คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เศษเสี้ยวของความทรงจำ
ตั้งแต่วันนั้นที่เจอคนแปลกหน้าชื่อราชา แล้วเขาก็บอกว่ารู้จักฉันมาก่อนหน้านี้แถมยังมาขอดูแลฉันอีกคนอีกแน่นอนเขาทำตามที่พูด แต่ก็มีโชว์คอยขัดทุกที เหมือนสองคนนี้รู้จักกันมาก่อนแล้วเหมือนจะไม่ถูกกัน...?
“นิรันๆๆ” โชว์ยื่นมือมาตบไหล่เบาๆๆ
“ว่าไงเหรอโชว์”
“ฉันเรียกเธอตั้งนานไม่ได้ยินเหรอหรือมัวคิดถึงไอเด็กนั่น”
“ขี้หาเรื่องจังเลยน้า...ไม่ดีเหรอมีคนช่วยดูแลฉันเพิ่มขึ้นอีกคน” ฉันถามโชว์ยิ้มๆๆแล้วแน่นอนว่าตอนนี้หน้าเขาบูดยิ่งกว่าเก่า
“คิดได้ไงให้มันมาดูแล ตัวทำป่วนน่ะสิ่ไม่ว่า”
“นิรัน” นั่นไงตัวป่วนที่โชว์ว่ามาแล้วเขามักมาพร้อมรอยยิ้มที่สดใสอยู่เสมอ
“มาทำไมว้ะ” เมื่อเห็นหน้าราชาโชว์ก็เปิดประเด็นทันที
“มาทำหน้าที่ ” ใบหน้าเขายังคงไว้ด้วยรอยยิ้ม
“หน้าที่ที่ไม่ใช่ของนาย”
“เมื่อก่อนไม่ใช่แต่ตอนนี้นิรันอนุญาตแล้วแสดงว่าผมก็มีหน้าที่ดูแลนิรันเหมือนกันรุ่นพี่ไม่มีสิทห้ามน้ะครับๆๆ J”
สองคนนี้พูดอะไรกันไม่เห็นจะเข้าใจปวดหัวชะมัด ก่อนที่ฉันจะเดินแยกออกมา เดินไปไม่กี่ก้าวมีผู้หญิงรูปร่างสูงโปร่ง ขาเรียว ดูในทุกอิริยาบถ ยืนอยู่ข้างรถปอเช่คันสีแดงสดของเธอก่อนเธอจะเดินตรงมาหาฉัน...เอ๋’ มาหาฉัน ก่อนจะหันไปมองข้างหลังก็ไม่มีใครนินา เลยหยุดเดินแล้วรอให้ผู้หญิงคนนั้นเดินมา แล้วเป็นอย่างที่คิดเธอเดินมาหาฉัน
“สวัสดีไม่เจอกันนานเลยน้ะ” รอยยิ้มร้ายกาจนั่นคืออะไรกัน ? หรือฉันตาฟาด
“สวัสดีค่ะ คุณคือ” ฉันไม่เคยรู้จักเธอนี่นาหรือเธอทักคนผิด ดูท่าทางเธอหน้าจะอายุมากกว่าฉันน้ะ
“หืมมม ม’ จำพี่สาวที่รักเธอไม่ได้เหรอจ้ะ” ฉันพยายามมองหน้าเธออีกครั้งรู้สึกคุ้นหน้าแต่จำไม่ได้จิงๆๆว่าเธอคือใคร
“คุณทักคนผิดป่าวค่ะ ฉันเป็นลูกคนเดียวน้า”
“ไม่ผิดหลอกจ้ะนิรัน เธอคือ” เสียงของคนที่อ้างว่าเป็นพี่สาวฉันต้องหยุดลงเมื่อมีอีกเสียงเอ่ยขึ้นมาขัดเสียงเธอ
“นิรัน อย่าไปเข้าใกล้ยัยนั่นน้ะ ” โชว์เป็นคนตะโกนมานั่นเองพร้อมวิ่งมายืนข้างๆๆตามด้วยราชา
“อ้าว แหมโชว์มาคอยเสียบแฟนเพื่อนเหรอ” ผู้หญิงคนนั้นพูดพลางยิ้มหยัน
“หุบปากเธอเลยมิลิน ไม่มีใครมีความคิดร้ายกาจแบบเธอหลอกน้า”
“แหมสนิดสนมกันขนาดนี่จะให้คิดยังไงล่ะจ้ะ”
“กลับไปซ่ะ!”
