คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : จั ก ร ว า ล † 'ผู้หญิงคนนั้น' (อัปครบ)
จั ก ร ว า ล
#นิยายเรื่องนี้มีคำพูดที่หยาบคายสร้างความปั่นป่วนทางจิตใจ ฉากไม่เหมาะสมคุณสามารถข้ามผ่านมันได้ หากคุณไม่ชอบกรุณากด (X) และหากคุณชอบกรุณากดติดตาม
เพจ กลุ่มลับหาในเพจนะคะ
*******
JAKAWAN & EVE
EPISODE
๑๒ จั ก ร ว า ล † 'ผู้หญิงคนนั้น'
เรื่องที่ทำให้ฉันเรียนรู้วันนี้ก็คือ
ฉันตัดจักรวาลไม่ขาดเพราะมันไม่ปล่อยส่วนทิศแน่นอนว่าไม่ล้มเลิก
ทางเดียวที่ทำได้คือเล่นกับพวกมัน
“ถ้าอยากให้ยกโทษเรื่องเลว ๆ นายก็ต้องไปส่งฉันที่ห้อง” มันคือข้อเสนอจักรวาลคงไม่โง่พอทิ้งมันหรอก
“มันตามเธอแน่อีฟมันตามแน่” หึ พูดเหมือนหวงทั้งที่แววตาซ่อนความเลวไว้
คิดเรอะว่าฉันมองมันไม่ออก
“ที่พูดออกมาต้องการอะไรมิทราบ”
ฉันไม่รู้ว่าทำไมจักรวาลไม่เลิกยุ่งกับฉันสักที มันทำเรื่องทั้งหมดทำไม
ทำแล้วได้อะไร
“ไปกับฉันอีฟเธอจะได้ไม่เจอมันอีก” เขากำลังเสนอทางออกให้ฉัน
เอาจริง
ๆ ฉันคิดว่าไม่ใช่
จักรวาลต้องมีแผนและฉันไม่อยากสุ่มเสี่ยงอะไรทั้งสิ้น
“เลิกรุ่มร่ามกับฉันสักทีเหอะแล้วฉันจะไปด้วย” ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้ฉันไม่มีทางเลือกแล้วจริง
ๆ
ชนได้ก็ชนวะ
เลยตัดสินใจกลับกับจักรวาล
ตลอดทางเราไม่คุยกัน
ตอนนี้มันดึกมากถนนส่วนใหญ่โล่งความเงียบก่อ เรานั่งอยู่ในรถทั้งที่แอร์เย็นจัด
ฉันกลืนน้ำลายลงคอพูดในสิ่งที่ตัวเองกำลังคิด
“ฉันไม่ลืมสิ่งที่นายทำ” ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่กันที่ฉันแทนจักรวาลว่านายและไม่ใช่มึง
ไม่ใช่ว่าฉันให้อภัยกับสิ่งที่มันทำหรืออะไรเพียงแต่ฉันอยากหาจุดยืนที่ชัดเจน
ฉันตัดขาดกับมันเลิกคบมันแบบเพื่อน อย่างเดียวที่ฉันต้องการคือให้ทิศเลิกวุ่นวายกับฉันสักที
ฉะนั้นที่ปลอดภัยสำหรับฉันคือการต้องทนอยู่กับจักรวาล
ทนทั้งที่ต้องเห็นหน้ามันทุกวัน
กริ๊ก
“ห้องนี้ฉันยกให้เป็นของเธอแต่โซฟามันเป็นของฉัน”
จักรวาลพูดหลังจากปิดประตูห้อง
ก็ห้องเดิม ห้องที่มันทำเรื่องเลว ๆ ไว้กับฉัน ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ในห้องมีครบเขายกมันให้กับฉันยกเว้นโซฟา
นั่นหมายความว่าจักรวาลต้องการใช้มันเป็นที่นอนและการที่เขาใช้มันหมายถึงต้องอยู่ในห้องนี้ตามลำพังกับฉัน
ไม่โอเคอย่างแรง
ฉันไม่ต้องการให้เขาอยู่ห้องเดียวกับฉัน
อู่มันมีที่พักอีกเยอะทำไมถึงได้..
