ยามเย็นที่อาทิตย์อัสดงทอแสงสีส้มสวยอาบไล้คฤหาสน์สีทมิฬด้านหนึ่ง ทิ้งให้อีกด้านเป็นเงาดำเพิ่มมนต์ขลังให้เกือบเท่าตัว บรรยากาศเป็นใจแก่เหล่าสิ่งลี้ลับให้ออกมาโลดแล่นบนโลกมนุษย์
เพล้ง!!!
ตุบ!!!!
หรืออาจจะเป็นฆาตกรดวงตกที่ถูกขว้างทะลุหน้าต่างจนมากลิ้งขลุกๆบนพื้นดินเหมือนลูกบอลแบบนี้(?)
"แค่กๆ โว้ยยยย!!! ไอบ้านี่ ฟังก่อนสิเฮ้ย!!!!"
เจฟสำลักฝุ่น(?)แล้วตะโกนเข้าไปในคฤหาสน์ผ่านหน้าต่างที่แตกกระจายโดยตัวเขา(?)
"ฉันกำลังฟัง"
ปีศาจไร้หน้าร่างสูงกว่าสองเมตรวาร์ปมายืนอยู่เบื้องหน้าชายปากฉีกที่เนื้อตัวมอมแมมจากการคลุกดินเมื่อครู่ โดยมีเอฟเฟ็คประกอบเป็นหนวดสีขาวที่แผ่ออกและขยับส่ายไปมาที่ด้านหลัง....
แค่ไม่มีหน้าก็หลอนจะตายชัก ยังจะแผ่หนวดอีกหรอ?
"คือ ฉันกับไพร์มก็สู้กันตั้งแต่คฤหาสน์นี่จนไปถึงเกือบๆกลางป่า(ห๊ะ=_=?) สักพักฉันก็เบื่อ(หมดอารมณ์?)เลยเลิกแล้วเดินออกมา"
เจฟเล่าข้ามในส่วนที่เขาจะจับกด....เอิ่ม...จะล่วงเกิน....(ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นเลยนะยัยเตี้ย!!//แว่วเสียงเจฟ)
"แล้วสักพักพอหันกลับไปก็ไม่เจอหมอนั่นแล้ว เลยคิดว่าคงจะวาร์ปกลับมาได้เหมือนนาย....แต่ไม่คิดว่า...."
เจฟลากเสียงยาวที่ค่อยๆเบาลงเรื่อยๆอย่างไม่อยากพูดต่อ แต่ว่าออร่าทมิฬจากสเลนเดอร์แมนทำให้เขาจำใจพูดคำสุดท้ายออกมา
"ไม่คิดว่าหมอนั่นจะ....หลงทาง"
เจฟค่อยๆลุกขึ้น
"อืม เขาน่าจะยังอยู่แถวนั้น...ฉันจะไปตามหา"
"เดี๋ยว!!"
เจฟเรียกได้แต่อากาศเพราะเจ้าของร่างสูงชะลูดนั้นได้วาร์ปออกไปแล้วเรียบร้อย ทิ้งให้ฆาตกรหนุ่มยืนเคว้งคว้างหน้าคฤหาสอย่างเดียวดาย...
[ทางด้านไพร์ม]
"...เรือ หาย"
ที่นี่ที่ไหนฟะ?
คำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัวของชายร่างบางมาได้เกือบชั่วโมงแล้ว
นัยน์ตาสีอะเมทิสจ้องมองทิวทัศน์เดิมที่เห็นมา17รอบของต้นไม้ต้นใหญ่ต้นเดิมอย่างว่างเปล่า
มือเรียวขาวยกขึ้นแตะรอยกากบาดบนเปลือกไม้ที่ถูกกาซํ้ารอบที่17อย่างจนปัญญา
"ข้าผู้มีชีวิตอมตะนิรันดิ์กลับถูกเล่นงานโดยสิ่งที่มองไม่เห็นอย่าง'ทิศทาง'งั้นหรือ...."
