คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : จั ก ร ว า ล † 'เหยื่อ' II (อัปครบ)
จั ก ร ว า ล
#นิยายเรื่องนี้มีคำพูดที่หยาบคายสร้างความปั่นป่วนทางจิตใจ ฉากไม่เหมาะสมคุณสามารถข้ามผ่านมันได้ หากคุณไม่ชอบกรุณากด (X) และหากคุณชอบกรุณากดติดตาม
เพจ กลุ่มลับหาในเพจนะคะ
*******
JAKAWAN & EVE
วันต่อมา
หลังจากเลิกเรียนฉันแยกตัวออกจากเพื่อนมือถือจักรวาลยังอยู่ที่ฉัน
อารมณ์ส่วนหนึ่งที่ทำให้ฉันหงุดหงิดก็คือสายที่โทรเข้ามา มันเป็นผู้หญิงของจักรวาล
คนพวกนี้เล่นจิกให้ฉันเอามือถือไปคืนเจ้าตัวให้ได้ซึ่งแน่นอนว่าฉันไม่รับคำสั่งจากใคร
เพราะฉะนั้นจึงโทรหานายเงินเพื่อให้เขาเอามือถือจักรวาลไปคืนแต่คำตอบที่ได้คือ
“เอามาคืนมันเอง”
ฉันอยากสาดคำใส่ถ้าไม่ติดว่าเขาวางสายไปแล้ว
เพราะเหตุนี้ไงฉันถึงได้แยกตัวออกจากเพื่อนเพื่อตรงไปยังที่ซุกหัวนอนของจักรวาล
ฉันขับรถมายังสถานที่หนึ่งดูจากภายนอกเป็นสนามแข่งรถ
ขับลัดมากอีกโซนเป็นบ้านพักซึ่งถัดจากบ้านพักเป็นอู่แต่งรถ ก็จำพวกประเภทรถลงแข่งในสนาม
ปัจจุบันฉันยังคงโกรธจักรวาลอยู่และด้วยความโกรธจึงไม่อยากมองหน้าเขา
จังหวะที่ฉันจอดรถดันมีรถอีกคันเข้ามาจอดเทียบท่า
มันเป็นรถจากัวร์คันสีดำสนิทติดฟิล์มจนมองไม่เห็นคนขับด้วยซ้ำ
ร่างหนากำลังลงมาจากรถ ฉันเองลดกระจกลงเมื่อพบว่าหมอนั่นคือใคร
“อ้าวเจ๊ทำไมไม่ลงจากรถ” เขาหยุดเดิน
ถอนแว่นกันแดดสีชาออก ดวงตาจ้องมองฉัน ริมฝีปากหนากำลังคาบบุหรี่ไว้
“เจอนายก็ดีแล้วฉันฝากคืนของให้เฮียนายหน่อย” ฉันพูดส่งมือถือให้ร่างหนาแต่สิ่งที่ได้คือ
“ไม่วะผมไม่อยากมีเรื่องกับไอ้เฮียมัน”
เขาทำทีท่าจะเดินออกไป แผ่นหลังหนายกไหล่
การกระทำของเขามันดูทรามจนฉันเปิดประตูรถลงไป
หมอนี่ชื่อรามเกียรติ์
เป็นที่รู้จักกันดีในนามบุคคลที่ไม่ควรยุ่งเกี่ยว เขาเป็นหนึ่งในบรรดาเพื่อนจักรวาลแต่ไม่ใช่คนในกลุ่ม
หมอนี่ภายนอกดูดุดันน่าเกรงขาม ไม่ควรเข้าใกล้ด้วยซ้ำ
ที่เขาเรียกฉันว่าเจ๊ก็เพราะจักรวาลมันสนิทกับฉัน เพื่อนเขาเลยต่างเรียกฉันว่าเจ๊แล้วแทนจักรวาลว่าเฮีย
อาจฟังว่าเราสนิทแต่เปล่าฉันมักจะไม่พูดคุยกับคนพวกนี้มากนัก
การที่รามเกียรติ์ปัดนั่นคือการตัดปัญหา
เขารู้ว่าจักรวาลเป็นคนยังไง
เขารู้ว่าเวลาไหนควรคุยเวลาไหนไม่ควร
“นายก็แค่เอามันไปวางทิ้งไว้”
ฉันพูดตวัดตามองรามเกียรติ์อีกครั้ง หมอนั่นหยุดเดินพร้อมหันกลับมามองฉัน
“ใช่แค่เจ๊วางทิ้งไว้” ฉันพูดเพื่อให้มันเอาไปวางทิ้งไม่ใช่ให้ย้อนเพื่อให้ฉันเอามือถือจักรวาลไปคืนเจ้าตัวเอง
คุยกับพวกไม่มีความรู้สึกมันยากอย่างนี้รึวะ
เมื่อฉันไม่ตอบหมอนี่ก็เดินหายไปในอู่ด้านหลัง
