ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    World War Z : ฝ่านรก สงครามเดนตาย

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter I : ม่านหมอกแห่งหายนะ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 234
      1
      17 มี.ค. 56

     

    Fic Zombies Adventuer

    Rate 15+

    *เนื้อหาต่อไปนี้อาจพาดพิง บุคคลในประวัติศาสตร์ และไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับประวัติศาสตร์ เป็นเหตุการณสมมุติ

    ที่ผู้แต่งจิตนการขึ้นเท่านั้น



    10.23  Berlin

     

    "เอเบล 1-3 นี้คือ โรมิโอ 4-6 เราอยู่ที่เป้าหมายแล้ว เปลี่ยน!"

    เสียงของชายหนุ่ม ในชุดนาวิกโนธินสหรัฐฯกำลังตอบวิทยุของตนเพื่อรับทราบภารกิจต่อไป

     

    "เยี่ยมมาก โรมิโอ ตอนนี้นายอยู่ที่ไหนแล้ว?" เสียงวิทยุตอบกลับมา

     

    "เอเบล ฉันอยู่ส่วนหลังของกองบัญชาการข้าศึกแล้ว ขอรับทราบภารกิจต่อ"

     

    "ภารกิจของนายคือจรกรรมข้อมูลสำคัญตามที่นายได้ไป จนกว่าจะสำเร็จห้ามติดต่อทางวิทยุเด็ดขาด  เลิกกัน.."

     

    "รับทราบ เอเบล เลิกกัน.." นาวิกหนุ่มเก็บวิทยุของตนลงเป้สนาม ก่อนหันไปหาลูกน้องคนสนิดของตน

     

    "พร้อมลุยหรือยัง 'จิมมี่'!"เขาถามไปยัง จิมมี่ เด็กหนุ่มผมทองซึ่งสวมเครื่องแบบนาวิกฯเหมือนกับเขา

     

    "พร้อมครับ ผู้กอง มิลเลอร์!" เด็กตอบกลับด้วยสีหน้ายิ่มแย้ม"ดีงั้นไปกันเลย..ตามฉันมาเจ้าหนู!" มิลเลอร์เดินนำไปยัง ส่วนหลังของ กองบัญชาการข้าศึก

     

    เพียงไม่กี่ก้าวมิลเลอร์ก็หยุดเดิน เมื่อเห็นทหาร 2 คนเฝ้าทางเข้าส่วนหลังอยู่พร้อมอาวุตครบมือ

    "มีอะไรเหรอผู้กอง?.." จิมมี่กระซิบถาม มิลเลอร์ อย่างสงใส

    "เป้านิ่ง 2 ตัวน่ะ นายสนไหมล่ะ?" มิลเลอร์หันมากระซิบตอนก่อนชี้ไปยัง ทหารยามทั่ง2

     

    จิมมี่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าตอบ แล้วปลดไรเฟิลเก็บเสียงที่สะพายอยู่ออกมา เล็งไปยัง ทหารยาม

    "นายเก็บคนขวาน่ะ โอเค?" มิลเลอร์ระบุเป้าหมายก่อนจะหยิบ ปืนพก .45 คู่ใจออกมา ติดที่เก็บเสียง แล้วเล็งไปยัง ทหารยามอีกคน

     

    "ผู้กองแน่ใจน่ะว่าไม่พลาด" จิมมี่ถามโดยความเป็นกังวล เมื่อเห็นผู้กองของตนคิดจะใช่ปืนพก เก็บศัตรูจากระยะนี้

     

    "ระดับนี้แล้วไอ๊หนู ถ้าพลาดให้ตบหัวเลยเอ้า!" เขาพูดท้าทายลูกน้องของเขาก่อนจะหันไปสนใจเป้าหมายต่อ

     

    "3...2...ยิง!"

