ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [อยู่ระหว่างการรีไรต์ค่ะ] When I became a Mermaid เมื่อโชคชะตาเล่นตลกผลักฉันตกทะเลมาเป็นเงือก!

    ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 6 : ชิดใกล้

    • อัปเดตล่าสุด 2 ม.ค. 66


    บทที่ 6 ชิดใกล้

    “เจ้ากลับมาหาข้าแล้วเหรอ...เซล่า” เสียงเย็นเนิบที่ข้างหูกระตุกสัญชาตญาณที่เคยคิดว่าหายไปนานแล้วของฉันให้กลับมา

    ฉันเป็นโรคขี้ตกใจ...โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในความมืด

    “กรี๊ดดดดดดดดด!”

     

    ปึง!

    ระหว่างที่ฉันกำลังช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนไม่ทันได้หันไปดูข้างหลัง ประตูห้องก็ถูกเปิดออกอย่างแรง ปรากฏให้เห็นร่างของเงือกหลายตนยืนกรูกันอยู่หน้าห้อง

    “...”

    “...”

    ฉันเงียบ...สิ่งที่ (?) กอดฉันอยู่เงียบ...ฝูงเงือกซึ่งกองกันอยู่หน้าห้องนั่นก็เงียบ

    จนกระทั่งคนที่ฉันตั้งใจจะมาหาปรากฏตัวขึ้น

    ซามูเอล!

    ซามูเอลมองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นฉันทั้งที่สวมฮู้ดคลุมหัวอยู่ เขารีบว่ายเข้ามาหาแล้วช่วยดึงฉันออกไปทันที “เจ้าทำอะไรนาง...ซามาเอล

    อ๋ออ ที่แท้คนที่กอดฉันอยู่เมื่อกี้ก็คือพี่ชายฝาแฝดของซามูเอลนี่เอง ค่อยยังชั่วที่ไม่ใช่ผี

    แต่ทำไมเขาถึงมากอดฉันได้ล่ะ?

    “อ้าว ๆ ข้าก็นึกว่าท่านพี่ชอบโรเซล่าเพื่อนข้าอยู่เสียอีก มันยังไงกันแน่น้า~” โซลาเนียน้องสาวของซามาเอลพูดแซวพี่ชายด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ

    “เอ๊ย มันไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดนะ!” เขาปฏิเสธทันควันก่อนจะหันมาหาฉัน โค้งศีรษะลงเล็กน้อยแสดงความเคารพแล้วจึงเริ่มอธิบาย “ขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะองค์หญิง ข้านึกว่าท่านคือเซล่าเพื่อนข้าเลยกะจะแกล้งให้ตกใจเล่น แต่กลับกลายเป็นท่านไปเสียได้ ข้าต้องขออภัยเป็นอย่างสูง”

    อย่างนี้นี่เอง...มิน่าตอนนั้นถึงเรียกฉันว่าเซล่า

    จากความทรงจำของเซเรน่า เซล่าหรือโรเซล่าเป็นองค์หญิงแห่งอาณาจักรเครสต้า เธอคือน้องสาวของตาองค์ชายเซนคนนั้น และดูเหมือนจะหนุงหนิงอยู่กับซามาเอล (ตามคำบอกเล่าของโซลาเนีย) เนื่องจากอาณาจักรของพวกเราอยู่ไม่ไกลกันมากจึงค่อนข้างมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ทำให้เซล่าซึ่งเป็นองค์หญิงจอมซนหนีออกจากบ้านมาแอบอยู่ที่เซเรเนียเป็นครั้งคราว แต่ถึงจะเรียกว่าแอบการกระทำของเธอก็อยู่ในสายตาของเซเรน่าตลอด เธอรู้สึกว่าเด็กสาวช่างน่าเอ็นดู ความสดใสนั้นราวกับกำลังมองแสงจากดวงอาทิตย์ ซึ่งแสงนั้นก็ทำให้เซเรน่าผู้ตั้งกำแพงครอบตัวเองไว้รู้สึกอยากเข้าใกล้ ทว่าดูเหมือนเธอจะไม่เก่งด้านการผูกมิตรไม่ว่ากับใครเลยจริง ๆ ทำให้ถึงจะได้เจอกันบ่อยก็ไม่ได้สนิทกันมากเท่าที่ควร

    จริงสิ! พอมานึกดูแล้วเงือกที่มาตามเซล่ากลับอาณาจักรทุกครั้งก็คือบาโรนอฟนี่นา แต่อาจจะเพราะไม่เคยคุยกันจริงจังอีกทั้งพักหลังมานี้เขายังหายหน้าหายตาไป เซเรน่าก็เลยลืมไปล่ะมั้ง

    อ่า...แต่ตอนนี้ต้องโฟกัสเหตุการณ์ตรงหน้านี่ก่อนสินะ เซเรียยัยคนขี้ตกใจไม่เข้าเรื่องเอ๊ย ทำเรื่องน่าอายต่อหน้าครอบครัวซามูเอลซะได้ เฮ้อ

    “ไม่เป็นไรค่ะเราเองก็ตกใจมากเกินไป ขอโทษทุกคนที่ทำให้วุ่นวายกันนะคะ”

