ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Polaris ปริศนาดวงดาวสาบสูญ

    ลำดับตอนที่ #7 : แผนบึ้มเพดานตูมตามได้โล่

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ย. 67


    "มันคือ...อะไรอะ"

    เกิดมาเพิ่งเคยได้ยิน โฮอะไรตุดๆนะ

    "โฮโมนครูส เป็นมนุษย์ที่ถูกสร้างขึ้นจากศาสตร์อะไรสักอย่าง ตรงนี้ผมได้ข้อมูลมาไม่ค่อยชัดเจน"

    "แล้วไอคุดๆนี่มันใช้อะไรได้บ้างล่ะ"

    "จากข้อมูลโฮโมนครูสมีพลังมากกว่ามนุษย์และเธออยู่ในสภาพจำศิล ถ้าเราปลุกเธอได้เธอจะบ้าคลั่งทันที"

    "เธอไม่ชอบให้มีคนปลุกเวลานอนหรอ"

    ผมก็ไม่ชอบเหมือนกันนะ ใครมาปลุกล่ะก็จะตีให้ตายเลย(ยกเว้นริสล่ะนะ)

    "ผมก็ไม่แน่ใจข้อมูลมันค่อนข้างหายาก แต่เหมือนเธอจะถูกบังคับให้จำศิล ถ้าเราสามารถสร้างความวุ่นวายจนเธอตื่นล่ะก็..."

    "เธออาจคลั่งแล้วพังเพดาน"

    "ครับ ฉลาดขึ้นนะครับ"

    อยากตบเด็กจริงโว้ย

    "ผมคงต้องพึ่งคุณเบนวิคกับลุงจอร์นด้วยนะครับ"

    "หา?"

    "ฝากอะไรหรอไอหนุ่ม"

    ผมกับลุงจอร์นหันไปมองหน้ากัน

    "ผมมีแผนแล้วครับ"

    เลย์ตันโปรยยิ้มเจ้าเล่ย์ออกมา ทำคนนั่งอยู่ใกล้ๆเสียวสันหลังวูบวาบ ทำไมรู้สึกว่างานนี้ผมต้องเจ็บตัวอีกแล้ว แผลเก่ายังไม่ทันหายแผลใหม่จะเข้ามาเพิ่มแน่ๆ ฮืออ

    งานประมูลจะเริ่มตอนพระอาทิตย์ตกดินและของที่หายากมักจะเก็บไว้ประมูลทีหลัง ส่วนพวกผม...รอมอบตัวให้ทหารพรุ่งนี้

    "แผนนายนี่สุดยอดเลยพ่อหนุ่ม"

    หลังจากที่วางแผนกันเสร็จก็มีการชมกันนิดหน่อยจนคนถูกชมตัวลอยแล้ว

    "สู้ๆนะพ่อหนุ่มเบนวิค"

    ลุงจอร์นหันมายกหัวแม่มือให้เป็นการให้กำลังใจ ผมถอนหายใจหลายเฮือก ก็ผมต้องเจ็บตัวอีกแล้วนี่สิ ไม่สงสารร่างอันบอบบางของผมกันบ้างเลยให้ตายสิ

    "อีกเดี๋ยวพวนออร์คก็จะลงมายกของกันแล้วนะครับ ทุกคนเตรียมตัวกันเลยครับ"

    เลย์ตันเอาหูแนบพื้นเพื่อฝังเสียงสิ่งต่างๆ เพราะของแข็งเป็นตัวกลางที่เสียงเดินผ่านได้ดีที่สุดดังนั้นการเอาหูแนบพื้นจึงสามารถได้ยินเสียงฝีเท้าและเสียงอื่นๆได้อย่างชัดเจน ไม่นานพวกออร์คก็เข้ามายกของต่างๆภายในห้องไปทีละชิ้นสองชิ้น ด้านหลังพวกออร์คคือชายผมดำเป้าหมายของเรา

    "นี่จะขนไปไหนกันหรอ"

    ผมกระเถิบไปหน้ากรงขัง ตรงนี้วิวดีสุดๆเห็นออร์คครบทุกตัวเลย

    "บางทีนะ ข้าก็เชื่อว่าเจ้าไม่มีสมอง"