ไพร์มพึมพัมด้วยอาการอยากเอาหัวโขกต้นไม้ให้ตายไปเสียตรงนั้น ให้ตายเถอะทำไมเขาต้องเป็นพวกหลงทิศยิ่งกว่าแมวโดนตัดหนวด(?)ด้วยเนี่ย รู้ถึงไหนอายถึงนั่น หากมีใครรู้เข้าเขาก็คงไม่พ้นโดนล้อยันลูกบวช(?)
"จะว่าไป รู้สึกว่าถ้าหลงป่าให้หาที่สูงนี่นา"
เขาพึมพัมเบาๆ ทบทวนความทรงจำที่เคยดูรายการหรืออะไรสักอย่างจากตู้สี่เหลี่ยมเมื่อราวๆ10กว่าปีก่อนว่าหากหลงทางให้หาที่สูง
คิดได้แบบนั้นร่างบางก็เดินหาลานโล่งก่อนจะยืนนิ่งอยู่สักพัก
พรึบ
ผ้าพันคอสีดำค่อยๆขยับราวกับมีชีวิต ปลายทั้งสองข้างแผ่ออกกว้างจนมีลักษณะเหมือนกับปีกสีดำ
มันค่อยๆขยับขึ้นลงช้าๆพาร่างของเจ้าของมันลอยขึ้นไปผ่านแมกไม้สู่เหนือน่านฟ้าของป่าทมิฬ
"อืม..."
ไม่ว่าจะมองไปทางไหนภาพที่เห็นก็เป็นเพียงยอดไม้ของป่าทึบเหมือนๆกันที่แผ่ขยายออกไปกว้างจนไม่อาจกะได้ว่าป่านี้กินพื้นที้ไปเท่าไหร่
ไม่เห็นแม้แต่ยอดคฤหาส(หรือปราสาท?)ที่เขาเพิ่งออกมาที่มันควรจะสูงพ้นยอดไม้พวกนี้จนเขาสามารถมองได้จากระยะไกล...
แต่อนิจจา ไพร์มไม่รู้ว่าคฤหาสหลังนั้นถูกปกคลุมด้วยพลังงานลึกลับของสเลนเดอร์แมนเพื่อป้องกันการรุกรานจากภายนอก ดังนั้นไม่ว่าจะพยายามเท่าใดหากไม่ได้รับการถ่ายทอดเส้นทางจากสเลนเดอร์แมนโดยตรงก็ไม่มีทางที่จะกลับเข้าไปได้อีกเป็นครั้งที่2หากเผลอพลาดพลั้งออกจากอาณาเขตนั้นมา
ไพร์มลดระดับลงมายืนกับพื้นด้วยเท้าเปลือยเปล่าที่เปรอะเปื้อนฝุ่นดินช้าๆ
"เลิกซ่อนสักที มันน่ารำคาญ..."
"แหม่ๆ รู้ตัวแล้วหรอเนี่ย~"
เสียงทุ้มของใครอีกคนที่เขาจับสัมผัสได้มาสักพักดังตอบอย่างไม่คิดจะปิดบังตัวตนก่อนที่ร่างหนึ่งจะเดินออกมาจากหลังต้นไม้ต้นหนึ่ง
ชายร่างสูงผิวขาวในชุดเสื้อฮู้ดสีดำ กางเกงยีนส์สีนํ้าเงินเข้มและรองเท้าผ้าใบสีแดงสด
"ยินดีที่ได้รู้จัก ผม'โซล ครอปเปอร์' "
ชายคนนั้นยกมือขึ้นเลิกหมวกฮู้ดออกเผยให้เป็นใบหน้าหล่อเหลาของชายวัย20ต้นๆ ผมสีดำตัดซอยสั้นและนัยน์ตาสีแดงสดดั่งเลือดที่ดูเหมือนจะเรืองแสงได้ที่มีแววความขี้เล่นและกวนประสาทอยู่หน่อยๆ
หมอนี่...พวกเดียวกับพวกที่คฤหาส?
