ในอดีตหลายร้อยปีก่อน อยู่ๆไททันก็ปรากฎตัวขึ้นบนโลก
พวกมันไล่สังหารมนุษย์และกินเพื่อความพอใจ ไม่ใช่เพื่อดำรงชีพ
มนุษย์ถูกไล่ล่าจนแทบสิ้น และได้สร้างกำแพงสามชั้นขึ้นมาเพื่อปกป้องเผ่าพันธุ์ของตนไว้...
แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด
มนุษย์ที่เหลือรอดไม่ได้อยู่ที่กำแพงทั้งหมด
แต่ยังมีมนุษย์อีกกลุ่ม ที่อยู่ห่างออกไปอีกทวีปที่ยังเหลือรอด...
ดินแดนหนึ่งซึ่งเป็นเกาะขนาดใหญ่อยู่แยกเป็นเอกเทศจากแผ่นดิน
ด้วยเป็นดินแดนที่ล้อมรอบด้วยมหาสมุทร ณ ที่แห่งนั้นจึงปราศจากการรุกรานจากเหล่าไททัน มนุษย์กว่าครึ่งแสนได้อาศัยอยู่ในที่แห่งนั้นอย่างสงบสุข
ดินแดนนี้ถูกเรียกว่า 'ประเทศญี่ปุ่น' ตามความประสงค์ของจักพรรดินีที่ถูกสถาปนาขึ้นเมื่อ5ปีก่อนนามว่า 'ชิรายูกิ'
เธอได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมพลังแปลกประหลาดและผู้ติดตามทั้ง8คน
เธอเข้ามาที่ดินแดนนี้และนำความเจริญและความเปลี่ยนแปลงมากมายมาสู่สถานที่ซึ่งเคยเป็นแค่ดินแดนล้าหลัง
วิทยาการแปลกประหลาดได้รับการยอมรับจากประชาชนทุกคน
ตอนนี้จะเรียกได้ว่าประเทศนี้คือสถานที่เดียวที่สงบสุขและไร้ภัยคุกคามอย่างแท้จริงราวกับสวรรค์บนดินก็ว่าได้...
ณ ที่ปราสาทหลังใหญ่กลางประเทศนี้ อันเป็นที่พำนักของผู้ปกครองดินแดนสวรรค์ ผู้นำพาความเปลี่ยนแปลง หรือจะเรียกอะไรก็ช่าง สรุปคือ ที่นี่คือที่อยู่ของ'องค์จักรพรรดินี เจ้าหญิงชิรายูกิ' ตอนนี้กำลังเกิดความโกลาหลไปทั่วทั้งปราสาท นำโดยชายร่างสูงโปร่งเจ้าของเรือนผมสีดำและใบหน้าบูดบึ้งราวกับยักษ์มารที่กำลังเดินลงส้นหนักๆไปตามทางอย่างหงุดหงิดใจ
มือเรียวสวยเกินสตรีประดับเล็บสีแดงผลักบานประตูบานใหญ่ออกอย่างแรงทันทีจนมันเปิดไปตีกับผนังส่งเสียงดังกึกก้องพาลให้บรรดาชายในชุดเกราะ5คนที่นั่งอยู่ก่อนสะดุ้งเฮือก
"ไหนรายงานมาซิ! ถ้าไม่คืบหน้าข้าจะกรอกพิษพวกเจ้า!!!"
ชายเจ้าของเล็บสีแดงเดินไปตบโต๊ะเสียงดัง
ชายในชุดเกราะราวกับองค์รักษ์คนหนึ่งลุกขึ้นอย่างสั่นๆแล้วรายงาน
"ย ยังไม่พบตัวองค์หญิงเลย ข ขอรับ!!"
"ดี!! มันน่านักยัยเด็กแคระนั่น"
"โอ้~ ใจเย็นสิ'ลูซิลฟ์' องค์หญิงก็แค่อยากเที่ยวน้าา~"
"เบลเฟ..."
