ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักหมดใจนายDrop Out Boy (YU-GI-OH GX)

    ลำดับตอนที่ #2 : เทิร์นที่ 1 ความทรงจำเมื่อแรกเจอ

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.ย. 57


    เทิร์นที่ 1 ความทรงจำเมื่อแรกเจอ
     
                  "หวา จะสายแล้ว จะไปสอบไม่ทันแล้ว~"เสียงเอะอะจากด้านหลังทำให้ฉันหันไปมอง ก็พบกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่วิ่งมาด้วยความเร็วชนิดที่ว่าแทบจะติดจรวด เขามีเส้นผมสีน้ำตาลไฮไลด์สีส้มจัดทรงคล้ายๆกับแมงกระพรุน ใบหน้าที่ไม่ถึงขั้นหล่อขั้นเทพแต่ก็หน้าตาดีใช้ได้ ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนชวนมอง แต่ตอนนี้คงทำได้แค่หลีกทางให้เขาเท่านั้น เพราะมันไม่ใช่เวลาจะมาชื่นชมเขาเท่าไรนัก
     
                  ...ท่าจะลำบากแฮะ สงสัยจะติดที่รถไฟเกิดอุบัติเหตุตอนเช้าสินะเลยมาสายแบบนี้น่ะ...
     
                  อ้อฉันลืมไป ฉัน'สึคิ ฮิคาริ'ค่ะ แต่ตอนนี้อยู่ในเสื้อผ้าสีดำสนิทที่พ่อหาให้ เสื้อแขนสั้นคอตั้งแหวกกลางเล็กน้อยยาวปิดถึงสะโพก กางเกงชิโนสีดำยาว รองเท้าผ้าใบดำสีดำ ผมสีบรอนส์ทองอ่อนๆมัดรวบไว้ที่ท้ายทอยติดกิ๊ฟสีทอง ดูเผินๆอาจมองได้ว่าฉันคือผู้ชายหน้าหวานหาตัวจับยากคนหนึงเท่านั้น แต่ว่ามันไม่ใช่!!!! ฉันน่ะผู้หญิงแท้! แท้แบบร้อยเปอร์เซ็น! ไม่เชื่อดูสูจิบัตรได้เลยอ่ะ แต่เหตุผลที่ฉันต้องมาใส่เสื้อผ้าแบบนี้แถมยังต้องใส่ที่รัดอก(ที่แทบจะไม่มี)อีก 
     
                  ...มันอึดอัด!!... แต่ว่าเพื่อเรียนที่นั่น... ดูเอลอคาเดมี่... ก็ต้องทำใจรับสภาพไป แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่นั่น แต่มันเป็นเพราะความคิดบ้าๆบอของพ่อนั่นละ!
     
     
                  ย้อนกลับไปเมื่อวันก่อนที่พ่อลูกบ้าน'สึคิ'อันโด่งดังในนาม'ผู้อยู่เบื้องหลังโลกแห่งการดูเอล' ได้มารวมตัวกันพร้อมกับการมาเยือนของคนสนิท(มาก)อย่าง'ไคบะ เซโตะ'ที่มาชวนฉันที่เป็นลูกคนเดียวไปศึกษาต่อที่ดูเอลอคาเดมี่เพราะเห็นแววปราชญ์เปรื่องของฉันเข้า เอาตามตรงฉันดีใจสุดๆเลยที่คุณอาไคบะมาชวน คนที่ไม่สนใจอาจไม่เข้าใจแต่สำหรับคนที่บ้าการดูเอลอย่างฉันแล้ว... การได้เข้ารับการศึกษาที่นั่นถือเป็นความใฝ่ฝันสูงสุดเลยละ
     
                  แต่ทุกๆความฝันย่อมมีคนบางคนที่ไม่เห็นด้วย หนึ่งในนั้นก็พ่อฉันนี่ละที่ไม่ว่าอ้อนหรือข้อร้องยังไง พ่อก็ไม่ยอมจนคุณอามาช่วยพูดให้แต่นั่นก็คือจุดเริ่มต้นของเหตุที่ฉันต้องมาแต่งตัวบ้าๆแบบนั้นนั่นละ
     
                  "งั้นก็ได้!"
     
