CHAPTER 10
-เตือน-
'ห้องแห่งความลับ'
สถานที่ที่ซัลลาร์ซาร์ สลิธธีรินสร้างเอาไว้หลังจากมีความคิกที่ขัดแย้งกับผู้ก่อตั้งคนอื่นๆ ณ เวลานี้แดเนียล ซัลลีแวนและอาเธอร์ เกรย์กำลังเดินไปตามโถงทางเดินที่ถูกขนาบข้างด้วยงูสลักงู ที่นี่มีน้ำขังและตะไคร่น้ำเกาะเต็มไปหมด แถมยังมีกลิ่นที่ไม่ดีเอาเสียเลย
"นายปล่อยบาซิลิสก์ยังไงแดเนียล" อาเธอร์กวาดตามองรอบทิศหลังจากที่เราเดินมาจนสุดทาง รูปปั้นหน้าซัลลาร์ซาร์ดูน่ากลัวพิลึก
"ฉันไม่รู้ แต่นายเห็นตรงปากของเขาที่อ้าออกมาไหม" แดเนียลชี้ไปยังรูปปั้น "ฉันยืนหยุดอยู่ตรงนี้แล้วจู่ๆมันก็ออกมาจากทางนั้น"
"นายไม่ได้ปลดพันธะหรืออะไรเลยหรอ" แดเนียลส่ายหัว
"ภาพสุดท้ายที่ฉันเห็นคือมันเลื้อยออกไปแล้ว ฉันตกใจมากก็เลยรีบวิ่งออกมาหมือนกัน"
"ให้ตายเถอะ ไม่สมกับเป็นนายเลย"
"แล้วแบบไหนถึงจะสมกับเป็นฉันล่ะ"
"ก็ปกติน่ะนะนายคงเสกคาถาอะไรสักอย่างใส่มันหรือไม่ก็รีบไปหยุดมันน่ะสิ"
"ฉันไม่รู้ ฉันสับสน"
"นายไม่ได้โกหกฉันใช่ไหมแดเนียล" อาเธอร์ยกมือขึ้นจับไหล่ของอีกฝ่ายแน่น
"ฉันพูดความจริง"เป็นคำพูดที่หนักแน่นที่สุดจากแดเนียลตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้น อาเธอร์ยิ้มรับและเขาเชื่อแดเนียลสุดใจ
เพราะมันแปลกถ้าหากแดเนียลจำเหตุการณ์ต่างๆได้เลือนลาง รู้แค่ว่ามาที่นี่ เห็นบาซิลิสก์ออกไปแต่ไม่รู้ว่าปล่อยออกไปได้ยังไง
"งั้นเรามาสำรวจที่นี่กันหน่อย"
ทั้งสองพยักหน้าก่อนจะเริ่มสำรวจห้องแห่งความลับเผื่จะมีหลักฐานอะไรสักอย่างเพื่อพิสูจณ์ตัวแดเนียลและหาทายาทสลิธธีรินตัวจริง พวกเจาสำรวจรูปสลักงูทุกตัวที่โถงทางเดิน บนรูปปั้นหรือแม้กระทั้งทางเข้าแต่กลับไม่พบอะไรเลย จนกระทั่งแอ่งน้ำในห้องแห่งความลับเกิดระลอกคลื่นเล็กพัดเข้ามาที่ทางเดิน
"นายทำอะไรไปรึเปล่าอาเธอร์"
"ฉันไม่ได้ทำ"
"งั้นรีบไปจากที่นี่กันเถอะ"แดเนียลคว้าข้อมืออีกฝ่ายแต่ก็ต้องหยุดตามเสียงร้อง
"เดี๋ยวแดเนียล นั่นเสื้อคลุม! มันลอยมาทางนี้!!"ทั้งคู่วิ่งกรูไปยังเสื้อคลุมที่เริ่มลอยมาตามน้ำ เห็นได้ชัดว่านี่คือเสื้อคลุมเด็กนักเรียนฮอกวอตส์ แดเนียลเสกคาถาเรียกของก่อนที่เสื้อคลุมจะลอยขึ้นอยู่บนมือของเขา
"นี่มัน.."