    สิ้นเสียงมิลเลอร์ทหารยามทั้ง 2 ก็ลงไปกองอยู่กับพื้นแล้ว

     

    "เสียใจด้วยน่ะ วันนี้นายอดตบกระบานนายร้อยแล้วล่ะ  ฮ่า ฮ่า ฮ่า"

     

    มิลเลอร์หัวเราะพลางตบไหล่ลูกน้องของตนอย่างซะใจ

     

    "เอาไงกับศพพวกนี้หล่ะผู้กอง?" จิมมี่หันมาถามมิล เลอร์ต่อ

     

    "ลากมันไปทิ้งก็พอ แล้วเอาชุดพวกมันมาใส่  งานนี้เราคงต้องปลอมตัวกันบ้างแล้วล่ะ"

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

     

    หลังจากจัดการกับศพ มิลเลอร์และจิมมี่ก็เดินเข้าไป     กองบัญชาการด่วยชุดที่พวกเขาได้มาจากศพ

    "เล็กฉะมัด!!" มิลเลอร์สบตเบา

     

    "เอาน่าผู้กอง ดีกว่าไม่มีชุดใส่น่ะ" จิมมี่หันมาตอบผู้กองเสียงเบา เพราะ ไม่ต้องการให้คนอื่นสงใส

     

    "รีบๆหาเข้าเหอะ อยากถอดออกแล้ว ร้อนเป็นบ้า!!"

     

    มิลเลอร์บ่นส่งท้ายก่อนรีบขึ้นไปยังห้องเอกสาร

     

    เมื่อทั่งคู่มาถึงห้องเอกสาร ก็ถึงกับเข่าอ่อนเมื่อเห็นเอกสารนับร้อยเรียงรายอยู่เป็นชั้นๆ "แม่เจ้า!! ชาตินี้จะเจอไหมเนี่ยผู้กอง!!" จิมมี่สบตออกมาทันที

     

    "เอาน่า.. รีบๆหาเข้าเร็ว!" ทั้ง 2 ไล่ดูชั้นเอกสาร อ่านรายชื่อเอกสารภาษาเยอรมัน ทีละแถว

     

    "เวรกรรมอะไรของฉันฟร๊ะ!!!".

     

     

     

     

     

     

    1ชั่วโมงต่อมา

    .

    "เจอแล้ว!!!!!" จิมมี่ตะโกนลั้นจนมิลเลอร์ต้องวิ่งมาปิดปากลูกน้องของตน

     

    "จะตะโกนให้พวกมันรู้ทั้งตึกหรือไงเจ้าบ้า!!" มิลเลอร์เอ็ดเสียงดุ

     

    "ก็กว่าจะหาเจอนี้..." จิมมี่ปาดเหงือที่ท่วมหน้าอยู่ออก

     

    "ช่างเหอะได้แล้วก็รีบไปดีกว่าเร็ว!" มิลเลอร์บอกก่อนจะเดินนำออกไปนอกประตู

     

    แต่เมื่อเขาเดินมาถึงประตูพวกเขาก็ชะงักกับเสียงตวาดลั่นเป็นภาษาเยอรมัน จากด้านหลัง ทั้ง 2 หันไปมองก็พบกับทหารเยอรมัน 10 กว่านายกำลังวิ่งลงมาทางพวกเขา

     

    "หนีไปจิมมี่!!" มิลเลอร์ตะโกนสั่งพร้อมโยนเอกสารสำคัญให้จิมมี่ไป

    "ผ..ผู้กอง!!" จิมมี่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก

    "ไปเร็ว!!!" มิลเลอร์หันไปบอกจิมมี่อีกครั้งก่อนจะชักปืนกลเบาออกมาเล็งไปยังศัตรู

    จิมมี่วิ่งออกไปทันที

    ในขณะที่ทหารเยอรมัน 10 กว่าคนเข้าล้อมเขาไว้

    "วางอาวุตลงซะ" นายทหารเยอรมันสั่ง พลางชี้ปืนพกมาทางเข้า

    มิลเลอร์ดูจะเมินต่อคำสั่งนั้น

    "เตรียม!!" นายทหารเยอรมันสั่งลูกน้องให้เล็งปืนไปยังมิลเลอร์

    "บ้าชิบ...."มิลเลอร์สบตออกมา

    ในใจของเขาหวังแต่ว่า จิมมี่จะปลอดภัย และนำเอกสารนั้นกลับไปยังกองบัญชาการของเขาได้

    ยิงสิฟร๊ะ ไอ๊พวกสวะ!!" มิลเลอร์ตะโกนด่ากลับเป็นภาษาเยอรมันยั่วะโทษะ นายทหารเยอรมันเข้าเต็มๆ

    แต่ไม่ทันที่นายทหารจะสั่งยิง เสียงระเบิดดังกึกก้องก็ดังขึ้น พร้อมควันสีขาวที่โพยพุ่งเขามาจากประตูและหน้าต่าง กลิ่นของมันเห็นฉุนมากจนทำให้มิลเลอร์และเหล่าทหารเยอรมัน ล้มฟุบไปกองกับพื้น

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

     

    "จรวดถูกปลอยหมดแล้วครับท่าน" เสียงทหารนายหนึ่งหันไปตอบ นายทหารหนุ่มผู้สวมผ้าปิดตาข้างขวา

     

    "ดีมาก..."