    “งั้นก็แล้วไป ว่าแต่เจ้าล่ะ...ทำไมถึงมาอยู่ในห้องของซามาเอลได้” อ๊ะ! ใช่แล้ว ฉันตั้งใจจะมาเซอร์ไพรส์ซามูเอลนี่นาแต่ดันกลายเป็นแบบนี้ไปซะได้ แง

    “เอ่อ...คือเราตั้งใจจะมาหาซามูนั่นแหละ แต่ไม่รู้ว่าอยู่ห้องไหนก็เลยลองเสี่ยงเข้าห้องนี้ดู ขอโทษที่ไม่ได้ถามก่อนนะคะท่านซามาเอล ขอโทษทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ”

    “ไม่ต้องขอโทษข้าหรอก ข้าต่างหากที่ไม่ดูตาม้าตาเรือ--”

    “แล้วนี่องครักษ์ของเจ้าไปไหนซะล่ะ” ซามูเอลถามแทรกขึ้นมาโดยไม่รอให้ซามาเอลพูดจบ ดูเหมือนเขาจะอารมณ์ไม่ค่อยดีอยู่นะ แล้วถ้ารู้ว่าฉันหนีออกมาจะไม่ยิ่งโกรธเหรอ กลัวโดนดุชะมัดเลย

    “คือว่า...ไม่มีหรอกค่ะ เราออกมาคนเดียว” รู้สึกได้เลยว่าขณะที่พูดเสียงฉันมันเบาลงเรื่อย ๆ ก็แหมบรรดาพี่น้องเขาก็ยังยืนอยู่ตรงนี้เลยนะ อย่างน้อยก็ไปคุยกันสองคนไม่ได้เหรอ ฮือออ

    “หา!?” ซามูเอลอุทานเสียงดัง ฟังจากเสียงแล้วคงจะโกรธฉันมากอย่างที่คิด “เจ้าคิดอะไรอยู่เนี่ย! ไม่รู้หรือไงว่าการที่รัชทายาทอย่างเจ้าออกมานอกวังโดยปราศจากผู้คุ้มกันมันอันตรายขนาดไหน”

    “ใจเย็นก่อน ซามูเอล” น้ำเสียงทรงพลังของซเวน่าพี่สาวคนโตของบ้านดังขึ้นปรามน้องชาย ก่อนจะตวัดสายตาคมดุจใบมีดมามองที่ฉันแล้วพูดต่อ “ข้าขอคุยกับนาง...สักประเดี๋ยว”

     

    ...

    .....

    เดธแอร์มันเป็นอย่างนี้นี่เองสินะ

    นี่ฉันกับคุณพี่ซเวน่าก็นั่งเงียบกันมาพักใหญ่แล้วนะ หลังจากที่พี่เขาขอคุยกับฉันสองคนแล้วพามาที่ห้องรับรองนี่ นางก็นั่งซดชาไม่พูดไม่จาอะไรเลย ส่วนฉันก็ได้แต่นั่งเงียบเพราะไม่รู้จะเริ่มต้นพูดยังไง ปกติแล้วคนที่เรียกมาคุยต้องเป็นฝ่ายพูดก่อนนี่นา หรือพี่เขาอยากให้ฉันเป็นฝ่ายสารภาพออกมาก่อนรึเปล่านะ แต่คนที่มีชนักใหญ่เท่าบ้านอย่างการการแอบปีนกำแพงเข้าอาณาจักรคนอื่นมาแบบฉันติดอยู่ที่หลังรู้สึกเหมือนไม่ว่าจะพูดอะไรก็ต้องโดนฆ่าแน่ ๆ เลยง่า~

    “ดื่มสิ” ขณะที่กำลังวิตกกังวลอยู่พี่ซเวน่าก็พูดขึ้นมาในที่สุด

    “...คะ?”

    “ชานั่นน่ะ ไม่ดื่มเหรอ” พี่ซเวน่าพูดพลางปรายตามองไปที่ถ้วยชาตรงหน้าฉัน

    “อ๊ะ ดื่มค่ะดื่ม” ว่าแล้วฉันก็ยกชาขึ้นดื่ม ถึงจริง ๆ จะยังขยาดกับถ้วยชาอยู่ก็เถอะ หืม...ถึงหน้าตาจะดูน่ากลัวแต่รสชาติอร่อยใช้ได้เลยนี่นา “นี่ชาอะไรเหรอคะ อร่อยจังเลย”

    “ชาผสมทองคำน่ะ”

    “!?” ทองคำ...ปกติแล้วไม่น่าจะเป็นสิ่งที่เอามาดื่มเล่นได้นี่นา แต่เพราะเป็นอาณาจักรราซเบียถึงทำได้กระมัง

    “ตกใจอะไรขนาดนั้น ชาทองคำมีสรรพคุณดีนะ ดื่มเข้าไปเยอะ ๆ เถอะ”

    “อา...ค่ะ” พี่ซเวน่าซดอย่างกับน้ำเปล่าขนาดนั้น คงจะมีสรรพคุณ​ดีจริงนั่นแหละ​

    อึกๆๆ~

    “เจ้าปีนกำแพงเข้ามาเหรอ”

    พรูด!