                  "เย้!!! รักพ่อที่สุดเลย"
     
                  "แต่... ลูกต้องไปโดยที่ต้องเป็นผู้ชายเท่านั้น!"
     
                  "อะไรนะ!!!"
     
                  นั่นละเหตุผลที่ฉันต้องมาอยู่ในสภาพนี้  หลังจากนั้นก็ต้องทำข้อตกลงกันนิดหน่อย นั่นคือนั้นต้องเป็นผู้ชายแบบนี้จนครบสามปี! แถมห้ามให้ใครรู้เด็ดขาด! ถ้าฉันทำได้พ่อจะให้ไป... แต่ถ้าไม่ ฉันก็ต้องเข้าแผนเดิมที่พ่อวางไว้ให้นั่นคือต้องไปเรียนต่อที่อังกฤษ และต่อมหาลัย MIT แล้วคิดว่าฉันจะยอมเหรอ? และนั่นคือเหตุที่ฉันอยู่ในสภาพนี้ พอตกลงกันได้แล้วคุณอาเซโตะก็บอกว่าจะจัดการเรื่องประวัติส่วนตัวพร้อมทั้งทำเรื่องให้แล้วเขาก็นัดให้ฉันไปหาที่อาคารสอบวันนี้
     
                  ฉันเดินไปเรื่อยๆไม่เร่งรีบอะไร นั่นเพราะ... ฉันไม่มีนาฬิกาไง ฮ่าๆ แต่ก็นะยังไงก็แค่ขึ้นเนินไปเท่านั้นด้วยเลยไม่ต้องรีบอะไรแต่คนเมื่อกี้ก็ต้องรีบหน่อยละนะนั่นเพราะ... มันสายแล้วไงละ ฉันเดินไปตามทางก่อนจะชะงักเมื่อเห็น'คนคนนั้น'กับเด็กผู้ชายคนเมื่อกี้คุยกันอยู่ แถมให้การ์ดอะไรก็ไม่รู้ด้วย แล้วจู่ๆเด็กนั่นก็วิ่งไปทำให้'คนคนนั้น'เห็นฉันพอดี
     
                  "ฮิคาริ?... ทำไม..." เจ้าของทรงผมประหลาดสามสี(อย่าบอกอานะว่าฉันเรียกทรงผมอาแบบนั้น)ถามเมื่อเห็นฉันในสภาพที่แปลกตา แปลกแบบไหนน่ะเหรอ? หึๆ ก็ปกติฉันใส่ที่ไหนละไอ้เสื้อแบบนี้กับกางเกงขายาวน่ะ คงไม่แปลกเท่าไรที่เขาจะสงสัย
     
                  "แหะๆ มีเหตุนิดหน่อยอ่ะค่ะ ว่าแต่คุณอารู้จักคนเมื่อกี้เหรอค่ะ" สงสัยค่ะสงสัยแบบว่าเพิ่งเจอกันนี่น่า แล้วทำไม? เอ... หรือว่าเคยเจอกันมาก่อนหว่า?
     
                  "เปล่าหรอกแค่ถูกใจน่ะ เห็นแววจากเด็กคนนั้นเลยละ" ถึงจะงงๆแต่เด็กคนนั้นก็คงเหมือนๆกับฉันละมั้ง ที่ดูเอลคิง'มุโต้ ยูกิ' เห็นแววความสามารถในอนาคต แต่เขาแตกต่างกับฉันตรงที่หลังจากได้รู้ฉันไม่ได้รับการ์ดแต่เป็นอย่างอื่นที่สำคัญมากๆและเป็นสิ่งเดียวกับที่ทำให้ฉันมาอยู่ตรงนี้ 'ความรักและความสนุกในเกมส์การดูเอล'
     
