ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (E-BOOK ) จั ก ร ว า ล

    ลำดับตอนที่ #10 : จั ก ร ว า ล † 'รอยเลือด II' (อัปครบ)

    • อัปเดตล่าสุด 2 ส.ค. 62


    จั ก ร ว า ล

    #นิยายเรื่องนี้มีคำพูดที่หยาบคายสร้างความปั่นป่วนทางจิตใจ ฉากไม่เหมาะสมคุณสามารถข้ามผ่านมันได้ หากคุณไม่ชอบกรุณากด (X) และหากคุณชอบกรุณากดติดตาม

    เพจ  กลุ่มลับหาในเพจนะคะ

    *******

    JAKAWAN & EVE


    EPISODE

    ๑๐ จั ก ร ว า ล † 'รอยเลือด II'


                      ฉันหมายถึงไม่เอาคนที่เห็นเธอในสภาพนี้ไว้แน่

                    อื้อ!

                    Jakawan Talk

                    ผมรู้ว่าอีฟเมาถึงขั้นหนักมากแต่ผมไม่สน พวกผู้ชายแม่งก็มักจะมีความคิดเลว ๆ กับผู้หญิงที่ตัวเองชอบในหัวอยู่เสมอ ผมพยายามสลัดความคิดนี้ออกไป ผมเลือกเมิน เลือกไม่ตอบ แต่สุดท้ายก็ดันทำเลวฉวยโอกาสตอนที่อีฟเมา

                    ผมแตะริมฝีปากลงบนริมฝีปากเธอ มันเป็นครั้งที่สามที่เราทำแบบนี้ด้วยกัน

                    จะจักรวาล..”

                    เธอพยายามผละใส่ผมด้วยการทุบคอหนาหรือรวมถึงขั้นจิกเล็บลงซอกคอ ผมนิ่วหน้ากดจูบลงไปเพื่อให้อีฟเปิดช่องทางสอดแทรกลิ้นเข้าไปสำรวจโพรงปากของเธอให้ได้

                    ผมอยากสำรวจด้านในเธอจึงเลื่อนมือข้างขวาบีบเคล้นสะโพกให้อีฟโฟกัสจุดนั้น

                    จนในที่สุด

                    เฮือก!

                    เธอเปิดปากผมเข้ามาในโพรงปากของเธอได้ มันเป็นครั้งแรกที่ได้รับรสจากริมฝีปากอีฟ มันชุ่มชื้น เปียกแฉะ ละมุน นุ่มนิ่มไปหมด ลิ้นเรียวของอีฟพยายามหนีผมด้วยการห่อลิ้นเข้าไปด้านใน

                    สิ่งที่เธอทำมันก็ยิ่งทำให้ผมบดเบียนแนบชิดตัวเข้าไปใกล้ตามด้วยยกสะโพกอีฟขึ้น

                    เนื้อตัวเธอสั่น ผิวเธอเปียก มันให้ความรู้สึกดีจนผมบอกไม่ถูก

                    อีฟครางในคอต่ำมาก เธออ่อนไปทั้งตัว ดูเหมือนเด็กน้อยที่รองรับขนมจากผมไม่มีผิด

                    อื้อ!

                    ผมเอาแต่ใจมากเกินไป คนเมาอวดเก่งเริ่มหายใจไม่ออก ผมจึงต้องปล่อยให้เธอเป็นอิสระ

                    ก็แค่ปากอย่างอื่นจะไม่ปล่อยโอกาสมันมาแล้ว ผมบอกตัวเองแบบนั้น

                    เลยสอดแขนลงต่ำลูบต้นขาด้านในอีฟ ฝากรอยนิ้วไว้ในสุด กดมันเข้ากับซอกขาอ่อน  ลากนิ้วชี้ไปตามร่องขาเกี่ยวขอบอันเดอร์แวร์ด้วยนิ้วกลาง บีบมันให้สุดจนอีฟเอนตัวมาหาผม

                    กูเอามึงตายไอ้จักรวาล คนเมาหมายหัวผม

                    ผมกำลังทำในสิ่งที่เธอขอ ทำไมอวดดี ปากจัดไม่เลิก

                    ต้องโดนกัดปาก

                    เฮือก!

