คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เกราะแก้วทั้ง 8
ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง เรือนไม้หลังหนึ่งใหญ่ที่สุดแล้วในหมู่บ้านนั้น เจ้าของเป็นเศรษฐีนามว่า พันธะ มีลูกสาว 2 คนเป็นเด็กกำลังน่ารัก คนโต นามว่า แพรวา คนเล็กนามว่าภาไพร แม่วรรณนา มารดาของ ภาไพร เกลียดแพรวามากที่แพรวาไม่ใช่ลูก และมารดาของแพรวาก็เป็นปีศาจแต่แพรวาก็ไม่เคยรู้มาก่อน วันนั้น แม่วรรณนากรีดร้องลั่นเรือน นังแพรวาแกซักผ้ายังไงเสื้อลูกข้ามันถึงได้สีตกอย่างนี้ วรรณนาเอะอะลั่น อย่าจะท่านแม่ ภาไพรบอกท่านแม่แล้วไงจ๊ะว่าไปเป็นไร ภาไพรพูด อะไรกันหนะ แค่นี้โวยวายอย่างกะไฟไหม้บ้านทำให้ก็บุญแล้ว แพรวาเถียงอย่างไม่กลัว นังเด็กปีศาจ แกนี่มันลูกปีศาจชัด วรรณนาพูด ถึงแพรจะไม่ใช่ลูกน้า แต่แพรก็เป็นลูกพ่อ แล้วน้าก็ไม่มีสิทธิ์ว่าแม่แพรอย่างนี้ แพรวาพูด ก็ข้าพูดความจริงนี่มันผิดตรงไหน ภาไพรไปเอาหวายมาให้แม่ วรรณนาพูด ท่านแม่ ภาไพรไม่ยอมไป โถ่เว้ย นังลูกคนนี้นี่ วรรณนาบ่นและเดินไปเอาหวายเอง วรรณนาฟาด แพรวา ภาไพรพยายามห้าม วรรณนาไม่ฟังเสียง และแล้วก็มีเสียงของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดังมา หยุดนะ ทำไมถึงต้องตีเด็กผู้หญิงคนนี้ด้วย เจ้าของเสียงนั้นกระโดดลงมา ผี ผีเจ้าค่ะนายหญิง สาวใช้คนหนึ่งพูด วรรณนาหยุดชะงัก และถอยออกมา ภาไพรเข้าไปประคองแพรวา เราไม่ใช่ผี เราแอบดูอยู่ตั้งนานละไม่เห็นจะรู้เรื่องเลยว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ทำอะไรผิด ภัทราภาหนึ่งในผู้ทรงเกราะแก้วกล่าวขึ้น จับตัวมัน วรรณนาพูด เหล่าสาวใช้เพียงก้าวมาแต่ก้าวเดียว หยุดอยู่ตรงนั้น เราไม่อยากทำร้ายใคร ภัทราภาพูด สาวใช้หยุดชะงัก ทำไมไม่ไปจับตัวมัน วรรณนาพูด กลัวเจ้าค่ะนายหญิง สาวใช้พูด เด็กผู้หญิงคนเดียวกลัวมันได้ยังไงไปซะไปให้พ้น วรรณนาไล่สาวใช้เหล่านั้นไปและจะเข้ามาจับตัว ภัทราภา กระโดดหลบไปหลีกมา จนวรรณนาเหนื่อย ฝากไว้ก่อนนะนังพวกเด็กผี วรรณนาพูด และเดินออกไปอย่างเหนื่อยอ่อน เจ้าเป็นใคร ขอบใจมากนะ แพรวาพูด ไม่เป็นไรเราชื่อภัทราภา ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่หรอก ภัทราภาพูด แล้วตั้งแต่จำความได้เจ้าอยู่กับใคร ภาไพรพูด เราก็ไม่รู้เหมือนกันรู้สึกเหมือนชีวิตเราพึ่งเริ่มต้นเพียงวันนี้ ภัทราภาพูด พูดแปลก แพรวาพูด
