คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : หนีคนสวยมาเจอความซวย
"นี่ๆเบนจี้ นายเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับขุมพลังแห่งธรรมาติไหม มันวิเศษไปเลยนะเขาว่ากันว่าใครได้ครอบครองพลังแห่งดวงดาวจะสามารถขอพรวิเศษได้ด้วยนะ...ฟังอยู่หรือเปล่าเนี่ย"
"เฮ้ยเบนวิค!"
ผมกำลังๆเคลื่อมๆด้วยเสียงหวานใส แต่แล้วผมก็ต้องสะดุ่งด้วยเสียงตะคอกของใครบางคน
"หะๆ ฟังอยู่นะ แต่ช่วยเล่าใหม่ซักรอบได้ไหม"
"นายมีสมาธิหน่อยสิ มัวแต่เหม่ออยู่ได้"
"เปล่าเหม่อนะ ฟังไม่ทันตางหาก"
"ยังจะเถียงอีกนะ!"
"นี่ๆทั้งสองคนหิวกันหรือยัง เดี๋ยวข้าไปทำกับข้าวให้นะ"
"เสบียงใกล้หมดแล้วนี่หน่า เดี๋ยวข้ากับเบนวิคไปตกปลามาให้นะ มาเร็วเบนวิค"
"เอะ รอด้วยสิเอ็ด..."
ตู้ม!
"แค้กๆ อะไรวะเนี่ย"
ของเหลวเย็นกระทบหน้าผมอย่างจัง ทำเอาผมตื่นจากฝันทันที
"ก็เรียกเท่าไหร่เบนวิคก็ไม่ตื่นนี่"
บนมือริสมีน้ำลูกกลมๆลอยอยู่ คาดว่าคงเป็นเวทที่เธอเสกมาแหละ แล้วถ้าผมยังทำมึนอยู่คงได้โดนอีกดอกแน่
"ครับๆตื่นแล้วครับ"
ผมบิดชายเสื้อกที่เปียกแล้วจามไปหนึ่งที จากเวทน้ำกลายเป็นเวทไฟแล้วก็ซัดมาทางผมเต็มๆ
"แว้กร้อน!"
ถึงเสื้อจะแห้งแต่ผิวก็ไหม้เป็นรอยแดงเต็มไปหมด
"นี่ช่วยให้เสื้อแห้งแล้วนะ ไม่ขอบคุณกันซักคำ"
พร้อมขยับมือเตรียมซัดเวทอีกบท
"ครับๆ ขอบคุณครับ"
ริสยิ้มอย่างพอใจก่อนจะเดินออกไปนอกห้องผมจึงเดินตามไป
"พวกลูกเรือบอกว่าจะถึงฝั่งในอีกสองชั่วโมงนะ"
"แล้วได้ถามหรือเปล่าว่าเรือจะจอดที่เมืองไหน"
"โลวแลนด์"
ริสตอบผลางรีบวิ่งเข้าไปในห้องอาหาร เธอหยิบขนมปังมากินอย่างเอร็ดอร่อยส่วนผมก็....ไส้กรอกกับซุปผัก
"เบนวิคชอบกินไส้กรอกหรอ"
ไม่พูดเปล่าจ้องไส้กรอกผมแบบถ้าไม่แบ่งคือมีเรื่องแน่นอน ผมจึงแบบไส้กรอกให้ริสสองชิ้น เธอยิ้มตาหยีให้ หลายคนคงเห็นภาพตรงหน้ามีโมเม้นพี่น้องใส่ๆแต่ความจริง....ไม่พูดดีกว่าเดี๋ยวเจ็บตัวอีก
"เก็บกดจากตอนเด็กๆน่ะ พอโตก็เลยอยากกินแต่ไส้กรอก"
"แปลกคนจริงๆ"
"ฮ้าๆๆ"
ผมหัวเราะแห้งๆ พอกินอิ่มแล้วผมจึงขึ้นไปรับลมบนดาดฟ้าเรือ บนผิวน้ำมีหมอกจางๆปกคลุมอยู่ทำให้รู้ว่าใกล้ถึงโลวแลนด์แล้ว
"โลวแลนด์เป็นเมืองแบบไหนหรอ"
ริสเดินมายิน ข้างๆผม บนมือมีแอปเปิลอยู่ลูกหนึ่ง กินจุสุดๆเลยเว้ย
"เป็นเมืองปากอ่าวที่อยู่ด้านล่างภูเขาไฟ ทำให้ภูมิประเทศมีลักษณะเป็นพื้นราบชันเข้าหาทะเล เมื่อก่อนเมืองนี้เป็นที่อยู่ของนักวิจัยและมีการพัฒนาของวิทยาการต่างๆมากมาย จนหระทั้งเกิดเหตุภูเขาไฟระเบิดมีประชากรตายจำนวนมาก วิทยาการบางอย่างก็หายไป นักวิจัยที่รอดชีวิตก็อพยพไปเมืองหลวงหมดแล้ว ถึงจะฟื้นฟูเมืองได้เกือบครึ่งแต่ก็เป็นเมืองที่ไม่น่าไปอยู่ดี"
"ทำไมหรอ"
"ก็ส่วนที่ยังไม่ได้ฟื้นฟูจะเป็นที่กบด่านชั้นดีของพวกนอกกฎหมาย พวกค้าทาสเอย โจรเอย ถ้าโชคดีเราจะไม่เจอล่ะนะ"
"งั้นแกก็คงโชคร้ายแล้วหวะ"
ทันทีที่ผมพูดจบลูกเรือคนหนึ่งก็พูดแทรกขึ้นมาพร้อมหันกระบอกปืนมาทางผม แต่ยังไม่ทันจะทำอะไรเวทสีขาวสายหนึ่งก็พุ่งไปอัดเข้ากลางตัวลูกเรือคนนั้น ส่งให้เขาปลิวตกเรือไป
"นี่มันอะไรเนี่ย!"
