คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : จั ก ร ว า ล † 'คราบคาว' (อัปครบ)
จั ก ร ว า ล
#นิยายเรื่องนี้มีคำพูดที่หยาบคายสร้างความปั่นป่วนทางจิตใจ ฉากไม่เหมาะสมคุณสามารถข้ามผ่านมันได้ หากคุณไม่ชอบกรุณากด (X) และหากคุณชอบกรุณากดติดตาม
เพจ กลุ่มลับหาในเพจนะคะ
*******
JAKAWAN & EVE
ประมาณว่าเมื่อไหร่จะลุก
ฉันจึงฉวยข้อมือมันและตัดสินใจว่าจะดื่มแก้วที่มันถืออยู่ เรื่องแบบนี้เราไม่ติดทว่ามันกลับยกดื่มรวดเดียวจนหมด
แถมยังมีหน้าพ่นลมใส่หน้าฉันอีก
“ลุกไปได้แล้วเว้ยกูหนักแดกช้างมาหรือไง” ไอ้เงินไล่ด้วยการรั้งเอวฉันขึ้น
มันกำลังหาทางไล่ฉันด้วยการยกตัวฉัน
สองมือหนาเกร็งจนเป็นกล้าม
เขาเกี่ยวเอวฉันไว้ด้วยมือข้างขวา
ฉันตีมือมันเพื่อบอกให้ปล่อยแต่คนอย่างมันยิ่งดื้อก็ยิ่งออกแรง
“ไอ้อีฟกูหนัก” ไอ้เงินพึมพำอยู่ข้างแก้ม สันจมูกของมันโดนซอกหูจนฉันเหลือบมอง
แวบต่อมาที่เห็นคือสายตาขวางโลกของจักรวาล
มันกำลังมองไอ้เงิน มองเหมือนจ้อง
“เก้าอี้มึงก็มีจะลุกหรือให้กูโยน?” ฉันลากสายตาโฟกัสไอ้เงินต่อ
มันบอกให้เลือกทั้งที่ฉันรั้งคอเสื้อมันไว้
“หวงหรือไงกะอีกแค่ตัก” ฉันย้ำด้วยการกดนิ้วมือลงตักแกร่ง
ไอ้เงินจึงครางด้วยเสียงเบา
ความจริงฉันแค่หาอะไรสนุก
ๆ ทำ ที่เลือกไอ้เงินเพราะมันเป็นคนโทรชวนฉันมา ตามหลักความจริงเราสนิทกันมาก
เรื่องถูกเนื้อต้องตัวเป็นเรื่องไร้สาระแค่โดนตัวนิดหน่อยไม่เห็นจะเป็นไรไป
ฉันไม่ถือ
“เจ๊ลุกเถอะ” นายพอร์แทรกขึ้นแถมเกาแก้มมอง ฉันส่ายหน้ากระชากคอไอ้เงินด้วยวนแขน
เป็นเหตุให้ใบหน้าของไอ้เงินติดกับแผ่นอกของฉัน
“กูไม่อยากตายเว้ยไอ้อีฟ” ไอ้เงินว่า
“เกิดมาต้องตายป่ะ?” ฉันบอก
ดังนั้นมันจึงตัดปัญหาด้วยการสะบัดแขนฉันออก
จากนั้นยกตัวฉันลอยขึ้น ไอ้พอร์รวมถึงรามเกียรติ์ชักสีหน้าไม่ดีเมื่อจักรวาลเปลี่ยนท่านั่งด้วยการวางเท้าบนโต๊ะ
ก๊อก
ก๊อก
เสียงเคาะโต๊ะดังขึ้นเบา
ๆ ตอนที่ฉันดึงดันกับไอ้เงิน วลีเดียวที่ฉันปรายตามอง เห็นไอ้จักรวาลคาบบุหรี่ไว้มุมปาก
นัยน์ตามันกำลังจ้องมองฉันอยู่ ซึ่งต่างจากตอนแรกที่ไม่สนใจ
