 3 วิธีคือ  1.ใช้น้ำมันถู   2.แช่ในน้ำเย็นจัด   3.ใช้น้ำมะนาว เมื่อได้ทำการทดลองเรียบร้อยแล้วปรากฏว่าแช่ในน้ำเย็นจัดจะออกดีที่สุด ไม่ทำให้เนื้อผ้าเสียหายและยังสามารถทำได้ง่ายอีกด้วย

กิตติกรรมประกาศ

-ขอขอบพระคุณคุณครูปราณปรียา  คุณประทุม

ผู้ให้คำปรึกษาในการทำโครงงานรายงานในครั้งนี้เป็นอย่างสูง

-ขอขอบคุณ   เด็กชายรัฐภูมิ  ชยานนท์

ผู้ที่ช่วยเหลือในระหว่างการทำการทดลอง

 และขอขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่คำปรึกษา  แนะนำและช่วยเหลือการทำโครงงานในตลอดมา

-

เนื้อเรื่อง

1หมากฝรั่งหนึบๆ

บทที่1 บทนำ

เรื่อง...หมากฝรั่งติดหนึบๆ

ที่มาและความสำคัญ

            หมากฝรั่งเป็นขนมคบเคี้ยวที่เป็นที่นิยมอย่างมากทั้งในอดีตและปัจจุบันเนื่องจากหมากฝรั่งมีสีสันและรสชาติที่หลากหลายเพื่อให้ถูกปากผู้บริโภค

อย่างไรก็ตามหมากฝรั่งก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย  ข้อดีก็คือเคี้ยวเพื่อให้เกิดความเพลิดเพลิน การเคี้ยวหมากฝรั่งนั้นนามารถที่ช่วยลดอาการเสียดท้อง การเคี้ยวหมากฝรั่งหลังจากรับประทานอาหารเสร็จก็จะช่วยลดกรดไหลย้อนกลับได้
นอกจากนั้นแล้วยังทำให้สุขภาพฟันสดใส แต่จะต้องเป็นแบบซูการ์ฟรีเท่านั้น หากว่าเคี้ยวเป็นประจำจะสามารถช่วยลดอาการฟันผุได้ เพราะหมากฝรั่งจะช่วยลดกรดในช่องปากด้วย และความเหนียวของหมากฝรั่งก็จะช่วยทำให้ฟันขาวสะอาดสดใสอีกด้วย นั่นก็เป็นเพราะว่าเวลาที่เราเคี้ยวหมากฝรั่งนั้นจะเคี้ยวเอาเศษอาหารที่ติดอยู่ตามร่องฟันออกมาทำให้ฟันขาวสะอาด ดูมีสุขภาพดี

และที่สำคัญยังช่วยการเลิกบุหรี่ได้เนื่องจากเคี้ยวหมากฝรั่ง

สำหรับข้อเสียของหมากฝรั่งก็มีมากมายใช่อยู่ที่หมากฝรั่ง ทำให้เกิดการเพลิดเพลิน แต่ถ้าหากเคี้ยวมากไปจนเกินเพลิน แล้วละก็อาจจะเป็นปัญหาต่อส่วนข้อต่อขากรรไกรได้นั่นคืออาจเกิดการล้าของกล้ามเนื้อ และปวดขากรรไกรได้ ผู้ที่ชอบเคี้ยวหมากฝรั่งเป็นอาจิณ ควรระวังไว้

