ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทองเนื้อเก้า

    ลำดับตอนที่ #9 : พ่ายแพ้เพราะศักดิ์ศรี

    • อัปเดตล่าสุด 10 ก.พ. 51


                                    ดึกดารารายดาษดื่นระยับ                                   ดาวประดับประทับฟ้าเวหาใหญ่

    ห้วงนภาแม้ว่างามสักเพียงใด                                           ธราไซร้มืดมนหม่นชีวา

                                    ยังโรมรันฟันแทงทั้งแผลงศร                           ชีพม้วยมรณ์ดับสูญพันธุ์ยักษา

    นภราชเรืองเวทเดชเดชา                                                   กษัตราธิราชยักษ์รักษ์ศักดิ์ตน

                                    ครั้นเมื่อว่าฝ่ายยักษ์จักพ่ายแพ้                           ในดวงแดเจ้าจอมยักษ์ชักสับสน

    ทางกองหน้ากองกลางต่างกังวล                                      เดชะดลให้ตายตกตามตามกัน

                                    เหลือกองหลังยังช่วยด้วยใจภักดิ์                     สานสมัครจงรักมิแปรผัน

    สุดจะต้านแต่จะขอมอบชีวัน                                             ดวงแดหยันบั่นสิ้นภินท์ไม่เกรง

                                    ขอเชิดชูเกียรติองค์ทรงศักดิ์ศรี                         จอมทัพที่ทรงสุภาพมิข่มเหง

    ทั้งวางตัวติดดินเป็นกันเอง                                                บุกเตลงฟาดฟัดกับไพรี

                                    แม้จะพ่ายฤๅชนะก็จักสู้                                      กับศัตรูด้วยใจไม่แหนงหนี

    เลือดกี่หยดในกายเราที่มี                                                    พร้อมยอมพลีเพื่อองค์ทรงศักดา

                    ทหารยักษ์กองหลังที่เหลืออยู่ต่างถวายชีวิตต่อองค์เหนือหัวรติวุฒิแห่งอสุรเวหานคร ต่างพากันมาล้อมรอบคชไท้เป็นกำแพงเพื่อป้องกัน ทหาร ทุกคนจะถวายชีวิตใช่ไหม วิรัชกรพูด เฮ้ เสียงตอบรับกึกก้องกัมปนาท แต่งทุกคน จะต้องรบภายใต้บังคับบัญชาของเรา หากเราไม่ให้ใช้พระเวท ก็อย่าใช้ รติวุฒิประก้องอย่างหนักแน่นเหนือปฤษฎางค์เจ้าคชาธารนั้น เฮ้ เสียงตอบรับหนักแน่นพอๆกัน นภราชบุกเดี่ยวเข้ามาตรงหน้าสบเนตรกับรติวุฒิด้วยแววตาคมกริบเชือดเฉือนกันทั้งสองฝ่าย

                    พระโอรสนภราชบุกบั่นเข้ามา พิคาดฟาดฟันเหล่าทหารยักษ์ที่เคร่งครัดในคำสั่งทั้งปวงจนราบคาบเหลือเพียงหนึ่งเดียว เสด็จหนีก่อนเถอะพระเจ้าข้า วิรัชกรพูด รติวุฒิเสด็จลงจากหลังพญาคชสารแล้วหลบหนีเข้าป่าไป นภราชโยนดาบทิ้งแล้วรัวลูกไฟตาม วิรัชกรวิ่งไปพร้อมกับรติวุฒิ วิรัชกร เจ้ากลับไปที่อสุรเวหานคร พาสร้อยสายเพชร และ จันทรัตน์หนีไปที่มณีนพรัตนาก่อน หากนางถาม ก็ห้ามตอบว่าเกิดอะไรขึ้น แค่บอกนางว่า เราแพ้แล้ว ก็พอ รติวุฒิพูดแล้วพระองค์... วิรัชกรพูด เราจะต่อสู้กับนภราช ตัวต่อตัว รติวุฒิพูด พระเจ้าข้า ขอพรจากองค์พระมเหสีสร้อยสายเพชรจงช่วยคุ้มครองพระองค์ด้วย วิรัชกรพูดพลางแยกตัวออกไปพลางพาให้นภราชคะนึงถึงขวัญใจที่อสุรเวหานคร

    ในห้วงคำนึง เดี๋ยวเพคะ...สร้อยสายเพชรพูด รติวุฒิหยุดเดิน ไม่ว่าจะไปรบกับใคร ขอให้พระองค์ทรงคลาดแคล้ว จากภยันตรายทั้งปวง แล้วรีบเสด็จกลับมานะเพคะ สร้อยสายเพชรพูด รติวุฒิแอบยิ้มด้วยความดีอกดีใจที่อย่างน้อย นางอันเป็นที่รัก ก็ยังเป็นห่วงพระองค์อยู่ รติวุฒิหันกลับมาแล้วสวมกอดนางไว้ พี่รักษาชีวิตให้รอดกลับมาให้ได้ รติวุฒิพูด