ก่อนที่'ลูซิลฟ์'จะเอาพิษมากรอกปากพวกองค์รักษ์ไร้นํ้ายาที่หละหลวมจนปล่อยให้ผู้นำประเทศหนีออกมาจากห้องได้ เจ้าบุรุษหน้าสวยที่แต่งกายเยี่ยงสตรีก็เยื้องย่างเข้ามาพร้อมนํ้าเสียงยียวนชวนเตะ
'เบลเฟ'กระตุกยิ้ม ไล่เหล่าชายชุดเกราะออกไปแล้วปิดประตู
"เจ้ายังไม่ชินอีกรึไงลูซิลฟ์"
"ชิ! ยัยเด็กนั่นอายุก็ยี่สิบเข้าไปแล้วยังสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นไม่เปลี่ยน น่าจับกรอกยานัก!"
"คิก~ เอาน่า อย่างน้อยก็ดีกว่าเมื่อ6ปีก่อนนี่..."
เบลเฟและลูซิลฟ์เงียบลงเมื่อนึกย้อนไปในตอนที่มาถึงดินแดนนี้ครั้งแรก...
ในตอนนั้น หลังจากที่ใช้เวทย์มนตร์ของเบลวาร์ปหนีออกมา มันเป็นบทเวทย์ที่ไม่กำหนดสถานที่ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่าจะถูกพาไปที่ใด
จนกระทั่งมาปรากฏตัวที่ชายป่าของดินแดนนี้ และได้หลบซ่อนตัวเพื่อรักษาอาการของเด็กสาวเพียงหนึ่งเดียว...
ยูริ...
เธอหมดสติไปหลังจากที่วาร์ปมาถึงไม่นาน และจู่ๆผลึกคริสตัลใสเรืองแสงสีฟ้าซีดก็ค่อยๆกลืนกินตัวของเธอและกักขังเธอไว้ในโลงใส
พวกเขาทั้ง7พี่น้องและปีศาจรับใช้ของเธอช่วยกันทำลายโลงแก้วนั่นแต่ไม่สำเร็จ...
พวกเขาจึงได้แต่รอ และได้สร้างบ้านให้พออยู่ได้หลังหนึ่งที่ชายป่านั่น
นานวันเข้า โลงแก้วก็มีสีเข้มขึ้น จากสีฟ้าอ่อนซีดก็เริ่มเข้ม และกลายเป็นสีม่วง...
และสุดท้ายก็กลายเป็นสีดำ...
ทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลา1ปี ในที่สุดโลงแก้วสีดำนั้นก็เปิดออก
ผู้ที่หลับใหลไปเนินนานได้ก้าวออกมาจากโลงนั้น พวกเราดีใจกันมาก เขาไม่ปฏิเสธว่าตอนนั้นเขาดีใจแค่ไหนที่จะได้พบยัยเด็กแคระหน้าตายนั่น...
แต่ทว่า ผู้ที่ออกมากลับแตกต่างจากในความทรงจำไปมาก ที่ยังคงอยู่คือโครงหน้าและเส้นผมสีขาวโพลนที่ปราศจากสีดำดั่งกาลก่อนและตอนนั้นมันก็ยาวลากพื้นจนดูน่ารำคาญ
เธอเปลี่ยนไป...
จากยัยเด็กแคระที่มักทำหน้าเบื่อโลกกลับกลายเป็นหญิงสาวผู้มีรอยยิ้มแสยะกับแววตาเจ้าเล่ห์ที่มีกลิ่นอายดำมืดและร่างกายที่เติบโตขึ้น...
ทุกอย่างเปลี่ยนไปทั้งพฤติกรรมและนิสัย จากที่เมื่อก่อนเด็กสาวมักจะนิ่งเงียบ เฉยชาและทำหน้าตายซาก ตอนนี้กลับยิ้มแย้ม...ยิ้มแสยะ ขี้เล่น ขี้แกล้ง ตลกร้าย และมีวาจาร้ายกาจเสียยิ่งกว่าเบล
นี่คือตัวตนจริงๆของเธอ...