    “แค่ก ๆๆ” คำถามของพี่ซเวน่าทำเอาฉันสำลักน้ำชาอย่างแรง ดีนะที่รอบข้างเป็นน้ำไม่งั้นฉันคงได้พ่นน้ำชาที่กินไปเมื่อกี้ใส่หน้าพี่เขาแน่ “ท่านพี่...รู้ด้วยหรือคะ”

    “ข้าเป็นผู้ปกครองอาณาจักรแห่งนี้นะ ใครเข้าออกอาณาจักรข้าต้องรู้อยู่แล้ว ถ้าไม่รู้...ก็แปลว่าไม่ได้ผ่านด่านเข้ามา” สายตาคมเฉียบที่ตวัดมองทำเอาฉันเสียวสันหลังวาบ น่ากลัวจัง

    “...”

    “ว่าไง เจ้าปีนกำแพงเข้าใช่ไหม”

    “ใช่...ใช่ค่ะ” พอตอบไปแบบนั้นฉันก็ได้แต่ก้มหน้างุด เพราะกลัวสายตาที่มองเหมือนจะเด็ดหัวฉันไปจิ้มทองคำกินแบบนั้นของพี่เขามากกก กลัวแล้วค่าา ฮื่อออ~

    “รู้ใช่ไหมว่ามันผิดกฎหมาย”

    “...ค่ะ”

    “คนที่ทำผิดกฎหมายไม่ว่าจะมียศถาบรรดาศักดิ์มาจากไหนก็ต้องได้รับบทลงโทษ...”

    “...ค่ะ”

    “เพราะฉะนั้น...”

    “...”

    “จงยินยอมรับการหมั้นหมายกับน้องชายของข้าเสีย”

    “ค่ะ...ห้ะ!?”

    “เดี๋ยวสิ!” ในขณะที่ฉันยังกำลังช็อกอยู่ เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นจากด้านหลังพร้อม ๆ กับเสียงเปิดประตู “ท่านพี่”

    ซามูเอลนั่นเอง...ที่แท้ก็แอบฟังอยู่หรอกเหรอเนี่ย

    “อยู่ๆ ก็ไปบอกนางแบบนั้นได้ยังไงครับ” ซามูเอลถามคุณพี่ซเวน่าพลางว่ายเข้ามาหาพวกเรา “ข้ายังไม่รู้เลยว่านาง...อยากหมั้นหรือเปล่า”

    “แล้วเจ้าอยากหมั้นไหมล่ะ” หวา~ พี่ซเวน่าถามตรงงี้เลยเหรอ

    แต่ทางนี้ก็อยากรู้อยู่เหมือนกันแฮะ เขาจะตอบว่าอะไรกันนะ

    “ท่านพี่! นี่ต่อหน้านางนะ” อ้าว ไม่ตอบแฮะ

    “ตอบ” อื้อหือ...แค่คำสั้น ๆ คำเดียวของพี่เขาทำเอาฉันต้องกลืนน้ำลายลงคอ ทั้งที่ไม่ใช่คนถูกถาม คนอะไรแผ่รังสีกดดันได้ขนาดนี้เนี่ย กลัวแล้ว~

    “...ครับ” 

    ตึกตัก~ตึกตัก ​​​​​​

    อืม ก็ดูออกอยู่แล้วล่ะนะว่าซามูเอล​ชอบเซเรน่าน่ะ แต่พอได้ยินจากปากเขาโดยตรงว่าอยากหมั้นหมายกันก็อดจะรู้สึกดีไม่ได้... แต่อีกใจก็รู้สึกกังวลเหลือเกินว่าตัวเองจะเผลอเคยชินกับความรู้สึกนี้ เพราะนี่มันไม่ใช่ร่างกายของเราเสียหน่อย คนที่ซามูเอลกำลังบอกว่าอยากแต่งงานด้วยคือเซเรน่า ฉันต้องระวังตัว...ไม่ให้ตัวตนถูกหัวใจบิดเบือนไปมากกว่านี้

    “แล้วเจ้าล่ะ” อ๊ะ! พี่ซเวน่าหันมาหาฉันเมื่อไหร่เนี่ย เหม่อนานไปรึเปล่านะ

    “ขะ...ค่ะ!”

    “ดี...งั้นตกลงตามนี้ ไว้ท่านพ่อท่านแม่ของเจ้ากลับมาเมื่อไหร่ ข้าจะไปพบพวกท่านทันที”

     

    เดธแอร์อีกแล้วจ้า~

    หลังจากพี่ซเวน่าได้ข้อสรุปตามที่ตัวเองต้องการ พี่เขาก็ฝากฝังฉันให้ซามูเอลพาไปส่งแล้วชิ่งหนีพวกเราไปอย่างไว หลังจากนั้นฉันกับเขาที่กำลังว่ายออกจากพระราชวังด้วยกันก็เงียบกันมาตลอดทางเลย

    ชวนคุยอะไรดีนะ

    “เอ่อ.../คือ...” อ้าว พูดพร้อมกันซะงั้น “ซามูพูดก่อนเลย”

    “เจ้านั่นแหละพูดก่อน”

    “อ่า...คือจริง ๆ ฉันตั้งใจจะเอาสิ่งนี้มาให้น่ะ” ว่าแล้วฉันก็ควักเอาสาหร่ายทรงเครื่อง​ย่างเสียบไม้บุบ ๆ บี้ ๆ ออกมาจากตะกร้า “แต่มันหล่นตอนเจอซามาเอล... ก็เลยดูเละ ๆ ไปหน่อย ขอโทษทีนะ”

    เพราะซามูเอลทำหน้าไม่สบอารมณ์เล็กน้อยตอนที่ฉันพูดถึงซามาเอล ฉันจึงเลี่ยงที่จะไม่พูดคำว่า ‘ในห้องของเขา’ ออกมา แล้วยื่นสาหร่ายย่างส่งให้เขาเป็นการเปลี่ยนเรื่อง ซามูเอลทำหน้างงเล็กน้อยแต่ก็ยอมรับไปแต่โดยดี “นี่คือ...”

