ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (E-BOOK ) จั ก ร ว า ล

    ลำดับตอนที่ #14 : จั ก ร ว า ล † 'ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้น' (อัปครบ)

    • อัปเดตล่าสุด 17 ส.ค. 62


    จั ก ร ว า ล

    #นิยายเรื่องนี้มีคำพูดที่หยาบคายสร้างความปั่นป่วนทางจิตใจ ฉากไม่เหมาะสมคุณสามารถข้ามผ่านมันได้ หากคุณไม่ชอบกรุณากด (X) และหากคุณชอบกรุณากดติดตาม

    เพจ  กลุ่มลับหาในเพจนะคะ

    *******

    JAKAWAN & EVE


    EPISODE

    ๑๔ จั ก ร ว า ล † 'ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้น'


                      สองสามวันที่ผ่านมามันเล่นกับความรู้สึกฉันเกินไป!

                    “อีฟปล่อย!” ปากตะคอกมือพยายามรั้งเชือกให้ห่างจากลูกกระเดือกด้วยการสอดฝ่ามือเข้าไปในเชือกดึงมันให้กว้าง แต่ฉันไม่ยอมกลับดึงเชือกรัดคอมันแน่นขึ้น

                    ตอนนี้จักรวาลกำลังมองฉันอย่างกับจะฆ่าสายตามันกำลังขู่เข็ญให้ฉันปล่อย

                    เป็นครั้งแรกที่ฉันฟิวส์ขาดฉบับกู้กลับไม่ได้

                    ฉันกำลังจะฆ่ามัน

                    อีฟ!”

                    หุบปาก!” ฉันสั่งมันด้วยเสียงแข็ง

                    แววตาคนเราสามารถบ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดได้ ฉันรู้ว่าจักรวาลแค่เล่นกับผู้หญิงและเล่นกับความรู้สึกฉัน

                    ฉันโมโหที่มันปั่นหัว

                    โมโหที่ทำให้ฉันรอ

                    และโมโหที่มันกำลังนัวเนียกับผู้หญิงคนอื่นได้หน้าตาเฉยทั้ง ๆ ที่โกหกฉันว่าติดธุระ

                    สารเลว

                    ออกไป ฉันหันไปพูดกับผู้หญิงคนนั้น เธอไม่ได้ตอบอะไรนอกจากกระโดนแล้ววิ่งออกไปทันที

                    กูต้องออกไปมั้ย ช่วงวินาทีที่เดือดไอ้เงินเสริมเข้ามา มันสูบบุหรี่หมดไปหนึ่งมวนแถมมองฉันสลับไอ้จักรวาลด้วยสีหน้ากวนตีน ถ้าลดตาต่ำลดหน่อยจะเห็นว่ามันขยี้บุหรี่จนแหลก

                    เดี๋ยวสักพักเพื่อนมันก็แหลกไม่ต่าง

                    จะทำอะไรก็ทำมันว่า

                    ออกไป ฉันบอก

                    โชคดี มันยกมือลาและเดินออกไป

                    ในตอนนี้มีแค่ฉันและจักรวาล หึ ฉันเงยหน้ามองมัน ลากสายตาต่ำลงหน่อยเห็นคอหนามีรอยแดงเกิดจากแรงกระชากของเชือกเมื่อกี้

                    มันเกิดจากฉัน

                    สาสม

                    ปล่อยอีฟจะฆ่ากูหรือไงวะ ลมหายใจฟืดฟาดของเขากระทบใบหน้าฉัน

                    ใบหน้าจักรวาลอยู่ใกล้ฉัน ตัวเขาถูกดึงคอให้ก้มลงต่ำ ระดับสายตาของเราจึงอยู่ระดับเดียวกัน

                    ฆ่านายง่ายนิดเดียว ฉันตอบกัดฟันกรามตามด้วยจิกเล็บเข้าซอกคอหนา จักรวาลอยู่ในการคอนโทรลของฉัน

                    เขาขัดขืน=ฆ่าตัวเอง

                    เธอมันพยศเกินไป

                    เหรอ..

                    หลังเขาพูดรู้ไหมฉันทำอะไรกับมัน ฉันกดเล็บฝั่งลงตรงเนื้ออ่อนไม่ไกลจากเส้นเลือดใหญ่ออกแรงจิกจนเนื้อมันมีสีม่วงเกิดจากการห่อตัวของเลือด เราจ้องตากันเหมือนมองทะลุไปถึงความคิด จักรวาลไม่ใช่ว่าขัดขืนไม่ได้

                    แรงเขามี

                    เพียงแต่..