     นายทหารหนุ่มตบไหล่ทหารของเขาอย่างพอใจก่อนหันไปหากองทหารของตนนับร้อย อยู่ด้านหลังของเขา

     

    "ทุกท่าน!!" เขาพูดผ่านไมล์ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ตลอด1 ปีเต็มที่พวกท่านต้องทนกับความพ่ายแพ้ ..."

    ความสิ้นหวัง....และความล้มเหลว"สายตาอันเยือกเย็นจับจ้องดูเหล่าขุนทหารของตนอย่างพอใจ

     

    "...มันถึงเวลาแล้ว!! ที่เราจะยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้แกพวกมัน.....ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะแก้แค้นทุกสิ่งที่มันทำกับเราอย่างสาสม..." เสียงของเด็กหนุ่มเริ่มดังและหนักแน่นขึ้น "....ถึงเวลาที่พวกเรา..จะสร้างโลกใบนี้ใหม่ ด้วยมือของเรา!!!!"

     

    เสียงโห่ร้องด้วยความหึกเหิมของกองทหารของเขา สร้างความมั่นใจให้กับเด็กหนุ่ม บัดนี้เขาพร้อมแล้วที่จะกวาดล้างทุกสิ่ง จัดระเบียบโลกนี้เสียใหม่ตามที่เขาต้องการ

     

    ....พร้อมแล้วสำหรับสงคราม.....

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    นาวิกฯหนุ่มค่อยๆฟื้นตัวจากอาการ หมดสติ เอามือกุมที่ขมัด สบัดหน้าไปมาอย่างมึนงง

    กวาดสายตาไปรอบๆ อย่างพินิจพิเคราะห์ รอบๆตัวเขา มีแต่กลุ่มทหารเยอรมันที่ตอนแรกทำท่าจะยิงเขา ล้มพุบไม่ได้สติอยู่

     

    "เกิดบ้าอะไรขึ้นฟร๊ะ!!...." มิลเลอร์สบตในใจ แต่นี้คือโอกาสอันดีที่เขาจะหนี

     

    เขาวิ่งออกไปที่ประตูหน้ากองบัญชาการเยอรมัน

    แต่ก็ต้องชะงักเมื่อหน้ากองบัญชาการ เต็มไปด้วย ทหารเยอรมันนับ 10 ซึ่งนอนเรียงรายไม่ได้สติอยู่ตรงหน้า

     

     '............' มิลเลอร์ตาค้างกับสิ่งที่เห็น แต่เขาไม่มีเวลามาสนใจกับสิ่งตรงหน้า เขาต้องตามหาลูกน้องของเขาให้เจอ

     

    "โรมิโอ ถึง ลูกทีม ตอบด้วยเปลี่ยน....." มิลเลอร์ถ่ายทอดคำสั่งไปยังวิทยุ

    แต่ไม่ได้รับคำตอบกลับมา........

    โรมิโอ ถึง ลูกทีม ตอบกลับด้วย......" มิลเลอร์ย้ำคำสั่งอีกครั้ง แต่ผลก็เช่นเดิม

     

    "..ตอบด้วย.........จิมมี่!!!!!!" มิลเลอร์ตวาดใส่วิทยุอย่างแรง

                                                                                                                                            

    ".......ผ...ผู้ก.....ช่วยด..........." สัญญาณตอบกลับขาดท้วง ทำให้มิลเลอร์มีความหวัง

     

    "..จิมมี่!..จิมมี่!! ตอบด้วย เกิดอะไรขึ้น!?!" มิลเลอร์ตอบวิทยุทันที

     

    "...ผู้กอง.....ช่วย........อ๊ากกกกกกกกก!!!!!" เสียงกรีดร้องของจิมมี่ทำเอา มิลเลอร์แทบช๊อค

    จิมมี่!!!...........นายอยู่ไหนอะ.....ฟัค!!!" มิเลอร์สบตด่าอยู่บ้าคลั่ง ก่อนจะออกวิ่งไปตามทาง

    หากข้อสันนิฐานของเขาถูกต้อง จิมมี่ต้องวิ่งไปที่จุดนัดพบ เพื่อรอเขา

     

    มิลเลอร์จึงวิ่งตรงไปยัง จุดนัดพบที่ จตุรัสไกร์เซอร์....