ขนาดฉันยืนอยู่ตรงนี้ยังเห็นคนในร้านเยอะแยะ
ด้วยความที่มาแล้วจะกลับเลยมันก็ไม่ได้
ฉันไม่ใช่คนจิตใจดีอย่างที่คนอื่นเข้าใจมาตลอด
ฉันเป็นประเภทหัวร้อนแอบเงียบรอวันเอาคืน
ส่วนหนึ่งที่ทำให้ฉันยืนอยู่ไม่ขับรถออกไปก็เพราะฉันเห็นผู้หญิงของจักรวาลกำลังเดินออกมาจากร้าน
เธอคนนั้นมีใบหน้าที่ดูไม่จืด
ไม่จืดอาจมีสาเหตุมาจากจักรวาล ก็เพราะเวลานี้มันเป็นเวลานอน
จักรวาลมักจะตื่นกลางคืนแล้วนอนกลางวัน
คนเรียนจบมาสี่ปีมีธุรกิจใหญ่ขนาดนี้
หึ จะทำอะไรก็ได้ไม่แปลก
ฉะนั้นฉันจึงปิดประตูรถเดินสวนกับผู้หญิงคนนั้น ช่วงเวลาหนึ่งเธอเหลือบขึ้นมอง ใบหน้าสวยกำลังเม้มริมฝีปากแววตาสวยจ้องมองเหมือนเกลียด ถามว่าฉันแคร์ไม่ก็ไม่
“เดี๋ยว” กลีบปากกระจับที่ทำขึ้นมาอย่างสวยยกยิ้มนิดหน่อย
ใบหูฉันได้ยินเธอแค่นหัวเราะเบา ๆ
ไม่ต่างกับสายตาที่มองมาเหมือนฉันเป็นอีตัวที่ค่อยวิ่งตามผู้ชาย
“ทักฉันหรอคะ” ฉันถามมองหน้าเธอ
มันไม่แปลกหรอกที่เธอจะทักฉัน
เพราะใครต่อใครมักจะคิดว่าฉันเองก็วิ่งตามจักรวาล
“ใช่ฉันทักเธอ” เธอพูดส่องแววตาเชิงดูถูก
ก็เพราะลักษณะภายนอกฉันนอกจากจะเป็นผู้หญิงแล้วก็มีพวกรอยสักเป็นตัวการันตีว่าเป็นคนประเภทไหนและการที่เธอมองอย่างนี้ฉันขอบอกเลยว่าไม่โอเค
“เธอคงเป็นอีพวกประเภทที่คอยวิ่งตามจักรวาลสินะ”
ฉันไม่ได้ตอบไปหรอกว่าใช่หรือไม่ใช่ ในเมื่อเธอคนนี้ตีตรามองฉันไปแบบนั้น การที่เราจะมานั่งอธิบายเรื่องไม่จริงฉันถือว่าไร้สาระ
“เธอไม่รู้หรือไงว่าจักรวาลเขาไม่ชอบผู้หญิงชั้นต่ำ” เธอคงหมายถึงรอยสักที่โผล่ออกจากชุดนักศึกษาของฉัน
ฉันจึงปรายตามองใบหน้าสวยนั้นนิ่ง
“ไม่รู้”
เธอคนนั้นจึงบิดยิ้มออกมาพร้อมเดิมรอบตัวฉันราวกับต้องการะประมูลสินค้าชิ้นนี้
เอาสิอยากทำอะไรก็ทำ
“หึ”
เธอคนนี้หัวเราะทุกครั้งที่มองฉัน
ฉันไม่โทษเธอหรอกเธอมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นฉะนั้นเอาให้เต็มที่ไปเลย
“กลับไปซะเธอไม่รู้หรือไงว่าฉันเป็นแฟนกับจักรวาล”
ฉันอยากตอบกลับไปว่า
ก็ไม่อยากมานักหรอกแต่ผู้หญิงประเภทเธอเนี่ยดันโทรกระหน่ำเหมือนใครตาย
แล้วคนที่มีมือถือของจักรวาลมันก็คือฉัน
“ถ้าฉันไม่กลับล่ะเธอจะทำอะไร”
เปล่าฉันไม่ได้มีลูกเล่นหรอกแค่พูดตามความจริง
“แล้วแกจะอยู่เพื่อ”
พลั่ก
ไหล่ซ้ายของฉันถูกผลักด้วยมือข้างขวาของเธอ
ผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนสีหน้าทันทีที่ฉันเหลือบตาขึ้นพร้อมมองเธอ
ถามว่าทำไมฉันถึงยืนนิ่งให้ผู้หญิงคนนี้ตีค่าตีราคาสาดคำใส่หน้า
หึ จะบอกอะไรไว้ให้นะ ฉันเปล่าเป็นฝ่ายถูกกระทำแต่เธอคนนี้ต่างหากที่เป็นฝ่ายโดนกระทำ
หมับ!