    ลูกไฟถูกส่งมาเฉียดร่างรติวุฒิพอสะกิดให้หลุดจากภวังค์ได้ รติวุฒิพรวดยืนขึ้น การต่อสู้ครั้งนี้ เราอยากให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์และยุติธรรมที่สุด เราจะสู้กันตัวต่อตัว โดยไม่ใช้พระเวท รติวุฒิพูด แต่ท่านเป็นยักษ์ เรื่องของพลังกำลังย่อมเหนือมนุษย์ เราว่ายักษ์อย่างท่านคงมีศักดิ์ศรีพอที่จะไม่เอาเปรียบมนุษย์อย่างเรา แล้วจะเอายังไง เราตกลงทุกข้อเสนอ รติวุฒิพูด งั้นก็ให้เราใช้พระเวทได้ เป็นการต่อรองที่ดูไม่สมเหตุสมผล แต่กษัตริย์ ตรัสแล้วย่อมไม่คืนคำ บอกว่าตกลงทุกข้อเสนอ ก็จำต้องตกลง ได้ รติวุฒิพูด นภราชไม่รอช้ารวมพลังไว้ในมือพลางรัวใส่รติวุฒิทันที รติวุฒิกระโดดหลบแทบไม่ทัน นภราชกำหมัดแน่นเหมือนแสงสีเพลิงเปล่งออกมาจากหมัด นภราชกำลังจะใช้หมัดนั้นกับรติวุฒิ รติวุฒิหลบไปด้านข้างแล้วคว้ามือไว้พลางบีบด้วยพละกำลังของยักษ์ นภราชถึงกับซ่านไปทั้งทั้งตัว และรวบรวมกำลังที่เหลืออยู่พอที่จะเงื้อมืออีกข้างขึ้นมาก็กำลูกๆไฟไว้แล้วขว้างมาที่รติวุฒิพลัน พลังอำนาจนั้นทำเอารติวุฒิทรุดลง ได้ทีนภราชรีบซ้ำด้วยพระเวทแล้วคว้าร่างที่อ่อนไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาพลางเหวี่ยงไปติดต้นไม้ รติวุฒิทรุดหนักแทบขาดใจ พี่รักษาชีวิตให้รอดกลับมาให้ได้ เสียงนี้กลับดังขึ้นในหู รติวุฒิพอมีแรงที่จะหยัดตัวขึ้นได้จึงรีบเร้นกายหายไปในพนาในยามราตรีกาล นภราชวิ่งตามพลางมองหา แต่ก็ไม่มีแม้เงา

    อรุณรุ่ง ณ อสุรเวหานคร ไม่จริง... องค์เหนือหัวรติวุฒิรับสั่งให้เรารอจนครบเจ็ดวัน นี่แค่สามวัน เราจะรอพระองค์ท่าน สร้อยสายเพชรพูดอย่างดื้อดึง องค์เหนือหัวให้ข้าพระองค์ทูลเชิญเสด็จไปที่มณีนพรัตนา ในเมื่อพระมเหสีมิได้เต็มใจเสด็จมาที่นี่แต่แรก จะทรงดื้อดึงอยู่รอองค์เหนือหัวทำไม วิรัชกรพูด แล้วองค์เหนือหัวของเจ้าเป็นยังไงบ้างหละ เค้าบาดเจ็บไหม แล้วเค้าสู้กับใคร แล้วทำไมเค้าถึงแพ้ สร้อยสายเพชรพูด องค์เหนือหัวรับสั่งมิให้ข้าพระองค์กราบทูลสิ่งใดนอกจากทูลว่า ทรงแพ้แล้วพระเจ้าข้า วิรัชกรพูด หมายความว่ายังไง ทำไมพระองค์ถึงไม่ให้บอก หรือว่า... พระองค์จะ... สร้อยสายเพชรแทบจะหมดสติไป ไม่ ไม่ไปไหนทั้งนั้น... เราจะรอพระองค์ก่อน สร้อยสายเพชรพูด

    นครหนึ่ง กลางท้องพระโรง กนกนาทกษัตริย์ และ บุษรามเหสีที่ทรงพระครรภ์อยู่นั่งเหนือพระแท่นบัลลังก์แห่งนครานั้น ทูลองค์เหนือหัว และ พระมเหสี มีคนพบยักษ์บาดเจ็บอยู่ที่ชายแดนนครพนาวรรษาของเรา จึงพามาที่นี่พระเจ้าข้า มหาดเล็กกราบทูล ให้เข้ามา กนกนาทพูด ทันทีที่ยักษ์ตนนั้นถูกหิ้วปีกเข้ามา องค์เหนือหัวลุกขึ้นยืน รติวุฒิ... กนกนาทเรียก โอ๊ย... โอ๊ย...เจ็บท้อง โอ๊ยไม่ไหวแล้วเพคะ เจ้าพี่ ลูกของเรา ลูกของเรากำลังจะเกิดแล้วเพคะ บุษรามเหสีรับสั่ง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×