ในส่วนของกลิ่นปาก หากเป็นแบบเรื้อรัง ควรหาสาเหตุและแก้ไขเสีย เพราะกลิ่นปากใช่ว่า จะเกิดจากกลิ่นอาหารเพียงอย่างเดียว มีสาเหตุประการทีเดียว การใช้หมากฝรั่ง เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่ชั่วคราวจริงๆ ถ้ามีสาเหตุที่เรื้อรังแล้ว การแก้ไขที่สาเหตุจะเป็น การดีที่สุดมีผลทำให้เกิดฟันผุได้ ทั้งนั้น และการเคี้ยวหมากฝรั่งดูจะเป็นการทำให้ น้ำตาลเข้าไปสัมผัส ผิวฟันได้มากขึ้นด้วยซ้ำไป น้ำลายที่ออกมาอาจจะช่วยเจือจางไม่ทันซะด้วยซ้ำ แถมเมื่อหยุดเคี้ยว มีน้ำตาลค้างกลายเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของเชื้อโรคฟันผุไปและที่สำคัญก็คือหลังการเคี้ยวหมากฝรั่งหมากฝรั่งจะมีลักษณะเหนียวเมื่อถูกเสื้อผ้าก็จะทำให้ติดเลอะเทอะ เพราะเหตุมี่เองทำให้พวกเราต้องการที่จะศึกษาหาวิธีที่จะกำจัดหมากฝรั่งออกจากเสื้อผ้าโดยไม่ทำให้เนื้อผ้าไม่เสียหายโดยได้ทำการทดลองอยู่ 3 วิธีคือ1.ใช้น้ำมันถู 2.แช่ในน้ำเย็นจัด 3.ใช้น้ำมะนาว โดยคาดการณ์ว่าสิ่งที่คัดเลือกมาน่าจะมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่จะสามารถกำจัดหมากฝรั่งที่ติดเสื้อผ้าออกไปได้

วัตถุประสงค์ของการค้นคว้า

1.เพื่อศึกษาวิธีที่จะกำจัดหมากฝรั่งที่ติดตามเสื้อผ้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

2.เพื่อศึกษาหาวัสดุที่ใกล้มือในการกำจัด

3.สร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตและนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน

4.เผยแพร่วิธีการในการทดลองให้บุคคลทั่วไปได้รับรู้และศึกษาเพิ่มเติม

สมมติฐานของการค้นคว้า

การคาดคะเนผลลัพธ์

การที่เรานำผ้าที่ติดหมากฝรั่งไปแช่และถูในน้ำมัน หมากฝรั่งก็จะออกจากเสื้อผ้าได้มากที่สุด

ตัวแปรต้น

-หมากฝรั่ง

ตัวแปรตาม

-การกำจัดหมากฝรั่ง                                                                         

 ตัวแปรควบคุม

-ปริมาณของหมากฝรั่ง

-หมากฝรั่งยี่ห้อเดียวกัน

-ผ้าชนิดเดียวกัน

-เวลาในการทดสอบ 30-60 วินาทีเท่ากัน

-สถานที่การทดลองที่เดียวกันอุณหภูมิเท่ากัน

ขอบเขตการศึกษา

ศึกษาจากพฤติกรรมของคนทั่วไปและหาข้อมูลเพิ่มเติมจากอินเตอร์เน็ต

บทที่ 2 ข้อมูล(เอกสารที่เกี่ยวข้อง)

            สมัยหนึ่งการเคี้ยวหมากของคนไทยรุ่นย่ารุ่นยายกลายเป็นเรื่องน่ารังเกียจไป เพราะถือว่าการที่จะพัฒนาประเทศให้ทันสมัยเทียบกับอารยชนชาติตะวันตกได้นั้น ประชาชนคนไทยต้องกระทำตนให้ทันสมัยตามไปด้วย และสิ่งหนึ่งก็คือ  ต้องไม่กินหมากแต่อารยชนชาติตะวันตกก็เคี้ยวหมากเหมือนกัน เพียงแต่เป็นหมากคนละชนิดกัน

          ฝรั่งถือว่าการเคี้ยวหมาก (ฝรั่ง) เป็นการออกกำลังกล้ามเนื้อกราม ช่วยลดการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบนใบหน้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการผ่อนคลายร่างกาย  เพราะบ้านเมืองเขาเป็นเมืองหนาวร่างกายส่วนอื่น ๆ ยังหาอะไรให้ความอบอุ่นได้  แต่บริเวณใบหน้านี่ต้องทนเอาหมากฝรั่งเป็นที่นิยมในหมู่ทหารอเมริกันมาก  พวกเขาบริโภคหมากฝรั่งเป็น  ๕  เท่าของอัตราเฉลี่ยของคนอื่น  นอกจากนี้การเคี้ยวหมากฝรั่งก็ยังมีที่มาจากทหารด้วย

