ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fic Vampire knight) 禁断の愛 Forbidden Love

    ลำดับตอนที่ #3 : ราตรีที่ 3 พบเจอครั้งแรก(รีไรต์)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.08K
      30
      4 ม.ค. 58

             ราตรีที่ 3

    พบเจอครั้งแรก

     

    “พระเจ้าเล่นตลกไม่เป็นหรอก อีกอย่างเวลาพระเจ้ายิ้มคุณเห็นด้วยเหรอ?” เสียงสดใสที่คานาเมะเคยได้ยินในตอนที่มีเด็กใจกล้าเดินไปในห้องเรียนเวลากลางคืนทำให้คานาเมะหันหลังไปตามเสียงที่ที่พูดกับเขา ในตอนนั้นที่เขาได้พบ...

     

    สิ่งเดียวที่คิดได้คือเทพธิดาตัวน้อยๆ เส้นผมสีดำสนิทเป็นประกาย ดวงตาสีเขียวสดใสชวนให้นึกถึงทุ่งหญ้า ผิวขาวอมชมพูเปล่งปลั่ง รูปร่างเล็กๆน่ารัก เรียวปากอิ่มสวยสีชมพูธรรมชาติส่งยิ้มมาให้เขา

     

    “เธอ...”

     

    “คุณเป็นใครน่ะ เป็นคนสวนเหรอ? แล้วทำไมถึงพูดว่าพระเจ้าไม่ส่งยิ้มให้ละ?” ฮารุนะเอ่ยปากถามแถมยังเข้าใจผิดคิดว่าหัวหน้าหออย่างคานาเมะเป็นคนสวนด้วย

     

    “เอ่อ...” คานาเมะมองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ นอกจากเธอจะไม่สนรูปลักษณ์ภายนอกของเขาแล้ว เธอคนนี้ยังไม่รู้จักเขาด้วย จะว่าเหนือความคาดหมายดีไหมนะ

     

    “อ้อ! ลืมไปเลย ฉันฮารุนะ... ชิรายุริ ฮารุนะยินดีที่ได้พบ นี่เป็นคนสวนใช่ม่ะ ตรงนี้น่ะสวยจังคะ การจัดมุม ทางเดินแล้วก็น้ำพุดูเป็นธรรมชาติมากๆเลย แต่ว่าขาดสีสันนะ น่าจะปลูกดอกไม้ไว้ซักหน่อย ดอกกุหลาบดีไหมนะ เอ๊ะ! รึปลูกต้นซากุระดีละ?” คานาเมะมองฮารุนะที่กำลังสาธยายต้นไม้ที่คิดว่าควรปลูกที่สวนน้ำพุแล้วนึกขำ

     

    เด็กคนนี้แกล้งไม่รู้จักเขารึเธอไม่รู้จักจริงๆกันแน่นะ แต่ถึงอย่างนั้นชั่วครู่หนึ่งเขาก็สามารถลืมสิ่งที่ทำให้เขาเดินออกมาจากหอพระจันทร์ได้ อาจเป็นเพราะกลิ่นหอมอ่อนๆของดอกซากุระที่อบอวนอยู่ในอากาศตอนนี้ก็ได้ ไม่ก็ความสดใสของเธอคนนี้ที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนได้กลับไปเลี้ยงเด็กอีกครั้ง

     

    “ผมว่าต้นซากุระก็ดีนะ” คานาเมะตอบ เด็กสาวยิ้มกว้างให้กับความคิดนั้น

     

    “ใช่ม่ะๆ สวยใช่ม่ะ ตอนที่มันบานแล้วกลีบร่วงลงมาที่น้ำพุน่ะสวยมากๆเลย ที่บ้านฮารุก็ปลูกต้นซากุระไว้ใกล้ๆกับออนเซนด้วย เวลาอาบน้ำน่ะจะมีกลิ่นหอมโชยมา สดชื่นมากๆเลย” ฮารุนะเล่าพร้อมเดินมานั่งข้างๆคานาเมะอย่างกับคนที่สนิทกันมานาน นึกคิดไปว่าเด็กคนนี้กำลังจีบเขาอยู่แต่แววตาจริงจังกับสิ่งที่พูดนั้นทำให้คานาเมะลังเล