ลูกเรือหลายสิบคนวิ่งมาทางพวกผมพร้อมอาวุธครบมือ อื้อหือ โซ่แซ่กุญแจมือ เอาซะไม่รู้เลย
"พวกนี้เป็นนักล่าทาส!"
"หา! นี่เบนวิคพาหนูขึ้นเรืออะไรเนี่ย"
ริสชักหน้าเครียด ส่วนผมลงไปนั่งมืดมนอยู่ในหลุมดำแล้ว หนีทหารเจอเจ้าหนี้หนีเจ้าหนี้เจอนักล่า ให้มันได้อย่างนี้สิชีวิตมีสีสันสุดๆ
พวกนักล่าไม่ต้องการให้ผมทำใจนานจึงเปิดฉากโจมตีคนดวงซวยทั้งสอง
"หึ"
ตู้ม!
ริสทำเสียงขึ้นจมูกก่อนจะร่ายเวทน้ำบทใหญ่ซัดพวกนักล่าลอยลงไปเล่นน้ำเย็นในทะเลได้หลายคน
"ระวังด้วยเด็กนั้นเป็นนักเวท!"
ลูกเรืออีกหลายคนวิ่งขึ้นมาสมทบ บางคนใช้เวทได้ก็ซัดกันไปพวกที่ใช้ไม่ได้ก็... ก็วิ่งไล่กวดผมนี่ไง!
"โว้ย!หยุดตามผมซักที"
"แกนั้นแหละหยุดไอขี้ขลาดตาขาว!"
"ตาสีเงินเฟ้ย ขาวบ้านเมียพ่อแกสิ!"
ตาผมน่ะออกจะสีเหมือนไข่มุกสีเงิน เงางามมีเสน่ย์(?)
ปั่งๆๆ
"เหวอ"
ผมรีบก้มหลบกระสุนปืนที่พวกนักล่ายิงมาทันที นั้นเป็นโอกาสให้พวกใช้ดาบคนหนึ่งเข้ามาประชิดตัวผม ผมรีบพลิกตัวแล้วต่อยท้องไปแรงๆหนึ่งทีก่อนจะหมุนตัวเตะซ้ำจนนักล่าคนนั้นล้มลง ผมสบโอกาสได้จึงแย่งดาบมาอยู่ในมือจากนั้นจึงวิ่งหนีต่อ
"ป๊อดนี่หว่าไอตาขาว!"