          ทหารผู้นั้นมียศเป็น นายพลชื่อ  อันโตนิโอ  โลเปซ เอก ซานตาอันนา แห่งกองทัพเม็กซิโก  เมื่อเข้ามาอยู่ในอเมริกาเขานำยางของต้นไม้จากป่าในเม็กซิโกมาด้วย  ยางชนิดนี้รู้จักกันในหมู่พวกอาซเท็กว่า ชิคลิ (Chicli) นายพลซานตา อันนา  ชอบเคี้ยวยางไม้ไร้รสนี้มาก  ต่อมาโทมัส  อดัมส์  นักถ่ายภาพและนักประดิษฐ์ก็ได้รู้จักยางไม้นี้จากนายพลชานตา และได้สั่งเข้ามาเป็นจำนวนมาก  โทมัสพยายามเปลี่ยนยางไม้ให้เป็นยางเทียม แต่ก็ล้มเหลวเสียหลายครั้ง เมื่อหวนคิดว่าหลานของเขาและนายพลชานตาชอบเคี้ยวยางไม้นี้จึงเกิดความคิดที่จะเปิดตลาดด้านนี้แทน ซึ่งก็ประสบความสำเร็จ

 หมากฝรั่งยุคแรก ๆ ของโทมัส อดัมส์ ทำเป็นเม็ดกลมเล็ก ๆ  ยังไม่มีรสชาติ วางขายในร้านขายยาแห่งหนึ่งในเมืองโฮโบเค็นรัฐนิวเจอร์ซี่ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. ๑๘๗๑ โดยขายราคาเม็ดละ  ๑ เพนนี ต่อมาจึงได้ดัดแปลงทำเป็นรูปแผ่นสี่เหลี่ยมแบน ๆ

          บุคคลแรกที่เติมรสชาติให้หมากฝรั่งคือ เภสัชกรจากหลุยส์วิล  รัฐเคนตักกี้ ชื่อ  จอห์น คอลแกน  ในราวปี ค.ศ. ๑๘๗๕ เขาไม่ได้เติมรสแบบลูกอมรสเชอร์รี่ รสเปปเปอร์มินต์ หรืออื่น ๆ อย่างในสมัยนี้ รสชาติที่เขาเติมให้หมากฝรั่งคือตัวยาทางการแพทย์ เป็นขี้ผึ้งหอมทูโล  ทำจากยางไม้ต้นทูโลในอเมริกาใต้ รสชาติคล้ายกับยาแก้ไอน้ำเชื่อมของเด็กในยุคเมื่อร้อยกว่าปีก่อน คอลแกนเรียกหมากฝรั่งของเขาว่า  แทฟฟี-ทูโล เป็นหมากฝรั่งที่ประสบความสำเร็จกว่าหมากฝรั่งอื่น ๆ ที่เติมรสชาติแล้วในสมัยนั้น

ต่อมาโทมัส  อดัมส์  ใช้รสชะเอมเติมในหมากฝรั่ง เรียกชื่อสินค้าของเขาว่า แบลคแจค  ซึ่งเป็นหมากฝรั่งเติมรสที่เก่าแก่ที่สุดที่มีขายอยู่ในท้องตลาด (ของอเมริกา) ส่วนรสเปปเปอร์มินต์ซึ่งเป็นรสยอดนิยมเริ่มมีในปี ค.ศ. ๑๘๘๐

          หมากฝรั่งที่วางขายอยู่ทุกวันนี้ไม่ใช่ยางไม้ที่ทำเลียนแบบทอฟฟี่อย่างหมากฝรั่งของนายพลซานตา แต่เป็นยางสังเคราะห์นุ่ม ๆ  ซึ่งโดยตัวมันเองแล้วไม่มีรส  ไม่มีกลิ่น  ชื่อก็ไม่ชวนกิน แต่คนอเมริกันก็เคี้ยวเจ้ายางสังเคราะห์นี้กันถึงปีละ ๑๐ ล้านปอนด์