                    ไม่ทำ

                    “ปล่อยอีฟแรงเธอไม่เยอะรู้ตัวมั้ย

                    รู้ ฉันตอบส่งเสียงด่ามันออกไปด้วย

                    ใคร ๆ ก็รู้ว่าฉันเป็นคนยังไงและจักรวาลเป็นคนยังไง ตอนนี้เราเหมือนของร้อนที่ถูกตี ฉันเปรียบเสมือนเหล็กส่วนจักรวาลคือไฟ

                    เขาหลอมฉันให้ละลายจะบอกให้ปล่อยง่าย ๆ             

                    ไม่มีทาง

                    รู้อะไรมั้ยนายทำให้ฉันโกรธ เกลียด โมโห หงุดหงิด

                    ก็รู้อยู่ ดูสิ่งที่มันตอบกลับมาสิ เพราะอะไรล่ะ?

                    อ้อ นี่ถามหาเหตุผลของอารมณ์?

                    “เมนส์มาหรือวัยทองสติถึงขาด จักรวาลกระดกลิ้นตอนที่ถาม เขาไม่มีความกลัวทั้งที่ฉันรั้งคอมันด้วยเชือกแถมยังกดเล็บตรงซอกคอ ว่างั้นอีฟ

                    น้ำเสียงท่าทางของจักรวาลมันเหมือนคนจองหองไม่เลิก

                    ยอมรับว่าโกรธจนหน้าแดง เจ็บใจเพราะโดนปั่นหัว นั่นแหละ มันคือสาเหตุที่ฉันฟิวส์ขาด

                    ปากที่ว่าสั่งไม่ให้ฉันเข้าใกล้คนอื่น ฉันจิกเล็บลึกลงไปอีกเมื่อพูดถึงเรื่องตอนกลางวัน นายมีสิทธิ์อะไรมาสั่ง มีสิทธิ์อะไรมายุ่ง

                    “…”

                    “เพื่อนก็ไม่ใช่ ผัวก็ไม่เป็น

                    ใครบอก เขาเถียง คนได้กันไม่ใช่ผัวกับเมียจะให้เรียกอะไร

                    ได้ข่าวว่านายปล้ำฉัน ฉันทนไม่ไหวกับคำพูดเลือกปล่อยมือจากซอกคอเอื้อมมาบีบคางและแก้มแทน ฉันเกลียดเวลามันพูด

                    มันพูดไม่สร้างสรรค์

                    ไหน ๆ มันก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมาฉันเองก็คับแค้นใจอยู่มาก

                    ทำเรื่องเลว ๆ ทำไม ฉันรู้ว่ามันจะตอบแต่ฉันบีบคางมันพร้อมกระชากคอด้วยเชือกให้เข้ามาใกล้ ปั่นหัวฉันทำไม ทำแล้วได้อะไร สนุกนักเหรอที่ทำ เลวระยำเล่นกับความรู้สึกพอใจยัง

                    พรึบ

                    ฉันสุดแล้วถึงได้ปล่อยมันออกจากพันธะทั้งหมด จักรวาลดึงเชือกออกจากคอ เขาทิ้งมันลงพื้น ฝ่ามือหนายกขึ้นลูบซอกคอ จากนั้นเสยผมขึ้นแล้วเหลือบมองฉัน

                    “เธอเองนะที่เป็นคนบอก

                    “…”

                    “เธอบอกให้ฉันเลวให้พอมือข้างซ้ายของจักรวาลกำลังล้วงกระเป๋าเวลาพูด ฉันก็กำลังเลวอยู่นี้ไง

                     สุดวะ..ฉันหาคำไหนไม่เจอนอกจากเงียบ

                    เธอถามฉันว่าปล้ำเธอทำไม ถ้ามองดี ๆ เธอเองที่เป็นคนอ่อย

                    โทษฉันว่างั้น

                    “เธอถามว่าฉันปั่นหัวเธอทำไม..ฉันขอตอบว่าไม่ได้ปั่น

                    งั้นกูคิดไปเองงั้นดิ

                    เธอถามทำแล้วได้อะไร..ฉันตอบตรงนี้ว่าได้ตามสิ่งที่ต้องการ

                    ต้องการ? ต้องการอะไรของมัน

                    เธอถามสนุกนักเหรอที่ทำ ฉันตอบตรงนี้ว่า..ไม่เท่าไหร่แต่ก็พอใจ

                    “…”