    “คือฉันเห็นว่าโซลชอบกินสาหร่าย ก็เลยทำสาหร่ายปรุงรสย่างมาให้”

    “สาหร่ายปรุงรส...ย่างเหรอ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”

    “ใช่ ๆ ชาวใต้ทะเลอย่างพวกเราไม่ค่อยใช้ไฟทำอาหารโดยตรงกัน แต่รู้ไหมพวกมนุษย์น่ะใช้วิธีนี้กันอย่างแพร่หลายเลยนะ ฉันว่ามันอร่อยดีก็เลยทำมาให้น่ะ แต่ตอนนี้มันก็ผ่านมานานมากแล้วอาจจะไม่อร่อยแล้วก็ได้นะ” คิดแล้วก็เสียดาย...อุตส่าห์ตั้งใจจะทำมาเซอร์ไพรส์ สุดท้ายก็พังไม่เป็นท่า 

    “ไม่เอาน่า อย่าเศร้าสิ” ซามูเอลคงอ่านสีหน้าฉันออกจึงจับไหล่ข้างหนึ่งของฉันไว้แล้วพูดปลอบ “อาหารที่เจ้าทำอร่อยทุกอย่างอยู่แล้ว ถ้าไม่เชื่อข้ากินให้ดูก็ได้"

    งั่ม~

    "อ๊ะ!" ฉันกำลังจะค้านเพราะอยากกลับไปทำมาให้ใหม่ แต่ก็ไม่ทันซามูเอลกัดมันเข้าปากไปซะแล้ว

    " ยังรู้สึกถึงความร้อนอยู่บ้างนะ เอ้า...เจ้าก็ลองทานดูสิ”

    ซามูเอลยิ้มให้ฉันก่อนจะยื่นสาหร่ายไม้เดียวกันนั้นให้ฉันทาน แต่พอเห็นฉันชะงักไปเขาก็รู้สึกตัว แต่เหมือนว่าจะเข้าใจไปคนละเรื่องกับฉันเลยเพราะมือของเขาที่ถอยห่างออกไปให้ความรู้สึกอ้างว้างเหลือคณา  “อ่า อย่างนี้ก็เหมือนข้าให้อาหารเหลือกับเจ้าเลยสินะ ขอโทษด้วยนะข้าไม่ทันคิดให้ดีก่อน”

    หมับ!

    งั่ม~

    “อ๊ะ!” 

    ไวกว่าความคิด มือฉันฉวยจับมือข้างที่กำลังถือสาหร่ายย่างเสียบไม้ของซามูเอลไว้ แล้วอ้าปากงับมันอย่างรวดเร็ว

    เพราะจริง ๆ ที่ฉันชะงักไปนั่นไม่ได้คิดว่าเขาเสียมารยาทหรืออะไรเลย แต่กำลังเขินเพราะคิดว่าการที่ฉันงับสาหร่ายต่อจากเขาเนี่ยมันจะเป็นการจูบทางอ้อมหรือเปล่าเท่านั้น แถมยังหยุดคิดว่า ‘เซเรน่าจะว่าอะไรไหมนะ’ ไปอีกแวบหนึ่ง แต่ยังไม่ทันได้ข้อสรุปร่างกายของเซเรน่าก็คว้ามือเขามา ส่งสาหร่ายย่างเข้าปากเรียบร้อย

    หวังว่าเซเรน่าจะไม่โกรธฉันนะ...

    พอกัดสาหร่ายขาดแล้ว ฉันก็ถอยออกมาอยู่ที่เดิม แล้วเงยมองซามูเอลเพื่อสังเกตสีหน้าของเขา และสิ่งที่เห็นก็คือ...ใบหน้าซึ่งแดงแจ๋อย่างกับผลมะเขือเทศ แต่พอเห็นว่าฉันมองอยู่ก็ยกมือขึ้นบังแล้วเบือนหน้าไปทางอื่น “ไม่ต้องคิดมากนะ ถ้าเป็นซามูไม่ว่าเรื่องอะไรฉันก็ไม่ถือหรอก”

    “อยู่ ๆ ก็...ขี้โกงนี่นา”

    “ห้ะ...อะไรนะ ไม่ค่อยได้ยินเลย” โกหก ที่จริงฉันได้ยินชัดเจนเลยแหละ แค่อยากแกล้งเขาเล่นเฉย ๆ

    “ไม่มีอะไร” ก็เวลาเขินเขาน่ารักนี่นา อยากเข้าไปหยิกแก้มจัง งุ้ยยย~

    ปึด!

