คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : พ่ายแพ้เพราะศักดิ์ศรี
ดึกดารารายดาษดื่นระยับ ดาวประดับประทับฟ้าเวหาใหญ่
ห้วงนภาแม้ว่างามสักเพียงใด ธราไซร้มืดมนหม่นชีวา
ยังโรมรันฟันแทงทั้งแผลงศร ชีพม้วยมรณ์ดับสูญพันธุ์ยักษา
นภราชเรืองเวทเดชเดชา กษัตราธิราชยักษ์รักษ์ศักดิ์ตน
ครั้นเมื่อว่าฝ่ายยักษ์จักพ่ายแพ้ ในดวงแดเจ้าจอมยักษ์ชักสับสน
ทางกองหน้ากองกลางต่างกังวล เดชะดลให้ตายตกตามตามกัน
เหลือกองหลังยังช่วยด้วยใจภักดิ์ สานสมัครจงรักมิแปรผัน
สุดจะต้านแต่จะขอมอบชีวัน ดวงแดหยันบั่นสิ้นภินท์ไม่เกรง
ขอเชิดชูเกียรติองค์ทรงศักดิ์ศรี จอมทัพที่ทรงสุภาพมิข่มเหง
ทั้งวางตัวติดดินเป็นกันเอง บุกเตลงฟาดฟัดกับไพรี
แม้จะพ่ายฤๅชนะก็จักสู้ กับศัตรูด้วยใจไม่แหนงหนี
เลือดกี่หยดในกายเราที่มี พร้อมยอมพลีเพื่อองค์ทรงศักดา
ทหารยักษ์กองหลังที่เหลืออยู่ต่างถวายชีวิตต่อองค์เหนือหัวรติวุฒิแห่งอสุรเวหานคร ต่างพากันมาล้อมรอบคชไท้เป็นกำแพงเพื่อป้องกัน “ทหาร ทุกคนจะถวายชีวิตใช่ไหม” วิรัชกรพูด “เฮ้” เสียงตอบรับกึกก้องกัมปนาท “แต่งทุกคน จะต้องรบภายใต้บังคับบัญชาของเรา หากเราไม่ให้ใช้พระเวท ก็อย่าใช้” รติวุฒิประก้องอย่างหนักแน่นเหนือปฤษฎางค์เจ้าคชาธารนั้น “เฮ้” เสียงตอบรับหนักแน่นพอๆกัน นภราชบุกเดี่ยวเข้ามาตรงหน้าสบเนตรกับรติวุฒิด้วยแววตาคมกริบเชือดเฉือนกันทั้งสองฝ่าย
พระโอรสนภราชบุกบั่นเข้ามา พิคาดฟาดฟันเหล่าทหารยักษ์ที่เคร่งครัดในคำสั่งทั้งปวงจนราบคาบเหลือเพียงหนึ่งเดียว “เสด็จหนีก่อนเถอะพระเจ้าข้า” วิรัชกรพูด รติวุฒิเสด็จลงจากหลังพญาคชสารแล้วหลบหนีเข้าป่าไป นภราชโยนดาบทิ้งแล้วรัวลูกไฟตาม วิรัชกรวิ่งไปพร้อมกับรติวุฒิ “วิรัชกร เจ้ากลับไปที่อสุรเวหานคร พาสร้อยสายเพชร และ จันทรัตน์หนีไปที่มณีนพรัตนาก่อน หากนางถาม ก็ห้ามตอบว่าเกิดอะไรขึ้น แค่บอกนางว่า เราแพ้แล้ว ก็พอ” รติวุฒิพูด “แล้วพระองค์...” วิรัชกรพูด “เราจะต่อสู้กับนภราช ตัวต่อตัว” รติวุฒิพูด “พระเจ้าข้า ขอพรจากองค์พระมเหสีสร้อยสายเพชรจงช่วยคุ้มครองพระองค์ด้วย” วิรัชกรพูดพลางแยกตัวออกไปพลางพาให้นภราชคะนึงถึงขวัญใจที่อสุรเวหานคร
ในห้วงคำนึง “เดี๋ยวเพคะ...” สร้อยสายเพชรพูด รติวุฒิหยุดเดิน “ไม่ว่าจะไปรบกับใคร ขอให้พระองค์ทรงคลาดแคล้ว จากภยันตรายทั้งปวง แล้วรีบเสด็จกลับมานะเพคะ” สร้อยสายเพชรพูด รติวุฒิแอบยิ้มด้วยความดีอกดีใจที่อย่างน้อย นางอันเป็นที่รัก ก็ยังเป็นห่วงพระองค์อยู่ รติวุฒิหันกลับมาแล้วสวมกอดนางไว้ “พี่รักษาชีวิตให้รอดกลับมาให้ได้” รติวุฒิพูด
