ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทองเนื้อเก้า

    ลำดับตอนที่ #28 : เยาวนารีต้องตกระหกระเหิน หามีราชญาณให้นั่งเพลิน จะต้องเดินไปถึงซึ่งนคร

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 229
      0
      10 เม.ย. 51

                    ที่เวียงทิฆัมพรนครในป่าหิมพานต์ พระธิดาไอศิกาเดินคุยกับมรกต อยากออกไปเดินเล่นบ้างไหมมรกต ไอศิกาพูด ไม่... เราอยากกลับบาดาลนคร นะไอศิกา พาเราออกไปจากป่าหิมพานต์นี่เถิดนะ มรกตพูด ถ้าเราเข้าออกเองได้ตามใจจะประสงค์ เราคงจะเข้าออกจากป่าหิมพานต์ทุกวัน เราคงจะพบเสด็จพ่อ เสด็จแม่ที่แท้จริงของเราแล้วหละ ไอศิกาหน้าเศร้าลง กลับไปก็ไม่มีอะไรหรอกมรกต เพราะว่านครบาดาลของเจ้า ไม่มีนาคราชเหลืออยู่ที่นั่นสักตัวเดียว เสด็จพ่อของเราได้ถือครองคุ้งน้ำนั่นแล้ว ปักษยุพูดพลางเดินเข้ามา ไม่จริง มรกตพูดอย่างไม่ยอมเชื่อ พี่ปักษยุ พระธิดาน้อยไอศิกาทัก เจ้าโกหกเรา ไม่มีทาง หากนครบาดาลไม่เหลือนาคราชที่นั่นสักตัว แล้วเสด็จพ่อ เสด็จแม่ของเราหละ ไหนจะน้องของเราอีก มรกตพูด พ่อเจ้าสิ้นที่ครุฑฑานครแล้ว ส่วนแม่เจ้า น้องเจ้า เราไม่รู้ ปักษยุพูด ไม่จริง... เสด็จพ่อ... พ่อเจ้าฆ่าพ่อเรา เราเกลียดเจ้า เกลียดพวกครุฑ พระธิดาน้อยมรกตกระแทกเสียงพลางร้องไห้ไป ไอศิกา... เอาพี่ชายเจ้าออกไปที เอาพี่ชายเจ้าออกไป มรกตร้องไห้ใหญ่ พี่ปักษยุออกไปก่อนเถอะเพคะ น้องจะคุยกับมรกตเอง ไอศิกาพูด ปักษยุก้มหน้าไม่ต่อปากต่อคำแล้วเดินออกไปจากตำหนักนั้นก่อน

                    พระธิดาน้อยมรกตร่ำไห้ เราไม่เชื่อ... เราไม่เชื่อปักษยุหรอกไอศิกา... มรกตน้ำตาไหลพราก มรกต... เจ้าต้องใจเย็นๆก่อน รู้ข่าวแล้วก็พาลโกรธพี่ปักษยุอย่างนั้น ไม่ได้อะไรขึ้นมาเลยนะ เจ้าจะทำอย่างไรต่อไป คิดอยากจะไปไหน จะไปอยู่กับใคร แล้วมีญาติที่ไหนรึไม่นอกจากที่บาดาล ไอศิกาถามมายาวเหยียด มรกตยิ่งน้ำตาไหล เราไม่อยากคิดสิ่งใดแล้วไอศิกา เราจะกลับนครบาดาล มรกตพูดทั้งน้ำตาที่อาบแก้ม ไม่มีใครพาเจ้าไปได้หรอกนะมรกต... นอกจาก พี่ปักษยุ ไอศิกาพูด

                    ที่หน้าตำหนัก พระธิดามรกตเดินออกมาพร้อมกับพระนัดดาไอศิกา พี่ปักษยุเพคะ... น้องวานไปส่งมรกตตามที่มรกตอยากจะไปด้วยนะเพคะ ไอศิกาพูด เจ้าไม่ต้องไปไหนแล้วหละมรกต หากเจ้าไม่อยากอยู่ในป่าหิมพานต์เช่นนี้ เจ้าก็ไม่อยู่ที่ครุฑฑานครก็ได้ เราจะทูลขอให้เสด็จพ่อ เลี้ยงเจ้าไว้เป็นพระธิดาบุญธรรมสักองค์ ปักษยุพูด เราจะกลับนครบาดาล มรกตพูดเสียงกร้าวแข็ง จะกลับได้ยังไง ก็บอกไปแล้วนี่ว่าที่นั่นหนะไม่มีใคร ขืนกลับไปก็ไม่เจอใครหรอก ปักษยุพูด ก็เราจะไป เราจะไปดูให้เห็นกับตา เราอยากเห็นซาก ของบาดาลนครที่ถูกพวกครุฑย่ำยี มรกตพูด ปักษยุถอนใจ ก็ได้ งั้นก็ตามใจเจ้า ปักษยุพูดด้วยน้ำเสียงรำคาญต่อความดื้อรั้นของพระธิดาบาดาลพระองค์นี้