"..."
"เสื้อคลุมบ้านสลิธธีรินนี่"
♡
“จะมองอีกนานไหม?”
“…”
“คาทินอส!”
เจคอบสะดุ้งโย่งก่อนจะเกาหัวตัวเองอย่างเขินอาย วันนี้เจคอบตามมาเฝ้าเขาถึงห้องสมุด ตั้งแต่เมื่อวานที่หมอนั่นรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วเขาเป็นแอนิเมจัสแล้วดันไปเหมือนแม่นาเดียเข้า ก็เอาแต่ถามอยู่ไม่เลิกว่าเรื่องทั้งหมดมันจริงใช่ไหม ซึ่งเขาก็ตอบแบบเดิมอยู่ทุกรอบว่าจริง
“ถามจริงๆ นายเป็น--”
“ใช่”
“ยังไม่ทันถาม”
“รู้น่าว่าจะถามอะไร” จิมมี่หลุดหัวเราะออกมา ให้ตายเถอะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้แกล้งใครสักคนนอกจากเดวิด
“จนถึงตอนนี้นะ ฉันยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายกลายเป็นแมว…แอนิเมจัสน่ะ”
“ขอร้องล่ะ ฉันไม่อยากพูดหลายๆรอบว่ามันคือความจริง ความจริงทุกอย่างนั่นแหละ”
“นายไม่ได้แอบใช้คาถาแปลงร่างอะไรทำนองนี้จริงๆ ใช่ไหมหรือพวกน้ำยาสรรพรส”
“อืออออออออออออ” จิมมี่ลากเสียงยาว เอาล่ะ เขาชักจะหมดความอดทน
จิมมี่หยัดตัวลุกขึ้นหยิบหนังสือที่เลือกมากอดไว้ระดับอกก่อนจะรีบเดินหนีเจคอบโดยที่ไม่หันไปมองเลยว่าอีกฝ่ายจะเดินตามมาหรือเปล่า แต่ดูจากเสียงที่เงียบลง ไร้เสียงอ้อนวอนนั่นก็เพียงพอที่จะทำให้เขามั่นใจว่าเจคอบไม่ได้ตามมา
เขาถอนหายใจ อย่างน้อยวันนี้ก็หลุดพ้นจากเจคอบมาได้แล้ว ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงตามติดเขาขนาดนี้ จริงๆก็อาจจะพอเข้าใจแหละคงจะคิดว่าโดนหลอก
“โอ๊ย!”จิมมี่ร้องเสียงหลง เมื่อรู้สึกถึงความปวดร้าวหลังจากเดินชนอะไรสักอย่างเข้า เขาเงยหน้ามองเพื่อที่จะหลบแต่ทว่าต้องหยุดชะงัก “แดเนียล!?”
“ใช่ ฉันเอง”
“มะ..มาทำอะไรแถวนี้”ให้ตาย เขากลียดตัวเองเวลารู้สึกกลัว ก็เรื่องเมื่อวานยังทำเขาช็อคแทบแย่ ทั้งที่เขาอยู่บ้านเดียวกันมาตลอดแต่เขาไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับแดเนียลแม้แต่นิด
“ฉันมาหานายนั่นแหละจิมมี่ มานี่”แดเนียลจับแขนจิมมี่ไว้แน่นก่อนจะพาเขาเดินเลี่ยงไปอีกทาง แต่ในชั่วพริบตา จิมมี่ก็เริ่มรู้สึกเหมือนโลกหมุนอย่างไงอย่างงั้น
ฟุบ!