                    “และสุดท้ายที่เธอถาม เล่นกับความรู้สึกพอใจยัง ฉันบอกไว้ตรงนี้ว่าฉันไม่ได้เล่นแต่เอาจริง

                    ฉันรับไม่ได้กับคำตอบที่จักรวาลให้มา ฉันโกรธจนไม่มีอะไรจะคุยกับมันอีกแล้ว ฉันกำลังจะเดินออกไปจากตรงนี้

                    แต่

                    หมับ!

                    ข้อมือบางถูกรัดด้วยฝ่ามือหนา เป็นจักรวาลที่กำรอบข้อมือฉัน เขาออกแรงเกร็งเมื่อฉันพยายามจะสลัด

                    ถ้าไม่พอใจก็บอกสิพูดออกมาฉันจะหยุด

                    พูดเพื่อ?

                    ที่ทำอยู่มันเลวมากพอ ๆ หรืออาจจะมากกว่าทิศที่ทำกับฉันด้วยซ้ำ ฉันก็แค่ไม่ชอบให้ใครมาบงการมาเล่นกับความรู้สึกโดยเฉพาะจักรวาล

                    ฉันไม่ชอบ

                    รู้สึกหงุดหงิดโมโหโกรธกับเรื่องไหนเธอบอกฉันจะเลิก จักรวาลเสนอทั้งที่ฉันสลัดแขนเขาทิ้งนี่นะ ไม่ชอบอะไรที่ฉันเล่นกับความรู้สึกเธอหมายถึงเรื่องไหนฉันจะหยุด

                    ง่ายดีเนอะพูดออกมาได้

                    ในเมื่อกล้าพูดฉันก็เผชิญหน้าด้วยการหันไปมอง เห็นจักรวาลมีสีหน้าจริงจังแต่ฉันไม่แคร์

                    อย่ามาสั่งหรือมาห้ามไม่ให้ฉันเข้าใกล้ใคร ฉันบอกกัดฟันไปด้วย อย่ามารับปากแล้วผิดคำพูดเหมือนที่ทำ

                    ได้ เขาตอบตกลงง่าย ๆ ทั้งที่ยังมองฉันอยู่ตลอดเวลา

                    “อย่ามาเล่นกับความรู้สึกฉันด้วยการทำเรื่องเลว ๆ อีก

                    โอเค

                    ฉันไม่ขำนะไม่คิดว่ามันจะตกปากรับคำง่ายขนาดนี้ จักรวาลไม่ใช่ประเภทที่บอกให้เลิกจะเลิก มันไม่ได้ดีขนาดนั้น ฉันไม่ไว้ใจ

                    ถ้าจะให้มองหน้ากันคงทำได้แค่คนทั่วไป ฉันคิดแบบนั้นจนกระทั้งเขาลดสายตาลงขยับตัวเข้ามาใกล้ ฉันเห็นจักรวาลเม้มริมฝีปากในตอนที่ลูบต้นแขนฉัน

                    ฉันจะทำถ้าแลกกับการดู ๆ กันไปของเรา สถานะคือไม่ใช่เพื่อน ไม่ใช่แฟน แต่ฉันขอคำว่าดูกันไปแบบพิจารณาเหมือนคนจะคบเป็นแฟน ดีก็ไปต่อ แย่ก็พอจบ

                    ห้ะ

                    แฟร์ไงอีฟฉันกับเธอเป็นเพื่อนกันไม่ได้แล้ว ฉันรู้ฉันปล้ำเธอ เธอเลยเกลียด ฉันถึงได้เสนอให้เราดู ๆ กันไปก่อน

                    ฉันว่ามันต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ จักรวาลกำลังทำเรื่องบ้าอะไรอยู่กันแน่

                    “ฉันไม่เอาด้วย ฉันตอบปฏิเสธแบบชนิดที่ไม่ต้องคิด จักรวาลเป็นคนยังไงก็รู้ ฉันไม่เล่นกับมันแน่

