คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : จั ก ร ว า ล † 'คราบคาว V' (อัปครบ)
จั ก ร ว า ล
#นิยายเรื่องนี้มีคำพูดที่หยาบคายสร้างความปั่นป่วนทางจิตใจ ฉากไม่เหมาะสมคุณสามารถข้ามผ่านมันได้ หากคุณไม่ชอบกรุณากด (X) และหากคุณชอบกรุณากดติดตาม
เพจ กลุ่มลับหาในเพจนะคะ
*******
JAKAWAN & EVE
EPISODE
๐.๘ จั ก ร
ว า ล † 'คราบคาว V'
“แล้วจะขึ้นเสียงหาพ่อง?” ฉันพูดสลัดมือเดินเข้าไปหาไอ้โน
“ไงไม่เจอกันนาน” ฉันทักไอ้โนด้วยการเกี่ยวคอมันเดินเข้ามาในตัวบ้าน
เห็นจักรวาลมองเคืองแต่ก็ตามเข้ามา
เราเดินมาหยุดที่โซฟาไอ้โนเป็นคนดึงแขนฉันออกแล้วหันไปพูดกับไอ้จักรวาลว่า
“เดี๋ยวคนอื่นตามมาระหว่างนี้กูมึงเรื่องจะคุยกับอีฟ”
ไอ้โนจงเจาะเข้าประเด็นทันทีจักรวาลเลิกคิ้วเชิงถามต่อไอ้โนเลยเดินเข้าไปตบไหล่กระซิบข้างหูจักรวาล
ฉันรู้สึกถึงรังสีแปลก
ๆ จากจักรวาลแต่เมื่อไอ้โนพูดจักรวาลเลยยอมด้วยการดันตัวไอ้โนออกแล้วหันมามองฉัน
“งั้นกูไปซื้อเหล้ากับน้ำแข็ง”
ฉันคิดว่าจักรวาลพูดกับฉันก่อนจะออกไป
ในตอนแรกฉันคิดว่าไอ้โนจะเล่าเกี่ยวกับสาวที่มันตามจีบไปถึงเมืองนอก
แต่เปล่าเลยเมื่อจักรวาลออกจากบ้านไป
สิ่งแรกที่ไอ้โนทำก็คือการปิดประตูหน้าต่างทุกบาน
ย้ำว่าทุกบาน
ความรู้สึกฉันคือ
ไม่ได้กลัวไอ้โนจะทำอะไรหรอก เพียงแต่ไม่เข้าใจเหตุผลที่มันกำลังทำมากกว่า
ในเมื่อก่อนหน้านี้ไม่กี่วินามันยังยิ้มยังพูดจากับพวกเราด้วยท่าทีปกติ
ดูตอนนี้สิมันดูเคร่งเครียด
หรือว่ามันจะอกหักแล้วถูกเขี่ยทิ้ง
“มึงโอเคมั้ย”
ฉันนั่งเงียบพูดขึ้นตอนที่ไอ้โนเดินกลับมาพร้อมกับกรงอะไรสักอย่าง สายตามันดูคาดหวังมาก
“กูต้องโอเคเรื่องอะไร” มันถามวางกรงนั้นลงบนพื้นตามด้วยนั่งลงข้างฉัน
ระยะสายตาของเรามองกรงนั้นตลอด ไม่ใช่แค่มันที่มองแต่เป็นฉันด้วย
“ก็เรื่องแฟนมึงไง” ฉันพูดในน้ำเสียงที่เป็นกลาง
เห็นอยู่ว่าไอ้โนไม่ปกติทั้ง ๆ ที่มันเป็นคนเฮฮาที่สุดในกลุ่ม
กลุ่มจักรวาลมีสามคน
คือ จักรวาล เงิน และ โน ทั้งสามเป็นเพื่อนรักเป็นครอบครัวเลยก็ว่าได้ เงิน
นิสัยคล้ายจักรวาลแต่มีข้อดีกว่าเยอะตรงที่ไม่ชอบใช้กำลังแต่ใช้สมองในการตัดสิน
ส่วนไอ้โนต่างจากสองคนตรงที่มันเป็นคนอ่อนไหวง่าย
พวกมันสนิมกับฉันแต่ฉันไม่ได้สนิทกับไอ้โนเท่าที่ควร
“กูโสด” มันบอกแล้วยิ้ม
แววตามันดูเศร้าจากนั้นมันก็เปลี่ยนเรื่องทันที “ที่กูไห้ไอ้จักรวาลออกไปเพราะกูอยากคุยกับมึงวะไอ้อีฟ”
“ว่า” ฉันมองหน้าคนตรงหน้า
สัมผัสถึงความตึงเครียดเล็ก ๆ
“กูมีคนที่แอบชอบ”
“…”
“กูไม่อยากให้เขารู้” สายตามันเปล่งประกายทุกครั้งที่มองหน้าฉัน
“กูชอบมะมึง..”