    หลังจากเกือบเผลอตัวไปเป็นรอบที่ร้อย ฉันก็หยิกแขนตัวเองเพื่อเรียกสติกลับคืนมา ไม่ได้ ๆ ฉันเป็นมัมหมี(มาจาก mommy แต่ออกเสียงให้น่ารักขึ้น ใช้เรียกแทนตัวเองสำหรับคนที่เอ็นดูอีกคนหนึ่งเหมือนลูก)เซเรน่านะ ซามูเอลเป็นลูกเขย ห้ามคิดเกินเลยเด็ดขาด! ไม่งั้นได้ชื่อว่าเป็นมัมหมีทรพีแน่!

     

    หลังจากว่ายกันมาสักพักฉันก็สังเกตเห็นเงือกตนหนึ่งกำลังนั่งเหม่อมองไปในท้องทะเลอยู่ตนเดียว เงือกซึ่งดูจากข้างหลังแล้วเหมือนซามูเอลสุด ๆ จนแทบแยกไม่ออก

    ซามาเอลนั่นเอง จะว่าไปฉันก็มีเรื่องอยากถามเขาอยู่พอดี

    “ฉันขอตัวแป๊บหนึ่งนะซามู” ฉันพูดพลางทำท่าจะว่ายออกไป แต่กลับถูกซามูเอลรั้งไว้ก่อน

    “จะไปไหนน่ะ”

    “ไปหาซามาเอล มีเรื่องจะถามเขาหน่อยน่ะ”

    “ข้าไปด้วย”

    “อะ...อื้อ ได้สิ”

    จากนั้นฉันกับซามูเอลก็ว่ายไปหาซามาเอลด้วยกัน พอซามาเอลเห็นหน้าฉันเขาก็ลุกขึ้นจากที่นั่ง โค้งตัวลงทำความเคารพก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าของเขาเหมือนซามูเอลตามประสาฝาแฝด ต่างกันก็แค่ผมที่ปรกหน้าของซามาเอลถูกเสยขึ้นในขณะที่ซามูเอลปล่อยมันตามธรรมชาติ ดูไปแล้วทรงผมของซามาเอลทำให้เขาดูเป็นคนมีความมั่นใจมาก สงสัยจังว่าถ้าพวกเขาทำทรงเดียวกันบรรยากาศจะเหมือนกันไหม

    “ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะองค์หญิง” อ่ะ เผลอจ้องนานเกินไปรึเปล่านะ

    “ไม่ต้องใช้คำราชาศัพท์กับเราก็ได้ค่ะ สำหรับครอบครัวของซามูถ้าเป็นไปได้เราก็อยากให้ช่วยคุยกับเราแบบสบาย ๆ มากกว่า”

    “อ่า...จะดีเหรอพ่ะย่ะค่ะ” ซามาเอลเปลี่ยนจากมองหน้าฉันไปมองหน้าซามูเอลแทน พอซามูเอลพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต เขาก็ถอนหายใจออกมาแล้วเหยียดหลังตรงเหมือนรอสิ่งนี้มานาน “ฮู่ว~ขอบคุณมากนะ ข้าเองก็ไม่ถนัดใช้คำศัพท์ยาก ๆ พวกนั้นเหมือนกัน งั้นข้าขอเรียกเจ้าว่า...เซเรน่านะ”

    ซามาเอลพูดพลางยื่นมือมาข้างหน้า นี่มัน! เหมือนการจับมือทักทายของโลกฉันในอนาคตเลย

    แต่พอฉันยื่นมือไปจะจับตอบ ซามาเอลที่เหลือบไปมองข้างตัวฉันกลับสะดุ้งเหมือนตกใจ แล้วเปลี่ยนไปตบมืออีกข้างของตัวเองแทน แทบยังแรงมากจนฉันตกใจ "เอ่อ! หยะ...อยู่ก็คันแขนน่ะ ฮ่า ๆๆ"

    “หระ...เหรอคะ” เพราะสงสัยฉันจึงมองตามเขาไป ซึ่งสิ่งที่อยู่ข้างตัวฉันก็คือซามูเอล แต่เขาก็เพียงแค่ส่งยิ้มมาให้ฉันเท่านั้นเองนี่นา อย่าบอกนะว่าเมื่อกี้เขาทำสายตาน่ากลัวใส่ซามาเอลเพราะไม่อยากให้จับมือเซเรน่าน่ะ

    ฮะ ๆ คงไม่ใช่หรอกมั้ง แค่จับมือเอง

    “ว่าแต่...เจ้ามีธุระอะไรกับข้าหรือเปล่า” เพราะซามาเอลพูดขึ้นมาฉันจึงละทิ้งความสงสัยแล้วหันไปคุยกับเขาต่อ

    “อ้อ เราจะมาถามถึงเรื่องเมื่อตอนนั้นน่ะค่ะ คือเราสงสัยว่าทำไมซามาเอลถึงเข้าใจว่าเราเป็นโรเซล่าเหรอคะ” ใช่ เรื่องนี้แหละที่ฉันเอะใจสงสัย แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ถามเพราะโดนพี่ซเวน่าลากไปคุย ก็ลำพังแค่เรื่องที่ฉันสวมผ้าคลุมไปโผล่ในห้องของเขา ปกติแล้วก็ต้องคิดว่าเป็นขโมยมากกว่านี่นา ไม่น่าจะทำให้เขาเข้าใจผิดได้ถึงขนาดเข้ามากอดแบบนั้น

