ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พิศวาสนาคา

    ลำดับตอนที่ #2 : เธอเป็นใคร?

    • อัปเดตล่าสุด 1 มี.ค. 58


    ตอนที่ 2

    “เร็วๆหน่อยทุกคนวันนี้พวกเราจะไปล่องเรือ ชมความงามกันที่สองฝั่งแม่น้ำโขงกันนะครับ”ไกด์ทัวร์นำเที่ยวพูดภาษาเกาหลีคล้ายเป็นการเร่งเร้าให้นักท่องเที่ยวเกาหลี รีบๆขึ้นรถบัสเพื่อนำทุกคนไปล่องเรือชมธรรมชาติริมฝั่งแม่น้ำโขง ยองวูสะพายกระเป๋าเป้ใบเล็กสำหรับใส่กล้องคู่ใจของเขา เขาเป็นคนเงียบๆเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าคนมากๆยิ่งทำให้เขาอึดอัดแต่เพื่อการที่จะได้เก็บภาพบรรยากาศสวยๆเขาจึงจำเป็นต้องทนอยู่กับสภาวะที่น่าอึดอัดเช่นนี้ต่อไป

    “ครับแม่ ผมกำลังจะไปล่องเรือครับ”ยองวูพูดภาษาไทยออกมาขณะรับโทรศัพท์คุยกับมารดาของตน ข้อดีของการเป็นลูกครึ่งนี้ก็คงจะเป็นการพูดได้หลายภาษาล่ะมั้ง ยองวูคิดในใจ เพราะแม่ของเขาไม่ต้องการให้เขาพูดเป็นแค่ภาษาเกาหลีเพียงอย่างเดียวจึงคอยสอนภาษาไทยให้เขาอยู่เสมอ

    “เมื่อไหร่จะมาหาแม่ที่กรุงเทพล่ะลูก มาจากเกาหลีได้ตั้งสองวันแล้วแต่ยังไม่มาหาแม่สักที”กาญน์กมลตัดพ้อลูกชายตัวดีที่มัวแต่เก็บภาพสวยๆที่นี่แต่ไม่ยอมมาหาตนสักที ทำให้ผู้เป็นแม่คิดถึงจนแทบอยากจะมาหาเสียเอง

    “แม่ครับ ผมขอเก็บภาพสวยๆที่นี่อีกสองวันแล้วผมจะรีบไปกอดแม่เลยนะครับ”ยองวูกล่าวเอาใจผู้เป็นแม่ เพราะรู้ว่าท่านคิดถึงเขามาก แต่เพราะบรรยากาศที่ดูเป็นธรรมชาติอีกทั้งยังรอยปริศนาที่เขาเจอเมื่อคืนทำให้ยองวูยังคงไปจากที่นี่ไม่ได้

    “รีบมานะลูกนานๆทีลูกจะได้กลับมาหาแม่ แม่คิดถึง”กาญน์กมลถามไถ่ลูกชายในเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อยเปื่อย ยองวูจึงวางโทรศัพท์และหยิบกล้องมาถ่ายภาพธรรมชาติริมสองฝั่งแม่น้ำโขง  ไกด์ทัวร์ได้เล่าถึงความสำคัญสิ่งที่น่าสนใจของแม่น้ำโขงให้นักท่องเที่ยวฟังแต่ดูเหมือนยองวูกลับตั้งใจที่จะถ่ายรูปมากกว่าการนั่งฟังประวัติที่นี่  การนั่งเรือล่องทำให้ได้บรรยากาศเสมือนการนั่งรถชมวิว จะแตกต่างกันก็เพียงพื้นที่ที่แล่นอยู่คือผืนน้ำ  ผู้คนที่ไม่ชินกับการนั่งเรืออาจจะรู้สึกเมาเรือก็ได้จึงมีนักท่องเที่ยวหลายๆคนพากันอ้วกแตกแบบไม่ลืมหูลืมตา ยองวูเดินออกมาที่ท้ายเรือเพราะอึดอัดกับการที่ต้องอยู่กับผู้คนเยอะๆ  เขายืนรับลมเย็นๆที่ท้ายเรือดวงอาทิตย์ยามเย็นนั้นดูเหมือนจะเริ่มคล้อยย้อยลงสู่แม่น้ำ ยองวูเองก็ไม่ลืมที่จะถ่ายภาพเก็บไว้เสมอ