สำหรับหมากฝรั่งที่ใช้เป่าเป็นลูกโป่งได้  ผู้คิดค้นคือ สองพี่น้อง แฟรงค์ และ เฮนรี ฟลีเออร์ แต่คุณภาพของหมากฝรั่งที่แฟรงค์ผลิตให้เป่าได้ในตอนนั้นยังมีปัญหา คือไม่ยืดหยุ่นพอลูกโป่งยังไม่ทันโตก็แตก และเมื่อแตกแล้วจะติดแก้มติดจมูก จนปีค.ศ. ๑๙๒๘  แฟรงค์ก็สามารถผลิตหมากฝรั่งที่เป่าเป็นลูกโป่งได้ขนาดโตเป็น  ๒ เท่าของที่ทำได้ในช่วงแรก ๆ

          หมากฝรั่งไม่ได้แพร่หลายเฉพาะแต่ในอเมริกาเท่านั้น ในหมู่ชาวเอสกิโมก็เคี้ยวหมากของฝรั่งแทน 'หมาก' จากไขปลาวาฬ ซึ่งใช้เคี้ยวมานานหลายศตวรรษ โดย จี.ไอ. สมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ เป็นผู้นำไปเผยแพร่... ผลงานของทหารอีกนั่นแหละ

เฮนรี่ขอสอดแทรกด้วย ประโยชน์ของ "หมากฝรั่ง"

หมากฝรั่ง ช่วยลดอาการเสียดท้อง ถ้าเคี้ยวหมากฝรั่งหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ จะช่วยลดกรดไหลย้อนกลับได้ หมากฝรั่งช่วยให้สุขภาพฟันดูสดใส แต่จะต้องเป็นแบบซูการ์ฟรีเท่านั้น !

         การเคี้ยวหมากฝรั่งเป็นประจำ จะช่วยลดอาการฟันผุได้ เพราะหมากฝรั่งช่วยลดกรดในช่องปาก และความเหนียวของหมากฝรั่ง จะช่วยทำให้ฟันสะอาดดีด้วย เพราะหมากฝรั่งจะช่วยเข้าไปทำให้อาหารหลุดออกมาได้

น้ำมันพืช คือ ผลิตภัณฑ์น้ำมันที่สกัลได้จากพืช ส่วนใหญ่นำมาใช้ประกอบอาหารมี

2 ประเภทหลัก
1. น้ำมันพืช ทุกชนิดไม่มีคลอเลสเตอรอล
2. น้ำมันจากไขมันสัตว์ มีคลอเลสเตอรอล

น้ำแข็ง เป็นชื่อเรียกของสภาวะของแข็งของน้ำซึ่งมักอยู่ในรูปของผลึกของน้ำ ซึ่งโดยปกติจะมีลักษณะใสหรือมีสีฟ้าขาวใสปนอยู่ด้วย ขึ้นอยู่กับการมีสิ่งเจือปนในน้ำแข็งนั้น โดยสภาวะปกติน้ำแข็งจะเกิดขึ้นเมื่อน้ำในรูปของเหลวมีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส (32 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ 273.15 เคลวิน) ที่ความดันปกติ และสามารถแข็งตัวจากสถานะก๊าซโดยไม่ผ่านสถานะของเหลวเลยก็ได้ เช่น ปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งหรือแม่คะนิ้ง

น้ำแข็งในธรรมชาติอยู่ในแหล่งต่างๆ เช่น เกล็ดหิมะลูกเห็บน้ำแข็งย้อยธารน้ำแข็งภูเขาน้ำแข็ง และน้ำแข็งขั้วโลก ซึ่งน้ำแข็งเป็นส่วนสำคัญของสมดุลภูมิอากาศของโลก โดยเฉพาะวัฏจักรของน้ำ นอกจากนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมต่างๆ อีกด้วย ตั้งแต่ การใส่น้ำแข็งในน้ำดื่ม กีฬาฤดูหนาว จนไปถึงประติมากรรมน้ำแข็ง