    “อ้อ! เรื่องนั้น...คือก่อนหน้าที่เจ้าจะมาสักพักใหญ่ ๆ เซล่ามาทำธุระในห้องข้าน่ะ ข้าก็เลยนึกว่านางอาจจะลืมของไว้เลยกลับมาเอา นั่นก็เพราะนางค่อนข้างขี้หลงขี้ลืมด้วยน่ะนะ ข้าเลยกะว่าจะแกล้งให้ตกใจเล่นสักหน่อย แต่ก็กลายเป็นเจ้าที่เข้าผิดห้องเสียได้ ว่าแล้วก็ขอโทษอีกครั้งนะเซเรน่า ถึงข้าจะไม่ได้ตั้งใจแต่อย่างไรก็ถือว่าล่วงเกินเจ้าไปแล้ว ขอโทษจริง ๆ”

    “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ส่วนหนึ่งก็เป็นความผิดของเราเหมือนกัน โทษซามาเอลคนเดียวไม่ได้หรอก”

    “ขอบคุณนะ เจ้าใจดีจัง ผิดกับเซล่าลิบลับเลย” ฟังจากที่ซามาเอลพูดเขาคงจะสนิทกับโรเซล่ามากเลยนะเนี่ย ถึงขนาดเอามานินทาลับหลังแบบนี้ได้

    แต่ดูจากสีหน้าแล้วก็ไม่น่าจะไม่ชอบนี่นา

    “ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่มาบอกเราแบบนี้ถ้าเราเอาไปฟ้องเซล่าขึ้นมา ซามาเอลไม่โดนดุแย่เหรอคะ”

    ซามาเอลกะพริบตาปริบ ๆ อาจจะเพราะไม่คิดว่านิสัยชอบเก็บตัวแบบเซเรน่าจะคุยเล่นกับเขา

    "...ถ้าเช่นนั้นคงต้องรบกวนให้เจ้าไปฟ้องให้แล้วล่ะ"

     

    หลังจากคุยกันอีกสักพัก ฉันก็ลาซามาเอลกลับอาณาจักรเพราะนึกขึ้นได้ว่าทิ้งภาระไว้ให้เซียร์นานเกินไปแล้ว โดยมีซามูเอลตามมาส่งตามเดิม จนกระทั่งถึงหน้าประตูอาณาจักร

    “แน่ใจนะว่าจะไม่ให้ข้าไปส่ง”

    “อื้ม เพราะตอนออกมาฉันแอบทุกคนออกมาน่ะ กลับไปคนเดียวน่าจะสะดวกกว่า”

    “อืม...”

    “งั้นฉันกลับละนะ” ฉันหันไปบอกกับซามูเอล ก่อนจะยกฮู้ดขึ้นมาสวมไว้เหมือนตอนขามาและเตรียมจะว่ายออกไปจากตรงนี้ ทันใดนั้นเอง...

    ฟุ่บ!

    ...ฉันก็โดนซามูเอลกอดจากทางด้านหลังโดยไม่ทันตั้งตัว

    “ซะ...ซามู! ทำอะไรเนี่ย มีคนอื่นอยู่นะ” พอรู้สึกตัวว่าสถานที่ที่พวกเราอยู่ตอนนี้คือที่ไหน ฉันก็รู้สึกเขินม้วนต้วนจึงพยายามแกะมือซามูเอลออก

    “ขออยู่แบบนี้...สักพักนะ”

    "...อื้อ" พอได้ยินเขากระซิบบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง ฉันจึงเลิกความคิดที่จะผละตัวออกแล้วปล่อยให้เขากอดอยู่อย่างนั้น

    อันที่จริงฉันเริ่มคิดแล้วว่าไม่ควรจะใกล้ชิดกับเขามากเกินไป เพราะถึงร่างนี้จะเป็นร่างของเซเรน่าแต่ยังไงคนที่อยู่ข้างในนี้ก็คือฉัน คนที่รับรู้ถึงความรักอันอบอุ่นนี้ก็คือฉัน มันจึงเหมือนกับว่าฉันกำลังปลอมตัวเพื่ออยู่กับแฟนของคนอื่นไปโดยปริยาย ดังนั้นหลังจากนี้ฉันทิ้งระยะห่างจากเขาไว้หน่อยดีกว่า เพราะยังไงสองคนนี้ก็กำลังจะได้หมั้นกันอยู่แล้ว ฉันคงไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นแม่สื่ออีกแล้วล่ะมั้ง

    "ที่จริงข้าอยากจะหาโอกาสบอกเจ้าให้พิเศษกว่านี้" ซามูเอลพูดขึ้นมาในขณะที่ยังคงวางคางเกยไหล่ฉันไว้ "อยากจะบอกเจ้าด้วยตัวของข้าเองว่ารักเจ้ามากเพียงใด และมอบของขวัญที่เจ้าชอบพร้อมกับขอเจ้าแต่งงาน"

    อย่างนี้นี่เอง แต่เพราะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นจนพี่ซเวน่าเป็นคนจัดแจงเรื่องหมั้นหมายให้ เขาถึงได้รู้สึกไม่ดีสินะเพราะงั้นก็เลยพูดน้อยกว่าปกติในระหว่างทางมาส่งฉัน ซึ่งที่จริงส่วนหนึ่งมันก็เป็นความผิดของฉันเองนั่นแหละ...รู้สึกผิดจัง