พวกเรารู้สึกแบบนั้น เพราะทุกอย่างที่หญิงสาวคนนี้กระทำมันดูเป็นธรรมชาติยิ่งกว่าตอนที่เป็นเด็กแคระนั่นเสียอีก
เราใช้เวลาพักใหญ่ในการปรับตัวให้เข้ากับนิสัยเจ้าเล่ห์ตลกร้ายและขี้เล่นของยูริ
ไม่น่าเชื่อว่าคนที่เข้ากับเธอได้ดีที่สุดคือซาร์ท เจ้าคนอารมณ์ร้อนนั่นมักจะรวมหัวกับยูริในการแกล้งพวกพี่น้องเสมอ
และพวกเขาก็ออกเดินทางอีกครั้งจนมาเจอประชาชนที่อาศัยอยู่ที่นี่
ยูริเวอร์ชั่นใหม่ได้ช่วยเหลือพวกเขาจนสามารถพลิกแผ่นดินที่ล้าหลังให้กลายเป็นแดนสวรรค์ได้ใน3ปี และถูกสถาปนาขึ้นเป็นองค์จักพรรดินีผู้ปกครองดินแดนที่เธอตั้งชื่อเอาเองว่าประเทศญี่ปุ่นจนตอนนี้เข้าปีที่5แล้วที่เธอครองราช และเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็นชิรายูกิ ส่วนเหตุผลก็คือ...
'อยากเปลี่ยนเฉยๆ~'
นั่นแหละ...
พอนึกได้แบบนั้นลูซิลฟ์กับเบลเฟก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่
ไม่ใช่แค่ยูริคนเดียวที่เปลี่ยน พวกเขาก็ต้องเปลี่ยนด้วย
ยกตัวอย่างเช่นคำพูดก็ต้องเป็นมาเป็น ข้าๆ เจ้าๆ ตามประชนของที่นี่ และพวกเขาก็กลายเป็นผู้ติดตามของยัยเด็กแก่แดดนั่นตามความเข้าใจของทุกคนในประเทศไปซะแล้ว
"แล้วยัยเด็กนั่นอยู่ไหน"
ลูซิลฟ์ยิ่งคิดยิ่งปลงเลยหันมาหาชายในชุดผู้หญิงหรูหรารุ่มร่ามสีแดงแซมชมพูดูแสบตา
"อืม คงเทเลพอตไปเล่นที่ไหนล่ะมั้ง"
เบลเฟเองก็ไม่แน่ใจ นับตั้งแต่เด็กสาวเปลี่ยนไป เธอก็ยิ่งเจ้าเล่ห์ขึ้นทุกวันจนพวกเขาจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน
อยากจะบอกดังๆว่าตอนนี้เธอคือองค์หญิงและจักพรรดินีของประเทศญี่ปุ่น
มีที่ไหนผู้ปกครองประเทศหนีไปเที่ยวเล่นทิ้งให้พี่น้องที่ถูกเข้าใจว่าเป็นผู้ติดตามทำงานแทนงกๆห๊ะ?
"เอาเถอะ แล้วมาหาข้ามีอะไรล่ะ"
"เบลให้มาเรียกน่ะ"
ลูซิลฟ์เลิกคิ้วขึ้นก่อนจะเดินออกไปพร้อมผู้มีศักดิ์เป็นน้องชายออกไปจนมาถึงห้องประชุมใหญ่ที่มีพี่น้องที่เหลือมาคอยอยู่ก่อนแล้วยกเว้นยัยเด็กแสบกับปีศาจร่างบางที่ติดหนึบเธอยิ่งกว่าอะไร
แอสโมสที่เห็นพี่น้องทุกคนมากันครบแล้วก็หันไปพยักหน้าให้น้องเล็กสุดที่ตอนนี้โตเป็นหนุ่มอายุได้18ปี
เบลยืนขึ้นใช้เวทย์สร้างภาพเสมือนขึ้นบนโต๊ะตัวยาว
มันเป็นภาพกำแพงสามชั้น ที่ชั้นนอกสุดพังเป็นรูโหว่จนไททันมากมายพากกันกรูเข้าไปด้านใน
"อย่างที่เห็น กำแพงมาเรียของฝั่งโน่นแตกแล้ว..."
"แล้วไง?"
ซาร์ทจ้องมองภาพไททันที่บุกเข้าไปในกำแพงอย่างไม่แยแส
"งั้นแบบนี้ล่ะ?"
เบลใช้เวทย์เปลี่ยนภาพไปที่ร่างบางสูงโปร่งกว่า167เซนกับร่างสูงกว่า170อีกคนที่กำลังไล่เชือดไททันอย่างเมามันส์
"ยูริ!!?"