มะนาว (อังกฤษ: lime) เป็นไม้ผลชนิดหนึ่ง ผลมีรสเปรี้ยวจัด จัดอยู่ในสกุล ส้ม (Citrus) ผลสีเขียว เมื่อสุกจัดจะเป็นสีเหลือง เปลือกบาง ภายในมีเนื้อแบ่งกลีบๆ ชุ่มน้ำมาก นับเป็นผลไม้ที่มีคุณค่า นิยมใช้เป็นเครื่องปรุงรส นอกจากนี้ยังถือว่ามีคุณค่าทางโภชนาการและทางการแพทย์ด้วยมะนาวก็เหมือนกับส้มทั้งหลาย ที่มีปัญหาในการจัดหมวดหมู่และแยกแยะทางอนุกรมวิธาน สำหรับชื่อวิทยาศาสตร์ที่ค้นเคยของมะนาว ก็คือ Citrus aurantifolia Swingle หรือ "Citrus aurantifolia" ( Christm & Panz ) Swing." แต่ยังมีชื่ออื่นๆ อีก ดังนี้

C. acida Roxb.

C. lima Lunan

C. medica var. ácida Brandis และ

Limonia aurantifolia Christm

สำหรับชื่อสามัญนั้น ในหลายภาษาก็เรียกชื่อแตกต่างกันไป เช่น ในภาษาอังกฤษ เรียก Mexica lime, West Indian lime, และ Key lime หรือเรียก lime สั้นๆ ก็ได้ สาเหตุที่มีหลายชื่ออาจเป็นเพราะเป็นพืชต่างถิ่น จึงไม่มีชื่อดั้งเดิมในภาษานั้นๆ ทำให้เกิดการเสนอชื่ออื่นๆ มาหลายชื่อก็เป็นได้ ส่วนในประเทศไทยยังเรียกอีกหลายชื่อ เช่น โกรยชะม้า, ปะนอเกล, ปะโหน่งกลยาน, มะนอเกละ, มะเน้าด์เล, มะลิ่ว, ส้มมะนาว, ลีมานีปีห์, หมากฟ้า

อนึ่ง คำว่า เลมอน (lemon) ในภาษาอังกฤษ หมายถึง ผลส้มอีกชนิดหนึ่ง ที่หัวท้ายมน ไม่ใช่ผลกลมอย่างมะนาวที่เรารู้จักกันดี สำหรับ มะนาวเทศ (Triphasia trifolia) นั้น เป็นพืชในวงศ์เดียวกัน (Rutaceae) กับมะนาว แต่ต่างสกุล ส่วน มะนาวควาย หรือ ส้มซ่า (Citrus medica Linn. Var. Linetta.) เป็นพืชสกุลส้มเช่นเดียวกัน แต่ต่างชนิด (สปีชีส์) กัน

ส้มนาวเป็นภาษาใต้ที่ใช้เรียกมะนาว เช่นเดียวกับทางภาคอีสานเรียกผลไม้บางอย่างว่า"บัก"ในการขึ้นต้น เช่นบักม่วงที่หมายถึงมะม่วง คำว่าส้มในภาษาใต้จะใช้เรียกผลไม้บางชนิดที่มีรสเปรี้ยว อย่าง ส้มนาว ส้มขาม เป็นต้น  

บทที่ 3 วิธีการดำเนินงาน

วันที่  5 กุมภาพันธ์  พ.ศ. 2554  มีการดำเนินงานดังนี้

-เตรียมอุปกรณ์

   1.ผ้าขาวบางชนิดเดียวกัน 3 ผืน

   2.หมากฝรั่งยี่ห้อเดียวกัน 3 อัน

   3. น้ำเย็นจัดครึ่งถ้วยตวง

       น้ำมะนาวครึ่งถ้วยตวง

       น้ำมันพืช ครึ่งถ้วยตวง

-วิธีทำ

  1.เคี้ยวหมากฝรั่งจนหมาความหวาน

  2.นำหมากฝรั่งที่เคี้ยวแล้วป้านที่ผ้าขาวบาง

  3.นำผ้าผืนที่1แช่และถูในน้ำเย็นจัด , นำผ้าผืนที่2แช่และถูในน้ำมะนาว, นำผ้าผืนที่3มาแช่และถูในน้ำมันตราองุ่น ในเวลา 30-60 วินาทีเท่ากัน