    "แต่มันไม่ใช่ความผิดของเจ้าหรอกนะเซเรน"

    "ไม่ใช่ได้ยังไงล่ะ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะฉันจริง ๆ นะ" ฉันแย้งขึ้นมาพลางหันไปมองเขา ถึงได้รู้ว่าใบหน้าของพวกเราอยู่ใกล้กันมากกว่าที่คิด ฉันจึงสะดุ้งแล้วหันหน้ากลับมาที่เดิมอย่างรวดเร็วเพื่อกลบเกลื่อนเสียงหัวใจซึ่งเริ่มเต้นเร็วขึ้นทุกขณะ ซามูเอลคงมองออกว่าฉันหันหนีเพราะเขิน เขาจึงหัวเราะออกมาสั้น ๆ กระชับอ้อมกอดแน่นแฟ้นขึ้นแล้วพูดต่อ

    "เป็นข้าเองที่ชักช้าจนเวลาผ่านไปเป็นสิบปีแล้วก็ยังไม่ยอมสารภาพกับเจ้า นั่นเพราะข้ากลัวว่าเจ้าจะไม่คิดเหมือนกันกับข้า แต่มาวันนี้ตอนที่ได้ยินคำตอบรับการหมั้นจากเจ้าข้าดีใจมากจริง ๆ ขอบคุณนะ"

    "...อื้อ"

    "ถึงทีแรกข้าจะเคืองท่านพี่ที่ทำอะไรกะทันหันก็เถอะ แต่พอมานึกดูแล้วก็ดีเหมือนกันถ้าพวกเราหมั้นกันไว้ก่อนแล้วค่อยแต่งงาน" เงือกตนอื่นอย่างองค์ชายนั่นจะได้มาเข้าใกล้เจ้าไม่ได้ ซามูเอลคิดเช่นนั้นอยู่ในใจ

    "เราก็..." ฉันพูดขึ้นเสียงเบาชนิดที่ว่าตัวเองก็แทบไม่ได้ยิน และแน่นอนว่าซามูเอลก็คงไม่ได้ยิน

    "อะไรนะ" เขาถาม

    เอาไงดีล่ะหรือจะไม่พูดดีนะ แต่ซามูเอลพูดมาขนาดนั้นแล้วถ้าฉันไม่ตอบอะไรไปเขาอาจจะรู้สึกใจเสียก็ได้ โอ๊ยย เป็นไงเป็นกัน!

    ฉันผละตัวเองออกจากอ้อมกอดของซามูเอล ก่อนจะหมุนตัวมาเผชิญหน้าแล้วพุ่งเข้าสวมกอดเขาไว้แทน

    "เราเองก็ ชอบซามูมาก ๆ เลย!" ฉันซบแก้มเข้ากับอกกว้างของเขาเพื่อป้องกันไม่ให้เขาเห็นสีหน้าอันแปลกประหลาดที่ดูเหมือนดีใจแต่ก็จะร้องไห้อยู่รอมร่อ การต้องฝืนร่างกายและหัวใจเพื่อให้เป็นไปตามความคิดนี่มันยากมากจริง ๆ

    ขอโทษนะเซเรน่า นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันถึงเนื้อถึงตัวซามูเอลแบบนี้แล้ว สัญญาเลย

    ในขณะที่เงือกสาวคิดเช่นนั้น ฝ่ายซามูเอลก็กำลังปีติยินดีเป็นอย่างมาก และประหลาดใจอยู่ในทีที่ถูกเซเรน่าเป็นฝ่ายกอดแบบนี้ แต่เพราะแบบนั้นเขาถึงยิ่งดีใจสวมกอดเธอกลับไปอย่างอ่อนโยน พลางคิดแซวอยู่ในใจ

    ...ไหนว่ากลัวผู้อื่นเห็นไงเล่า

     

    ผ่านไปพักใหญ่ฉันก็แยกกับซามูเอลเพื่อเดินทางกลับอาณาจักร และไม่วายโดนเขากำชับไว้ว่าห้ามออกนอกเส้นทางหรือไว้ใจคนแปลกหน้าเป็นอันขาด พูดอย่างกับคุณแม่ของหนูน้อยหมวกแดงไม่มีผิด เขาเห็นฉันเป็นเด็กหรือยังไง ฉันไม่ใช่เด็กน้อยซะหน่อยนะ!

    วูบ

    โอ๊ะ! อยู่ ๆ ก็มีตัวอะไรไม่รู้ว่ายมาขวางหน้าฉันอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดระลอกคลื่นกระแทกตัวฉันแทบปลิว พร้อมซัดเอาสาหร่ายแถวนั้นลอยมาแปะหน้าฉันไว้ซะมองไม่เห็นทาง

    "อะไรเนี่ย"

    หลังจากแกะเอาพืชน้ำต่าง ๆ ที่ถูกพัดมาติดตัวและหัวออก ฉันก็เงยหน้าขึ้นมองตัวอะไรสักอย่างที่พุ่งมาขวางตัวนั้น แล้วก็ได้รู้ว่ามันคือฉลามสีเทาตัวใหญ่และดูคุ้น ๆ อย่างบอกไม่ถูก แต่คำถามคือมันมาขวางฉันไว้ทำไม?