    “ตึก”เสียงของเรือเหมือนจะชนเข้ากับอะไรบางอย่างทำให้ยองวูเหลียวไปดูที่คนขับเรือ

    “สงสัยเรือจะชนตออะไรเข้าครับไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”คนขับเรือพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติ เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวรู้สึกกังวลยองวูเองจึงไม่ได้ใส่ใจและหันหลังกลับไปถ่ายรูปต่อ คนขับเรือพยายามเร่งเครื่องให้ข้ามผ่านตอไม้อย่างเต็มที่

    “ตู้ม”ทุกคนหันมามองที่ท้ายเรือบัดนี้ไม่มีร่างของยองวูที่ยืนท้ายรูปอยู่เขาหงายหลังตกลงน้ำพร้อมกับกล้องถ่ายรูปเพราะแรงกระชากของเครื่องยนต์ ยองวูพยายามตะเกียกตะกายเพราะเขาว่ายน้ำไม่เป็น และจมลงไปในน้ำต่อหน้าต่อตาทุกคน คนขับเรือเห็นดังนั้นจึงกระโดดลงไปในน้ำและพยายามดำลงไปช่วยยองวูที่ได้จมลงไปในแม่น้ำลึกลงไปทุกที

    “เจอมั้ยลุง”ไกด์ทัวร์ถามคนขับเรือที่ลอยคอยู่ในแม่น้ำโขง

    “ไม่เจอเลยครับ เดี๋ยวผมจะลองดำดูอีกที”คนขับเรือมุดดำลงไปใต้น้ำอีกครั้งด้วยความลุ้นอย่างใจจดใจจ่อของนักท่องเที่ยวทุกคน  แล้วคนขับเรือก็ผุดขึ้นมาจากน้ำโดยไร้ร่างของยองวู

    “หาไม่เจอเลยครับ แฮ่กๆๆ”เขาหายใจอย่างหอบเพราะต้องกลั้นหายใจในน้ำ ทำให้ไกด์ทัวร์ต้องรีบโทรหาเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือเพราะนี่ก็เกือบจะค่ำแล้ว ทำให้เขาร้อนใจเป็นอย่างมากเพราะไม่รู้ว่าตอนนี้ชะตากรรมของยองวูนั้นจะเป็นอย่างไร

                    ร่างของยองวูดำดิ่งลงสู่ใต้ท้องน้ำโดยที่เขานั้นหมดสติไปแล้ว แต่ก่อนที่มัจจุราชจะนำพาชีวิตเขาไปกลับมีร่างที่คล้ายงูแต่มีลักษณะยาวและใหญ่กว่ามาก มีเกล็ดสีเขียวแวววาว  ดั่งสัตว์ในเทพนิยาย มันค่อยๆโอบร่างของยองวูไว้ด้วยความอ่อนโยนคล้ายกลัวเขาจะเจ็บ ก่อนจะพาดำขึ้นสู่ผิวน้ำ  ยองวูรู้สึกหนักๆหัวและหายใจไม่ค่อยออกเมื่อลืมตาขึ้นมาเขาก็อยู่บนฝั่งแม่น้ำโขงแล้ว ยองวูทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นก็จำได้ว่าตนได้ตกลงไปในน้ำและคิดว่าคงตายไปแล้ว แต่ตอนนี้เขากลับตื่นขึ้นมาอยู่บนฝั่งใครกันที่ช่วยเขาไว้หรือว่าเขาอาจตายไปแล้ว ยองวูค่อยๆยันตัวขึ้นมองไปรอบๆตอนนี้ฟ้ามืดสลัวไปหมดอากาศก็เย็นแถมเสื้อผ้ายังเปียก  เขาลุกขึ้นยืนและมองหาคนที่ช่วยชีวิตเขาไว้แล้วก็พบเจอใครบางคนที่กำลังนั่งหันหลังให้เขาอยู่

    “คุณครับ คุณช่วยผมไว้ใช่มั้ย”ยองวูเรียกหญิงสาวผมยาวที่นั่งหันหลังให้เขา ดูเหมือนเธอจะตกใจมากและเตรียมจะวิ่งหนีแต่ยองวูรีบวิ่งไปรั้งมือไว้จากข้างหลังไว้