     

    "จิมมี่!!!!.........จิมมี่!!!" เขาตะโกนเรียกชื่อลูกน้องของเขาตลอดทาง

     

     

     

     

    มิลเลอร์วิ่งมาจนถึงสี่แยกแห่งนึง เขายังคงตะโกนหาลูกน้องของเขาต่อ

     

    "จิมมี่!!...........จิม....."

    ".....ผู้กอง!!!.........ช่วยด้วย!!!"

     

    เสียงของเด็กหนุ่มดังขึ้นจากถนนด้านซ้าย

    จิมมี่!!" มิลเลอร์รีบวิ่งไปยังต้นเสียง ชักปืนกลเบา ปลดเซฟตี้ พร้อมจะสาดกระสุนใส่อะไรก็ตามที่กำลังจะทำร้าย ลูกน้องของเขา

                                                                                                                                                   

    แล้วก็มาถึงต้นเสียง

     

    สิ่งที่มิลเลอร์ทำให้เขามึนงง

     

    เมื่อจิมมี่กำลังใช่ปืนพกของเขา ยิงไปยังชายในชุดทหารเยอรมัน 6 คน ที่ 'ไร้อาวุตต่อสู้'

     

    "จิมมี่!!" เขาเรียกชื่อลูกน้องของตนที่กำลังยิงกระสุนใส่ชายทั้ง 6 คนอย่างบ้าคลั่ง

    "ผู้กอง!! ช่วยผมด้วย พวกมันจะฆ่าผม..." เด็กหนุ่มหันมาขอความช่วยเหลือด้วยเสียงสั่นคลอ

     

    "..จิมมี่ วางอาวุตลง พวงเขาไม่มีอาวุตน่ะ!!" มิลเลอร์เตือนจิมมี่ เพราะเขากำลังทำในสิ่งที่ผิดอย่างมหัน

    "..ไม่!!..ผู้กองไม่เข้าใจ......." จิมมี่หันมาตอบ ก่อนหันไปพ้นกระสุน ใส่ชายคนหนึ่งที่กำลังวิ่งเข้าใส่ จนล้มกลิ่งลงไปกับพื้น

    มิลเลอร์ตะลึงกับสิ่งที่ลูกน้องของตนไดกระทำลงไป  "ก..แกทำบ้าอะไรของแกฟร๊ะ....." มิลเลอร์ตวาดใส่ทันที

     

    "..ผู้กอง...พวกนี้มัน....อ๊ากกก!!!" ไม่ทันที่จิมมี่จะอธิบาย ชายที่เขาพึ่งยิงจนล้มไปนั้นกลับคานเข้ามาเกาะที่ขาเข้า ก่อนจะงับเข้าที่น่องขาของเด็กหนุ่มจนร้องเสียงหลง มิลเลอร์ตกตะลึงสุดขีดกับสิ่งที่เห็น

     

    "อะ.......อะไรว่ะนั้น!!" มิลเลอร์แหกปากด้วยความตกใจ ก่อนจะชูปืนขึ้นในระดับสายตา เล็งไปยังชายที่กำลัง งับน่องขาของเด็กหนุ่ม ก่อนจะพ้นกระสุนเข้าที่หัวของชายคนนั้นเสียพลุน

     

    เด็กหนุ่มล้มลงกับพื้น  แหกปากร้องด้วยความเจ็บปวด แต่ไม่ได้ปืนพกของเขาลงแม้แต่น้อย

    จิมมี่........" มิลเลอร์พยายามเข้าไปช่วย จิมมี่ แต่แล้วก็มี กลุ่มอีกนับสิบเดินตรงมาหาเขา

     

    ทางจิมมี่ กระสุนปืนหมด.....

     

    "ผู้กอง......ช่วยผมด้วย.......ไม่ๆๆ" จิมมี่พยายามขอความช่วยเหลือ แต่แล้วชายอีก 5 คน ก็กรูเขามาหาเขา ก่อนจะลุมกัดกิน ทุกส่วนบนร่างกาย.....