    "ก็รู้ว่าผมโง่แล้วก็บอกมาสิว่าเอาของพวกนี้ไปไหน"

    ราเอลถอนหายใจเฮือกใหญ่

    "ประมูล"

    "ที่ไหน"

    "ถัดไปอีกสองสามห้องเป็นเวทีประมูล"

    ราเอลตอบอย่างเบื่อๆก่อนจะหันมองพวกออร์คที่กำลังยกของกันอยู่

    "นายควบคุมออร์คได้ด้วยหรอ ไม่ยักรู้นะเนี่ย"

    "ออตโต้ตาหาก นายโดนกระทืบจนสมองไหลไปแล้วหรือไง"

    "หา แล้วเขาอยู่ไหนเนี่ย"

    ผมป้องตาหาคนผมสีส้มแต่ก็หาไม่เจอสักที

    "เขาอยู่ที่เวที เขาเป็นพิธีกรของงานประมูล นายความจำสั้นหรือไง"

    "ผมไม่ค่อยใส่ใจน่ะ บึ้มเสร็จก็โกยแค่นั้นละ"

    "หึ"

    ราเอลทำเสียงขึ้นจมูกก่เนหันหน้าหนี

    "เหวอ!หะ หัวหน้า!"

    จู่ๆลูกน้องลุงคนหนึ่งก็กะโกนขึ้นอย่างร้อนรนเรียกความสนใจของทุกคนในห้องได้อย่างดี

    "เฮ้ย ลุงเป็นอะไรไป!"

    ผมรีบพุ่งไปหาลุงจอร์นที่ตอนนี้แกนอนชักตาเหลือกน้ำลายฟูมปากอยู่บนพื้น เลย์ตันก็รีบเข้ามาดูอาการลุงด้วยเช่นกัน

    "หัวหน้ามีโรคประจำตัวครับ ยา..อยู่ในกระเป๋าหัวหน้า เอะ ในนั้น!"

    ลูกน้องลุงอีกคนพูดขึ้นพร้อมชี้นิ้วไปที่กระเป๋าโทรมๆสีน้ำตาลใบเล็กๆที่วางกองอยู่ข้างๆกรงขังพวกนักเวท

    "ราเอลช่วยหยิบกระเป๋าใบนั้นให้หน่อยสิ"

    ผมหันไปบอกชายผมเปียแต่เขากลับมองมาด้วยสายตาเย็นชา

    "เฮ้ราเอล! ได้ยินผมไหมเนี่ยเดี๋ยวเขาก็ตายหรอก"

    "แล้ว"

    "หา"

    "มันตายแล้วยังไงล่ะ จะจับเป็นหรือตายกองทัพก็จ่ายเงินให้เท่าเดิม"

    ราเอลพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาอุณหภูมิติดลบสุดๆ ทำให้หลายคนรู้สึกเหมือนโดนแช่แข็งจากคำพูดนั้น

    "นายนี่มัน!"

    ผมมองสำรวจไปรอบๆห้อง ตอนนี้พวกออร์คออกไปกันหมดแล้วในห้องจึงมีแค่ราเอลคนเดียว ผมจึงพุ่งไปยังประตูกรง ผมใช้เข็มเล็กๆที่ได้จากเลย์ตันสะเดาะกลอนประตูออกแล้วกระโจนออกไปนอกกรงทันที ผมรีบสาวเท้าไปที่กระเป๋าสีน้ำตาลแต่ก็ช้ากว่าแส้สีดำ ราเอลตวัดแส้มาพันข้อเท้าผมก่อนจะดึงกลับเต็มแรงทำให้ผมหน้าทิ่ม ดั้งจมูกผม...หักหมดแล้ว

    ราเอลใช้เวทบล็อคประตูกรงไว้ไม่ให้ใครออกมาได้ก่อนจะร่ายสังหารหลายบท ลูกบอลเวทสีดำลอยรอบๆตัวราเอล มันปล่อยอายพลังน่ากลัวออกมา ราเอลปล่อยจิตสังหารเย็นเยือกที่ทำให้เลือดในกายแข็งได้ หลายคนหน้าซีดเป็นลมไปตามๆกัน แถมยังมีคนชักเพิ่มขึ้นอีก

    "เจ้าจะไม่ก่อนกวนข้าสักครั้งไม่ได้เลยหรือไง เบนวิค!!"

