ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic KHR] 5986 - Can I be him ?

    ลำดับตอนที่ #9 : Unit 8 : หลอกให้อยากแล้วจากไป :)

    • อัปเดตล่าสุด 19 ส.ค. 54


    หมายเหตุ : ตอนนี้เป็นบทที่เศร้าตอนแรกแล้วหวานตอนท้ายนะคะ ขอโทษทีที่หลอกในตอนที่แล้ว
    สัญญาว่าตอนหน้าหวานหยดจริง ๆ ค่ะ :D (เพราะตอนนี้แต่งถึงบทที่ 11 แล้วค่า XD)


    บทที่ 8 : หลอกให้อยาก ...แล้วก็จากไป -,.-

                ชายหนุ่มผมสีเทาวิ่งกระหืดกระหอบไปบนถนนที่มีแต่ผู้คนพลุกพล่าน และต่างส่งเสียงดังจอแจจูหูอื้อไปหมด แต่ทว่าชายหนุ่มก็ไม่ได้สนใจ เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งผ่าผู้คนไปเท่านั้น

                ...แหวนวองโกเล่ หายไปไหนก็ไม่รู้ ชายหนุ่มสบถในใจ ...ของสำคัญขนาดนี้ ลืมได้ไงวะเนี่ย !

                ชายหนุ่มวิ่งไปเรื่อย ๆ ตามทางจนมาหยุดที่หน้าบ้านของฮารุ ซึ่งไม่ค่อยมาที่นี่บ่อยนัก แต่ทว่าเขาก็ยังจำเส้นทางได้อย่างแม่นยำ

                ...ก็ไม่ได้อะไรกับยัยต๊องนี่หรอกนะ เพียงแต่คนที่เขาคิดออกว่าแหวนจะอยู่ที่ใครก็คงจะมีแต่ยัยนี่แค่เพียงคนเดียว ยังไงก็ขอให้อยู่ที่ยัยนี่ด้วยเถอะ เพราะไม่อย่างนั้นเขาก็คงจนปัญญาที่จะเค้นสมองคิดแล้วว่าแหวนจะไปตกอยู่ที่ใคร

                ชายหนุ่มกดกริ่งรัวอย่างร้อนใจ แต่จนกระทั่งผ่านไป 5 นาทีแล้วก็ยังคงไม่มีวี่แววหรือแม้แต่เสียงของเจ้าของบ้าน โกคุเดระจึงตะโกนเข้าไปในบ้าน

                “ยัยต๊อง !! ออกมาเปิดประตูบ้านสิวะ !” ก็อยากจะเกรงใจพ่อของฮารุอยู่หรอกนะ แต่พอดีเขาร้อนใจจริง ๆ

                ...เงียบ ไม่มีเสียงใดตอบรับกลับมา ชายหนุ่มรู้สึกกระตุกวูบภายในใจเล็กน้อย จึงตัดสินใจปีนประตูหน้าบ้านของฮารุ แล้วสลัดรองเท้าออกโดยที่ไม่เสียเวลาถอดออก แล้วลองบิดลูกบิดประตูดู

                ...ไม่ได้ล็อก ?

                ชายหนุ่มนิ่งไปสักพัก เหงื่อแตกขึ้นมากลางหลัง ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่หน้าร้อนและแดดวันนี้ก็ไม่ได้อบอ้าวอะไร

                ...หรือจะเกิดอะไรขึ้นกับยัยบ้านั่น !? หลังจากคิดได้ ชายหนุ่มก็รีบกระชากประตูให้เปิดออกแล้วรีบวิ่งเข้าไปในบ้าน ก่อนจะตะโกนเรียกชื่อของหญิงสาวเจ้าของบ้านเสียงดังพอที่จะได้ยินทั่วทั้งบ้าน “ยัยต๊อง ! ยัยบ้า !!! อยู่ที่ไหนน่ะ ? ขานตอบด้วยสิว้อย !! “ พลางเดินไปรอบบ้านชั้นล่างแล้วกระชากประตูทุกบ้านให้เปิดออก

                ...หลังบ้าน ? ฉับพลันความคิดนี้ก็แล่นเข้ามาในสมอง พลางสบถอย่างโมโหตัวเองที่กว่าจะคิดออกก็เสียเวลาไปหลายนาที