     

    "..อ๊ากกก...ไม่..ได้โปรด....โอ้ยย.....พระเจ้า......" เด็กหนุ่มพยามร้องขอชีวิต แต่กลับไม่ได้รับความปราณีใดๆ จากชายห้าคน.........พวกเขาเข้ากัดกินร่างของเด็กหนุ่ม ราวกับเป็นอาหารอันแสนอร่อยที่อดห้ามใจไม่อยู่

    ต่อหน้าต่อตา นาวิกฯหนุ่ม ที่ยังตะลึงกับสิ่งที่เห็น

     

    '...นี้มัน.....นรกหรืออะไรกัน......'

     

    สายตาของเด็กหนุ่มจับจ้องไปยัง มิลเลอร์ สีหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ทรมาน ของเด็กหนุ่ม ทำเอามิลเลอร์แทบสะกตกลั้งความรู้สึกสงสารเอาไว้ไม่อยู่ เด็กหนุ่มหลับตาลงทั้งน้ำตา เหมือนจะทำใจยอมรับกับชะตากรรม

     

    ก่อนที่ร่างของเขาจะถูกฉีกออกเป็น อาหารของชายทั้ง 5 คนอย่างน่าสยดสยอง

     

    "Fuck you!!!!!"  มิลเลอร์สบตด่าอย่างเจ็บแค้น ก่อนจะสานกระสุนไปยังกลุ่มคนที่เหลืออย่างบ้าคลั่ง

     

     

    "แกร็กๆๆ"

     

    กระสุนหมดแมก มิลเลอร์สบตอย่างเยือเกย็นก่อนถอยมาตั้งหลัก เขาดึงแมกกาซีนที่เหน็บอยู่ข้างๆ โหลดเข้ารังเพลิง ก่อนดันเซฟตี้ปืนขึ้น สาดกระสุนเข้าใส่อีกครั้ง อย่างไม่ปราณี

     

    สาดเอากลุ่มคนล้มระเนระนาดลงกับพื้นราวกับกำลังยิงเป้าตุ๊กตาตามสวนสนุก

                                                                                                                                                

    "ไปลงนรกซะ!!!!..." มิลเลอร์สบตด่าอย่างบ้าครั้ง ก่อนที่กระสุนแมกที่ 2 ของเขาจะหมดลง

     

    เขาใช่มือซ้ายคลำกระเป๋าแมกกระสุนที่เน็บอยู่ที่เอว…….ก่อนจะสบตออกมา เมื่อพบว่ากระสุนสำรองหมดแล้ว

     

    "แม่งเอ๊ย!!!!" เขาเควี่ยงปืนกลเบาที่ไร้กระสุน ใส่ฝูงชนที่กำลังกรูเข้ามาราวกับฝูงมด ก่อนจะคว้าปืนพกคู่ใจออกมา

    แต่ไม่ทันการ ในขณะที่เขาจะหยิบที่พึ่งสุดท้ายออกมา ชายในชุดพลเมืองก็กระโจนเขาใส่ ทำเอานาวิกฯหนุ่มล้มลงไปกองกับพื้น ชายในชุดพลเมืองถือพรั่วเหล็ก เตรียงง้างตีนาวิกหนุ่ม

     

    "อย่า!!!!!!!!........"

     

     

     

    "ปัง!!....."

                                                                                                                                                

     

     

    เสียงปืนนึ่งนัดดังขึ้นจากด้านหลัง ก่อนที่กระสุนหัวแหลม จะพุ่งเข้าทะลุที่หน้าพากชากคนนั้นเข้าอย่างจัง

    มิลเลอร์หันไปหาต้นเสียง...ก็พบกับ……

     

    .........ชายในชุดหนังสีดำ ใบหน้าที่ดูขาวเนียนแบบเอเชีย กับสายตาที่จับจ้องไปยังเป้าหมายอย่างเยือกเย็น

    เขาถือปืนไรเฟิลไสนเปอร์ แบบลูกเลื่อน ที่เขาไม่คุ้นตา

     

    ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตาม เขาได้ช่วยชีวิตตนไว้อย่างหวุดหวิด

     

    ชายหนุ่มเอเชีย ชักลูกเลื่อนปืนออก ปรอกกระสุนทองเหลืองเด้งออกมาจากลำกล้อง ก่อนจะดันลูกเลื่อนกลับเข้าล๊อก แล้วเล็งไปยังเป้าหมายอย่างใจเย็น

    มิลเลอร์ลุกขึ้นและวิ่งตรงไปหลบข้างๆ ผู้มีพระคุณ ก่อนจะยกปืนพกขึ้นช่วยยิง

     