“ทำไมนายไม่ไปนอนที่อื่น”
ฉันถามจักรวาลเลยเบนสายตากลับมามองฉัน
อารมณ์เหมือนโดนไล่แต่หน้าด้าน
รู้ไหมฉันเกลียดอะไรในตัวจักรวาลที่สุด
หึ การคาดเดาอะไรไม่ได้ไง
ฉันไม่เคยเดาความคิดมันได้
ฉันไม่รู้ว่าตลอดเวลาหรือ ณ ตอนนี้ จักรวาลกำลังคิดอะไรอยู่ เขากำลังเลียริมฝีปากไปกี่ครั้ง
กระพริบตาไปกี่ที แต่ที่แน่ ๆ มันคือตัวปัญหาที่ฉันไม่มีทางสลัดทิ้ง
“ฉันจะนอนที่นี้”
จักรวาลบอกชัดฉันรู้ว่ามันหมายความอย่างนั้นจริง ๆ
“…”
“เอาเป็นว่าคืนนี้ฉันให้เธอนอนคนเดียวละกัน”
เฉพาะคืนนี้เหรอ…
จักรวาลพูดแบบนี้หมายความว่าเขาต้องการออกไปจากห้องแล้วให้ฉันอยู่คนเดียวต่อจากนั้นพรุ่งนี้เขาก็จะกลับมา
“…”
ฉันกำลังคาดหวังอะไรอยู่เนี่ย ตลอดเวลาที่ผ่านมาจักรวาลไม่เคยอธิบายเหตุผลที่ทำกับฉันแถมวันนี้เขามาที่ร้านอีก
มาได้ไง
มาทำไม
หรือมาเพื่อซัดทิศแล้วลากตัวฉันกลับ?
ฉันคงมีคำถามมากมายแต่มันต้องไม่ใช่เวลานี้แน่
“พรุ่งนี้มีเรียนกี่โมง” ความเงียบทำให้เราไม่มองหน้ากัน
ฉันแสยะยิ้มขำ ๆ เงยหน้ามองเพดานห้อง
จักรวาลถามฉันทั้งที่เขากำลังกดอ่านแชตใครสักคนอยู่
ดูก็รู้ว่ามันต้องออกไปข้างนอกและที่บอกว่ายกห้องให้ฉันคือการไม่กลับห้องไง
“บ่ายโมง” ฉันตอบเดินผ่านจักรวาลไปและตอนนั้นคำพูดกระซิบแผ่วเบาดังขึ้น
“ฝันดี”
นั่นคือคำพูดสุดท้ายของเมื่อวานจนกระทั้งเที่ยงวันของวันนี้ฉันยังไม่เห็นเงาหัวของมันเลย
กริ๊ก
“อ้าวเจ๊ตื่นแล้วเหรอ” ฉันเปิดประตู เด็กที่นั่งอยู่เคาน์เตอร์ฉันจำไม่ได้ว่าชื่ออะไรมันเอ่ยปากถาม
หมอนี่อายุมากกว่าฉันหนึ่งปีแต่ดันเรียกฉันว่าเจ๊
“จักรวาลกลับมายัง” นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการ
ฉันอยากจะรู้ว่ามันเอาเสื้อผ้าของฉันไปไว้ที่ไหน
ก็รู้ฉันมากับมันเมื่อคืนสิ่งของเครื่องใช้ฉันไม่ได้มีติดตัวนอกจากเสื้อผ้าเมื่อวาน
จำได้ว่าครั้งก่อนจักรวาลยึดเสื้อผ้าฉันตอนนี้ฉันต้องการเพราะมีเรียนไง
“ยังไม่เห็นครับ”
หมอนั่นตอบเกาหัวสักพักทำสีหน้าเหมือนนึกอะไรได้ “อ้อเฮียกลับมาแล้วครับกลับมาเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว”
หนึ่งชั่วโมงที่แล้วตีราว
ๆ สิบโมงเช้า?
“เห็นนอนหลับอยู่หลังอู่เจ๊จะให้ผมไปตาม?”
