คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : จั ก ร ว า ล † 'คราบคาว IV' (อัปครบ)
จั ก ร ว า ล
#นิยายเรื่องนี้มีคำพูดที่หยาบคายสร้างความปั่นป่วนทางจิตใจ ฉากไม่เหมาะสมคุณสามารถข้ามผ่านมันได้ หากคุณไม่ชอบกรุณากด (X) และหากคุณชอบกรุณากดติดตาม
เพจ กลุ่มลับหาในเพจนะคะ
*******
JAKAWAN & EVE
EPISODE
0.7 จั ก ร ว า ล † 'คราบคาว IV'
ฉันชอบเวลาจักรวาลเสียศูนย์ชอบที่เขาไม่ขัดขืน
“ปากตรงนี้คงจะนุ่มเหมือนกัน”
อื้อ
พูดจบฉันกดริมฝีปากแนบชิดริมฝีปากหยักของจักรวาลทันที
ทุกอย่างเกิดรวดเร็วและจบไว้ ฉันไม่ได้ลึกซึ้งนอกจากแตะและผละออก
จักรวาลครางในคอว่า
“หื้อ”
ดูเหมือนเขาพอใจและอยากสารต่อด้วยการเอนตัวมาหาฉัน
ทว่าฉันกลับยกมือผละแผ่นอกเขาก่อน จักรวาลจึงหยุดชะงักแล้วมองหน้าฉัน
มองเหมือนจะหยุดทำไมมันกำลังดี
“ฉันง่วงแล้วอยากจะนอนดังนั้นขอเสื้อหนึ่งตัว”
ไม่รู้ว่าเขาจะมองยังไงหรือคิดอะไรแต่สำหรับฉันมันคือเกม
เขากำลังค้างเพื่อหาคำตอบเช่นเดียวกับฉันที่กำลังหาคำตอบเรื่องคนรอบตัว
“เสื้อยืดจักรวาลเสื้อ”
ฉันเร่งจักรวาลจึงพึมพำอะไรสักประโยคที่ฉันฟังไม่ถนัด ต่อมาเขาก็ผละตัวออกไปตามด้วยถอนหายใจดัง
ๆ
“ได้อีฟได้” มันพูดแบบนี้แล้วเดินหายไปพร้อมกลับมาด้วยเสื้อยืดวงโปรด
ฉันมองเสื้อตัวนั้นตามด้วยเงยหน้ามองจักรวาลอีกที
“ไม่มีปัญญาซื้อคืนนะ”
เสื้อตัวนี้มีในโลกไม่กี่ตัวแถมเป็นวงยุค70sอีก
ใครชอบแนววินเทจพวกวงดนตรีสากลจะรู้ว่ามันหายากมาก ถึงแม้เสื้อจะเก่าแต่ก็ยอมทิ้งเงินเพื่อซื้อ
“พังเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน” มันพูดแล้วโยนเสื้อตัวนั้นมา
ราคาทั้งหลายหมื่นเลยนะ “ฉันมีวิธีเก็บค่าเสียหายอยู่แล้ว”
ฉันไม่ต่อความยาวสาวความยืดไม่พูดอะไรต่อ
จักรวาลหมายความว่าไงช่างมัน
พรึบ
ดังนั้นฉันกระโดนลงจากเตียงเดินผ่านจักรวาลไปเพื่ออาบน้ำแล้วเปลี่ยนชุด
ฉันใช้เวลาสักพักใหญ่กว่าจะออกมา สิ่งแรกที่เห็นคือจักรวาลนั่งอยู่โซฟา
มือเขากำลังถือบุหรี่อยู่
“อืมกูคงไม่ออกไปยังไงก็ฝากพวกมึงจัดการต่อด้วย” จักรวาลพูดกับปลายตามด้วยกดสายทิ้งและเอียงตัวขึ้นมองฉัน
“มองอะไร”
ที่ถามเพราะนัยน์ตาสีเข้มดุดันเล่นจ้องจนไม่กระพริบ
“ฉันชอบเสื้อฉัน”
“…”
“มากกว่าเมื่อมันอยู่บนตัวเธอ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลต่างจากเมื่อกี้
แถมยังย้ำชัดจนฉันทำอะไรไม่ถูกเลยตอบเขาไปว่า
“จะนอนแล้ว”
ไม่รู้สิเมื่อกี้มันเหมือนกับว่าเขาพยายามจะสื่ออะไรมากกว่าเสื้อ
“เตียงฉันว่างเธอนอนไปเถอะ” เขาบอก
วินาทีต่อมาจักรวาลลุกเต็มความสูง
เขาไม่ได้หันมามองฉันอีกนอกจากเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ เสียงน้ำดังขึ้นเป็นเวลาต่อมา
แน่นอนว่าเขาคงอาบน้ำ
ฉันจึงเอนตัวลงบนเตียงแอบขมวดคิ้วนึกถึงสายตาของจักรวาลเมื่อกี้
สีหน้าเขามันทำให้ฉันหวั่นใจเล็กน้อย กับอีกแค่คำพูดว่า ‘เขาชอบเสื้อเขาเมื่อมันอยู่บนตัวฉัน’