    เป็นการต่อสู้อย่างดุเดือดระหว่างฝูงคนนับสิบที่กรูกันเข้ามาอย่างบ้าคลั่งกับชายสองคนที่มีปืนไรเฟิลลูกลื่น และ ปืนพก .45

     

    เสียงปืนค่อยๆ เงียบลง ซากศพนับสิบๆ ร่างนอนเกลื่อนถนนจนแดงฉานไปด้วยเลือด มิลเลอร์หอบหายใจด้วยความอ่อนล้า  ก่อนหันไปสบตาหนุ่มเอเชีย

     

    "ขอบใจน่ะพวก....นี้ถ้า...เห้ย!!!" พูดยังไม่ทันจบ เด็กหนุ่มผู้ที่พึ่งช่วยชิวิตเขา กลับหันปืนไรเฟิลไปหาเขา ทำเอานาวิกหนุ่มสะดุ้งเฮือก

     

    "...ด..เดี๋ยวๆๆ เราพวกเดียวกันน่ะ.....อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ!!" มิลเลอร์พยามพูดโน้มน้าว ให้เด็กหนุ่มลดปืนลง

     

    "อเมริกัน?....." หนุ่มเอเชียถามเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงแปลกๆ "คุณเป็นอเมริกันใช่ไหม?......"

     

    "....นี้อย่าบอกน่ะว่านายเป็น..." มิลเลอร์หันไปพิจารณาชุดของเด็กหนุ่มก่อนจะตาค้าง เมื่อเห็นว่า เด็กหนุ่มคนนี้สวมชุดแบบเยอรมัน

     

    ".....ไม่ๆๆ เดี๋ยวใจเย็นก่อน คุยกันดีๆ ก็ได้นิพว......เห้ย!!ใจเย็น!!" มิลเลอร์พยามพูดโน้มน้าวอีกครั้ง พลางเดินเข้าใกล้เด็กหนุ่มแต่กลับได้กระสุนหนึ่งนัด ยิงเฉี่ยวหัวเขาไปนิด

     

    "ถอยออกไปครับ...." เด็กหนุ่มพูดเตือนก่อนจะชักลูกเลือนปืนออกและดันกลับอย่างรวดเร็ว

     

    "นี้ตอนนี้ไม่เวลาจะมารักชาติหรอกน่ะ สิ่งที่ควรทำตอนนี้คือเอาตัวรอด!!...."มิลเลอร์พูดเชิงเสนอแนะต่ออีกฝ่าย "...นายคงไม่อย่ากเป็นของขบเคี้ยวของพวกซอมบี้พวกนั้นหรอกน่ะ!!"

     

    แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่สนใจ กลับเล็งปืนมายังเขาแทน.....

     

    แต่แล้วก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นจากอีกฝั่งหนึ่งของถนน ทำให้เด็กหนุ่นเบนความสนใจไปยังเสียงระเบิดนั้น

    เปิดจังหวะให้มิลเลอร์ พุ่งเขาตะลุมบอลกับเด็นหนุ่มคนนั้นทันที

     

    แต่ด้วยไหวพริบ เด็กหนุ่มหันปืนมาทางเข้าอย่างรวดเร็วแต่มันช้าเกินไป......มิลเลอร์ปัดปืนไรเฟิลของเด็กหนุ่มกระเด้นไป ก่อนจะเสยเข้าที่มุมปากของเด็กหนุ่ม

     

    มิลเลอร์เตรียมเข้าซ้ำอีกรอบแต่หนุ่มเอเชียกลับรับหมัดของเขาได้ ก่อนจะสวนเข้าที่ปลายคางของมิลเลอร์เข้าเต็มๆ

     

    "อัก..." มิลเลอร์ผงะถอยห่างจากเด็กหนุ่มไป

     

    เด็กหนุ่มปาด เลือดที่ไหลอยู่มุมปากออก

     

    "ไม่เลวนิไอ๊หนู!! นึกว่าจะเก่งแต่ใช้ปืนเสียอีก หมัดหนักไม่เบาเหมือนกันน่ะ" มิลเลอร์ชมเชยเด็กหนุ่ม

    แต่เขากลับได้รอยยิ้มที่มุมปากเล็กๆ ของเด็กหนุ่มกลับมาเป้นคำขอบคุณ ก่อนที่เขาจะชักบางสิ่งบางอย่างออกมาจากเอวด้านซ้าย

