ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อาฮาเดธ มหานครหลังความตาย

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 16 มี.ค. 58



    บทนำ


    ค่ำคืนเงียบสงบของเด็กหนุ่มวัยสิบห้า คาสเตอร์ ออร์คัส ดำเนินไป
    เฉกเช่นทุกวัน โอ่ ถ้าคุณกำลังคิดว่ากิจกรรมยามค่ำคืนของหนุ่มคาสเตอร์จะต้องเล่นเกมอย่างเด็กหนุ่มทั่วไปละก็ผิดถนัด เพราะที่จริงแล้วเค้ากำลังช่วยคุณนายออร์คัสจัดโต๊ะอาหารรอสามีกลับมาจากงานประจำ คาสเตอร์เป็นเด็กกำพร้าเค้าถูกเก็บมาเลี้ยงโดยครอบครัวออร์คัส แต่นั่นไม่ได้เป็นปมด้อยสร้างความหม่นหมองแต่อย่างใดเค้าอยู่ร่วมกับครอบครัวออร์คัสได้เป็นอย่างดีและครอบครัวออร์คัสก็ดูจะชอบคาสเตอร์มากเสียด้วยเนื่องจากคุณนายออร์คัสเป็นหมันทำให้ไม่สามารถมีลูกได้


    หลังจากกินข้าวเสร็จคาสเตอร์นั่งรอให้อาหารในท้องย่อยอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลุกไปอาบน้ำและจัดการธุระตามปกติก่อนจะเข้านอนเป็นเวลาห้าทุ่ม


    แก๊ง! แก๊ง! แก๊ง! แก๊ง!

    “โอ้ย น่ารำคาญโว้ย”คาสเตอร์ลุกขึ้นจากเตียงอย่างหัวเสียแล้วหันไปมองนาฬิกาดิจิตอลที่ตอนนี้เลขชั่วโมงและนาทีพร้อมใจกันเป็นเลขศูนย์


    แก๊ง!แก๊ง!แก๊ง!


    เสียงที่คาดว่าน่าจะเป็นระฆังยังคงดังก้องอยู่ในหูของคาสเตอร์  ทำให้เค้าลุกขึ้นจากเตียงแล้วพยามชะเง้อออกไปดูนอกหน้าต่างเพื่อหาต้นตอของเสียง


    “เฮ้ย!”เสียงร้องขึ้นอย่างตกใจเมื่อคาสเตอร์หันหลังไปพบกับร่างกายของเค้าที่นอนหลับอย่างสบายอยู่บนเตียง เค้าพยามเขย่าร่างของตัวเองให้ขยับแต่ไม่เป็นผลเมื่อมือที่ใช้ผ่านร่างที่นอนอยู่อย่างวืดๆ


    คาสเตอร์ตัดสินใจลงมาชั้นล่างและพบกับคุณนายออร์คัสที่กำลังดูโทรทัศน์อยู่เค้าพยายามพูดกับเธอแต่มันก็ไม่เป็นผลเมื่อเธอยังคงสนใจเสียงของโทรทัศอยู่ทั้งที่เค้าตะโกนปากแทบฉีก


    “บ้าอะไรวะเนี้ย”คาสเตอร์สบถอย่างทำอะไรไม่ได้


    แก๊ง!แก๊ง!แก๊ง!แก๊ง!


    “เพราะแกแน่ๆ ไอ้เสียงนรก”เสียงระฆังที่ยังดังทำให้คาสเตอร์นึกขึ้นได้ เค้ารีบออกจากบ้านแล้วตรงไปหาทางที่เสียงระฆังนั้นมา


    ขณะที่คาสเตอร์กำลังตามเสียงของระฆังก็มีเสียงแปลกดังขึ้นด้านหลังเค้าจึงหันหลังไปมอง แต่เท่านั้นละ...