“อุ้ย’ โมโหแล้วเหรอฉันกลับก็ได้” ผู้หญิงที่ชื่อมิลิน(ฉันได้ยินโชว์พูดชื่อหล่อนน่ะ) หันมามองฉันก่อนจะเอ่ย “แล้วไว้พบกันน้ะจ้ะ ไม่ต้องเสียดายไปเราจะได้เจอกันในอีกไม่นาน” เธอยิ้มให้ฉันก่อนจะจากไป ทำไมฉันมองว่ารอยยิ้มนั้นช่างไม่จิงใจเลยน้ะ ?
“อย่าไปฟังยัยนั่นมากเลย เธอเป็นคนร้ายกาจ ขี้อิดฉาริษยา เห็นคนอื่นได้ดีไปกว่าตนไม่ได้ แล้วถ้าเธอเจอน้ะมิลินถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงอย่าไปเข้าใกล้เธอ”
“เธอคือใครเหรอโชว์” ฉันถามข้อสงสัยที่อัดอั้นมานาน
“ไม่ต้องไปรู้จักยัยนั่นหลอก”
“เธอชื่อมิลินเป็นพี่สาวต่างแม่ของเธอ เป็นลูกถูกต้องตามกฎหมาย” หลังจากที่ราชาเงียบมานานก็โพล่งขึ้นอย่างไม่มีปี่มี่ขลุ่ยก่อนโชว์จะหันไปมองปรามให้ราชาหยุดพูดแต่ราชาก็ยังไม่หยุด ”เธอเป็นคนที่ไม่อยากเห็นเธอได้ดีกว่าน่ะมิลิน”
“หยุดพูดเดียวนี้ไอราชา อย่าเอาเรื่องหน้าปวดหัวไปให้เธอ” โชว์ขัดราชาขึ้น
“ยังไงสักวันเธอก็ต้องรู้อยู่ดี เราหัดให้เธอรับความจิงบ้างเหอะ” ราชาพูดทิ้งไว้แค่นั้นก่อนจะเดินหายไป เป็นครั้งแรกหรือป่าวน้ะที่ฉันไม่เห็นรอยยิ้มบนหน้าเขา
“ไม่ต้องคิดมาหลอกฉันไม่ปล่อยให้ยัยนั่นมาทำอะไรเธออีกแน่” โชว์พูดทิ้งไว้ก่อนจะเดินนำไปที่รถฉันก็ไม่กล้าถามอะไรไปมากกว่านี้อีกแล้ว เพราะตอนนี้รู้สึกปวดหัวเหลือเกิน มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่น้ะทำไมรู้สึกว่ามันมีเงื่อนงำมากกว่านี้ล่ะ หรือเบื้องหลังของความจำฉันจะมีมากกว่าอุบัติเหตุที่ฉันตกบรรไดกันน้ะ
ที่ไหนน้ะทำไมมีแต่หมอกอย่างน้ล่ะ เอ้ะ’ ผู้ชายคนนั้นเป็นใครน้ะฉันมองเพ่งผ่านหมอกหนาบังตาไปที่ผู้ชายร่างสูงโปร่งเห็นหน้าไม่ชัดเขายืนก้มหน้าอยู่ ท่าทางและบุคลิกเขาดูดีมาก เขาคือใครกันน้ะ?
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ~
“ฝันไปเหรอเนี่ย -.-* ” เสียงนาฬิกาปุกบ่งบอกว่าเมื่อกี้ฉันแค่ฝันไปเรื่องเมื่อวานทำฉันปวดหัวเอามากๆๆระหว่างทางกลับบ้านเมื่อวานฉันกับโชว์ก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลย ทำไมกันนะคนชื่อมิลินแล้วเป็นใครกันน้ะ....