♡
รู้ตัวอีกที ทั้งคู่ก็ได้มายื่นอยู่บนหอระฆังที่เงียบสงัด ไม่มีคู่รักหรือใครก็ตามแอบมาที่นี่ จิมมี่รู้สึกปั่นป่วนที่ท้องอย่างบอกไม่ถูก เอาล่ะ เขาไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆว่าเมื่อกี้นี้น่ะแดเนียลพาเข้าหายตัวมาทั้งที่การหายตัวในโรงเรียนเป็นสิ่งผิดกฎและตัวดาเนียลเองที่เพิ่งจะอยู่ปีสามไม่น่าจะได้ฝึกใช้คาถานี้
“นาย…ทำได้ยังไง เมื่อกี้น่ะ”
“พ่อสอนฉันมา”
“พ่อ?”
“ใช่ เขาสอนฉันล่ะ เขาบอกว่ามันจะช่วยฉันได้หลายๆอย่างเมื่อต้องการ และจำเป็น”
จิมมี่ขมวดคิ้ว เขาเองพอจะเข้าใจจุดประสงค์ของพ่อ แต่ว่าการพาเขามายังหอระฆังมันจำเป็นขนาดที่ต้องหายตัวมาเลยหรือยังไง
“ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นหรอก ฉันกำลังจะบอกเหตุผลนี่ไงว่าทำไม”แดเนียลกลั้วหัวเราะ “ฉันมีเรื่องจะเตือน อันที่จริง ถ้าสั่งได้ฉันก็ควรจะสั่ง”
“…”ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่แดเนียลใช้คำพูดที่ไม่เย็นชากับจิมมี่ ต้องจารึกไว้แล้ว
แดเนียลถอนหายใจ “เลิกยุ่งกับพวกบ้านสลิธีรินได้หรือเปล่า ทั้งพวกคาทินอสและฟาเรล”
“…”
“ฉันไปเจออะไรบางอย่าง มันค่อนข้างซับซ้อนและใช่ ฉันยังไม่อยากที่จะบอกอะไรนายมากเท่าไหร่มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับฉัน จะว่ายังไงดี ฉันไม่อยากบอกอะไรเลยนอกจากอยากให้นายระวังตัว โดยเฉพาะพวกคาทินอส” จิมมี่ขมวดคิ้วอีกครั้ง ถ้าให้เดาเรื่องที่เจอก็คงเป็นเรื่องเมื่อวานสินะ
“เรื่องที่นาย เป็นพาร์เซลเมาท์แล้วเปิดประตูห้องแห่งความลับใช่ไหม ถ้าเรื่องนั้นฉันก็พอจะรู้”
“เดี๋ยวนะ”
“เมื่อวานฉันเห็นนายกับอาเธอร์ดูแปลกๆ และพวกนายสองคนก็ไปในที่ที่ไม่ควรจะไป ฉันเห็นหมดทุกอย่าง อ้อ เรื่องนี้ฉันไม่ได้บอกใคร”
“ว่าไงนะ ทำไมนายถึง..”