    ราเอลคำรามอย่างเกรี้ยวกราดจากนั้นลูกบอลเวทสีดำพุ่งมาหาผมทันที ผมรีบสะบัดเท้าให้แส้หลุดออกก่อนจะกลิ้งหลบลูกบอลเวทเหล่านั้น พอได้จังหวะผมก็สปริงตัวขึ้นแล้วตั้งท่าวิ่งหนีทันที ราเอลไม่ปล่อยผมไปง่ายๆเขาตวัดแส้ไปมา สายพลังเวทสีดำก็พุ่งทะยานไล่ตามผมมาเป็นสิบ ผมเลยต้องก้ม กลิ้ง หมอบคลานเพื่อหลบพลังพวกนั้น

    "หนีไปไหนหรอไอตัวแสบ"

    "เดี๋ยวนะ!"

    ผมจำได้ว่าราเอลยืนอยู่หน้ากรงไม่ใช้หรอทำไมตอนนี้ถึงมาอยู่หน้าผมได้ล่ะ แถมใกล้ระยะจูบปากเสียด้วย นี่ถ้าหยุดไม่ทันมีได้จูบ....ใช้ที่ไหนล่ะ ระยะนี้มีแต่ตายกับตายเว้ย เวทน่ากลัวปรากฏขึ้นบนมือราเอล แน่นอนระยะนี้ทำให้ผมสัมผัสอายพลังได้อย่างชัดเจน หนุ่มผมดำซัดมันเข้าเต็มๆกลางตัวผม แรงระเบิดจากพลังเวทนั้นส่งให้ผมกระเด็นไปชนกับผนังจนเป็นรอยร้าว ผมกระอักเลือนออกมากองใหญ่พร้อมกับแผลฉกรรจ์เต็มตัว

    "เบนวิค!"

    "คุณเบนวิค!"

    เลย์ตันกับริสร้องกันเสียงหลงเมื่อเห็นผมสภาพเละเทะเลือดท่วมตัว ราเอลปลายตามองผมก่อนจะกระตุกยิ้มแล้วหันหลังเพื่อออกจากห้องแต่ก็ต้องชะงัก เมื่อคนสภาพปางตายกลับค่อยๆลุกขึ้นพร้อมแสยะยิ้มน้อยๆ ผมถมเลือดออกก่อนจะเริ่มออกวิ่งต่อ

    "เกมวิ่งไล่จับมันพึ่งเริ่มขึ้นโว้ย! แค้กๆ"

    "หืม หนังเหนี่ยวจริงนะ ถ้าตายก็อย่าว่ากันล่ะ!"

    ทันทีที่ผมออกวิ่งราเอลก็ตวัดแส้สีดำรุกไล่ผมทันที เพราะสภาพที่ไม่เต็มร้อยทำให้ผมวิ่งหนีและหลบหลีกได้ยากขึ้น เอาจริงๆแค่หายใจก็ทรมานแล้วถ้าเป็นคนปกติละก็ตายตั้งแต่โดนเวทอัดกลางตัวแล้ว แต่ผมไม่ปกติ(ไม่เต็มก็ขาด แค้กๆ)

    "ข้าเบื่อไล่เจ้าแล้ว! ตายๆไปได้แล้ว"

    ราเอลคำรามเสียงเย็นก่อนสายเวทสีดำมากมายจะปรากฏรอบๆตัวราเอล พวกมันพุ่งไปล้อมรอบแส้สีดำ อายพลังน่าสยดสยองกระจายไปทั่วบริเวณ ใครจิตอ่อนๆก็ช็อคไปตามๆกัน เลย์ตันถึงกับหน้าซีดเผือก ส่วนลุงจอร์นและลูกน้องของเขาก็แน่นิ่งกับพื้นกันหมดแล้ว 