                  "แล้วนี้จะไปที่สนามสอบเหรอ?" อาถาม ฉันพยักหน้าน้อยๆแล้วยิ้มให้ คนคนนี้มีพระคุณกับฉันทั้งรักทั้งเคารพ เขายิ้มให้ฉันแล้วลูบหัวเล็กน้อยคล้ายปลอบใจ
     
                  "โชคดีหลานรัก" พูดแค่นั้นแล้วเดินไปทางเดียวกับที่ฉันเพิ่งเดินผ่านมา ฉันยิ้มให้กับความอบอุ่นของคนคนนี้ ไม่แปลกเลยที่ไม่ว่าจะศัตรูหรือคู่แข่งอย่างอาเซโตะจะรับว่าเป็นเพื่อน(มั้ง)ทั้งๆที่เคยไม่ชอบขี้หน้าคนคนนี้มากขนาดนั้น นี่ยังไม่นับคุณอาเทมกับพี่มากิโนะนะ
     
                  เมื่อเขาจากไปฉันก็ได้กำลังใจเล็กๆที่ยิ่งใหญ่ติดตัวมาด้วย แล้วเดินไปที่เนินเพื่อไปสนามสอบ เมื่อมาถึงก็ต้องตกใจ!
     
                  "รอเดี๋ยววววว!!! หมายเลขสอบ110 ยูกิ จูได มาทันสินะครับ"คนที่ดูรีบร้อนเมื่อเช้าร้องขึ้นถามแล้วปรากฏตัวที่รั้ว เนื้อตัวที่เคยดูดีเมื่อเช้ากลับมอมแมมเหลือเชื่อ เขายิ้มอย่างจริงใจจนฉันอดที่จะยิ้มตามไม่ได้
     
                  เขาขึ้นมาจากรั้วนั่นแล้วเดินผ่านหน้าฉัน ตอนแรกเขาสงสัยฉันที่ยืนอยู่ซึ่งฉันก็ไม่ได้สนใจอะไร แค่อยากมองหาคนที่นัดฉันมาแต่... จังหวะหนึ่งฉันและคนที่ชื่อจูไดบังเอิญสบตากันโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ หมอนั่นมองหน้าฉันเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มซื่อๆมาให้มาให้ ก็รู้สึกแปลกๆเหมือนกันแต่ก็ยิ้มตอบกลับไป ผู้ชายเพียงคนเดียวที่ยืนรับผู้เขาสอบคือหนึ่งในลูกน้องของอาเซโตะที่ฉันสนิทด้วย เขามองฉันแล้วถาม
     
                  "นายมาสอบเหรอ?" ฉันมองคนที่ถามอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ต้องถึงบางอ้อเมื่อนึกได้ว่าตอนนี้กำลังปลอมตัวอยู่ แต่... ฉันก็ไม่ได้ใส่หน้ากากซะหน่อยแค่นี้ทำเป็นจำไม่ได้ เอ๊ะ! รึว่าฉันจะปลอมตัวเนียนละเนี้ย
     
                   "ฮิคาริ"เสียงเรียกผมจากด้านหลังทำให้ผมหันไปมองก็พบกับคุณอาเซโตะ ส่วนคนที่ทักฉันเขาก็มองฉันอย่างทึ่งๆ ก่อนจะโค้งงามให้คุณอาไคบะแล้วไปจัดการงานของตัวเองต่อ
     
                   "คุณอา อรุณสวัสดิ์ค่ะ... เอ่อ... ไม่สายใช่ไหมค่ะ?" ฉันถามไปแต่คุณอาแถมยิ้มให้ฉันด้วย แล้วเดินไปด้านใน ระหว่างทางคุณอาก็ชวนฉันคุยเรื่องโรงเรียนไปเรื่อยๆบอกพวกกฏข้อสำคัญอีกหลายข้อตามจนมาถึงในห้องทำงานของอา
     