หมอนั่นเสนอแต่ฉันยกมือบอกปัด
“ไม่ต้อง” ฉันคิดว่าไม่จำเป็นต้องเรียกใช้จักรวาลแล้ว
“ไอ้อีฟมาทำไมแต่เช้า” ไอ้โนเป็นคนทักตอนที่เดินเข้ามาในร้าน
สีหน้ามันดูดีกว่าทุกวัน ประเด็นคือฉันควรตอบมันกลับไปว่าไง
“เจ๊มาเมื่อคืนครับพี่โน” ทิ้งระเบิดไว้แล้วก็เดินออกไป
ไอ้เด็กเวร
“…”
“มาเมื่อคืน”
ไอ้โนครางถามพลางทำสีหน้าครุ่นคิดสักพักมันวางกรงแมวน้อย ๆ
ลงบนโต๊ะซึ่งห่างจากจุดที่ฉันยืนอยู่ไม่มากนักก่อนจะหันหน้ากลับมามองฉัน “งั้นแสดงว่านอนห้องไอ้จักรวาล”
“มันไม่ได้นอนกับฉัน”
เหี้ยเอ้ย
เป็นอะไรของฉันวะ
ไอ้โนไม่ได้ถามคำถามเรื่องนี้ซะหน่อย
“ดูเหมือนมึงร้อนตัว”
“ใครร้อนตัวไอ้โน” ฉันขึ้นเสียงสูงทั้งที่กุมขมับ
ไอ้โนเลยส่ายหน้าพลางนั่งลง
“แล้วไอ้จักรวาลอยู่ไหน”
“อยู่นี่มึงมาทำไม” ร่างสูงถูกถามหาเดินเข้ามาจากหลังร้าน
เขาตวัดหางตามองฉันสลับมองไอ้โน จากนั้นเดินเข้ามาในจุดที่ฉันยืนอยู่
จักรวาลอยู่ในเสื้อผ้าตัวเดิม สูบบุหรี่ด้วยมือข้างขวาส่วนมือข้างซ้ายเกี่ยวเสื้อไว้บนไหล่นั่นหมายความว่าท่อบนเขาเปลือยเปล่าไม่มีอะไรปกปิด
แค่แวบเดียวที่ฉันเหลือบมอง
ฉันเห็นรอยแดง
ๆ เสมือนรอยเล็บฝากไว้บนแผ่นอก
รอยนั่นไม่ใช่ของฉันเพราะมันดูสดใหม่
“กูมาหามึงไม่ได้?” ไอ้โนถามทำให้ฉันขยับออกจากจุดตรงนั้นเล็กน้อย
เวลาเดียวกันจักรวาลมองฉัน
ฉันไม่ชอบให้จักรวาลมองฉันนาน ๆ ยิ่งตอนที่ไอ้โนอยู่ด้วยแบบนี้ฉันยิ่งไม่ชอบ
รู้ไหมมันไล่สายตาดุดันมองตั้งแต่หัวจรดเท้าและหยุดไว้ตรงชายเสื้อ
ซอกขาฉันโผล่ออกมาจากเสื้อ ผิวขาว ๆ กำลังถูกจักรวาลสำรวจ
ฉันมั่นใจว่าเขาไม่ได้ฟังไอ้โนพูดเลยนอกจากถอนหายใจหนักหน่วงหนึ่งทีตามด้วยดึงชายเสื้อฉันให้ลงต่ำ
การกระทำเล็ก
ๆ
แน่นอนว่าไอ้โนไม่ทันสังเกตส่วนฉันก็ไม่ได้ขัดขืนเพราะอยู่ในจุดที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากนิ่ง
“เสื้อสวยดีนะไอ้อีฟ” เสียงทุ่มเอ่ยถาม
เป็นจังหวะที่จักรวาลปล่อยมือออกจากเสื้อ
“มึงมาเพื่อถามเสื้ออีฟ?” แต่จักรวาลพูดตัดหน้าฉัน
เขาดันฝ่ามือลงต้นแขนฉันอย่างแผ่นเบา กดมันเพื่อบอกให้ฉันเดินออกจากจุดนี้
ฉันกำลังจะขยับตัวออกแต่ไอ้โนพูดขึ้นด้วยการรั้งคอฉันไว้
ช่วงเวลานั้นฉันไม่ถือสาแต่แขนแกร่งของมันเริ่มเกี่ยวต้อคอฉันขยับเข้าไปใกล้
นึกออกไหม
ฉันยืนในจุดที่มีผู้ชายสองคนยืนใกล้กัน
ซ้ายมือเป็นไอ้โนขวามือเป็นจักรวาล
เลยทำให้ฉันแนบชิดกับลำตัวมัน
“เปล่ากูเห็นไอ้อีฟใส่เสื้อมึงบ่อยเลยถามปกติมึงหวง” น้ำเสียงไอ้โนบอกถึงการไม่ใส่ใจแต่แววตาจักรวาลมันดูเย็นชาขึ้นมา
“ถ้ามึงอยากได้กูยกให้” จักรวาลพูดหลังจากเงียบ “กูไม่ได้หวงขนาดนั้น”