“ได้ข่าวว่าไอ้จักรวาลมันไล่เธออกไปจากร้าน?” เสียงไม่ยินดีใด
ๆ มาพร้อมกับการปรากฏตัวของผู้ชายร่างสูง
ส่วนฉันเองเหยียดตามองปรากฏว่าเป็นนายเงินเพื่อนของจักรวาลซึ่งเป็นคนเดียวกันที่ฉันโทรหาก่อนหน้านี้
“งะเงิน” เสียงผู้หญิงคนนั้นสั่นทันที
เธอคงคงตกใจที่นายเงินเข้ามา
ปกติผู้ชายคนนี้ไม่เคยยุ่งเรื่องของใคร
เขาไม่สนโลกด้วยซ้ำไป เขาเป็นประเภทที่นิ่งนอนใจไม่แคร์เรื่องห่าอะไรนอกจากเรื่องเพื่อน
“เธอกำลังยุ่งกับใครรู้บ้างมั้ย” อาจฟังเป็นคำถามโง่
ๆ แต่เปล่าเขาไม่ได้ถามเพื่อให้เธอคนนั้นตอบแต่เขาพยายามบอกว่าไม่ควรยุ่งกับฉัน
ตัวฉันไม่ได้วิเศษวิโสอะไรมาจากไหนแต่คุณอย่าลืมนะว่าฉันที่ได้รู้จักและได้สนิทกับคนพวกนี้ได้นั้นก็เพราะฉันมีดีพอตัว
“เรย์แค่ถามเธอเฉย ๆ”
เธอพูดละสายตามองฉันใบหน้าสวยส่งสายตาเชิงบีบบังคับให้ฉันพูดอะไรสักอย่าง
แล้วฉันควรพูดว่าไงดีกับคนประเภทนี้ที่ตีค่าคนแค่เพียงภายนอก
“เธอมาก็ดีแล้วเข้าไปเคลียร์ให้หน่อย” นายเงินหันมาพูดกับฉันสายตาเขาบอกถึงเรื่องที่กำลังวุ่น
ฉันไม่ได้ตอบตกลงเขาหรอกเพียงแค่หยั่งเชิงมองผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง
จากนั้นเบี่ยงตัวออกจากจุดเดินออกมา ฉันได้ยินนายเงินพูดกับผู้หญิงคนที่ชื่อเรย์ไม่กี่คำก่อนที่ฉันจะเปิดประตูเข้ามาในร้าน
อู่ส่วนแรกเป็นหน้าร้านปกติ
มีพวกอุปกรณ์แต่งรถสวย ๆ กระจกภายในร้านเป็นกระจกใสมองออกไปนอกร้านจะเห็นทุกอย่างชัดเจน
ใช่
ฉันเห็นนายเงินมองมาทั้งแต่แรกแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่เขาที่เห็นแต่คนอื่นที่อยู่ในร้านก็เห็น
ที่ฉันนิ่งไม่โต้ตอบเพราะไม่อยากเหนื่อย หึ สู้ให้คนอื่นเห็นใจจัดการให้ไม่ดีกว่า?