                   "เข้าใจนะฮิคาริ การอยู่ที่นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายๆความจริงอาอยากให้เราได้อยู่หอเยลโล่ไม่ก็บลู แต่..." คุณอาบอก จริงอยู่ที่อาจัดการเรื่องเข้าเรียนให้ได้แต่เรื่องหออาจัดการให้ไม่ได้ เพราะฉันไม่มีผลงานอะไรในด้านดูเอลเพื่อไปเบิกทางเลย อาคงจะห่วงฉันที่ต้องอยู่ในที่ที่ไม่เป็นส่วนตัวละมั้ง มันก็น่าจะลำบากนิดหน่อยอ่ะนะ
     
                   "ไม่ต้องห่วงค่ะคุณอา นี่ฮิคารินะค่ะ ไม่มีทางให้ใครมาจับผิดได้ต้ังแต่วันแรกหรอกค่ะ" ...แต่นานๆไปไม่แน่... ประโยคหลังนั่นฉันได้แค่คิดเท่านั้นขืนพูดไปอาอาจจะเป็นห่วงก็ได้ แต่ก็กังวลละนะเป็นครั้งแรกเลยที่ต้องโกหกแบบนี้ แถมต้องทำตัวให้เป็นผู้ชายด้วย... จะรอดไปจนจบปีไหมเรา...
     
                   "หึๆ ยิ่งเป็นฮิคารินี่ละ ยิ่งต้องห่วง... นี่เครื่องแบบ" อาล้อฉันเล็กน้อย แล้วหยิบเสื้อนอกสีแดงมาให้ มันแครื่องแบบของระดับโอซิริสเรด ระดับที่ต่ำที่สุด แต่ว่าฉันกลับชอบนะ มันไม่ดูจืดชืดเหมือนของหอเยลโล่หรือดูทึบๆเหมือนหอบลู แต่นี่ก็ความเห็นส่วนตัวละนะ ก็ฉันชอบสีแดงนี่น่า
     
                  "ดูท่าสีแดงจะเหมาะกับฮิคาริมากกว่าสินะ" อายิ้มเมื่อฉันลงทาบมันกับตัว เสื้อนอกตัวใหญ่กว่าฉันมาก แต่ก็ดีเพราะไม่ต้องห่วงว่ามันจะโชว์ส่วนเว้าโค้งให้คนอื่นเห็น ...คุณอาเนี้ยรอบคอบดีจัง...
     
                  "อาค่ะ... ขอบคุณค่ะ" ฉันบอก อายิ้มให้ฉันแล้วเดินมากอดฉันไว้ กอดที่อบอุ่น กอดที่อามักจะกอดฉันอยู่เสมอ และคำพูดที่ฉันมักจะได้ยินต่อจากนี้ก็เป็นประโยคเดิมที่ฉันฟังแทบทุกครั้งที่อาทำแบบนี้
     
                  "อารักฮิคารินะ"
     
                  "ค่ะ... หนูก็รักอา" อากอดฉันซักพักก็ผละออกมาพร้อมยิ้มให้ฉันเหมือนทุกที จะว่ามันแปลกก็ได้ที่คุณอามักจะยิ้มให้ฉันเพียงคนเดียว ถ้าไม่นับพี่มากิโนะกับพี่โมคุบะละก็ฉันก็เป็นคนที่เห็นรอยยิ้มของอาบ่อยที่สุดเลยละ
     
                  "มาเถอะ อาจะไปส่ง" อาว่าแล้วดันฉันให้เดินออกมาจากห้องทำงาน เราเดินไปเรื่อยๆจนมาถึงประตูอาคารสอบที่มีเสียงเชียร์ดังสนั่นจนฉันสนใจ จะว่าไปคนที่ชื่อจูไดนั่นจะสอบผ่านไหมนะ แล้วหมายเลข 110 เนี้ยก็ใช่ว่าจะดีซะด้วย... ชักห่วงแฮะ... แล้วเราจะห่วงทำไมละเนี้ย!
     
