คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : จั ก ร ว า ล † 'รอยเลือด III' (อัปครบ)
จั ก ร ว า ล
#นิยายเรื่องนี้มีคำพูดที่หยาบคายสร้างความปั่นป่วนทางจิตใจ ฉากไม่เหมาะสมคุณสามารถข้ามผ่านมันได้ หากคุณไม่ชอบกรุณากด (X) และหากคุณชอบกรุณากดติดตาม
เพจ กลุ่มลับหาในเพจนะคะ
*******
JAKAWAN & EVE
EPISODE
๑๑ จั ก ร ว า ล † 'รอยเลือด III'
ถ้าฉันตาฝาดมันคงจะดี
เพราะเท่าที่ฉันรู้จักแปมมา
เธอเป็นพวกรักความรุนแรงชอบเห็นคนต่อยราวกับว่ามันเป็นเรื่องสนุก
ส่วนใบหยกเป็นประเภทไม่ชอบให้ใครมาเซ้าซี้
ไม่ชอบให้ใครยุ่งเรื่องส่วนตัว เย็นชาระดับนึงแต่ไม่ถึงขั้นหนักหนาสาหัส
ฉันว่าพวกเราเป็นกลุ่มที่แสบพอตัว
คืนนั้นเอง
ฉันแวะมารับแปมที่คอนโดเธออยู่คนเดียวห่างจากฉันไม่กี่ไมล์ส่วนใบหยกบอกไปเจอกันที่ร้าน
เราทั้งสองจึงรีบตรงไปยังร้าน
ทุกอย่างเหมือนเดิมบรรยากาศเป็นร้านเหล้านั่งชิลล์กันปกติ
ดนตรีสดในช่วงแรก ดึกหน่อยจะเป็นพวกเครื่องเสียง
“นั่นไงใบหยกนั่งอยู่”
แปมพูดหลังจากที่เราเดินเข้ามาในร้านแล้ว
คนส่วนใหญ่เป็นพวกนักศึกษา
กลุ่มวัยรุ่น วัยทำงานมักไม่สันทัดที่นี้ เพราะร้านนี้ชอบมีเรื่องตำรวจลงบ่อย
มีข่าวต่อยชกเกือบทุกวัน
ไม่สดจริงไม่เที่ยวกันหรอก
“มานานยัง” ฉันถามหลังจากที่เดินมายังโต๊ะ
“สิบนาที” เธอตอบส่งแก้วเหล้ามาให้ ฉันรับเดินไปนั่งฝั่งตรงข้าม
แปมนั่งปีกซ้ายมือของใบหยกส่วนฉันนั่งตรงข้ามเธอ
ร้านไม่ใหญ่มากโต๊ะส่วนใหญ่อยู่ใกล้กัน นั่งทีหลังชนก็มี
ฉันไม่ถือเพราะเสพบรรยากาศกับเครื่องดื่ม
“หยกสั่งอะไรไปบ้าง” ฉันถามตอนที่กระดกเหล้าเข้าคอ
ถ้าจะให้ดื่มเหล้าอย่างเดียวมันก็ไม่ไหวอย่างน้อยเราต้องมีพวกของทานเล่นบ้าง
ฉันเลยยกมือสั่งของตอนที่ใบหยกส่ายหน้า ระหว่างรอเราก็คุยกันไปเรื่อย แปมเองก็เติมเหล้าให้ฉันบ่อย
สักพักใบหยกลุกขึ้นเธอบอกต้องการเข้าห้องน้ำที่โต๊ะจึงเหลืองฉันกับแปม