“ฉันก็มีอะไรหลายๆอย่างที่บอกนายไม่ได้เหมือนกันแดเนียล ขอบคุณสำหรับคำเตือนที่ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่ขอบคุณมากๆนะที่ทำให้ฉันรู้ว่านายยังเป็นห่วงฉันบ้างถึงมันอาจจะเป็นเรื่องที่ฉันเข้าข้างตัวเอง”จิมมี่ยิ้ม ตลอดเวลาที่ผ่านมา ความสัมพันธ์พี่น้องของเราราวกับว่ามีแต่ความเกลียด แต่ทว่าวันนี้อย่างน้อยแดเนียลก็แสดงความเป็นพี่ออกมา
เขาไม่รู้เหมือนกันว่าแดเนียลไปเจออะไรมา แต่ถ้าเดา ยังไงเจ้าตัวก็คงไม่อยากบอก และใช่ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจุดประสงค์นี้มันดีหรือร้าย ก็ในเมื่อแดเนียลไม่เคยห่วงใยเขาแม้แต่นิดเดียว แต่พอมาคราวนี้เหมือนลืมไปแล้วว่าเคยแสดงท่าทีแบบไหนเมื่อเจอเขา
“จิมมี่ ฉัน..เป็นห่วง”
“…”
“เรื่องที่ฉันเจอ ฉันไม่อยากเล่าเพราะไม่อยากให้นายเข้ามาเกี่ยวข้องไปมากกว่านี้”
“…”
“ไว้ใจฉัน ในฐานะพี่ชายคนนึงจะได้ไหม”
หลังจากที่แดเนียลเข้ามาเตือนเขาเรื่องเจคอบ หมอนั่นไม่ถามอะไรเขาอีกแม้แต่เรื่องที่เขารู้ว่าแดเนียลไปที่ห้องแห่งความลับ แดเนียลพาจิมมี่กลับมาส่งที่ห้องเรียนหลังจากพาไปที่หอระฆังอยู่นานสองนาน
เดวิดที่ยืนกระวนกระวายอยู่หน้าห้องเรียนพร้อมเพื่อนๆเรเวนคลอ ดูท่าเดวิดคงจะหัวเสียน่าดูที่เขาหายออกไปอีกแล้วทั้งที่ช่วงนี้มีกฏเพิ่มขึ้นมาเป็นกอง -เป็นเพราะทั้งเขาและแดเนียลใกล้เข้ามาเดวิดถึงได้เหลือบมองขึ้น สีหน้าของเพื่อนสนิทเปลี่ยนไปทันที
"อยู่นี่เอง! ฉันหาตั้งนาน"เดวิดวิ่งกรูเข้ามาหาก่อนจะกอดเขาแน่น
"น้อยๆหน่อยได้ไหมเดวิด"
"ก็นายทำฉันเป็นห่วง! ทุกคนเป็นห่วงนาย"
"ขอโทษที พอดีฉันไปคุยกับแดเนียลมาน่ะ"เดวิดหันไปมองยังต้นเหตุก่อนจะยิ้มแหยๆไปให้ อันที่จริงแล้วเดวิดน่ะกลัวแดเนียลมากๆ
"พวกเราโดนศาสตราจารย์ดุก็เพราะนาย"เดวิดหน้ามุ่ย
"ไปโทษแดเนียล เขาพาฉันออกมาเอง"
"ไปเรียนกันเถอะ พวกเรารอนายอยู่"ว่าแล้วว่าเดวิดคงไม่กล้า เจ้าตัวดึงข้อมือเขาให้ตามมายังห้องเรียน จิมมี่หันไปมองอีกคนที่ไม่พูดอะไรสักคำ
แดเนียล ซัลลีแวนกำลังมีความลับที่ไม่ใช่แค่เรื่องห้องนั้นแน่ๆ หมอนั่นยังมีเรื่องราวอีกมากที่ยังคงปิดเป็นความลับและไม่สามารถบอกเขาทั้งที่เป็นน้องชาย
♡
ห้องโถงใหญ่ไม่ครึกครืนเหมือนแต่ก่อนหลังจากเกิดเรื่อง เด็กนักเรียนต่างเลือกที่จะกลับไปยังหอพักจึงเหลือเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เลือกมาทานอาหารเย็นที่นี่
เจคอบ ฮันเตอร์ เจเนวีฟ จิมมี่และเดวิดเลือกที่จะมาห้องโถงใหญ่เพราะพวกเรามีเรื่องที่ต้องคุยกันอีกมาก ผู้ใหญ่หลายๆคนเริ่มปล่อยให้เรื่องนี้เป็นเพียงอุบัติเหตุ พวกเขาไม่สามารถระบุได้ว่าการตายของเด็กบ้านสลิธธีรินนั้นเกิดจากอะไร
"ในเมื่อพวกเขาไม่ทำ เราก็ต้องทำนะ"ฮันเตอร์เริ่มออกความคิดเห็นหลังจากเรานั่งเงียบกันมาสักพัก
"จะทำไงล่ะ พูดเหมือนง่าย"เป็นเดวิดที่พูดออกมา ดูท่าจะยังเคืองเรื่องเสกคาถาใส่คราวก่อน
"เจคอบได้เบาะแสมาบ้าง"ฮันเตอร์หันไปมองอีกฝ่ายก่อนจะพูดต่อ "เจคอบแอบออกไปนอกหอเมื่อคืนก่อน"
"ว่าไงนะ!"