"อ่าใช่ ผมเป็นคนรู้จักของสเลนดี้น่ะ"
โซลยิ้มเมื่อเห็นว่าร่างบางเผลอหลุดหน้าประหลาดใจออกมาเมื่อเขาพูดออกไป
"ผมไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังความคิดของคุณนะครับ อย่าเข้าใจผิดล่ะ~"
โซลยิ้มอีกครั้ง เหมือนเดจาวูเพราะไพร์มพึงคิดว่าชายตรงหน้านั้นอ่านใจเธอได้เหมือนปีศาจหนวดนั่น
"ดูเหมือนคุณกำลังมีปัญหานะ"
โซลมองสำรวจร่างบางอย่างเงียบๆแต่มีหรือที่ไพร์มจะมองไม่เห็น หากแต่ปล่อยเลยตามเลยไปซะ
"หลงทางสินะครับ งั้นให้ผมพาไปส่งไหม? ผมมีธุระที่นั่นพอดี~"
ชายร่างสูงเสนอตัวพลางเดินเข้ามาใกล้ๆกับคนที่สูงในระดับสายตาของเขาพอดีด้วยรอยยิ้มบางๆ
ไพร์มไม่ตอบแต่ทำเพียงพยักหน้าเบาๆและเบี่ยงตัวหลบคนที่สูงกว่าอย่างจะสื่อว่าให้นำไป
โซลยิ้มกว้างอีกเล็กน้อยแล้วเดินนำออกไปโดยมีร่างบางเดินตามมาไม่ห่างมากนัก
นัยน์ตาสีอะเมทิสมองแผ่นหลังของผู้นำทางเงียบๆอย่างสงสัย
หมอนี่...ไม่ใช่มนุษย์
"อ่า ผมน่ะทั้งใช่และไม่ใช่มนุษย์นั่นแหละนะ~"
โซลหันมายิ้มให้ร่างบางที่จ้องเขม็งมาที่ตน
"เลิกอ่านใจสักที..."
ร่างเล็กบอกอย่างเคืองๆ
"แหม่ เรียกว่า'อ่าน'มันก็ไม่ถูกนะครับ เพราะผม'ได้ยินมันตลอดเวลา'เลยนี่นา"
ไพร์มมองสบกับนัยน์ตาสีโลหิตสักพักก่อนจะละออกมาแล้วเดินขึ้นไปตีคู่กับอีกฝ่ายแทน
โซลเพียงมองยิ้มๆและทำหน้าที่ผู้นำทางต่อไป
"จะว่าไปผมรู้สึกคุ้นหน้าคุณจัง เราเคยเจอกันมาก่อนรึเปล่า~?"
โซลเปิดประเด็นใหม่ขึ้นเพื่อไม่ให้บรรยากาศระหว่าทางมันเงียบเกินไป
ไพร์มนิ่งไปสักพักพลางมองใบหน้าคมคายของชายหนุ่มอย่างพิจารณา
"...ไม่"
"หรอครับ แปลกจังนะ~"
"..."
ร่างเล็กหยุดเดินยืนนิ่งอยู่กับที่อย่างกระทันหันทำให้ชายอีกคนหยุดมองอย่างสงสัย
"...บางที ข้าอาจเคยเจอกับเจ้าที่ไหนสักแห่งในโลก...สักช่วงเวลาของยุคสมัย...หรือเมืองสักเมือง อาณาจักรสักอาณาจักรก็ได้..."
ชายร่างเล็กแต่สูงโปร่งผู้งดงามกอดอกทำท่าครุ่นคิด เขาเองก็อยู่มาหลายยุคสมัย บางที่เขาอาจจะเคยเจออีกฝ่ายเข้าก็ได้
"งั้นหรอครับ? ดูท่าคุณจะอายุไม่น้อยเลยนะครับ"
โซลเลิกคิ้วอย่างแปลกใจและตื่นเต้นเล็กน้อย
เขาสัมผัสได้ว่าร่างบางนั้นไม่ธรรมดาและอาจจะไม่ใช่มนุษย์ด้วยซํ้า แต่พอได้ยินประโยคนี้แล้วมันทำให้เขาคิดว่าคนตรงหน้านั้นอยู่บนโลกนี้มานานแค่ไหน? คงจะนานมากจนเบื่อเลยล่ะมั้ง? ถ้างั้นก็คงต้องรู้จักสิ่งๆต่างๆมากมายในโลกตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันเลยสิ!?