     

    รึว่าเธอไม่รู้จริงๆ

     

    “ทำไมมาที่นี่ในเวลานี้ละ? จะมาแอบดูไนต์คลาสเหรอ?” เขาลองหยั่งเชิง ไม่อยากเชื่อเท่าไรนักว่าเด็กคนนี้ไม่รู้จักเขาจริงๆ

     

    “หา? แอบดู? เฮ้อ~ ฮารุไม่สนหรอกค่ะว่าไนต์คลาสจะทำอะไรกันอยู่ไม่อยากรู้จักด้วย เพราะยังไงก็ไม่ได้เจอกันง่ายๆอยู่แล้ว ถึงจะรู้ว่าพวกเขาน่าตาดีแต่สำหรับฮารุท่านแม่ดูสวยที่สุด ที่หล่อที่สุดก็คานาเมะแมวที่เลี้ยงไว้ที่บ้านน่ะ แบบนี้จะไปอยากเจอคนพวกนั้นทำไม เห็นว่าเป็นบุคคลชั้นแนวหน้าใช่ไหมละ อีกอย่างเวลาที่จะได้มีโอกาสพูดคุยพบปะมันก็ไม่มี แถมรู้จักไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร ไม่รู้จักแบบนี้ดีแล้ว” คำอธิบายยาวเหยียดนั้นทำให้คานาเมะนึกขำ ไหนจะเรื่องแมวที่เธอเลี้ยงชื่อเหมือนเขาอีกจะเรียกว่าบังเอิญรึอะไรดีละ

     

    ในช่วงที่ได้คุยกันอยู่กลิ่นหอมอ่อนๆที่เขาตามหาก็เริ่มส่งกลิ่นรุนแรงขึ้นกลิ่นหอมที่ถูกส่งมาจากฮารุนะแต่ครั้งนี้กลับไม่ทำให้เขารู้สึกกระหายเหมือนก่อนหน้านี้ แต่กลับทำให้ใจสงบ ความเจ็บปวดทรมานถูกบรรเทาอย่างเห็นได้ชัด ราวกับบาดแผลของเขาได้รับการเยียวยาอย่างช้าๆ

     

    “...ฉีดน้ำหอมอะไรน่ะครับ? กลิ่นหอมดีจริงๆ”

     

    “เฮ้อ...รู้ไหมคุณเป็นคนที่สองแล้วนะที่ถามฮารุนะแบบนี้น่ะ แล้วฮารุนะก็จะขอตอบอีกครั้งเลยว่าฮารุไม่ได้ฉีดน้ำหอม ไม่เคยแตะ ไม่เคยซื้อ ฮารุน่ะแพ้กลิ่นน้ำหอมนะ ไม่ว่าจะกลิ่นแรง กลิ่นอ่อนๆฮารุก็แพ้ทั้งนั้น แล้วจะไปฉีดน้ำหอมได้ยังไงกัน” คำตอบของฮารุนะทำให้คานาเมะอึ้งเล็กน้อย ไม่ได้ฉีดน้ำหอมแล้วกลิ่นนี่มันมาจากไหน? จากตัวของเธองั้นเหรอ?

     

    “คนที่ถามเธอคนแรกรึว่าจะเป็น...คุรัน ยูกิ?”

     

    “เอ๊ะ!? รู้ได้ไงค่ะเนี้ย?...” คานาเมะไม่ตอบเพียงแต่ส่งยิ้มกลับไปให้ฮารุนะสงสัยเล่นๆ ก่อนที่เธอจะวกกลับมาเรื่องเดิม

     

    “แล้วจะเอาซากุระมาปลูกเมื่อไรคะ”

     

    “เอ๋?...เอ่อ...เรื่องนั้นคงต้องไปปรึกษากับผู้อำนวยการก่อนนะครับ”

     

    “ถ้าจะปลูกเมื่อไรเรียกฮารุได้ทุกเมื่อเลยนะ เห็นอย่างนี้แต่ฮารุเก่งเรื่องงานสวนนะ ต้นไม้ดอกไม้ที่บ้าน ฮารุเป็นคนปลูกเองหมดเลย วันหยุดลองไปที่บ้านดูไหมละ?”