“อีฟทะเลาะกับจักรวาลมาเหรอ”
แปมถามหลังจากหยกเดินออกไปไม่ถึงสองนาที ฉันเงยหน้าจากแก้วเห็นแปมยิ้มกริ่มอยู่
ก็ไม่คิดว่าคนแบบเธอจะถาม
อย่างที่รู้ฉันคบเพื่อนสองกลุ่มแปมกับใบหยกย่อมรู้จักจักรวาลดี
พวกเขาเจอกันไม่บ่อยแต่รู้ว่าฉันสนิทกับจักรวาล
“ก็ไม่” ฉันตอบ
แปลกปกติแปมเคยสนใจใครที่ไหนโดยเฉพาะเรื่องจักรวาล
“แปมก็แค่ถามเพราะเมื่อสองวันก่อนพี่เขาโทรหาเห็นถามถึงอีฟแปมก็เลยคิดไปว่าทะเลาะกัน”
ดูเหมือนแปมสงสัยเพราะเธอเล่นจ้องแบบข้อง
“เปล่า” ฉันกรอกตาตอบอีกครั้ง
ฉันไม่อยากพูดความจริง
มันไม่จำเป็นต้องพูด ถ้าเราเลือกตอบปัดแน่นอนว่ามันต้องจบ หากฉันบอกแปมไปตรง ๆ
นั่นเธอจะเซ้าซี้ถามต่อว่า
เกิดอะไรขึ้น
แค่จุดเล็กก็นำพาไปยังจุดใหญ่
“งั้นเหรอ” แปมครางรับ
ดูเหมือนเธอจะลดความสงสัยลงไปหน่อยนึง
สักพักใหญ่ใบหยกกลับมา สีหน้าเธอค่อยข้างหงุดหงิด ฉันไม่ได้ถามอะไรหรอก
เป็นแปมมากว่าที่พูด สองคนนั้นมองหน้ากันสลับมองหน้าฉัน พวกเธอดูมีลับลมคมใน
เพียงแต่ฉันไม่อยากถามเพราะไม่มีอารมณ์
เรานั่งกันไปเรื่อย
ๆ คนเริ่มแน่นเก้าอี้หลังฉันมีเจ้าของฉันรับรู้ถึงการเบียนชิดแผ่นหลังและตอนนั้นเอง
“อีฟเราต้องคุยกัน” เสียงเข้มดังขึ้นในระยะประชิดหู
ฉันสัมผัสถึงการอยู่ใกล้เลยรู้ว่าคนที่พูดอยู่ด้านหลังฉัน
‘ทิศ’ คือเจ้าของเสียง
มันกำลังสื่อกับฉันทั้งที่ฉันนั่งดื่มอยู่กับเพื่อน
แน่นอนว่าการคบหาของฉันกับทิศแปมกับใบหยกไม่รู้ ทิศคงคิดว่าฉันกลัวแปมกับหยกรู้เลยเล่นขู่กันซึ่ง
ๆ หน้า
หึ
เอางั้นก็ได้
“หยกกับแปมนั่งดื่มกันไปก่อนนะพอดีว่าอีฟเจอตัวเหี้ย”
พรึบ
ฉันไม่รอให้พวกเธอตอบเลือกเดินออกจากโต๊ะจากนั้นหันมองไปยังโต๊ะทิศ
เห็นว่าเขามากับเพื่อนอีกสามคน ฉันไม่โฟกัสใครนอกจากมัน
“อยากคุยก็คลานตามมา” ฉันพูดชัด แปมกับหยกเลิกคิ้วมองในจังหวะที่ฉันเดินออกจากร้านไป
“อีฟ”
หมับ!
