คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : รอยปริศนา
สายน้ำโขงไหลทอดยาวเป็นสายอย่างสงบไม่เชี่ยวกราด ยามแสงจันทร์สาดกระทบกับผิวน้ำทำให้มองเห็นเป็นเงาสีนวลตา ทุกๆปีในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 จะเป็นประเพณีของชาวบ้านในจังหวัดหนองคายที่จะจัดงานบุญบั้งไฟพญานาค คืนนี้ถือเป็นคืนที่ชาวบ้านแห่กันมารวมตัวกันที่สองฝั่งแม่น้ำโขงอย่างล้นหลาม ลูกเล็กเด็กแดงหนุ่มสาววัยรุ่นต่างก็ไม่พลาดคืนสำคัญที่จะได้พบเห็นสิ่งมหัศจรรย์ ที่ถูกเล่าขานกันมาเป็นตำนานหลายชั่วอายุคนคือ ‘บั้งไฟพญานาค’ นักท่องเที่ยวหรือแม้กระทั่งผู้สื่อข่าวจากหลายๆช่องต่างให้ความสนใจกับงานประเพณีนี้เป็นอย่างมาก แม้จะพิสูจน์ไม่ได้ว่าดวงไฟที่พุ่งขึ้นมาจากผิวน้ำนั้นเป็นดวงไฟของพญานาคจริงหรือไม่ แต่ปรากฎการณ์นี้ทำให้ผู้คนต่างพร้อมใจกันมารอกันทุกปีเพื่อรอชมความสวยงามและความมหัศจรรย์กันอย่างใจจดใจจ่อ
ขณะทัวร์จากประเทศเกาหลีลงจากรถบัส เพื่อเดินเที่ยวงานบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักพ่อค้าแม่ขายต่างตั้งร้านขายของกันอย่างมากมาย โดยส่วนใหญ่จะเป็นของกินเพื่อนั่งรอชมบั้งไฟพญานาค ‘ยองวู’ ลูกครึ่งไทยเกาหลี ยกกล้องถ่ายรูปออกมาถ่าย บรรยากาศรอบๆ เขาเป็นช่างภาพมืออาชีพที่มีชื่อเสียงมากในเกาหลี แต่กลับมีอายุเพียง 22 ปีเท่านั้น หน้าตาที่หวานราวกับผู้หญิง ผิวขาวเนียนละเอียด จมูกที่เล็กและโด่ง ปากแดงระเรื่อ หากมองผ่านๆก็คงคล้ายกับกลุ่มไอดอลในเกาหลี ยองวูปลีกตัวออกมาจากคณะทัวร์ เพื่อเดินหาวิวเหมาะๆสำหรับถ่ายรูป เขามีแม่อยู่ที่เมืองไทยแต่ไม่ค่อยจะได้กลับมาที่ไทยมากนักเพราะมีงานถ่ายรูปมากไม่เว้นแต่ละวัน คืนนี้เขาได้ยินมาว่าเป็นประเพณีบั้งไฟพญานาค จะมีดวงไฟพุ่งขึ้นมาจากน้ำ เขาจึงคิดว่าต้องสวยงามแน่จึงได้มากับคณะทัวร์เกาหลีที่นี่ ยองวูเดินมาถึงริมฝั่งแม่น้ำโขงที่ไม่มีคน เขาชอบที่จะถ่ายรูปแบบเงียบสงบเพราะมันทำให้เขามีสมาธิมากกว่า ยองวูกดชัตเตอร์ถ่ายภาพที่สวยงามในยามค่ำคืนของแม่น้ำโขงไปหลายที เขาหยุดถ่ายเมื่อเห็นความผิดปกติที่ผืนน้ำ ยองวูสังเกตว่าเมื่อสักครู่เหมือนที่ผิวน้ำมีการสั่นไหวคล้ายกับมีอะไรแหวกว่ายอยู่ในน้ำ อาจจะเป็นปลา เขาคิด
“ตู้มมม!”เสียงคล้ายกับคนกระโดดลงน้ำ ยองวูยืนขึ้นมองไปรอบๆไม่มีใครเลย รอบๆบริเวณมีแสงจันทร์ส่องมาพอให้มองเห็นแต่กลับไม่พบใครอยู่บริเวณใกล้ๆนั้นเลย ยองวูรู้สึกกลัวขึ้นมาแม้เขาจะไม่เชื่อเรื่องสิ่งลึกลับแต่เมื่อมาอยู่คนเดียวแบบนี้แล้ว ได้ยินเสียงที่ไม่รู้ที่มาเป็นใครก็ต้องหวั่นเป็นธรรมดา