"ใจเย็นน่าเจน ฉันก็แค่ทนอยู่แบบนี้ไม่ได้"
"เจคอบ เราสัญญากันแล้วนี่ทำไมออกไปแบบนั้น มันอันตรายนายก็รู้" เจเนวีฟค่อนข้างที่จะโกรธมากเลยด้วยซ้ำ ทำไมเจคอบไม่เคยฟังกันเลย
"จิมมี่เพื่อนเธอก็ออกมาด้วยเถอะ"
"จิมมี่ นายด้วยหรอ"
"อือ._."
"ที่อย่างนี้เสียงอ่อนนะเจน กับฉันที่เป็นพี่แท้ๆทำมาโมโหใส่"เจคอบมองเจเนวีฟอย่างคาดโทษ จิมมี่มีดีอะไรนักหนาทำไมคนอื่นถึงต้องยอมตลอดด้วยแม้แต่เขาเอง
"กลับมาที่เรื่องนี้ดีกว่าไหมครับคุณคาทินอส"เดวิดกดเสียงต่ำ คงจะรำคาญเต็มที
"ฉันเล่าเองฮันเตอร์ ฉันแอบออกไปที่ห้องแห่งความลับแต่ระหว่างทางก็มาเจอจิมมี่ที่เดินมาแบบลับๆล่อๆ"เจคอบเหลือบตามองจิมมี่ เจ้าตัวถึงกับมาขอให้เขาอย่าเปิดเผยเรื่องแอนิเมจัส "นั่นแหละสุดท้ายเราก็มาด้วยกันน่ะนะ"
"ไงต่อ"
"อย่ามาทำเสียงดุใส่ฉันได้ไหมเจน"เจคอบถอนหายใจ "มีคนตามเรามาเหมือนกัน ฉันกับจิมมี่ก็เลยหลบแต่เดาสิว่าพวกเราเจอใคร"
เจคอบยกยิ้มก่อนจะมองจิมมี่อีกครั้งและเราสบตากัน หมอนี่น่ะคงจะเย้าะเย้ยเขาอยู่ในใจกับเรื่องที่เราทั้งคู่เจอ เจคอบคงจะไม่ค่อยไว้ใจเขามากขึ้นกว่าเดิม
"ฉันกับเจคอบเจอแดเนียลและอาเธอร์"จิมมี่พูดขึ้นมา "แดเนียลเปิดประตูห้องแห่งความลับ สองคนนั้นเข้าไปแต่พวกเราตามไปไม่ทัน มันปิดซะก่อน"
ทุกคนเงียบกริบหลังจากได้ยิน คงจะตกใจกันน่าดูแม้แต่เขาเองก็ยังตกใจอยู่กับเหตุการณ์ที่เห็น ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าแดเนียลน่ะ เข้าไปได้ยังไงหมอนั่นเป็นเด็กบ้านกริฟฟินดอร์ทั้งยังมาจากซัลลีแวนที่ไม่ว่าใครมาเรียนที่นี่ก็จะถูกคัดไปที่บ้านนี้
"แดเนียล ซัลลีแวนเป็นทายาทสลิธธีรินหรอ บ้าไปแล้ว" ฮันเตอร์แทบจะบ้า สาบานว่าก่อนหน้านี่เขาเกือบเชื่อสนิทว่าเจคอบนั่นแหละคือทายาทสลิธธีริน แต่อยู่ๆมาวันนี้สิ่งที่จิมมี่บอกดันทำให้เอนเอียงไปทางแดเนียล แดเนียลเนี่ยนะ
"ฉันพูดอะไรไม่ออกเลยให้ตายเถอะ" ->เดวิด ลี