“อย่าแตะต้องตัวฉัน!” ฉันตะคอกพร้อมสะบัดมือหลังจากเราออกมาจากร้าน
“อยากพล่ามอะไรก็พูดมา” ในร้อยเปอร์เซ็นต์ฉันมั่นใจว่าทิศตามฉันมาเจ็ดสิบส่วนอีกสามสิบดักรออยู่แล้ว
ทิศไม่ใช่คนที่จะล้มเลิกอะไรง่าย
ๆ เขามันหัวดื้อพอ ๆ กับจักรวาล
“เรื่องผู้หญิงคนนั้นมันมากกว่าที่อีฟรู้” หึ
คงไม่พ้นเรื่องนี้อีกสินะ
เอาตามตรงฉันเบื่อเรื่องนี้
ตามหลักคนโดนทิ้งต้องไสหัวออกไปจากชีวิตถึงจะถูกแล้วดูสิ่งที่เขาทำ
เขาพยายามเข้าหาตัวฉัน พยายามแสดงจุดยืนว่าตัวเองมีตัวตน
ความอดทนทุกคนมีนะแต่สำหรับฉันมันเหลือน้อยเต็มที
“แล้วฉันต้องรู้เรื่องอะไรอีก” ฉันเดาะลิ้นถามพร้อมเม้มปากลากสายตากลับมามองทิศ
ครั้งแรกเลยนะที่ทำให้ฉันมองคนได้เหี้ย
หรือเขาจะบอกกว่ามันมากกว่าไปนอน
‘เอา’ ว่างั้น
เหอะ
“อีฟฟัง” ในน้ำเสียงมีความมั่นใจกี่ส่วนฉันไม่รู้ “เรื่องนี้มันมีคนมาเอี่ยวอีฟต้องฟังทิศอธิบาย”
เอี่ยว = มีคนมาเสือกมายุ่ง?
“ถ้าฉันบอกว่าไม่อยากฟังละ”
ฉันเคยบอกเขาไปแล้วว่าจบมันไม่ชัดตรงไหน
“อีฟ…”
ฉันขยับตัวออกไปทางซ้ายเมื่อทิศขยับตัวเข้ามาอีกก้าว
แววตาเขาดูกังวลอยู่ในหลายจุด เขาพยายามอธิบายเพื่ออะไร?
“เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นจริง” นี่เขากำลังสารภาพบาปกับฉันงั้นเรอะ
“แต่มันไม่จริงทั้งหมด”
ทิศกัดกลีบปากล่างหนึ่งทีแล้วปล่อยออก
ในขณะที่เราคุยกันแน่นอนว่ามีคนเห็น
จุดที่ฉันยืนมันคือหน้าร้าน ถึงจะมืดแต่มันก็เห็นเพราะร้านตรงข้ามเป็นร้านอาหาร
เมาจากร้านนี้ไปต่ออีกร้าน
จะยังไงก็ตามทิศผิดส่วนฉันดันมั่วได้กับเพื่อน
เห็น ๆ กันอยู่ว่าเราไม่ควรกลับไปยืนในจุดนั้น ต่อให้ทิศไม่นอนกับใครฉันก็กลับไปไม่ได้
หรือต่อให้มันนอนอย่างที่ทำอยู่ฉันก็ไม่เอา
“อีฟ”
“พอสักที!” ฉันเริ่มตะคอก “หยุดเอาคนอื่นมาข้องทั้งที่ตัวเองเป็นคนมักมาก”
เหี้ยฉิบหายยังหน้าด้านมา
มีแต่คนเลว ๆ ที่ทำกัน
“ทิศพยายามหาผู้หญิงคนนั้นอยู่อีฟ” เขาไม่หยุดแถมยังบอกฉันทั้งที่ร้อนรน
ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาเป็นมากขนาดนี้
ฉันเสียเวลากับคนแบบนี้ไปได้ยังไง ความแมนไม่มีความดีไม่ต้องพูดถึง
กินอยู่กับปากแต่ดันประจานออกสื่อ
สารเลวฉิบหาย
“อยากทำอะไรก็ทำแต่กรุณาอย่ามายุ่งกับฉันอีก” ฉันบอกตัดบทเดินเลี่ยงจังหวะนั้นทิศกำลังจะคว้าข้อมือฉันไว้แต่เผอิญว่าฉันหลบทันทำให้ทิศจับเป้าหมายใหม่
ข้อมือนั้นไม่ใช่ฉันแต่เป็นมือแกร่งของใครสักคน
“มึงยังข้องไม่จบ”
ผัวะ!