ฉันเดินไปตามทางเดินของมหาลัยวันนี้โชว์ไปฝึกงานทำให้ฉันต้องพึ่งตัวเองไปก่อน...
“พี่สาวทำไมวันนี้เดินคนเดียวล่ะครับ” ฉันลืมอีกคนได้ไงเนี่ยฉราชาเดินตามหลังมาจนเราเดินมาขนานกัน
“น้องชายก็หายเงียบเลยนะคะ” ช่วงที่ผมต้องเข้าห้องแลพไม่ค่อยว่างเลย เดือนหน้าต้องไปดูงานนอกสถานที่อีกหลายวันแต่พี่สาวไม่ต้องห่วงผมจะหาเวลาว่างมาหาพี่สาวบ่อยๆๆเผื่อพี่สาวคิดถึงผมมากจนนอนไม่หลับ” ราชาไม่พูดป่าวยังเอามือมากอดคอฉัน
“ทะลึ่งล้ะๆ แล้ววันนี้นายว่างหรือไงห้ะมาเดินป้วนเปี้ยนกับฉันเนี่ย”
“ได้ข่าวว่าวันนี้นิติปี 4 ไปฝึกงาน เห็นว่าหลายวันเชียว เลยรีบมาทำคะแนนไว้ก่อน J” ราชายิ้มหน้าแป้นทำให้ฉันต้องเบ้หน้าทันที
ราชาเดินมาส่งฉันถึงหน้าคณะ ระหว่างทางเราก็พูดอะไรเลื่อยเปื่อยที่หาสาระไม่ได้
“เดียวมาลับไปกินข้าวน้ะห้ามไปกับหนุ่มไหนก่อนล่ะโอเคไหม” ราชาถามขึ้นเมื่อเราอยู่หน้าคณะทุกสายตากำลังมองมาที่เรา รู้สึกเขินแปลกๆๆแฮะ
“ค่ะ นี่นายจะเป็นน้องชายหรือพ่อเนี่ยห้ะ”
“กันท่าไว้ก่อนเดียวแอบหนีไปกับหนุ่มๆๆ คณะนี้ใครๆก็รู้ว่าเธอเป็นที่หน้าสนใจ”
“นายก็เว่อไปล้ะ โอเคฉันจะรอนายอยู่ที่ตรงนี้แล้วกัน” ฉันบอกราชาเขายิ้มให้อีกครั้งก่อนจะโบกมือบ้ายบายแล้วเดินออกไปอีกทาง
ฉันมายืนรอราชาได้พักนึงแล้วเค้าก็ยังไม่มาสักทีนี่ก็เลยเวลานักมา 20 นาทีแล้วน้ะ รอก่อนอีกสัก 10 นาที ถ้ายังไม่มาฉันก็จะไปหาข้าวกินก่อนล้ะน้ะ ทันใดนั้นมีรถปอเช่คันสีแดงสดมาจอดหน้าคณะแน่นอนฉันจำเจ้าของรถคันนี้ได้
“แหม’ มายืนรอพี่สาวเหรอค่ะเหมือนรู้เลยน้ะ J ” มิลินพี่สาวต่างมารดาของฉันทักขึ้นทันทีที่ลงจากรถแต่โชว์เคยบอกให้อยู่ห่างจากเขาเพราะเขาร้ายกาจขัดกับใบหน้าสวยๆของเธอ ฉันหันหลังกะจะเดินไปอีกทางแต่แล้วหล่อนก็มากระชากฉันให้กันกลับไป
“ขอโทษน้ะค่ะฉันจะรีบไปกินข้าว แล้วกรุณาปล่อยแขนฉันด้วยค่ะ” ฉันหันไปตอบเธออย่างสุภาพทั้งๆที่เธอทำกริยาไม่สุภาพกับฉัน
“แหมฉันอุส่ามาหาเธอไม่คิดจะอยู่คุยกับฉันหน่อยหรือไง” หล่อนบีบแขนฉันแน่นทำให้ฉันเจ็บแต่ก็ทำหน้านิ่งเพื่อไม่ให้หล่อนรู้