    สายพลังสีดำบิดเกลี่ยวรอบๆแส้ก่อนราเอลจะตวัดแส้มาทางผม ผมขยับยิ้มเล็กน้อยก่อนจะตีลังกากลับหลังไปหลบหลังโลงศพตรงกลางห้องโถงได้พอดี สายพลังน่ากลัวจากแส้ปะทะเข้าตรงๆกับโลงศพสีแดงเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่ว เศษไม้และโซ่กระจายไปทั่วผมที่หลบหลังโลงจึงโดนเศษไม้ปักเข้าตามตัวหลายแผลแถมยังกระเด็นไปติดผนังอีก

    "กริ๊ดดด"

    เสียงกริ๊ดอันแหลมบาดหูดังออกมาจากบริเวณที่เคยเป็นโลงศพก่อนจะปรากฏร่างหญิงสามผมสีขาวซีด ทั่วร่างมีโซ่พันเต็มไปหมด เธอกระชากโซ่เหล่านั้นขาดกระจุยก่อนจะพุ่งไปหาราเอล เร็วกว่าใครจะมองทันท่อนขาเรียวก็เตะเข้ากลางลำตัวหนุ่มผมดำทำให้เขากระเด็นถอยหลังไปหลายก้าว ราเอลรีบตั้งตัวขึ้นก่อนจะร่ายเวทป้องกันทันที 

    เมื่อเห็นว่าการโจมตีจากร่างกายทำอะไรเวทป้องกันนี้ไม่ได้เธอจึงก้มตัวลงแล้วใช้สองมือวางลงบนพื้น ทันทีก็เกิดแรงสั่นสะเทือนแล้วพื้นก็แตกออกเป็นเส้นตรงจากนั้นก็มีหินแหลมมากมายพุ่งขึ้นมาจากพื้น ราเอลตวัดแส้ปัดป้องหินแหลมและเศษดินที่พุ่งใส่เขาจนมือเป็นระวิง ปากก็ท่องเวทป้องกันการโจมตีระยะประชิดจากสาวผมขาวไปด้วย

    "สิ่งมีชีวิตผมขาวนี่น่ากลัวจังนะ"

    ผมวิ่งไปยิบกระเป๋าสีน้ำตาลก่อนจะโยนเข้าไปในกรงแล้ววิ่งหลบลูกหลงอย่างสบายๆ ทำให้ราเอลตาเบิกกว้าง

    "นี่นาย...ทำไมถึง"

    สภาพผมตอนนี้มีแค่แผลถลอกเต็มตัวกับรอยช้ำเล็กน้อยเท่านั้น แถมยังวิ่งปร๋ออีกด้วย

    "ความลับครับ แว้ก"

    หันไปยิ้มเจ้าเล่ได้ไม่นานก็ต้องก้มหลบลูกหลงที่พัดมาตกใกล้ๆ ส่วนกระเป๋าใบนั้นที่จริงแล้วเป็นของเลย์ตัน พอได้กระเป๋าคืนเขาก็หยิบปืนสั้นสีขาวนวลตัดขอบสีฟ้าสวยงามออกมาสองกระบอก ก่อนจะยิ่งลูกหลงที่เลยมาถล่มบริเวณกรงได้อย่างแม่นยำ พอลูกหลงหมดเลย์ตันก็กำลายกรงทันที

    "ตอนนี้แหละทุกคน!"

    พวกที่นอนติดพื้นรีบสปริงตัวขึ้นมาทันทีเหมือศพฟื้นคืนชีพ ก่อนจะวิ่งออกไปเซอไวเวิลกันนอกกรง แรงสั่นสะเทือนจากการปะทะกันของราเอลกับหญิงผมขาวทำให้ผนังกั้นห้องแตกร้าว เพดานเริ่มมีรอยแตกเล็กๆเต็มไปหมด พวกของลุงจอร์นวิ่งเข้าไปช่วยคนในกรงขังอื่นๆก่อนจะพากันวิ่งหลบลูกหลงกันอลหม่าน ส่วนนักเวทที่โดนเวทเซบันมัดอยู่ในกรงก็ได้เลย์ตันช่วยยิงสกัดลูกหลงให้