พูดชัดไม่ฉายซ้ำ ร่างทิศถูกกระชากออกไปเพื่อรับหมัด
ฉันเห็นบุคคลมาเยือนรายใหม่คือจักรวาล ไม่รู้ว่ามันมาได้ยังไง
ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่ตอนไหน
สิ่งเดียวที่ฉันรู้คือจักรวาลเกรี้ยวกราดมาก
มันกระชากคอทิศปล่อยหมัดไปหลายหมัด ทิศมีแรงขัดขืนทำให้พวกเขากระโจนใส่กันไม่หยั่ง
วินาทีนั้นแววตาดุดันราวกับโกรธแค้นฝั่งลึกตวัดมองฉัน
วูบ
ใจฉันวูบไปชั่วขณะจักรวาลจ้องฉันก่อนที่เขาจะกระชากทิศมาต่อยอีก
ถังขยะหน้าร้านถูกพวกเขากวาดเรียบจนทุกอย่างกระจัดกระจายเต็มหน้าร้านไปหมด
ฉันได้ยินเสียงหมัดกระทบเนื้อหลายครั้ง
เห็นทิศถูกจักรวาลกระชากคอตามด้วยชกไปหลายหมัด
พวกเขาทำให้ร้านฝั่งตรงข้ามแตกตื่นจนถึงขั้นมีบางคนอัดคลิป
“ไอ้สัส! มึงเก่งมาจากไหนวะ!”
ทิศกระชากคอเสื้อจักรวาลเพื่อสู้ หน้าเขาแสดงออกถึงความคับแค้น
จากนั้นเขาตวัดหางตามองฉัน “อีฟเป็นแฟนกูส่วนมึงแค่เพื่อน”
ผัวะ!
“เขาบอกเลิกกับมึงแล้วเขาเป็นมะ…”
ตอนนั้นเอง
“จักรวาล!!” ฉันไม่ยอมให้มันพูดจาเหี้ย ๆ ตรงนี้หรอก “ถ้าอยากให้ฉันมองหน้าหุบปาก” แววตามันฉันรู้ว่าคิดอะไรอยู่
ขืนไม่ห้ามคนบ้าอย่างมันต้องประกาศตรงนี้ ฉันไม่อยากซวยไม่อยากเลวจึงเดินเข้าไปกระชากแขนจักรวาลที่อยู่บนอากาศเพื่อต่อยทิศ
“จะจบได้ยัง” ฉันถามลากตัวจักรวาลออกมาทั้งที่มันขัดขืนแถมยังจ้องหน้าฉันแบบข้องไปอีก
“ปกป้องมันเหรอ?” เสียงทุ้มห้าวถาม
อารมณ์เดือดไม่ลดลงเลย
ฉันค้างสายตาไว้ที่จักรวาลมองมันเสมือนรักแล้วปล่อยทิศให้เหมือนอากาศ
รอยแผลบนโหนกแก้มยังมีอยู่รอยใหม่ก็เพิ่มขึ้น
ทิศเก่งเรื่องชกแต่จักรวาลมันช่ำชองมากกว่าทำให้หน้าจักรวาลมีแค่มุมปากที่แตกยับส่วนทิศระบมไปหมดทั้งตัว
“อีฟมันจะพูดอะไร” ทิศถามมองหน้าฉัน เราสามคนอยู่ใกล้กัน
เชื่อไหมแววตาทิศตอนนี้มีคำถามากมาย
เขาอยากกระชากคอจักรวาลแค่ไหนทำไมฉันจะไม่รู้
“มึงอยากรู้เหรอ” จักรวาลถามละสายตาออกจากฉัน มุมปากมันบิดขึ้น
เห็น ๆ กันอยู่ว่าเลว
“หุบปากจักรวาล”
ฉันสั่งลากมันออกจากจุดตรงนั้นแต่เขาไม่ขยับเลย
“มึงไม่เห็นหรือไงว่าอีฟเลือกใคร”
จักรวาลมันไปห้าวมาจากไหน ถึงได้ดูขว้างโลกจนฉันหวั่นใจ ท่าทีที่มันทำบอกให้ทิศขอคำตอบจากฉัน
ฉันไม่ใช่ตัวเดินเรื่องให้ใครนะ
ฉันมองออกว่าจักรวาลต้องการเหยียบทิศให้จมดิน ไม่รู้ว่าทำไม ทำแล้วได้อะไร