     

    “ครับถ้าผมว่างผมจะไป”

     

    “สัญญาแล้วนะ อ่ะ! นี่ๆแล้วมีต้นไม้ดอกไม้ที่ชอบบ้างไหม? เป็นคนสวนต้องมีต้นไม้ดอกไม้ที่ชอบเป็นพิเศษใช่ไหมละ พอจะบอกได้ไหม?”

     

    “ผม...ชอบดอกกุหลาบครับ”

     

    “กุหลาบ ภาษาดอกไม้คือ...”

     

    “ความรักครับ... แล้วคุณชิรายุริละครับมีไหม ดอกไม้ที่ชอบ”

     

    “ฮารุชอบหมดเลยคะ กุหลาบ คิคุ ฟูจิ ซากุระ ฮิกับบานะ ฮารุชอบหมดเลย” เขายิ้มจางๆให้กับความชอบของเด็กสาว

     

    เหมือนเด็กๆ

     

    “ชอบกุหลาบ งั้นคุณก็ต้องรู้ความหมายของแต่ละสีสินะ”

     

     “ครับพอรู้นิดหน่อย”

     

    “มีความหลังกับความรักเหรอ?” ฮารุนะถาม สีหน้าของชายตรงหน้าดูหมองลงไปตั้งแต่เขาบอกว่าภาษาดอกไม้ของกุหลาบคือความรัก

     

    คานาเมะไม่ตอบ ทิ้งตัวเองสู่ความทรงจำแสนทรมานจนคล้ายจะลืมไปว่าฮารุนะอยู่ด้วย เธอมองมาทีของเขาอย่างไม่ชอบใจ เธอไม่ชอบให้ใครมีสีหน้าทรมานแบบนี้เลย ทั้งๆที่คนคนนี้เหมาะกับรอยยิ้มมากแท้ๆ

     

    “อ๊ะ” เธอยื่นดอกกุหลาบสีขาวที่เธอตั้งใจว่าจะนำไปไว้ที่ห้องให้คานาเมะ

     

    “เอ๊ะ? นี่มัน...” คานาเมะมองกุหลาบขาวในมือฮารุนะอย่างไม่เข้าใจ

     

    “ฮารุให้ ภาษาดอกไม้ของกุหลาบขาวคือ รักที่บริสุทธิ์ รักที่ไม่ต้องการอะไรตอบแทน ขอแค่ได้รักแค่นั้นก็มีความสุขแล้ว...”

     

    “...ขอบคุณครับ” คานาเมะรับกุหลาบขาวมาอย่างเบามือก่อนจะรีบวางไว้ข้างๆตัว กลัวว่าเด็กคนนี้จะกลัวหากรู้ว่าเขาเป็นอะไร

     

    “แฮะๆ ถึงฮารุจะไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้เท่าไรแต่คิดว่านี่อาจจะสื่อได้ดีกว่านะ” ฮารุนะยิ้มให้คานาเมะหลังจากที่ได้รับคำขอบคุณ หลังจากนั้นทั้งคานาเมะและฮารุนะก็คุยไปเรื่อยๆเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นบ้างเป็นครั้งคราวก่อนจะกลับมาคุยเรื่องดอกไม้เช่นเดิม ความรู้สึกสนิทสนมก่อตัวขึ้นช้าๆทั้งที่เพิ่งได้พบกันเพียงแค่วันเดียวแต่เหมือนกับรู้จักกันมานาน

     

    ฮารุนะไม่ใช่คนถือตัวถ้าเป็นคนที่ถูกใจละก็เธอก็จะคุยด้วยทุกคนไม่ว่าจะเคยรู้จักมาก่อนรึเปล่า ทั้งคู่คุยกันจนเวลาล่วงเลยไปถึงเวลาที่นักเรียนเดย์คลาสต้องกลับหอและไนต์คลาสต้องไปเรียน

     