“พ่อมา” ไอ้พอร์กระซิบฉันแอบเห็นไอ้รามเกียรติ์วางมือถือลง
มันคงโทรหาใครสักคนแน่
ไม่ถือสิบวิร่างบางใบหน้าสวยเดินเข้ามาที่โต๊ะ
ฉันเงยหน้ามองทั้งที่ขัดขืนไอ้เงินอยู่
“รามเกียรติ์กลับบ้าน” เสียงหวานพูด
เธอคนนี้ชื่อลูกศรเป็นคู่หมั้นรามเกียรติ์ ฉันรู้จักผ่าน ๆ
ไม่จริงจังเห็นหน้าตาสามสี่ครั้ง
ฉันคงเดาได้ว่ารามเกียรติ์แก้ปัญหาด้วยกดโทรหาลูกศรแน่
“จะรีบกลับไปไหนฉันยังไม่ได้ดื่ม”
ฉันตัดบทตบไหล่ไอ้เงินให้มันหยุดส่งผลให้ร่างบางมองหน้าฉัน ใบหน้านั่นสวยราวกับตุ๊กตา
เอาจริงนะใครเห็นเป็นต้องมองขนาดไอ้รามเกียรติ์ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้น
มันยังตามหึงไปทุกที่เลย
“จะรีบกลับทำไม หึ กูว่ากูกำลังสนุก” เสียงเลือดเย็นพูดหลังจากเงียบมานาน
มือหนายังคงเคาะโต๊ะไม่หยุด ริมฝีหยักลึกกำลังแสยะยิ้มจากนั้นเหลือบมองหน้าไอ้เงิน
“โดยเฉพาะมึงสนุกกว่าที่กูคิด”
ในที่นี้ทุกคนต่างรู้ดีว่าจักรวาลมันเป็นคนยังไง
การที่มันเงียบไม่ได้บอกว่ามันอารมณ์ดี แต่มันเป็นบุคคลที่เข้าถึงยาก
ถ้าไม่สนิทจริงอย่างยุ่งกับมัน
“กูเปล่าไอ้อีฟต่างหากสนุก”
นายเงินปัดคำแถมยังชี้หน้าฉัน
“ไอ้เงิน” ฉันฉุดขึ้น
เหอะก็เห็นว่าก่อนหน้านี้มันไม่สนใจไม่ใช่เหรอ
ไม่ว่าฉันจะยืนหัวโด่ยังไงมันก็ไม่สนใจ ฉันไม่ได้หงุดหงิดที่มันไม่สนใจหรอก แต่ฉันโมโหไอ้จักรวาลมากที่มันยังหน้ามึนไม่ยอมขอโทษเรื่องคืนนั้นสักที
แล้วจำเรื่องตอนเย็นได้ไหมที่มันพูดกับฉันว่า
‘มาง้อมันหรือไง’
หึ
พูดขำ ๆ หรือเอาฮากันแน่
คนที่ทำผิดก็คือมัน
ถ้ามันไม่ขอโทษบรรยากาศในที่นี้อย่าหวังว่าจะดีขึ้นจำไว้
“ถ้าเธอมารับคนของเธองั้นเชิญ”
ฉันว่ายกขาขึ้นเล็กน้อย สะบัดเส้นผมออกจากแก้มตามด้วยลุกจากตักไอ้เงิน
พรึบ
“ไอ้รามเกียรติ์กลับฉันเองก็จะกลับ” ฉันพูด
“เออก็ดี” ไอ้พอร์เห็นด้วย
“ใครลุกระวังเจ็บ” คำพูดออกแนวเชิงขู่เป็นเสียงห้าวของจักรวาลนั้นเอง หมอนี่หยุดเคาะโต๊ะแล้วแต่มันกลับเปลี่ยนเป็นจ้องเขม็งมาทางฉันแทน
ออ
มันจะเล่นแบบนี้ใช่ไหม หึ มันคิดว่ามันคือโลกทั้งใบ
เป็นศูนย์กลางของจักรวาลว่างั้น?