"ที่ถอยน่ะไม่ได้กลัว แบบว่าถอยมาตั้งตัวเฟ้ย"
พูดจบก็หันกลับไปเตะถังเปล่าใบหนึ่งที่กลิ่งมาพอดี ถังใบนั้นลอยไปอัดเต็มหน้านักล่าอีกคนจนหงายหลัง ส่วนดาบในมือก็ปาไปปักกระบานนักล่าอีกคนที่วิ่งตามกันมา
"ไม่เบานี่เบนวิค"
ริสยิ้มขำพลางท่องเวทอีกหลายบท เวทสังหารคนกริบพุ่งเข้าใส่พวกนักล่าอยางจังๆทำให้หลายคนลงไปนอนเหน็บกับพื้น จากพื้นเรือสีน้ำตาลตอนนี้กลายเป็นสีแดงจากเลือดของพวกนักล่า ตอนนี้หลายคนเริ่มถอยห่างจากริสเพราะรู้ว่าเข้าไปได้ตายแน่นอน
"จมเรือเลยแล้วกัน"
ริสขยับยิ้มชั่วร้ายก่อนจะร่ายเวทลูกใหญ่ สายเวทสีขาวงดงามหมุนวนบนมือเด็กผมขาว ถึงจะดูสวยแต่มันก็ปล่อยจิตสังหารออกมาอย่างน่ากลัว ทำให้พวกที่ไล่ตามผมหันมามองริสทันที พวกนักล่าแต่ละคนต่างหน้าซีดไปตามๆกัน
"คงให้ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกนะคุณหนู"
เสียงใครคนหนึ่งพูดแทรกขึ้นก่อนจะมีแสงสีม่วงปรากฏขึ้นกลางดาดฟ้าเรือ ลักษณะมันเหมือนวงเวทอะไรซักอย่างแต่มันทำให้พวกนักล่าแสยะยิ้มน่ากลัวออกมาทุกคน วงเวทสีม่วงส่องแสงสว่างจ้าก่อนเวทในมือริสจะถูกดูดเข้าไปในวงเวทนั้นจนหมด
"นี่มันอะไรเนี่ย!"
ริสชักหน้าเครียด ตอนแรกเธอคิดว่าซัดกันบนเรือยังไงเธอก็ได้เปรียบแค่ซัดเวทไฟเผาเรือซะ หรือใช้เวทระเบิดเรือก็รอดแล้ว
"เบนวิค นี่มันเวทอะไร"
จากหน้าเครียดเป็นหน้าซีด เด็กสาวช็อคกับเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างมากเพราะตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยมีใครหรือสิ่งใดดูดพลังเวทเธอไปได้ ตอนนี้ถ้าบอกว่าเด็กสาวตรงหน้าเป็นตุ๊กตากระดาษก็เชื่อแล้ว หน้าซีดกว่าสีผมอีก ผมเห็นท่าไม่ดีจึงรีบวิ่งไปหาริส
เปรี้ยง!
"อั้ก"
"เบนวิค!"
แส้เส้นหนึ่งฟาดเข้ากลางตัวผมเต็มๆทำให้ผมกระเด็นไปชนกับเสากระโดงเรืออย่างแรง ผมเจ็บแปลบไปทั่วตัวจนยืนไม่ไหว ริสตะโกนอย่างตกใจ เธอทำท่าจะวิ่งมาหาผมแต่ต้องโดดหลบแส้ที่ฝาดลงมาเฉี่ยวหน้าเธอไปนิดหนึ่ง ริสมองตามแส้เส้นนั้นไปจนได้เห็นหน้าเจ้าของแส้ ไอเจ้าของแส้กระโดดลงมาจากดาดฟ้าเรือชั้นสองก่อนจะจ้องมองริสอย่างสนใจ
"นายเป็นใคร"
ริสจ้องบุรุษร่างสูงโปร่ง นัยน์ตาสีอเมทิส ผมสีดำที่ยาวเลยเอวผูกเปียไว้อย่างหลวมๆ ในมือถือแส้สีดำทมิฬซึ่งมันได้ปล่อยไอเวทและจิตสังหารออกมาจางๆ ทำให้รู้ว่าแซ่นั้นมีพลังเวทเข้มข้นไหลเวียนอยู่ มิน่าละโดนไปดอกเดียวถึงกับเกือบตาย เห็นนั่งนิ่งๆนี่แต่ซี่โครงหักไปกี่ท่อนแล้วก็ไม่รู้ เจ็บโว้ย
"ข้าก็เป็นนักล่าทาสอย่างที่คนตาขาวบอกนั้นแหละ"
ชายผมดำยิ้มอ่อนอย่างสุภาพ แต่นั้นทำให้หัวคิ้วริสขมวดเป็นโบทันที
"อย่ากวนตีนเด็กเค้าสิราเอล เด็กนั่นไม่ชอบถูกขัดใจนะ"
ผมค่อยๆยันตัวขึ้นจากพื้นแต่ก็ต้องรีบทิ้งตัวกลับไปนั่งทันที ทำให้แส้ฟาดมาเฉี่ยวปอยผมไปนิดนึง
"นายนี่ชอบสอดรู้สอดเห็นอยู่เรื่อยเลยนะไอตาขาว"
"สีเงินเฟ้ย อั้ก!"