ซาร์ทตบโต๊ะและลุกขึ้นยืนมองภาพของหญิงสาวผมขาวในชุดสีดำแดงกำลังใช้พัดสีดำขอบแดงพัดพวกไททันจนเกิดกระแสลมขนาดใหญ่พุ่งไปเชือดพวกมันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
"เธอกลับไปที่นั่น"
มาม่อนมองภาพบนโต๊ะยิ้มๆ ก็เขาเองเนี่นแหละที่เป็นคนช่วยเธอหนีเที่ยว แต่ไม่บอกดีกว่า...
คนอื่นๆต่างถอนหายใจออกมา ยูริหรือชิรายูกิในตอนนี้นั้นไม่มีใครสามารถควบคุมเธอได้อีกแล้ว หากเป็นเมื่อก่อนแอสโมสยังพอคุมได้ แต่ตอนนี้เธอเอาแต่ทำตามใจตัว ขอแค่เป็นเรื่องสนุกเธอก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้น
และดูเหมือนการบุกไปถิ่นของโจทย์เก่าจะเป็นเรื่องน่าสนุกสำหรับเธอไม่น้อย...
"ข้าจะไปลากยัยนั่นกลับ!!!!"
ซาร์ทมองเบลที่ยืนสงบนิ่งอยู่ เพราะในที่นี้นอกจากหญิงสาวที่เป็นหัวข้อสนทนาแล้วก็มีแต่เบลที่ใช้เวทย์วาร์ปได้
"ขอปฏิเสธครับ ผมได้สินบนมาแล้วจึงไม่ควรช่วยเหลือพี่น่ะนะ"
เบลชูกล่องขนมที่ชิรายูกิทำให้พร้อมรอยยิ้มเคลือบยาพิษ เขาชอบขนมที่เธอทำมากจนกลายเป็นคนคลั่งของหวานไปแล้ว...
ขนมที่ชอบที่สุดก็คือฝอยทองแห้งที่อยู่ในกล่องนี้นั่นเอง
ซาร์ทกัดฟันกรอดแล้วเดินไปเปิดหน้าต่างก่อนจะพุ่งออกไปพร้อมกับกลายร่างเป็นฟินิกส์เพลิงบินออกไปทันที
"เฮ้อ เจ้านั่น"
"หวังว่าจะหาทางกลับได้ล่ะนะ"
แอสโมสและมาม่อนถอนหายใจออกมาอีกเฮือกใหญ่
ครั้งนี้ใช่ครั้งแรกที่ชิรายูกิหนีเที่ยวซะเมื่อไหร่ ทุกครั้งที่เธอไป ซาร์ทจะกลายเป็นพี่หวงน้องทันทีและกระโจนตามไปแบบไม่คิด(เรียกง่ายๆว่า'ซิสค่อน')
โดยไม่เจียมเลยว่าร่างนกของมันยิ่งกว่าหลงทิศ
อีกด้านหนึ่ง ห่างออกไปจากประเทศกลางมหาสมุทร
"วะฮ่า! เจ้ายักษ์น่าเกลียดกลายเป็นเศษเนื้อไปซะ!!!!"
"นายท่าน'ชิรายูกิ' ทำแบบนั้นมันจะกระเด็นมาเปื้อนเอานะ"
"เหอะน่า'เรฟ' แบบนี้หนุกดีออก!!"
"เอิ่ม(=_=)"
เรฟ ปีศาจการ์กอล์ยที่ตอนนี้กลายเป็นหนุ่มหล่อคมคายร่างบางกำลังนั่งอยู่บนหลังคาบ้านหลังหนึ่งเพราะโดนสั่งไม่ให้เข้าไปยุ่ง
เขามองหญิงสาวร่างบางในชุดดำแดงที่มีผมสีขาวสั้นประบ่ากำลังใช้พัดสีเดียวกับชุดในมือสร้างเวทย์ลมไปเฉือนพวกไททันจนเละยิ่งกว่าเศษเนื้อด้วยสายตาเอือมระอา
นับจากที่นายท่านของเขาฟื้นขึ้นจากโลงแก้วสีดำ เขาก็ถูกสั่งให้เรียกเธอว่าชิรายูกิ
นิสัยของเธอเปลี่ยนไปมากจนเขาปวดหัว
อ่า ท่านเทพนรกขอรับ ช่วยเอานายท่านคนเดิมกลับมาได้ไหมขอรับ?