“ยองวู นายหายไปไหนมา”เพื่อนที่คณะทัวร์ถามเมื่อเห็นยองวูเดินมาคนเดียว แบบหน้าตาครุ่นคิด
“ไปหาที่เงียบๆถ่ายรูปมาน่ะ” แจยอนไม่ได้ถามอะไรยองวูต่อเพราะรู้ว่าเขาเป็นคนพูดน้อย ยองวูเองก็ไม่ชอบใครที่เซ้าซี้เช่นกัน
“เฮ้ยๆ ดูนั่น บั้งไฟพญานาคมาแล้ว”สิ้นเสียงชายแก่ที่พูดขึ้นทำให้ผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างวิ่งกรูกันมา เพื่อที่จะชมบั้งไฟพญานาคที่พุ่งออกมาจากใต้น้ำหลังจากที่รอกันมาหลายชั่วโมง ลูกไฟหลายลูกพุ่งขึ้นมาจากน้ำและก็หายไปในอากาศไม่มีกลิ่น ไม่มีเสียง และไม่มีเขม่าแต่อย่างใด เป็นปรากฎการณ์ที่ทำให้ผู้คนตื่นเต้นกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ยองวูเก็บภาพลูกไฟที่พุ่งขึ้นมาจากน้ำได้หลายภาพเขาแปลกใจเพราะไม่เคยพบเจอเรื่องแบบนี้แต่อีกมุมมองหนึ่งของช่างภาพแบบเขา นับเป็นสิ่งหนึ่งที่สวยงามและหาชมได้ยาก ชาวบ้านที่นี่ต่างเชื่อว่าเป็นลูกไฟของพญานาคแต่ยองวูไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าพญานาคมีรูปร่างหน้าตาเป็นแบบไหน และมีอยู่จริงหรือเปล่า แล้วเสียงที่เขาได้ยินตอนเดินไปถ่ายรูปคนเดียวนั้นคือเสียงอะไร ยองวูสงสัยแต่เขาก็ยังคงเก็บภาพลูกไฟนั้นต่อไป ปีนี้ลูกไฟพุ่งขึ้นมามากกว่าทุกปี ทุกครั้งที่มีลูกไฟพุ่งขึ้นผู้คนบริเวณนั้นก็จะเฮลั่น จึงทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างครึกครื้นจนจบงาน
ยองวูเดินออกมาจากบริเวณที่มีผู้คนค่อยๆทยอยกลับออกมาแล้ว เหล่าคณะทัวร์ของเขาก็กำลังเตรียมขึ้นรถเพื่อมุ่งหน้ากลับ โรงแรมที่พัก แต่ความสงสัยที่ติดอยู่ในใจทำให้ยองวูตัดสินใจเดินกลับไปที่ที่เขาไปถ่ายภาพคนเดียว เพื่อหาคำตอบว่านั่นคือเสียงอะไร ทุกอย่างในบริเวณนั้นเงียบสงบไม่มีแม้เสียงจิ้งหรีด จั่กจั่นร้องส่งเสียงเลย และก็ไม่น่าจะมีใครอยู่ในบริเวณที่มืดๆแบบนี้ด้วย ยองวูถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเขาอาจจะแค่หูฝาดจึงหันหลังกลับเพื่อจะไปขึ้นรถ แต่กลับพบรอยบางอย่างที่อยู่ใกล้ๆโขดหินใหญ่ๆเป็นทางคล้ายล้อรถ
“รอยอะไร”ยองวูก้มลงไปมอง มันคล้ายรอยล้อรถใหญ่ๆแต่กลับมีเพียงเส้นเดียวและลากไปเป็นทางลงแม่น้ำไป ข้างๆโขดหินเขาเองก็เจอเข้ากับเกล็ดปลาที่ใหญ่กว่าปกติและมีสีเขียวมรกตสวยงาม เขาเก็บมันขึ้นมาดูสีเขียวนั้นส่องกระทบกับแสงจันทร์ยิ่งทำให้สวยงามเปล่งประกายแม้ในยามค่ำคืน แม้จะสงสัยว่าคือเกล็ดของอะไรแต่ยองวูก็เก็บมันใส่กระเป๋าเสื้อและถ่ายรูปรอยปริศนานั้นไว้ด้วยก่อนจะเดินกลับไปขึ้นรถด้วยความสงสัย โดยมีสายตาคู่หนึ่งมองทอดตามหลังด้วยความรู้สึกห่วงหาอาทรโดยที่เขาไม่รู้ตัว
ความคิดเห็น