                    ที่ใต้บาดาล เมืองทั้งเมืองเงียบเชียบ มีเพียงแค่พระธิดามรกต และ พระโอรสปักษยุที่เสด็จพระราชดำเนินอยู่ เสด็จพ่อ... เสด็จพ่อเพคะ เสด็จแม่เพคะ ประทับอยู่ที่นี่รึไม่... น้องแก้วไพฑูรย์ น้องมณีกาฬ... มีใครได้ยินเสียงเราบ้าง พระธิดามรกตส่งเสียงไปทั่วพระราชฐาน พระธิดาน้อยทรงเสด็จตามหาทุกๆคนไปทั่วแต่ไม่มีแม้เงา พระธิดาน้อยเริ่มน้ำตาไหลทรงทรุดตัวลงอย่างอ่อนแรง เราบอกแล้วไง ว่าไม่เจอใครหรอก ปักษยุพูด ไม่ต้องมายุ่งกับเราพระธิดาน้อยตั้งพระทัยหมายมุ่งอาฆาตมาตรร้ายต่อปักษยุพระโอรสครุฑ เจ้าจะไปที่ไหน... เราจะพาเจ้าไปส่งทุกทีที่เจ้าอยากไป ปักษยุพูด พาเรามาจากที่ไหน ก็พาเราไปส่งที่นั่น... แล้วจำเอาไว้ จำชื่อเรา มรกตรจนาดีคนนี้จะไม่มีวันให้อภัยกับพวกพญาครุฑ ต่อให้เจ้าทำดีกับเราแค่ไหน เราก็จะไม่เห็นความดีของเจ้าอยู่ในสายตา มรกตพูด เราไม่ได้อยากจะดีกับเจ้านัก เพียงแต่อยากจะรับผิดชอบ ตามประสาผู้ผิด... ไปได้แล้ว ปักษยุพูด

                    ย่ำเย็นแล้ว ที่นครมณีนพรัตนาพระตำหนักพระธิดานพมาศ เสด็จแม่... พระธิดาน้อยมรกตวิ่งเข้ามาสู่อ้อมอกของพระมารดา มรกต... เจ้าจริงๆด้วย มรกตลูกรักของแม่ นพมาศกอดลูกสาวคนแรกไว้แน่นด้วยความดีอกดีใจเป็นหนักหนาด้วยคิดว่าชาตินี้คงมิได้พบเจอกันอีกแล้ว น้ำตาแห่งความปลื้มปีติยินดีใจก็ยิ่งรินไหลอาบแก้ว พระธิดาน้อยถอยออกจากอ้อมพระกรของพระมารดาแล้วก้มลงกราบลงที่ตักทั้งน้ำตา นพมาศร้องไห้คว้าเอาร่างลูกสาวมากอดไว้แนบพระอุระ มรกตลูกแม่... ไหนดูซิลูก บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า เป็นยังไงบ้าง แม่คิดว่าจะไม่ได้เจอลูกอีกแล้วรู้ไหม ดวงใจของแม่ นพมาศพูดทั้งน้ำตา พี่มรกตเพคะ พระธิดาแก้วไพฑูรย์ และ พระธิดามณีกาฬเรียกชื่อพระพี่นางด้วยความยินดีเช่นกัน มรกตหันมาแล้วกอดน้องทั้งสองคนเอาไว้