แต่ถึงจะขอร้องอ้อนวอนไปก็เท่านั้น ตัวเขาเองก็ปลงจนไม่รู้จะปลงยังไงแล้วด้วย
"กลับกันดีกว่านะขอรับ ถ้าพวกทหารมาเห็นเข้าจะแย่เอานะ"
เรฟเงยหน้ามองฟ้าเห็นดวงอาทิตย์เยื้อไปพอสมควร กะเวลาน่าจะราวๆบ่ายสองได้แล้วจึงบอกกับนายหญิงที่ยังเล่นสนุกไม่เลิก
"เห~ แบบนั้นก็น่าสนุกสิ อยากรู้จริงว่าถ้าเจ้าวิกนั่นเห็นฉันจะทำหน้ายังไง~"
"อย่าแม้แต่จะคิดเลยนะ(=_=;)"
"คิก~ ฮ่าๆๆ+"
ร่างบางระเบิดหัวเราะออกมาก่อนจะเทเลพอตมายืนข้างเจ้าของเรือนผมสีนํ้าตาลที่มัดสูงเป็นหางม้า
"ก็ได้ๆ กลับกัน ป่านนี้เจ้านกไฟนั่นคงบินออกมาหลงอยู่ที่ไหนสักแห่งแล้ว~"
เรฟถอนหายใจเฮือกนึง อีกเหตุผลที่นายท่านหนีเที่ยวบ่อยๆเพราะจะแกล้งให้ซาร์ทออกมาตามหา
ก็รายนั้นน่ะพอกลับร่างอสูรฟินิกส์แล้วจะเป็นนกที่หลงทิศสุดกู่ยิ่งกว่าสาวผมขาวข้างๆเขาซะอีก
เพราะเหตุนั้นเลยทำให้ซาร์ทออกไปหลงทางอยู่อย่างน้อยก็สองสามอาทิตย์กว่าจะหาทางกลับไปที่ปราสาทได้
"จะวาร์ปกลับหรือบินเองล่ะเรฟ"
"บินเองดีกว่าขอรับ วาร์ปกับท่านชิรายูกิทีไร ข้าต้องวิ่งไปอ้วกทุกที(=_=)"
"ฮ่าๆๆๆ!!! เจ้ามันอ่อนเรฟ!!"
ถึงจะพูดแบบนั้นแต่หญิงสาวก็แอบเป็นห่วงเล็กๆ ถึงได้แอบทำยาแก้เมาเวลาวาร์ปของเรฟขึ้นมา ตอนนี้ยังไม่เสร็จดีเลยไม่ได้เอามาให้
เรฟถอนหายใจอีกรอบก่อนจะกางปีกสีดำออกมาแล้วบินขึ้นสูง
ชิรายูกิมองตามก่อนจะใช้เวทย์ลมลอยขึ้นไปขนาบข้าง รอบตัวของเธอมีสายลมโอบอุ้มเอาไว้ทำให้ไม่ตก
"ไม่ใช้สายฟ้าหรอขอรับ?"
"ขี้เกียจ :p"
เธอแลบลิ้นออกมาอย่างทะเล้น
เรฟส่ายหัวเบาๆ เขาอยากจะกลับไปนอนให้หายปวดหัวสักงีบ...
"ยูริ!!!!!!!"
ก่อนที่จะได้ออกไปไหน เสียงทุ้มของชายคนหนึ่งก็ดังก้องขึ้นอย่างไม่กลัวเจ็บคอ ตามด้วยร่างของเจ้าของเสียงที่พุ่งตามขึ้นมาด้วยอุปกรณ์บางอย่าง เพราะตอนนี้พวกเธอยังบินขึ้นไม่สูงนักชายคนนั้นเลยตามขึ้นมาได้
แต่ก็ไม่ถึงตัวของเธออยู่ดี ในช่วงขณะที่ยังลอยตัวอยู่ หญิงสาวหันมายิ้มให้ชายผมดำหน้าตาขวางโลกที่ทำหน้าราวกับจะพุ่งเข้ามาบีบคอเธอ
"หวัดดี~ 'รีไวล์' "
ริมฝีปากบางเหยียดยิ้มแสยะ นัยน์ตาที่แต่ก่อนเคยมีสีซีดจาง ที่ตอนนี้เป็นสีอะเมทิสเรืองรองยามที่จ้องมองร่างของ 'ชายที่แข็งแกร่งที่สุดในกำแพง' ที่กำลังร่วงลงไปเพราะแรงส่งจากแก๊สของเครื่องเคลื่อนย้ายสามมิติหมดลง
"เตรียมตัวไว้ล่ะ 'ทีมสำรวจ' ข้าจะกลับมาอีกครั้ง~ คิกคิกคิก~~"
เสียงใสกังวาลดังก้องแม้จะพูดให้แผ่วเบาแค่ไหนก็ตาม
ชิรายูกิส่งยิ้มให้อีกครั้ง สายตามองเลยไปด้านหลังที่มีทีมสำรวจอยู่กลุ่มนึง
เธอแสยะยิ้มบางเบา...