                    อีฟทุบอกผมในตอนนั้น เธอพยายามเบี่ยงหน้าออกไปทางด้านข้าง แต่ผมบีบแก้มเธอไว้แน่น บังคับให้รับจูบ

                    สายตาคนเมาเมื่อมันมองจะออกแนวยั่ว

                    โคตรยั่วเลยอีฟ

                    ผมลงแรงกับเธอไปมาก ทำทุกวิธีให้อีฟสยบ ยังดีที่เธอเบลออยู่มาก เรี่ยวแรงเธอหายไปครึ่งหนึ่ง

                    อีฟเล็บยาวขนาดไหนผมรู้ ความเจ็บทำอะไรผมไม่ได้ ยิ่งเธอกดเล็บเข้าไปในซอกคอผมก็ยิ่งจูบเธอดูดดื่ม

                    จะเจ็บ ผมสูดลมหายใจเข้าเมื่ออีฟครางต่ำในคอ เธอคงสัมผัสถึงกลิ่นคาวเลือดตรงมุมปากที่ผมฝากไว้

                    ผยองต้องโดนกัด

                    ปะเป็นบ้าอะไรวะ!” เธอตวาดเพ่งมองผม ลมหายใจเธอหอบและแรงมาก

                    “…”

                    “เป็นเพื่อนกันเปล่าวะ

                    “…”

                    “ทำตัวอย่างนี้กูไม่คบ

                    เออไม่คบก็ไม่ต้องคบ

             [CUT 18+ หาอ่านกลุ่มในเพจนะคะ]


                     Eve Talk

                    ฉันตื่นขึ้นมาในความเหนื่อยล้า กลับพบว่าขาทั้งสองขาเกร็งไปหมดจนออกอาการเจ็บจนจุก น้ำตาฉันไหลออกจากขอบตา แสงสว่างจากหน้าต่างทำให้ฉันเห็นว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงคนอื่นที่ไม่ใช่เตียงฉัน

                    “ไงเมียตื่นแล้วเหรอ เสียงกระซิบโคตรห้าวดังขึ้นในระยะประชิด

                    ฉันหันไปมองเห็นจักรวาลนอนถอดเสื้ออยู่ข้างกาย ใบหน้ามันดูดีกว่าปกติหลายเท่า ซอกคอมีรอยข่วนเต็มไปหมดมันจึงทำให้ฉันชั่งคิดลากสายตากลับมามองเล็บตัวเอง

                    ปรากฏว่าเล็บฉันหักแถมซอกเล็บมีคราบเลือดติดอยู่

                    เหตุการณ์เมื่อคืนทำให้ฉันย้อนกลับไปในตอนที่เมาแล้วพบว่าจักรวาลลากไปห้องน้ำหลังจากนั้น

                    "…"

                    และตอนนั้นเองจักรวาลลุกออกจากเตียงไป มันสวมแค่บ๊อกเซอร์ แผ่นหลังมีรอยเล็บรอยข่วนเต็มไปหมด เขายกมือเสยผมหลวม ๆ ยืดเส้นยืดสายตรงหน้าฉันจากนั้นเอี้ยวตัวมองกลับมา

                    ฉันอาบน้ำก่อนละกันมันพูดเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาถือไว้ในมือ ฉันหายใจไม่ทั่วท้องในตอนที่เห็นซอกขามีคาบเลือดติดอยู่

                    สิ่งที่ทำคือกัดเม้มริมฝีปากพร้อมเช็ดคราบน้ำตาอย่างไว

                    ช่วงวินาทีที่จักรวาลหมุนตัวช่วงนั้นฉันลุกออกจากเตียงวิ่งเข้าไปกระชากไหล่หนาไว้

                    หมับ!