“ปิดประตูทำห่าอะไรวะ”
ปัง
ปัง
แรงกระแทกจากด้านนอกทำให้ไอ้โนมีสติ
มันขยับตัวออกห่างจากฉันทันที ร่างหนาลุกออกไปเปิดประตู เมื่อคิดดี ๆ เมื่อกี้เขาพูดว่าชอบเหรอ?
ชอบใคร?
“ทำอะไรวะไอ้โน” เสียงห้าวถามและเบาลงเมื่อเห็นฉันนั่งอยู่
“อีฟเหรอวะ”
“เออ” ฉันตอบรับลุกไปเปิดหน้าต่างทำให้บ้านสว่างทันที
คนที่เป็นบุคคลที่สามที่เข้ามาเป็นไอ้เงิน
มันขับรถมากับรามเกียรติ์สองคนนี้สลับมองหน้าเมื่อเห็นฉันนั่งอยู่
พวกมันคงตีความเป็นอย่างอื่น
เช่น อีฟมาทำไม มาตอนไหน มาได้ยังไง ทำไมถึงได้อยู่กับไอ้โนสองต่อสอง
ทำไมต้องปิดประตูหน้าตาทุกบาน
“มึงทำอะไรไอ้โน” ไอ้เงินหันไปถามตอนที่วางพวกของกินเล่นลงบนโต๊ะ
“กูเปล่า” ไอ้โนตอบ
สายตาพวกมันจริงจังเกินไปจนทุกคนได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของจักรวาล
“มึงอย่าให้ไอ้จักรวาลรู้เรื่องนี้เด็ดขาด”
ไอ้เงินย้ำกับทุกคนในที่นี้ ท่าทางคล้ายกลัวไอ้จักรวาล ฉันเองไม่แน่ใจว่ามันย้ำกับฉันด้วยหรือเปล่าจนกระทั้งไอ้จักรวาจกลับมาพร้อมของที่ว่า
“พวกมึงยืนทำห่าอะไรกันแล้วคนอื่นละ”
จักรวาลหันไปถามไอ้เงินในตอนที่เดินมานั่งข้างฉัน สายตามันโฟกัสกรงเล็ก ๆ
ซึ่งวางอยู่บนพื้นห้อง
“กรงอะไร?”
มันถามไอ้โนซึ่งเดินออกมาจากห้องครัวตอบว่า
“มึงเปิดดูสิ”
“ทำไมกูต้องเปิด” จักรวาลพูดต่อ
“ก็มึงเสือกคนแรก” ไอ้โนว่าไอ้จักรวาลจึงเหลือบมองมันตามด้วยดันตัวฉันให้ออกห่างจากกรง
สองมือหนาเอื้อมหยิบกรงนั้นขึ้นมา
ไอ้เงินไม่ได้สนใจจุดตรงนี้นอกจากลากถังน้ำแข็งออกไปบ้านส่วนไอ้รามเกียรติ์กำลังนั่งจัดของกินเล่นคนที่สนใจกรงนี้มีแค่ฉันจักรวาลและไอ้โน
“มึงไม่ได้เล่นอะไรพิเรนทร์” ฉันมองผ่านกรงนั้นซึ่งไอ้โนใช้ผ้าปิดไว้
จักรวาลมองไอ้โนสิ่งเดียวที่มันทำคือการแค่นหัวเราะ
“หึ”
แต่แล้ว
เมี๊ยวว
แววตาจักรวาลเปล่งประกายทันทีเมื่อได้ยินเสียงร้องของแมวตัวน้อย
ๆ จากกรง เขาไม่ได้มองหน้าใครไม่ได้มองหน้าฉันหรือไอ้โน สิ่งที่จักรวาลสนใจคือกรงที่อยู่ในมือเขาต่างหาก
จนกระทั้งเขาเปิดมันออกมาแล้วพบว่าลูกแมวพันอะไรสักอย่างตัวอ้วน
ๆ ขนสีขาวตาสีฟ้า
“มึง” จักรวาลสตั้นไปสามวิ
ฉันเห็นความน่ารักในตัวมันเป็นครั้งแรก
ฉันไม่เคยเห็นจักรวาลเป็นแบบนี้มาก่อน อาการคนหลงอะไรสักอย่าง