“อ้าวเจ๊ไม่เจอกันนานเป็นไงมาไงถึงได้มาหาไอ้เฮียจักรวาลได้” คนที่เอ่ยทักเป็นเด็กที่อยู่ดูแลร้าน เขากำลังนั่งคุยโทรศัพท์กับใครสักคน
เมื่อเห็นฉันถึงขั้นลุกจากนั้นเดินไปสะกิดใครอีกคน
“ไม่ต้องฉันมาแค่แป๊บเดียวเดี๋ยวกลับ”
ฉันบอกตัดหน้าเพราะนายคนนั้นสั่งให้เด็กอีกคนไปเอาน้ำมาให้ “มันอยู่ไหน”
สรรพนามที่ใช้แทนชื่อหมายถึงจักรวาล
ฉันต้องการเอามือถือมาคืนจากนั้นกลับห้อง
“เฮียนอนอยู่ในห้องวะเจ๊ผมไม่กล้ารบกวน”
“ฉันมาไม่ต้องการเจอเฮียของนายไหน ๆ ก็เจอนายแล้วฉันฝากมือถือไปคืนมันหน่อย” ฉันพูดขึ้นยื่นมือถือให้คนตรงหน้าแต่สิ่งที่รับตอบแทนมาคือ
“ขอบายวะเจ๊” หมอนี่ไม่รีรอตอบปฏิเสธ ฉันจึงหันไปมองผู้ชายอีกคนที่นั่งอยู่แต่ว่าหมอนั่นก็ดันลุกพร้อมเดินหายไปด้านหลังซึ่งมันเป็นอู่
ถามว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมคนพวกนี้ถึงได้ตอบปฏิเสธทั้งที่เรียกฉันว่าเจ๊
หึ มันคงเป็นเพราะจักรวาลไม่เหมือนใคร
นอกจากจะเป็นตัวปัญหาให้ฉันไม่จบไม่สิ้นหมอนี่ยังเป็นบุคคลที่ใคร
ๆ ต่างไม่กล้าเสี่ยงเข้าใกล้อีกด้วย
“เจ๊เข้าไปหาเฮียมันเถอะ” นายคนเดิมพูดต่อ
“ให้ฉันเข้าไปให้มันกระชากหัวหรือเล่นหรือไง” พูดไม่คิด
“เฮียชอบเจ๊จะตายเฮียไม่ทำอะไรเจ๊หรอก”
มันไปเอาความคิดแบบนี้มาจากไหน
เหอะ จักรวาลเนี่ยนะชอบฉัน หึ
ฉันจึงกรอกตามองบนไล่ลมหน่อย
ๆ
“เธอก็เข้าไปหามันหน่อยสิอีฟมันรอให้เธอมาง้ออยู่”
ฉันหันขวับเห็นนายเงินเดินเข้ามาในร้าน ผู้หญิงคนเมื่อกี้หายไปแล้ว “เธอเข้าไปหามันก็จบ”
ฉันเลิกคิ้วเชิงถามอะไรคือการง้อแล้วอะไรคือเข้าไปแล้วจบ
ถามหน่อยเถอะทำไมทำเหมือนฉันเป็นครึ่งหนึ่งของจักรวาล
(ฉันไม่ได้หมายความถึงชื่อจักรวาล) ทำเหมือนฉันมีความหมายมากมายขนาดนั้น
จุดที่ฉันยืนอยู่คือกลางร้าน
นายเงินเดินไปนั่งโซฟาขาทั้งสองกวาดพวกอะไหล่รถลงจากโต๊ะ
เขาพ่นลมหายใจมาตรงหน้าพยักพเยิดหน้าไปยังจุดที่จักรวาลอยู่
“ไม่กล้ากลัวงั้นสิ?” มันก็มีแต่นายเงินนี่แหละที่เล่นหูเล่นตากับฉันไม่เลิก
“ว่าไงอีฟ?”
ยังต้องว่าไงอะไรอีกโดนหมายหน้าไว้ขนาดนี้มีหรือฉันจะกลับไปโดยเปล่าประโยชน์
ดังนั้นฉันผละอกนายคนนั้นมือซ้ายจับประตูห้องจักรวาลไว้ สายตาคาดโทษนายเงินไว้ลึก
ๆ
“ไม่มีอะไรที่ฉันต้องกลัว”
ปัง!