                    ชั่ว

                    เพียะ!!

                    หน้าจักรวาลหันไปตามแรงตบ ฉันใส่มันสุดเท่าที่จะทำได้

                    อะอีฟ

                    ขวับ!

                    “ไม่ต้องมาเรียกชื่อ!” ไม่ต้องมาทำสายตาอ่อนไหว เลวแบบนี้ไม่ต้องมองหน้ากันไปเลย

                    คนโดนตบอย่างมันคิดเรอะว่าจะมีความรู้สึกอะไร ในเมื่อทำร้ายฉันแบบนี้

                    ตบอีกแล้วเหรออีฟ

                    เออ!” ฉันตอบ

                    ไม่สงไม่สนว่าสภาพตัวเองเป็นยังไงอารมณ์นี้ต้องออกไปจากห้องของมัน ฉันไม่อยู่ให้คลั่งตายหรอก จึงปิดหูปิดตาข่มความโกรธไว้ด้วยการหยิบเสื้อของไอ้จักรวาลมาใส่จากนั้นดึงผ้าเช็ดตัวออกจากมือมันตามด้วยเช็ดคราบเลือดตรงซอกขาแบบหยาบ ๆ

                    พรึบ

                    ฉันทิ้งผ้าเช็ดตัวไว้บนพื้น กัดฟันมองคราบเลือดตรงผ้า

                    จะไปไหนวะอีฟต่อมาร่างหนาเดินเข้ามาประชิดตัว จักรวาลจับข้อมือฉันไว้จากทางด้านหลัง

                    มันไม่รู้หรือไงว่าฉันพร้อมจะฆ่ามันอยู่แล้ว

                    สภาพแบบนี้ออกไปพวกมันจะมองเธอว่ายังไง

                    หึ

                    มองเหรอ?

                    ไอ้จักรวาลมันยังหวงว่าคนของมันจะมองฉันยังไง บอกเอาไว้เลยนะ ตอนนี้ฉันไม่มีอะไรจะต้องเสียอีกแล้ว ฉันไม่แคร์เรื่องพวกนี้แต่ฉันผิดหวังกับการกระทำของมัน

                    เราเป็นเพื่อนกันนะเว้ย ฉันรักมันแบบเพื่อน ไว้ใจมันแบบครอบครัว แล้วดูสิ่งที่มันทำกับฉันสิมันทำแบบนี้ได้ไง

                    อีฟ

                    “…”

                    ยังมีหน้ามาเรียกชื่อ

                    “เธอ…”

                    “ออกไปให้ห่าง ฉันตวัดหางตากลับไปมอง มือหนาชะงักทันที จักรวาลรู้จักฉันดีไม่ใช่เหรอ มันรู้ว่าผลที่ตามมาคืออะไร

                    ถ้าจะเจ็บก็ต้องเจ็บทั้งคู่

                    สิ่งที่ฉันคว้าได้เป็นของแข็งอะไรสักอย่าง ไม่ได้มองรู้แค่ว่าอารมณ์ร้อนเลยปาใส่หน้ามัน

                    ตุบ!

                    จักรวาลไม่หลบ ไม่หลีก ของสิ่งนั้นโดนโหนกแก้มมันเต็ม ๆ เขายืนมองหน้าฉันด้วยสีหน้าหลากหลาย สักพักเลือดแดงสดไหลออกมา เขาปาดมันทิ้งไม่แยแส พยายามจะเดินเข้ามาหาฉันอีกครั้ง

                    รู้ไหมสิ่งที่ฉันทำมันไม่สาสมหรอกกับสิ่งที่มันทำ

                    ถ้าจะเลวก็เลวให้พอนะจักรวาล

                    ปัง!