"คุณ ถ้าให้ผมเดาคุณเป็นอมตะรึเปล่า?"
"..."
คำตอบที่ได้คือการหันหน้าหนีแต่เขาก็รู้ได้ว่าคำตอบคือ 'ใช่' อย่างแน่นอน
พรึบ!!
"ไพร์ม!....โซล?"
ขณะที่กำลังเดินเอื่อยๆ ร่างสูงในชุดสูทก็วาร์ปมาดักหน้าทั้งคู่ทันทีและมีอาการหอบเหนื่อยราวกับเพิ่งแข่งวิ่ง(วาร์ป)โอลิมปิ--มา
สเลนเดอร์แมนเรียกชายร่างบางผมดำยาวอย่างเจือความดีใจเล็กน้อยก่อนจะหันมาทำเสียเครียดใส่ชายที่ยืนหน้าสลอนอยู่ไม่ไกล
"โย่ว สเลน~"
"กลับไปคุยกันที่บ้าน..."
พรึบ!
"...นายควรจะเตือนผมนะว่าจะพาวาร์ปน่ะ"
ตอนนี้ทั้งสามได้วาร์ปกลับมาที่ห้องโถงในคฤหาสเป็นที่เรียบร้อยโดยมีเสียงบ่นพึมพัมจากชายหนุ่มร่างสูงที่ทำท่าราวกับจะอาเจียนออกมา
"แซลลี่ถามหาอยู่น่ะ"
สเลนเดอร์แมนเมินชายที่กำลังโอดครวญอยู่และหันไปบอกกับร่างบางที่ยืนนิ่งมองเขาอยู่
ไพร์มเลิกคิ้วเล็กน้อยแต่ก็ยอมออกไปดีๆโดยการวาร์ปออกไป...
"เธอ ไม่สิ เขาคนนั้นดูน่าสนใจดีนะ~"
โซล เมื่อเห็นว่าร่างบางออกไปแล้วก็หันมาฉีกยิ้มให้กับปีศาจร่างสูงกว่าสองเมตรโดยที่แววตาสีสดนั้นเรืองแสงออกมาวูบหนึ่ง
"นายมาทำอะไรที่นี่"
สเลนดี้ไม่สนท่าทีที่ชสนให้เท้ากระตุกนั่นและรวบรัดเข้าเรื่องทันที
"แหมๆ ใจร้อนจริงนะ"
โซลยิ้มให้กับ'คนรู้จักเก่าแก่'ก่อนจะหุบยิ้มลงอย่างรวดเร็วจนเกรงว่าคนอื่นจะตามอารมณ์เจ้าตัวไม่ทัน
"ดูเหมือนว่าพวก'ชาวสวรรค์'จะเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว"
นัยน์ตาสีแดงสดเรืองรองแข่งกับแสงไฟดูงดงามและน่าหวาดหวั่นในคราวเดียวกัน
สเลนเดอร์แมนนิ่งไปสักพักก่อนจะถามต่อ
"เป้าหมายล่ะ"
"ยังไม่แน่ใจ แต่ดูเหมือนว่าพวกนั้นกำลังค้นหาอะไรบางอย่างอยู่..."