อย่าบอกนะว่ามันชอบแมว
“กูซื้อให้เขาแต่เขาดันไม่ชอบ”
ไอ้โนกำลังจะบอกที่มาของแมวตัวนี้ใช่ไหม “กูก็เลยเอากลับมาเมืองไทย
กูไม่คิดว่ามึงจะบ้าแมวเหมือนเมื่อก่อน”
จักรวาลไม่ได้สนใจฟังอะไรนอกจากเล่นกับแมวตัวน้อย
ๆ เขากำลังหอมมันอยู่ ไอ้โนได้แต่ส่ายหัวส่วนฉันกำลังนั่งงงว่า ไอ้เวรนี่ตัวใหญ่เท่าช้าง
สักทั้งตัว ใช้ชีวิตกลางคืนนอนกลางวัน ชอบดื่มเหล้าเป็นประจำแต่กลับหลงรักแมว
วอทเดอะฟัค
พรึบ
ฉันเลยไม่อยู่ต่อเลือกลุกเดินออกจากโซฟา
เหลือบมองจักรวาลอีกครั้ง สายตามันไม่ได้มองฉันด้วยซ้ำ
เนื่องจากมันกำลังเล่นกับแมว ฉันจึงเดินออกจากตรงนั้นหามุมเล็ก ๆ เพื่อคุยโทรศัพท์กับทิศ
ย้อนกลับไปเมื่อก่อนหน้านี้สักสองชั่วโมง
ตอนนั้นฉันกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องจักรวาลแล้วทิศดันโทรมา ฉันไม่ได้รับสายเขาและไม่ได้โทรกลับไป
เวลานี้เหมาะเพราะทุกคนกำลังอยู่ในส่วนที่ผ่อนคลาย
ฉันเลยนั่งอยู่ในโซนของห้องครัวเป็นโต๊ะทานข้าว ตรงหน้าเป็นตู้เย็นกับพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า
ฉันกดโทรหาทิศไม่เกินสามสิบวิปลายสายดันกดรับ
[ค่ะ] เสียงผู้หญิงพูดเข้ามาในสาย
อย่างแรกคือฉันมองเบอร์ที่เมมไว้ มันเป็นเบอร์ทิศและชื่อเขา
“ขอสายเจ้าของมือถือหน่อย” ฉันบอก
ไม่ได้คิดอะไรคิดว่าแค่เพื่อนเขาแต่รู้ไหมเมื่อฉันพูดไปแบบนั้นเจ้าของเสียงพูดกลับมาว่าไง
[เขานอนอยู่หรือเธอจะให้ฉันปลุกเขาเหรอ]
นอนเหรอ?
สิบเอ็ดโมงนี่นะทิศนอน
ฉันจะไม่งงถ้าเสียงทิศไม่แทรกเข้ามาในตอนนั้น
[เกรซใครโทรมาหนวกหู] เสียงเขาบอกถึงการง่วงนอน
ถ้าให้ฉันคิดทบทวนอีกครั้งเสียงนี่มันก็ยังเป็นเสียงทิศและแน่นอนว่าทิศอยู่กับผู้หญิงคนนั้นบนเตียงหรือส่วนไหนก็ได้ที่เป็นห้อง
เพราะเสียงมันก้องมาก
โอเค
มันอาจจะดูไร้สาระถ้าเราตีประเด็นเข้าใจแบบผิด ๆ คิดไปเอง ฉันจึงตัดส่วนคำว่า ‘ชู้’ ออกไปก่อนมองโลกให้กว้างขึ้น
ทิศไม่ใช่คนมั่วหรือยุ่งกับผู้หญิงคนไหน
เขาคบแค่ฉันมีแค่ฉัน ฉันคิดแบบนั้นมาตลอด
ฉันเลยกรอกตามองบนเพื่อไล่ลมตรงขอบตา
สองมือเริ่มเปียกแฉะ ริมฝีปากเม้มปากแน่นจนใจหายแต่ฉันก็เป็นคนคิดบวกไม่โวยวาย
ทุกอย่างต้องมีเหตุผลเสมอ