ลูกไฟถูกส่งมาเฉียดร่างรติวุฒิพอสะกิดให้หลุดจากภวังค์ได้ รติวุฒิพรวดยืนขึ้น “การต่อสู้ครั้งนี้ เราอยากให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์และยุติธรรมที่สุด เราจะสู้กันตัวต่อตัว โดยไม่ใช้พระเวท” รติวุฒิพูด “แต่ท่านเป็นยักษ์ เรื่องของพลังกำลังย่อมเหนือมนุษย์ เราว่ายักษ์อย่างท่านคงมีศักดิ์ศรีพอที่จะไม่เอาเปรียบมนุษย์อย่างเรา “แล้วจะเอายังไง เราตกลงทุกข้อเสนอ” รติวุฒิพูด “งั้นก็ให้เราใช้พระเวทได้” เป็นการต่อรองที่ดูไม่สมเหตุสมผล แต่กษัตริย์ ตรัสแล้วย่อมไม่คืนคำ บอกว่าตกลงทุกข้อเสนอ ก็จำต้องตกลง “ได้” รติวุฒิพูด นภราชไม่รอช้ารวมพลังไว้ในมือพลางรัวใส่รติวุฒิทันที รติวุฒิกระโดดหลบแทบไม่ทัน นภราชกำหมัดแน่นเหมือนแสงสีเพลิงเปล่งออกมาจากหมัด นภราชกำลังจะใช้หมัดนั้นกับรติวุฒิ รติวุฒิหลบไปด้านข้างแล้วคว้ามือไว้พลางบีบด้วยพละกำลังของยักษ์ นภราชถึงกับซ่านไปทั้งทั้งตัว และรวบรวมกำลังที่เหลืออยู่พอที่จะเงื้อมืออีกข้างขึ้นมาก็กำลูกๆไฟไว้แล้วขว้างมาที่รติวุฒิพลัน พลังอำนาจนั้นทำเอารติวุฒิทรุดลง ได้ทีนภราชรีบซ้ำด้วยพระเวทแล้วคว้าร่างที่อ่อนไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาพลางเหวี่ยงไปติดต้นไม้ รติวุฒิทรุดหนักแทบขาดใจ “พี่รักษาชีวิตให้รอดกลับมาให้ได้” เสียงนี้กลับดังขึ้นในหู รติวุฒิพอมีแรงที่จะหยัดตัวขึ้นได้จึงรีบเร้นกายหายไปในพนาในยามราตรีกาล นภราชวิ่งตามพลางมองหา แต่ก็ไม่มีแม้เงา
อรุณรุ่ง ณ อสุรเวหานคร “ไม่จริง... องค์เหนือหัวรติวุฒิรับสั่งให้เรารอจนครบเจ็ดวัน นี่แค่สามวัน เราจะรอพระองค์ท่าน” สร้อยสายเพชรพูดอย่างดื้อดึง “องค์เหนือหัวให้ข้าพระองค์ทูลเชิญเสด็จไปที่มณีนพรัตนา ในเมื่อพระมเหสีมิได้เต็มใจเสด็จมาที่นี่แต่แรก จะทรงดื้อดึงอยู่รอองค์เหนือหัวทำไม” วิรัชกรพูด “แล้วองค์เหนือหัวของเจ้าเป็นยังไงบ้างหละ เค้าบาดเจ็บไหม แล้วเค้าสู้กับใคร แล้วทำไมเค้าถึงแพ้” สร้อยสายเพชรพูด “องค์เหนือหัวรับสั่งมิให้ข้าพระองค์กราบทูลสิ่งใดนอกจากทูลว่า ทรงแพ้แล้วพระเจ้าข้า” วิรัชกรพูด “หมายความว่ายังไง ทำไมพระองค์ถึงไม่ให้บอก หรือว่า... พระองค์จะ...” สร้อยสายเพชรแทบจะหมดสติไป “ไม่ ไม่ไปไหนทั้งนั้น... เราจะรอพระองค์ก่อน” สร้อยสายเพชรพูด
นครหนึ่ง กลางท้องพระโรง กนกนาทกษัตริย์ และ บุษรามเหสีที่ทรงพระครรภ์อยู่นั่งเหนือพระแท่นบัลลังก์แห่งนครานั้น “ทูลองค์เหนือหัว และ พระมเหสี มีคนพบยักษ์บาดเจ็บอยู่ที่ชายแดนนครพนาวรรษาของเรา จึงพามาที่นี่พระเจ้าข้า” มหาดเล็กกราบทูล “ให้เข้ามา” กนกนาทพูด ทันทีที่ยักษ์ตนนั้นถูกหิ้วปีกเข้ามา องค์เหนือหัวลุกขึ้นยืน “รติวุฒิ...” กนกนาทเรียก “โอ๊ย... โอ๊ย...เจ็บท้อง โอ๊ยไม่ไหวแล้วเพคะ เจ้าพี่ ลูกของเรา ลูกของเรากำลังจะเกิดแล้วเพคะ” บุษรามเหสีรับสั่ง
ความคิดเห็น