ฉันไม่ใช่ของเล่นหรือสิ่งของให้พวกมันแย่งกัน เอาจริงฉันไม่อยากยุ่งกับพวกมันทั้งสองคนแต่ฉันมันทำไม่ได้
ฉันรู้ดีว่าทิศต้องตามไม่เลิก จักรวาลรังควานไม่ปล่อย
มันคงมีทางเดียว
“ถ้าอยากเคลียร์กับฉันจักรวาลกลับ” ฉันกระตุกข้อมือหนาเพื่อบอกให้มันเดินออกมา
แต่ทิศไม่ยอมไงเขาสบถคำหยาบเดินตรงเข้ามากระชากแขนฉันอีกข้างไว้
“แต่เราต้องคุยกันอีฟเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันมีไอ้จักรวาลเข้ามาเกี่ยวข้อง”
หมับ!
“จักรวาล!”
“มึงพูดว่าไงนะมึงหาว่ากูมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องระยะมึงว่างั้น?” จักรวาลปล่อยมือฉันเขาเลือกเป้าหมายใหม่นั่นคือทิศ
มือแกร่งกระชากคางหนาไว้ ทำให้ทิศปล่อยมือฉันไปด้วย
ฉันแทบทำอะไรไม่ถูกเมื่อเจอสายตาอำมหิตของจักรวาล
มันไม่บ่อยนักที่จะเห็นเงามืดแบบนี้
“มึงรู้แก่ใจไอ้จักรวาล” ทิศสาดคำใส่หน้า
เขาไม่เคยกลัวใครฉันรู้แต่จักรวาลมันน่ากลัวกว่าครั้งไหน ๆ ทิศไม่ควรเล่นกับคนแบบนี้
เมื่อไหร่ก็ตามที่จักรวาลต่อยทุกอย่างยังคงเคลียร์จบกันไปได้
แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่จักรวาลนิ่งพูดนับคำได้ ฉันอยากจะขอเตือนคนนั้น ๆ หน่อยว่า
‘ระวังหลังไว้’
ช่วงวินาที่ทิศพล่ามจักรวาลเองกัดฟันกรามไปมา
มือข้างซ้ายของเขาเอื้อมไปทางด้านหลัง เสื้อเขาถูกเลิกขึ้น
ใจฉันวูบไปหมดเมื่อเห็นมีด
“จักรวาลฉันจะไปกับนายดังนั้นปล่อยทิศไป”
จักรวาลไม่มองหน้าฉันเลย
ฉันเรียกเขาแล้วแต่มันใช้ไม่ได้ผล
มันดูน่ากลัวเกินไปฉันกลัวว่าทุกอย่างจะเลยเถิดไปมากกว่านี้จึงตัดสินใจกระชากหัวมันด้วยการบังคับให้จักรวาลหันกลับมามอง
“ปล่อย” เราจ้องตากันทั้งที่เขายังไม่ปล่อยมือออกจากทิศ
“ฉันจะปล่อยก็ต่อเมื่อนายปล่อยทิศไป”
อย่าเข้าใจผิดคิดว่าฉันแคร์ ฉันไม่แคร์ใครแต่ปัญหามันเกิดจากฉัน
ถ้าจักรวาลทำอะไรทิศไป มันไม่จบง่าย ๆ แน่ ทุกอย่างจะดูเลวร้ายไปหมด
ที่แย่ไปกว่านั้นคือฉันมีส่วนเกี่ยวข้อง
ฉันยอมไม่ได้
ดูทรงแล้วจักรวาลจะฆ่าฉันมากกว่าฆ่าทิศ
เพราะเขาเริ่มเปลี่ยนเป้าหมายมาที่ฉันด้วยการผละหน้าทิศออกไป
ต่อมาดึงมือฉันออกจากผม
กำชับนิ้วมือนิ้วของเราเข้าด้วยกัน ทิศกำลังเดินจะเข้ามาเอาเรื่อง
“อีฟอย่าไปกับมัน”
“ถ้าไม่อยากเจ็บอย่าแส่” จักรวาลทิ้งท้ายด้วยการชี้หน้าก่อนจะดึงมือฉันให้เดินตามมันออกไป
ฉันไม่ได้หันกลับไปมองทิศอีกเลยจนกระทั้งจักรวาลลากตัวฉันมาที่รถของเขา
ปึก!