ฉันอยากจะเข้าใจเหตุผลของคำพูดนี้แต่ว่าตอนนี้ฉันง่วงเลยเผลอหลับไป
จนกระทั้งตัวฉันรู้สึกวูบวาบ
ฉันขยับตัวไม่ได้ เช่นเดียวกับแขนด้านซ้ายของฉันมันชาขึ้นมาเรื่อย ๆ
ฉันลืมตาในความมืดเห็นไฟอ่อนจากห้องน้ำเล็กน้อย
เมื่อขยับตัวไปทางด้านขวากลับพบว่าเอวฉันถูกรั้งไว้ด้วยฝ่ามือของใครสักคน
เรื่องแบบนี้มีแค่คนเดียวที่ทำ
สาเหตุที่ฉันเมื่อยมาจากการถูกกดทับจากท่อนแขน ความเหน็บหนาวแทรกเข้ามาเมื่อฉันเลิกผ้านวมออก
อย่างที่รู้ห้องมันมืด แต่เมื่อเราปรับสายตาได้มันจะเห็นชัด
ภาพที่ฉันเห็นคือจักรวาลนอนถอดเสื้อ
ช่วงบนตัวเขาเปลือยเปล่ามีแค่ช่วงล่างที่สวมใส่บ๊อกเซอร์ไว้
ขาข้างหนึ่งของเขากำลังเกยขาของฉันอยู่ เสื้อที่ฉันสวมถูกเลิกขึ้นมาจากเรียวขาจนถึงหน้าท้องแบนราบ
ฉันรู้สึกอึ้ง
ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้ เพราะช่วงล่างที่ฉันใส่มันก็มีแค่อันเดอร์แวร์ตัวบาง
ๆ กับเสื้อยืดของจักรวาล
ซึ่งเสื้อเขามันใหญ่มากมันไม่จำเป็นต้องสวมอะไรไว้ด้านใน
ฉันไม่คิดว่ามันจะกล้าขึ้นมานอนกับฉัน ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้
ผัวะ!
ตุบ
“สัสอยากตายหรือไงวะ” นัยน์ตาสีเข้มสนิทค่อย ๆ
ลืมตามองฉัน บัดนี้จักรวาลกองอยู่กับพื้น เส้นผมดำสีดูยุ่งเหยิงผิดทรง
“ใครใช้ให้นายขึ้นมานอนบนเตียง” ฉันถามพลางดึงเสื้อลง
ไม่รู้ว่าจักรวาลเห็นหรือเปล่า แต่มันคงไม่เห็นหรอกเพราะมั่วแต่จ้องจะเอาคืนฉันอยู่
“เตียงกูหรือเปล่าวะอีฟ” มันถามพยุงตัวขึ้น มือหนากุมหน้าท้องไว้เพราะฉันเล่นถีบเข้าไปเต็มแรง
เลวดีนัก
เราสบตากันในความมืด
จักรวาลครางต่ำเพราะจุก ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยให้ใครทำเขาเจ็บแล้วรอดไปได้
มันคงเป็นบุญเก่าของฉันมากกว่าที่จักรวาลไม่เอาคืน
“จะนอนได้ยังกูง่วง”
มันถามลุกมานั่งบนเตียงส่วนฉันขมวดคิ้วแน่น
เรื่องนี้ไม่ได้ซีหรอกเพียงแต่ฉันไม่มีส่วนล่างไงแล้วจักรวาลมันก็มีแค่บ๊อกเซอร์
ถึงจะเป็นเพื่อนแต่ฉันก็เป็นผู้หญิงนะเว้ย
“เธอคิดอะไรอยู่วะอีฟ” จักรวาลถามดึงฉันเข้าไปใกล้ ๆ ฉันกำผ้านวมเอาไว้ขาเลยมองมันเหมือนข้องใจ
“ไม่ร้อนหรือไงห่มอะไรหนักหนา”
“หะเห้ย”
พรึบ
ผ้านวมผืนนั้นถูกเหวี่ยงลงพื้นจักรวาลไม่ได้มองส่วนที่ต่ำกว่าหน้าฉัน
วินาทีนั้นความเย็นกระทบกับซอกขาผิวฉันสัมผัสถึงความเย็นที่แล่นเข้ามาในช่วงล่าง
“จะมองหน้ากันอีกนานมั้ยกูง่วง” มันย้ำเพื่อต้องการนอนส่วนฉันไม่กล้าขยับตัวอีกเลย
ไม่รู้ว่ากี่โมงไม่รู้ว่าฉันนอนหลับไปตอนไหน
สิ่งเดียวที่ฉันรู้คือฉันตื่นขึ้นมาจักรวาลไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว
ฉันขยับตัวลุกจากเตียงนอนเห็นกาแฟร้อนวางอยู่ตรงหัวเตียงเลยหยิบมาดื่ม
นาฬิกาบอกถึงสิบโมงฉันไม่มีเรียนหรอกวันนี้
ตอนนี้แค่ดื่มและลุกออกจากเตียงเพื่อหามือถือ
เมื่อคืนจำได้ว่าวางไว้ในกระเป๋าซึ่งกองรวมกับพวกเสื้อผ้า
กระเป๋ามีมือถืออยู่แต่ว่าเสื้อผ้าดันหาย
แล้วมันหายไปไหน?