                    ถ้าเธอไม่เลือกฉันจะตามรังควานเธอเผลอ ๆ ทำให้เธอประสาทเสียไปกว่านี้

                    “…”

                    “ว่าไงอีฟ

                    เสียงทุ้มแอบกระซิบซอกหูในตอนที่ฉันเผลอ ตอนนั้นฉันเหลือบตามองจักรวาลเห็นแววตาเขาดูอ่อนลงหน่อย

                    ตอนนี้ฉันไม่อยากเสี่ยงกับทุกความสัมพันธ์ ฉันไม่อยากเป็นหมากให้ใคร จักรวาลต้องการเพราะอะไรฉันเองก็ไม่รู้

                    ฉันไว้ใจมันได้ที่ไหน

                    มันหน้าด้านขนาดนี้ได้ไง

                    แต่ยังไงก็เถอะ

                    ได้

                    นั่นคือสิ่งที่ฉันบอกไป

                    รู้ไหมหลังจากวันนั้นจักรวาลไม่ปั่นประสาทฉันอีกนอกจากหาเรื่องอยู่ใกล้ตัวฉันมากกว่า

                    นี่ขยับออกไปหน่อยอึดอัด ฉันว่ามองค้อน ขนาดฉันนั่งอ่านหนังสือคนตัวสูงอย่างมันยังมีหน้ามานั่งเบียดฉันอีก โซฟาก็กว้างนะแต่เจอจักรวาลเข้าไปมันดูเล็กทันที

                    ไม่ทำอะไรสักหน่อยแค่ขอไหล่เธอ

                    ขอทำไม ฉันถามมองใบหน้าหล่อที่ดูอีกครั้งก็เลว

                    เอ้าก็ฉันขอก่อนไงไม่ขอเดี๋ยวเธอก็ตบ ปากบอกมือก็เกี่ยวกระดุมเสื้อฉันเล่น

                    เพียะ!

                    อย่าเล่นให้มากนะชอบรุ่มร่าม ฉันปั้นตาเขียวใส่เขาเลยเลิกคิ้วขึ้น แล้วเมื่อกี้ที่ถามฉันหมายถึงขอไหล่ฉันไปทำไม

                    เราแค่ดู ๆ กันป่าววะมันจำเป็นต้องขนาดนี้เลย?

                    ขอซบไหล่ไม่ได้?มันบอกทำหน้าเหมือนหมาหงอย

                    ฉันก็แค่มอง

                    ไม่ได้? จักรวาลส่งเสียงเป็นเชิงถามอีกครั้ง สายตาเขาดูล้าเป็นพิเศษ ฉันไม่ได้ตอบอะไรออกไปจักรวาลจึงขยับตัวออกห่างเขาเลือกถือหมอนใบนึงขึ้นมา

                    เขากำลังล้มตัวลงนอนอีกฝั่ง

                    “ก็ได้แต่อย่าทำอย่างอื่นนอกจากซบไหล่ ไม่รู้ฉันคิดบ้าอะไรถึงได้ตอบตกลง

                    จักรวาลจึงปาหมอนใบนั้นทิ้ง ฉันเห็นมันปลิวไปอยู่อีกโซนของห้อง

                    สัญญาจะนอนนิ่ง ๆ ไม่กวนเธอ ก็รู้ว่าเชื่อไม่ได้แต่ก็เชื่อฉันจึงปล่อยให้จักรวาลครอบครองไหล่ซ้ายไว้

                    น้ำหนักส่วนหัวทำให้ฉันเกร็งตัวนิด ๆ จักรวาลซบไหล่พร้อมหลับตาไปในที่สุด

                    ฉันเลิกสนใจคนข้างกายตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือต่อจนเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ จนฉันเมื่อยไหล่เมื่อเหลือบตามองเห็นจักรวาลหลับสนิท

                    ริมฝีปากสีชมพู ทั้ง ๆ ที่สูบบุหรี่โคตรจัด

                    นี่จักรวาล..” ฉันเรียกเขาเพราะเมื่อยแต่ ริมฝีปากฉันชะงักเมื่อมีเสียงฝีเท้าดังขึ้นหน้าห้อง

                    กริ๊ก

                    ฉันไม่ได้ล็อกประตู ห้องนี้เป็นห้องฉันไปแล้ว แต่คนที่กล้าเปิดเข้ามาก็มีแต่ไอ้เงินและไอ้โน

