คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ช่วยเหลือพระมารดา บาดาลนคร
ในป่าพุทธิกรเห็นผลไม้บนต้นไม้ก็เรียกธนูออกมา พุทธิกรแผลงศรไปที่ผลไม้ลูกน้อย ผลไม้ลูกนั้นร่วงตกลงมา พุทธิกรเดินเข้ามาเก็บผลไม้ขึ้นมา มีศรปักอยู่สองศร “นี่เรายิงผลไม้นั่นได้ก่อนนะ” เสียงหนึ่งโต้เถียงมา พุทธิกรมองดูเจ้าของเสียง “เราเก็บได้ก่อน” พุทธิกรพูด “เป็นผู้ชายอะไร แค่นี้เสียสละไม่ได้เหรอ” วารพุธพูด “ก็แค่ผลไม้ลูกเดียวหนะ” พุทธิกรพูด “ก็เพราว่าแค่ผลไม้นั่นแหละ ผลไม้ลูกเดียวยังเสียสละไม่ได้ แล้วเรื่องใหญ่โตจะหวังอะไรจากเจ้าได้” วารพุธพูด พุทธิกรสังเกตเห็นสร้อยคอที่วารพุธสวมอยู่ “สุรีย์รินทร์” พุทธิกรพูดขึ้นเบาๆ “เจ้ารู้จักเค้าด้วยเหรอ” วารพุธพูด “เราเป็นอีกร่างหนึ่งของสุริโย” พุทธิกรพูด “เราก็เป็นอีกร่างหนึ่งของสุรีย์รินทร์” วารพุธพูด ม้าเงิน และ มาทองบินออกมาจากย่าม “อ่าวม้าทอง” ม้าเงินเอ่ยขึ้น “ม้าเงิน” ม้าทองพูด ม้าน้อยทั้งสองทักทายกัน “พี่ม้ารู้จักกันด้วยเหรอ” พุทธิกรพูด “รู้จักสิ สนิทเลยหละ” ม้าเงินพูด “ดีจัง พระโอรสกับพระธิดาพบกันแล้ว” ม้าทองพูด “เราชื่อพุทธิกร” พุทธิกรพูด “เราไม่ได้อยากรู้จักเจ้า” วารพุธพูด “แต่เราอยากรู้จักเจ้า” พุทธิกรพูด “นี่พระธิดาวารพุธพระเจ้าข้า” ม้าทองพูด “พี่ม้า... บอกเค้าทำไม” วารพุธพูด “พระโอรส และ พระธิดาต้องทำหน้าที่ร่วมกัน ต้องเดินทางไปด้วยกันนะพระเจ้าข้า” ม้าเงินพูด “เราไม่ไป” พุทธิกร กับ วารพุธพูดเป็นเสียงเดียวกัน “เราไม่เดินทางกับผู้หญิง นอกจากเสด็จแม่” พุทธิกรพูด “เราก็จะไม่เดินทางร่วมกับคนไร้ศีลธรรม ไม่รู้จักการเสียสละ” วารพุธพูด และกระโดดขึ้นเหาะไป “เดี๋ยวสิพระธิดา” ม้าทองพูดและบินตามไป “พระโอรส คุยกับใครอยู่เหรอ” มัจฉาวิ่งมา “ไม่ใช่เรื่องของเจ้า” พุทธิกรพูด
กลางป่า วารพุธกระโดดลงมา “พระธิดาทำไมดื้อแบบนี้ มันคือหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบนะพระเจ้าข้า” ม้าทองพูด “เดี๋ยวนี้พี่ม้าทองว่าเราเหรอ” วารพุธพูด “ปล่าวเลย พี่ม้าไม่ได้ตั้งใจ พี่ม้าก็แค่อยากให้พระธิดาไปกับพระโอรส” ม้าทองพูด “ไม่ต้องพูดเรื่องนี้เลยนะ” วารพุธพูด และก็มีร่างหนึ่งกระโดดลงมา “ใช่ๆจริงๆ เจ้าเองคงจะเป็นวันพุธสินะเจ้าชื่ออะไร” ชลาธารพูด “เจ้านั่นเอง เราวารพุธ” วารพุธพูด “เราอยากให้ช่วย” ชลาธารพูด “ช่วยใคร” วารพุธพูด “ช่วยเสด็จป้ารัตนวราง เสด็จป้าทรงบอกว่าลูกชายของเสด็จป้า มีแหวนเหมือนกับเจ้า แล้วก็สร้อยคอเหมือนกับเจ้าด้วย เสด็จป้าถูกวายุเทพจับไปขังที่นครบาดาล เราอยากช่วย เจ้าตามหาพระโอรสของเสด็จป้าแล้วไปช่วยเสด็จป้าทีเถอะนะ” ชลาธารพูด “พระมารดาของพระโอรสหนะพระเจ้าข้าพระธิดา” ม้าทองพูด “เจ้าจะช่วยไหม” ชลาธารพูด “เราเกลียดเค้า” วารพุธพูด “คิดดูก่อนแล้วกัน ฝากด้วยนะวารพุธ” ชลาธารพูดและเหาะกลับไป