การตอบของเขามันชัดเจนจนไอ้โนแสยะยิ้ม ดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้คิดอะไรนอกจากพูดเล่นเพื่อความบันเทิงส่วนอีกคนกลับกดนิ้วมือลงแขนฉันอย่างแนบเนียน เพื่อให้ฉันขยับออกจากวงแขนแกร่ง
ฉันจึงเลือกผลักไอ้โนออกพร้อมสลัดแขนจักรวาลทิ้งทีอีก
“ไหนบอกว่ามีเรียน”
คำถามจักรวาลทำให้ฉันเงยหน้ามองเขา ไอ้โนยืนในจุดที่เราคุยอยู่
ถ้าตบมันโชว์ตรงนี้ได้ฉันทำไปแล้ว
สิ่งเดียวที่ตอบได้คือ
“ชุดฉันอยู่ไหน”
ฉันต้องหายใจเข้าออกลึก
ๆ สูดอากาศให้เต็มปอดจนมันตอบว่าอยู่ในตู้ ฉันจึงผ่อนลมขยับออกจากตรงนั้นทันที
ฉันใช้เวลาในการแต่งตัวไม่นานนักเมื่อคิดว่าอยู่ในสภาพที่โอเคก็เปิดประตูออกมา
ฉันเห็นไอ้โนเล่นกับแมวอยู่ในมุมหนึ่งของร้านส่วนจักรวาลไม่รู้หายหัวไปไหน
ฉันไม่สนใจมันหรอกจะหายหัวไปไหนก็เรื่องของมัน
“ไอ้โน” เลยตัดสินใจเดินเข้าไปหาไอ้โนทำให้มันเงยหน้ามองฉันทั้งมีมือทั้งสองอุ้มแมวอยู่
“ขอยืมกุญแจรถหน่อยดิ”
ฉันลืมไปสนิทเลยว่าเมื่อคืนไปกับแปมแถมดันทิ้งรถไว้ที่ร้านอีก
พรึบ!
“ให้กูไปส่งมั้ย” มันถามพร้อมลุก
“ไม่ต้อง” ฉันตอบยื่นมือไปตรงหน้ามันไอ้โนเลยเอื้อมมือไปด้านหลังจากนั้นส่งกุญแจรถมาให้ฉัน
“อย่าซิ่งนะเว้ย” มันตะโกนตอนที่ฉันเดินออกมา
ห่างจากร้านจักรวาลไม่กี่เมตรฉันเห็นรถคันสีน้ำเงินเข้มจอดอยู่ใต้ต้นไม้
จำได้ว่าเป็นของไอ้โนเลยเดินตรงเข้าไปทว่า
หมับ!
แขนฉันกลับถูกฉุดด้วยใครสักคน
ฉันไม่ทันได้มองด้วยซ้ำว่าใคร แรงมหาศาลกลับเป็นฝ่ายดึงให้ฉันเดินออกมา
จนกระทั้งร่างฉันถูกจับกดเข้ากับรถอีกคัน
ปึก!
“ในร้านอ่อยมันหรือไงอีฟ”
การข่มเสียงเกิดขึ้นเมื่อตอนที่ฉันสบตากับคนร่างสูง เขาไม่ใช่ใครแต่เป็นจักรวาล
อารมณ์มันเหนือเหตุผลเสมอและฉันขี้เกียจทะเลาะกับมันด้วยเลยเลือกกดไหล่หนาตามด้วยขยับตัวออกแต่มันกักขังฉันไว้ด้วยการกดตัวแนบชิดชนิดที่ว่า
ใครผ่านมาต้องเอียงคอมองจนคอเคล็ด
แม่ง
“เป็นบ้าอะไร”
อาการหนักหนาสาหัสต้องโดนกระทืบแล้วมั้งถึงจะหาย “เหี้ยไรหนักหนา” ที่ถามเพราะมันเล่นออกแรงกดตัวฉันเข้ากับรถ
แรงผู้ชายฉันก็สู้ไม่ไหวอยู่แล้วนับประสาอะไรกับแรงจักรวาล
ดิ้นให้ตาย..ถ้ามันไม่ปล่อยก็คือไม่ปล่อย
“ตอบคำถามฉันก่อนอีฟ”
มองเหมือนข้องแถมยังจ้องเหมือนจะฆ่า
ฉันเลยเม้มปากผ่อนลมหายใจแรง
ๆ จากนั้นลากสายตามองจักรวาลอีกที
“อ่อยไม่อ่อยเกี่ยวไรกับนาย”
เราไม่ได้อยู่ในฐานะที่ต้องหวงป่ะและฉันก็ไม่แคร์ว่าจักรวาลจะมองยังไง
ฉันไม่สนว่าเขาจะหาเรื่องทำไม
ที่มันทำอยู่ก็ถือว่าพังมากพอแล้ว
“หลีกอย่าสะเออะ”
ฉันพูดถีบขามันข้างซ้ายแต่จักรวาลไม่ปล่อย
จักรวาลไม่ขยับตัวสักนิด มองดูดี ๆ
จะเห็นว่ามันโน้มตัวลงมาใกล้ฉันแถมยังมีหน้ากดฝ่ามือลงท้องน้อยฉันเบา ๆ
“ลืมไปแล้วเหรอฉันทำอะไรกับเธอบ้างอีฟ”
ฉันเม้มปากตอนที่มันพูด “ฉันจำได้ว่าฝากรอยแดงไว้ในซอกเนื้อด้านในสุด”
เพียะ!