"ก็พูดออกมาแล้วนี่ไง" -> เจเนวีฟ คาทินอส
"ตลกตายล่ะ" -> เดวิด ลี
"แล้วทีนี้พวกเราจะทำยังไงกันต่อ"
"เราคงต้องจับตาดูสองคนนั้นให้ดี ฉันว่าจิมมี่น่าจะเหมาะไปตามติดแดเนียลนะ นายเป็นน้องชายมันนี่?" เป็นอีกครั้งที่เจคอบทำหน้ากวนโอ๊ยใส่เขา ไอบ้านี่
"ฉันจะช่วยจิมมี่เอง"เดวิดเสนอขึ้นมา "ยังไงซะฉันก็เป็นเพื่อนร่วมบ้าน ดูไม่น่าสงสัย"
"งั้นพวกฉันจะดูเด็กฮัฟเฟิลพัพเอง ในตอนนี้เราคงทำอะไรไม่ได้มากนอกจากจับตาดูสองคนนั้น"
ทุกคนพยักหน้าหลังจากรับรู้หน้าที่ก่อนที่พวกเราจะแยกย้ายกันกลับหอพักโดยที่ตกลงกันว่าต้องมารายงานเรื่องแดเนียลและอาเธอร์ที่นี่ทุกวัน แต่ไม่ทันที่จะได้ก้าวออกจากห้องโถงใหญ่เขาก็โดนเจคอบลากมาอีกที่นึงก่อนจะส่งซิกให้คนที่เหลือเดินไปก่อน พวกเราสองคนมีเรื่องต้องคุย
"มีอะไรเจคอบ"
"เปล่า ฉันแค่สงสัย" เห้อ จะพูดเรื่องนั้นอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย
"เรื่องเป็นแอนิเมจัสฉันขี้เกียจที่จะพูดแล้วนะ"
"คือฉันแค่-"เจคอบประหม่า นั่นทำให้เขาไม่เข้าใจ หมอนี่เป็นอะไรอีกเนี่ย
"แค่อะไรเจคอบ เร็วๆสิเดวิดรอฉันอยู่นะ"
"คือว่า..นายน่ะ"
"..."
"จะแปลงร่างเป็นแมวอีกไหม?"
"..."
"คือว่านายเหมือนนาเดียร์แมวของฉันมาก เจนกับฉันคิดถึงมันน่ะ"
100%
หายไปกี่เดือนคะให้ทาย 555555555555555555555555555
อย่าลืมคอมเม้น+สกรีมแท้กเป็นกำลังใจให้เราหน่อยนะคะ;-; แงแอ เริ่มกลับมามีไฟแล้วอยากได้กำลังใจค้าบ
ขอบคุณที่กลับมานะคะ
อุกี๊ดตัวเองงงง บอกตรงๆว่าเราเฟบเรื่องคุณไว้นานมากๆแล้ว แต่สารภาพว่าพึ่งมาตามอ่านจนครบทุกตอนเมื่อกี๊ มันดีมากจริงๆค่ะแงง สนุกมาก ดำเนินเรื่องน่าติดตาม เรานี่ติดงอมแงมเลย และใช่ค่ะ คนรออ่านเยอะแยะเลยนะคะ เราหวังว่าเร็วๆนี้คุณคนเขียนจะกลับมาอัพให้ได้อ่านกันนะก๊ะะะ สู้ๆ เป็นกำลังใจให้! /ปาหัวใจรัวๆ
ไรท์ โปรดกลับมาาาาาาาาาาา
คิดถึง คิดถึงมากๆเลยค่ะ ฮืออออออออ