โซลเงียบไปพลางเม้มปากเบาๆ
"อันนี้ผมก็ไม่ทราบว่าจริงรึเปล่า จากสายของผม...พวกมันกำลัง'จัดทัพสวรรค์'กันอย่างลับๆ ที่แม้แต่'พระผู้เป็นเจ้า'ก็ยังไม่ระแคะระคายอะไร...เป็นไปได้สองทางคือมันดำเนินการกันเองกับพระผู้เป็นเจ้านั้นสมรู้ร่วมคิดด้วย"
ข้อความยาวเหยียดถูกส่งต่อให้ปีศาจไร้หน้า
สเลนเดอร์แมนกอดอกอย่างครุ่นคิด
ชาวสวรรค์มักไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องบนพื้นโลก การที่มีชาวสวรรค์ไม่รู้กี่กองทัพร่วมมือกันปิดหูปิดตาพระเจ้าและเคลื่อนพลเองแบบนี้มันน่าสงสัย...
"ผมสงสัยว่าอาจจะเกี่ยวกับการปรากฏตัวของเขา"
โซลหมายถึงร่างบางที่ออกไปก่อนหน้านี้
สเลนเดอร์แทนหันมามองชายหนุ่มเล็กน้อย
มันก็เป็นไปได้...
ก็ไพร์มน่ะ...
"...'ทูตสวรรค์ต้องสาบ' "
"ห๊ะ!!!!"
โซลเบิกตากว้างแล้วเดินมาอยู่ด้านหน้าของร่างที่สูงกว่าสองเมตร
"เขาเป็นชาวสวรรค์งั้นหรอ!? แล้วอะไรนะ?? ต้องสาบ!!? นี่นายเก็บตัวหายนะมานะรู้รึเปล่า!!?"
"เงียบ!"
"อึก!"
"ฉันรู้ดีว่าตัวเองกำลังทำอะไร...ดูเหมือนว่าเขาจะ'ความจำเสื่อม'หลังจากสงครามเมื่อ2000ปีก่อน"
"สงครามศักดิ์สิทธ์น่ะนะ?? จำไม่ยักได้ว่า---เดี๋ยวนะ!"
"อ่า เขาคือผู้ที่หยุดสงครามนั่นและ"
" '12ปีก'นั่นน่ะหรอ!!?"
"อืม"
"นี่มันยิ่งกว่าหายนะแล้วนะ"
โซลกุมขมับอย่างเหนื่อยใจ
สงครามศักดิ์สิทธ์เป็นสงครามของเทพและปีศาจที่เกิดขึ้นเมื่อ2000ปีก่อน
ไม่มีใครทราบสาเหตุของสงคราม รู้แค่ว่ามีคำสั่งจัดทัพเพื่อโจมตีอีกฝ่ายเท่านั้น โดยผู้เริ่มคือฝ่ายสวรรค์
สงครามกินเวลายาวนานนับร้อยปีจู่ๆก็มีเทพหรือปีศาจ?ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางการฟาดฟันของทั้งสองฝ่าย
ร่างบอบบางแต่กลับสูงโปร่งงดงาม ผิวพรรณสีขาวไม่แพ้ปุยเมฆ เรือนผมสีดำขลับเงางามยาวจรดพื้น นัยน์ตาสีอะเมทิสเรียบเฉยที่ทำเพียงกวาดมองภาพสงครามราวกับกำลังมองมดปลวกตีกัน
และเหนือสิ่งอื่นใด 'ปีกทั้ง12' ที่กลางหลังนั่นต่างหากที่ดึงดูดสายตาของทั้งเหล่าเทพและปีศาจ
ปีกขนาดใหญ่ที่ซีกขวาเป็นสีดำทมิฬแต่ซีกซ้ายกลับมีสีขาวสว่าง
ปีกทั้ง12ที่ต่างกันทั้งซ้ายและขวาส่งกลิ่นอายและพลังที่แผ่ซ่านตัดกันอย่างน่าขนลุกทำให้กองทัพที่กำลังโรมรันต่างวางอาวุธและสิโรราบแด่ชายปริศนา
[กลับไปซะ]
เพียงสามคำที่ร่างผู้งดงาทเอ่ยออกมาทำให้ทั้งเทพและปีศาจต่่งเข่าอ่อนทรุดลงก้มหัวให้อย่างจำนน
หากแต่มีผู้หนึ่งที่ทระนงตน ยืนหยัดท้าทายผู้ที่ไม่ทราบว่าเป็นเทพหรือมาร
"เจ้าเทพต้องสาบน่าขยะแขยง!!!!"