    “โอ่ พระเจ้า!!!”คาสเตอร์ร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นกับภาพข้างหลัง หมาตัวใหญ่กำลังฉีกร่างที่เค้าคาดว่าน่าจะเป็นมนุษย์เป็นชิ้นเล็ก แต่ด้วยเสียงนั่นเองทำให้เจ้าหมาตัวใหญ่เงยหน้ามาสบตากับเค้า


    คาสเตอร์สติหลุดออกวิ่งจากจุดนั้นทันที เค้าวิ่งไปเรื่อยๆ อย่างไม่คิดชีวิต ยิ่งวิ่งเสียงระฆังก็ยิ่งดังขึ้น เค้ารวบรวมความกล้าหันหลังไปมองว่าเจ้าหมาตัวใหญ่นั่นตามหรือเปล่าแต่มันก็ไม่มีอะไรนอกจากถนนโล่งๆ เค้าจึงผ่อนลมอย่างโล่งอก ในจังหวะหันหน้ากลับนั่นเองก็พบว่ามีคนอยู่ด้านหน้าแต่ขาที่วิ่งมาตลอดนั้นไม่สามารถหยุดทันทำให้ชนกับคนด้านหน้าอย่างจังและคาสเตอร์ก็กระเด้งกองลงบนพื้นถนน


    “โอ้ย ขอโทษครับ”แม้ตัวเองจะเจ็บแต่คาสเตอร์ก็เอ่ยขอโทษตามมารยาทเนื่องจากเค้าเป็นคนผิดที่วิ่งแล้วไม่มองทางข้างหน้าให้ดี


    “โอ้ อาหารวิ่งมาหา ข้าชั่งโชคดีจริงๆ”เสียงแปร่งๆ ของผู้หญิงกับประโยคแปลกๆ ทำให้คาสเตอร์เงยหน้าขึ้นมองคนที่เค้าชนเมื่อกี้ พระเจ้าผู้หญิงที่เค้าชนอย่างแรงเมื่อกี้ยืนนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งที่เมื่อกี้เค้าเป็นคนชนแท้ๆ ยังกระเดนลงมากองกับพื้นเลยและที่ทำให้เค้าช็อกก็คือในมือของเธอมีขวานที่มีสีแดงกำลังหยดติ๋งๆ อยู่ เค้าไม่ได้โง่นะถึงจะได้ไม่รู้ว่านั่นคือเลือด และสิ่งที่ทำให้เค้าโคตรช็อกก็คือเธอกำลังยกขวานเปื้อนเลือดนั่นเฉอะผม


    หนี สมองประมวลรวดเร็วร่างกายลุกวิ่งกลับไปทางเดิมที่วิ่งมา คาสเตอร์ยังคงวิ่งอย่างสุดกำลังเค้าไม่จำเป็นต้องหันไปมองว่ายัยผู้หญิงถือขวานนั่นตามมาไหมเพราะเสียงของคุณเธอร้องอยู่ตลอดเวลา อย่าหนีสิอาหารของฉัน  ชิ ยัยผู้หญิงโหด


     คาสเตอร์ยังวิ่งต่อไปแต่ชั่งโชคร้ายเค้าสะดุดล้มกลิ้งไม่เป็นท่าอยู่ที่พื้นในใจของเค้าร้องลั่น ไม่รอดแน่


    พึ่บ


    เงาบางอย่างลอยข้ามหัวคาสเตอร์ไปไม่ครึ่งวิก็ตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวนของผู้หญิง คาสเตอร์หันไปมองก็เจอเจ้าหมาตัวใหญ่กำลังฉีกร่างยัยผู้หญิงโหดอยู่


    “รีบไปตามเสียงระฆังซะเจ้าหนู”เจ้าหมาตัวใหญ่เงยหน้าจากซากศพขึ้นมาสั่งคาสเตอร์ โอ้พระเจ้านอกจากท่านจะสร้างผู้หญิงให้โครตโหดแล้วท่านยังสร้างหมาให้พูดได้ด้วย!


    “ชักช้าอยู่ได้เดี๋ยวเจ้าก็ไปไม่ทันหรอก”ไม่ต้องรอให้มันพูดซ้ำเป็นรอบที่สามผมรีบวิ่งไปตามเสียงระฆังอย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่าถ้าอยู่นานๆ เจ้าหมานั่นจะเปลี่ยนใจกินเค้าแทน


    คาสเตอร์หยุดวิ่งเมื่อเค้าเจอสิ่งประประหลาดสิ่งใหม่ด้านหน้า ประตูสีทองลอยเหนือพื้นไม่ยึดเกาะต่อสิ่งใด เค้ามองมันครู่หนึ่งก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างดึงประตูให้เปิดออกไม่มีภาพใดปรากฏ ด้านหน้านอกจากสีดำวนๆ เหมือนกับหลุมดำ คาสเตอร์ถอนหายใจเฮือก ตามเซ้นต์ของเค้าแล้วขืนเข้าไปมีหวังซวยแหงเลย แต่ครั้นจะหันหลังกลับก็...


    “เข้าก็เข้าวะ”คาสเตอร์ก้าวขาเข้าไปในหลุดดำนั่นเพียงแค่แป๊บเดียวเท่านั้นก็มีแสงบางอย่างวาบขึ้นมาคาสเตอร์หลับตาลง หูยังคงได้ยินเสียงระฆังดังก้องเค้าค่อยๆ ลืมตาเพื่อปรับให้เข้ากับแสงภาพแรกที่ฉายชัดในดวงตาคือนาฬิกาขนาดใหญ่ตรงจุดหมุนของเข็มนาฬิกามีช่องกลวงเป็นวงกลมข้างในมีระฆังกำลังส่งเสียงดัง แก๊งๆ เข็มนาทีที่กำลังเดินถึงเลขสิบสองนั้นเองส่งผลให้เข็มชั่วโมงขยับตรงเลขสามจนเกิดเป็นตัวแอลแบบพอดิบพอดี ระฆังที่ดังอยู่หยุดลงในทันทีพร้อมกับเสียงที่ดังขึ้น


    “หมดเวลาสำหรับรับผู้สมัคร และยินดีต้อนรับผู้เข้าสอบทุกคน ฉันมีชื่อว่าธานอส ไคลโอ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแลนโดร่าแห่งนี้ โรงเรียนที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในอาฮาเดธ มหานครหลังความตาย”


    “...”


    โอ้~ พระเจ้า ท่านช่างเล่นซนกับชีวิตผมนัก            ค่ำคืนเงียบสงบของเด็กหนุ่มวัยสิบห้า คาสเตอร์ ออร์คัส ดำเนินไปเฉกเช่นทุกวัน โอ่ ถ้าคุณกำลังคิดว่ากิจกรรมยามค่ำคืนของหนุ่มคาสเตอร์จะต้องเล่นเกมอย่างเด็กหนุ่มทั่วไปละก็ผิดถนัด เพราะที่จริงแล้วเค้ากำลังช่วยคุณนายออร์คัสจัดโต๊ะอาหารรอสามีกลับมาจากงานประจำ คาสเตอร์เป็นเด็กกำพร้าเค้าถูกเก็บมาเลี้ยงโดยครอบครัวออร์คัส แต่นั่นไม่ได้เป็นปมด้อยสร้างความหม่นหมองแต่อย่างใดเค้าอยู่ร่วมกับครอบครัวออร์คัสได้เป็นอย่างดีและครอบครัวออร์คัสก็ดูจะชอบคาสเตอร์มากเสียด้วยเนื่องจากคุณนายออร์คัสเป็นหมันทำให้ไม่สามารถมีลูกได้


    หลังจากกินข้าวเสร็จคาสเตอร์นั่งรอให้อาหารในท้องย่อยอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลุกไปอาบน้ำและจัดการธุระตามปกติก่อนจะเข้านอนเป็นเวลาห้าทุ่ม


    แก๊ง! แก๊ง! แก๊ง! แก๊ง!


    “โอ้ย น่ารำคาญโว้ย”คาสเตอร์ลุกขึ้นจากเตียงอย่างหัวเสียแล้วหันไปมองนาฬิกาดิจิตอลที่ตอนนี้เลขชั่วโมงและนาทีพร้อมใจกันเป็นเลขศูนย์


    แก๊ง!แก๊ง!แก๊ง!


    เสียงที่คาดว่าน่าจะเป็นระฆังยังคงดังก้องอยู่ในหูของคาสเตอร์  ทำให้เค้าลุกขึ้นจากเตียงแล้วพยามชะเง้อออกไปดูนอกหน้าต่างเพื่อหาต้นตอของเสียง


    “เฮ้ย!”เสียงร้องขึ้นอย่างตกใจเมื่อคาสเตอร์หันหลังไปพบกับร่างกายของเค้าที่นอนหลับอย่างสบายอยู่บนเตียง เค้าพยามเขย่าร่างของตัวเองให้ขยับแต่ไม่เป็นผลเมื่อมือที่ใช้ผ่านร่างที่นอนอยู่อย่างวืดๆ


    คาสเตอร์ตัดสินใจลงมาชั้นล่างและพบกับคุณนายออร์คัสที่กำลังดูโทรทัศน์อยู่เค้าพยายามพูดกับเธอแต่มันก็ไม่เป็นผลเมื่อเธอยังคงสนใจเสียงของโทรทัศอยู่ทั้งที่เค้าตะโกนปากแทบฉีก


    “บ้าอะไรวะเนี้ย”คาสเตอร์สบถอย่างทำอะไรไม่ได้


    แก๊ง!แก๊ง!แก๊ง!แก๊ง!


    “เพราะแกแน่ๆ ไอ้เสียงนรก”เสียงระฆังที่ยังดังทำให้คาสเตอร์นึกขึ้นได้ เค้ารีบออกจากบ้านแล้วตรงไปหาทางที่เสียงระฆังนั้นมา


    ขณะที่คาสเตอร์กำลังตามเสียงของระฆังก็มีเสียงแปลกดังขึ้นด้านหลังเค้าจึงหันหลังไปมอง แต่เท่านั้นละ...


    “โอ่ พระเจ้า!!!”คาสเตอร์ร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นกับภาพข้างหลัง หมาตัวใหญ่กำลังฉีกร่างที่เค้าคาดว่าน่าจะเป็นมนุษย์เป็นชิ้นเล็ก แต่ด้วยเสียงนั่นเองทำให้เจ้าหมาตัวใหญ่เงยหน้ามาสบตากับเค้า


    คาสเตอร์สติหลุดออกวิ่งจากจุดนั้นทันที เค้าวิ่งไปเรื่อยๆ อย่างไม่คิดชีวิต ยิ่งวิ่งเสียงระฆังก็ยิ่งดังขึ้น เค้ารวบรวมความกล้าหันหลังไปมองว่าเจ้าหมาตัวใหญ่นั่นตามหรือเปล่าแต่มันก็ไม่มีอะไรนอกจากถนนโล่งๆ เค้าจึงผ่อนลมอย่างโล่งอก ในจังหวะหันหน้ากลับนั่นเองก็พบว่ามีคนอยู่ด้านหน้าแต่ขาที่วิ่งมาตลอดนั้นไม่สามารถหยุดทันทำให้ชนกับคนด้านหน้าอย่างจังและคาสเตอร์ก็กระเด้งกองลงบนพื้นถนน


    “โอ้ย ขอโทษครับ”แม้ตัวเองจะเจ็บแต่คาสเตอร์ก็เอ่ยขอโทษตามมารยาทเนื่องจากเค้าเป็นคนผิดที่วิ่งแล้วไม่มองทางข้างหน้าให้ดี


    “โอ้ อาหารวิ่งมาหา ข้าชั่งโชคดีจริงๆ”เสียงแปร่งๆ ของผู้หญิงกับประโยคแปลกๆ ทำให้คาสเตอร์เงยหน้าขึ้นมองคนที่เค้าชนเมื่อกี้ พระเจ้าผู้หญิงที่เค้าชนอย่างแรงเมื่อกี้ยืนนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งที่เมื่อกี้เค้าเป็นคนชนแท้ๆ ยังกระเดนลงมากองกับพื้นเลยและที่ทำให้เค้าช็อกก็คือในมือของเธอมีขวานที่มีสีแดงกำลังหยดติ๋งๆ อยู่ เค้าไม่ได้โง่นะถึงจะได้ไม่รู้ว่านั่นคือเลือด และสิ่งที่ทำให้เค้าโคตรช็อกก็คือเธอกำลังยกขวานเปื้อนเลือดนั่นเฉอะผม


    หนี สมองประมวลรวดเร็วร่างกายลุกวิ่งกลับไปทางเดิมที่วิ่งมา คาสเตอร์ยังคงวิ่งอย่างสุดกำลังเค้าไม่จำเป็นต้องหันไปมองว่ายัยผู้หญิงถือขวานนั่นตามมาไหมเพราะเสียงของคุณเธอร้องอยู่ตลอดเวลา อย่าหนีสิอาหารของฉัน  ชิ ยัยผู้หญิงโหด


     คาสเตอร์ยังวิ่งต่อไปแต่ชั่งโชคร้ายเค้าสะดุดล้มกลิ้งไม่เป็นท่าอยู่ที่พื้นในใจของเค้าร้องลั่น ไม่รอดแน่


    พึ่บ


    เงาบางอย่างลอยข้ามหัวคาสเตอร์ไปไม่ครึ่งวิก็ตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวนของผู้หญิง คาสเตอร์หันไปมองก็เจอเจ้าหมาตัวใหญ่กำลังฉีกร่างยัยผู้หญิงโหดอยู่


    “รีบไปตามเสียงระฆังซะเจ้าหนู”เจ้าหมาตัวใหญ่เงยหน้าจากซากศพขึ้นมาสั่งคาสเตอร์ โอ้พระเจ้านอกจากท่านจะสร้างผู้หญิงให้โครตโหดแล้วท่านยังสร้างหมาให้พูดได้ด้วย!


    “ชักช้าอยู่ได้เดี๋ยวเจ้าก็ไปไม่ทันหรอก”ไม่ต้องรอให้มันพูดซ้ำเป็นรอบที่สามผมรีบวิ่งไปตามเสียงระฆังอย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่าถ้าอยู่นานๆ เจ้าหมานั่นจะเปลี่ยนใจกินเค้าแทน


    คาสเตอร์หยุดวิ่งเมื่อเค้าเจอสิ่งประประหลาดสิ่งใหม่ด้านหน้า ประตูสีทองลอยเหนือพื้นไม่ยึดเกาะต่อสิ่งใด เค้ามองมันครู่หนึ่งก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างดึงประตูให้เปิดออกไม่มีภาพใดปรากฏ ด้านหน้านอกจากสีดำวนๆ เหมือนกับหลุมดำ คาสเตอร์ถอนหายใจเฮือก ตามเซ้นต์ของเค้าแล้วขืนเข้าไปมีหวังซวยแหงเลย แต่ครั้นจะหันหลังกลับก็...


    “เข้าก็เข้าวะ”คาสเตอร์ก้าวขาเข้าไปในหลุดดำนั่นเพียงแค่แป๊บเดียวเท่านั้นก็มีแสงบางอย่างวาบขึ้นมาคาสเตอร์หลับตาลง หูยังคงได้ยินเสียงระฆังดังก้องเค้าค่อยๆ ลืมตาเพื่อปรับให้เข้ากับแสงภาพแรกที่ฉายชัดในดวงตาคือนาฬิกาขนาดใหญ่ตรงจุดหมุนของเข็มนาฬิกามีช่องกลวงเป็นวงกลมข้างในมีระฆังกำลังส่งเสียงดัง แก๊งๆ เข็มนาทีที่กำลังเดินถึงเลขสิบสองนั้นเองส่งผลให้เข็มชั่วโมงขยับตรงเลขสามจนเกิดเป็นตัวแอลแบบพอดิบพอดี ระฆังที่ดังอยู่หยุดลงในทันทีพร้อมกับเสียงที่ดังขึ้น


    “หมดเวลาสำหรับรับผู้สมัคร และยินดีต้อนรับผู้เข้าสอบทุกคน ฉันมีชื่อว่าธานอส ไคลโอ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแลนโดร่าแห่งนี้ โรงเรียนที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในอาฮาเดธ มหานครหลังความตาย”


    “...”


    โอ้~ พระเจ้า ท่านช่างเล่นซนกับชีวิตผมนัก      

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×