                ชายหนุ่มกระชากประตูหลังบ้านที่เป็นห้องซักรีดออก ก่อนจะพบร่างบางที่ตัวเองตามหาอยู่ น่าแปลกที่เขาไม่ได้ดีใจที่หาตัวหญิงสาวเจอ ในสภาพที่ปลอดภัย ตรงกันข้าม สีหน้าของชายหนุ่มกลับฉายแววปวดร้าวอย่างชัดเจน

                “...ฮารุ” ชายหนุ่มเรียกชื่อร่างบางอย่างแผ่วเบา อยากจะเอื้อมมือเข้าไปกอดร่างบางที่ตอนนี้ใบหน้าเขลอะกรังไปด้วยคราบน้ำตา อยากจะกระซิบที่ข้างหูเบา ๆ ว่า ไม่เป็นอะไรแล้วนะแต่เขาก็ทำไม่ได้

                ...เขาคงจะทำได้ ...ถ้าร่างบางกำลังพร่ำเพ้อถึงชื่อเขาอยู่ในตอนนี้

                ...แต่มันไม่ใช่ชื่อของเขา ...ไม่เคยใช่ชื่อเขาเลย

                “...คุณสึนะ” ร่างบางกระซิบเสียงเบา ฮารุในตอนนี้ช่างดูบอบบาง อ่อนแอ และเศร้าสร้อยเสียเหลือเกิน หญิงสาวหลับตาพริ้ม เหมือนกำลังตกอยู่ในห้วงนิทรา แต่ดูไปดูมาก็เหมือนว่าไม่ได้หลับ เพียงแค่ไม่มีสติอยู่กับตัวเท่านั้น

                ชายหนุ่มยิ้มขื่นรู้สึกเจ็บแปลบเหมือนหัวใจจะขาดรอน ก่อนจะย่อเข่านั่งลงข้าง ๆ หญิงสาวแล้วเอื้อมมือไปหยิบปอยผมที่ตกลงมาปรกใบหน้าทัดหูหญิงสาวอย่างอ่อนโยน ชายหนุ่มโน้มหน้าลง กระซิบเสียงเจ็บปวดลงข้าง ๆ ใบหูของฮารุ

                “...ไม่เป็นไร”

                “...คุณสึนะ”

                “...ฉันอยู่ตรงนี้ไง ...ข้าง ๆ เธอแล้วนะ”

                “...คุณสึนะ”

                “...มองมาที่ฉันสักทีสิ”

                “...ฮึก”

                “...ฮารุ”

     

                โกคุเดระอุ้มร่างบางเข้าแนบอก ก่อนจะเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง ใช้เท้าเตะเปิดประตูห้องที่มีป้ายติดชื่อเจ้าของห้องอยู่ข้างหน้า

                ชายหนุ่มค่อย ๆ วางร่างของฮารุที่ยังไม่ได้สติลงบนเตียง แล้วเอื้อมมือไปห่มผ้าให้

                ...ยังไงก็คงจะต้องรอดูยัยนี่สักพักล่ะนะ

                โกคุเดระยืนมองหญิงสาวสักพักหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจหันหลังเดินลงมาข้างล่าง ชายหนุ่มนิ่งคิดสักพัก ก่อนจะหมุนตัวไปที่ห้องครัว

                ...อย่างน้อยถ้ามีอะไรรองท้องตอนตื่นขึ้นมาใหม่ ๆ ก็น่าจะดี แต่ทั้ง ๆ ที่คิดอย่างนั้น พอชายหนุ่มเดินมาถึงห้องครัว ก็ตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

                ...ก็แหงสิ ! คนอย่างเขาทำกับข้าวอะไรเป็นที่ไหนล่ะ ?

                ...แล้วไอ้ที่กิน ๆ อยู่ทุกวันนี้ก็เป็นเพียงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไม่ก็โจ๊กคัพเท่านั้น

                ...เอ๊ะ เดี๋ยวนะ ...โจ๊กคัพ ?