    “รัชทายาทแห่งเซเรเนีย มาเร่ร่อนอะไรอยู่แถวนี้ล่ะเนี่ย” เสียงนี้มัน!?

    พอคิดได้ว่าเสียงที่คุ้นเคยนี่คล้ายเสียงของใคร ฉันก็เงยหน้าขึ้นสูงกว่าเดิมเพื่อมองคนที่นั่งอยู่บนหลังฉลามยักษ์ ในขณะที่ในใจก็ได้แต่ภาวนาให้ไม่ใช่คนที่ฉันคิด...

    “หลงทางอยู่รึไง :)”

    แต่บางที...โชคชะตาก็ไม่ค่อยเข้าข้างฉันสักเท่าไหร่

    “เซน”

    หมอนี่อีกแล้วเรอะ??

     

     

    โปรดติดตามตอนต่อไป

     

     

    รู้ไว้ใช่ว่า (เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในตอนที่ไม่มีจังหวะอธิบายจะมาบอกไว้ตรงนี้นะคะ)

    - วังของอาณาจักรราซเบียมีสมาชิกอยู่มากมาย ได้แก่ กลุ่มตระกูลขุนนาง(ผู้ปกครองใหม่)มีเพลเวียนพี่ใหญ่ ซเวน่าพี่รอง ซามาเอลซามูเอลน้องรอง และโซลาเนียน้องเล็ก ส่วนกลุ่มราชวงศ์(ผู้ปกครองเก่า)มีอาเธอร์ เอเธอร์ และเนเรนค่ะ แต่ในตอนนี้จะมีแค่ 6 ตนเท่านั้นเพราะเพลเวียนและเนเรนไม่ได้ออกมาดูนั่นเอง

    - ตอนที่ซามาเอลยื่นมือออกมานั้นไม่ได้เป็นการขอจับมืออย่างที่เซเรียคิด แต่เป็นการขอมือเพื่อจูบหลังมือเป็นการทักทายต่อชนชั้นสูงกว่าค่ะ

    Serena: อ๋าา เพราะงั้นซามูก็เลยทำหน้าดุใส่ซามาเอลไปเหรอ

    Samael: ไม่ใช่แค่นั้นนะ สายตาเหมือนจะฆ่าจะแกงกันเลยต่างหาก ข้าแค่จะทักทายเฉย ๆ เองไม่เห็นต้องหวงเลย แต่ก็นะขนาดข้าแค่จะพูดด้วยยังพูดแทรกขึ้นมาเลย ซามูเอลนี่ขี้หึงกว่าที่คิดอีกน้า--อะอ๊ากก(โดนซามูเอลลากไปเก็บ)

    - ซามาเอลนั้นมีนิสัยมั่นใจในตัวเอง รักสนุก ชอบกวนเซล่าเป็นงานอดิเรก นั่นก็เพราะเขาชอบโดนเซล่าดุนั่นเองค่ะ

    Samuel: เพราะนิสัยพรรค์นั้นแถมยังแอบสะกดรอยตามนางไปบ่อย ๆ จะโดนเกลียดข้าก็ไม่แปลกใจเลย

    Samael: ใจร้าย ข้าไม่ได้โดนเกลียดสักหน่อย!

    - เหตุผลที่เซเรียใช้คำว่า 'เรา' แทนฉันตอนสารภาพกับซามูเอลก็เพราะว่าอยากทำให้เหมือนกับว่าคำพูดนั้นถูกพูดโดยเซเรน่า ไม่ใช่คำพูดของตัวเองค่ะ

     

    ชี้แจงแถลงไข

    1. ก่อนอื่นเลยอัญขออภัยเป็นอย่างสูงค่ะที่ไม่สามารถมาอัปในวันเสาร์ที่บอกเอาไว้ได้ เนื่องด้วยอัญต้องเตรียมตัวย้ายของเข้าพักหอในมหาลัยทำให้ยุ่งมาก ๆ เลยค่ะ แงงง แต่ตอนนี้อยู่ระหว่างรอเปิดเทอมก็จะพยายามอัปให้ได้สัก 2 ตอนก่อนวันที่ 4 นะคะ แล้วหลังจากเปิดเทอมก็น่าจะมาอัปให้เป็นรายสัปดาห์ทุกวันเสาร์เหมือนเดิม ขอบคุณทุกคนที่อดทนรอน้าา

    2. เนื้อหาในบทนี้เป็นเรื่องราวที่จะปรากฏในนิยายเรื่องอื่นซึ่งเขียนโดยเพื่อน ๆ ของอัญด้วย แต่ตอนนี้ทั้งสองคนยังไม่ได้ลงผลงานเพราะงั้นก็อ่านเรื่องนี้รอไปพลาง ๆ ก่อนนะคะ ฮ่าๆ

     

    รวมตัวละครที่เปิดตัวในตอนนี้

    ซเวน่า : ผู้ปกครองอาณาจักรราซเบียตนปัจจุบัน พี่สาวของซามูเอล

    ซามาเอล : พี่ชายฝาแฝดของซามูเอล

    โซลาเนีย : น้องสาวของซามูเอล

    เซน : องค์ชายลำดับที่สองแห่งอาณาจักรเครสต้า

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×