“กรุณาปล่อยแขนฉันได้แล้วค่ะ ฉันจะไปกินข้าว”
“ฉันเป็นพี่สาวเธอควรให้ความเคารพฉันมากกว่านี้สิ่” หล่อนยังไม่มีทีท่าว่าจะหล่อยฉันแต่กลับจิกเล็บสีสดของหล่อนลงไปด้วยอีก
“ปล่อยค่ะ” ฉันยังคงตอบหล่อนไปด้วยเสียงและสีหน้าเรียบเฉย
“ทำไมเจ็บหรือไง เมื่อก่อนหล่อนยังอวดดีกับฉันอยู่เลยนิ่นิรันตอนนี้ทำไมไม่อวดดีอีกล่ะหรือความจำเสื่อมจนลืมทุกอย่าง หน้าสมเพสจริงๆๆเลยน้ะ รูปร่าง หน้าตาดี แต่สมองเสื่อม !!” หล่อนยังไม่ปล่อยแถมยังพูดจาถากถางฉัน
“ฉันบอกให้ปล่อยไง! ” ฉันทนไม่ไหวเลยขึ้นเสียงใส่หล่อน
“นังนิรันแกกล้าชึ้นเสียงกับฉันเหรอห้ะ !” หล่อนจิกเล็บลงไปเยอะกว่าเดิมไม่พอหล่อนยังเขย่าฉันจนเนื้อตรงที่หล่อนจิกเล็บไปมีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย
“ปล่อยนิรันซ่ะ!!” แล้วราชาก็มาทันเวลาพอดีก่อนหล่อนจะฟาดมือของหล่อนลงมาตรงหน้าฉัน
“ทำไมเหรอราชา เมื่อก่อนนังนี่ทำร้ายจิตใจนายขนาดไหนนายก็รู้นี่ทำไมยังออกตัวปกป้องอีกล่ะ” หล่อนเหวี่ยงฉันออกก่อนที่ราชาจะถลาเข้ามารับตัวฉัน หล่อนแค้นเคืองอะไรฉันนักน้ะ
“เมื่อก่อนผมรักนิรันยังไงตอนนี้ผมก็รักนิรันอย่างนั้น แล้วผอก็ทนเห็นคนที่รักโดนพี่รังแกไม่ได้ ถึงเธอจะจำเรื่องราวเมื่อก่อนไม่ได้ก็ดีกว่าคนเสียสติจนบ้าแบบพี่ล่ะ”
“กรี๊ดดดดดด ด~ หยุดเดียวนี้เลยน้ะราชาฉันไม่เคยทำอะไรให้เธอแล้วเธอก็รู้ว่าพี่ชอบเธอ แถมเธอยังออกตัวปกป้องนังเด็กนี่ต่อหน้าต่อตาพี่อีก เธอมันก็ใจร้ายเหมือนกันแหละราชา ฝากไว้ก่อนเถอะนังเด็กเมื่อวานซืน” มิลินกรี๊ดลั่นตึกจนคนแห่กันมามุงแล้วร้องไห้พูดจาไม่ค่อยจะรู้เรื่องแต่พอจับใจความได้ก่อนจะหันหลังกลับไปขึ้นรถของหล่อนแล้วขับแล่นออกไปด้วยความเร็ว
“เจ็บไหมนิรัน” ราชาส่ายหัวเบาๆๆก่อนจะมาจับแขนของฉันที่ตอนนี้เป็นรอยช้ำเขียวอี๋แถมยังมีเลือดซึมอีกตังหาก
“ไม่เจ็บเท่าไรหลอก นายพอจะเล่าอะไรให้ฉันฟังมั่งได้ไหม ท่ามันเกี่ยวกับฉันฉันก็มีสิทธิ์ที่จะรู้ไม่ใช่หรอ” ฉันมองราชาที่เอามือมาประคองแขนฉันเหมือนแก้วที่ร้าวถ้าเขาเผลอบีบแรงนิดหน่อยแล้วมันจะแตกยังไงยังงั้นก่อนจะเผลอยิ้มออกมาบางๆ ราชาเงยหน้าขึ้นมาประสานสายตากับฉันก่อนจะพยักหน้าเบาๆๆ