                    ฉันปิดประตูอัดหน้าตอนที่จักรวาลเดินเข้ามาเลยเป็นเหตุให้เด็กหน้าร้านสองคนหันมอง

                    อ้าวเจ๊มาทั้งแต่เมื่อไหร่ คนที่หนึ่งทัก

                    แล้วทำไมเจ๊…” ส่วนคนที่สองก็เริ่มพูด

                    หุบปากถ้าไม่อยากเจ็บตัว

                    ฉันกลับมาห้องแวะซื้อยาจำพวกนั้นมาด้วย

                    ตุบ!

                    ถุงยาถูกเหวี่ยงลงบนเตียงนอนแต่กล่องยากลับโผล่ออกมา ตอนนั้นน้ำตาฉันไหล มันไม่ใช่ความรู้สึกอ่อนแอแต่มันเป็นความรู้สึกที่เสียใจ ฉันร้องไห้เพราะไว้ใจคนผิดทั้งสองคน

                    คนแรกคือทิศ

                    คนที่สองเป็นจักรวาล

                    ถ้ามันจะบัดซบก็เอาให้พอ

                    ก๊อก ก๊อก

                    ช่วงที่ฉันร้องไห้ ประตูห้องกลับมีคนมาก๊อก ฉันปาดน้ำตาหลวม ๆ ลุกจากเตียงเดินออกจากห้องไปเพื่อดู

                    ฉันเห็นทิศกำลังยืนอยู่ตรงหน้าประตู ท่าทีเขาดูเครียดมาก

                    อีฟฉันรู้นะว่าเธออยู่ในห้อง เขาพูดขึ้นในขณะที่ฉันไม่เปิดประตู ออกมาคุยกันก่อนได้ไหมฉันอยากคุยกับเธอ

                    ฉันหมดความรู้สึกดี ๆ กับทิศแล้ว ฉันไม่ใช่พวกใจง่าย ฉันรักใครฉันรักจริง สิ่งที่เขาทำกับฉันถือว่าร้ายแรง

                    คิดว่าฉันอยากคุยกับคนอย่างทิศเหรอ เขานอกทั้งใจ ทั้งนอกทั้งกายเลยนะ ฉันไม่ให้คนประเภทนี้กลับเข้ามาในชีวิตอีกเด็ดขาด

                    บอกเลยว่าพอ

                    ฉะนั้นฉันไม่สนว่าทิศจะยืนก๊อกประตูนานขนาดไหน ไม่สนว่าเขาจะพูดเหี้ยอะไร จึงเดินกลับมายังห้อง

                    ตอนนี้ฉันควรโฟกัสตัวเองก่อน ฉันควรกินยาพวกนี้ ฉันควรเริ่มจากการอ่านหรือเสิร์จหาข้อมูลจากเน็ต ไม่รู้ว่าจักรวาลมันทำไปกี่ครั้ง ไม่รู้ว่ามันป้องกันหรือเปล่า

                    ฉันไม่ชอบแก้ปัญหาตอนหลัง ฉันอยากทำให้มันจบเรื่องจึงหาข้อมูลที่จำเป็นเอาเท่าที่รู้เรื่องจากนั้นแกะกล่องยา ในกล่องมันมียาสองเม็ดเขาบอกว่าเม็ดแรกควรกินให้เร็วที่สุดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ควรกินไม่เกินเจ็ดสิบสองชั่วโมงส่วนเม็ดที่สองต้องกินหลังจากเม็ดแรกไม่เกินสิบสองชั่วโมง

                    ถ้าให้นับเวลาตอนนี้มันคงผ่านมาสิบกว่าชั่วโมง ฉันคิดว่าทันเลยแกะเม็ดแรกออกมาจากนั้นต้องหาน้ำดื่ม

                    ระหว่างลุกจากเตียงฉันชั่งคิดได้ว่าตัวเองยังอยู่ในเสื้อของจักรวาล ความโกรธบวกความเกลียดเริ่มลอยมาจา ๆ เลยทำให้ฉันถอดเสื้อจักรวาลออก

                    แควก!