                  "ฮิคาริ" เสียงเรียกจากคุณอาเรียกให้ฉันหันไปสนใจอาอีกครั้ง เขาไม่พูดอะไรต่อแต่กลับจับมือฉันขึ้นมาพร้อมวางบางสิ่งไว้ในมือ ขาดสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่คุ้นเคย ฉันมองอาอย่างไม่เข้าใจ ฉันรู้ในมือคืออะไรแต่ไม่เข้าใจว่าอาจะเอามาให้ทำไม
     
                  จริงอยู่ฉันอาจไม่มีเด็คส์เป็นของตัวเอง เด็คส์ที่ใช้ทุกวันนี้ก็เป็นเด็คส์ที่จัดจากการ์ดที่ซื้อมามั่วๆเท่านั้น อาจจะไม่ได้แข็งแกร่งอะไรแต่พวกนั้นก็ทำให้ฉันชนะมาโดยตลอด เลยไม่คิดจะหาการ์ดของตัวเอง อาก็รู้เรื่องนี้นี่แล้วทำไม... เมื่อคุณอาละมือฉันก็แทบจะเป็นลมเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในมือ... เด็คส์.... เด็คส์ที่เป็นดั่งชีวิตของคุณอา... บลูอายส์ไวท์ดราก้อน...
     
                  "อาค่ะ! นี่มัน!!" ฉันร้องออกมา ไม่ใช่ดีใจ แต่ไม่เข้าใจต่างหาก พี่มากิโนะเคยบอกว่าดูเอลลิสต์นั้นเด็คส์เป็นสิ่งที่สำคัญเท่าชีวิต ยิ่งถ้าพวกเขามีการ์ดเป็นของตัวเอง การ์ดเหล่านั้นก็จะเป็นทั้งชีวิตของดูเอลลิสต์ที่เสียไปไม่ได้ แต่นี่...
     
                  "อารู้ ชีวิตของอา... แต่ว่านะฮิคาริ การอยู่ในดูเอลอคาเดมี่ถ้าไม่มีเด็คส์เป็นของตัวเอง... ฮิคาริจะไม่มีทางรอด... เพราะงั้นรับไปเถอะ... อย่างน้อย ก็เห็นแก่การ์ดเหล่านี้... พวกมันไม่ได้สู้มานาน ทำให้พวกมันได้เจิดจรัดบนเวทีอีกครั้งที" เมื่อพูดจบอาก็เดินจากไปทันทีไม่ฟังคำทัดท้านใดๆจากฉันเลยแม้แต่น้อย ฉันได้แต่มองตามไปเท่านั้น.... 
     
                  "คุณอา"
     
                  "ไคบะBoyทำแบบจริงๆสินะ คนที่ฐิทิสูง ในหัวมีแต่บลูอายส์ๆแบบนั้น ยอมยกเด็คส์ให้คนอื่นแบบนี้"เสียงวิจารณ์จากด้านหลังทำให้ฉันหันไปมองก็พบชายร่างใหญ่ เส้นผมยาวประบ่าสีเทาด้านหน้ายาวมาปิดหน้าด้านหนึ่ง ใช่แล้วเขาคือผู้ให้กำเนิดดูเอลมอนเตอร์'เปกาซัส'
     
                 "คุณอาเปกาซัส!!" ฉันร้องเรียกแต่เขายังคงวิจารณ์อาไคบะต่อไป จะเรียกว่าความไม่ชอบส่วนตัวก็ได้ เพราะคุณอาเปกาซัสว่าอาไคบะซะเสียเลย
     
                  "หึ แต่นั่นก็แสดงว่าไคบะBoyพัฒนาขึ้นละนะ" เมื่อพูดจบคนชอบวิจารณ์ก็หันมาสนใจฉันที่กำลังมองเขาอยู่ จะว่าไปวันนี้มันวันรวมบุคคลสำคัญแห่งวงการดูเอลรึไงนะ... ตั้งแต่เช้าแล้ว... หวังว่าคงไม่เจอกับคุณอาเทมหรือพี่มากิโนะต่อหรอกนะ
     
                  "ทำหน้าเหมือนสงสัยเลยนะ ฮิคาริGirl" เขาขำ ฉันจึงยิ้มตอบกลับไป
     
                  "เอ่อ... มาทำธุระเหรอค่ะคุณอา?" เขาไม่ตอบแต่กลับหยิบสิ่งหนึ่งจากสูทสีสดใสของเขา สิ่งที่ฉันเห็นแล้วบอกได้แค่ว่า... วันนี้มัน... บ้าอะไรกันเนี้ย!!!!
     