“แต่เราไปกินข้าวกันก่อนเถอะเธอคงรอนานมากเลยสิ่นะ ขอโทษทีน้ะมีสอบด่วนน่ะ” เขาพูดขึ้นพลางทำหน้าจ๋อยๆๆ
“ไม่เป็นไรอย่างน้อยนายก็มา J” ฉันยิ้มให้ราชาบางๆๆก่อนที่เราจะเดินออกจากคณะไปที่โรงจอดรถแล้วราชาก็เปิดประตูรถให้ฉันขึ้นไปก่อนจะปิดแล้วเดินไปขึ้นฝั่งคนขับแล้วขับรถออกไปทันที
เรามานั่งกันที่ร้านอาหารเล็กๆบรรยากาศดีๆไม่มีคนพลุกพ่านมากนักก่อนจะสั่งอาหารกันมา ระหว่างทางเราเงียบกันมาตลอด จนถึงที่ร้านหลังจากสั่งอาหารกันแล้วเราก็ตกอยู่ในความเงียบต่อ
“เอ่อ คือนายโอเคใช่ไหม? ” ฉันทนไม่ไหวเลยพูดออกไปเพราะใบหน้าเขาที่มีรอยยิ้มเกือบตลอดเวลาบัดนี้กับหารอยยิ้มนั้นไม่เจอ
“หืม ต้องถามรันมากกว่า รันโอเคใช่ไหม ?” ฉันส่งยิ้มบางๆไปให้
“โอเค แต่ฉันอยากรู้ว่าระหว่างชากับพี่มิลินแล้วก็ฉัน เคยมีเรื่องอะไรเหรอ ?” เป็นครั้งแรกที่ฉันเรียกชื่อสั้นๆของเขาเหมือนที่เขาเรียกชื่อสั้นๆของฉัน
“อยากรู้จริงเหรอ ?”
“ทำไมถามงั้นอ่ะ มันหนักหนาบ้างเลยเหรอ”
“……..” ราชาเงยหน้ามาสบตากับฉันเฉยๆ พอให้ฉันเดาคำตอบว่าคงจะเป็นเรื่องใหญ่จริงๆๆ
“ถ้าไม่พร้อมจะเล่าก็ไม่เป็นไรน้ะกินอาหารก่อนเหอะเดียวจะเย็นซ่ะก่อนน้ะ J” ฉันพยายามยิ้มให้ราชาเพื่อบอกว่าฉันไม่เป็นอะไรถ้าหากเขาไม่สะบายใจที่จะเล่าฉันก็ไม่อยากคาดคั้นเอาคำตอบ
ฉันนั่งกินข้าวผัดตรงหน้าไปได้เกือบครึ่งจานแล้วแต่พอเงียหน้าไปมองข้าวกุ้งทอดกระเทียมในจานราชากับพบว่ามันไม่ได้แปลเปลี่ยนสภาพไปจากเดิมเลยสักนิดทำให้รู้ว่าเขายังไม่ได้กินแม้แต่คำเดียว
“ไม่หิวเหรอราชา” ฉันถามเขาเมื่อเห็นเขามัวแต่จ้องหน้าฉัน
“มิลินเป็นพี่สาวต่างมารดาของเธอเรื่องนี้เธอคงรู้” เอ๋ราชาไม่ตอบฉันแต่เข้าประเด็นเรื่องนี้ทันที ”ตอนรันเรียนอยู่ที่มหาลัยZXC อย่างที่เคยบอกรันเป็นดาวคณะตั้งแต่ปี 1 ที่เข้ามหาลัย ก่อนหน้าที่ตำแหน่งดาวคณะนิติจะเป็นของรันเคยเป็นของมิลินมาก่อน นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้มิลินที่เป็นรุ่นพี่ดาว 