“บอกเขาให้ลุกมาคุยกับฉันเดี๋ยวนี้”
ในวงการเที่ยวกลางคืนไม่มีใครไม่รู้จักฉันและไม่มีใครกล้าหาเรื่องฉัน
ถ้าทิศรักชีวิตเขาจะไม่นอกใจและทำเรื่องระยำแน่
[ถามเขาแป๊บ] ผู้หญิงคนนั้นตอบกลับรำคาญแล้วเสียงวางมือถือดังขึ้น
ทุกการเคลื่อนไหวฉันฟังหมด
ฉันได้ยินเสียงผ้าเสียดสีกัน ฉันได้ยินเสียงจูบ
ฉันได้ยินเสียงคางต่ำในคอตามด้วยเสียงทิศที่พูดขึ้นว่า
[ไว้ต่อคืนนี้ตอนนี้ฉันหมดแรงแล้ว]
“หึ” ฉันได้แต่แค่นหัวเราะกำมือถือไว้แน่น
ขอบตามันร้อนจนฉันต้องกดวางสายไป ฉันไม่ใช่ประเภทที่เชื่อใครง่าย
ฉันไม่ได้หูหนวกตาบอดหรือโง่จนไม่รู้ว่าอะไรคืออะไร
ถามว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่
ฉันจะบอกไว้ว่า น้ำตาฉันไม่มีไว้สำหรับพวกสารเลว ถ้าทิศคิดจะเล่นกับฉัน
ฉันจะให้เขาเล่นและเขาก็ต้องเล่นไปตามแผนฉัน
ฉันไม่เอามันไว้ทำพันธ์หรอก
ถ้าคิดว่าทิศเลวฉันจะเลวให้ดู
“เอามานี่”
“เห้ยไอ้อีฟหงุดหงิดอะไรมาถึงได้แย่เหล้ากู”
ไอ้เงินทักตอนที่ฉันนั่งรวมวงกับมัน เห็นได้ชัดอยู่จักรวาลนั่งอยู่ที่เดิม
“ทะเลาะกับแฟน” ส่วนนี่เป็นคำถามของไอ้โน
มันรู้เรื่องทิศกับพวกไอ้เงิน
“เปล่าไม่ได้ทะเลาะ”
ฉันว่าขยับไปใกล้ไอ้โนซึ่งมันนั่งถนัดจากไอ้รามเกียรติ์ มันเห็นฉันกระดกหมดแก้วเลยเติมให้แถมยังลากพวกขนมมาวางไว้ตรงหน้าอีก
“มึงว่ากูควรโสดมั้ย”
ฉันถามไม่ได้เจาะจงใครจะตอบก็แล้วแต่
“มึงจะโสดเป็นเพื่อนกู” ไอ้โนมองหน้าพลางดึงแก้วฉันไปดื่มบ้าง
“ไอ้นี่แก้วมึงก็มี” ฉันว่าดึงคอเสื้อมันเลยเป็นเหตุให้เหล้าในมือหกจนเลอะเสื้อแจ็คเก็ตจักรวาล
ฉันเลยตัดสินใจถอดออก เหวี่ยงเสื้อมันไปในมุม ไม่สนว่ามุมไหนรู้แค่หัวร้อน
ตอนนั้นฉันเห็นแววตาไอ้รามเกียรติ์มองเลยเลิกคิ้วถาม
“มองอะไร” ไอ้รามเกียรติ์เลยส่ายหัวบอกปัด
“เสื้อเจ๊สวยเหมือนผมเคยเห็น”
มันต้องเคยเห็นสิในเมื่อเป็นของจักรวาล
“เสื้อไอ้จักรวาล?” ไอ้เงินชิงถาม
“มันให้มึง?” ไอ้โนเสริม
“อืมฉันนอนกับมันเมื่อคืน”
“ไอ้อีฟ”
“ว่าไงนะ”
“เจ๊มึง”
“อะไร”
ฉันงงเพราะจู่
ๆ ไอ้เงินก็พูดขึ้นตามด้วยไอ้โนที่มองและไอ้รามเกียรติ์ดันเรียกอีก
นี่อย่าบอกนะว่าพวกมันคิด…
“นอนหมายถึงนอนหลับเว้ย” ฉันขยายความเมื่อพวกมันมองไม่เลิก
“สมองกลับ? ให้เพื่อนกินเพื่อน?”