                    ไอ้จักรวาลลูกค้าต้องการแบบ…” เสียงแหบต่ำมาพร้อมกับการมอง

                    สภาพฉันในตอนนี้ใครเห็นก็ต้องตีความคิดไปอย่างอื่น เรื่องที่ฉันตกลงกับจักรวาล เราไม่ได้บอกใคร มันไม่จำเป็น

                    ดูเหมือนคนที่เข้ามาเป็นไอ้โนเพราะมันกำลังมองฉันสลับมองจักรวาล

                    มันนอนอยู่จะให้ปลุกเลยมั้ย

                    ห้ะ

                    ไม่สิฉันควรปลุกมันขึ้นมาไม่ใช่ถามไอ้โน แบบนี้มันผิดกติกาบ้าฉิบ

                    ฉะนั้นจักรวาลจึงซวย

                    ผัวะ!

                    “ลุก!”

                    “ตบทำไมว่ะ!” ดวงตาดุดันเหลือบมองหน้าฉัน เมื่อกี้มันเม้นริมฝีปากตอนที่ฉันตบหัวด้วย

                    ไอ้โนตามนายก็ลุกออกไปสิวะไอ้จักรวาล ฉันทำทีท่าดุพูดจาให้ปกติ จักรวาลจึงครางต่ำผละตัวออกจากตัวฉันจ้องไอ้โนเหมือนคนแค้น

                    ใครตาย ห้าวไม่พอยังวางอำนาจใส่เพื่อนฝูงอีก

                    พรึบ

                    จักรวาลลุกเต็มความสูงเขาหยิบเสื้อตรงโซฟาไปใส่แบบหยาบ ๆ  ฉันลืมบอกไปว่าเขาถอดเสื้อออก แล้วการที่เขาถอดเสื้อยืนหันหลังให้กับฉันแบบนี้มันทำให้ฉันเห็นตรงสีข้างด้านขวาซึ่งมีรูปนิ้วฟัคยูตรงกลางรูปมีชื่อฉันอยู่

                    ขี้ก๊อปชัด ๆ

                    เห็นกันอยู่ว่ามันสักรูปเหมือนฉัน จุดเดียว ฝั่งเดียวด้วย แถมยังใส่ชื่อฉันเหมือนที่ฉันใส่ชื่อมัน

                    ฉันสักเพราะหมั่นไส้มันต่างหาก

                    ฉันอาจจ้องมองนานมั้งไอ้โนถึงได้มองหน้าฉันนานพอสมควร เมื่อเห็นมันมองฉันเลยลดตาต่ำก้มดูตัวหนังสือเงียบ ๆ

                    การเคลื่อนไหวเกิดขึ้นอยู่

                    มึงจะออกมาได้ยังไอ้เงินรอมึงอยู่ ไอ้โนบอกลากสายตาออกจากฉัน เขาเป็นผู้ชายที่บทจะนิ่งก็คือนิ่งบนจะพูดก็คืนพูดแล้วตอนนี้ไอ้โนกำลังนิ่ง

                    จริง ๆ มันเป็นคนเฮฮาแต่นั่นเมื่อก่อน ก่อนที่มันจะตามผู้หญิงคนนั้นไปต่างหาก

                    เออ จักรวาลรับคำหันมองฉันจากนั้นก็เดินออกไป

                    เป็นไอ้โนเองที่ปิดประตู

                    ชั่วโมงต่อมา

                    ฉันออกจากห้องพักกำลังเดินไปหลังร้านซึ่งเป็นอู่ในตอนนั้นฉันได้ยินเสียงพวกผู้ชายกำลังคุยกัน

                    ไม่ยักรู้ว่ามึงคบเด็กออทิสติก คำพูดนั้นคือจักรวาล เมื่อเหลือบมองจะเห็นว่าเขายืนอยู่ตรงมุมส่วนชายอีกคนกำลังนั่งบนเก้าอี้ รายหนึ่งกำลังสูบอีกรายกำลังดื่ม

                    พวกเขาหน้าตาแตกต่างกันแต่มีหลายอย่างที่เหมือนกัน

                    ปากมึงวอนหาเรื่องสมองก็คิดแต่เรื่องเหี้ย คนที่กำลังสูบพูด ควันสีขาวลอยผ่านหน้า ฉันเห็นม่านตาดุดันราวกับสัตว์ร้าย คนแบบนี้เป็นคนจริง