                    ที่พนาวรรษานคร พระตำหนักพระมเหสีบุษรา ในนั้นมีแต่เพียงพระมเหสีบุษรา และ เจ้าขุนกล้าคนทรยศ ขุนกล้า... เรามีพระสวามีแล้ว เรามีลูกแล้ว ถึงแม้ว่าเจ้าจะสังหารพระสวามี แต่เจ้าก็ไม่ควรทำเช่นนี้ เจ้าควรที่จะให้เกียรติเราบ้าง บุษราพูดทั้งน้ำแล้วถอยห่างเจ้าขุนกล้าด้วยความหวาดกลัว อย่าดิ้นรนที่หาทางรอดหรอกพระเจ้าข้า คืนนี้ พระนางต่อเป็นของข้าพระองค์ ขุนกล้าพูดแล้วเข้ามาประชิดตัวนาง บุษราพยายามขัดขืนแต่มีอาจสู้กำลังของเจ้าขุนกล้าได้จนกระทั่งมีแจกันอันใหญ่ถูกทุ่มใส่หัวไอ้เจ้าขุนกล้าอย่างแรง ขุนกล้ามีความรู้สึกชาๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรไป ขุนกล้าหันมาจ้องผู้ที่ทุ่มแจกันมา มีเพียงร่างเด็กหญิงน้อยใจกล้าพระราชธิดาพิมพ์เพทาย พระธิดา... พระองค์ก็แค่นี้ คิดเหรอว่าจะช่วยเหลือพระมารดาได้ แม้แต่พระองค์เองยังอาจดูแลมิได้เลย ทรงจำไว้เถิด อีกน้อย หากเจริญพระชันษา พระธิดาน้อยๆพระองค์นี้ ก็จะต้องเป็นของข้าพระองค์เช่นที่พระมารดากำลังจะเป็น ขุนกล้าพูด กริยาวาจา และความคิดต่ำทราม โฉดชั่วเสียยิ่งกว่าขุนโจร อย่าได้มาตรหมายว่าจะได้อะไรไปมากกว่านี้อีกเลยไอ้ขุนกล้า หมายรอให้เราเติบใหญ่นารึ อย่าได้คิดเป็นอันขาด ผีสางคงไม่เอาเจ้าไว้นานถึงปานนั้น อีกไม่นานเกินรอ เราก็อาจจะได้เห็นศพเจ้าแล้ว พิมพ์เพทายพูด ใครกัน... ใครที่จะสังหารข้าพระองค์ พระธิดาองค์น้อยๆนี่รึ ขุนกล้ายอกย้อนพลางเชยคางพระธิดาน้อย พิมพ์เพทายปัดมือสกปรกนั่นทิ้งไปแล้วกำมือแน่นด้วยความแค้นที่ฝังแน่นอยู่ในอก พิมพ์เพทาย... พิมพ์เพทายหนีไปลูก พิมพ์เพทายลูกแม่... หนีไปไม่ต้องเป็นห่วงแม่ พาปีตมณีไปที่มณีนพรัตนานคร แม่เชื่อว่าพวกเจ้าไปถึงที่นั่นได้ ไม่ต้องห่วงแม่นะลูก ไม่ต้องห่วงแม่ พระมเหสีบุษราร้องบอกลูก เสด็จแม่... พิมพ์เพทายเรียกอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมพระมารดาถึงให้ทำเช่นนั้น พระธิดาน้อยถึงกับน้ำตาไหลทรงลำบากพระทัยที่จะทำตามพระกระแสรับสั่งพระมารดา พิมพ์เพทายเหลียวแลมองไปเห็นแจกันยังอยู่อีกใบก็เข้าไปคว้าเอาแจกันมาทุ่มใส่เจ้าขุนกล้าอีก เสด็จเพคะเสด็จแม่ พิมพ์เพทายรีบเข้าไปหาพระมารดาแล้วสองแม่ลูกก็วิ่งออกไปจากตำหนักนั้น ตามไปจับพวกมันให้ได้ ขุนกล้าร้องสั่งพวกทหารที่กรูกันเข้ามาดู