2 ปี เริ่มไม่ชอบรัน ยิ่งพอเธอรู้ว่ารันเป็นน้องสาวต่างแม่อีกทำให้เธอยิ่งไม่ชอบรันหนักข้อเข้าไปอีก เธอหาว่ารันแย่งตำแหน่งดาวของเธอ แฟนคลับเธอ รวมกระทั่งแฟนเธอ.... ” ราชาหยุดพูดแค่นั้นก่อนจะมองหน้าฉันที่ได้แต่นิ่งเงียบแล้วราชาก็ก้ำกึ่ง
“เล่าต่อเถอะฉันยังโอเค ” ฉันฝืนยิ้มส่งกลับไปให้ราชาเพื่อบอกว่าฉันยังไม่เป็นไรจิงๆๆทั้งๆๆที่รู้สึกปวดหัวเอามากๆๆ
“พอฉันขึ้นปี 1 ซึ่งรินก็อยู่ปี 2 แล้วมิลินก็อยู่ปี 3 แต่ฉันอยู่คนล้ะคณะกับรันแต่ก็พอได้ยินชื่อเสียงของรันบ้างวันนั้นเลยลองแอบไปดูหน้ารันกับเพื่อนที่คณะแพทย์ แต่พอไปถึงก็เจอมิลินซ้อมเชียร์หรีดเด้ออยู่หน้าคณะ แล้วเธอก็เกิดเท้าแพลงฉันเลยเดินเข้าไปช่วยปถมพยาบาลเบื้องต้นก่อน สรุปวันนั้นก็ยังไม่ได้เจอรัน” ราชาเงียบไปพักนึงเหมือนจะถามเป็นพลางๆๆว่ายังไหวไหม
“จบแล้วเหรอ” ฉันรู้ว่าเรื่องยังไม่หยุดอยู่แค่นี้แต่จะบอกให้ราชาเล่าต่อทั้งๆๆที่ตอนนี้ในหัวฉันปวดระบมไปหมดแถมหัวใจยังเต้นแรงอีกเหมือนร่างกายทำงานหนักไปทั้งตัว
“ยังหลอก แต่รันไหวแน่เหรอทำไมหน้ารันถึงซีดอย่างนั้นพักก่อนไหม” สีหน้าราชาบอกได้ชัดว่าเขาเป็นห่วงแต่ฉันก็ยังอยากรู้อยู่ดี
“แดดมันร้อนอ่ะ แต่ฉันไม่ได้เป็นไร ”
“เช็กบิลด้วยครับ” ราชาบอกพนักงานในร้าน “เดียวค่อยไปเล่าต่อในรถแล้วกันน้ะ จะได้ไม่ร้อนไง”
“ก็ได้”
ฉันลุกขึ้นยืนแต่กับจะล้มลงไปดีน้ะราชามารับทันทำไมมันปวดหัวอย่างนี้น้ะ
“ไหวแน่เหรอนิรัน พักก่อนก็ได้ไว้ชาจะเล่าให้ไหม่วันหลังน้ะ” เขาประคับประคองฉันจนถึงรถของเขาแล้วก็เปิดประตูให้ฉันเข้าไป
“ฉันยังไหวน้ะแล้วยังโอเคดีด้วยไม่เชื่อเดียวยิ้มโชว์” พอราชาเข้ามานั่งในรถฉันก็ทำตัวร่างเงกว่าปกติพร้อมยิ้มโชว์ฟันเสีขาวที่เรียงกันอย่างเป็นระเบียบ
“บางทีชาก็สงใสว่ารันเคยเป็นรุ่นพี่ชาจิงป่าว” ราชาพูดกึ่งขำก่อนจะยื่นมือมาลูบหัวฉันแล้วขับรถออกมา
“ไม่เล่าแล้วอ๋อ” นั่งรถมาพักนึงราชาก็ยังคงเงียบฉันเลยถามกลับไป
“หืม ยังอยากฟังอยู่อีกเหรอ”
ฉันพยักหน้าหงึกหงักๆๆ แต่ราชาก็ไม่มีทีท่าจะเล่าต่อเลยนั่งอยู่เงียบๆๆ