“ไอ้เงิน” ฉันเลิกสนใจไอ้จักรวาลเรียกหาไอ้เงินแทน
“กูไม่ได้ยิน” มันกลับตอบปัด ตามด้วยกระดกเหล้าจนหมดแก้ว
ไอ้เงินไม่ได้กลัวจักรวาลหรอกเพียงแต่ไม่อยากมีปัญหามากกว่า
มันเป็นคนชัดเจนทุกเรื่อง ไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่น
ไม่สนอะไรนอกจากเหล้าแล้วการที่มันปฏิเสธฉันมันก็บอกอยู่แล้วว่า เหล้าร้านนี่ดีและกูไม่สนใครจะเป็นอะไรยังไง
กูไม่เกี่ยว
ในเมื่อมันไม่ช่วยฉันเองก็หมดอารมณ์จึงตัดปัญหาด้วยการตัดบท
“ถ้าไม่มีใครไปอีฟไปเองก็ได้” ฉันพูดเดินออกมา
คนอื่นจะได้มองจักรวาลว่า
แม่งมึงหาเรื่องอีฟอีกแล้วนะ อะไรก็ขู่สักพักอีฟจะเลิกคบมึง หึ
ฉันชอบให้คนคิดแบบนั้น
ยิ่งจักรวาลหน้าตายฉันก็ยิ่งรำคาญมันแต่ว่านะเดินไม่กี่ก้าวมือด้านขวาก็โดนรั้งไว้
หมับ!
“กูบอกว่าไม่ให้ไปไม่ได้ยิน” ข้อมือฉันถูกกระชากจากทางหลังด้าน
ทำให้ฉันหยุดชะงักจนหัวเกิดการอาการสั่นเล็กน้อย มือแกร่งบังคับให้ฉันหันกลับไปมอง
เราสองคนยืนอยู่ในทางเข้าของร้าน
แสงมันสว่างกว่าตอนที่อยู่ในร้าน หน้าจักรวาลเด่นชัดจนฉันเห็นรอยแผลบนใบหน้าเขา
ไม่สิมันเป็นรอยถลอกมากกว่า
แค่รอยข่วนนิด ๆ หน่อย ๆ
“ปล่อยไอ้จักรวาล” ฉันพูดพยายามสะบัดมือ จักรวาลจึงเสยผมหลวมขึ้น
ๆ ด้วยการมองหน้าฉัน
มุมปากมันยิ้มแต่ใบหน้านิ่ง
นึกออกไหม
“เห็นหน้ากูแล้วต้องวิ่งหนีหรออีฟ” มันถามทั้งที่กำรวบมือฉันไว้แน่น
สาบเสื้อเชิ้ตสีดำถูกปลดกระดุมสามสี่เม็ด
ยิ่งเขาหายใจมันยิ่งทำให้เห็นร่องซิกแพคชัด อารมณ์จักรวาลมันไม่ต่างจากฉันนักหรอก
เรามักจะเหมือนกันจนน่าเกียจ
“หึ ใช่ ทำไมแล้วยังไง?” ฉันครางตอบทั้งที่พยายามสลัดมือมันทิ้ง
ถ้าบอกว่าพ่อแม่รู้จักฉันดีฉันคงตอบได้ว่าคิดผิด
เพราะคนที่รู้ไส้รู้พุงก็คือจักรวาล
หมอนี่เป็นประเภทที่ปากหนักพูดคำว่าโทษไม่เป็นจนติดนิสัย
การที่ฉันแข็งข้องมันคงเป็นเหตุผลที่ทำให้จักรวาลหัวเสียจนพาลกับคนอื่น
“ทำไมต้องยั่วโมโหตลอดวะ”
มันถามทั้งที่เรายืนอยู่ใกล้กันแต่ทำไมฉันถึงได้กลิ่นน้ำหอมคนอื่นจากตัวมัน “มันอะไรนักหนาวะอีฟ”
โครม!
ถังขณะใบหนึ่งวางไม่ไกลที่จากเรา
จักรวาลเป็นคนเตะจนคนในร้านหันมามองแต่ก็ไม่มีใครกล้าลุกออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
“ชอบให้ใครต่อใครแตะต้องตัวมากใช่มั้ย!”