มีเรื่องสนุกให้ทำแล้วสิ~ การกลับมาคราวนี้มันไม่เหมือนเดิมหรอกน้าา~~
สายลมรุนแรงราวกับพ่ยุลูกเล็กพัดมาทำให้รีไวล์ที่ลงไปตั้งหลักที่หลังคาบ้านหลังหนึ่งและทีมสำรวจที่ตามมาต้องก้มลงปิดหน้าไว้
เมื่อทุกอย่างสงบลง ร่างทั้งสองก็หายไปจากบริเวณนั้นเสียแล้ว...
รีไวล์มองอากาศที่ว่างเปล่า...
เธอเปลี่ยนไป ทั้งรูปร่างและนิสัย โดยเฉพาะรอยยิ้มนั่น...
"เอ่อ หัวหน้าคะ"
เพทร่า รัล สาวร่างเล็กเห็นหัวหน้าของตนเงียบไปหลังจากที่ได้พบหญิงสาวผมขาวที่มีพลังประหลาด
ผู้หญิงคนนั้นมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอกลัวจากก้นบึ้งของจิตใจ ในตอนที่ดวงตาสีม่วงผิดมนุษย์นั่นเหลือบมองมาเธอแทบคุมตัวเองไม่อยู่
น่ากลัวและอันตรายเกินไป...
"กลับ"
รีไวล์สะบัดผ้าคลุมหันหลังไปโดยไม่สนใจลูกน้องสาวแล้วยิงเครื่องเคลื่อนย้ายสามมิติไปอย่างรวดเร็ว
เขาควรรายงานเจ้าวิกทองนั่นให้เร็วที่สุด...
ว่าเธอกำลังจะกลับมาแล้ว
ผู้ที่เกือบจะทำให้ทีมสำรวจล่มสลายกำลังกลับมา แถมยังเปลี่ยนไปในทางที่น่ากลัวซะด้วย...
แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็พร้อมเผชิญหน้า เขาอยากจะปรับความเข้าใจกับเธออีกครั้ง
แค่โอกาสแก้ตัว ก็เท่านั้น...
ชิรายูกิเร่งเวทย์ลมพัดร่างของตนและปีศาจรับใช้ออกมาไกลจากกำแพงก่อนจะหยุดพักบนต้นไม้ยักษ์ต้นหนึ่ง
หญิงสายก้มลงนั่งยองๆกอดตัวเองไว้ ไหล่บางขาวซีดสั่นน้อยๆจนเรฟแปลกใจ
"เอ่อ นายท่ะ---"
"อุ๊บส์!! อ๊า ฮ่าๆๆ!!! นายเห็นหน้ามันไหมเรฟ!! จี้ชะมัดเลยอ่ะ ฮ่ะฮ่ะ~ ให้ตายเถอะ แกล้งเจ้าขี้เก๊กนั่นสนุกเป็นบ้า!!"
เรฟชะงักมือที่กำลังจะเอื้อมไปจับไหล่นั่นและนิ่งค้างไปทันทีที่เธอระเบิดหัวเราะออดมา
ไอ้ที่สั่นเมื่อกี้คือกลั้นขำใช่ไหม เอาเวลา0.7วิที่เขาเผลอเป็นห่วงคืนมานะ!!!