กริ๊ก
“ตื่นแล้ว” เสียห้าวถามขึ้น จักรวาลเป็นคนเข้ามาในห้อง
เขาวางกุญแจรถไว้บนโต๊ะจากนั้นเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ประมาณสิบหานาทีจักรวาลจึงออกมา
“อะไร?” จักรวาลถามเพราะฉันเดินตามขา
เอาดี
ๆ เสื้อผ้าฉันหายไปได้ไงถ้าไม่มีคนหยิบไปถูกไหม? แล้วคนที่เอาไปมันต้องเป็นคนในห้องนี้
เพราะนอกจากฉันแล้วจักรวาลก็ไม่ให้ใครเข้ามา
“เสื้อผ้าฉันหายไปไหนจักรวาล” ฉันถามวางแก้วลงบนโต๊ะ
จักรวาลมีแค่ผ้าขนหนูผืนเดียว แผ่นหลังเขาเต็มไปด้วยรอยสัก หยดน้ำพวกนั้นไหลเป็นทางยาวจนฉันเบือนหน้าหนี
“ซัก” เขาตอบเอี้ยวตัวกลับมามองฉัน
“ซัก?” ฉันถามย้ำเขาพยักหน้าเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าจากนั้นเขาหยิบอันเดอร์มาถือไว้
พรึบ
ฉันหมุนตัวกลับทันทีเมื่อจักรวาลมอง
“คิดว่าจะดู” มันพูด
“ทุเรศ” คนอย่างมันหน้าด้านจริง ๆ นอกจากจะเลวยังทุเรศเปิดเผยอีก
“ถามหาเสื้อผ้าแต่เช้าทำไม” เขาเปลี่ยนเรื่องฟังจากน้ำเสียงจักรวาลคงกำลังยุ่งกับการแต่งตัว
ฉันขยับออกห่างจากเขาไม่ได้หันกลับไปมองนะ
“ฉันจะกลับห้อง เอ๊ะ” ฉันพูดไม่จบต้องหยุดเมื่อซอกคอสัมผัสถึงสันจมูกโด่ง
กลิ่นแชมพูของเขาทำให้ฉันชะงักทันที
“ไหนพูดต่อสิอีฟ”
ฉันเลยสูดลมหายใจเข้าปอดหนัก
ๆ แล้วพูดออกไปดังว่า ๆ
“เอาเสื้อผ้าฉันคืนมาฉันจะกลับห้อง”
หมับ
เลยเป็นเหตุทำให้จักรวาลรวบตัวฉันให้หันไประเชิญหน้าเขา
ตอนนี้เขาสวมกางเกงแล้วเหลือแค่เสื้อที่ยังไม่ติดกระดุม
“อยากได้ว่างั้น” ฉันมองริมฝีปากจักรวาลที่เริ่มขยับ
เมื่อมองใกล้ ๆ จะเห็นได้ว่าเขาก้มหน้าลงมองเล็กน้อย
อ๊ะ?
“ถามว่าอยากได้”
“เอออยากได้จะให้ไม่ให้” บางทีเราก็สับสนคำพูดตัวเอง
จักรวาลก็แค่ถามว่าจะเอาเสื้อคืนใช่ไหม ฉันก็ตอบว่าใช่
แต่ทำไมเขาถึงได้ลูบแขนฉันเล่นอย่างนี้
“’งั้นไปรอที่เตียงเดี๋ยวตามไป”
“วอท?” วูบหนึ่งคิ้วฉันกระตุก
“ไปเอาชุดมาให้เปลี่ยนไง” จักรวาลขยายความต่อด้วยการปล่อยตัวฉัน
“ชุดเธอยังไม่แห้งไม่ต้องถาม”
ไม่แห้ง?
“แล้วนายส่งซักร้านไหนเดี๋ยวฉันไปเอาคืนเอง” ฉันบอกเจตนา
“ร้านจักรวาล” มันตอบหน้าตาเฉยบวกกับท่าทีมองเป็นการสั่งให้ฉันไปนั่งที่เตียงเดี๋ยวนี้
ฉันจึงถอนหายใจเดินกระทืบเท้ากลับไปยังเตียงนอน
จักรวาเดินกลับไปที่ตู้เสื้อผ้า
เอาหยิบเสื้อแนวเดิมมาให้ ปกติจักรวาลชอบใส่เสื้อเชิ้ตเวลาทำงานและชอบใส่เสื้อยืดเวลาออกไปเที่ยว
สักพักเขาเดินกลับมาหาฉัน
“ไปเปลี่ยนแล้วรีบออกมาจากห้องวันนี้จะไปดูอะไรหน่อย”
มันสั่งแล้วเดินกลับออกไปจากห้องทิ้งให้ฉันนั่งมองเสื้อตัวใหม่
“แล้วไหนกางเกงฉันละไอ้จักรวาล!”
สาบานว่ามันได้ยินแต่เลือกเมิน
หลังจากแต่งตัวเสร็จฉันก็ออกจากห้อง
สิ่งที่เห็นต่อมาคือความเงียบ วันนี้จักรวาลไม่ได้เปิดร้าน
เด็กที่เรียกฉันว่าเจ๊ก็ไม่ได้มาทำงาน
ฉันเดินออกมาสุดเปิดประตูร้านกลับพบว่ามันล็อคเลยจำได้ว่ามีทางออกอีกทางคือด้านหลังซึ่งมันเชื่อมกับอู่
เมื่อเดินออกมาก็เห็นจักรวาลกำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่บนรถฮาร์เล่ย์ซึ่งมีเบาะเสริม
จักรวาลหันมองฉันเมื่อพบว่าฉันเดินออกมาจากร้าน
เขาไม่ได้พูดอะไรนอกจากโยนหมวกกันน็อกสีดำมาให้จากนั้นทิ้งบุหรี่ตัวนั้นตามด้วยขยี้มันจนแหลก
“จะยืนเอ๋อทำไมขึ้นรถ” จักรวาลตบขาตั้งขึ้นพร้อมคร่อมรถ
เขาเอี้ยวตัวมองฉัน ริมฝีปากหยักลึกกำลังขยับพูดอีกครั้ง “ขึ้นมาอีฟ”
วันนี้เขาสั่งฉันสองครั้งแล้วนะ
“จะไปมั้ย” ฉันทำหน้าเอือมไม่พูดไม่จาเลือกเดินเข้าไป
จักรวาลจึงเร่งเครื่อง แววตาเขาจ้องมองฉัน มันรู้ทั้งรู้ว่าฉัน…
“ไม่ได้ใส่กางเกงโว้ยมีแค่เสื้อ” ฉันบอกเริ่มเสียความมั่นใจตรงที่จักรวาลเหลือบมองซอกขา
ร้อยวันพันปีไม่เคยคิดจะจับมอเตอร์ไซค์ แล้วนึกยังไงถึงได้คึกอยากขับมันวันนี้
“แล้วไม่บอกทั้งแต่ทีแรก”
ตึง
ทันทีที่ได้ยินจักรวาลกันสินใจถอดเสื้อแจ็คเก็ตส่งมาให้ฉัน
แถมยังมีหน้าบอกให้ฉันรับไปอีก ฉันเลยรับมาด้วยการผูกมันไว้ที่เอวบางตามด้วยกระโดนขึ้นเบาะเสริมแต่จักรวาลก็ยังไม่ออกรถสักที
“อีฟ” จักรวาลเรียก
“อะไร” ฉันสูดลมหายใจถาม
รถก็ขึ้นแล้ว
เสื้อก็ใส่แล้ว อะไรของมันอีก
“หมวกมีไว้ใส่ไม่ได้มีไว้กอด” จ้าพ่อคนรักกฎหมายเคารพกฎหมาย
ยี้
ฉันรีบสวมทันทีแต่จักรวาลก็ไม่ออกรถสักทีแถมยังมีหน้าเหลือบมองฉันชนิดที่ว่าข้อง
“อะไรอีกวะไอ้จักรวาล”
เริ่มขึ้นเสียงแล้วนะมันจะอะไรกันหนักกันหนา
“ลืมอะไรมั้ย”
ฉันไม่ได้ลืมไรเลยนะทุกอย่างครบเว้นแต่เสื้อผ้าที่มันเอาไปซักเลยตัดประเด็นการลืมของไปได้เลย
“ไม่ลืมจะไปไม่ไป” ฉันถามจ้องหน้ามันกลับ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันซ้อนท้ายเขาและมันก็ไม่บ่อยนักที่เราจะใช้รถคันนี้ออกไปข้างนอก
“แน่ใจนะว่าไม่ลืม” จักรวาลจ้องฉันอย่างรำคาญมันถอนหายใจหนึ่งทีมือที่จับคันเร่งเริ่มเร่งเครื่อง
เมื่อพบว่าฉันไม่ตอบสนองจักรวาลเลยถือดีปล่อยมือจากคันเร่ง
หมับ!