อารมณ์มันไม่เคยลดนอกจากจะเพิ่มมากขึ้น
สิ่งที่จักรวาลพูดฉันไม่รู้ว่ามันสื่อถึงเรื่องวันก่อนหรือเรื่องวันนี้
“แหกปากพอยัง?” ฉันเงยหน้ามอง
ดวงตาดุดันลดลง
เขารู้ว่าเมื่อไหร่ที่ฉันนิ่ง คือฉันจะไม่เอาอะไรแล้ว
“ออไล่กูอีกแล้วแม่ง SHIT! ไล่ตลอดทีกับคนอื่นชอบอยู่ใกล้นัก” จักรวาลเหยียดตามองก่อนจะปล่อยมือฉัน “ทีกับไอ้เงินให้มันจับทีกับกูแล้วไล่”
“…”
“ถ้าหน้าไม่อยากมองนักก็เลิกคบ”
ฉันโมโหนะแต่เก็บไว้
ความจริงตอนนี้แทบจะตบหัวมันอยู่แล้ว ยิ่งเถียงเราก็ยิ่งคุยกันไม่รู้เรื่อง
จักรวาลมันไม่เข้าใจหรือไงกับอีกแค่คำว่า ‘ขอโทษ’
แล้วที่หยิบประเด็นอื่นมาพูดเพื่อ?
“ขอโทษมาแล้วฉันจะหาย” ฉันถอยหายใจออกอาการรำคาญมัน บอกให้เลิกคบบ้าง
น้อยใจบ้าง อารมณ์ของมันทำไมต่างจากตอนที่อยู่ต่อหน้าเพื่อนนักวะ
“เรื่อง?” แล้วดูที่มันถามกลับมาดิแม่งเอ้ย
“คืนนั้น”
“คืนไหน”
“ไอ้จักรวาล” ฉันเริ่มโมโหความกวนของมันอีกแล้วนะ
“เออขอโทษพอใจยังคราวหน้าห้ามไล่”
มีการออกคำสั่งด้วย?
“แล้วถ้าเกิดฉันไล่อีกนายจะไสหัวไปมั้ย?”
หมับ!
จักรวาลไม่ได้ตอบนอกจากจับแขนฉัน
ฉันถูกดึงเข้าไปใกล้ ๆ เขา จักรวาลออกแรงนิดหน่อยเองแต่มันสามารถทำให้ฉันเซไปตามแรงจากนั้นเขาก้มมองหน้าฉัน
ระยะเราใกล้กันมากลมหายใจร้อนผสมกลิ่นเหล้าปะทะหน้าฉันอย่างจัง
ฉันสูงนะแต่เมื่อเปรียบกับจักรวาลแล้วฉันดูเป็นคนแคระไปเลย
คนอะไรสูงโคตรพ่อโคตรแม่
“ไล่ยังไงก็ไม่ไปเพราะกูหน้าด้าน”
ฉันได้ยินชัดเลยละมันเต็มสองรูหูใครไม่ได้ยินก็บ้าแล้ว
เหตุการณ์หลังจากวันนั้นฉันก็กลับมาปกติกับจักรวาล
ตอนนี้ฉันอยู่ห้องกำลังจะไปมอแต่ทิศดันโทรมาซะก่อน
เขาบอกว่าผ่านมาทางนี้เลยแวะมารับ
ส่วนตัวฉันไม่ตอบปฏิเสธนอกจากรอให้เขาส่งไลน์มาอีกที
ระหว่างรอฉันก็กดดูทีวีไปเรื่อย
ตอนนี้แปดโมเช้าฉันมีเรียนเก้าโมงซึ่งมันยังคงพอมีเวลารอ
เวลานี้เลยหาอะไรทำแก้เบื่อด้วยการดูทีวี
แต่เหมือนยิ่งดูฉันก็ยิ่งง่วงก็เลยกดปิด
ตอนนั้นเองประตูห้องที่ปิดสนิทกลับถูกเปิดออก
ทำให้ฉันเบี่ยงสายตาจากทีวีมองไปยังต้นเสียง
แน่นอนว่าต้องไม่ใช่ทิศ
“ไหนว่ารีบทำไมยังไม่ไปมอ” เสียงห้าวถามตามด้วยปิดประตูห้อง