“ถึงแล้ว” หลังจากเงียบมานานราชาก็เอ่ยปากพูด
ฉันเงยหน้าขึ้นก่อนจะพบว่าราชาพาฉันมาที่สวยสาธารณะแห่งหนึ่งฉันรู้สึกเหมือนจะเคยมาเลย
“ฉันเคยมาที่นี่ใช่ไหม” ฉันถามราชาออกไป
“จำได้ด้วยเหรอ” ราชาหันมามองหน้าฉันก่อนจะจูงมือฉันไปนั่งที่ม้านั่งเล็กๆๆตรงพื้นหญ้าเขียวขจี แล้วเขาก็ตามมานั่งข้างๆๆ เบื้องหน้าของเราสองคนเป็นน้ำพุรูปปั้นเทพในตำนานกรีก “ใช่ ชาเจอรันครั้งแรกที่นี่ ”
ฉันเงยหน้าไปมองราชา
“ยังอยากฟังต่อไหมล่ะ” ฉันพยักหน้าหงึกๆๆราชาเลยเล่าต่อ “อาจจะฟังดูน้ำเน่าน้ะแต่ชารู้สึกชอบชาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ตอนแรกก็ชอบเพราะหน้าตาของรัน แต่พอได้ลองคุยชาก็ตกหลุมรักรันเลย”
“แหวะ :P ” ฉันแลบลิ้นล้อเลียนราชา ก่อนเราจะพากันขำทั้งสองคน เอ๋ฉันลืมปวดหัวอยู่หรือป่าว
“อย่าพึ่งขัดสิ่”
“……..” ฉันเลยหุบปากทันทีเพื่อบอกให้เขาเล่าต่อ
“แต่รันมีแฟนแล้วทำให้ชาได้แค่แอบคุย พอรู้ว่ามิลันเป็นพี่สาวต่างมารดาของรันชาก็เลยเข้าไปตีสนิดทางพี่” ราชาเงยหน้ามามองฉันฉันเลยพยักหน้าเพื่อบอกให้เขาเล่าต่อ”ชาไม่รู้ว่ารันกับพี่สาวของรันไม่ถูกกัน ทำให้มิลินคิดว่าชากำลังจีบมิลิน แล้วพอรู้ว่าชาชอบรัน จากที่มิลินเคยไม่ชอบรันกับกลายเป็นเกลียดรัน เพราะคิดว่ารันแย่งชาไปจากเธออีก หลังจากนั้นมิลินเลยตามอาราวาทรันเลื่อยมา”
‘แกมันตัวมาร แกเกิดมาเพื่อแย่งทุกอย่างจากฉัน แกเกิดมาเพื่อทำรายฉัน พ่อฉันสร้างแกขึ้นมาแต่ฉันนี่แหละจะเป็นคนพลักแกลงไปเอง!!’ อยู่ดีๆๆฉันเห็นภาพมิลันยืนว่าฉันอย่างเกลี้ยวกลาดฉันพยายามสะบัดหัวออก
‘คนของฉันแกก็แย่งไปเรื่องนั้นฉันไม่คิดแล้ว แต่นี่ราชาแกมาอ่อยราชาใช่ไหมห้ะ แกรู้ว่าราชาชอบฉัน แต่ทำไมแกยังมาอ่อยเขาล่ะ’
‘ฉันไม่เคยอ่อยคนของพี่ เขามาชอบฉันเองตังหาก เพราะพี่มัวทำตัวอย่างนี้ไงผู้ชายเลยไม่ชอบ!’
‘นังนิรัน แก แก ฉันจะเอาที่เป็นของฉันทุกอย่างคืนมาแกจำไว้ต่อไปนี้ฉันจะไม่ญาติดีกับแก!’
ภาพในความทรงจำของฉันปรากฏขึ้นก่อนที่มันจะดับไปพร้อมๆกับสติของฉัน.
ความคิดเห็น