ปีกไหล่ด้านขวากระทบกับประตูรถอย่างแรง ครั้งแรกที่ฉันโดนทำแบบนี้ จักรวาลเหวี่ยงตัวฉันเข้ากับรถทั้งที่ตัวเองจ้องฉันอย่างกับจะฆ่า
เห็นอยู่หลายส่วนว่ามันไม่พอใจอย่างมาก
“ถ้ามันไม่เจ็บเธอคงไม่มากับฉัน”
เหอะ
ถูกของมันแต่ประเด็นจริงจังคือฉันอยากจำกัดทิศด้วยการเอาจักรวาลมาเป็นโล่ต่างหาก
หลังจากนั้นค่อยหาวิธีเขี่ยมันทิ้งเอาชนิดที่ว่า
ตายช้า
ๆ แต่ตายแน่
“แล้วไงนายจะฆ่ามันหรือไง เก่งมาจากไหน
เหี้ยไรหนานักถึงได้เล่นจะเอามีดปักคนอื่น”
ตั้งแต่คบมันมาน้อยครั้งที่มันทำตัวเหี้ยเกินมนุษย์
กิตติศักดิ์ก็เยอะ
รู้ว่าเหี้ย ใครหน้าไหนก็ไม่กล้า รู้ไหมทำไมใครต่อใครถึงกลัวมันนักหนา
ก็เพราะจักรวาลมันไม่กลัวตำรวจมันไม่กลัวความเจ็บหรือความสุ่มเสี่ยงทั้งสิ้น
มันไม่เคยสูญเสียเลยไม่กลัวอะไร
“มันหาเรื่องเจ็บตัวเอง” เสียงจักรวาลดังขึ้น ตอนที่เดินเข้ามาหาตัวฉัน
มือหนาเกี่ยแก้มฉันไว้ ภาพเมื่อหลายวันก่อนกลับทำให้ฉันเบี่ยงตัวออก
“งั้นเลวพอยัง” มันเป็นประโยคคำถามที่โคตรง่าย
แต่จักรวาลดันทำให้ฉันโมโหมากขึ้น
“ยัง” คำตอบที่ได้ทำให้ฉันเหลือบตาจักรวาลอีกครั้ง
ร่างกายของคนเรามันรับรองความเจ็บปวดมากไม่ได้หรอก
แต่ความรู้สึกเราต่างหากที่เก็บมันไว้
เรื่องที่ทำให้ฉันเรียนรู้วันนี้ก็คือ
ฉันตัดจักรวาลไม่ขาดเพราะมันไม่ปล่อยส่วนทิศแน่นอนว่าไม่ล้มเลิก
ทางเดียวที่ทำได้คือเล่นกับพวกมัน
อัปครบ
อีฟ : เลวพอยัง
จักรวาล : ยัง
โอ้ยยยพ่อคุณนี่ยังไม่เลวอีกเหรอ T^T เริ่มหวั่นใจแล้วนะ
ป.ล ในเนื้อเรื่องมีอะไรซ่อนอยู่ ใครมองออกบ้าง??
1 เม้น 1 กำลังใจเด้อออทุกคนนน ใครไม่สะดวกเม้น กดใจให้นะคะ
ความคิดเห็น