  4.แกะหมากฝรั่งออกจากผ้าขาว

  5.สังเกตปริมาณหมากฝรั่งที่ติดผ้าแต่ละผืนว่าออกหมดหรือไม่

  6.บันทึกผล

  7.สรุปผล

(เพื่อความแน่นอนในการทดลอง จะทดลองทั้งหมด 2 ครั้ง)

บทที่ 4 ผลการทดลองหรือการวิเคราะห์ข้อมูล

ตารางบันทึกผล ครั้งที่ 1

สารทดลอง	ผลการทดลอง
น้ำเย็นจัด	หมากฝรั่งแข็งและหลุดออกจากผ้าอย่างง่ายได้
น้ำมะนาว	หมากฝรั่งไม่หลุดออกจากผ้าและหมากฝรั่งเหนียวกว่าเดิม
น้ำมันพืช	ต้องแกะหมากฝรั่งออกจากผ้าอย่างลำบากแต่หมากฝรั่งก็ออกจากผ้าและเหลือหมากฝรั่งเล็กน้อย

ตารางบันทึกผล ครั้งที่ 2

สารทดลอง	ผลการทดลอง
น้ำเย็นจัด	หมากฝรั่งแข็งตัวและหลุดออกจากผ้าอย่างง่ายได้และไม่มีเศษหมากฝรั่งติดอยู่เลย  เนื้อผ้าก็ไม่เสียหาย
น้ำมะนาว	หมากฝรั่งไม่หลุดออกจากผ้าและหมากฝรั่งเหนียวกว่าเดิม ติดอยู่กับผ้า ถ้ายิ่งแกะอีกก็จะทำให้เลอะเทอะ
น้ำมันพืช	ต้องแกะหมากฝรั่งออกจากผ้าอย่างลำบากแต่หมากฝรั่งก็ออกจากผ้าและเหลือเศษหมากฝรั่งเล็กน้อย แต่กถือว่าใช้ได้ดี

บทที่ 5 สรุปอภิปรายผล และข้อเสนอแนะ

สรุปผลการศึกษาค้นคว้า

จากการศึกษาค้นคว้าพบว่าน้ำน้ำเย็นจัดสามารถทำให้ผ้าที่มีหมากฝรั่งติดอยู่ออกได้ซึ่งดีกว่าน้ำมันและน้ำมะนาวเพราะน้ำเย็นจัดจะทำให้หมากฝรั่งแข็งตัวแล้วสามารถลอกออกโดยง่ายที่สุด ส่วนน้ำมันจะทำให้ผ้าลื่นหมากฝรั่งออกง่ายแต่ลอกออกยากกว่า และน้ำมะนาวจะมีรสชาติเปรี้ยวเป็นกรดจะยึดติดกับผ้ามากกว่าเดิม

ประโยชน์จากการทดลอง

1.กำจัดหมากฝรั่งออกจากเสื้อผ้าได้อย่างหมดจด

2.สามารถแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้

3.ประหยัดเวลาการกำจัดหมากฝรั่ง

4.ไม่ต้องกังวลเวลาหมากฝรั่งติดเสื้อผ้าแล้วซักไม่ออกเพราะรู้วิธีแล้ว

คำแนะนำเพิ่มเติม                     

1.น้ำเย็นที่เราใช้คือน้ำธรรมดาที่ใส่น้ำแข็งและเกลือเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความเย็นมากยิ่งขึ้นแต่เราก็สามารถนำไปใส่ในช่องทำความเย็นได้เพราะถ้าหมากฝรั่งเจอความเย็นจะทำให้มันแข็งตัว

2.จากการทดลองทำให้เราทราบว่าถ้าหมากฝรั่งเจอความเย็นจะทำให้มันแข็งตัวเพราะฉะนั้นเราสามารถที่จะใช้กับอุปกรณ์อื่นๆได้

3.เนื่องจากในการทำการทดลองเราได้ใช้น้ำมันพืชเพื่อไม่ให้มีกลิ่นติดเสื้อผ้า

ภาคผนวก