    "เฮ้ยพ่อหนุ่มแว่น อะไรตุดๆของเจ้ามันจะน่ากลัวไปไหม"

    ลุงจอร์นมองสนามรบอย่างหวาดผวา

    "ผมเคยได้ยินแค่ขาวลือครับ ไม่รู้ว่าจะดุร้ายขนาดนี้"

    ผมดำดินหนีความจริงได้ไหม

    เลตันขยับมือยิงลูกหลงได้แม่นยำส่วนตาก็มองการซัดแหลกของหนุ่มผมดำกับสาวผมขาวไปด้วย อื่มสามารถจริงๆไอผมเขียวคนนี้

    ตู้มๆๆ

    การซัดแหลกของสองสิ่งมีชีวิตดุร้ายได้เลยออกไปนอกห้องแล้วแถมยังเลยไปถึงเวทีการประมูลอีกด้วย พวกเศรษฐีที่มาประมูลก็วิ่งหนีตายกันอลหม่านส่วนพิธีกรหัวส้มก็สั่งให้ออร์คไปคุ้มกันราเอล ตอนนี้สมรภูมิได้ย้ายไปยังเวทีประมูลแล้วทำให้ลูกหลงน้อยลง เมื่อได้จังหวะเลย์ตันจึงยิงปืนระเบิดเพดานทันที จุดที่ร้าวอยู่แล้วก็ระเบิดออกเศษดินร่วงลงมาก่องใหญ่ทำให้เลย์ตันต้องยิงสกัดอีกหลายนัด เพดานถูกทำลายลงแสงจากดวงจัทราก็ได้สาดส่องไปทั่วห้อง ตอนนี้ดักแด้หัวขาวของเราพร้อมที่จะโบยบินแล้ว 

    ทันทีที่ริสถูกแสงจันทร์ไอเวทมหาสารก็พวยพุ่งออกมาจากตัวเธอ แสงสีขาวเรืองรองส่องสว่างไปทั่วห้องเสียงแตกหักของบางอย่างดังระงมก่อนจะระเบิดออก ตอนนี้เวทเซบันที่พันตัวริสได้แตกกระจุย เพียงเธอสะบัดมือเบาๆเวทเซบันที่พันตัวนักเวทคนอื่นก็แตกสลายไปด้วยเช่นกัน ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของคนในห้อง โพลาริส เด็กหญิงผมขาวได้ยืนขึ้นอย่างองอาจก่อนจะปรายตาไปยังเวทีประมูลแล้วขยับยิ้มนิดๆแววตาเปล่งประกายเหมือนเด็กน้อยเจอของเล่นชิ้นใหม่ที่น่าสนใจ กว่าใครจะห้ามทันเด็กหญิงผมขาวก็กระโจนไปยังเวทีประมูลทันที

     

    ผลจากเวทเซบันถูกทำลายทำให้พลังบางส่วนสะท้องกลับไปยังผู้ร่าย ราเอลกระอักเลือดกองใหญ่ใบหน้าบิดเบี้ยวก่อนจะล้มลงกับพื้นทำให้ออตโต้รีบวิ่งมาดูอาการนายของตนทันที

    "คุณราเอล! เป็นอย่างไรบ้างครับ"

    "เวทเซบัน...ถูกทำลายงั้นหรือ เป็นไปไม่ได้น่า อึก"

    "คุณราเอลพักก่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง"

    ออตโต้ลุกขึ้นพร้อมกับสั่งออร์คให้โจมตีสาวผมขาว ออร์คนับสิบพุ่งไปยังสาวผมขาวทันทีแต่เธอกลับกระโดดหลบได้อย่างพลิ้วไหว จากนั้นเธอจึงยิบแท่งเหล็กจากพื้นขึ้นมากำไว้ แท่งเหล็กกลายสภาพเป็นดาบสั้นแล้วเธอก็เข้าฟาดฟันเหล่าออร์คทันที ไม่นานออร์คตัวใหญ่นับสิบก็กลายเป็นแค่เศษเนื้อเละๆกองเกลื่อนเต็มพื้น

    "บ้าน่า! นี่มันปีศาจหรือไง"

    ออตโต้สถบอย่างหัวเสียก่อนจะร่ายเวทอัญเชิญเพื่อเรียกปีศาจมาช่วยต่อสู่ วงเวทอัญเชิญเรืองแสงขึ้นก่อนจะดับลงพร้อมการปรากฏตัวของสัตว์อสูรที่มีลำตัวคล้ายสิงโตแต่มีใบหน้าเหมือนมนุษย์ มันเข้าจู่โจมหญิงผมขาวทันที สิ่งมีชีวิตทั้งสองต่อสู้กันอย่างสูสีเป็นโอกาสให้ออตโต้พาราเอลออกไปจากบริเวณนี้ได้ง่าย

    "คิดจะหนีหรอ!"

    เวทสายฟ้าถูกซัดมาขวางหน้าชายหนุ่มทันสองทำให้ออตโต้ผงะถอยหลังไปหลายก้าว แต่เด็กผมขาวไม่รอช้าซัดเวทสังหารหลายบทเข้าใส่อย่างไม่ยั้งมือ ทำให้ราเอลต้องเค้นพลังมาปัดป้องเวทของริสส่วนออตโต้ก็เตรียมอัญเชิญสัตว์อสูรตัวใหม่ออกมา

    "หะ หัวหน้าแย่แล้วครับ พวกทหารมันกำลังจะมาที่นี่ครับ"

    ลูกน้องคนหนึ่งวิ่งหน้าตื่นเข้ามารายงานสถานการณ์ด้านนอกแต่พอพูดจบเขาก็โดนลูกหลงสายหนึ่งตกใส่ เลือกสดๆสาดกระเซ็นไปทั่ว

    "บ้าเอ้ย ทหารหรอ"

    ออตโต้สถบอย่างหัวเสียก่อนจะรวบรวมเวททั้งหมดเพื่ออัญเชิญกริฟฟินกับคิไมร่าออกมา ทันทีที่สัตว์อสูรทั้งสองถูกอัญเชิญออกมา เจ้าคิไมร่ามันก็เข้าโจมตีริสทันที เมื่อริสหันไปตบตีกับคิไมร่าทำให้คลาดสายตาจากราเอล เป็นจังหวะให้ออตโต้พาราเอลขึ้นหลังกริฟฟินแล้วบินหนีไป

    "อย่าหนีนะ!"

    ริสพยายามร่ายเวทสอยกริฟฟินลงจากฟ้าแต่ก็โดนคิไมร่าขวางไว้ได้

    "โถ่เว้ย! น่ารำคาญโว้ย"

    ริสร่ายเวทอย่างว่องไว ลูกบอลเวทสีขาวหลายลูกจะพุ่งไปถล่มคิไมร่าจนมันกลายเป็นคิไมร่าย่างสุกพร้อมกิน ส่วนสัตว์อสูรที่สู้กับหญิงผมขาวตอนนี้ก็กลายเป็นชิ้นเนื้อแล่บางๆพร้อมโยนลงหม้อสุกี้ไปแล้ว

    "เหลือแค่เราสองคนสินะ"

    ริสมองไปยังหญิงผมขาวที่ยืนอย่างองอาจท่ามกลางทะเลเลือด พริบตาทั้งสองก็พุ่งเข้าห้ำหั่นกันทันที ผมที่มองดูอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆก็ได้แต่สวดมนต์ในใจ หลายคนเริ่มพนมมือสวดมนต์ตามผมไป สิ่งมีชีติวผมขาวที่แสนดุร้ายสองคนสู้กัน แล้วสิ่งมีชีวิตบอบบางตรงนี้จะเหลืออะไรบ้างเนี่ย ขอร้องละอย่าเลยมาทางนี้เลย

    คนหนึ่งบ้าคลั้งและอีกคนหนึ่งบ้าพลัง ลานประหารก็ถล่มมาแล้วถ้าจะถล่มเพิ่มอีกสักที่จะเป็นไร

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×