                    กูเห็นด้วยกับมันนะปกติคนแบบมึงไม่สนห่าอะไร ส่วนคำพูดแย้งคือคนที่กำลังดื่ม เขารูปร่างสูงดูร้ายมีสีผมที่ต่างจากคนอื่น ใบหน้านั้นกำลังยิ้มแต่มันไม่ได้ยิ้ม ทำไมถึงได้คบหรือว่าได้เสียเป็นผัวเมียฝ่ายโน้นไม่ยอมมึงเลยรับผิดชอบ

                    ว่าตามความจริงฉันรู้จักคนพวกนี้ ไม่แปลกที่หน้าตาจะโคตรหล่อแต่วาจาดันผยอง มีแค่คนเดียวที่ไม่ค่อยสนห่าอะไร ก็คือคนที่สูบ

                    เขาชื่อกระสุนส่วนคนที่ดื่มชื่อร้ายกาจ

                    สามคนนี้มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดโดยตรง

                    พวกเขาเป็นแฝดสาม เกิดเวลาไล่เลี่ยกัน จักรวาลคนแรก ร้ายกาจเป็นพี่คนที่สองส่วนกระสุนเป็นคนที่สาม

                    หน้าตาต่างกันสุดขั้ว

                    ไม่รู้จักไม่รู้แน่ว่าเป็นฝาแฝด เพราะหน้าตาไม่เหมือนกันสักนิด

                    ไงกระสุนร้ายกาจไม่เจอกันนานนะสบายดีมั้ย ฉันเข้าไปทักเห็นว่าคุยเรื่องผู้หญิง สีหน้ากระสุนดูเรียบเฉย เขาชำเลืองมองฉันผ่าน ๆ ตามด้วยพยักหน้า

                    คนนี้ไม่สนโลก

                    “อ้าวอีฟได้ข่าวว่าทำไอ้เสือหงอย เสียงนี่เป็นร้ายกาจ เขาดูเหมือนคนขี้เล่นแต่ไม่ใช่ ตัวนี้เป็นตัวดี เรียกง่ายว่าเป็นแฝดกลางที่วางอำนาจ

                    ใครเสือ ฉันถามมองหน้าจักรวาลเห็นเขากระตุกมุมปากตอนที่แฝดน้องพูด

                    ก็ไอ้จักรวาลไง ร้ายกาจไม่สะทกสะท้าน เขาดูชั่วร้ายสมชื่อนั่นแหละ แต่ก็ดูเป็นผู้ใหญ่

                    เราสนิทกันพูดเล่นกันได้แต่ไม่ค่อยเจอพวกเขาบ่อยนัก ต่างรู้ พวกเขามีแฟน ร้ายกาจคบกับใครสักคน จักรวาลเคยเล่าให้ฟังผ่าน ๆ ว่า บังคับคบเรื่องเป็นยังไงต่ออันนี้ไม่รู้

                    ส่วนกระสุนเป็นคนดังมีผู้หญิงรายล้อมรอบตัวแต่เขาไม่เคยมองใครจนกระทั้งเมื่อกี้ที่จักรวาลพูด ดูท่าเขาจะมีหญิงในใจแล้วมั้ง

                    “พวกมึงจะไสหัวไปไหนก็ไปกูรำคาญ เจ้าตัวไล่ด้วยการเดินเข้ามาหาฉัน ฉันเห็นนายกระสุนเหลือบมองมือจักรวาลซึ่งเป็นตอนเดียวกันที่มันรอบเอวคอนฉันไว้

                    กูก็ไม่ยักรู้ว่ามึงจะชอบเพื่อนกระสุนเป็นคนพูด

                    อัปครบ

    หื้ออครอบครัวนี่แม่งร้ายเกินนนน ดูร้ายกาจดิ อะไรนะ 'บังคับคบ' บ้าบอยอมมม #สามเสือ

    #ป.ล ขอบคุณทุกคนที่ชอบนิยายของไรท์น๊ >< จุบุ (มีแรงไปปั่นแย้วว)

    ป.ล (2) อิมเมจจักรวาล BANG YONG GUK จ้าา

    1 เม้นมาคุยกันค่าทุกคน


     

     



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×