                    ฉันฉีกเสื้อมันจนขาด ฉันไม่สนว่าเสื้อมันจะราคาเท่าไหร่ ฉันไม่สนว่ามันจะหวงมากแค่ไหน

                    ทุกอย่างที่จักรวาลทำฉันจะตอบแทนให้มันสาสม

                    คอยดู!

                    และเรื่องวันนั้นผ่านมาสามวัน

                    อีฟคืนนี้ไปเที่ยวกันป่ะ แขนฉันถูกเขย่าหลังจากนั้นเงียบอยู่นาน

                    แปมเพื่อนสาวในกลุ่มที่ฉันสนิทด้วยกำลังมองหน้าเสมือนเฝ้ารอคำตอบออกจากปากฉัน

                    เอาสิ ฉันตบปากรับคำเบือนหน้าออกไปข้างด้าน เห็นใบหยกกำลังขมวดคิ้วเป็นปมจนอดสงสัย ไม่ได้ หยกเป็นไร ฉันคงถามเธอได้แค่นี้ ช่วงชีวิตที่ผ่านฉันค่อยข้างไม่รับรู้อะไรเลยว่าเพื่อนสาวสองคนใช้ชีวิตยังไง  

                    หนึ่งวันผ่านพ้นไปฉันก็มั่วแต่ติดอยู่กับไอ้จักรวาลไม่ได้สนใจใบหยกหรือแปมเท่าที่ควร

                    หึ มันน่าขำเนอะขนาดโกรธมันแทบตายสุดท้ายก็ยังนึกถึงมันอีกจนได้

                    เลวสิ้นดี

                    หยกมันก็ปกตินะอีฟเองหรือเปล่าที่ไม่ปกติ แปมนั่งข้างฉันพูดขึ้น เธอมองฉันค่อยข้างจับผิด

                    “อีฟปกติฉันเอ่ยต่อ แค่ช่วงนี้หงุดหงิดเป็นหย่อม ๆ แปมกับหยกอย่าใส่ใจมากเลย ฉันบอกปัดยิ้มให้ สรุปคืนนี้ไปนั่งร้านไหนดี

                    อืมร้านนั่งชิลล์ดีมั้ยแปมชอบบรรยากาศแปมเสนอ

                    แต่ฉันไม่ชอบสิ ฉันค้านในใจ

                    มันเป็นร้านที่ไอ้จักรวาลสามารถตามตัวฉันเจอ ทั้งที่ผ่านมาสามวันฉันกลับพบว่ามันพยายามติดต่อฉัน

                    ส่งคนมาดูก็แล้ว

                    โทรมาก็ทำ

                    สิ่งที่มันได้รับกลับไปคือไม่ความแยแส

                    “งั้นตามนี้นะใบหยกสรุปเพราะฉันไม่พูดอะไรต่อ แปมเองก็เห็นดีเห็นงามพยักหน้าตาม ฉันแอบเห็นเธอยิ้มเล็กน้อย ก็ไม่รู้ว่าตัวเองคิดไปเองหรือเปล่าที่เห็นรอยยิ้มนั้นจากแปม

                    ถ้าฉันตาฝาดมันคงจะดี เพราะเท่าที่ฉันรู้จักแปมมา เธอเป็นพวกรักความรุนแรงชอบเห็นคนต่อยราวกับว่ามันเป็นเรื่องสนุก

                    ส่วนใบหยกเป็นประเภทไม่ชอบให้ใครมาเซ้าซี้ ไม่ชอบให้ใครยุ่งเรื่องส่วนตัว เย็นชาระดังนึงแต่ไม่ถึงขั้นหนักหนาสาหัส

                    ฉันว่าพวกเราเป็นกลุ่มที่แสบพอตัว

     

             อัปครบ


    ดึก ๆ ก็มาน๊ อ่านกัน ๆ 

    1 เม้น 1 กำลังใจนะคะ 



     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×