กลางป่า ที่อาศรมฤๅษี เด็กผู้ชาย ก้มลงกราบพระฤๅษี ท่านตาขอรับหลานเกิดมาจากไหน ได้ยังไง พ่อแม่ของหลานเป็นใคร แล้วหลานมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรหรือขอรับ พงศ์เพทาย ผู้ทรงเกราะแก้วชิ้นที่ 2 กล่าวขึ้น สักวันหนึ่งเมื่อถึงเวลาพระโอรสก็จะรู้เองหละ พระฤๅษีพูด
ที่สำนักฝึกวิชาการต่อสู้แห่งหนึ่ง ขณะที่ศิษย์สำนักนั้นฝึกซ้อมต่อสูกันอยู่ เด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินตรงดิ่งเข้าไป ขอฟันดาบด้วยคนได้ไหม ชนิษฐา ผู้ทรงเกราะแก้วอีกเกราะหนึ่งพูด เด็กผู้หญิงอย่างเจ้าใครบอกให้มาฟันดาบ ไปนั่งร้อยมาลัยยังจะดีกว่ามั้ง ตรีศูลเด็กชายคนหนึ่งพูด เห็นเราเป็นผู้หญิงก็อย่าดูถูกนะ ไม่เชื่อก็เข้ามาสู้กับเราสิ พร้อมกันเลยก็ได้ ชนิษฐาท้า ตรีศูลจึงตรงเข้าไปพร้อมกับดาบ ชนิษฐาหลบและเตะตรีศูลล้มลงไป เด็กคนอื่นๆเข้ามาบ้าง ชนิษฐา หลบและถีบสวนไปหลายหน ทีนี้เห็นฝีมือเรารึยังจะให้เราเล่นด้วยได้ไหม ชนิษฐาพูด ทันใดนั้น อาจารย์พงศา เจ้าของสำนักนั่นก็เดินออกมาที่ระเบียง เกิดเรื่องอะไรกันอีก อาจารย์พงศาพูด และทันทีที่เห็นเกราะแก้วตาเป็นประกายทันที นั่นมันเกราะแก้วนี่นา เกราะแก้วถูกสร้างขึ้นแล้ว อาจารย์พงศาพูด ชนิษฐาก้มลงมองเกราะของตนเอง คิดอะไรอยู่หนะ ชนิษฐาพูด ตรีศูลจับตัวเด็กผู้หญิงคนนั้นไว้ อาจารย์พงศาพูด ตรีศูลลุกขึ้นจะไปจับตัวชนิษฐา ชนิษฐาก็กระโดดหนีไปซะก่อน โถ่เว้ย ไม่น่าหนีไปได้เลย ตรีศูลพูด ไม่เป็นไรเรายังมีโอกาสได้เจออีกเยอะตรีศูล อาจารย์พงศาพูด
ที่กลางป่า เด็กผู้ชาย กระโดดขึ้นกระโดดลงท่องไปอย่างสุขใจ ไม่ต้องยึดติดกับสิ่งใดๆทั้งสิ้น เขาคือผู้ทรงเกราะแก้วอีกคนหนึ่ง ธีรเทพ
เด็กผู้หญิงคนหนึ่งกระโดดลงมาที่ริมลำธาร โลกใบนี้ช่างงดงามเหลือเกิน เด็กผู้หญิงพูดพลางชื่นชมดอกไม้ใบหญ้าริมลำธาร และกระโดดข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งของลำธาร ดีหละเราจะท่องไปให้ทั่วเลย ปรียารัตน์ 1 ในผู้ทรงเกราะแก้วกล่าวไว้ก่อนจะกระโดดโลดแล่นท่องโลกไป
เด็กผู้ชายอีกคน ต่อสู้กับอากาศ พูดง่ายๆฝึกอยู่คนเดียว ท่าทางเด็กผู้ชายคนนี้คล่องแคล่วดี กระโดดไปมาต้นไม้นั่นไปต้นไม้นี้ท่าทางสนุกสนานเหลือเกิน
บนทรวงสวรรค์ มณีเทพ เทพีบนทรวงสวรรค์เห็นเด็กชายหญิง 2 คนสุดท้ายผู้ทรงเกราะแก้ว ก็เอ็นดู เดินเข้าไปหา เราจะเป็นคนเลี้ยงดูพวกเจ้าเอง ต่อไปนี้พวกเจ้าคือลูกของเรา ลูกแม่ มณีเทพพูด กรวีร์ กับ นภเกตส์เข้าไปกอดมณีเทพ
ความคิดเห็น