พวกมันคิดได้ไง
“ก็แล้วไปคิดว่าได้เสียกับมัน”
ไอ้โนพูดต่อไม่ใส่ใจ
จากนั้นพวกเราก็นั่งดื่มจากเวลาผ่านไปจนจักรวาลออกมานั่งร่วมวง
เหตุผลที่มันมาเพราะแมวของไอ้โนหลับ
ครืด
ครืด
“ไอ้อีฟ”
“อืม” ฉันคิดว่าฉันเริ่มง่วงแล้วละ
ก่อนหน้านี้ก็เล่นซดไม่หยุดตอนนี้เลยแอบเอียงคอนอนซบไหล่ไอ้เงิน จนกระทั้งมันขยับไหล่เรียกฉันเลยลืมตามอง
“ไม่สำคัญแม่ตบนะ” ฉันคาดโทษ
“มือถือมึง”
“เออมือถือแล้วไง” ฉันตอบเสียงห้าวเหลือบตามองมันราวกับจะกัด
“แฟนมึงโทรมา” มันบอกดันหัวฉันออกจากไหล่
ตอนนั้นฉันปรือตามองรอบวงเห็นไอ้โนชวนไอ้จักรวาลคุยพวกมันนั่งนอกบ้าน
สีหน้าพวกมันเหมือนคุยเรื่องเครียดส่วนไอ้รามเกียรติ์หายหัว
เหลือแค่ฉันกับไอ้เงินที่นั่งติดกันอยู่ในวงเหล้าแล้วเมื่อกี้มันพูดว่าไงนะ
“แฟน?” ฉันถาม มันหมายถึงทิศเหรอ
“เออแฟนมึงจะรับก็รับโทรสิวะมันโทรหลายสายแล้วกูรำคาญ” มันบอกขยับออกห่างฉันจึงหยิบมือถืออกมา มองไปยังปลายสายเห็นว่าเป็นทิศจริง
ๆ ฉันจึงตัดสินใจกดรับแล้วพูดออกไปทันทีว่า
“ว่าไงไอ้ห่วยแตกแดกเสร็จก็โทรหาแม่มึงเหรอ”
“เฮ้ย…”
ฉันได้ยินไอ้เงินพึมพำมองหน้าส่วนไอ้โนเริ่มมองมาทางนี้ด้วย
[เมาเหรออีฟ] ฉันได้ยินทิศพูดกลับมา
ฟังจากน้ำเสียงรู้ว่ามันกลัว แต่ไม่รู้ว่ากลัวอะไร
“เมาแล้วรับโทรศัพท์ได้เหรอ” ฉันสะอึกจอดนิ้วชี้ไปที่ปากตัวเอง
อาการเวียนหัวเริ่มตีขึ้นหน้าทำให้ฉันแย่งแก้วจากไอ้เงินจากนั้นยกซดตามด้วยกระแทกจนดัง
ปึก!
“เห็นกูดีด้วยแล้วมึงได้ใจจนไปเอากับใครก็ได้ว่างั้น” เวลาเดียวกันไอ้เงินคว้าแก้วเปล่าไปถือไว้ในตอนที่ฉันจะเทเหล้าเพิ่มส่วนทิศแค่จุกพูดไม่ออก
ใช่สิ
เมื่อไหร่ที่ฉันดี ฉันจะดีฉิบหาย ดีต้องได้กราบ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ฉันเหี้ย
มันก็อย่าหวังว่าจะอยู่สงบสุข
[อะอีฟ]
“กูไม่ได้โง่นะทิศกูไม่ได้โง่กูแค่ไว้ใจมึง” ยิ่งพูดยิ่งขึ้น
ฉันไม่เคยนอกใจมันสักครั้งไม่เคยเอาใครมาเกี่ยวเรื่องของเราจนกระทั้งมันทำ
“เฮ้ยใจเย็นไอ้อีฟ” ไอ้เงินพยายามพูด
ที่สำคัญคือฉันไม่สนด้วยการสะบัดแขนมันทิ้ง
“อย่าเสือก”
ฉันไม่ได้เสียงใจหรอกแค่เสียความรู้สึกที่ไว้ใจแล้วถ้าคิดว่าฉันเมา
ฉันจะบอกอะไรไว้ให้นะ หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นฉันเมาแค่สามสิบส่วนที่เหลือคือสติและอารมณ์ล้วน
ๆ