"เตรียมตัวไว้ล่ะเรฟ~ อีกไม่นานเราจะไม่เยือนปราสาททีมสำรวจกัน~~"
"แต่---"
"ไม่แต่เรฟ เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่พลาดเรื่องสนุกหรอก~~"
ชิรายูกิยิ้มหวานให้ชายหนุ่มร่างบาง แต่สำหรับเขามันเป็นลางร้ายต่างหาก
เพราะตั้งแต่ออกจากโลงแก้ว เวลาเธอยิ้มหวานแบบนี้ทีไรต้องมีเรื่องปวดหัวทุกครั้งไป
และคราวนี้คงไม่พ้นโจทย์เก่าอย่างทีมสำรวจ...
เขาควรสงสารทีมสำรวจหรือสงสารตัวเองที่ถูกลากไปเอี่ยวดี?...
"เอาล่ะกลับกันเถอะ องค์หญิงหนีเที่ยวแบบนี้พวกท่านพี่คงดำลังสาปแช่งข้าแน่ๆ โดยเฉพาะซาร์ท 555+~"
หญิงสาวลุกขึ้นปัดไปมาแล้วเรียกลมมาล้อมตัวอีกครั้งก่อนจะบินไปพร้อมกับเรฟ
คิก~ นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น ต่อไปคงจะสนุกกว่านี้แน่นอน~
รอยยิ้มแสยะปรากฏขึ้นเงียบๆ ในหัวมีแผนมากมายที่จะใช้กับกลุ่มคนในชุดผ้าคลุมสีเขียวแก่
"ทนรอไม่ไหวแล้วสิ~"
=======================================================
หายไป1วันกับตอนที่14แบบสั้นบรม....
ยูริจังจำศีล(?)ไป1ปี ตื่นมากลายเป็นอีกคน แถมยังเปลี่ยนชื่ออีกต่างหาก~(ไม่ต้องถามความหมาย ไรท์ไม่รู้ว์~//โดนตบ)
ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป อิมเมจนางจะเปลี่ยนไปเยอะเลยค่ะ
พวกพี่น้องทั้ง7ก็เปลี่ยนพอสมควรแต่ไม่มากนักค่ะ
มาพูดถึงเกาะกลางมหาสมุทรกัน
ก็ประเทศญี่ปุ่นในโลกเก่านั่นแหละ นางเห็นว่ามันไม่มีชื่อเลยตั้งแบบนั้น และก็เอาความรู้ทั้ง5โลกมาพัฒนาต่อยอด สร้างวิทยาการให้ประเทศจนเจริญรุ่งเรือง
พวกประชาชนเลยตั้งให้นางเป็นองค์หญิง(ตอนแรกจะตั้งเป็นราชาหรือราชินีแต่นางบอกไม่ชอบเลยเอาองค์หญิงพอ?) และความตำแหน่งจักพรรดินีผู้ปกครองสูงสุดอีกด้วย
เรื่องของนางจะดูขาดหายไปเยอะ ไรท์ว่าจะให้ตอนหน้ากับยูริหรือชิรายูกิในการอธิบายไปนะคะ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อิมเมจใหม่จ้า~
ชื่อ : ชิรายูกิ
อายุ : 22 (โดยประมาณ)
สส./นน. : 167/50
ลักษณะ : ผมขาวตัดสั้นประบ่า แววตาดูเจ้าเล่ห์เจ้าแผนการณ์ ผิวขาวซีดไร้สีเลือด ชอบยิ้มแสยะตลอดเวลา หน้าอกคัพC (ห๊ะ=[]=!!)
นิสัย : เจ้าเล่ห์ขึ้นมาก ขี้เล่น รักสนุก ตลกร้าย บางทีก็ดูน่ากลัวและอันตราย
อาวุธ : พัดสีดำ หนึ่งในอุปกรณ์เวทย์ธาตุลมที่เบลให้มา
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ประมาณนี้แหละเนาะ(=~=)
#โปรดจำไว้ว่านี่คือ "ฟิกไททัน" ค่ะ^^
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
รีบมาอัพไวๆ นะคะ ^^
ดำลัง >> กำลัง
รอวันทีมสำรวจโดนถล่มค่ะ! // เผ่นอย่างไวด้วยความเร็วเท่าหอยทาก(?)
ส่วนเรื่องถล่มทีมสำรวจนั้น...หึหึหึ~//แสยะยิ้ม
เอายูริคืนมาเหอะะะ~
นิยายรีบๆมาอัพน๊ารออยู่
รีบๆมาอัพน้า~