                  "ครั้งหนึ่งการ์ดใบนี้เคยเป็นของไคบะBoy แต่เพราะเหตุบางอย่างทำให้การ์ดใบนี้ต้องถูกทำลาย แต่ตอนนี้มันคงอยากร่วมสู้กับเธอนะ ฮิคาริGirl" ฉันรับซองการ์ดมาไว้ในมือ มันเป็นซองทึบสีดำฉันมองมันมองเล็กน้อย แล้วมองคุณอาอีกครั้งเขายิ้มให้ฉันแล้วลูบหัวฉันเบาๆ
     
                 "ใช้การ์ดใบนี้ร่วมกับเด็คของไคบะboy แล้วก็นะฮิคาริgirl ความต้องการของการ์ดน่ะ youต้องเป็นคนหาคำตอบด้วยตัวของyouเอง ลองฟังเสียงของการ์ดดูสิ แล้วในวันที่youค้นหาการ์ดของyouได้แล้ววันนั้นyouก็จะสามารถนำเด็คนี้มาคืนไคบะboyก็ย่อมได้" คุณอาเปกาซัสบอกฉันแล้วเดินจากไปอีกทาว ทิ้งให้ฉันยืนงงกับคำพูดทิ้งท้ายเมื่อกี้ ให้ลองฟังเสียงเหรอ... จะว่าไปก่อนหน้านี้พี่มากิโนะเคยพูดไว้สินะ ว่าการ์ดทุกใบมีจิตวิญญาณแห่งดูเอลลิสต์สิงอยู่... จะใช่กับที่คุณอาเปกาซัสบอกรึเปล่านะ...
     
                 "ฟังเสียงเหรอ? ...." ฉันหลับตาลงทำใจให้สงบฟังเสียงการ์ดแบบที่พี่มากิโนะสอนมา
     
                  ผ่านไปไม่นานก็ไม่มีเสียงอะไร แต่ก่อนที่ฉันจะล้มเลิกความรู้สึกหนึ่งก็ไหลผ่านเข้ามาทำให้ฉันชะงัก ความฝัน... คิดไปเองเหรอ... แต่เมื่อกี้.... เสียงเหรอ? ไม่ใช่... มันเป็นความอบอุ่นที่ส่งมาจากการ์ดต่างหากแล้วเมื่อกี้... เสียง... หัวใจเต้น...
     
                 "เฮๆๆ" เสียงเฮจากสนามสอบทำให้ฉันหลุดจากภวังค์แล้วหันไปสนใจกับเสียงนั้น ผมเก็บเด็คลงกระเป๋าแล้วรีบเดินไปยังสนามสอบ
     
                 "ในจังหวะนี้ การ์ดกับดักทำงาน'ฮีโร่ซิกเนล' การ์ดใบนี้เมื่อมอสเตอร์บนฟิวส์ถูกทำลายจะเรียกเอเลแมนเทิลฮีโร่จากในเด็คออกมาได้เป็นกรณีพิเศษ ออกมาเลย 'E-HERO เบิร์ดเลดี่' เทิร์นของฉัน!หยิบการ์ด!!"เสียงจากสนามสอบทำให้ฉันนึกถึงชายที่ชื่อยูกิ จูไดเมื่อเช้าจริงๆ แต่พอฉันได้เห็นผู้ที่กำลังดูเอลอยู่กับอาจารย์'โครนอส'ผมก็ถึงกับยิ้มออกมา...เป็นหมอนั่นจริงๆด้วย... เขาใช้เด็คส์ E-HERO งั้นเหรอ? จะว่าเหมาะก็ใช่ละนะ ฮะๆ
     
                  แต่ดูเหมือนสถานการณ์จะไม่สู้ดีเท่าไรเลย... ฝั่งจูไดมีแค่เบิร์ดเลดี่แค่ตัวเดียว แต่ฝั่งอาจารย์โครนอส...มีแอนติเกียร์โกเลมอยู่ เรื่องพลังโจมตีหรือผลพิเศษ...ไม่ต้องพูดถึงเลยบอกได้แค่ว่าเสียเปรียบสุดๆ ฉันมองไปที่สนามอีกครั้งสิ่งที่ฉันเห็นคือสายตามุ่งมั่นละไม่ยอมแพ้...
     
                  "นี่ยังมีหวังที่จะชนะอีกงั้นเหรอ...... แต่เดี๋ยว!... อ้า~ยังมีวิธีนั่นอยู่นี่น่า... ถ้าเป็นคอมโบนั้นละก็... แต่คงเป็นไปไม่ได้หรอก" ฉันพึมพัมออกมาคนเดียว ก็นะ...การที่จะดรอว์ได้การ์ดที่ว่าได้ ถ้าไม่มีดวงละก็... ทำไม่ได้หรอก ถึงจะน่าเสียดาย...แต่เขาคงจบแล้วละ
     
                  "ให้การ์เวทย์มนต์ทำงานจากบนมือ'คืนชีพอัศวิน'ทำให้ผมเรียกเฟเธอร์แมนจาสุสานออกมาได้ ออกมาเลย'E-HERO เฟเธอร์แมน" โกหกน่า...ยังไม่ยอมแพ้อีกเหรอ... หรือว่าการ์ดพวกนั้นจะ...
     
                  "จากนั้นให้การ์ดเวทย์มนต์"
     
                  ... อย่าบอกนะว่าเป็น... ฟิวชั่นน่ะ!
     
                  "ฟิวชั่นทำงาน!!! ให้ เบิร์ดเลดี่กับเฟเธอร์แมนทำการ์ฟิวชั่นกัน"
     
                 "การ์ดใบโปรดของผม 'E-HERO เฟรมวิงแมน'" หึๆ หมอนี่น่าสนใจแฮะ...
     
                 "ผมจะสอนอาจารย์เองครับว่าฮีโร่น่ะ ก็มีเวทีสำหรับฮีโร่เหมือนกัน เวทย์มนต์ฟิลด์'สกายสเคปเปอร์'ทำงาน!!!"สิ้นสุดคำประกาศในสนามสอบก็ปรากฏตึกสูงขึ้นมา บนยอดตึกที่สูงที่สุดเฟรมวิงแมนอยู่... บอกไปรึยังว่าจูไดคนนี้มากับดวงจริงๆแฮะ ถ้าเป็นคอมโบนี่ละก็เขาชนะแน่
     
                 "ให้เฟรมวิงแมนโจมตีแอนติเกียโกเลม!!!"
     
                 "ฮะๆบ้ารึเปล่าให้เฟรมวิงแมนที่มีพลังโจมตีแค่2100 ไม่สะเทือนแอนติเกียอยู่แล้ว"อาจารย์โครนอสหัวเราะออกมาในความบ้าระห่ำของจูได... ไม่หรอกอาจารย์ สกายสเคปเปอร์น่ะยังมีผลพิเศษอยู่นะ... ฉันคิด
     
                 "ยังไงฮีโร่ก็ต้องชนะ ในจังหวะนี้ผมให้ผลพิเศษของสกายสเคปเปอร์ทำงาน เมื่อE-HEROทำการต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่มีพลังโจมตีสูงกว่า  ก็จะเพิ่มพลังโจมตีให้อีก 1000 พอยต์!!!" เขาประกาศใช้ผลพิเศษของสกายสเคปเปอร์ทำให้อาจาร์ยโครนอสถึงกับผงะ
     
                 "ไม่น่าเชื่อ!!!"อาจารย์โครนอสร้องออกมาทำใบหน้าแตกตื่นที่ดูน่าตลกสิ้นดี
     
                 "สกายสเคปเปอร์ชูต!!!" สิ้นเสียงสั่งร่างของเฟรมวิงแมนก็พุ่งทะยานใส่แอนติเกียโกเลมทันที
     
                 ตูม!!! เสียงปะทะกันระหว่างเฟรมวิงแมนกับแอนติเกียโกเลมดังสนั่นหวั่นไหวเรียกเสียงตกใจจากคนที่ไม่คิดว่าจูไดจะเอาชนะได้ดังออกมา ...เขาชนะได้จริงๆด้วยแฮะ... ฉันยิ้มรู้สึกทึ่งในความสามารถของเขามาก พอเขาใจแล้วละว่าทำไมคุณอายูกิถึงได้ถูกใจนัก
     
                 "ช่วยรับพลังโจมตีของมอนสเตอร์ของอาจารย์ไปด้วยนะครับ" เขาพูดด้วยใบหน้าสดใสไม่สนใจใบหน้าที่เคียดแค้นของอาจารย์เลยแม้แต่น้อย
     
                 "Gotcha!เป็นการดูเอลที่สนุกมากเลยอาจารย์"
     
                 "เป็นไปไม่ได้เจ้านั่นเอาชนะอาจารย์โครนอสได้"
     
                 "เด็กนั่นก็น่าสนใจดีนะ"
     
                 "หมายเลข110!!!" เสียงร้องและคำพูดหลากหลายทำให้ฉันได้แต่ยืนยิ้มให้กับชัยชนะที่คาดไม่ถึงของเขา
     
                "มากับจริงๆนะ" ฉันพึมพัมออกมาในระหว่างที่เขามองดูการ์ดในมือ เหมือนตาฝาดแต่เมื่อกี้ฉันเห็น... คุริโบ้มีปีก... นอนไม่พอรึไงนะ... ฉันคิดแล้วสะบัดหัวไปมา ก่อนจะมองไปที่เจาอีกครั้งและเหมือนเดจาวูที่สายตาของฉันกับเขาสบกันอีกครั้ง เขาโบกมือให้ฉันจนทำให้นักเรียนสอบเข้าที่อยู่ในสเตเดี้ยมหันมามองฉันเป็นตาเดียว ตัวฉันเองตอนนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไร คิดไม่ถึงด้วยซ้ำว่าการพบกับของฉันกับเขาจะเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตทั้งชีวิตของฉัน
     
    ___________________________________________________________
     
    มาแล้วๆตอนที่หนึ่ง หลังจากหายไปนานเพราะยุ่งเรื่องมหาลัยค่ะ นี่ก็เพิ่งเปิด คงนานๆมาอัพที หวังว่าคงไม่หายกันไปก่อนนะค่ะ
    จากตอนที่แล้วมีคนบอกว่าลายเส้นเก่าดีแล้วเลยอยกให้ทุกคนได้โหวดกันนะค่ะว่าจะเอาแบบไหนไงก็ช่วยหน่อยนะค่ะ
    งั้นมาที่รูปแรก...ใครให้ลายเส้นนี้ก็พิมพ์ 1 นะค่ะ

     

    รูปที่สอง พยายามวาดให้ลายเส้นคล้ายเดิม ให้ให้พิมพ์ 2 เลยค่ะ

     


     
    ตัวอย่างตอนต่อไป
     
    ในที่สุดโรงเรียนที่ใฝ่ฝัน.... ได้เข้ามาเรียนแล้ว วันแรกของฉันต้องดีแน่ๆ
    "นายเมื่อตอนนั้นนี่ หวัดดีฉันจูได"
    "ฉันโช"
    อะไรเนี้ย!!!!! แล้วนั่น!!! ไม่นะ!!!
    ตอนต่อไปตอน "วันแรกในอคาเดมี่" นี่ฉันต้องนอนเตียงเดียวกับนาย!
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×