ราเอลฟาดแส่สีดำพร้อมไอเวทเข้มข้นตวัดเข้าใส่ตัวผมอย่าแรง ผมไอเอาเลือดออกมาหลายทีส่วนรอยแผลที่โดนแส้ฟาดก็มีเลือดไหลออกมาอย่างน่ากลัว ราเอลทำท่าจะฟาดแส่อีกครั้งทำให้ริสหันไปท่องเวทอย่างรวดเร็ว
"อย่าใช้เวทนะริส!"
ผมกัดฟันข่มความเจ็บปวดก่อนจะรีบตะโกนบอกริสแต่ดูเหมือนจะไม่ทันเสียแล้ว วงเวทสีม่วงสว่างวาบอีกครั้งก่อนจะมีรยางค์สีดำจำนวนมากพุ่งขึ้นมาจากวงเวท รยางค์พวกนั้นพุ่งขึ้นไปมัดตัวเด็กสาว มันเคลื่อนที่ได้ไวกว่าเจ้าตัวจะขยับหนีเสียอีกทำให้ตอนนี้ริสมีสภาพเหมือนดักแด้สีดำที่มีใบหน้าและผมสีขาวโผล่ออกมาแค่นั้น รยางค์เหล่านั้นเปล่งแสงออกมา ทันใดนั้นริสก็ทรุดฮวบลงกับพื้นก่อนจะสลบไป ราเอลแสยะยิ้มเย็นอย่างพอใจก่อนจะปรายตามามองสภาพผ้าขี้ริ้วของหนุ่มผมน้ำตาล นัยน์ตาสีขาว เอ้ย สีมุกเงิน
"ไม่คิดว่าจะได้เจอนายเลยนะเบนวิค แถมนายตั้งใจขึ้นเรือข้ามาเสียด้วย มีแผนอะไรมาอีกล่ะ"
"ถ้าจะบอกว่าหนีเจ้าหนี้แล้วดันมาขึ้นเรือนาย นายจะเชื่อผมไหม"
ผมค่อยๆยันตัวขึ้นอีกครั้งแล้วจึงยืนพิงเสากระโดงเรืออย่างหมดแรง เจ็บแผลโว้ย ราเอลพยักหน้าน้อยๆ
"ไม่รู้สิ แต่นายก็ทั้งโง่ทั้งง่อยถ้าไม่มีพรรคพวกล่ะก็นายก็ไม่ต่างจากลูกแมวหรอกนะ"
อื้อหือจุกๆเลยครับ
"แล้วพรรคพวกคนอื่นๆของนายล่ะ"
"ตายหมดแล้ว ไม่งั้นเจ้าพวกนั้นไม่ปล่อยให้ผมมาคนเดียวหรอก"
"เห เพื่อนตายหรอเนี่ยเสียดายจังนึกว่าจะได้เงินมากกว่านี้แท้ๆ"
"หมายความว่ายังไง"
"ก็ข้าจะส่งตัวเจ้าให้กองทัพน่ะ ส่วนไอเด็กนั้นคงขายได้ราคาดี"
ลูกน้องราเอลคนหนึ่งวิ่งมาอุ้มริสลงไปชั้นล่างและยังมีอีกสองสามคนเดินมาพร้อมกุญแจมือ
"น่าๆ เจ็บหนักขนาดนี่ผมไม่มีแรงไปต่อยตีกับใครแล้วน่า เพราะงั้นช่วยอุ้มผมลงไปด้วยคนได้เปล่า"
ผมกระพริบตาปิ๊งๆเรียกร้องความเห็นใจสักหน่อยแต่ดูเหมือนที่ได้มาจะตรงข้าม ตีนล้วนๆของคนผมดำเตะอัดเข้ากลางท้องผมอย่างจัง ทำให้ผมลงไปนอนตัวงออยู่บนพื้น
"ลากมันลงไป ขังกรงเดียวกันกับไอเด็กนั้นแหละ"
"หะ โหดร้าย นี่อุตส่าห์ยอมให้จับดีๆแล้วนะ"
รู้งี้โดดน้ำหนีดีกว่า ราเอลไหวไหล่อย่างยียวนก่อนจะมีลูกน้องสองคนมาลากผมลงไป
"เฮ้ย! นี่คนนะไม่ใช้ผ้าขี้ริ้วเช็ดเรือ"
"แล้วสภาพแกตอนนี้ต่างจากผ้าขี้ริ้วตรงไหนไม่ทราบ"
ราเอลหันมาตะหวาดใส่ผม
เออ ก็....ไม่ ยับเยินกว่าเสียอีก ผมจึงได้แต่ทำใจและยอมให้ลากลงไปเก็บ(?)อย่างว่าง่าย
ความคิดเห็น