ฉันเชื่อแล้วว่าจักรวาลมันไม่ทำอะไรนอกจากนอน
พอได้เข้ามาในห้องสิ่งแรกที่เห็นคือเตียงแต่มันว่างเปล่าไม่มีเงาหัวของเจ้าของหัวด้วยซ้ำ
ฉันทำท่าทีจะเดินออกมาแต่สายตากลับกวาดมองเห็นร่างหนึ่งซึ่งนอนราบอยู่บนโซฟาไม่ไกลจากเตียง
ท่อนบนเปลือยเปล่าไม่มีเสื้อ แผ่นหลังเต็มไปด้วยรอยสัก ใบหน้ากำลังซุกอยู่บนโซฟา
ทำให้คนอื่นเดือดร้อนแถมยังกลับมานอนสบายใจเฉิบ
ครืด
ครืด
ตอนที่ฉันยืนอยู่เสียงมือถือดังขึ้นมันเป็นระบบสั่น
ถามว่าเป็นของใครฉันคงตอบได้ว่าเป็นของจักรวาล ผู้หญิงของเขาอีกละสิที่โทรมา
อือ?
เสียงครางต่ำดังขึ้น ร่างหนาขยับนิดหน่อยแต่ไม่ถึงกับตื่น
ฉันยังคงยืนอยู่ตรงหน้าประตูมือขวามีมือถือเขาอยู่
สายตามองจักรวาลที่หลับสบาย ฉันคิดว่าวางมันทิ้งไว้แล้วออกจากห้องไป
แต่ไม่ทันไรเสียงแหบต่ำ
(มาก) ดังขึ้น
“กูบอกแล้วไงไม่ให้ใครเข้ามา” แม้น้ำเสียงจะแหบแต่กลับพบว่าจักรวาลไม่ได้โฟกัสคนที่ยืนอยู่
ฉันไม่ติดใจอะไรมันนอกจากเรื่องที่มันทำ
เรื่องจูบฉันบอกเลยว่ามันไม่ได้เป็นจูบแรกฉันเองก็เคยมีแฟนมาแล้วแต่สิ่งที่จักรวาลทำไม่ไม่โอเคเข้าใจป่ะ?
“กูบอกให้ออกไป”
เออก็ไม่อยากอยู่นักหรอกแต่ก่อนไปขอหน่อยเหอะ
ฉันจึงแล่นเข้าไปหยิบหมอนจากนั้นปามันใส่จักรวาล
ตุบ!
คาดว่าโดนหัวมันเต็ม
ๆ
“วอนตาย” ร่างหนาเบนหน้ามาทางฉัน
เส้นผมสีดำสนิทดูยุ่งเหยิง ริมฝีปากหนาเดาะลิ้นเป็นว่าเล่นเมื่อเห็นว่าฉันเป็นคนทำ
บัดนี้จักรวาลตื่นแล้วสีหน้าเขาดูหงุดหงิดราวกับจะฆ่าคน
“เอามือถือมาคืนบรรดาเมียนายโทรมา ถ้าไม่ติดว่ารำคาญฉันก็ไม่อยากจะมาให้เห็นหน้านักหรอก” ฉันคิดว่าฉันพูดจบแล้ว
ฉันคิดว่าฉันวางมือถือมันไว้ตรงหัวเตียงและฉันไม่มีเหตุผลใดจะอยู่ต่อ
ดังนั้นฉันจึงก้าวเท้าอย่างไวเพื่อจะเดินให้ถึงประตูห้องแต่ว่านะ
หมับ!
ข้อมือฉันถูกรวบรัดไว้จากร่างหนา
จักรวาลตรงเข้ามาลากฉันให้ติดผนังห้อง สองแขนเขากักขังฉันไว้ในอ้อมกอด
“ไม่มีใครเคยบอกเธอหรือไงว่าเข้ามาในห้องฉันแล้วมันออกยาก” มือหนาบีบแก้มเพื่อให้ฉันมองหน้าเขา แววตาดุดันจ้องมองมาราวกับโกรธเคือง
จักรวาลไม่เล่นนะบอกเลย
1 เม้น 1 กำลังใจ
ความคิดเห็น