“กอดเอวหรือไม่ก็ปล่อยให้ตัวเองล้มลงไปตายบนท้องถนน”
บรื้นน
“ไอ้เลว”
ฉันด่าจักรวาลท่ามกลางสายลมที่กระแทกหน้า
มันพูดใส่ฉันด้วยการดึงแขนให้ฉันกอดเอวมัน เมื่อฉันจะดึงมือออกจักรวาลก็เร่งเครื่องมากขึ้นจนฉันทำอะไรไม่ได้นอกจากกอดมันอยู่อย่างนั้นจนกระทั้งเราทั้งคู่ถึงจุดหมายปลายท้าย
ตึก
“กอดกันกลมเชียวนะมึง” เสียงใครสักคนลัดลอดออกมาจากตัวบ้านหลังใหญ่
ฉันยังคงนั่งอยู่บนรถ
มือไม้ยังสั่น อาจเกิดจากแรงขับที่มากกว่าร้อยไมล์ของจักรวาลมั้ง
มันจึงทำให้ตัวฉันสั่นไปด้วย
“ลง” จักรวาลบอกตอนที่เขาถอดหมวกกันน็อกออก
อาการของฉันมันไม่ใช่ว่าสั่งแล้วจะหายเลยนะ
ยิ่งเฉพาะขาไม่ต้องพูดถึง มันชาไปหมดแล้วถ้าจะให้ลงตอนนี้เดี๋ยวบอกเลยว่าล้ม
“กูรอพวกมึงอยู่นะ”
เสียงเดิมดังขึ้นอีกครั้งคราวนี้มันโผล่หัวออกจากบ้าน ฉันหันไปมองพบว่าเป็นไอ้โน
เพื่อนจักรวาลอีกคนที่สนิท
มันไปเมืองนอกเมื่อสองเดือนก่อน
เหตุผลไปตามหัวใจ แต่ทำไมตอนนี้มันถึงได้กลับมา
“จะกอดกันให้ชาวบ้านเขารู้ไปเลยมั้ย”
“หะหา”
ฉันลืมไปสนิทว่ายังกอดเอวจักรวาลอยู่
แต่เมื่อโฟกัสดี ๆ จากที่เคยคิดว่าเป็นเอวกลับพบว่ามันไม่ใช่เอวแต่เป็นแผ่นอกหนาแทน
อกเป็นก้อนเลยนะเว้ย
ไอ้จักรวาลมีของดีตั้งแต่เมื่อไหร่กันทำไมมันถอดเสื้อฉันถึงดูไม่ออก
“อีฟ”
พรึบ
เมื่อจักรวาลทักฉันเลยรีบปล่อยแถมลงจากรถทันที
หมับ!
“อะไรของเธอวะ”
จักรวาลรวบแขนฉันไว้เมื่อเขาเห็นว่าฉันเซไปทางด้านขวา ใบหน้าเจ้าตัวดูดุขึ้นบางครั้ง
มันไม่บ่อยแต่ก็เห็นอยู่
“แล้วจะขึ้นเสียงหาพ่อง?” ฉันพูดสลัดมือทิ้งเดินเข้าไปหาไอ้โน
“ไงไม่เจอกันนาน” ฉันทักไอ้โนด้วยการเกี่ยวคอมันเดินเข้ามาในตัวบ้าน
เห็นจักรวาลมองเคืองแต่ก็ตามเข้ามา
อัปครบ
ไหนจักรวาลคนเลวววว เห็นแต่จักรวาลคนดี คนน่ารักกกก
1 เม้น 1 กำลังใจ
ความคิดเห็น