    “ว้า... อุสาเจอคนที่คุยถูกคอแล้วเชียว งั้นฮารุกลับเลยนะคะ ไม่อยากเป็นภาระให้พวกพี่ๆยูกิเขาน่ะค่ะ”

     

    “ครับผมก็จะไปเหมือนกัน... ไม่คิดจะมาดูนักเรียนไนต์คลาสจริงๆเหรอครับ?” คานาเมะถาม เขาชักอยากเห็นหน้าของสาวน้อยตรงหน้าเวลาที่เธอได้รู้ว่าเขาเป็นใครแล้วละสิ

     

    “...ไม่ดีกว่าคะ ฮารุนะต้องไปทำการแล้วก็ท่องหนังสือ ไม่ว่างไปดูใครหรอกค่ะ แล้วก็ไม่อยากเจอด้วย”

     

    “แย่เลยนะครับ อ้อ! ผมคานาเมะ... คุรัน คานาเมะ”

     

    “?!!! ค คานาเมะ!! ชื่อเหมือนเจ้าคานาเมะเลย บังเอิญรึเปล่าค่ะเนี้ย?” ฮารุนะยิ้มเหมือนได้พบกับของเล่นใหม่ นานๆจะได้เจอคนที่ชื่อเหมือนแมวของเธอนี่นะ

     

    “ครับ ผมว่าเรื่องบังเอิญ ไว้พบกันใหม่นะครับ” คานาเมะกล่าวลา

     

    “ค่ะ ไว้พบกันใหม่นะคะคุณคานาเมะ” เมื่อกล่าวลาแล้วฮารุนะก็รีบวิ่งกลับไปที่หอทันที ส่วนทางด้านคานาเมะก็กลับเข้าหอทางประตูหลังเพื่อเลี่ยงสาวๆที่มารอหน้าหอ

     

    “คานาเมะไปไหนมาเหรอ?” อิจิโจที่มายืนรอทักเขาที่กลับมา

     

    “ไปเดินเล่นมาน่ะครับ” เขาว่าพลางเดินกลับขึ้นห้องมองกุหลาบขาวที่ค่อยๆเหี่ยวเฉาจนกลายเป็นเถ้าแล้วจึงทิ้งก้านอย่างไม่ใยดี อย่างไรเสียเขาก็ไม่คิดว่าตัวเองพอใจที่จะแค่ได้รักอยู่ฝ่ายเดียวอยู่แล้ว

     

    “ไร้เดียงสาเกินไปแล้วนะครับคุณฮารุนะ ความรักน่ะต้องเป็นรักที่ได้มาครอบครองสิครับถึงจะมีความสุข”

     

    “กรี๊ด!!!!ท่านคุรัน~” เสียงกรีดร้องของสาวๆดังขึ้นเมื่อคานาเมะก้าวออกมาจากหอพักเป็นคนสุดท้าย คานาเมะมองไปรอบมองหาฮารุนะแต่ไม่พบ ท่าเรื่องที่เด็กคนนั้นพูดคงเป็นเรื่องจริง เรื่องที่ไม่รู้จักเขาหรือไม่อยากรู้จักไนต์คลาส

     

    “ท่านพี่ดีขึ้นไหมคะ?” เขาหันไปมองยูกิที่เดินมาถามเขาต้นคอถูกปิดด้วยพลาสเตอร์ยา รอยเขี้ยวที่เอาแต่ใจของเขา คานาเมะลูบรอยที่คอของยูกิอย่างเบามือ

     

    “เธอต่างหากดีขึ้นรึเปล่า?” เขาถามใบหน้าเศร้าสร้อยของคานาเมะให้ยูกิใจหาย

     

    “ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้เอง... อย่าทำหน้าเศร้าแบบนั้นสิคะ” ยูกิพูดเธอไม่อยากให้คานาเมะต้องทำหน้าเศร้าแบบนั้น

     

    “แต่ผม...”

     

    พรึบ!!!

     

    “ถ้าไปช้าจะสายนะครับรุ่นพี่คุรัน” เซโร่ที่มาจากไหนก็ไม่ทราบจับมือของคานาเมะให้ห่างจากยูกิ เหตุการณ์วันนี้ทำให้เขาไม่ค่อยเชื่อใจคานาเมะเท่าไรนัก

     

    “เซโร่...”

     

    “น่ากลัวจังนะ...” คานาเมะว่าแล้วเดินไปจากตรงนั้นตัวเขาเองก็ชักเริ่มเกลียดตัวเองที่ลงมือกับยูกิแบบนั้น แต่จะโทษว่าเขาทั้งหมดก็ไม่ได้เพราะทั้งหมดนั่น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกลิ่นหอมของดอกซากุระที่ไม่ทราบที่มา...

     

    !!!! กลิ่นดอกซากุระนั่นมัน เป็นกลิ่นเดียวกับ...”

     

    .กลิ่นของคุณฮารุนะ

     

     

    วันต่อมาคานาเมะเดินออกมานอกหอพระจันทร์อีกครั้งส่วนหนึ่งเพราะอยากพิสูจน์ว่าที่เขาคิดนั้นจะเป็นจริงอย่างที่เขาคิดรึเปล่า... แต่เขาไม่พบฮารุนะแต่ก็ไม่แปลกใจเท่าไรอย่างไรเสียเด็กคนนั้นคงไม่ได้มาที่นี่บ่อยๆอยู่แล้ว พอคิดแบบนั้นคานาเมะจึงค่อยๆเดินดูรอบๆโรงเรียนเพื่อไม่เป็นที่สังเกตเขาเลือกที่จะเดินในป่าทึบเพื่อไม่ให้ใครพบ แล้วในที่สุดเขาก็พบ ฮารุนะที่กำลังนั่งทานขนมปังและนมในสวนกุหลาบ

     

    ทำไมถึงไม่ทานข้าวนะ

     

    “เด็กไม่ดีเลยนะครับไม่ยอมทานข้าวกลางวันแบบนี้” คานาเมะทักทั้งที่ตัวเองยังอยู่ในพุ่มกุหลาบ ฮารุนะสะดุ้งเล็กน้อยแล้วหันไปตามเลียงแล้วก็ได้พบกับคานาเมะที่ส่งยิ้มมาให้

     

    !!!? คุณคนสวนคานาเมะ มาได้ไงคะเนี้ย?” ฮารุนะทักด้วยรอยยิ้ม

     

    “ผมมาดูสวนตรงนี้น่ะครับ อีกสักพักผมก็จะไปแล้ว”

     

    “เหรอ... ทานด้วยกันไหมคะ?” ฮารุนะถามคานาเมะส่ายหน้าเป็นคำตอบฮารุนะจึงทานต่อ

     

    “ทำไมถึงไม่ยอมทานข้าวละครับแบบนั้นเสียงสุขภาพนะ”

     

    “ไม่เอาคะ อาหารของที่นี่ไม่อร่อยนี่น่า แถมทานไปก็ไม่ได้คุณค่าทางอาหารเยอะแยะอะไร ฮารุนะว่ามาทานนมกับขนมปังแบบนี้ยังดีกว่าเลย” ฮารุนะอ้างแล้วกัดขนมปังในมือต่อ

     

    “แบบนั้นมันไม่ดีต่อร่างกายนะครับน่าจะทานอย่างอื่นบ้าง”คานาเมะแย้งอีกครั้งพอเข้าใจแล้วว่าทำไมคนตรงหน้าถึงตัวเล็กได้ขนาดนี้ ถ้าประเมินจากสายตาแล้วน่าจะสูงประมาณ 150-152 ซม. เท่านั้นเทียบกับยูกิรึพวกเขาแล้วก็เด็กประถมดีๆนี่เอง

     

    “ก็มันไม่น่าทานนี่ ที่บ้านน่ะฮารุเป็นคงลงมือทำอาหารเองทุกอย่างเลย พอมาอยู่ที่แบบนี้แล้วคงรู้สึกไม่อยากมั้ง” ฮารุนะตอบอ่อมแอ้ม

     

    “มิน่าถึงได้ตัวเล็กเหมือนเด็กประถมแบบนี้” เท่านั้นละคำพูดแทงใจดำคำนั้นทำให้ฮารุนะขมวดคิ้วเข้าหากัน หันไปมองคานาเมะอย่างเอาเรื่อง

     

    “ฮารุนะไม่ใช่เด็กประถมนะ!! อีกอย่างอาหารที่ฮารุนะชอบทานนอกจากของหวานแล้วก็เป็นข้าว ซุบมิโซะ เทมปุระ ไข่หวาน ซุชิ ซาชิมิ แล้วก็นมสดด้วยที่ฮารุไม่โตไม่ได้มาจากอาหารการกินซักหน่อย!!

     

    “ครับๆ ไม่เกี่ยวกัน” คานาเมะนึกหัวเราะอยู่ในใจกับปมด้อยเล็กๆของฮารุนะ แต่การที่ฮารุนะตัวเล็กแบบนี้ก็ทำให้เจ้าตัวเขาดูบอบบางขึ้นเป็นเท่าตัว นึกๆดูก็น่ารักไปอีกแบบ...

     

    นี่ผมคิดว่าฮารุนะน่ารัก... คิดว่ามีคนอื่นน่ารักนอกจากยูกิ

     

    “...? นี่เป็นอะไรไปเหรอ? เงียบไปเลย”

     

    “อ่ะ เปล่าครับผมแค่คิดว่าผมต้องไปแล้ว” หลังจากเงียบไปนานคานาเมะจึงตัดบทก่อนที่จะมีคนมาพบเขา

     

    “คุณไม่คิดจะไปพบไนต์คลาสสักครั้งเหรอครับ?” คานาเมะถามอีกครั้ง

     

    “เฮ้อ~ อะไรกันทำไมถึงมีแต่คนอยากให้ฮารุไปเจอไนต์คลาสกันนักนะ” ฮารุนะออกอาการเซ็งๆเมื่อมีคนถามคำถามนี่อีกครั้ง

     

    “มีคนขอให้คุณไปพบแล้วเหรอครับ?”

     

    “พี่ยูกิน่ะ ตั้งแต่เมื่อวานแล้วพี่เขาพยายามให้ฮารุไปเจอให้ได้ ก่อนหน้าที่คุณคานาเมะจะมาก็มาขอทีหนึ่งแล้ว ไหนจะเพื่อนในห้องอีก คนพวกนั้นมีอะไรดีนะ?”

     

    “ทำไมไม่ลองไปพบดูละครับ บางทีอาจจะได้คำตอบ อีกอย่างรู้จักรุ่นพี่เอาไว้ก็ไม่เสียหายพวกเขาอาจจะช่วยอะไรคุณในอนาคตก็ได้” คานาเมะยกข้ออ้าง 108 ขึ้นมาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องอยากให้เด็กคนนี้รู้นัก

     

    “เฮ้อ~ ก็ได้ค่ะ วันนี้ไม่มีการบ้านอะไรด้วยจะแวบไปพอเห็นหน้าแล้วกลับคงไม่เสียหาย มั้ง” ฮารุนะตัดสินใจด้วยรอยยิ้มซึ่งนั่นทำให้คานาเมะพอใจอย่างถึงที่สุด ชักอยากให้ถึงเวลาเย็นเร็วๆแล้วสิ

     

    “งั้นแล้วเจอกันนะครับ”

     

     

    “ยังไงก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ทำไมพวกเขาถึงเป็นที่สนใจนัก”  ฮารุนะบ่นกับตัวเองมองจำนวนนักเรียนเดย์คลาสจำนวนมากที่มายืนอออยู่หน้าประตูไนต์คลาส เธอตกปากรับคำจากคุณคนสวนมาแล้วต่อให้เกลียดที่ที่คนเยอะขนาดไหนก็ต้องมา เธอไม่ชอบผิดสัญญา

     

    “ฮารุนะจังยอมมาแล้วเหรอ” ยูกิถามเมื่อได้เห็นว่าใครยืนอยู่ด้ายหลังพวกสาวๆ นึกแปลกใจที่ฮารุนะมาที่นี่ทั้งๆที่เคยชวนให้มาตั้งหลายครั้งแต่ก็ไม่ยอมมา

     

    “ก็ว่าจะไม่มาหรอกค่ะ แต่ไปก็สัญญากับคุณคนสวนแล้วนี่น่า” ฮารุนะตอบ นึกเสียใจที่ตอบปากรับคำแถมยังสัญญาว่าจะมาอีกด้วย

     

    “? คนสวน?”

     

    แอ๊ด...

     

    ก่อนที่จะได้คุยหรือถามไถ่เหตุผลประตูหอพระจันทร์เปิดออก สาวๆที่มายืนรอต่างรีบพุ่งไปหาเหล่านักเรียนไนต์คลาสแทบจะทันที

     

    !!!” ฮารุนะมองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง ไม่อยากเชื่อว่าที่เธอเห็นจะเป็นเรื่องจริง

     

    ยิ่งกว่าพวกดารานักร้องอีก รู้สึกสงสารแหะ

     

    เธอคิดมองความวุ่นวายอย่างคนที่สงสารคนที่อยู่กลางวงล้อม

     

    “ขอตัวไปทำหน้าที่ก่อนนะ เดย์คลาสกลับหอได้แล้วนะ ทุกคนฟังหน่อยสิ!!” ยูกิตะโกนพยายามดึงพวกสาวๆออกมา

     

    “รุ่นพี่ไอโด้”

     

    “รุ่นพี่ชิกิค่ะ!!

     

    “รุ่นพี่คาอิน” เสียงเรียกชื่อที่ปนกันจนฟังแทบไม่รู้เรื่องทำให้ฮารุนะรู้สึกรำคาญ เธอเกลียดที่แบบนี้มาก ครั้นจะพยายามมองเหล่าไนต์คลาสเพื่อจะได้รีบๆกลับก็ไม่ได้มีแต่ความวุ่นวายตรงหน้าทำให้เธอมองไม่เห็นใครหรืออะไรทั้งนั้น

     

    “เดย์คลาส!! ถ้ายังไม่กลับหอจะส่งรายชื่อให้กับผู้อำนวยการทุกคน!!” สิ้นเสียงทุ้มของเซโร่ พวกสาวๆที่ยืนออกันอยู่จึงถอยไปยืนด้านข้างเพื่อเปิดทางให้ไนต์คลาส แต่นั่นละ...

     

    !!!อ๊ะ!!” เมื่อสาวๆถอยมาด้านข้างคนที่ยืนอยู่อย่างฮารุนะจึงถูกดันออกไปจนเธอทรงตัวไม่อยู่ ล้มลงไปกับพื้น ข้อศอกถลอกจนเลือดซิบ

     

    กลิ่นหอมหวานที่ชวนให้กระหายคละคลุ้งไปทั่ว ไนต์คลาสสูดกลิ่นหอมนั่นอย่างกระหาย มองหาต้นตอกลิ่นหอมอย่างพร้อมเพรียง

     

    “มีใครเลือดออก แต่กลิ่นนี่” ยูกิปิดจมูกรู้สึกกระหายอย่างมาก ก่อนจะเดินไปหาคนที่กำลังหลั่งเลือดออกมาตอนที่ยังมีสติอยู่

     

    “ขอโทษนะ เลือดออกเลย” นักเรียนหญิงคนหนึ่งเอ่ยพลางดูแผลให้ฮารุนะ

     

    “อือ เราซุ่มซ่ามเองนั่นละ” ฮารุนะตอบ หยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับเลือดของตัวเอง

     

    จบเรื่องนี้คงต้องไปว่าคุณคนสวนซะหน่อยแล้ว ฮารุนะคิดอย่างหมายมาด จนไม่ทันสังเกตว่ามีใครเดินมาหาเธอ

     

    “ไม่เป็นไรนะครับคุณชิรายุริ”

     

    !! คุณคน... เดี๋ยวเครื่องแบบนั่น” เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยฮารุนะจึงรีบหันหาเจ้าของมือที่ส่งมาให้ แต่ก่อนจะได้ต่อว่าเธอก็ต้องชะงักเมื่อเห็นเครื่องแบบสีขาวที่คานาเมะใส่

     

    “น ไนต์คลาส?”

     

    “ได้พบแล้วนะครับคุณฮารุนะ”

     

     

    To be continuing…

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×