กลางอากาศ ค่ำมากแล้ว พระธิดาวารพุธนั่งอยู่บนหลังเจ้าม้าทอง “ว่ายังไงหละพระธิดา จะช่วยไหมพระเจ้าข้า” ม้าทองพูด “เราก็ยังไม่รู้เลยลังเลอยู่ เราว่าพี่ม้ารีบตามหาเสด็จแม่ของเราก่อนเถอะนะ” วารพุธพูด “แต่ค่ำแล้ว เดี๋ยวพระธิดาก็คงง่วง” ม้าทองพูด “ไม่เป็นไรหรอกจะ” วารพุธพูด
พุทธิกรเดินอยู่ในป่า “เรายังมีหวังที่จะหาเสด็จแม่พบมากน้อยแค่ไหนพี่ม้า” พุทธิกรพูด “พี่ม้าก็ไม่กล้ายืนยันพระเจ้าข้า” ม้าเงินพูด “หมดหวังแล้ว หายไปตั้งหลายวันแล้วนี่” มัจฉาพูด “ถ้าเจ้าไม่พูด เราก็ไม่ได้ว่าเจ้าเป็นใบ้นะ ไปกันเถอะพี่ม้า” พุทธิกรพูดและเดินนำไป มีลูกไฟโจมตีมาจากไหนไม่รู้ พุทธิกรรีบหลบแทบไม่ทัน อยู่ๆพระอาทิตย์ก็ขึ้น พระโอรสพุทธิกร ก็เปลี่ยนเป็นอีกคน พระโอรสแห่งวันพฤหัสบดีเรียกดาบมา และฟันลูกไฟนั่นทิ้ง
กลางอากาศ พระธิดาวารพุธหลับอยู่บนหลังม้าทอง เมื่อตะวันขึ้น พระธิดาวารพุธ ก็เปลี่ยนเป็นพระธิดาอีกคนหนึ่ง พระธิดาแห่งวันพฤหัสบดีค่อยๆรู้สึกตัว “ตื่นแล้วเหรอพระธิดาพฤกษ์พิศ ลงไปพักข้างล่างกันก่อนดีไหม” ม้าทองพูด “อย่าเลยจะ เราไม่อยากให้เสียเวลา” พฤกษ์พิศพูด ม้าทองจึงบินต่อไป
ส่วนพระโอรส ฟันลูกไฟทิ้งไปมากแล้วแต่ก็ไม่หมดเสียที “พระโอรสเพชรการณ์ใช้แหวนเทพบุตรเลยพระเจ้าข้า” ม้าเงินพูด เพชรการณ์เปล่งแสงจากแหวนเทพบุตรไปรอบทิศ “เย้ เราทำสำเร็จแล้วพระโอรส” ไอ้มัจฉาพูด “เรางั้นเหรอ เราคนเดียวมากกว่ามั้ง เราเห็นเจ้าเอาแตกแหกปาก” เพชรการณ์พูด
กลางอากาศ ม้าทองดูเหนื่อยอ่อน บินช้าลงเรื่อยๆ “ว้าพี่ม้าทองคงเหนื่อยเราเห็นพี่ม้าทองบินช้าลง เราที่เห็นแก่ตัวจริงๆ พักก่อนก็ได้นะจ๊ะ” พฤกษ์พิศพูด “พระเจ้าข้า” ม้าทองพูด
เมื่อลงมาในป่า “พี่ม้า เข้ามาในย่ามเรานะ” พฤกษ์พิศพูด ม้าทองเข้ามาในย่ามของพฤกษ์พิศ พฤกษ์พิศเดินอยู่ในป่า พบกับพระโอรสเพชรการณ์พี่เดินสะพายย่ามมาเหมือนกัน “ว้า... ไม่อยากเจอเลย” พฤกษ์พิศพูดและทำเป็นกอดอกเหม่อมองไปทางอื่น “พูดอย่างกับเราอยากเจอเจ้าหนะ” เพชรการณ์เองก็ไม่แพ้กัน “ม้าทองนี่พระโอรสเพชรการณ์” ม้าเงินพูด “นี่พระธิดาพฤกษ์พิศ” ม้าทองพูด “โห... นี่มันแหวนเทพธิดาของจริงเลยเหรอเนี่ย โอ้โห” มัจฉาวิ่งมาตาลุกวาวเข้ามาดูแหวนของพฤกษ์พิศ พฤกษ์พิศรีบสะบัดมือออก “อย่ามายุ่ง” พฤกษ์พิศพูด “เออพระธิดา ไหนๆก็เจอพระโอรสแล้ว ช่วยเถอะพระเจ้าข้า” ม้าทองพูด “ช่วยอะไรเหรอพระเจ้าข้าพระธิดา” ม้าเงินพูด “ไม่ต้องถามหรอกพี่ม้าเงิน เก่งอยากเราไม่หวังพึ่งใคร โดยเฉพาะพวกผู้หญิงที่สวมแหวนเทพธิดา” เพชรการณ์พูด “อวดเก่ง เราจะลองดูซิ ว่าน่าอย่างเจ้าจะมีปัญญาตามหาเสด็จป้ารัตนวรางพบเองไหม” พฤกษ์พิศพูด “เจ้าหมายความว่า เจ้ารู้เหรอว่าเสด็จแม่ของเราอยู่ที่ไหน” เพชรการณ์พูด “ไหนว่าไม่หวังพึ่งใครไง” พฤกษ์พิศพูด “ก็...” เพชรการณ์พูด “พระธิดาทรงทราบว่าเสด็จแม่ของพระโอรสอยู่ที่ไหน” ม้าทองพูด “งั้นพระธิดาช่วยนำทางไปทีได้ไหมพระเจ้าข้า” ม้าเงินพูด “ไม่ต้องหรอกพี่ม้า เราไม่หวังพึ่งพฤกษ์พิศเป็นอันขาด” เพชรการณ์พูด “โอ๊ยไปเถอะพระโอรส ไม่ต้องกลัวเสียศักดิ์ศรีหรอก พระโอรสหนะไม่มีศักดิ์ศรีให้เสียอยู่แล้ว” มัจฉาพูด “หุบปาก” เพชรการณ์ ม้าเงิน และม้าทองพูดเป็นเสียงเดียวกัน พฤกษ์พิศยังหัวเราะอยู่คนเดียว “เอาอีกสิ” พฤกษ์พิศพูด “จัดให้... เนี่ยพระโอรสแค่นี้นะไม่เสียศักดิ์ศรีหรอก พระธิดาหนะเป็นผู้หญิงอีกหน่อยนะถ้าโตขึ้นเดินทางไปด้วยกัน พระโอรสทั้งเจ็ดหนะจะได้กำไรรู้ไหม” มัจฉาพูด “หยุดนะ ไอ้มัจฉา ไอ้ปลานรก” พฤกษ์พิศพูด “เร็วเข้าสิ เพชรการณ์ เจ้าจะไปหาแม่เจ้ารึปล่าวหละ” พฤกษ์พิศพูดและเดินไป ทุกคนจึงตามมา
ที่ชายหาด “ใต้บาดาลนั่นหละ” พฤกษ์พิศพูด “ถ้างั้นก็รีบไปกันเถอะ” เพชรการณ์พูด “พี่ม้ารอข้างบนนะจะ ไอ้ปลานรกด้วย ขืนลงไปหนะ ก็เกะกะเสียปล่าวๆ” พฤกษ์พิศพูด เพชรการณ์ไม่รอช้ากระโดดลงไปในน้ำ “เดี๋ยวเพชรการณ์ เราไปด้วย” พฤกษ์พิศพูดและตามลงไป
ใต้บาดาล พวกทหารเมืองบาดาลรีบเข้ามาล้อมไว้ เพชรการณ์ และ พฤกษ์พิศ ต้านพวกทหารบาดาลไว้ด้วยมือเปล่า ฝีมือฉกาจ และฤทธิ์เดชของแหวนยุคลทำให้พวกทหารพ่ายแพ้ล้มลงบาดเจ็บ เพชรการณ์วู่วาม เพราะอยากจะช่วยพระมารดาให้ได้จึงรีบวิ่งเข้าไป “เพชรการณ์” พฤกษ์พิศร้องเรียก ครึ่งก็ห่วง ครึ่งก็หมั่นไส้ “หมั่นไส้นัก” พฤกษ์พิศพูด และรีบวิ่งตามไป
ในตำหนักของชลาธาร ชลาธารอยู่ในนั้น อยู่ๆก็มีเสียงการต่อสู้แว่วมา ราชธิดาแห่งเมืองบาดาลหันขวับ “มีคนต่อสู้กันอยู่ข้างนอก” ชลาธารพูด และวิ่งออกไป
ตัวอย่างตอนต่อไป
“เพชรการณ์ นี่นทีวาต พี่ชายของลูก แม่หาเค้าพบแล้วลูก” รัตนวรางพูด “จริงเหรอ” เพชรการณ์หันมาถามนทีวาต
“นี่ไม่ใช่ความจริงพระเจ้าข้า ข้าพระองค์ไม่ใช่พระโอรสของพระนาง แล้วพระนางก็ไม่ใช่พระมารดา” นทีวาตพูด “เรารู้... แม้จะยังคลุมเครือไม่กระจ่างชัดแต่เราก็ขอหลอกตัวเองว่าเจ้าคือลูก” รัตนวรางพูด “ข้าพระองค์ก็เช่นกัน” นทีวาตพูด พระธิดาพฤกษ์พิศยืนมองน้ำตาค้างก็วิ่งหนีไป “พระธิดา” นทีวาตเรียกตาม
ความคิดเห็น