[อีฟอยู่ไหนเดี๋ยวทิศไปหา] มันบอกทั้งที่ร้อนใจ
เหอะ
เรื่องนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องจริง
โอเคอยากเคลียร์มากใช่ไหมได้
“ถ้ามึงอยากเจอกูพาเมียมึงมาด้วย”
ฉันไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น ไม่สนว่าทิศจะอธิบายแก้ตัวยังไง ในเมื่อมันยอมแก้ผ้าเอากับใครมาแล้วจะมาพูดให้เปลืองน้ำลายกับฉันทำไม
ถูกไม่ถูก
[อีฟมันเป็นเรื่องเราสองคน]
“ไม่ใช่มั้ง” ฉันแสยะยิ้มพร้อมเดาะลิ้นเล่น
ยอมรับว่าเซ็ง ไม่คิดว่าจะโดนมันสวมเขา “มันไม่ใช่เรื่องของคนสองคนอีกแล้วในขณะที่มึงนอนเอากับใครอยู่” ฉันพูดชัดออกแนวเสียงสดด้วย
จักรวาลที่นั่งคุยกับไอ้โนหันมามองฉันแล้ว
ฉันเห็นนัยน์ตามันดูดุขึ้น ก็ไม่รู้ว่ามันคิดอะไร สิ่งเดียวที่ฉันสนใจคือไอ้ทิศ
“ถ้าอยากเคลียร์มึงเอาเมียมึงมาแล้วกูจะไปเคลียร์”
ติ๊ด
ฉันตัดสายกดปิดมือถือตามด้วยยกเหล้าซด
อาการเลือดขึ้นหน้ามันทำให้ฉันตัวสั่นไปหมด จักรวาลลุกจากตรงนั้นเดินเข้ามาหาฉัน
มันมองฉันด้วยคำถาม
“ไม่ต้องซ้ำเติม” ยังไงซะจักรวาลมันหัวชนฝามาตลอด มันคัดค้านไม่ให้ฉันคบทิศตั้งแต่ที่แรก
ฉันไม่อยากให้มันพูดเพราะปากมันไม่สร้างสรรค์นัก
“มันไปเอากับใคร” จักรวาลนั่งเงียบอยู่นานแทรกขึ้น
เสียงแหบต่ำของมันทำให้ไอ้เงินตบบ่า พวกมันก็อย่างนี้ ที่ถามเพราะจะได้ไปมีเรื่อง
ก็รู้กันอยู่จักรวาลรอเวลานี้มานาน
รอเวลาย้ำเติมทิศ
“ฉันไม่รู้แต่ถ้ามันกล้ามาหาฉันถึงที่ฉันขออะไรนายอย่างหนึ่ง” ฉันพูดจ้องมองจักรวาลราวกับเป็นคำขอ
จนกระทั้งทิศบุกมาถึงที่ของจักรวาลจนได้
มันต้องเป็นอย่างนั้นเพราะทิศรู้จักฉัน
ถ้ามันไม่มาเคลียร์เรื่องนี้ก็ถือว่าจบไม่ต้องพูดย้ำทำซ้ำซากอะไรอีก
ไอ้โนเป็นคนแรกที่ลุก
หมอนี่ตามที่ฉันเกริ่นคือ เฮฮา แต่คุณอย่างลืมนะว่านี้มันกลุ่มจักรวาล
คนที่คบจักรวาลได้ต้องเลวระดับเดียวกันถึงเอากันอยู่
“มันมาคนเดียว” ไอ้โนบอกหันมองฉัน
สีหน้ามันดูเรียบเฉยเผลอ ๆ ตึงเฉยมากกว่า
ฉันไม่มีปฏิกิริยาอะไรนอกจากคว้าขวดเหล้าถือไว้ในมือ
“เอาดี ๆ อีฟ” ไอ้เงินพูดอย่างรู้ทันเมื่อมันเห็นฉันคว้าขวดเหล้าไว้แน่น
ส่วนจักรวาลไม่มีข้อคิดเห็นไม่มีสีหน้าใดนอกจากลุกไปนอนราบกับโซฟา
มิหนำซ้ำมันยังหลับตากอดแมวไว้อีก
#อีเฮียยยยมึงจะนอนเอาดี ๆ? ชิวมากค่ะในขณะที่อีฟกำลังเดือด
1 เม้น 1 กำลังใจเด้ออออทุกคน
ความคิดเห็น