                    สามแม่ลูก มเหสีบุษรา พระธิดาพิมพ์เพทาย พระธิดาปีตามณีหนีเอาตัวรอดออกมาจากตำหนักได้แต่ก็ยังออกจากพนาวรรษานครไม่ได้ ทั้งสามพระองค์ทรงหลบอยู่ที่พุ่มไม้ บุษราโอบกอดลูกทั้งสองไว้แน่น จำเอาเถอะลูกแม่ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เจ้าจะต้องหนีออกไปจากที่นี่ให้ได้ ถึงแม้ว่าแม่จะออกไปไม่ได้ แต่ก็ขอให้ลูกของแม่ปลอดภัย เท่านี้แม่ก็พอใจนัก บุษราพูด แล้วลูกจะปล่อยให้เสด็จแม่อยู่ท่ามกลางศัตรูเพียงพระองค์เดียวได้ยังไงหละเพคะ เราต้องไปด้วยกันสิ ใช่ไหมน้องปีตมณี พิมพ์เพทายพูด เสด็จแม่... พระพี่นาง ปีตมณีกลัวเหลือเกินเพคะ เราจะไปหาเสด็จปู่ เสด็จย่าได้ไหม ปีตมณีสะอึกสะอื้น พิมพ์เพทาย... ลูกเป็นคนเข้มแข็ง ลูกเป็นคนเก่ง ลูกต้องพาน้อง หนีไปให้ได้ ไปตอนนี้เลยนะลูก แม่จะล่อพวกมัน ให้ตามแม่ไปอีกทาง ถ้ายังมีบุญ มีวาสนา แม่จะตามไปหาเจ้า ที่มณีนพรัตนานคร บุษราพูดทั้งน้ำตา เสด็จแม่... ไม่นะเพคะ พิมพ์เพทายปฏิเสธ แม่บอกให้ไปไง พิมพ์เพทายไม่รักแม่แล้วเหรอลูก ลูกถึงไม่เชื่อแม่ บุษราพูด เพราะลูกรักเสด็จแม่ไงเพคะ ลูกถึงไม่ไป พิมพ์เพทายกอดพระมารดาไว้แน่น พิมพ์เพทาย... พาน้องไป หากลูกไม่ไป แม่จะฆ่าตัวตายตรงหน้าเจ้าเนี่ยแหละนางบุษราพูดพลางเอาผ้าคลุมกายมาพันคอเหมือนจะรัดคอตัวเองให้ตายไป อย่าทำเช่นนั้นนะเพคะเสด็จแม่ อย่าทำ... ปีตมณีกอดพระมารดาไว้แน่น สามแม่ลูกกอดกันร้องไห้ ไปเถอะลูก... แม่สัญญา แม่จะตามพวกเจ้าไปให้ได้ บุษราพูดทั้งน้ำตาก่อนจะคลายกอดออก

                                    อัสสุชลท้นท่วมทั้งดวงเนตร                             ต้องระเห็จจากพาราเคยอาศัย

                    ต้องจำจากมารดาที่รักไป                                                    ฤๅกรรมใดเข้าย้ำซ้ำเติมกัน

                                    พิมพ์เพทายธิดาน้อยละห้อยหา                        พระมารดาทรงคุณบุญถวัลย์

                    ต้องจากจรระเห็จระเหเร่ไปพลัน                                     ในไพรวัณจะน่าหวั่นก็ต้องเดิน

                                    หนึ่งชีวิตน้องนั้นฝากที่พี่                                  เยาวนารีต้องตกระหกระเหิน

                    หาได้มีราชญาณให้นั่งเพลิน                                            จะต้องเดินไปถึงซึ่งนคร

                                    ลำบากใจจิตยากจะจากแม่                  หวั่นดวงแดแต่ต้องหวังดั่งแม่สอน

                    บุษราก็มองลูกด้วยอาวรณ์                                 เหมือนทุกข์ร้อนจะไม่ผ่อนเป็นเย็นลง

                                    จงดำเนินไปเถิดนะลูกแม่                                  อย่าเหลียวแลห่วงแม่เจ้าจะหลง

                    แม่สละแล้วลูกอย่าพะวง                                                   หากบุญคงแม่จะตามไปพบพาน

                    รุ่งทิวา... จงมีความหวัง หากว่ายังมีชีวิตอยู่ เสียงนี้เป็นเสียงของพระมเหสีบุษราที่พระธิดาน้อยระลึกไว้ในใจขณะเดินดงกับพระขนิษฐา เสด็จแม่จะเป็นอย่างไรบ้างนะเพคะพระพี่นาง ปีตมณีพูดทั้งน้ำตา พิมพ์เพทายมามองตาน้องอย่างไม่มีคำตอบที่เห็นได้ในแววตานั้นมีทั้งความเศร้า และ ความเจ็บแค้นระคนกันไปหมดในหยาดหยดอัสสุชลที่คลออยู่ในดวงเนตรราชธิดาน้อยผู้สวมแหวนเพทาย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×