                ชายหนุ่มดีดนิ้ว ...อย่างน้อยถ้าเป็นโจ๊กคัพเขาก็ยังทำได้ แถมตื่นขึ้นมาใหม่ ๆ ก็น่าจะทานอะไรร้อน ๆ ด้วย อีกอย่าง ...ถึงจะเป็นบ้านฮารุก็น่าจะมีโจ๊กคัพเผื่อเอาไว้บ้างล่ะนะ

                ...ว่าแล้วก็เปิดหาซะเลย !

                โกคุเดระเปิดหาไปเรื่อย ๆ แล้วก็เจอ เขาหยิบออกมาหนึ่งถ้วย เสียบปลั๊กกาน้ำร้อนแล้วนั่งรอ

                ติ๊ง ! หลังจากรอไปพักใหญ่ หาต้มน้ำก็ส่งเสียงออกมา ...น้ำเดือดแล้วล่ะมั้ง ? ชายหนุ่มคิดพลางดึงปลั๊กกาต้มน้ำออก เปิดฝาโจ๊กคัพ แล้วเติมน้ำลงไป

                “...หอมจัง อ๊ะ ! คุณโกคุเดระ ?” เสียงหวานใสดังขึ้นข้างหลังชายหนุ่ม ทำเอาโกคุเดระตกใจจนเผลอทำน้ำร้อนหกลวกมือตัวเอง “อะ โอ๊ย !!

                “ปะ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ ?” ร่างบางเมื่อเห็นโกคุเดระมือแดงจากการโดนน้ำร้อนลวก ก็รีบนำกระดาษทิชชู่มาซับมือให้ชายหนุ่ม

                โกคุเดระยืนอึ้งปล่อยให้ร่างบางเช็ดมือตัวเอง ก่อนจะรู้สึกตัวแล้วรีบชักมือออก “ธะ เธอ ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ ?

                ฮารุถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะใช้สายตามองชายหนุ่มอย่างหน่าย ๆ “จะตื่นได้ยังไงกันล่ะคะ ? ก็ไม่ได้หลับตั้งแต่แรกแล้วนี่นา”

                ชายหนุ่มมีสีหน้าช็อคจัด “งั้นเธอก็ได้ยินหมดเลยอะดิ ?!!!

                เพียงแต่ร่างบางมองมาที่โกคุเดระอย่างงง ๆ “ได้ยินอะไรกันคะ ? ฮารุแค่เป็นลมนิดหน่อยเอง หรือว่าตอนที่ฮารุเป็นลมไป คุณแอบนินทาอะไรฮารุหรือเปล่าคะ ?” ก่อนจะมองไปที่ชายหนุ่มอย่างจับผิด

                ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ก็รู้สึกผิดหวังเล็ก ๆ ที่ร่างบางไม่ได้ยินสิ่งตัวเองพูดเลยแม้แต่นิดเดียว ชายหนุ่มดันโจ๊กคัพที่ตอนนี้ครบตามเวลารอทานแล้วไปทางหญิงสาว ฮารุมองหน้าโกคุเดระเล็กน้อยก่อนจะรับมากิน

                ระหว่างที่รอร่างบางกินโจ๊ก ชายหนุ่มก็นึกอะไรออก

                ...เกือบจะลืมเหตุผลที่มาบ้านยัยบ๊องนี่แล้วมั้ยล่ะ ?

                “...นี่” ชายหนุ่มเริ่มพูด “เห็นแหวนของฉันมั้ย ?

                หญิงสาวหยุดกึก ก่อนจะเงยหน้ามามองโกคุเดระด้วยแววตาเฉยเมย แล้วพยักหน้าช้า ๆ “ค่ะ อยู่ที่ฮารุเอง” ก่อนจะวางชามโจ๊กแล้วพูดต่อ “งั้นเดี๋ยวฮารุไปหยิบมาให้แล้วกันนะคะ” ก่อนจะเดินไปที่หลังบ้าน ...เวลาผ่านไปพักใหญ่จึงเดินกลับเข้ามาที่ห้องครัวอีกครั้ง แล้วแบมือที่มีแหวนวองโกเล่วายุวางอยู่ยื่นไปตรงหน้าชายหนุ่ม “...อ่ะ”

                ชายหนุ่มรับแหวนที่อยู่ในมือของหญิงสาวมาก่อนจะสวมเข้าไปที่นิ้วกลางข้างขวา ชายหนุ่มมองไปรอบ ๆ บ้านของฮารุ ก่อนจะเอ่ยถามคำถามที่คาใจตัวเองอยู่ตั้งแต่เข้าบ้านฮารุออกมา “...ว่าแต่พ่อของเธอล่ะ ?

                “ไม่อยู่แล้วค่ะ” ร่างบางว่าก้มหน้าก้มตาตักโจ๊กเข้าปาก

                แต่ชายหนุ่มช็อคทันที ...จะบ้าหรือไง ตอนนั้นที่เขาเดินมาส่งยัยต๊องนี่เขายังเห็นเงาของพ่อของฮารุอยู่ในบ้านอยู่เลย หรือเงานั่นจะเป็นวิญญาณกันนะ ?!! แล้วอีกอย่าง ...ทำไมเวลาพูดถึงพ่อที่เสียไปแล้ว ยัยนี่ยังก้มหน้าก้มหน้ากินโจ๊กอย่างสบายใจได้อยู่อีกนะ ?

                “...ไปต่างประเทศน่ะค่ะ” หญิงสาวเติมประโยคต่อจนจบ

                ชายหนุ่มลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ “...แล้วเธอก็อยู่บ้านคนเดียวเนี่ยนะ ?” ...ยัยบ้านี่ พูดซะคิดไปไกลหมด !

                “ออกจะบ่อยออกค่ะ เพราะคุณพ่อต้องไปทำงานที่ต่างประเทศบ่อย ๆ”

                “ไม่ได้หรอก ถึงจะโตแล้วแต่เธอก็เป็นผู้หญิงนะ !! แถมยังเผลอเปิดประตูบ้านทิ้งไว้โดยที่ไม่ล็อกประตูอีก” ชายหนุ่มบ่นยาวเป็นไฟ ...ก็มันจริงนี่ !! ไม่รู้ว่ายัยนี่ลืมหรือตั้งใจจะเปิดบ้านต้อนรับโจรกันแน่ !

                “ขี้บ่นจริง ๆ” ฮารุอุบอิบ แต่ก็ไม่ได้บ่นอะไรออกไป ...นั่นเป็นเพราะว่าเธอกะจะกลับมาปิดที่หลังหรอกน่ะ ! “...แล้วฮารุมีทางเลือกอื่นที่ไหนล่ะคะ ?

                โกคุเดระถอนหายใจหน่าย ๆ ก่อนจะยกมือถือขึ้นมากดเบอร์ที่ไม่ค่อยจะโทรไปเท่าไหร่นัก “ซาซางาวะหรอ ? พอดีอยากจะขอให้ฮารุไปนอนพักที่นั่นน่ะได้มั้ย ?” มีเสียงตอบรีบอ่อย ๆ กลับมาที่ปลายสายนิดหน่อย “...มีญาติมางั้นหรอ ? งั้นไม่เป็นไร”

                “ได้มั้ยคะ ?” ฮารุพูด น้ำเสียงประชดประชัน โกคุเดระหันมามองแบบหงุดหงิดเล็กน้อย เล่นเอาหญิงสาวแทบจะหลุดก๊ากสมน้ำหน้าออกมา

                โกคุเดระจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปกดเบอร์อีกเบอร์แทน ซึ่งเป็นเบอร์ที่เขาโทรหาบ่อยที่สุดในช่วงนี้ “(...) อาเจ๊หรอ ? พอดีมีปัญหานิดหน่อย กะจะโทรมาปรึกษารุ่นที่สิบน่ะ (...) อืม พอดีมีปัญหานิดหน่อย ไม่รู้ว่าจะให้ฮารุไปพักที่บ้านใครดีน่ะ (...) เปล่า ไม่ใช่หรอก บ้านรุ่นที่สิบคนเยอะเกินไป แล้วก็ไม่อยากรบกวนด้วย (...) ก็นอกจากซาซางาวะก็ไม่รู้จะขอให้ใครช่วยแล้ว (...) เจ๊จะบ้าหรือไง ? ยัยนั่นเป็นผู้หญิง ผมเป็นผู้ชายนะ !!! (...) ยังไงยัยนั่นก็ไม่ยอมหรอก (...) ก็ยัยนั่นเป็นผู้หญิงจะให้อยู่บ้านคนเดียวได้ยังไง (...) กะ ก็มันไม่เหมือนกัน !!! (...) เออ ๆ จะลองบอกยัยนั่นดูก็ได้ ชิส์ !!” โกคุเดระกดวางสายอย่างอารมณ์เสีย

                “มีอะไรหรอคะ ?” ฮารุถามเมื่อเห็นสีหน้าลำบากใจของชายหนุ่ม

                “...ท่าทางว่า”

                “...”