ฉันมองร่างสูงเห็นมันเดินหายเข้าไปในห้องน้ำจากนั้นเดินออกมาพร้อมผ้าขนหนูครึ่งเอว
แผ่นอกเขาเปลือยเปล่า รอยสักคุ้นตาเด่นชัด ฉันมองไม่กี่วิก่อนจะเท้าคางมองทางอื่น
ที่จริงเป็นจักรวาลเองก่อนหน้าไม่กี่นาทีเขาไลน์มาถามว่าฉันอยู่ไหน
ฉันบอกว่าอยู่ห้องกำลังจะไปมอ จักรวาลคงผ่านมาเลยแวะ เรื่องนี้ฉันชินแล้ว
“ไม่กลับห้อง” ฉันถามกดมือถือดูอย่างอื่นไปด้วย
การเคลื่อนไหวร่างสูงหยุดลงข้างฉัน
ใบหน้าดุมีรอยแผลอยู่ ฉันเห็นมันในระยะประชิด
“นี่ไงห้อง” ริมฝีปากหยักลึกตอบทั้งที่มองอยู่อย่างนั้น
อารมณ์มันนิ่งแต่นิ้วมือดันจิ้มแก้มฉันเล่น
เอาเลยอยากทำอะไรก็ทำ
ฉันปล่อยให้จักรวาลถูกเนื้อต้องตัวอย่างเคย ไอ้ที่บอกว่าอย่างเคยคือมันชอบทำแบบนี้ประจำ
ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่มันชอบเล่นแก้มฉัน
“ถ้าจะนอนห้องฉัน” หลังเงียบฉันก็พูดขึ้น “รู้ใช่ไหมว่าห้องฉันไม่ใช่ห้องไว้ซุกหญิงของนาย
ถ้าจะนอนนายห้ามเอาใครเข้ามาในห้อง”
จักรวาลไม่เคยทำหรอกฉันแค่พูดดักทางมันไว้
เห็นหน้านิ่งพูดจาขวางโลก ยังไงมันก็เป็นผู้ชายเรื่องผู้หญิงไม่ใช่จักรวาลไม่มี มันมีเยอะต่างหาก
ขนาดฉันเห็นยังปวดหัวเลย
“ทำไม?” มันถามขึ้นหลังจากผละตัวออกห่าง แววตาดูเหมือนหวัง
บางครั้งก็สับสนมึนงงกับการกระทำของมันนะ
เพื่อนอะไรจะตัวติดยิ่งกว่าเมีย
มันมีอยู่ครั้งหนึ่งฉันจำได้ว่าจักรวาลมีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งมันสนใจมาก
แต่มันยอมทิ้งด้วยเหตุผลง่าย ๆ ว่า ‘อีฟปวดท้อง’
เหตุผลแค่นี้มันถึงขั้นทิ้งส่วนฝ่ายหญิงก็หายไปเลย
ฉันไม่ได้สืบต่อหรอกว่ามันจบกันเพราะอะไร แต่ดูเหมือนจักรวาลไม่แคร์
มันไม่เคยง้อใคร
“ยังจะถามว่าทำไม” ฉันเหลือบมองมัน “นี่มันห้องฉันไม่ใช่โรงแรม”
พรึบ
“แล้วนั่นจะไปไหน” หลังจากนั่งคุยกับมันทิศเองก็ไลน์หาฉัน
เขาบอกว่าอยู่ล่างคอนโด ฉะนั้นฉันจึงลุกเดินไปหยิบหนังสือตามด้วยสวมรองเท้าโดยมีสายตาจักรวาลมองอยู่ตลอดเวลา
“ไปเรียนห้ามอ้อร้อ” จักรวาลสั่งด้วยการเอนตัวลงนอน ฉันอยากถามว่าอะไรคือห้ามแต่เมื่อหันกลับไปมองปรากฏว่ามันหลับไปแล้ว
ฉันจึงออกจากห้องลงไปหาทิศซึ่งเขาเองก็จอดรถรอฉันอยู่ก่อนแล้ว