     

    มันคือ ดาบยาวแบบ ญี่ปุ่น

     

    มิลเลอร์เองก็พึ่งสังเกตุเห็นว่าเด็กหนุ่มเองมีดาบเหน็บอยู่ที่เอว ถึงกับตาค้าง

    "เห้ย!!! ขี้โกงนี่หน่าใช่เครื่องทุ่นแรง!!.....เหวอ!!" มิลเลอร์สบตอย่างไม่พอใจก่อนจะเบี่ยวหลบคมดาบที่ฟาดฟันเข้ามาอย่างรวดเร็ว

     

    มิลเลอร์พยามหาจังหวะเพื่อตอบโต้ แต่เด็กหนุ่มกับฟาดฟันเข้ามาอย่างต่อเนื่อง นาวิกหนุ่มต้องเป็นฝ่ายถูกต้อนมาเรื่อยๆ ในขณะที่ทั้งสองกำลังฟาดฟันกัน จู่ๆมิลเลอร์ก็ได้ยินเสียงคำรามดังโหยหวนจากข้างหลังทำให้เขาละความสนใจไปยังเสียงนั้น

     

    เด็กหนุ่ม ฉวยจังหวะ ขัดที่ข้อเท้าของนาวิกหนุ่ม จนล้มก่อนเข้าค่อมตัวลงบน มิลเลอร์ จ่อดาบ คาตานะไปยังขอของนาวิกฯหนุ่มหมายเอาชีวิต

     

    "อย่าน่ะ....นายห้ามฆ่าฉันน่ะ" มิลเลอร์ร้องขอความเมตตา

     

    "งั้นเหรอครับ....." สิ้นเสียงเด็กหนุ่ม ก็ง้างดาบเตรียมทิ้มลงที่คอของมิลเลอร์

     

    "ด....เดี๋ยว!! นายฆ่าฉันไม่ได้น่ะ ฉันช่วยพานายหนีจากที่นี้ได้น่ะ" มิลเลอร์เสนอแนะ

     

    'นี้เราทำกำลังร้องขอชีวิต ไอ๊เด็กเมื่อวานซืนอยู่เหรอเนี่ย ขายขี้หน้าชะมัด!!" มิลเลอร์นึกสบตในใจ

     

    "งั้นเหรอครับ?....." เด็กหนุ่มแสยะยิ้มเล็กน้อย "...งั้นช่วยบอกหน่อย ว่าทำไมผมต้องไว้ชิวิตคุณ  ในเมื่อผมเองก็หาทางออกจากเมืองนี้ได้อยู่แล้ว"

     

    "..ก็....."มิลเลอร์ชะงักกับคำถามของเด็กหนุ่มถามกลับอย่างเยือกเย็น

     

    แต่แล้วเด็กหนุ่มก็เบนสายตาจากมิลเลอร์ไปยังอีกฟากหนึ่งของถนน

     

    ฝูกซอมบี้ชุดไหมกำลังกรูมาทางพวกเขา

     

    เด็กหนุ่มถอนหายใจแบบเซ็งๆ ก่อนจะลุกออกจากตัวของมิลเลอร์ เดีนตรงไปยังไรเฟิลที่ตกอยู่ใกล้ๆ

    มิลเลอร์ลุกขึ้นหันไปมอง ฝูศพเดินได้อย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนเดินตรงมายังเด็กหนุ่ม

     

    "ตกลงนาย.....อุ๊ป!!" ไม่ทันได้ถามอะไร เด็กหนุ่มก็โยนปืนกลเบาแบบญี่ปุ่น หน้าตาคล้ายปืนเสต็นแบบอังกฤษ ใส่มิลเลอร์

     

    "เอาไว้ป้องกันตัวครับ...." เด็กหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ ก่อนเดินนำไปทางอื่นโดยไม่สนใจมิลเลอร์และฝูงซอมบี้แม้แต่นิด

     

    "อ...อ้าวเห้ย!! เดี๋ยวนั้นนายจะไปไหนอะ? รอด้วย!!" มิลเลอร์วิ่งตามเด็กหนุ่มไปแบบติด หันไปมองกลุ่มซอมบี้เป็นระยะ

     

     

     

     

     

    มันเวรกรรมอะไรของฉันฟร๊ะเนี่ย!!!

     

    …………………………………………………………………………………………………….....

     

     

     

     

     

    To be continue

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×