    “คุณครับ อย่ากลัวผมแค่อยากขอบคุณ”ยองวูดึงแขนเธอไว้ขณะที่เธอหันหลังให้เขาหญิงสาวมีกำไลสีเขียวมรกตที่แขนและแต่งตัวไม่เหมือนชาวบ้านที่เขาเคยพบเห็น อีกทั้งยังมีผิวพรรณขาวผุดผ่องกว่าเขาที่เป็นคนเกาหลีเสียอีก

    “ปล่อยข้า”หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยสำเนียงแปลกๆ แต่ยองวูไม่ละความพยายาม เขาจับข้อมือหญิงสาวไว้แน่น

    “ผมอยากขอบคุณที่คุณช่วยชีวิตผมไว้พร้อมทั้งกล้องผมด้วย”ยองวูมองไปที่กล้องของเขาที่หญิงสาวนั่งหันหลังให้เขาคงเพราะกำลังเช็ดกล้องอยู่นั่นเอง

    “ปล่อยข้าเถอะข้าต้องรีบไปแล้ว”หญิงสาวยังดึงดันที่จะไปและยังไม่หันหน้ามาแต่ยองวูกลับอยากเห็นหน้าตาของหญิงคนนี้เขาจึงตัดสินใจ กระชากตัวของเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมอก

                     ทันทีที่ตาของเขาสบเข้ากับใบหน้าของหญิงสาวก็ทำให้ใจของยองวูเต้นแปลกๆ อาจเป็นเพราะเขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนที่สวยงามราวกับหลุดออกมาจากภาพวาดเช่นนี้  ใบหน้าเล็กเรียวรูปไข่ ดวงตาโต ขนตายาวเป็นแพสวย แก้มที่อมชมพูเป็นธรรมชาติ บวกกับปากนิดจมูกหน่อยของเธอทำให้ยองวูละสายตาแทบไม่ได้  แต่เธอก็ผละออกจากยองวูอย่างรวดเร็วและรีบวิ่งหนีเข้าไปในป่าที่รกทึบทันทีทำให้ยองวูยืนนิ่ง อึ้งอยู่เพียงคนเดียว  เธอเป็นใคร? ยองวูตั้งคำถามกับตัวเองอีกครั้งทำไมเขามาที่นี่จึงพบเจอแต่เรื่องราวแปลกๆที่เป็นปริศนาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว กับผู้หญิงลึกลับที่สวยเหมือนภาพวาดไว้เธอเป็นใครกัน

    “คุณยองวู คุณยองวู”เสียงไกด์นำเที่ยวดังขึ้นเรียกสติยองวูที่กำลังคิดสิ่งที่เกิดขึ้น

    “คุณยองวู คุณไม่เป็นอะไรใช่มั้ย ผมตกใจหมดนึกว่าจะหาคุณไม่เจอแล้ว” ไกด์นำทัวร์เอ่ยขึ้นอย่างโล่งอดที่ลูกทัวร์ของตนปลอดภัย พร้อมทีมเจ้าหน้าที่ต่างก็พากันโล่งใจไปด้วย ยองวูเดินกลับไปพร้อมบรรดาเจ้าหน้าที่ แต่ก็ไม่ลืมจะเหลียวหลังมามองหาหญิงสาวคนนั้นอีกครั้ง เธอไม่อยู่แล้ว ยองวูถอนหายใจเพราะสงสัยกับสิ่งที่เกิดขึ้นเหลือเกิน เขาอยากจะพบกับเธออีกสักครั้งเพื่อเลี้ยงข้าวขอบคุณเธอก็ยังดี  หญิงสาวที่หลบอยู่หลังพุ่มไม้ค่อยๆออกมาจากที่หลบซ่อนเมื่อเห็นคนไปกันหมดแล้ว เธอมองตามชายหนุ่มไปอย่างหมดห่วงและยิ้มออกมาอย่างรู้สึกเขินกบการได้อยู่ในอ้อมแขนของเขา เธอเดินลงไปในแม่น้ำโขงอย่างไม่รู้สึกหวาดหวั่นและกลายร่างเป็นงูใหญ่ มีหงอนสีทองและตาสีแดง ลำตัวสีเขียวมรกตมีเกล็ดเหมือนปลา หรือที่เรียกกันว่า “พญานาค” ดำผุดดำว่ายในแม่น้ำโขงไปมาอย่างสุขใจ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×