ปึก
“ทำไมแวะมาปกติไม่” ฉันถามตอนที่คาดสายเบลท์ทิศเองก็ออกรถทันที
“ก็อยากทำหน้าที่แฟน”
ใบหน้าหล่อหันมายิ้มเขาส่งมือมาตรงหน้าฉัน ทำให้ฉันรับด้วยการจับมือตอบ ทิศกับฉันเรียนคนละมอเลย
เขาอยู่อีกมอส่วนฉันเองก็อยู่อีกมอการที่เขามารับทำให้รู้ว่าทิศจะต้องเข้าห้องสายแน่
เขาอยู่ปีสี่ฉันเองก็ด้วยช่วงนี้มีงานเยอะ
ทิศเองก็บ่นบ่อย ๆ ฉันไม่ค่อยจะสนใจนอกจากถามไปผ่าน ๆ ปกติฉันไม่จำรายละเอียดใครไง
ไม่ว่าจะเป็นสีที่เขาชอบหรือของโปรดฉันเองยังจำไม่ได้
มีแค่อย่างเดียวที่จำได้คือทิศชอบมีเรื่องชกต่อย
“เย็นนี้ว่างมั้ย”
เราเงียบกันสักพักทิศถามตอนที่รถติด สายตาเขามองใบหน้าฉัน รอยแผลใบหน้ายังคงมี บางครั้งมันก็แปลกที่จักรวาลกับทิศมักจะมีรอยแผลพร้อม
ๆ กัน
“ไม่นะรู้สึกเหมือนมีนัด” ฉันตอบมองไปข้างหน้าไม่ได้โฟกัสหน้าทิศเลย
นัดที่ฉันมีฉันก็ไม่ได้บอกหรอกว่านัดอะไร
“หรอ” ส่วนทิศครางรับพร้อมออกรถ
หลังจากนั้นเขาก็เงียบไปอีก
ฉันไม่ได้ถามว่าทำไมเขาถึงถามหรือมีเรื่องอะไร
ความสัมพันธ์เราไม่ได้ดีเหมือนตอนแรก
ทิศทำเหมือนคบฉันไว้ส่วนฉันไม่ได้อินกับอะไรทั้งนั้น
เรื่องนอกใจไม่มีแต่ถ้าให้ดีกว่านี้ก็ไม่ได้
อย่างที่รู้ฉันกับทิศเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อนถ้าเขาไม่ขอคบฉันเองก็คงจะไม่คบ
ที่ฉันบอกว่าความสัมพันธ์เริ่มแย่ก็เพราะ
ฉันเตือนอะไรไปทิศไม่ค่อยจะฟัง เขามักจะทำส่วนทางเสมอ อย่างเช่นเรื่องชกต่อย
เขาหน่ะมีเรื่องถึงฝ่ายปกครองไม่ได้แล้ว ถ้ามีอีกโดนเด้งแน่
ฉันเตือนผ่านก็แล้ว
เตือนจริงจังก็แล้ว เขาก็มักจะหงุดหงิดแต่ไม่ถึงขั้นใช้อารมณ์กับฉัน
ส่วนเรื่องจักรวาลอีก เห็นหน้าทีไรสองคนนี้ก็ทะเลาะกันทุกที
ฉันไม่ได้เข้าข้างใครหรอกเรื่องพวกนี้โต
ๆ กันแล้วจะพูดอะไรให้มากกว่า
“งั้นเอาไว้วันหลังก็ได้นะ” ทิศว่าก่อนจะชะลอรถด้วยการจอดหน้าคณะฉัน
“อืม”
ฉันครางรับปล่อยมือจากมือหนาจากนั้นเปิดประตูรถลงไป
ทิศยังคงมองอยู่ใบหน้าหล่อใสยกมือขึ้นบ๊ายบาย ไม่นานเขาก็ขับรถออกไป
เพื่อนนะคะจักรวาลแกห้ามได้ไง แหมมมลำใย
1 เม้น 1 กำลังใจ
คอมเม้นคือกำลังในนะจ๊ะทุกคนนนน
ความคิดเห็น