“หยุดพูดจาน่าเกลียดสักที”
ฉันสาบานว่าถ้ามันพูดอีกละก็ฉันตบมันไม่ยั้งแน่
“หึ ไม่พูดก็ได้วะ”
มันบอกแบบนั้นทั้งที่สอดนิ้วเข้าไปในเสื้อฉันนี่น่ะ
ฉันเก็บอาการโมโหไว้
กลั้นหายใจไว้ให้นานที่สุด
“จำไว้นะอีฟฉันไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับเธอโดนเฉพาะผู้ชาย”
พรึบ
ฉันได้แต่กำมือตอนที่จักรวาลผละตัวออกไป
เขาหน่ะเลวกว่าที่ฉันคิดซะอีก
ทุกอย่างควรจะจบแต่จักรวาลไม่ เขาใช้โอกาสตอนที่ฉันเผลอดึงกุญแจรถไอ้โนออกไป
จากนั้นบังคับให้ฉันนั่งรถไปกับมัน
ระหว่างนั้นฉันไม่พูดจนกระทั้งเขาจอดรถหน้าคณะและสั่งคำด้วยวาจาปกติเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เลิกเรียนแล้วโทรมาฉันจะมารับ”
หึ
คิดว่าฉันควรตอบป่ะ
ใจจริงฉันกำลังหน้าหงิกหน้างอครูดเล็บลงเบาะสวย
ๆ ของมันอยู่ จักรวาลรู้จักฉันดี เขารู้ว่าเมื่อไหร่ที่ฉันเงียบ
มันมักจะมีสงครามเสมอ
ฉันทำแน่
ก๊อก
ก๊อก
ตอนนั้นเองเสียงก๊อกกระจกรถดังขึ้นฝั่งฉัน
ฉันเบือนหน้ามองเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง เธออยู่ในชุดนักศึกษาของมหาลัยนี้
แน่นอนว่าฉันไม่รู้จักเธอ
จนกระทั้งจักรวาลลดกระจกรถลง
เธอคนนั้นจึงเอื้อมมือข้ามหน้าฉันไปหาจักรวาล
สิ่งที่จักรวาลทำต่อมาคือจูบหลังมือของหญิงสาวคนนั้น
“…”
“ไม่คิดว่าจะเจอเธอที่นี้ลิต้า”
จักรวาลพูดโฟกัสหน้าเธอคนนั้น “เมื่อคืนสนุกมาก”
เหอะ
รอยแผลของมันคงมาจากผู้หญิงคนนี้แน่ไม่ต้องถามก็ดูออก
จักรวาลมันเยอะเรื่องผู้หญิงทำไมฉันจะไม่รู้
“โลกคงบังเอิญให้ฉันได้เจอนายอีก”
ลิต้าตอบเหลือบมองฉันเล็กน้อย รอยยิ้มของเธอเปรียบเสมือนสมานแม่เหล็กขนาดเล็ก “ว่าแต่ฉันเข้ามาทักทายแฟนนายคงไม่ว่าใช่ม่ะ?”
ทันทีที่เธอพูดฉันกรอกตาขึ้น
ในตอนนั้นฉันอยากตอบเธอกลับไปว่า ‘ไม่ใช่’ แต่จักรวาลดันพูดตัดหน้าฉันไปว่า
“เพื่อนหน่ะเธอดูไม่ออกหรือไง” ในคำตอบของเขาทำให้ฉันได้รับรู้อย่างนึงก็คือ
ทุกความสัมพันธ์ที่จักรวาลหยิบยื่นให้มันจอมปลอม
อัปครบ
ไม่ชอบให้ใครมายุ่งแต่ตัวเองดันไปยุ่งกับคนอื่น หึ แกมันร้ายยอีเฮีย
1 เม้น 1 กำลังใจนะคะ ไม่สะดวกเม้นกดใจก็ได้นะ
ความคิดเห็น