จอมปีศาจผู้นำทัพได้โยนหอกที่อาบกลิ่นอายแสนชั่วร้ายดำมืดไปที่ร่างสูงโปร่งที่ยังคงลอยคว้างกลางอากาศอย่างไม่แยแส
เปรี้ยง!!!!!!
หอกทมิฬพุ่งปะทะกับบางสิ่งที่มองไม่เห็นก่อนถึงตัวของ12ปีกเพียงนิด
มือเรียวบางยกขึ้นตวัดเบาๆเปลี่ยนทิศทางของอาวุธนั้นหากแต่เขาก็สะดุ้งเล็กน้อยและหันขวับไปทางทิศที่ตัวเองปัดศาสตรานั้นไป
ตรงนั้น...เด็กมนุษย์!!!!?
เด็กมนุษย์ตัวน้อยมองไม่เห็นสงครามที่เกิดขึ้นเพราะมันถูกปิดกั้นจากภายนอก แต่หอกทมิฬนั้นมีพลังมากพอที่จะทะลวงผ่านเขตแดนไปสู่โลกมนุษย์ได้
ร่างของ12ปีกพลันปรากฏขึ้นดักหน้าหอกเล่มนั้นโดยไม่ทันตั้งตัว เขารับมันก่อนจะเบี่ยงมันไปอีกครั้ง คราวนี้เขาเบี่ยงมันไปที่หุบเขาใหญ่รกร้าง
ตู้ม!!!!!!!!
ผลคือภูเขาแยกเป็นสองลูกและร่างของ12ปีกก็ร่วงหล่นสู่พื้นโลก...
หลังจากนั้นสงครามก็สิ้นสุด แม่ทัพปีศาจสูญเสียอาวุธประจำกายจึงถูกเจ้านรกเฉดหัวทิ้ง
ชาวสวรรค์เสียประชากรไปกว่าครึ่งและทำให้โลกมนุษย์ปั่นป่วน ทั้งยังไม่สามารถจับกุม'นักโทษต้องสาบ'กลับมาได้หลังจากที่ตามหามากว่าพันปีจนถูกพระผู้เป็นเจ้าลงทัณฑ์จองจำทั้งสวรรค์
ส่วน12ปีกผู้ลึกลับก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย....
โซลนึกย้อนภาพสงครามเมื่อตอนนั้นก่อนจะถอนหายใจออกมา
ตอนนั้นเขาเพียงแค่'แอบมอง'อยู่ห่างๆจึงไม่ทราบรายละเอียดของ12ปีกนักเลยค่อนข้างเสียดายเล็กน้อย แต่เมื่อครู่นี้เขากลับได้เดินข้างกับบุคคลในตำนานแบบไม่รู้ตัวซะงั้น
"แล้ว จะเอาไงล่ะ ก่อสงครามอีกครั้งรึไง?"
"ไม่...เรายังไม่รู้เป้าหมายของพวกเขาอย่างชัดเจน...ดูไปก่อน"
สเลนเดอร์แมนเอ่ยเสียงเรียบ
"อ่าฮะ เอาล่ะผมต้องไปแล้ว ลากันแค้นี้นะ~"
โซลโบกมือน้อยๆก่อนจะถูกวาร์ปออกไปโดยฝีมือของปีศาจไร้หน้า
"เฮ้อ เกลียดเรื่องยุ่งยากจังน้าา"
สเลนดี้ถอนหายใจก่อนจะวาร์ปกลับห้องไปพักผ่อนสักงีบ
"ท่านนี้เป็น...ตัวปัญหาของแท้เลยนะ"
========================================================
อืม...รู้สึกว่าเล่นใหญ่ไป(=_=;)
ไรท์ไม่สบาย ปวดหัวเป็นไข้หวัดแถมด้วยอาการปวดหัวตุบๆกับประจำเดือนที่มาควบคู่อย่างกะแพ็คเกจซื้อ1แถม2(?)
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย