ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ก ร ะ สุ น นัด เ ดี ย ว (มีE-BOOK แล้ว)

    ลำดับตอนที่ #1 : ก ร ะ สุ น นัด เ ดี ย ว 'รักคนของคนอื่น' (อัปครบ)

    • อัปเดตล่าสุด 13 มิ.ย. 64


     คำเตือน : นิยายเรื่องนี้เป็นความคิดจากงานเขียนไม่มีอยู่จริง เนื้อหาค่อยข้างละเอียดอ่อน

    ตัวละครมีมุมมองต่างกัน หากมีหักดิบบ้าง หวานบ้าง เถื่อนบ้าง ดราม่าบ้าง

    ทุกสถานการณ์ขึ้นอยู่กับการดำเนินเรื่อง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านตามความชอบ 

    กลุ่มลับ ในเพจ


    รักที่มีค่าคือรักที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่รักที่ผ่านพ้นไป

     

                    02.20 . [ตีสองสิบยี่นาที]

                    ห้องอัดเสียง.

                    [นัดเดียวพี่ขอเป็นครั้งสุดท้ายนะพี่สัญญาจะไม่ผิดคำพูดกับเราอีก]

                    ประโยคขอร้องเป็นรุ่นพี่ที่สนิทด้วยกันเป็นคนเอ่ยท่าทีเธอร้อนใจเหมือนทุกครั้งที่มีเรื่องให้ช่วย ฉันจ้องมองคอมที่ใช้ทำงานอยู่ ฉันมีงานต้องส่งพรุ่งนี้เช้าแต่จิตใจกลับหดหู่กังวลกลัวอีกฝ่ายจะเดือดร้อน

                    [นะนัดเดียวพี่ขอร้องเราเป็นครั้งสุดท้ายจริง ๆ นะถ้าพี่ไม่ติดธุระพี่ไม่หน้าด้านรับกวนเราหรอก] เธอพูดซ้ำทำให้ฉันปล่อยฝ่ามือออกจากเมาส์ตามด้วยหยิบเสื้อคลุมจากโต๊ะก่อนจะลุกทั้งที่แนบปลายสายไว้

                    ครั้งเดียวจริง ๆ นะคะเพราะเดียวต้องกลับมาทำงานต่อ

                    [จ๊ะพี่สัญญาขอบใจเรามากนะ] ปลายสายดีอกดีใจส่งโลเคชั่นที่อยู่ให้ฉัน

        จากนั้นเธอก็พูดอะไรที่ฉันจับใจความไม่ได้ก่อนจะวางสายไป ฉันขับรถมายังสถานที่บันเทิง ตอนนี้มันดึกมากคนอื่นเริ่มทยอยออกจากผับ ฉันเปิดตามด้วยปิดประตูรถก่อนจะเดินเข้าไปในร้านตรงโซนที่ลับตา

                    อ้าวเราอีกแล้วเหรอ

                    ชายคนหนึ่งที่ฉันสนิทด้วยเขาเป็นคนดูแลห้องนี้ร่างหนาเอ่ยปากถามเมื่อเห็นฉันเดินเข้าไปในห้อง

                    อีกแล้วเหรอคะ ฉันถามลากสายตามองร่างหนาซึ่งเมาไม่ได้สติเหมือนเคย

                    ทุกวัน ผู้ชายคนนั้นตอบกลับมาพร้อมส่งกุญแจห้องมาให้ก่อนจะเดินออกไป

                    บรรยากาศเงียบทุกอย่างสงบฉันเดินไปหยุดตรงปลายเท้าหนาแอบมองใบหน้าหล่ออย่างเงียบ ๆ ลมหายใจเขาสม่ำเสมอทุกอย่างดูโอเคจนกระทั่งฉันปลุกเขาให้ตื่น

                    หมับ!

                    กล้าดียังไงทิ้งฉันไปมีสิทธิ์อะไรเล่นหัวใจของคนอื่น

                    เสียงทุ้มและห้าวดังขึ้นตามด้วยกระชากแขนบาง เขามองฉันเปิดเผยใบหน้าหล่อเหลามองกี่ครั้งหัวใจก็วายบัดนี้มันกำลังดูดุดันจนน่ากลัวเขาไม่มีรอยยิ้มใดเหลือเลย

                    นะนาย เสียงฉันอ่อนลงจนเกือบหายประสาทสัมผัสเขามันรุนแรงเกินไป

                    อยู่กับมันแล้วสมใจใช่ไหม ฉันหลุบตาลงมองมือที่สั่นระริกร่างหนายังพูดอยู่ ถ้าจะไปก็อย่ากลับมา

         ความเจ็บปวดของเขาทำให้ฉันไม่กล้ามองหน้าเขาอีก เวลาผ่านไปนานแค่ไหนกันฉันไม่รู้ ฉันรู้แต่ว่าฉันรวบรวมความกล้าอีกครั้งเงยหน้ามองร่างหนาอีกทีกลับพบว่าเขาหลับไปแล้ว

                    ทุกอย่างกำลังผ่านไปด้วยดี ฉันมาส่งเขายังห้องนอนวางมือถือกระเป๋าหนังลงโต๊ะสี่เหลี่ยมตามด้วย ตรวจเช็คความเรียบร้อยก่อนจะเดินไปดูเขาอีกครั้ง

        ฉันคิดว่าฉันต้องรีบกลับไปทำงานที่ค้างต่อแต่ว่า

                    หมับ!

       จังหวะหมุนตัวมือที่วางอยู่ฟูกเตียงกลับกระชากเรียวแขนฉันอย่างรุนแรงทำให้ฉันเกิดอาการเซจนต้องลงทับร่างหนาจนเสียงดัง

       ปึก!

       ทุกอย่างบอกให้ฉันดิ้นเอาตัวออกจากเขาโดยเร็วแต่เปล่าเลยมันไม่ง่ายอย่างนั้นเมื่อเขาจับแขนฉันไว้แน่น

      “ฉันรักเธอจะบ้าตายอยู่แล้วทำไมต้องทิ้งฉันไปหามันเขากำลังมองฉันเพื่อขอความเห็นใจ

      “ปล่อย แต่ฉันขืนแรงมองคนตรงหน้า ฉันรู้ดีว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ตอบทำได้เพียงแค่ดิ้นเพื่อหนีออกจากตัวเขา

      แควก!

      ทว่าในตอนนั้นร่างฉันเกิดอาการสะดุ้งเสื้อผ้าบางส่วนของฉันถูกกระชากออกไป มันเกิดขึ้นรวดเร็วมากจนฉันทำอะไรไม่ถูก

      เขาไม่มีสติ ฉันบอกตัวเองวนซ้ำไปมาพยายามสลัดตัวเองออกแต่ก็สู้เขาไม่ได้

      “อย่า..เราไม่ได้รักกันฉันพูดมันใส่หน้าเขา

      “คำว่ารักฉันคงให้ผู้หญิงแบบเธอมากพอเธอจึงไม่เห็นค่ามันแต่ดูเหมือนเขาไม่ฟังมันเลย

      “มันไม่ชะใช่…”

      เฮือก!!

      ร่างฉันถูกกดจนจมเตียง ฝ่ามือหนาลูบแขนฉันก่อนจะจัดการเสื้อผ้าที่เหลือ ฉันได้ยินเสียงชุดขาดออกจากกัน น้ำตาฉันไหลริน คนใจร้ายบังคับร่างกายฉันให้ตอบสนองความต้องการเขา

     

    EPISODE

    ก ระ สุ น รักของคนอื่น

     

    นัดเดียว TALK

    06.10 . [หกโมงเช้าสิบนาที]

                สวบ

                การขยับตัวทำให้ฉันเม้มริมฝีปากบางเป็นเส้นตรง ร่างหนากำลังตื่น ลมหายใจเขาทำให้หน้าฉันเบลอจนเบือนหน้าหนี

                ปวดหัว เสียงทุ้มฟังดูห้าวแทบแหบกำลังเคลื่อนไหวตัวอยู่บนเตียงนอน ฝ่ามือหนายกเพื่อหาอะไรสักอย่าง

                ตุบ!

                ฉันนั่งอยู่บนเก้าอี้ ปลายเท้าฉันกำลังเกร็งเข้าด้วยกัน สายตาฉันเกือบมองไม่เห็นเขาด้วยซ้ำไป

                เมื่อกี้มือถือเขาหล่นลงพื้น

                สวบ..

    เสียงขยับตัวจากร่างหนายังคงดังขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาผละออกจากหมอน เส้นผมสีดำสนิทกำลังปกปิดหน้าผากทรงเสน่ห์ สันจมูกโด่งรวมถึงริมฝีปากหนากำลังสูดดูดกลิ่นอะไรบนเตียงนอน

    ฮึก ฉันเป็นคนขี้ขลาดได้แต่กลืนก้อนเหนียวลงคอ เมื่อพบว่าเขาพลิกตัวกลับมา

    ตึกตัก

    หัวใจฉันเต้นแรงมากขึ้นในตอนที่เขาจ้องมองมาด้วยความนิ่ง ท่าทางของเขายังไม่สร่างเมา มือหนาด้านซ้ายเสพผมขึ้นหลวม ๆ จากนั้นขยับตัวลุกพิงพนักเตียง

    ใคร เขากำลังถามฉัน

    “…”

    แววตาดุดันราวกับเกลียดคนทั้งโลกมองฉันไม่เกินสามวิจากนั้นเขาละสายตาออกไป

    ผู้ชายคนนี้ชื่อ กระสุนเขาคือรักแรกของฉัน เป็นรักที่ฉันสลัดทิ้งไม่ได้มาสองปี พูดให้ถูกฉันแอบรักเขาต่างหาก

    ปัจจุบันเขาเป็นที่รู้จักของสังคม เขาเป็นคนดัง เป็นคนที่ฉันไม่กล้าเสนอหน้าเข้าไปใกล้ โลกของเขาไม่เคยมีฉันอยู่เลย สายตาเขามองฉันไม่เกินสามวิตลอด

    เว้นแต่เมื่อคืน

    เขาเมามาก เขามองฉันเป็นคนอื่น เขาทำเรื่องที่ไม่สมควรทำ..ใช่มันเกิดขึ้นแต่ฉันไม่มีทางบอกให้เขาได้รู้เด็ดขาด

    เพราะหัวใจของเขากลับมีผู้หญิงคนอื่นอยู่

    ใคร..” เพราะฉันเงียบกระสุนจึงเปิดปากถามอีกครั้ง น้ำเสียงเขาออกในทางรำคาญ ท่องแขนเต็มไปด้วยมัดกล้ามคลึงขมับทั้งที่มองไปทางอื่น

    นะนัดเดียว ฉันตอบกำขอบโปรงตัวเองไว้แน่น

    เธอเข้ามาได้ไง เขาดูดุมากกว่าปกติเมื่อถาม สายตาดุดันกำลังสำรวจร่างกายตัวเอง เขาขมวดคิ้วเข้าด้วยกันทุกครั้งที่มองกระดุมของเสื้อเชิ้ตสีขาว

    ใครใช้ให้เธอยุ่งกับร่างกายฉัน ถึงเขาไม่ได้มองแต่ฉันสัมผัสถึงการไม่พอใจอยู่ลึก ๆ กระดุมเสื้อฉันหายไปไหนหนึ่งเม็ด

    ฮึก อีกแล้วฉันเผลอกลืนก้อนเหนียวอีกแล้ว

    ฉันเป็นผู้หญิงฉลาดก็จริงแต่สมองฉันช้า เพราะทุกอย่างก่อนออกจากปากต้องเกิดจากการประมวลเหตุผลจากสมอง ฉันกลั่นกรองทุกอย่างไว้ดิบดี

    นายอ้วก แน่นอนว่าฉันโกหก ฉะฉันกลับบ้านได้ยัง ฉันหลุบตาต่ำขยำมือลงขอบกระโปรงอีกครั้ง

    เวลานี้ฉันไม่กล้าขยับตัวรวมถึงหายใจดัง ๆ ด้วยซ้ำ

    ผู้ชายคนนี้เวลาอยู่กับเพื่อนฝูงเขามักจะเป็นอีกแบบ เขามักจะมีอารมณ์ขัน มนุษย์สัมผัสดีขึ้น หากทว่าเมื่อเขาอยู่ตัวคนเดียวเขากลับนิ่งมาก ๆ นิ่งกระทั้งฉันกลัวว่าเขาจะทำอะไรบ้า ๆ

    เธอบอกว่าจะกลับบ้าน ชั่วอึดใจเดียวกระสุนตวัดหางตามองฉันจากนั้นกระชากเสื้อบนตัวเขาออกไป

    พรึบ

    เขาเหวี่ยงมันทิ้งลงพื้นอย่างไม่ใยดี

    ความสว่างไสวเกิดขึ้นเมื่อฉันเงยหน้ามองเขา ฉันเห็นแผ่นอกแกร่งขาวจัดมีรอยแดงก่ำตรงสีข้าง มันเกิดจากฉัน รูปร่างเขามีกล้ามเป็นมัด ๆ ซิกแพคเรียงสวยเป็นลอน

    แล้วเธอมาอยู่ที่ห้องฉันได้ไง

    จริงสิ..

    กระสุนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันเป็นเด็กฝึกงานของสตูดิโอเขา ฉันไม่แปลกใจหรอก เขาไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่ามีคนชื่อนัดเดียวอยู่บนโลก ก็บอกแล้วไงฉันไม่เคยอยู่ในโลกของเขา

    ไม่เคย

    เราเป็นเด็กฝึกงานของนาย มันคือวิธีพูดเรียบง่ายแต่คนฟังอย่างเขากลับขมวดคิ้วพูดขึ้นมาว่า

    เราไหนแล้วใครคือนาย

    แล้วต้องให้เรียกว่าอะไรเขาถึงได้เลิกใช้เสียงทุ้มต่ำห้าวแบบนั้นสักที

    ระเรา..”

    แทนชื่อตัวเองแล้วก็เรียกฉันว่าเฮียฉันแก่กว่าเธอ

    พรึบ

    กระสุนลุกออกจากเตียงสายตาดุดันกวาดมองผ้าขนหนูจากนั้นเขาดึงมันมาถือไว้ในมือ ทั้งที่ยืนหันหลังให้กับฉัน

    ฉันได้แต่มองแผ่นหลังของเขา

    ค่ะเฮีย

    ครั้งแรกเลยนะที่เราคุยกันยาวขนาดนี้และมันเป็นครั้งแรกที่ทำให้ฉันมีตัวตนในสายตาเขา

    คราวหน้าไม่ต้องเข้ามาในห้องฉันอีก

    “…”

    ออกไปได้แล้ว

    ตัวฉันสั่นวินาทีที่เขาจ้องมองมา สายตาดุดันของเขาลากออกจากใบหน้าฉันตอนที่เดินเข้าไปในห้องน้ำ

    ปึก

    ค่ะเฮีย

    แม้จะรับคำแผ่วเบาแต่ฉันก็อยากอยู่คุยกับเขาอยู่ดี

    ต่อจากนั้นฉันกำลังลุกจากเก้าอี้ สายตาฉันกำลังสาดส่องดูห้องเขาราวกับว่าอยากรู้ ฉันเคยเข้าห้องเขามาแล้วสองครั้งนับครั้งนี้เป็นครั้งที่สาม

    เพียงแต่ครั้งนี้มันแปลกไปจากเดิม

    ห้องเขามันเป็นห้องกว้างมีเฟอร์นิเจอร์สีดำหรือไม่ก็สีเทา ฉันขยับสายตาจากพื้นเพื่อมองโต๊ะเล็ก ๆ ซึ่งวางอยู่ในมุมห้อง บนนั้นมีรูปถ่ายถูกอัดกรอบไว้อย่างดี

    มันเป็นรูปกระสุนกับผู้หญิงคนนั้น

    “…”

    แฟนเก่าของเขา

    รูปนั่นทั้งสองคนยืนกุมมือมองหน้าด้วยกัน รอยยิ้มของกระสุนในรูปมันทำให้โลกทั้งใบดูสดใสซึ่งต่างจากตอนนี้

    เราควรออกไปจากห้องเขา

    ฉันลดสายตาลงเสียงน้ำดังขึ้นมันบ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังอาบน้ำอยู่ ในดวงตาของฉันตอนนี้มันมีน้ำใส ๆ ออกมาฉันพยายามฝืนเม้มริมฝีปากไว้แน่นจากนั้นลุกเพื่อเดินออกจากห้องไป

    กริ๊ก

    อ้าวนัดเดียวพี่คิดว่าเราอยู่บ้าน ร่างบางสูงหุ่นดีเอ่ยถามในระยะประชิดตอนที่ฉันยืดตัวขึ้น ดวงตากลมโตกำลังมองหน้าฉันอยู่

    ฉันหันมองรอบตัวเกาหัวตัวเองเล็กน้อยพร้อมฝืนยิ้มตามด้วยขยับออกจากห้องกระสุน

    หวังว่าพี่ช่ายคงไม่เห็นว่าเราออกมาจากห้องกระสุนหรอกนะคะ

    หื้ม? มีอะไรทำไมทำหน้าอย่างนั้น มือเรียวยาวเอื้อมมาตรงหน้าพร้อมวางไว้บนหัวฉัน เครียดอะไรมีอะไรให้พี่ช่วยบอกพี่ได้นะ น้ำเสียงหวานแผ่วเบามักจะใช้กับฉันเสมอ

    มะไม่มีค่ะ ฉันบอกพี่ช่ายตามด้วยฉีกยิ้มถึงแม้ว่าฉันจะปวดกรามก็ตามเถอะ

    แล้ว? อะไรยังไง? เมื่อพี่ช่ายเห็นว่าฉันยิ้มเธอถึงได้สนใจเรื่องอื่น

    พี่ช่ายเป็นพี่ที่ทำงานในสตูดิโอแห่งนี้ เธอเป็นพี่ผู้หญิงคนเดียวที่เรียกฉันว่า น้องสาวและเป็นคนเดียวกันกับที่โทรมาเมื่อคืน

    หน้าที่ของพี่เขาคือการดูแลสตูดิโอแห่งนี้ พี่ช่ายเป็นผู้จัดการส่วนตัวของกระสุน มีหน้าที่ดูแลกระสุนรวมถึงงานที่เขาต้องรับ

    ฉันยังไม่ได้บอกใช่ไหมว่ากระสุนทำงานอะไร เขาหน่ะเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงมีวงเป็นของตัวเอง เป็นนายแบบที่รับงานจำกัด เป็นนักแข่งรถมืออาชีพและสุดท้ายเป็นเจ้าของสตูดิโอแห่งนี้

    อ้อ เขาเปิดค่ายทำเพลงเองไม่มีต้นสังกัด อยากออกซิงเกิ้ลก็คือออกเอง  มีสมาชิกในวงสี่คน

    นัดเดียวลูก เพราะเห็นว่าฉันยืนนิ่งพี่ช่ายจึงค้อมตัวลงต่ำ เธอสูงกว่าฉันพอสมควร สายตาหวานคู่นี้กำลังเฝ้ารอคำตอบจากฉัน

    เมื่อกี้พี่ช่ายถามเราว่างั้นนะ?

    วินาทีนั้นฉันเป่าลมเข้าปากจนแก้มป่องเพราะเม้มริมฝีปากไว้แน่น น้ำตาเมื่อกี้มันหายไปแล้วแต่ความมึนยังคงอยู่

    สรุปแล้วอะไรยังไงเนี่ยเรา? ใช่พี่ช่ายกำลังถามว่าฉันยืนอยู่ตรงนี้ได้ไง

    งั้นเราควรตอบไปว่า

    เดียวเดินผ่านมาค่ะ แหะ ๆ ฉันพูดไปหัวเราะไป เมื่อกี้เห็นเหรียญตกเดียวเลยก้มเก็บ…” ตอนนั้นฉันเปลี่ยนสีหน้าพี่ช่ายจึงขมวดคิ้วมากขึ้น แต่ว่าพี่ช่ายดันมาเจอซะก่อน..เดียวเลยอาย

    โธ่ลูกอายอะไรกันเราเจอตังเก็บถูกแล้ว พี่ช่ายพูดเสร็จสรรพดึงแขนฉันออกจากตรงนี้ทันที

    เราสองคนต่างกันลึกลับ พี่ช่าย เป็นผู้หญิงเก่ง มั่นใจตัวเองสูง พี่เขาเป็นคนกล้าได้กล้าเสียแถมเป็นรุ่นพี่ที่มีอายุมากกว่าฉันถึงสี่ปี

    เมื่อคืนเป็นไงบ้าง รอยยิ้มดูอบอุ่นถามขึ้นตอนที่เรานั่งอยู่ในมุมกาแฟ มันเมามากหรือเปล่า ฉันนิ่งเพราะไม่รู้จะตอบว่าไง

    ทุกอย่างมันจุกแต่ฉันต้องไหว

    เอากาแฟมั้ยพี่ทำให้พี่ช่ายบอกพร้อมลุกแต่ฉันจับแขนเธอไว้เสียก่อนทำให้เธอชะงักแล้วมองฉัน

    เดียวไม่อยากดื่มค่ะเดี๋ยวนอนไม่หลับ

    โธ่หนู พอเห็นว่าฉันทำสีหน้าจริงจังพี่ช่ายถึงกลับแสดงสีหน้าเศร้า ไม่ดื่มงั้นเอาขนมปังมั้ยถือว่าเป็นการขอบคุณเรื่องเมื่อคืนด้วยถ้าตอบปัดอีกพี่ช่ายจะเปลี่ยนสีหน้าหรือเปล่านะ

    อารมณ์ตอนนี้เราไม่มีกะจิตกะใจจะทานอะไรทั้งนั้น เราไม่ใช่คนงี่เง่าเพียงแต่เราเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นต่างหาก

    เดียวขอเป็นรสเนยนะคะเอาน้ำตาลเยอะ ๆ เลย

     

     

                 อัปครบ

     #โธ่ลูกกกกทำไมเศร้าแล้วยังตลกอีกอ่า >< น้องน่ารักกกก ดราม่าชัวร์ไม่ต้องถาม 5555555


    อัปแล้วก็อัปต่อไปเรื่อย ๆ (บอกตัวเอง) ว่าไหว 555555

    ใครรอกระสุนอยู่บ้าง?


                 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×