                “...ฉันจะต้อง”

                “...”

                “...นอนกับเธอแล้วล่ะ ...ฮารุ”

                “...!!!!!

     

                SPECIAL PART : การคุยโทรศัพท์ของเบียงกี้กับโกคุเดระ

                กริ๊งงงงงง กริ๊งงงงงง

                เสียงโทรศัพท์แผดเสียงร้องไปทั่วบ้าน หญิงสาวผมสีม่วงแดงเดินออกมาก่อนจะพูดตอบโทรศัพท์กลับไป ซึ่งก็ไม่ใช่จากใคร จากน้องชายสุดน่ารักในไส้ของเธอเอง J       

                “...ฮัลโหล”

                (อาเจ๊หรอ ? พอดีมีปัญหานิดหน่อย กะจะโทรมาปรึกษารุ่นที่สิบน่ะ)

                “สึนะไม่อยู่บ้าน มีอะไรปรึกษาฉันก็ได้นี่ ฮายาโตะ”

                (อืม พอดีมีปัญหานิดหน่อย ไม่รู้ว่าจะให้ฮารุไปพักที่บ้านใครดีน่ะ)

                “...แล้วจะให้ฮารุมานอนที่นี่อย่างนั้นหรอไง ?

                (เปล่า ไม่ใช่หรอก บ้านรุ่นที่สิบคนเยอะเกินไป แล้วก็ไม่อยากรบกวนด้วย)

                “...แล้วไม่มีใครอีกแล้วหรอที่พอจะให้ช่วยได้น่ะ ?

                (ก็นอกจากซาซางาวะก็ไม่รู้จะขอให้ใครช่วยแล้ว)

                “...ก็ไม่เห็นยาก เธอก็อยู่เป็นเพื่อนฮารุสิ”

                (เจ๊จะบ้าหรือไง ? ยัยนั่นเป็นผู้หญิง ผมเป็นผู้ชายนะ !!!)

                “...ก็ลองบอกฮารุก่อน ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยนี่”

                (ยังไงยัยนั่นก็ไม่ยอมหรอก)

                “...แล้วฮารุอยู่บ้านคนเดียวไม่ได้หรือไง ?

                (ก็ยัยนั่นเป็นผู้หญิงจะให้อยู่บ้านคนเดียวได้ยังไง)

                “...แหม น่าอิจฉาฮารุจังเลยนะ ทีพี่อยู่คนเดียวตั้งบ่อย เธอไม่เห็นจะเป็นห่วงพี่บ้างเลย”

                (กะ ก็มันไม่เหมือนกัน !!!)

                “...หึหึ หรอ J

                (เออๆ จะลองบอกยัยนั่นดูก็ได้ ชิส์ !!) ก่อนที่น้องชายคนเดียวของเธอจะกดตัดสายไป เบียงกี้หัวเราะหึหึกับโทรศัพท์ “อ้าว ...กลับมาแล้วหรอจ๊ะ รีบอร์น ?

                “คุยกับใครหรอเบีบงกี้ ? ท่าทางมีความสุขดีนี่” เด็กน้อยสวมชุดสูทถาม ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็แอบฟังมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว

                เบียงกี้อมยิ้มเล็กน้อย “...ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ ก็แค่น้องชายในไส้ที่คลานตามกันมากำลังจะโตเป็นหนุ่มเท่านั้นแหละ J” ก่อนจะเอื้อมมือลงไปอุ้มรีบอร์นขึ้นมา “...ไปหาหม่าม้ากันเถอะจ้ะ”

     

    20.49 @ 16/08/54

    I’M NEGATIVE (KANOKJAN.KA)
    คงจะจบไม่เกิน 18 บทค่ะ
    ตอนหน้า หวาน & น่ารักสุด ๆ !!
    พลาดแล้วจะเสียใจร้อยเปอร์เซ็นค่ะ !!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×